ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [PRODUCE101] MA BAE - YONGGUK & JINYOUNG

    ลำดับตอนที่ #3 : MABAE 03

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.95K
      12
      6 มิ.ย. 60

    \begin again


     

    วันนี้จินยองเดินมาโรงเรียนเองเพราะพี่ชายตัวโตของเขาต้องรีบไปส่งงานที่มหาลัยซึ่งไม่รู้ว่าเขากำหนดส่งวันนี้หรือดงโฮเพิ่งทำงานเสร็จเลยต้องติดสปีดที่ก้นแล้วปฏิเสธน้องชายตัวเองโดยการปล่อยให้มาเอง 

     

    นี่จักรยานก็ถีบไม่เป็นเลยต้องมายืนถอนหายใจอยู่หน้าโรงเรียน จริงๆพี่ดงโฮจะสอนผมปั่นหลายรอบแล้วแหละแต่ผมก็มัวอิดออด สมน้ำหน้าตัวเองแล้วก็งอนพี่ดงโฮด้วยที่ไม่ยอมมาส่ง คว่ำปากจนปวดหน้าไปหมด 

     

    จินยองตั้งท่าจะเข้าโรงเรียนถึงกับชะงักขาหยุดเดินเมื่อสายตาเห็นรุ่นพี่ตัวสูงที่เขาคุ้นเคยเดินสวนออกมา

     

    "พี่ยงกุก" เด็กหนุ่มร่างสูงที่แต่งตัวด้วยชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนฮันริมหันมามองเจ้าของเสียงที่ยืนมองอยู่ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา จินยองแอบใจหวิวเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินมา

     

    "เดินมาเรียนเองเหรอ" เขาถามพลางสอดส่องสายตามองว่าคนตัวเล็กไม่ได้มากับใคร

     

    "ครับ ปกติพี่ชายผมจะมาส่ง"

     

    "อือ"

     

    "...."


    แล้วไงต่อ? ผมควรชวนเขาคุยหรือลากันตรงนี้ อมพิกุลไว้เหรอไง


     

    "เออ งั้นเจอก็ดี นี่กำไลข้อมือนาย" ยงกุกล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกำไลเส้นสีน้ำเงินเข้มออกมา "ฉันหยิบมันขึ้นมาก็ขาดแล้ว"

     

    "พี่เจอมันที่ไหน"

     

    "บนรถไอ้แดน" จินยองรับกำไลมาจากมือของยงกุกแต่สีหน้าดูเป็นกังวลจนคนเอามาคืนรู้สึกผิด "โกรธเหรอ"

     

    "เปล่าครับ ผมแค่ไม่กล้าบอกแม่ว่ามันขาด" ยงกุกถึงกับทำตัวไม่ถูกไม่รู้เพราะประโยคที่อีกคนพูดหรือสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ของจินยอง

     

    "...."

     

    "แม่ผมต้องดุแน่ๆเลย"

     

    "งั้นเดี๋ยวฉันเอาไปซ่อมให้" ไม่พูดอย่างเดียว ยงกุกเอื้อมมือไปหยิบกำไลที่อยู่ในมือของจินยองมาก่อนจะยัดใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม

     

    "ไม่เป็นไรครับ ผมเอาไปซ่อมเองก็ได้" จินยองมีสีหน้าเหลอหลา เขาพยายามจะแบมือขอกำไลของตัวเองคืนแต่ยงกุกก็ไม่สนใจ

     

    "ฉันเจอมันก็ขาดแล้ว ถือว่าฉันทำขาดแล้วกัน"

     

    "พี่ยงกุก..."

