คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 # อยู่กับฉันนะ
บทที่ 8
อยู่กับฉันนะ
“ฉันสัญญา...” พูดจบก็กดริมฝีปากเข้าไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากที่คิดว่าจะแค่แกล้ง แต่ตอนนี้มันเริ่มจะไม่ใช่เสียแล้ว....
เมื่อแทฮยองช้อนตัวอีกคนขึ้นก่อนจะเดินไปที่เตียง จัดการวางลงอย่างเบามือ และขึ้นคร่อมร่างบางแทบจะทันที มือหนาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้ออีกฝ่าย เผยให้เห็นแผงอกเนียนขาวของอีกคน ริมฝีปากผละออกก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาที่ซอกคอขาว มือหนาก็ยังคงทำหน้าที่ลูบไปทั่วตัวของอีกคนอย่างทะนุถนอม
“อือ...” เสียงครางที่ร่างบางเผลอหลุดออกมา มันยิ่งฉุดให้สติของอีกคนต่ำลงไปอีก จนในตอนนี้ การกระทำที่เริ่มต้นจากการแกล้ง มันชักจะไปกันใหญ่เสียแล้ว.....
“ไม่..” ร่างสูงที่พึ่งได้สติว่าตนกำลังทำอะไรอยู่ สบถออกมาเบาๆ ก่อนจะหยุดทุกการกระทำที่กำลังทำอยู่ ไม่ได้...เขาต้องห้ามใจเอาไว้ ห้ามให้หัวใจมันเลยเถิดไปมากกว่านี้ ห้ามหัวใจไม่ให้..
รักจองกุก...
แทฮยองเม้มริมฝีปากก่อนจะหันหน้าหนีร่างบางที่นอนหอบอยู่ใต้ร่างของเขา ซึ่งเขาก็พึ่งสังเกตว่าไม่มีเสื้อผ้าซักตัวเหลืออยู่บนตัวของทั้งสองแล้ว.. ถ้าหากเขาหันไป เขาคงหยุดไม่ได้เหมือนเมื่อกี้อีกแน่นอน
ร่างบางที่กำลังรู้สึกสับสน ทั้งรู้สึกโกรธที่แทฮยองทำ รู้สึกแปลกๆ กับสัมผัสนี้ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก และความรู้สึกอีกมากมาย มือบางเอื้อมไปจับใบหน้าของแทฮยองให้หันมาก่อนจะดึงลงมาเพื่อประกบริมฝีปากของตนเข้ากับริมฝีปากหนาของคนบนร่าง จองกุกไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แค่มีความรู้สึกว่า...ต้องการคนๆ นี้
ร่างสูงตกใจกับการกระทำของร่างบาง แต่ก็จูบตอบร่างบางทันทีพลางสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหวานข้างในโพรงปาก และดูเหมือนร่างบางจะไม่ปฏิเสธ กลับตอบรับสัมผัสนั้นด้วยความเต็มใจเสียด้วยซ้ำ แทฮยองจึงผละริมฝีปากออกช้าๆ
“รู้ใช่มั๊ย ว่าทำแบบนี้แล้ว..อะไรจะตามมา” ร่างสูงพูดในขณะที่ริมฝีปากยังคลอเคลียกับริมฝีปากของอีกฝ่ายอยู่ จองกุกใบหน้าขึ้นสีเพราะความเขินและอาย พยักหน้าช้าๆ ก่อนที่แทฮยองจะยิ้มอย่างอ่อนโยน
“งั้น..ครั้งนี้ฉันขอนะ”
“อืม”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
…………………..
………………………………………….
เช้ามืดของวันต่อมา....
ร่างสูงลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบกับร่างบางที่นอนอยู่ในอ้อมกอด เขายิ้มออกมาพลางเอื้อมมือไปเกลี่ยที่แก้มใสๆ ของอีกคน บางทีก็นึกสงสัยเจ้าของร่างบางนี้ว่าทำไมถึงยอม? ทำไมถึงไม่ปฏิเสธเขาล่ะ? แต่ถ้าถามแทฮยองว่าทำไมแทฮยองถึงทำเช่นนั้นล่ะก็ เขาบอกได้เลยว่า…
เพราะเขารักจอน จองกุกไงล่ะ
เมื่อไหร่ไม่รู้เหมือนกันที่เขาเริ่มมีความรู้สึกแบบนี้กับจองกุก เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน และมันเป็นไปได้ยังไง รู้แค่ว่าตอนนี้เขามีแค่จองกุกเต็มหัวใจไปแล้ว...
