ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic vkook] Vampire love...

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6 # หนีตาย 100%

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 57





    บทที่ 6

    หนีตาย!!

                                                                             

    ตอนนี้พวกผมอยู่ที่จุดนัดหมายที่ยุนกินัดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวัน หลังจากที่พวกเราแอบออกมาโดยที่ไม่ได้บอกจีมิน เราเพียงแค่เขียนโน้ตไว้ เชิงขอโทษที่มารบกวน และจะขอลากลับบ้านเพราะพ่อกับแม่คืนดีกันแล้วอะไรประมาณนั้นแหละ

    นี่ก็เลยเวลานัดมาหนึ่งชั่วโมงแล้วนะ ทำไมยังไม่มาอีกเนี่ย?ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ ใช่ครับ..พวกเรารอมาเกือบชั่วโมงแล้ว เผลอๆ อาจจะเยอะกว่านั้นด้วยซ้ำแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของยุนกิโผล่มาซักทีหนึ่ง ผมชักจะรอไม่ไหวแล้วนะ

    ผมจัดการส่งกระแสจิตไปยังยุนกิ แต่...ติดต่อไม่ได้! ทำไมล่ะ? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทันทีที่รู้ว่าไม่สามารถติดต่อกับยุนกิได้นั้นผมก็หันขวับไปหาจองกุกทันที จองกุกสะดุ้งเล็กน้อยกับท่าทีของผม

    จองกุก...เราจะต้องไปเดี๋ยวนี้

    ไปไหน?เสียงใสเอ่ยถาม

    ก็หนีไปจากที่นี่ ไปไหนก็ได้ที่พวกเราสามารถซ่อนตัวได้ผมบอกไปก่อนจะหันหลังเตรียมจะออกเดินทาง แต่ก็ถูกจองกุกดึงมือไว้ ผมจึงหันไปมองร่างเล็กอีกครั้งหนึ่ง

    แล้วพี่ยุนกิล่ะ

    เชื่อสิ....ว่ายุนกิจะตามพวกเรามาทีหลัง

     

    !!!!

     

    หลังจากที่พูดกับจองกุกจบ และหันหลังเตรียมตัวมุ่งหน้าสู่ป่ายามราตรี ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อเห็นร่างสูงที่คุ้นเคยมาปรากฏอยู่ตรงหน้า

    กำลังจะหนีไปไหนกันเหรอ?ซอกจิน...มาถึงนี่เลยเหรอ? ตามกลิ่นไวจังนะ! มิน่าแหละถึงติดต่อยุนกิไม่ได้

    นายเอาตัวยุนกิไปไว้ที่ไหน!?

    ยุนกิน่ะเหรอ?...เอ...ฉันเอาไปไว้ไหนแล้วนะ?

    อย่ามาเล่นลิ้นนะซอกจิน!!!” ผมโมโหเลือดขึ้นหน้า แทบจะพุ่งเข้าไปต่อยหน้าซะให้เข็ด แต่ติดตรงที่จองกุกยื้อเอาไว้ ผมสบถกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันไปหาซอกจินซึ่งกำลังยิ้มเยาะมาอย่างหยามๆ ฮึ่ย! เห็นแล้วเจ็บใจชะมัด!

    ยุนกิน่ะ..ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้อยู่กับโฮซอกแน่ะ อีกเดี๋ยว..คงจะมาถึงกันซอกจินพูดขึ้น ทำให้ผมหวนคิดไปถึงโฮซอก...ใจผมรู้สึกชื้นขึ้นมาเล็กน้อยทันทีที่เขาพูดถึงชื่อนั้น โฮซอกน่ะผมมั่นใจว่าเขาจะไม่ทำร้ายยุนกิแน่นอน เพราะอะไรน่ะเหรอ?...

     

     

     

    ก็เพราะโฮซอกรักยุนกิยังไงล่ะ

     

     

    แต่...มันเป็นเพียงแค่อดีตเท่านั้น ปัจจุบัน...มันจะเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่านะ?

     

     

     

    พรึ่บ!

