คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ลูกอม / os [special ; Yongguk & Jihoon]
_________________
เครื่องปรับอากาศภายในหอพักไม่ได้ช่วยให้ร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของเด็กตัวสูงลดความหงุดหงิดจากความร้อนหลังจากซ้อมเพลงรอบคอนเซ็ปท์เสร็จเลยสักนิด มันยิ่งทำให้เขาหัวเสียมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำแต่ก็ปริปากโวยวายอะไรออกมาไม่ได้
ประตูบานสีน้ำตาลขยับเปิดออกช้าๆเหมือนกลัวว่าคนข้างในจะสะดุ้งตื่น หัวยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงค่อยๆชะโงกหัวเข้าไปดูเช็คความสงบนิ่งภายในห้องก่อนจะเผลอร้องเสียงดังออกมาเมื่อใบหน้าสัมผัสกับความร้อนภายในห้องนอน
“หื้อ..” มือหนายกขึ้นแตะปากของตัวเองแทบจะทันทีเมื่อเด็กผู้ชายอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงยกหัวขึ้นจากหมอนพลางหรี่ตามองเจ้าของเสียงเมื่อกี้ด้วยสีหน้างัวเงียขั้นสุด “พี่ยงกุกเหรอครับ”
“อ่า.. ฉันเอง โทษทีที่ทำนายตื่น” ยงกุกเห็นแบบนั้นก็ดันตัวเองเข้ามาในห้องอย่างทุลักทุเลเพราะรู้สึกแย่ที่ทำให้ปาร์คจีฮุนตื่นขึ้นมากลางดึก เขาสองคนแทบจะไม่คุยกันเลยตั้งแต่มาเป็นรูมเมทกัน ทั้งๆที่จีฮุนเป็นเด็กสดใสเข้ากับคนง่ายในสายตาของทุกคนแต่กลับไม่ใช่กับคิมยงกุก ทำไมเขาถึงรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่กับเด็กฉายาวิ้งค์บอยคนนี้ด้วยแล้วทำไมต้องเป็นเขาที่ต้องมาเป็นรูมเมทกับปาร์คจีฮุน
“ไม่เป็นไรครับ” ความเงียบถาโถมเข้าใส่คนทั้งสองอีกครั้ง จีฮุนที่ลุกขึ้นมานั่งกำลังขยี้ตาตัวเองเพื่อปรับแสงส่วนยงกุกได้แต่ยืนทำตาลอกแลกอยู่ตรงประตูเพราะไม่รู้จะทำอะไรต่อก่อนจะตัดสินใจเดินไปหยิบถุงขนมเยลลี่หมีที่วางอยู่ข้างหัวเตียงแล้วเดินออกไปนอกห้องปล่อยให้จีฮุนนั่งมองด้วยสีหน้างงๆ
และนั่นคือประโยคทั้งหมดที่เขาสองคนจับเข่าคุยกัน นอกจากซ้อมหนักจนเพลียแล้วก็ต้องมานั่งอึดอัดใจปรับทุกข์กับเยลลี่หมีอยู่ที่ขั้นบันไดหน้าห้องทั้งๆที่อยากจะนอนจะแย่ หิวก็หิว อันที่จริงอยากนอนกินบนเตียงให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็เกรงใจคนในห้อง โว้ยยย ถ้าอยู่ห้องเดียวกับพี่เคนตะก็ดีดิ
“ทำไมพี่ไม่เข้าไปนั่งกินในห้องละครับ” ยงกุกที่กำลังแกะถุงเยลลี่ด้วยท่าทางหมดแรงสะดุ้งสุดตัวพอได้ยินเสียงปริศนา เขาหันมองด้านหลังก็เห็นว่าจีฮุนกำลังเดินตรงมาหาเขา
“ข้างนอกมันเย็นกว่าข้างใน”