ร่างสูงค่อยๆ ลุกออกมาจากเตียงพยายามทำเสียงให้เบาที่สุดเพราะยังไม่อยากให้คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงตื่นขึ้นมา เขาจัดการใส่เสื้อผ้าก่อนจะเดินออกมาจากปราสาทเพื่อสำรวจเมือง เวลานี้ยังอยู่ในช่วงเช้าตรู่ ท้องฟ้าแสดงให้เห็นว่าพึ่งผ่านราตรีอันยาวนานมาใหม่ๆ ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์เคียงคู่กันอยู่บนท้องฟ้า ถ้าหากพวกมันได้เจอกันตลอดก็คงดี....ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันคงจะดีสำหรับทั้งคู่ เมื่อถึงเวลาอีกคนก็ต้องจากไป....
เหมือนพวกเขา...แทฮยอง และ จองกุก
เมื่อถึงเวลานั้น วันที่จองกุกปลอดภัยและนั่นคือการสิ้นสุดของภารกิจ เขาจำต้องกลับไปยังที่ที่เขาจากมา...และจองกุกจะต้องกลับไปยังที่จองกุกกลับมาเช่นกัน ถึงตอนนี้พวกเขาสองคนยังคงอยู่ด้วยกันแต่เมื่อถึงเวลานั้นก็ต้องจากกันอยู่ดี เขาคิดไม่ออกเลยว่าถ้าหากเขาไม่มีจองกุกอยู่ข้างกายแบบนี้จะเป็นเช่นไร....
แทฮยองถอนหายใจก่อนจะรีบเดินกลับไปที่ปราสาท ถ้าหากร่างบางตื่นขึ้นมาไม่เจอเขาล่ะก็อาจจะเป็นเรื่องเอาได้
จองกุกลืมตาขึ้น ก่อนที่ความทรงจำเมื่อคืนจะแล่นเข้ามาในหัว ใบหน้าขาวเนียนขึ้นสีแดงระเรื่อเล็กน้อย หันไปด้านข้างก็พบกับแทฮยองที่นั่งจ้องอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ร่างบางขมวดคิ้วเบ้ปากใส่ แต่ผิดกันกับสีหน้าที่เริ่มจะแดงขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่รู้เพราะโกรธหรืออายกันแน่
“ตื่นแล้วเหรอ? ตัวแสบ” แทฮยองเอ่ยขึ้น จองกุกพยักเล็กน้อยและพยายามลุกขึ้นนั่งแต่ความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาทันทีที่เขาขยับกาย แทฮยองรีบเข้ามาประคองร่างบางเอาไว้ทันที แต่ร่างบางกลับปัดมือร่างสูงออก พร้อมกับทำหน้างอนๆ
“ตื่นแล้วไม่ยอมปลุก” จองกุกพูดออกมาทำให้แทฮยองอมยิ้มน้อยก่อนจะเข้าไปประคองให้ร่างบางให้ลุกไปใส่เสื้อผ้า จองกุกเองก็ไม่ปฏิเสธ หัวใจดวงน้อยสั่นแปลกๆ มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก มันผิดมากมั๊ย? ถ้าเขาจะบอกว่าเขา...
รู้สึกชอบแทฮยองขึ้นมานิดนึงแล้ว...