    ไม่ทันไร ร่างสูงของใครบางคนก็มาปารกฏอยู่ตรงหน้าพวกเรา เผยให้เห็นร่างอันคุ้นเคย....โฮซอก! มาพร้อมกับยุนกิ มือข้างหนึ่งที่จับเชือกเพื่อลากยุนกิไว้ ทำให้ผมอึ้งจนพูดไม่ออก...โฮซอกทำถึงขนาดนี้

    นี่โฮซอก!! ปล่อยฉันไปเถอะ ฮึก! ปล่อยฉันไป...ฮืออ ยุนกิร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่งโดยมีโฮซอกยืนมองด้วยสายตาที่เรียบเฉย แววตาที่ว่างเปล่า...ยุนกิคงเจ็บมาก...ไม่ใช่เจ็บที่ข้อมือเพราะเชือกนั่น แต่เจ็บที่ใจ!

    .....”  โฮซอกยังคงเงียบอยู่อย่างนั้น ยุนกิทรุดลงกับพื้นพลางปล่อยน้ำตาที่ไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย ผมพุ่งตัวไปข้างหน้าหมายจะต่อยเข้าที่ใบหน้าของโฮซอกเพื่อที่จะให้อีกฝ่ายได้รู้ตัวเสียบ้างว่าตนกำลังทำอะไรอยู่

    แต่เหมือนว่าโฮซอกอ่านใจผมออก เขาสูดลมหายใจเชิดหน้าขึ้น และพูดในบางสิ่งบางอย่างที่ทำเอาหัวใจผมหล่นวูบลงไปเลย

    ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน...เพราะฉันไม่ได้รักยุนกิแล้ว

     

     

    ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน...เพราะฉันไม่ได้รักยุนกิแล้ว”  ทั้งยุนกิและแทฮยองต่างชะงักไป มีเพียงเสียงหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ ของซอกจินที่แผ่วไปตามสายลม แทฮยองที่ได้สติก่อนจ้องหน้าโฮซอกเขม็งแต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจอะไร โฮซอกเพียงแค่มองกลับมาด้วยสายตาที่นิ่ง นิ่งจนน่ากลัว ภายในดวงตานั้นช่างว่างเปล่า....

    เอาล่ะๆ หมดเวลาทักทายกันแค่นี้เถอะ โฮซอกนายพายุนกิไปเถอะ..ส่วนทางนี้ฉันจะจัดการเองซฮกจินพูดกับโฮซอกก่อนจะปรายตามามองแทฮยองกับจองกุกที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

    นี่! จะเอายุนกิไปไหนน่ะ!”

    เหอะ! ห่วงชีวิตตัวเองดีกว่ามั๊ยแทฮยอง!!”

    พรึ่บ!

    ร่างของยุนกิและโฮซอกหายไปในทันที แทฮยองรีบหันกลับมาหาซอกจินที่กำลังแผ่แม่เบี้ย (?)  กรงเล็บที่ดูเหมือนจะยาวกว่าครั้งที่แล้ว ทันใดนั้นเองแทฮยองก็รีบโอบจองกุกไว้พร้อมกับวิ่งออกมาจากบริเวณนั้นโดยเร็วที่สุด ซอกจินยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะวิ่งตามแทฮยองมา

    แทฮยองวิ่งอย่างอยากลำบากเพราะคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาเนี่ยสิ ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ แต่เขากลับต้องมาอุ้มเหมือนแม่อุ้มลูก วิ่งหนีซอกจินที่กำลังไล่มา แวร์วูฟที่เริ่มแห่กันมาก็ดูเหมือนจะกระโดดตะครุบแทฮยองและจองกุกได้ทุกเมื่อ จนในที่สุดก็เข้ามาในเขตป่า แทฮยองล่อเข้ามาในนี้เพราะไม่อยากให้มนุษย์ที่ไม่รู้เห็นด้วยต้องโดนลูกหลงไป

    พรึ่บ!