“ผมคิดว่าพี่เกรงใจผมซะอีก” ยงกุกยิ้มแห้งๆหลังจากได้ยินจีฮุนพูด เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักรู้ดีว่าอีกฝ่ายอึดอัดเขาแค่ไหนขนาดเขาเองยังทำตัวไม่ถูก ยิ่งยงกุกยังมีอาการแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่ อยากจะคุยด้วยก็ไม่ค่อยจะทำตัวว่างให้คุยด้วยเลยสักครั้ง คนอะไรจะยุ่งตลอดเวลา.. “ผมนั่งด้วยได้ไหม”
“ไม่ง่วงแล้วเหรอ” ดูเหมือนยงกุกจะตกใจกับคำขอของจีฮุนจนเผลอถามออกไปด้วยสีหน้าตื่นๆแต่ก็ขยับตัวเปิดพื้นที่ให้อีกคนลงมานั่ง จีฮุนพยักหน้าพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
“พี่ทำผมตื่นอ่ะ”
“แล้ว.. นอนต่อไม่ได้แล้วเหรอ”
“อื้อ” คำตอบของจีฮุนทำให้คนฟังรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ คิมยงกุกนั่งกำถุงเยลลี่หมีแน่น เขาอยากจะลุกไปจากตรงนี้แต่ก็จะดูเสียมารยาทมากๆเพราะปาร์คจีฮุนกำลังนั่งมองหน้าเขาอยู่แถมยังอมยิ้มอะไรก็ไม่รู้ ยิ่งเห็นยิ่งอึดอัด
“ฉะ ฉันขอโทษ..”
“ผมหลอกเล่น”
“…” จีฮุนนึกขำกับใบหน้าฝืนยิ้มของอีกฝ่าย ไม่คิดว่าคนพี่จะเป็นคนเข้าถึงยากขนาดนี้ จริงๆเขาก็เป็นคนเข้ากับคนง่ายพอๆกับแดฮวีเลยนะ
“ผมขอกินขนมด้วยได้เปล่า”
“หะ นี่อ่อ” ยงกุกพูดพลางชูถุงขนมเยลลี่ขึ้น
“อื้อ”
“เอาดิ” จีฮุนยิ้มกว้างก่อนจะเอื้อมมือหยิบขนมที่ยงกุกยื่นให้ รอยยิ้มสดใสที่ตอบรับเขาเมื่อกี้มันทำให้ยงกุกรู้สึกยุบยิบไปทั่วตัว รู้สึกแปลกๆแต่ก็รู้สึกดีในเวลาเดียวกัน เขาดึงสติกลับมาได้พอได้ยินเสียงจีฮุนพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ผมไม่ชอบสีเหลืองเลย” เด็กรุ่นน้องพูดขึ้นพลางทำหน้างอไม่พอใจขณะที่กำลังก้มมองหาเยลลี่สีอื่นในถุง “ผมจะเอาสีเขียว พี่กินอันนี้ที” สิ้นคำพูดจีฮุนก็ยื่นเยลลี่หมีตัวสีเหลืองให้ยงกุกแต่ไม่รู้ด้วยความตกใจหรือผีผลักมันเลยทำให้เขาก้มตัวลงมากินเยลลี่ในมือของอีกคนแทนที่เขาจะหยิบมันมากินด้วยตัวเอง ริมฝีปากเผลอสัมผัสกับปลายนิ้วของอีกฝ่ายจนทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตระหว่างเขาทั้งสอง ความเงียบเข้าครอบงำทั่วทุกทิศ คนที่ดึงสติกลับมาได้ก่อนคือจีฮุน เขารีบทำเป็นก้มมองหาเยลลี่ในถุงส่วนยงกุกเห็นแบบนั้นก็รีบเคี้ยวเยลลี่ที่อยู่ในปาก มันก็จะเขินๆนิดหน่อยตอนจีฮุนพยายามหาเยลลี่ในมือเขาเพราะมือของจีฮุนก็โดนมือของยงกุกเป็นระยะๆ
“ฉันว่าฉันไปอาบน้ำก่อนดีกว่า”
“จะไปแล้วเหรอครับ” จีฮุนคว้าถุงขนมที่ยงกุกยื่นให้มาถือเองแทบไม่ทัน อีกฝ่ายรีบลุกขึ้นยืนพลางยิ้มแห้งๆขณะที่ไม่รู้ว่าควรจะวางตาไว้ที่ไหนเพราะไม่กล้ามองหน้าจีฮุน คนตัวเล็กเห็นแบบนั้นก็รีบดันตัวเองลุกขึ้นบ้าง
“เดี๋ยวฉันรีบมานายจะได้นอนสักที”
“…”
“ไม่ดิ ไม่ได้หมายความว่านายจะรอฉันนะ..”