     

    "เงียบแล้วก็เข้าไปได้แล้ว" ยงกุกพยักพเยิดหน้าให้คนตัวเล็กเข้าไปในโรงเรียน จินยองชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปข้างในแต่ก็ยังคงหันหลังมองยงกุกอยู่เรื่อยๆ "มองด้านหน้าซะ ไม่ต้องหันมามองฉัน" เขาพูดทิ้งท้ายพลางชี้นิ้วไปที่อาคารเรียนตรงหน้า จินยองเลยจำใจมุ่งหน้าเข้าตัวอาคารโดยไม่หันไปมองคนด้านหลัง อยู่ๆก็มีความผิดปกติเกิดขึ้นบนหน้าเขา นี่เขากำลังยิ้ม...

     

    พี่ยงกุกเก็บกำไลของเราไว้กับตัวตลอดเลยเหรอ 

     

     

     

    :

     

     

     

     

    เด็กหนุ่มตัวสูงผมยุ่งไม่เป็นทรงหลังจากเขาใช้มือขยี้มันอยู่หลายครั้งเมื่อรู้สึกง่วงนอนแต่จะหลับก็ทำไม่ได้เพราะเขากำลังนั่งรอของที่เขาเอามาซ่อมที่ร้าน คิมยงกุกนั่งสั่นขาตัวเองไปมาด้วยความเบื่อหน่าย จะว่าคนก็ไม่ได้เยอะมากมายทำไมลุงถึงทำช้าแบบนี้นะ 

     

    "ไอ้หนู จะให้ลุงเปลี่ยนสายให้ใหม่ด้วยเลยไหม"

     

    "ลุงมีสีน้ำเงินแบบอันเดิมเปล่าละ" 

     

    "มีแต่สีคล้ายๆ"

     

    "งั้นไม่ต้องเปลี่ยนครับ" ยงกุกเงยหน้าไปตอบก่อนจะก้มหน้าแนบลงไปกับโต๊ะเหมือนเดิม เขาแทบจะเลื้อยไปนอนบนโต๊ะเสียด้วยซ้ำถ้าไม่เกรงใจประชากรที่เดินอยู่ภายในห้าง ลึกๆเขาก็แอบระแวงคนรู้จักมาเจอเหมือนกัน เดี๋ยวมีคนคาบข่าวไปบอกครูอีกว่าเขาโดดเรียน

     

    นอนเอาหัวหนุนแขนตัวเองอยู่พักใหญ่จนมันเริ่มชา หัวทุยๆยกขึ้นหวังจะพักแขนแต่ก็ต้องค้างกลางอากาศเมื่อสายตาไปพบเจอกับบางสิ่งตรงหน้า


     

    จูฮักนยอน...


     

    "ไอ้หนูเสร็จแล้ว" ยงกุกสะบัดภาพตรงหน้าออกแล้วหันไปมองลุงด้านหลังแต่ก็อดที่จะหันมองอีกทีไม่ได้ จูฮักนยอนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของเขาคนที่เพิ่งจะเดินไปส่งที่โรงเรียนเมื่อเช้า ทำไมตอนนี้กลับมาอยู่ในห้างกับไอ้รุ่นพี่จินอู...

     

    "ขอบคุณครับลุง" 

     

    “เอามาซ่อมให้แฟนเหรอ"

     

    "อะไรครับ?"

     

    "กำไลนี่ไง ดูไม่ค่อยเหมะกับเราเท่าไหร่" ลุงเจ้าของร้านยื่นกำไลคืนให้ร่างสูงพลางวิเคราะห์พิจารณา ยงกุกไม่ได้ตอบอะไรเขารับกำไลนั่นมาเฉยๆแต่ก็รู้สึกมวลท้องยังไงชอบกลพอได้ยินคำว่า แฟน หน้าเด็กจินยองก็ลอยเข้ามาในหัวเขาเฉย

     

    "ไปก่อนนะลุง"

     

    "เอ้อ ถามแค่นี้ทำเขิน" ลุงหัวเราะชอบใจพอเห็นเด็กหนุ่มหน้าซึนเดินกำกำไลออกไปจากร้าน "หูแดงขนาดนั้นไอ้หนุ่มเอ้ย"

     

     

     

     

    :

     

     

     