    แวร์วูฟที่วิ่งเข้ามาใกล้ กระโดดหมายจะตะครุบแทฮยองแต่โชคดีที่แทฮยองหลบทัน เขาเสียหลักเล็กน้อยก่อนจะวิ่งต่อ แต่แล้วความคิดเขาก็เปลี่ยน ถ้าจะหนีให้พ้นแวร์วูฟ ต้องปีนต้นไม้สูงๆ ต้นไม้ที่แวร์วูฟปีนไม่ได้

    ฟึ่บ!

    ร่างสูงกระโดดขึ้นต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว พลางกอดร่างเล็กให้แน่นขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ตก เขาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกระโดดไปตามต้นไม้แต่ละต้น โดยมีซอกจินแวมไพร์ผู้หิวโหยตามมาไม่ห่าง

    เฮ้ย!!” แทฮยองร้องขึ้นพลางหยุดอยู่ที่ต้นไม้ต้นสุดท้ายของป่า เพราะข้างหน้านั่นคือ....น้ำตก! พอหันหลังก็เจอกับแวมไพร์ พอมองลงไปข้างล่างก็เจอกับแวร์วูฟนับสิบตัว แทฮยองกัดริมฝีปากตัวเองแน่น เวลานี้เขาต้องตัดสินใจแล้ว เอาไงเอากันวะ! จองกุก..พร้อมนะ!” แทฮยองแทบไม่ฟังความเห็นของคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอก เขากระโดดลงจากน้ำตกอย่างรวดเร็ว ธรรมดาแล้วแวมไพร์สามารถกระโดดจากระยะควมาสูงขนาดนี้ได้อย่างสบาย หากแต่ว่า..ครั้งนี้เบื้องล่างนั่นไม่สามารถมองเห็นพื้นดินได้เลย เขาจึงมาสารถทรงตัวอยู่ได้

    ตู้ม!!!!!

    ซอกจินยืนมองทั้งสอที่กระโดดลงไปอย่างไม่คิด เขาแสยะยิ้มก่อนจะหันหลังกลับ พร้อมๆ กับพรรคพวกทั้งหมด

    หึ! ฉันรู้แค่นั้นไม่สะเทือนขนหน้าแข้งนายหรอก ใช่มั๊ย?....คิม แทฮยอง!” พูดจบร่างนั้นก็วิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงเสียงน้ำที่ตกกระทบกับหินและพื้นเบื้องล่างในยามราตรีเช่นนี้

     

     

     

     

    ซ่าส์~!

    เสียงของน้ำตกที่ดังจนน่ารำคาญ แทฮยองค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะยันกายลุกขึ้น แลมองสำรวจไปรอบๆ ตอนนี้ฟ้าสว่างแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น แต่ก็ตกใจเมื่อเขา

    ไม่พบจองกุก!!!!

    ร่างสูงลุกขึ้นทันที พลางกวาดสายตาไปรอบๆ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อนึกถึงบางสิ่ง......มือ...ถ้าตอนนี้จองกุกไม่ได้จับมือเขาเอาไว้ แล้วทำไมเขาไม่เป็นอะไรเลยล่ะ? แต่เขาก็ต้องสลัดความคิดทั้งหมดทิ้งก่อน เพราะตอนนี้จะต้องหาจองกุกให้เจอ

    แทฮยองวิ่งหารอบๆ น้ำตกแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบจองกุกเลยซักนิด เขาตะโกนเรียกชื่อจองกุกออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิ้วขมวดเข้าหากันจนแทบจะชนกัน ปากที่เริ่มซีดอย่างเห็นได้ชัดเพราะขาดอาหาร

    จองกุก!!!” เขาตะโกนเรียกชื่อร่างบางแทบจะทันทีที่เห็นร่างบางนอนสลบเหมือดอยู่บนก้อนหิน มีเพียงแค่ครึ่งตัวเท่านั้นที่โผล่ขึ้นมา แทฮยองรีบวิ่งเข้าไปในทันที เขาช้อนตัวของจองกุกก่อนจะรีบกลับขึ้นฝั่ง เพราะถ้าหากอยู่นานกว่านี้ มีหวังจองกุกได้จากเขาไป..ตลอดกาลเป็นแน่...