“นายอย่าพึ่งขยับตัวมากนะ นอนพักอยู่นี่แหละเดี๋ยวฉันไปตามนารีให้เอาอาหารเช้ามาให้” แทฮยองบอกกับจองกุกหลังจากจับจองกุกให้นอนอยู่บนเตียงเฉยๆ
“อืม รีบๆ มานะ”
“จำไว้นะ อย่าพึ่งขยับตัว!” แทฮยองย้ำอีกรอบ ทำให้จองกุกชักสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ปัดมือส่งๆ บอกให้ไปได้แล้ว แทฮยองหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะวิ่งแจ้นออกจากห้องไป จองกุกมองตามแทฮยองจนประตูห้องถูกปิดลง
“เฮ้อ...” จองกุกถอนหายใจออกมา นึกโทษตัวเองที่ไปยอมอะไรง่ายๆ กับแทฮยองแบบนั้น ยังไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับตัวเอง ลึกๆ แล้วจองกุกเองก็เริ่มรู้สึกกลัว...
กลัวว่าจะถึงวันนั้น..
วันที่จะต้องจากแทฮยองไป..
วันที่ภารกิจของแทฮยองนั้นสิ้นสุด ถึงเวลานั้นเขาต้องจากไป...ตั้งแต่วินาทีนั้นและตลอดกาล เขาก็จะไม่ได้เจอกับแทฮยองอีกเลย จากที่มีแทฮยองเคียงข้าง เขาก็จะต้องกลับไปอยู่คนเดียว...กลับไปอยู่ในที่ที่มีแค่เขาเพียงคนเดียว ที่ที่มีแต่ความว่างเปล่า สัมผัสได้เพียงแค่กลิ่นไอของพ่อแม่ และ...แทฮยอง
แอ๊ด~
“อาหารเช้า ข้าได้ยินว่าเจ้าไม่สบายหรือ? เจ้าเป็นอะไรมากหรือเปล่า?” นารีที่ถือถาดอาหารมาด้วย เดินเข้ามาหาจองกุกก่อนจะวางถาดอาหารไว้ข้างเตียง จองกุกทำงงเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม
“ไม่สบาย? ข้าเนี่ยนะ”
“ก็แทฮยองบอกข้าว่าเจ้าไม่สบายนี่ ให้ข้าเอาอาหารมาให้เจ้าและเตรียมน้ำไว้ให้เจ้าชำระร่างกาย” นารีพูด จองกุกพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะลงมือทานหารเช้า นารีจึงลุกไปเตรียมน้ำในอ่างสำหรับให้จองกุกชำระร่างกายเสีย
“นารี แล้วแทฮยองเค้าไปไหนล่ะ?” จองกุกถามหลังจากที่เห็นนารีเดินออกมาจากห้องน้ำ
“เห็นเจ้าตัวบอกว่าอีกซัหพักจะเข้ามาน่ะ เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก” นารียิ้มก่อนจะน้ำถ้วยชามและถาดอาหารที่จองกุกกินเสร็จแล้วออกไปจากห้อง
“เฮ้อ...ฉันบอกให้มาเร็วๆ ไง แล้วนี่หายไปไหนของนายเนี่ย” จองกุกบ่นอุบด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย พลางพยายามลุกจากเตียงเพื่อที่จะไปอาบน้ำชำระร่างกาย แต่พอจะเดินเท่านั้นแหละขานี่อ่อนยวบลงทันที
หมับ!