     

    เด็กหนุ่มหน้าตาสดใสร่าเริงตลอดเวลากำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับคำพูดของคนข้างๆ จูฮักนยอนกระชับกระเป๋าเป้ของตัวเองแน่นเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากว่าจะช่วยถือ

     

    "ผมถือเองได้ครับ"

     

    "เอามาเถอะ นายจะได้เดินชิวๆไง" รุ่นพี่จินอูยังคงย้ำความตั้งใจเดิมที่จะอาสาถือกระเป๋าให้ ฮักนยอนชั่งใจอยู่แปบนึงก่อนจะยอมปล่อยกระเป๋าให้ไปอยู่ในความดูแลของอีกคน

     

    "แล้วอย่ามาบ่นว่าหนักละ"

     

    "กระเป๋านายไม่หนักหรอก ดินสอสักแท่งก็ยังไม่มี" ฮักนยอนหยุดเดินทันทีเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยมาจากทางด้านหลัง เขาหันไปมองก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

     

    "พี่... พี่ยงกุก"

     

    "เออ ตกใจเหรอ" ยงกุกเดินเข้ามาประจันหน้ากับเด็กที่เขามักจะเป็นห่วงเป็นใยอยู่เสมอ แถมยังคอยดูแลเงียบๆถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนไม่ค่อยแสดงอะไรออกไปสักเท่าไหร่ สายตานิ่งเฉยมองแฟนตัวเองสลับกับคนที่ฮักนยอนเรียกว่ารุ่นพี่มาตลอด

     

    "พี่ไม่ไปเรียนเหรอครับ" ถึงปากจะถามไปแบบนั้นแต่น้ำเสียงและสีหน้าดูแตกตื่นจนแทบจะทำตัวไม่ถูก

     

    "ก็เสียเวลาไปส่งนายที่โรงเรียนจนเข้าคาบแรกไม่ทันก็เลยโดดแม่ง" พูดจบยงกุกก็เผลอกำมือจนกระดูกลั่นฮักนยอนเห็นแบบนั้นถึงกับใจหล่นวูบ

     

     เขาโกรธ... โกรธมากจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ อยากจะต่อยอัดหน้าไอ้รุ่นพี่ที่ยืนทำตัวสบายๆอยู่ตรงหน้าให้แม่งเลือดกำเดาไหลแต่ก็ได้แต่ยืนเฉยๆ

     

    "จะไม่พูดอะไรสักหน่อยเหรอ"

     

    "คือ..."

     

    "ถ้านายใส่ใจฮักนยอนมากกว่านี้น้องมันคงไม่มาคุยกับฉันหรอก"

     

    "ผมถามพี่เหรอครับ" ยงกุกหันมองจินอูที่เป็นฝ่ายเปิด รุ่นพี่ที่ดูค่อนข้างสุขุมไม่ใช่น้อยในสายตาของยงกุกกำลังสูดลมหายใจเข้าเพื่อข่มอารมณ์

     

    "ฉันแค่พูดในสิ่งที่น้องมันไม่กล้าบอกนาย" ฮักนยอนยกมือกำแขนเสื้อของจินอูเมื่อรู้สึกไม่ดี ถึงเขาจะเคยบ่นให้คนข้างๆฟังว่ายงกุกไม่ค่อยแสดงความรักใส่เขาก็ตามแต่ก็ใช่ว่าจะรู้สึกดีที่จินอูพูดออกไป

     

    "ชอบแบบนี้เหรอ" 

     

    "พี่ยงกุก..."

     

    "ฉันถามว่าชอบแบบไอ้นี่เหรอ" ยงกุกเริ่มกดน้ำเสียงของตัวเองเมื่อรู้สึกหงุดหงิดจนคนฟังแทบอยากจะร้องไห้ จริงๆแล้วยงกุกไม่เคยมีอาการแบบนี้ใส่ฮักนยอนเลยตลอดเวลาที่คบมาเกือบ 9 เดือน มันเลยทำให้ฮักนยอนหวั่นๆอยู่ไม่น้อย

     

    "เราไว้คุยกันทีหลังดีกว่า"

     

    "ไม่อะ เพราะหลังจากวันนี้ฉันจะไม่รู้จักเด็กที่ชื่อจูฮักนยอน"

     

    "...."