    แทฮยองเขย่าตัวจองกุกที่มีลมหายใจเพียงน้อยนิด น้ำตาของเขาเริ่มซึมออกมา แทฮยองทำทุกทาง ใช้พลังของเขาเพื่อให้จองกุกฟื้นแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวเลยแม้แต่น้อย ตัวที่ซีดขาวกว่าเดิม ดวงตาที่ปิดสนิท ทำให้แทฮยองกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

    เขากอดร่างบางเอาไว้พลางร้องไห้ออกมา ถึงจะยังสัมผัสได้ถึงลมหายใจอ่อนๆ นั้นแต่ก็ยังวางใจไม่ได้

    อืออ...ทะ..แทฮยอง..เสียงใสที่ดังขึ้นทำให้แทฮยองรีบผละออก จองกุกที่ลืมตาขึ้นมาพลางยิ้มให้กับแทฮยอง ร่างสูงยิ้มกว้างก่อนจะโผเข้ากอดจองกุกอย่างลืมตัว จองกุกเองก็เช่นกัน เขากอดตอบโดยทันที 


    ----------------------------------------ต่อๆ------------------------------------------------------------------------------------------


     

     

    แทฮยองและจองกุกตัดสินใจพักที่น้ำตกชั่วคราว เนื่องจากร่างสูงเห็นว่าร่างกายของจองกุกยังไม่พร้อมที่จะออกเดินทาง และเขาเองก็รู้สึกเพลียอยู่หน่อยๆ ด้วย ถ้าหากต้องออกเดินทางในสภาพแบบนี้คงไปไม่รอดกันทั้งคู่

    จองกุกให้แทฮยองนอนหนุนตัก เขารู้ดีว่าแทฮยองเหนื่อยแค่ไหน ใจจริงเขาไม่อยากให้แทฮยองมาปกป้องเขาหรอก เพราะเขากลัวว่าแทฮยองจะได้รับอันตราย...

    ร่างเล็กมองคนที่อยู่บนตักอยู่นอน มือบางยกขึ้นเกลี่ยเบาๆ ที่ใบหน้าของอีกคน เขาไม่รู้ว่าทำไมยิ่งอยู่ใกล้คนๆ นี้แล้วรู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดเข้าหาเค้าทุกที จนบางครั้งจองกุกก็รู้สึกกลัว....กลัวหัวใจตัวเอง...กลัวว่าจะไปเผลอรักคนๆ นี้เข้า ถึงจะมีความมั่นใจอยู่ไม่น้อยก็ตาม แต่ทุกๆ ครั้งที่ได้ใกล้ชิด หัวใจมันกลับโอนอ่อนอย่างบอกไม่ถูก

     

    อืออ..ร่างสูงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาหลังจากเวลาผ่านไปซักพักใหญ่ ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเสมองไปทางอื่นอย่างเนียนๆ  ร่างสูงทันได้สังเกต เขาลุกขึ้นนั่งข้างๆ จองกุกก่อนจะบิดตัวเพื่อคลายความเมื่อย เช่นเดียวกันจองกุกที่เหยียดขาเพราะความเมื่อย

    จะไปต่อเลยมั๊ย? อยากพักก่อนหรือเปล่า?แทฮยองถามคนที่นั่งข้างๆ โดยไม่ได้หันไปมอง จองกุกเหลือบมองคนข้าวงตัวก่อนจะมองตรงตอบคำถามร่างสูง

    แล้วแต่นายสิ ฉันยังไงก็ได้จองกุกยักไหล่ก่อนจะลุกขึนยืนเดินไปที่น้ำตก กวักน้ำล้างหน้าล้างตา ส่วนแทฮยองก็กำลังสำรวจทางอยู่ว่าควรจะไปทางไหนต่อ

    เร็วสิ! เดี๋ยวก็ทิ้งไว้นี่หรอก....อ้วนแล้วยังจะชักช้าอีก!” ประโยคหลังแทฮยองพึมพำกับตัวเองพลางทำหน้ายุ่งๆ ใส่คนตัวเล็ก แต่...ถึงจะพึมพำ จอนจองกุกยัง..