“บอกแล้วไงอย่าพึ่งขยับตัว” แทฮยองที่โผล่มาจากไหนไม่รู้มารับตัวจองกุกไม่ได้ทัน
“ก็นายมาช้า ฉันจะไปอาบน้ำ! ปล่อยดิ” จองกุกได้แต่พูดเพราะร่างกายมันปวดไปหมด เลยทำอะไรไม่ได้ แทฮยองทำหน้าเอือมก่อนจะจับแขนจองกุกมาพาดที่คอของเขาและเอื้อมมือไปโอบเอวของจองกุกเอาไว้ เพื่อประคองร่างบางให้ไปที่ห้องน้ำ
ดูแลอยากยิ่งกว่าคนท้องซะอีก =_= >>>> ความคิดของแทฮยอง
“นายก็ออกไปได้แล้ว ฉันจะอาบน้ำ!” เมื่อมาถึงห้องน้ำจองกุกก็ปล่อยมือออกจากร่างสูงทันทีเหลือเพียงแค่มือของร่างสูงที่ยังไม่ปล่อยออกจากเอวของจองกุก
“ไม่อ่ะ ยังไงฉันก็ต้องอาบอยู่แล้ว อาบพร้อมกันเลยเป็นไร” แทฮยองยักไหล่ก่อนจะจัดการปลดกระดุมเสื้อของจองกุกทันที จองกุกห้ามแทบไม่ทันแต่มันก็เปล่าประโยชน์เขาเลยจำต้องให้แทฮยองถอดเสื้อผ้าของเขาออกและอุ้มไปที่อ่างน้ำ
“แล้วนายไม่ถอดไง ปล่อยให้ฉันถอดอยู่คนเดียว อายเป็นนะ...( .//////.)” ท้ายประโยคจองกุกพูดเบามาก แต่แทฮยองก็ยังได้ยิน เขาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองเสร็จก็ลงไปแช่ในอ่างเช่นเดียวกับจองกุก อ่าอาบน้ำที่นี่กว้างพอที่จะบรรจุคนสองคนได้ จริงๆ แล้วมันใหญ่พอจะบรรจุคนได้ถึง 5 คนเชียวล่ะ
“มานี่สิ เดี๋ยวสระผมให้” แทฮยองจับจองกุกให้มาอยู่ตรหน้าเขาก่อนจะเทน้ำยาอะไรบางลงบนมือและลงมือขยี้ผมจองกุกอย่างเบามือ จองกุกมองการกระทำนั้นอย่างเกร็งๆ สภาพล่อแหลมขนาดนี้กับใบหน้าที่อยู่ไม่ห่างกันมากนัก
“แล้วนายไม่สระผมหรือไง?” จองกุกถาม แทฮยองก้มหน้าลงมาก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้จองกุกมาขึ้น
“นายก็สระให้ฉันหน่อยสิ” พูดจบก็ยกยิ้มแบบกวนๆ จองกุกจึงยกมือขึ้นมาเขกหัวแทฮยองทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้
“ฉันจะสระให้นายก็ได้ แต่อย่าทำอะพิเลนล่ะ!” จองกุกพูดเสียงแข็ง แทฮยองย่นจมูกพลางพยักหน้าอย่างเซ็งๆ และลงมือขยี้ผมให้อีกคนต่อ
“นี่แทฮยอง..”
“หืม?” แทฮยองหยุดขยี้ผมและก้มหน้ามาอยู่ในระดับปกติ
“ถ้าเกิดว่าในระหว่างการต่อสู้ของแวมไพร์สายเลือดสีดำกับแวมไพร์สายเลือดสีขาวที่มันกำลังจะเกิดขึ้น ถ้าหากว่าฉันตาย....ภารกิจของนายจะยังคงอยู่มั๊ย?” แทฮยองยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปจับที่หัวด้านหลังของจองกุกและดึงเข้ามาใกล้ ร่างสูงโน้มหน้าผากไปชนกับหน้าผากของอีกคน จมูกคลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง จองกุกหลบตาแทฮยองด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มันรู้สึก....กลัว ใช่...กลัว กลัวว่าแทฮยองจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“ถ้าหากมีวันนั้นอย่างที่นายบอกจริงๆ ภารกิจของฉันมันจะตายไปพร้อมๆ กับฉัน” จองกุกดึงสายตากลับมาที่แทฮยองทันที “เพราะถ้านายตาย ฉันก็จะตายไปพร้อมกับนายแต่ถ้านายอยู่ ฉันก็จะมีชีวิตอยู่ไปพร้อมกับนาย ถึงแม้ว่าวันข้างหน้าเราสองอาจจะไม่อยู่ด้วยกัน แต่จำเอาไว้เสมอนะ ว่าฉันยังอยู่ข้างๆ นายตลอด ไม่ไปไหน” พูดจบแทฮยองก็ยิ้มออกมา น้ำใสๆ รินไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยของจองกุก
“ฮึก! ฉัน...ฮือออ ฉันไม่รู้ว่าฉันต้องทำยังไง ฮึก! ในวันนั้น..วันที่นายต้องเดินจากไป ฮึก! ฉันจะต้องกลับไปที่นั่น..ที่ที่ฉันอยู่ตัวคนเดียว ที่ที่ฉันไม่มีใครอยู่เคียงข้าง ฮึก! ที่ที่ไม่มีนายอยู่ตรงนี้..ข้างๆ ฉัน...” จองกุกร้องไห้ออกมาไม่หยุด แทฮยองจึงผละออกมาจากใบหน้านั้นและจูบซับน้ำตาให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากนั้น เขาค้างมันเอาไว้นานราวกับว่าไม่อยากผละออกไปไหนเลย จองกุกหลับตาเพื่อรับความรู้สึกและสัมผัสที่แทฮยองมอบให้ ก่อนที่แทฮยองจะผละออกและดึงจองุกเข้ามากอดเอาไว้
“ถ้าถึงวันนั้น...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันจะอยู่ในได้ยังไงในตอนที่ไม่มีนายอยู่ข้างๆ แต่...ฉันเชื่อนะ ว่ายังไงโชคชะตะต้องนำพาเราสองคนมาพบกันอีกแน่”
“….”