     

    "ค่อยกลับไปคุยกับน้องมันก่อนสิวะ"

     

    "อย่าเสือกครับ ผมไม่ชอบอะไรค้างคา มันน่ารำคาญ" 

     

    "พี่ยงกุก ฮึก..." เจ้าของชื่อแอบใจหล่นวูบเมื่อเห็นน้ำตาของคนตรงหน้า ถ้าสถานการณ์ปกติเขาคงดึงคนตรงหน้ามากอดแล้วแต่สำหรับตอนนี้มันไม่ใช่ เขาไม่ใช่พวกที่จะมาอ้อนวอนขอร้องให้กลับมาหาเสียด้วยสิถึงแม้ว่าในใจแม่งโคตรเจ็บ


     

    ผมต้องทำยังไงวะ...
     

     

    "คืนนี้ ฮึก.. ผมโทรหาพี่นะครับ"
     

    พูดปฏิเสธออกไปดิ
     

    "พี่ต้องรับสายผมนะ"
     

    อย่าไปสนใจคำพูดพวกนั้น
     

    "พี่ครับ..."

     

    "ฉันไปละ" 

     

    คงไม่มีใครขี้ขลาดได้เท่าผมตอนนี้แล้ววะ ไอ้น้ำตาเชี่ยนี่แม่งจะไหลออกมาทำไม ไว้อาลัยให้กูเหรอสัด แม่งเอ้ย

     

     

     

    :

     

     

     

     

    มือเล็กยกขึ้นเอาปิดหูด้วยความรำคาญเมื่อรู้สึกเหมือนมีลมคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ จินยองนอนฟุบหน้าลงกับโต๊ะนานอยู่หลายชั่วโมงตั้งแต่คาบสามเป็นต้นไปเขาก็เอาแต่หลับไม่เกรงใจคุณครูที่อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมบทเรียนมาสอนเลยสักนิด คิ้วขมวดเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมาปรามเพื่อนด้วยสายตา

     

    "อะไรของนายเนี่ย มาเป่าหูฉันทำไม"

     

    "ก็นายไม่สนใจฉันเลยอะ นั่งเงียบๆคนเดียวมันน่าเบื่อนะเว้ย!" แดฮวีโวยวายแต่ก็พยายามทำเสียงให้เบาที่สุดเกรงใจครูที่สอนอยู่หน้าห้อง ถึงอย่างนั้นจินยองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดแดฮวีสักเท่าไหร่เพราะตั้งแต่เข้าห้องเรียนมายังไม่ได้ยินเด็กนี่หยุดคุยเลย สังคมแน่นขนาดอีแดฮวีเหรอจะอยู่เงียบๆเป็น

     

    "ก็ตั้งใจเรียนไปสิ"

     

    "ไม่เอา จะฟ่ง" แดฮวีทำหน้างอแงใส่จินยองคนเห็นเลยได้แต่ยอม

     

    "งั้นฟ่งมา ไม่สนุกโดนฟาดแน่" คนตัวเล็กกว่าได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มร่าก่อนจะขยับตัวมาใกล้ๆ

     

    "ไม่สนุกหรอกแต่อาจจะตกใจหน่อยๆ"

     

    "อะไรอ่ะ"

     

    "จำคนที่ชื่อจูฮักนยอนได้ไหม" จินยองเงียบไปแปบนึงพอได้ยินชื่อนั้น เขาจำได้ดีเลยแหละน้องจู น้องฮักนยอนอะไรเนี่ย... 

     

    "อื้อ"

     

    "เขาเรียนโรงเรียนเดียวกับเราแหละ"

     

    "...."