    นี่!!!! นายว่าไงนะ! ว่าฉันว่าอ้วนแล้วยังจะชักช้างั้นเหรอ!!? ไปตายเถอะไอ้ดรรมมมมมมมมส์!!!!” จองกุกตะโกนขึ้น แต่คำที่จองกุกพูดมันแทงใจดำเขาเกินไป(?)

    นายว่าฉันว่าดำงั้นเหรอ!!? เหอะ! คิดว่าตัวเองขาวมากไงไอ้หมู!!” การตอบโต้ของแทฮยอง

    โว้ยยยยย!!!! ฉันไม่ได้อ้วนนะเว้ยยย!!! ไอ้ดรรมมมมมมมส์!!!!” การตอบโต้ของจอนจองกุก

    ฉันไม่ได้ดำเฟ้ยยย!!! อีกอย่างนะ!! ฉันอายุเยอะกว่านาย! นี่น่ะเหรอคำพูดของคนที่เด็กกว่าน่ะห๊ะ!!!!!!” การตอบโต้ของแทฮยอง

    ไอ้บ้าเอ้ยยย!!! ถึงฉันจะอายุน้อยกว่า แต่ฉันก็ไม่นับถือนายหรอก!! ผู้ใหญ่อะไรทำตัวแบบนี้!!” การตอบโต้ของจอนจองกุก

    ใครสอนให้พูดจาแบบนี้กันเนี่ย!!!” การตอบโต้ของแทฮยอง

    ทำไม!!!? มีปัญหาเหรอ? ถ้านายไม่พอใจก็ไม่ต้องมาพูดกับฉันเซ่!!!” การโต้ตอบของจอนจองกุก

    ได้! ไม่พูดก็ไม่พูด! แต่...

     

    ตู้มมมมม!!!

     

    แทฮยองจัดการช้อนตัวของจองกุกขึ้นมาอุ้มจากนั้นก็โยนลงน้ำอย่างรวดเร็ว แทฮยองยืนมองคนตัวเล็กที่โวยวายอยู่ในน้ำพลางหัวเราะร่า แต่เขาคงลืมไปอย่าง....จองกุกเป็นแวมไพรธาตุน้ำ!

    ไอ้ดรรมส์!!! เสร็จฉันแน่! ฮ่าๆๆๆๆๆจองกุกหัวเราะดังลั่นก่อนที่น้ำบางส่วนจะยกตัวสูงขึ้นพร้อมกับถาโถมใส่แทฮยอง ร่างสูงหลบด้วยความเร็วสูง แต่ด้วยความที่โขดหินที่เขาใช้ยืนนั้นมันเปียกน้ำไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ร่างของแทฮยองตกน้ำไปทันที

    จองกุกมองดูภาพตรงหน้าแล้วหัวเราะร่า อยากเก็บภาพเอาไว้เสียจริง ผู้ชายท่าทางฟรอมจัดลื่นตกน้ำ ไม่อยากคิดภาพว่าถ้าหากเป็นเขาเอง เขาจะรู้สึกอายแค่ไหน

    ฮ่าๆๆๆๆๆ~จองกุกยังคงหัวเราะอย่างต่อเนื่อง เมื่อเห็นแทฮยองโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำพร้อมกับจ้องจองกุกตาเขม็ง จนไม่ทันสังเกตว่าตอนนี้แทฮยองได้ดำลงไปใต้น้ำแล้ว กว่าจะรู้สึกตัวอีกที อีกฝ่ายก็จัดการดึงข้อเท้าของเขาให้จมน้ำไปเสียแล้ว

    หลังจากที่แทฮยองดึงคนตัวเล็กลงมาในน้ำได้สำเร็จ เขาจัดการรวบตัวร่างเล็กไว้ในอ้อมกอด สำหรับแวมไพร์แล้ว การอยู่ในน้ำราวห้านาทีนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย เพราะแวมไพร์นั้นมีปอดที่ใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไป สามารถกลั้นหายใจได้อย่างน้อยหนึ่งคืนเลยทีเดียว