“ฉันเชื่อมั่นว่ามันต้องเป็นแบบนั้น..”
“….”
“ถ้าฉัน...ไม่ตายเสียก่อนน่ะนะ”
“ทำไมยังหาพวกมันไม่เจอ!!!!!!” เสียงอันทรงพลังของซอกจินที่กำลังโกรธจัด เขาไม่น่าปล่อยพวกมันไปเลย ทั้งๆ ที่มีโอกาสจับแล้วแท้ๆ เพราะความประมาทของเขาทำให้เป็นที่เดือดร้อนอยู่ในตอนนี้
“เราค้นหาในพื้นที่ 40% ของป่าแล้วครับแต่ก็ยังไม่เจอ ป่านั้นมีความกว้างมากครับ อีกอย่างพื้นที่ 30% ของป่ายังเป็นป่าต้องห้ามอีก...” ลูกสมุนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ก็ไปหามาสิวะ!!!!!!! รออะไร!!!!!” ซอกจินตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง ทำเอาเหล่าลูสมุนสะดุ้งกันเป็นแถบก่อนจะรีบแยกย้ายออกไปโดยทันที
“นายก็ใจเย็นๆ หน่อยก็ได้มั้ง” โฮซอกที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้น ซอกจินตะวัดสายตาไปมองก่อนจะหันกลับมาที่เดิม
“ว่าแต่นายล่ะ ยุนกิเป็นยังไงบ้าง” ซอกจินพยายามกดเสียงและพยายามระงับอารมณ์ที่เดือดของเขาลง โฮซอกยักไหล่ก่อนจะเอ่ยออกมา
“ก็...คงนอนตายซากอยู่ในห้องขังชั้นใต้ดินที่ลึกที่สุดเขาเราล่ะมั้ง” โฮซอกตอบแบบเยือกเย็น ซอกจินขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองโฮซอกที่กำลังจะเดินออกไปจากห้อง
“เดี๋ยว!! นายไม่แคร์ความรู้สึกของเขาหรือไง? ถึงได้กล้าทำเช่นนั้น นั่นมันอดีตคนรักของเจ้าเชียวนะ” ซอกจินเอ่ย บางทีก็อดเห็นใจยุนกิไม่ได้เลย สภาพจิตใจและร่างกายคงสะบักสะบอมไม่แพ้กันเลย เผลอๆ สภาพจิตใจอาจจะแย่กว่าสภาพร่างกายก็ได้ ใครจะรู้ โฮซอกน่ะไม่เคยเล่นๆ กับใครหรอกนะ
“ก็แค่ ‘อดีต’ ทำไมฉันต้องแคร์” พูดจบก็เดินออกไปทันที ซฮกจินถอนหายใจกับความเย็นชาของเพื่อน เมื่อไหร่กันนะ..ที่โฮซอกถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ จากคนที่ดูร่างเริงอยู่ตลอดเวลา ยิ้มและหัวเราะอย่างธรรมชาติ คนที่เมตากับคนทุกคน คนที่รักยุนกิสุดหัวใจ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนที่ไร้หัวใจ เหี้ยมโหดและเยือกเย็น ไม่สนแม้กระทั่งคนรักของตัวเอง....