     

    "แต่เหมือนจะเป็นรุ่นน้องเรามั้ง"

     

    "ไปรู้มาจากไหน"

     

    "ก็หลังจากไปส่งนายที่บ้านวันนั้นพวกพี่เขาก็คุยกันต่ออะ น่าจะเป็นแฟนพี่ยงกุกมั้ง" เขาอยากจะฟาดหัวเพื่อนสนิทของตัวเองเสียเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ว่าเรื่องเล่าไม่สนุกแต่จะมาเล่าให้เขาฟังทำไม! หงุดหงิดเฉย...

     

    "แล้วมาเล่าให้ฉันฟังทำไมอะ"

     

    "นายไม่ได้อยากรู้หรอกเหรอ" แดฮวีมีสีหน้าหยอกล้อ เขารู้ว่าจินยองเหมือนจะสนใจคิมยงกุก ก็ผมเป็นเพื่อนสนิทนายนี่นะ! ทำไมผมจะไม่รู๊

     

    "รู้ไปแล้วทำไรได้"

     

    "ทำใจไง"

     

    "หะ"

     

    "หยอกเย่นนนน" แดฮวีรีบเอาหน้าแนบแขนเพื่อนตัวเองทันที คนฟังถึงกับทำสีหน้าไม่ถูกเพราะเขาคงไม่คิดว่าเพื่อนของตัวเองจะรู้หรอกนะว่าเขาแอบสนใจรุ่นพี่ยงกุกอยู่ 

     

     

    นับวันผมยิ่งอยากเจอพี่เขาทุกวันเลยอะ ฮืออ หัวใจเลว

     

     

    จินยองพยายามดันหัวของเพื่อนตัวเองออกด้วยความหมั่นไส้ที่อยู่ๆก็มาเล่าอะไรก็ไม่รู้ให้ฟัง เขาเกือบจะหยิกคนข้างๆอยู่แล้วแต่ก็ต้องทิ้งความคิดนั้นไปเมื่อเสียงประกาศของคุณครูดังขึ้น

     

    "อย่าลืมเอาการบ้านเมื่อวานมาส่งท้ายคาบด้วยละ"

     

    "ครับบบ / ค่าาา"

     

    "เอาการบ้านมา เดี๋ยวเดินไปส่งให้" แดฮวีพอได้ยินคุณครูแถลงการเขาก็หันไปสนใจสมุดการบ้านของตัวเองไม่ลืมที่จะขอของจินยองด้วยแต่คนโดนขอได้แต่นั่งสตาฟตัวเองอยู่อย่างเงียบๆ ...

     

    ผม-ลืม-ทำ-การ-บ้านนน !!!!


     

     

    :

     


     

     

    ไม่รู้อะไรลากเขาให้มายืนเอาเท้าเขี่ยพื้นอยู่หน้าโรงเรียนที่เขาเพิ่งจะมาเมื่อเช้า นักเรียนหลายคนจับตามองไปที่เด็กหนุ่มชุดนักเรียนฮันริมด้วยสีหน้าตื่นเต้นโดยเฉพาะนักเรียนหญิง คิมยงกุกแสร้งมองไปทางอื่นเมื่อสังเกตเห็นว่ามีนักเรียนหญิงกลุ่มนึงกำลังจ้องมองมาที่เขาพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนรู้สึกอึดอัด แต่แทนที่จะเดินหนีไปเขากลับยืนเด่นหราอยู่หน้าโรงเรียน

     

    "อ้าว พี่ยงกุกหนิ!" เมื่อได้ยินคนเรียกชื่อตัวเองก็อดโล่งใจไม่ได้ยิ่งเห็นว่าเป็นคนรู้จักยิ่งลดความอึดอัดลง

     

    "ไง"

     