“ครับ”
“หรือว่านายจะรอก็ได้.. แต่จะรอทำไม ช่างมัน ฉันไปอาบน้ำละ” ยงกุกพูดอะไรวนไปวนมาบวกกับท่าทางเก้ๆกังๆยิ่งทำให้คนเห็นกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่แต่อีกคนคงไม่ทันสังเกตเพราะรีบออกตัวเดินไปก่อน ปาร์คจีฮุนได้แต่ยืนขำกับบุคลิกทื้อๆของรุ่นพี่ฝึกหัดก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน นั่งรอจนกว่ายงกุกจะกลับเข้ามาในห้อง..
ไม่นานคิมยงกุกก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมผมที่ยังเปียกอยู่ เขาเกือบยกมือขึ้นสะบัดผมไล่น้ำแต่บังเอิญสายตาเหลือบไปเห็นว่าจีฮุนยังคงนั่งอยู่บนเตียงเลยชะงักการกระทำเหล่านั้น ทั้งสองสบตากันเกือบสิบวิแต่คนที่หลบสายตาก็คือคิมยงกุก
“ทำไมยังไม่นอน”
“ก็พี่บอกให้ผมรอ”
“ฉันพูดเหรอ..”
“อื้อ พี่พูดว่า ‘หรือว่านายจะรอก็ได้’ แบบนี้” ยงกุกเงียบไปพักนึงหลังจากอีกฝ่ายรีเพลย์ประโยคให้ฟัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดว่าเด็กตรงหน้าจะมานั่งรอเขาจริงๆ
“งั้น.. ฉันมาแล้วนายจะนอนเลยก็ได้”
“พี่จะนอนทั้งที่ผมยังเปียกอยู่อะเหรอ” จีฮุนดูไม่สนใจที่ยงกุกพูดหรือว่าเขาจะเรียงประโยคภาษาเกาหลีผิดเลยทำให้จีฮุนไม่เข้าใจ
“ฉันหมายถึงให้นายนอนก่อน”
“พี่กำลังทำให้ผมอึดอัดนะ”
“…”
“ผมอุตส่าห์นั่งรอแต่ก็ไล่ให้ผมไปนอน” คนโดนกล่าวหาถึงกับยืนจับขอบเตียงแน่น นี่เขาผิดอะไรที่อยากให้อีกคนนอน ส่วนเรื่องอึดอัดนี่เขาตั้งหากที่ต้องเป็นคนพูด ผมอึดอัดจนอกจะแตกตายอยู่แล้ว ผมไม่ชอบสายตาของเด็กนี่ที่เอาแต่มองผมเลย ชอบทำตัวเหมือนอยากจะเข้ามาคุยไอ้เราก็ต้องแกล้งทำเป็นหาอะไรทำ นี่จะขึ้นไปขัดเพดานอยู่แล้ว ทำทุกอย่างหมดแล้วเนี่ย..
“ก็...”
“พี่ไม่ชอบผมเหรอ”
“ไม่ใช่ดิ...”
“แล้วไมไม่คุยกับผม” คิมยงกุกยืนเงียบเข้าไปใหญ่ ความรู้สึกเหมือนโดนแม่ถามทำไมแอบกินขนมในตู้เย็น..