    จองกุกหยุดดิ้นก่อนจะหันไปจ้องหน้าคนที่กอดเขาอยู่ พร้อมกับเบ้ปากใส่แทฮยอง ร่างสูงเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มออกมา ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วยิ่งรู้สึกอยากแกล้งเลยแฮะ ตอนนี้ทั้งสองอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถพูดอะไรได้ จึงต้องใช้ท่าทางในการสื่อสาร จองกุกพยายามดิ้นอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล ก่อนที่ร่างเล็กจะคิดอะไรบางอย่างออก

    มือบางเอื้อมไปสัมผัสเบาๆ ที่แก้มของร่างสูง ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้แทฮยองมากขึ้น การกระทำของจองกุกทำเอาแทฮยองตกใจจนเผลอคลายอ้อมกอดที่กอดคนตัวเล็กเอาไว้ ในขณะเดียวกันจองกุกใช้เวลานี้ในการหนี เขาจัดการผลักร่างสูงก่อนจะรีบตะเกียกตะกายขึ้นมาเหนือผิวน้ำ แต่เชื่อสิ...คนอย่างแทฮยอง มีเหรอที่จะปล่อยไปง่ายๆ

    แทฮยองตั้งสติได้ก็รีบคว้าจองกุกไว้ทันที จองกุกที่โดนคว้าตัวไว้อีกครั้งพยายามสะบัดออกแต่ด้วยความที่ร่างสูงมีแรงเยอะกว่าทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้ จองกุกจึงรีบดำน้ำลงไปลึกๆ และว่ายหนีแทฮยองให้ไกลที่สุด แทฮยององก็ไม่ยอมแพ้รีบว่ายตามทันที

     

    จอน จองกุก...

     

    !!!!

    เสียงของใครบางคนที่ดังสะท้อนอยู่ในหูของจองกุกได้ดังขึ้นมา ทำให้ร่างเล็กจำต้องหยุดการกระทำทุกอย่าง ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ เพื่อค้นหาต้นตอของเสียงเมื่อครู่แต่รอบๆ มีเพียงน้ำ.....น้ำ?

    แทฮยองที่ว่ายมาตามหลังเห็นจองกุกที่หยุดอยู่กับที่และเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง เขาจึงว่ายไปหาจองกุกทันที ร่างเล็กที่หยุดนิ่งเหลือบมองแทฮยองเล็กน้อยก่อนจะว่ายขึ้นเหนือน้ำไปอย่างหน้านิ่งๆ แต่แววตาท่เฉิดฉายแม้กระทั่งในน้ำของจองกุกมันกลับกำลังสะท้อนความเศร้าหมองบางอย่างออกมา

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตลอดการเดินทาง จองกุกเอาแต่เงียบและเงียบแทฮยองพยายามชวนคุยแต่ร่างเล็กก็ยังคงเงียบอยู่อย่างนั้นเหมือนกำลังเหม่อลอย จนในที่สุดแทฮยองจำต้องยอมแพ้และเลือกที่จะเงียบเช่นกัน เขาหันเหความสนใจมาอยู่ที่เส้นทางของป่า แทฮยองมีสัญชาตญาณเรื่องนี้อยู่พอสมควร เปรียบเหมือนว่าป่านั้นเป็นบ้านหลังที่สองของเขาเสียด้วยซ้ำ

    จองกุก...เราพักที่นี่ก่อนดีมั๊ย?แทฮยองชี้ไปที่ถ้ำแห่งหนึ่งบนเนินเขาเช่นนี้ มันคงเป็นที่พักเดยวที่หาได้ในเวลานี้แล้ว เพราะท้องฟ้าตอนนี้มีเพียงแค่จันทราลอยเด่นอยู่บนนั้น จองกุกพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเดินตามแทฮยองเข้าไป

    “….”

    จองกุกแทฮยองเอ่ยเรียกจองกุก หลังจากที่รู้สึกอึดอัดมานาน แต่จองกุกก็ยังคง....