    "มารับแฟนเหรอครับ" แดฮวีอมยิ้มชอบใจหลังจากแซวคนตรงหน้าไปหนึ่งดอก ยงกุกไม่ได้ยิ้มหรือแสดงสีหน้าไม่พอใจแต่กลับเปลี่ยนประเด็นไปดื้อๆ

     

    "แล้วเพื่อนนายอยู่ไหน"

     

    "จินยองเหรอ"

     

    "มีคนอื่นคบด้วยเหรอนายอ่ะ" เด็กตัวเล็กตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินประโยคนั้นออกมาจากปากของคนตรงหน้าก่อนจะทำหน้างอใส่ คงต้องทำตัวให้ชิน เห็นพี่แดเนียลบอกว่าพี่ยงกุกเป็นคนปากหมาแล้วก็ชอบทำหน้ากวนตีน ตอนแรกก็ว่าแรงไปอยู่หรอกแต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว...

     

    "ไม่บอกดีไหมเนี่ยว่าเพื่อนผมอยู่ไหน"

     

    "ฉันยืนรอต่ออีกหน่อยก็ได้ถ้างั้น" ยงกุกทำท่าจะเดินไปแดฮวีเห็นแบบนั้นก็ขว้าแขนของอีกคนไว้ก่อน

     

    "แหม จะอ้อนวอนหน่อยก็ไม่ได้นะคนเรา" 

     

    "แล้วตกลงเพื่อนอยู่ไหน"

     

    "ทำไมถึงอยากเจอจินยอง" เรื่องไรผมจะยอมให้เจอง่ายๆ นั่นเพื่อนผมนะแล้วอีกอย่างพี่เขามีแฟนแล้วด้วย อยู่ๆมาหาแบบนี้มันไม่ถวก!

     

    “ไม่บอก ชื่อจินยองเหรอนายอ่ะ” จริงๆผมเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากนะ แต่ตอนนี้ผมหมั่นไส้คนตรงหน้ามากเลย มีดีแค่หน้าตาจริงๆ

     

    “รอให้หัวเข่าผุจินยองก็ยังไม่ออกมาหรอก”

     

    “ทำไม”

     

    “ก็จินยองโดนทำโทษอยู่”

     

    “ทำไมโดนทำโทษ”

     

    “พี่ชื่อจินยองเหรอ ทำไมผมต้องบอก” ดูเหมือนต่อให้แดฮวีจะยอกย้อนอีกฝ่ายสักเท่าไหร่ก็ไม่สะใจเพราะยงกุกเอาแต่ยืนมองหน้าเขาด้วยสีหน้าเดิม ที่ขยับอยู่บนหน้าก็คงจะมีแค่ตานี่ละที่กระพริบกับปากที่เอาไว้กวนตีนชาวบ้าน “มองหน้าทำไม”

     

    “กำลังคิดว่านายสูงได้เท่านี้เหรอ”

     

    “….”

     

    “ถ้าผลักนายล้มกระดูกคงหักง่ายน่าดู”

     

    “พี่จะผลักผมเหรอ!”

     

    “….”

     

    “น่ากลัววว ผมไม่คุยกับพี่แล้ว ขอให้ไม่เจอจินยอง เพี้ยง!” แดฮวีรีบขยับถอยหลังทีละก้าวพลางสาปแช่งด้วยวาจาแล้วหมุนตัววิ่งหนีไป ยงกุกถอนหายใจกับความติงต๊องของแฟนเก่าเพื่อน

     

     

    แม่งสเปคไอ้แดนจริงๆ
     

     

    เขายืนรออีกสักพักใหญ่ตั้งแต่แดฮวีไปก็เกือบๆสองชั่วโมงจนนักเรียนเริ่มเหลือน้อยลง อันที่จริงเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กจินยองหลุดรอดพ้นสายตาเขาไปหรือเปล่าแต่ไม่รู้ทำไมเขารู้สึกยังไม่อยากกลับบ้าน เขาอยากจะเจอหน้าเด็กนั่นก่อนอาจจะเป็นเพราะอยากจะคืนกำไลให้มันรู้แล้วรู้รอดไปก็เท่านั้น ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากจะโผล่มาโรงเรียนนี้อีกเสียด้วยซ้ำ