“นี่ไง กะ ก็คุยอยู่” อยากจะยกมือตบปากตัวเอง ทำไมจะต้องเกร็งอะไรถึงเพียงนี้
“คราวหลังถ้าผมทักพี่พี่ต้องขานรับด้วยนะ”
“แล้วนายจะทักฉันทำไม”
“เอ้า ก็เรารูมเมทกัน เราต้องทำตัวให้คุ้นกันสิ”
“…”
“พี่ไม่อึดอัดบ้างเหรอที่ไม่ได้พูด”
“ก็นิดหน่อย แต่ฉันไม่ค่อยคุยกับใครก่อนอยู่แล้ว”
“งั้นผมจะคุยกับพี่ก่อนเอง”
“…”
“ผมจะนอนแล้วนะ ไว้เริ่มกันใหม่พรุ่งนี้” ยงกุกได้แต่นั่งมองเด็กใบหน้าหวานที่พยายามจัดผ้าห่มให้แน่ใจว่าคุมตัวเองแต่ก็ต้องหลบตาเพราะอยู่ๆอีกฝ่ายก็หันมามองหน้าเขา “ส่วนพี่อย่าเพิ่งนอน รอให้ผมแห้งก่อนนะครับ”
“อ่อ.. ได้ดิ เดี๋ยวนอนเลย เอ้ย หมายถึงเดี๋ยวนอนรอตอนผมแห้ง..”
“…”
“คือ.. รอนอนตอนผมแห้งอ่ะ” คิมยงกุกสูดลมหายใจเข้าพลางลูบหน้าตัวเองเมื่อรู้สึกคุมสติไม่อยู่ อยากจะหยิกปากตัวเองที่พูดจาไม่รู้เรื่องแถมสายตากดดันของจีฮุนก็ทำร้ายเขา เด็กบ้าอะไรยิ้มอยู่ได้
“ครับ ฝันดีนะพี่ยงกุก” พูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนปล่อยให้ยงกุกนั่งทบทวนชีวิตอยู่ที่เตียงฝั่งตรงข้าม เขาเกือบเผลอจะทิ้งตัวลงนอนแต่ก็ต้องยั้งตัวเองไว้เมื่อนึกถึงคำพูดของเด็กที่นอนอยู่ตรงหน้า
เออ.. กูต้องหาพัดลมมาเป่าหัวแล้วละ
____________
เช้าวันต่อมาก็ยังคงเป็นช่วงเวลาที่สาหัสสำหรับคิมยงกุก เมื่อคืนก็นอนเกือบตีสองแถมยังต้องตื่นตีห้าเพื่อมาซ้อมอีก ล่าสุดโดนเปลี่ยนให้มาเป็นเซนเตอร์ก็ต้องจำทุกอย่างใหม่หมด โอ้ยย อยากจะวิ่งกลับบ้านไปทำตัวเหมือนเด็กวัยรุ่นธรรมดาให้รู้แล้วรู้รอด จะนอนดึกตื่นสายเท่าไหร่ก็ได้มันจะต้องรู้สึกดีมากแน่ๆเลย
“เดี๋ยวพักก่อนแล้วกันแล้วค่อยมาว่ากันใหม่” สิ้นคำพูดของคังดงโฮทุกคนก็ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างพร้อมเพรียง คังแดเนียลที่อยู่ใกล้ข้าวของมากที่สุดหยิบขวดน้ำส่งให้ยงกุกก่อนจะยื่นให้คนอื่นๆต่อกันไปตามประสาคนเทคแคร์ เขารับมันมาแล้วรีบเปิดดื่ม ดื่มไปได้นิดเดียวก็ต้องสะดุ้งจนน้ำกระเฉาะออกมานอกปากไหลเป็นทางตั้งแต่คอไปจนถึงเสื้อของเขา ยงกุกรีบยกแขนขึ้นซับน้ำรอบๆปากตัวเองขณะที่สายตาก็ยังเหลือบมองรูมเมทของตัวเองที่อยู่ๆก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้องซ้อมของทีมยอรอจยอ