    “….”

    เงียบ......

    นี่ จอนจองกุก!”

    ฮะ! อะไร!?จองกุกที่ตกใจเสียงของแทฮยองสะดุ้งโหยงก่อนจะหันไปทำตาดุใส่อีกคน แต่พอเจอเข้ากับสายตาของอีกคนก็ต้องชะงักเมื่อสายตาคู่นั้นดูจริงจัง และอ่อนโยนแปลกๆ จนไม่สามารถรู้ได้ว่าสายาคู่นั้นพยายามจะสื่ออะไรกันแน่

    นายเป็นอะไรไป? ฉันชวนคุยเท่าไหร่ก็ไม่ตอบซักคำ ตั้งแต่ตอนอยู่ในน้ำ หรือว่า..นายโกรธฉันเหรอ?แทฮยองถามออกมา จองกุกหลบสายตาแทฮยองก่อนจะบอกปัด

    ไม่เป็นอะไรหรอก ฉันแค่..เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ แล้วก็ไม่ได้โกรธนายด้วยจองกุกพูดก่อนจะขยับตัวล้มลงนอนเอาหลังพิงกับโขดหิน ถึงจะเจ็บหลังอยู่บ้างแต่ก็ต้องทน

    แทฮยองที่มองดูร่างเล็กอย่างเหนื่อยใจ ความรู้สึกบางอย่างมันแล่นเข้ามาเต็มไปหมด ตั้งแต่แวบแรกที่เห็นสีหน้าและแววตาของคนตัวเล็กที่เปลี่ยนไปก็ทำให้เขา...อดห่วงไม่ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเดินออกมาข้างนอกเพื่อดูสถานการณ์

     

     

    JUNGKOOK

     

     

    ผมมองตามแผ่นหลังของแทฮยองที่เดินออกไปข้างนอก ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้ ที่ผมเงียบ..เพราะผมกำลังคิดถึงเสียงนั่น ใช่...เสียงที่ผมได้ยินในตอนนั้นแหละครับ ผมค่อนข้างแน่ใจ...มันคือเสียงของแม่ของผม! ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมผมถึงได้ยินเสียงของแม่ ท่านยังไม่ตายเหรอ? ไม่ใช่หรอก...ผมว่า บางทีผมอาจจะหูฝาดไป แต่มัน...ชัดมาก ชัดจนผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมไม่ได้หูฝาด แต่ทำยังไงได้...ยังไงผมก็ต้องเดินทางต่อ เดินทางไปในปลายทางที่ไร้จุดหมาย

    สงคราม? สงครามเหรอ? มันจะเกิดขึ้นหรือเปล่านะ ถ้าหากผมยังอยู่...ผมว่ามันต้องเกิดขึ้นแน่ๆ แค่นี้แทฮยองก็เหนื่อยเพราะผมมากแล้ว อ๊ะ! ทำไมผมต้องไปคิดถึงเค้าด้วยเนี่ย!! ไม่คิดๆๆ >_<

    จองกุกชะอุ้ย! เสียงของแทฮยองนี่นา ไม่ๆ ผมต้องทำให้ดูเหมือนว่าผมหลับแล้ว

    ....

    ฉันรู้ว่านายยังไม่หลับเค้ารู้ได้ไงอ่ะ t0t

    ผมค่อยๆ พลิกตัวหันกลับไปหาแทฮยองก่อนจะฉีกยิ้มนิดๆ คนตรงหน้าที่นั่งขมวดคิ้วอยู่ ยื่มมือมาเขกหัวผมทีนึงพลางทำหน้าดุใส่ เฮ้!! ผมทำอะไรผิดเหรอ? t t

    เมื่อกี้นายยังนิ่งเงียบอยู่เลย ไหงกลับยิ้มซะได้ =_=” เออนั่นสิ ตอนไหนนะที่ผมยิ้มออกมา...หรือเป็นที่ผมคิดถึงแทฮยอง ? ม่ายยยย!!!! ผมต้องไม่คิดถึงเค้าเซ่!! T^T