แอ๊ด~ ปัง!!
เสียงประตูเหล็กขนาดใหญ่ถูกเปิดออก และปิดมันอย่างดัง ทำให้ยุนกิที่นั่งชันเข่าอยู่ที่มุมห้องเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะดึงสายตากลับมาที่เดิม ใบหน้าที่มีรอยฟกช้ำ และเลือดที่ซึมอยู่ที่บริเวณโหนกแก้มขวาและมุมปากซ้าย ถึงร่างกายยุนกิจะสามารถหายได้เร็วกว่าปกติก็จริง แต่นี่ใช้เวลาตลอด 1 สัปดาห์ที่มาอยู่ที่นี่ รอยต่างๆ ยังคงอยู่ คงเป็นเพราะเขาโดนอยู่ทุกวันแหละมั้ง
“กินซะ ถ้าไม่อยากตาย!!” โฮซอกพูดพลางกระแทกขวดที่บรรจุเลือดของสัตว์เอาไว้ให้ยุนกิ ก่อนจะหันหลังเพื่อจะเดินกลับไป แต่ก่อนที่จะได้เดินออกไปนั้น...
ซ่า!!
เลือดที่พึ่งนำมาถูกสาดทั่วตัวของโฮซอก เขาหันหลังไปก็พบกับยุนกิที่ยืนถือขวดอยู่ เขาเช็ดเลือดออกจากหน้าก่อจะพุ่งไปบีบคอยุนกิและดันตัวของยุนกิไปติดกำแพงทันที
“อยากตายขนาดนั้นเลยรึไง!!!!” โฮซอกตะโกนใส่ยุนกิ ยุนกิไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่าใด ร่างบางจ้องโฮซอกอย่างนิ่งๆ ก่อนจะขัยบริมฝีปากพูดออกมา
“งั้นก็ฆ่าฉันเลยสิ! ฆ่าฉันสิ! เอาไว้แบบนี้ฉันมันก็เป็นภาระของนายอยู่ดีนี่นา!” แววตาของโฮซอกดูอ่อนลงชั่วขณะก่อนจะกลับมาแข็งกร้าวเช่นเดิม
“ฉันยังไม่ฆ่านายตอนนี้หรอก ปล่อยเอาไว้ให้นายทรมานเล่น อีกอย่างนึงก็เพื่อล่อแทฮยองมาที่นี่ด้วย ไม่ต้องเสียเวลาหาหรอก เพราะยังไงมันก็ต้องมา และมัน...จะไม่รอดกลับไป!!! รวมถึงนายด้วย!!!!” โฮซอกพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากที่ตรงนั้นไป ปล่อยให้ยุนกิร้องไห้ออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำไม....ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เพราะอะไร...ทั้งๆ ที่ยุนกิก็รักเขามาตลอดเลยนี่นา....
“นายมันเลว จองโฮซอก!!!”
-------------------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก มาแบบสั้นๆ เนอะ คิดอะไรไม่ออกเลย ไรท์เข้ใจดี ไรท์ยังแต่งไม่เก่งเท่าที่ควร ไรท์ยังฝีอ่อนหัดอยู่บ้าง แต่ก็เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะ ^^ เรื่องหน้าไรท์มีโปรเจ็คแล้ว กำลังแต่งอยู่ กะว่าถ้าแต่งจบค่อยเอาลงเพราะกลัวรีดเดอร์รอนานนนนน 5555 เจอกันตอนหน้านะ ยังไงก็ขอบคุณทุกคอมเม้นนะ ส่วนตอนนี้ยังไม่ค่อยมีฉากบู้นะ ใครรอฉากบู้อดใจรอแปปนึง ช่วงหลังมาแบบจัดเต็มแน่นอน ของเอาหัวเป็นประกันเลย 5555 บายยยยย
ความคิดเห็น