“คิดถึงผมเหรอพี่จีฮุน!” เสียงร่าเริงของซอนโฮดังขึ้นแทบจะทันที่จีฮุนโผล่เข้ามาในห้อง แต่คนที่เขาสบตาเป็นคนแรกจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่คิมยงกุก
“ฉันแวะมาดูว่าซ้อมถึงไหนกันแล้ว”
“เอาขนมมาด้วยอ๋อ เอามากินหน่อยดิ” คังแดเนียลแกล้งแซวพลางเอื้อมมือหยิบถุงขนมที่อยู่ในมือของจีฮุนโดยที่จีฮุนก็ไม่ได้รั้งอะไรไว้
“ที่ห้องซ้อมผมมีเยอะเลยก็เลยเอามาแบ่ง ส่วนอันนี้ของพี่ยงกุก” เจ้าของชื่อเหล่มองคนรอบข้างก่อนจะเอื้อมมือหยิบขนมที่อยู่ในมือของจีฮุน เขาก้มมองดูก็เห็นว่าเป็นลูกอมคาราเมลสามเม็ด
“แล้วของผมอะ ผมก็อยากกินลูกอมเหมือนกันนะ”
“หมด ขอพี่ยงกุกเองแล้วกัน”
“นายก็กินขนมนั่นไปดิ” ยงกุกตอบกลับหลังจากจีฮุนพูดกับซอนโฮ เขาเก็บลูกอมใส่กระเป๋ากางเกงพลางยืนเกาหัวเหมือนคนไม่มีอะไรทำ จริงๆเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องรู้สึกหวงลูกอมสามเม็ดนี้เหลือเกิน อยู่ๆก็อยากเก็บไว้กินคนเดียว
“อย่าให้ผมต้องบุกห้องพี่สองคนนะ” ซอนโฮดูเซ็งมากที่ยงกุกไม่ยอมแบ่งลูกอมให้เขากินแต่ก็หันไปสนใจขนมชิ้นอื่นแทน แล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ความเงียบที่ยงกุกสร้างขึ้นมามันกำลังทำให้จีฮุนรู้สึกอึดอัดอีกครั้ง
“แล้วนายกินไรยัง/ซ้อมเหนื่อยเปล่า” ทั้งยงกุกและจีฮุนยืนนิ่งไปครู่หนึ่งหลังจากตั้งคำถามขึ้นพร้อมกัน
“ไม่อ่ะ/กินแล้วครับ” เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองคนพูดพร้อมกันแต่คราวนี้จีฮุนกลับหลุดขำออกมาจนยงกุกต้องเผลอยิ้มกับความบังเอิญ
“ผมต้องยกมือก่อนตอบเปล่า” จีฮุนพูดติดตลกพลางยกมือขึ้นแหย่อีกคนเล่น ยงกุกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับท่าทางขี้เล่นของอีกฝ่ายก่อนจะโดนเบลกด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ของเคนตะที่นั่งมองเขาสองคนอยู่ ปากบางค่อยๆหุบยิ้มลงช้าๆเมื่อรู้สึกหวิวๆกับสายตาของเพื่อนร่วมทีม
“นายไม่รีบกลับไปซ้อมเหรอ”
“เออใช่ งั้นเดี๋ยวผมแวะมาหาใหม่นะ”
“เอ้า จะไปแล้วเหรอ”
“เดี๋ยวโดนดุอ่ะ ผมไปก่อนนะพี่ดงโฮ” จีฮุนหันไปตอบดงโฮแล้วรีบวิ่งออกไปจากห้อง ยงกุกถอนหายใจออกยาวๆเมื่อสถานการณ์น่าอึดอัดเมื่อกี้มันผ่อนคลายลงแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรมากดที่ไหล่ด้านซ้าย