    อ่อ คือพอดีปวดท้องนิดหน่อยน่ะ ตอนนี้หายปวดแล้วเลยยิ้มออก ^-----^” ผมโกหกออกไปหน้าด้านๆ ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่เร็วเท่าคนตัวสูงที่จัดการดึงผมไปนั่งบนตัก เห...เดี๋ยวนะ

    บนตัก!!! O-O

    ฉันไม่เชื่อนายหรอก ^^” ไม่เชื่อแล้วทำไมต้องยิ้มแบบนั้นด้วยล่ะเนี่ย!? ผมดิ้นสุดชีวิตเลยครับแต่ว่าแรงผมมีแค่นี้จะไปสู้อะไรเค้าได้ล่ะเนี่ย? T^T

    ปล่อยฉันนะ! ปล่อยยยยย!!!! ToT” ผมร้องโวยวาย นั่นทำให้แทฮยองกระชับอ้อมแขนที่กอดผมอยู่ให้แน่นขึ้น ฮือออ ผมหายใจไม่ออกกกก T/////t

    ฉันไม่ปล่อยจนกว่านายจะพูดความจริง ฉันรู้ว่านายไม่ได้ปวดท้องหรอกนะจอนจองกุก!”

    ปล่อยฉันก่อนสิแล้วจะเล่าผมหยุดดิ้นก่อนที่แทฮยองจะคลายอ้อมแขนนั้นออก ผมจึงรีบเด้งตัวมานั่งฝั่งตรงข้ามทันที

    ทีนี้เล่ามา

    เล่าแล้วๆ ชิ! ทำไมต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นด้วย -3-

    มันไม่ใช่เรื่องตลกนะจอน จองกุกอูยยยย พูดแบบนี้ ผมไม่กล้าเล่นอะไรแล้วครับ T t

    อืม...จะเริ่มยังไงดีล่ะ คือ..ฉันได้ยินเสียงของแม่..

    เสียงของแม่นาย?

    ใช่..

    แล้ว...ก่อนหน้านั้น นายไม่เคยฝันได้ยินเสียง หรือเรื่องแปลกๆ อะไรบ้างมั๊ย?

    คืออันที่จริง....หลังจากนั้นผมก็เล่าทุกๆ ความฝันที่ผมเจอมา มันเป็นความฝันที่แปลกมากจริงๆ ผมเล่าความจริงทุกประกราไม่มีบิดเบียน ระหว่างเล่นคนตรงหน้าก็เริ่มที่จะขมวดคิ้วขึ้นเรื่อยๆ นั่นทำให้ความสงสัยของผมเพิ่มขึ้นหลายเท่า ทำไมเขาเกิดอยากรู้ขึ้นมาล่ะเนี่ย แต่...ผมก็ไม่กล้าถามออกไปอยู่ดี

    ประมาณนี้แหละ

    อือ...หลังจากที่ผมเล่าจบ แทฮยองก็ทำสีหน้าครุ่นคิดสักพักก่อนใบหน้านั้นจะกลับมาเป็นปกตีกครั้ง เขาลุกออกไปจากตรงนั้นอย่างเงียบๆ ผมมองตามเล็กน้อยก่อนจะไม่สนใจและล้มตัวลงนอน เพราะร่างกายเพลียมากแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงเดินทางต่อลำบากอีกคนแหงๆ







     

    มาแล้วค่า โอยยย ต้องขอประทานอภัยเป็นอย่างมากนะคะ คือไรท์งานหนักจริงๆ ไรท์มาอัพให้แล้ว ถ้าหากว่าไม่ง่วงจะปั่นตอนที่ 7 ให้เสร็จแล้วจะอัพให้เลยเนาะ 555 ถ้าอยากให้ไรท์ไม่ง่วง เม้นหน่อยสิ ไรท์จะแต่งยันเช้าเลย 55555 ขอบคุณที่ติดตามจ้า ^_^

     

    บทที่ 7

    จุดหมายของเรา----- อย่าลืมติดตามน้าาา  ^0^ เม้นๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×