     

    มือเล็กกระชับกระเป๋าสะพายบ่าของตัวเองเมื่อสังเกตเห็นรุ่นพี่ที่เขาเพิ่งเจอเมื่อเช้านี้ยืนอยู่หน้าโรงเรียน ต่อให้ไม่สังเกตก็ต้องเห็นเพราะชุดนักเรียนสีเด่นขนาดนั้น แต่พอนึกขึ้นได้ว่าพี่เขาอาจจะมายืนรอแฟนก็เลยไม่ทักดีกว่า ทำเป็นเดินไม่เห็นก็แล้วกัน

     

    “รีบเดินไปไหน คนอุตส่าห์ยืนรอ” จินยองหยุดเดินเมื่อเขาเดินผ่านร่างสูงไปได้นิดเดียว ยงกุกเดินมายืนอยู่ตรงหน้าไม่ได้พูดอะไรต่อ เขายืนมองจนกว่าอีกคนจะเงยหน้ามามองเขา

     

    “พี่มายืนรอผมเหรอ”

     

    “ก็ใช่สิ มัวทำอะไรอยู่”

     

    “ติดทำอะไรนิดหน่อยครับ”

     

    “ไม่ได้โดนทำโทษอยู่หรอกเหรอ”

     

    “….”

     

    “แดฮวีบอก” ยงกุกรีบขยายความเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามีสีหน้าแปลกใจ

     

    “พี่รู้หมดแล้วอะสิว่าผมไม่ทำการบ้าน”

     

    “อ๋อ อันนั้นแดฮวีไม่ได้บอก” จินยองถึงกับสบถเบาๆแต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังอมยิ้มอยู่เขาก็อดรู้สึกดีไม่ได้เพราะนานๆทีจะเห็นคนตรงหน้ายิ้ม

     

    “ผมคิดว่าพี่มายืนรอแฟนพี่ซะอีก”

     

    “ฉันไม่มีแฟน”

     

    “แล้ว... ฮักนยอน” นี่ทำไมผมถึงดูเหมือนคนที่กำลังจะสารภาพรักกับพี่เขาอยู่เลยเนี่ย โว้ยย แบจินยอง!!

     

    “เลิกแล้ว” 

     

    “….”

     

    “ทำหน้าแบบนั้นนี่ดีใจหรือเสียใจ” คนโดนทักได้แต่กลืนน้ำลายหนืดลงคอ นี่พี่เขาจะเป็นคนจริงไปถึงไหนเนี่ย ถามอะไรไม่มีอ้อมสักประโยค

     

    “พี่อยากได้ยินคำตอบไหนละครับ”

     

    “เก็บไว้ตอบหลังฉันจีบนายติดก็แล้วกัน”

     

    “พี่พูดว่าอะไรนะครับ” จินยองถึงกับต้องเอียงหูฟัง ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายพูด เขาแค่ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรผิด

     

    “นายมีแฟนหรือยัง”

     

    “ยะ ยังครับ”

     

    “แล้วมีคนที่ชอบแล้วยัง”

     

    “อันนั้น... ก็น่าจะยังครับ”

     

    “ดี งั้นเตรียมรับมือไว้เลย”

     

    “ทำไมครับ”

     

    “เพราะฉันจะจีบนายตั้งแต่วันนี้ จนกว่านายจะยอมรับว่านายก็ชอบฉันเหมือนกัน”


     

    _______________


    ไม่มีใครคนจริงเท่าพิยงกุกอีกแล้วค่ะ

    ขอเตือนไว้ก่อน
    เรื่องนี้ไม่มีกลิ่นไอของความดราม่าแน่นอน 5555555555
    hashtag : #มบฟช

    (c)  Chess theme

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×