“เอ่! ไหนบอกไม่สนิทกันไง”
“ก็.. คุยทั่วไปเหมือนพี่กับผมไง” ยงกุกหันไปตอบเคนตะที่เดินเอามือมาวางบนไหล่เขาด้วยสีหน้าจับผิด
“แต่ฉันไม่ได้มองนายแบบนั้นสักหน่อย”
“มองแบบไหน”
“นายนี่มันคิมยงกุกจริงๆ”
“อะไรของพี่อ่ะ เดี๋ยวดิ.. พี่! ไปไหน” ยงกุกรีบเดินตามเคนตะไปติดๆเพื่อเฟ้นหาคำตอบ จนเกือบครึ่งวันเขาก็ยังไม่ได้คำตอบจากเด็กญี่ปุ่นคนสนิทของเขาแถมจีฮุนก็ยังแวบเข้ามาในห้องซ้อมของทีมยอรอจวออยู่เรื่อยๆจนซอนโฮหยุดคิดไปเองว่าจีฮุนมาหาตัวเองเพราะทุกครั้งที่เข้ามาก็จะต้องเดินไปหายงกุก สองคนนั้นสนิทกันแล้วมั้งต่อให้พี่ยงกุกก็ยังดูไม่ค่อยพูดอยู่ดี พี่จีฮุนเดินเข้ามาพร้อมหมอนรองคอสีชมพูแถมยังเอาฮู้ดขึ้นมาคลุมหัวขนาดนั้นพี่ยงกุกอดทนไม่หมั่นเขี้ยวได้ไง ผมนี่แทบอยากจะเดินไปยีแก้มสักที.. อย่าให้ซอโนต้องบุกห้องพี่จีฮุนนะ!!
_______________
เวลาผ่านไปค่อนข้างไว ยิ่งพวกเขาใช้เวลาไปกับการซ้อมยิ่งแล้วใหญ่จนมาถึงวันขึ้นแสดงจริง เด็กฝึกทุกคนเตรียมตัวกันอยู่ภายในห้องขณะที่ทีมงานก็วุ่นอยู่กับการเตรียมนู่นนี่นั่น แต่ก็จะมีเด็กฝึกอยู่คนนึงที่ไม่ยอมอยู่กับทีมตัวเอง ปาร์คจีฮุนเดินตรงดิ่งเข้าไปหาคิมยงกุกที่ยืนติดไมค์ลอยอยู่กับทีมงาน ยงกุกพยายามจะจับสายไมค์ให้คล้องกับหูของตัวเองแต่ก็ต้องหันขวับมองด้านข้างเมื่ออยู่ๆก็มีคนมาจับสายไมค์ให้เขา
“ปาร์คจีฮุน”
“นี่ยังไม่เลิกเรียกนามสกุลผมอีกเหรอ” จีฮุนทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ได้ยินอีกฝ่ายยังคงเรียกชื่อเขาด้วยชื่อเต็มขนาดนี้
“จีฮุน…”
“ไม่ทันแล้วครับ” เจ้าของชื่อยังคงทำหน้างอแต่ก็ยังคงพยายามจัดไมค์ให้อีกคนอย่างตั้งใจ นิ้วเล็กๆแตะๆลงที่แก้มตรงมุมปากของยงกุกเพื่อให้สติ๊กเกอร์ที่แปะกับก้านไมค์ติดแน่นกับแก้มของเขา เล่นเอาเจ้าตัวแอบใจหวิวเล็กน้อย ไม่รู้ว่ายังคงอึดอัดกันอยู่หรือเพราะไม่เคยโดนอีกฝ่ายโดนตัวขนาดนี้ ยิ่งใบหน้าหวานกำลังขมวดคิ้วทำปากยื่นปากยาวเพราะตั้งใจมากเกินไปยิ่งดูน่ารัก “เรียบร้อยละ อย่าไปจับมันนะ”
“อื้อ”
“จีฮุนนน! มาอยู่นี่เอง” เจ้าของชื่อหันไปมองด้านหลังก็เห็นแดฮวีกำลังวิ่งเข้ามาหาเขาแต่มือก็ยังจับแขนเสื้อของยงกุกเอาไว้กลัวว่าอีกคนจะเดินหนี
“อัยตัวเล็ก! เสียงดังจังอะ”
“ก็คิดถึงงง เอ้า พี่ยงกุก!”
“ไง..”
อั่ก!
ยังไม่ทันจะยกมือขึ้นทักทายแดฮวีก็กระโจนเข้าใส่จนกระดูกคอลั่น ตัวเล็กเสียเปล่า.. แดฮวีกอดยงกุกแน่นจนหน้าแนบกับอก หัวทุยๆก็ชันคางเขาเอาไว้จนต้องเงยหน้าหนี
“กินข้าวบ้างนะพี่ ตัวผอมไม่น่ากอดเลย”
“แต่ก็กอดอยู่ไหมละ” คนที่พูดกลับไม่ใช่เจ้าตัวแต่เป็นเด็กหน้าหวานที่ยืนมองอยู่ข้างๆ มือเล็กยังคงกำแขนเสื้อของยงกุกแน่น แดฮวีได้ยินแบบนั้นก็ทำปากยื่นใส่จีฮุน จริงๆแดฮวีทำอะไรก็น่ารักน่าเอ็นดูไปหมดแล้วก็รู้ว่าเข้ากับคนง่ายแต่ไม่คิดว่าจะกล้ามากอดคนอย่างคิมยงกุกแล้วที่สำคัญคนโดนกอดก็ไม่ได้มีท่าทางอึดอัดหรืออะไรแล้วทำไมทีกับเขา…
“ก็พี่ยงกุกไม่ค่อยยอมให้กอดอ่ะ ต้องรีบทำทีเผลอ”
“แล้วจะมากอดไม” ยงกุกพูดยิ้มๆพลางยืนเกาคางตัวเองเมื่อรู้สึกคันจากการที่ผมของอีกคนมาคลอเคลียเมื่อกี้ เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
“ยิ่งพี่ไม่ชอบผมก็ยิ่งอยากทำ ไม่เชื่อจี้ลองกอดพี่ยงกุกสิ” อยู่ๆแดฮวีก็ลากอีกคนเข้ามาเอี่ยวด้วยพอสิ้นคำพูดของเด็กตัวเล็กคิมยงกุกถึงกับหน้าเปลี่ยนสี
“เล่นอะไรกันเนี่ย”
“ไว้ฉันจะลองทำตอนพี่ยงกุกเผลอ” ยงกุกลืมวิธีการพูดทันทีพอจีฮุนพูดต่อประโยคของเขา ถ้าพูดขนาดนี้ผมต้องคอยตั้งรับตลอดเวลาเลยไหมเนี่ย ถ้าจีฮุนกอดผมผมต้องสิ้นใจตายแน่ มันให้ความรู้สึกไม่เหมือนแดฮวีกอด ทำไมกันนน!
หลังจากจบการแสดงบางส่วนก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน บางส่วนก็ยังยืนให้สัมภาษณ์กับกล้องของรายการกันด้วยสีหน้าสดใสร่าเริง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกที่ได้แอร์ไทม์เยอะๆเสียมากกว่า
“ตู้เสื้อผ้าผมมีแต่สีสันอ่ะ”
“ตู้พี่ยงกุกมีแต่สีขาวดำ”
“ใช่ครับ”
“สองคนนี้เขารูมเมทกันหนิ” จีซองพูดขึ้นขณะที่แดฮวีกับจีฮุนกำลังโม้เรื่องตู้เสื้อผ้าโดยแดฮวีได้ดึงบุคคลที่สามอย่างยงกุกเข้ามาเอี่ยวด้วย มันเป็นขณะเดียวกันที่เจ้าของชื่อเดินผ่านด้านหลังเลยหนีไม่พ้นเงื้อมมือของจีซองที่คว้าตัวเขาเข้ามา “นี่ไง! ยงกุก”
“ครับ” ยงกุกดูสับสนหลังจากโดนลากเข้ามาร่วมวง
“พวกคุณดูสนิทกันนะครับ”
“ใช่ครับ พี่ยงกุกเขารูมเมทผมหนิ” เป็นจีฮุนที่พูดตอบคำถามทีมงานพลางรวบตัวคิมยงกุกมากอดเล่นเอาเจ้าตัวถึงกับยืนแข็งทื่อแต่ก็ไม่ลืมจะยิ้มแหยๆให้กล้อง
“พวกคุณไม่อึดอัดกันแล้วเหรอ” ทั้งสองหันมองหน้ากันเป็นจีฮุนที่หันไปมองกล้องแล้วส่ายหัว
“ไม่หนิครับ”
“หลังจากนี้เราจะกอดกันบ่อยขึ้น” จีซองหันไปพูดขำๆกับกล้องก่อนจะกอดยงกุกอีกคนตามมาด้วยแดฮวีที่พยายามกอดทั้งสามคนด้วยขนาดตัวเล็กๆของตัวเอง
“ผมด้วยยยย” มันคงเป็นภาพที่ตลกหากว่าภาพนี้ได้ออกอากาศเพราะสีหน้ายงกุกกล้ำกลืนมากเมื่อโดนทั้งสามคนถาโถมกอดเขา จีฮุนโดนแดฮวีกอดจากด้านหลังจนหน้าแนบลงกับอกกว้างๆของยงกุก ทั้งแรงกอดของจีซองและแดฮวีทำให้ร่างกายของเขาสองคนแนบชิดกันเข้าไปใหญ่แล้วดูท่าทางคราวนี้คนที่หน้าขึ้นสีมากที่สุดคงจะเป็นปาร์คจีฮุนถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนเริ่มเรื่องนี้เองก็ตาม ผมก็แค่อยากกอดแปบๆไม่ใช่โดนเบียดแนบแน่นขนาดนี้หนิ!
____________
สิ้นสุดวันวัดผลรอบคอนเซ็ปท์ทุกคนก็รู้สึกโล่งใจที่ได้แสดงในส่วนของโชว์วันนั้นไปได้ด้วยดีแต่ก็ใช่ว่าจะสบายใจไปเสียทุกอย่างเพราะการย้ายห้องก็เป็นส่วนหนึ่งของการจัดอันดับด้วยเช่นกัน คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่อึดอัดไลน์อย่างจีฮุนและยงกุกจะได้นอนห้องเดียวกัน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันก็รู้สึกใจหายเหมือนยังมีเรื่องมากมายที่อยากแชร์กันแต่ก็ยังไม่มีโอกาส
“นี่พี่ยังไม่กินลูกอมอีกเหรอ” จีฮุนที่นั่งกินขนมอยู่บนเตียงของยงกุกพูดขึ้นมาเมื่อเหลือบไปเห็นลูกอมสามเม็ดวางอยู่ข้างหัวเตียง ยงกุกที่เดินไปจัดของที่ตู้เสื้อผ้าตัวเองหันมองก่อนจะพยักหน้า “ทำไมไม่กิน ไม่ชอบเหรอ”
“เปล่า แค่รู้สึกว่าอยากเก็บไว้เฉยๆ” คำพูดของยงกุกบวกกับสีหน้าเรียบเฉยของเจ้าตัวมันเลยทำให้จีฮุนสับสนกับความรู้สึกนิดหน่อยว่าควรจะดีใจหรือเสียใจเพราะมันมองได้สองแง่สองง่ามสุดๆ อยากเก็บไว้เพราะอยากให้มันเป็นที่ระลึกหรืออยากเก็บไว้เพราะไม่อยากกินแต่ไม่รู้จะตอบยังไงให้คนฟังรู้สึกดี…
“งั้นคราวหลังผมจะไม่ให้ของกินพี่แล้วนะ”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็พี่เอาไปก็ไม่กิน เสียความรู้สึก” ยงกุกยืนเงียบไปแปบนึงแต่อยู่ๆก็เดินไปหาจีฮุน คนที่นั่งอยู่บนเตียงได้แต่เงยหน้ามองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยสีหน้างงๆก่อนจะหายสงสัยพอเห็นว่ายงกุกก้มตัวลงมาหยิบลูกอมไปกิน
“งั้นฉันกินเม็ดนึงอีกสองเม็ดเก็บไว้ได้เปล่า”
“พี่จะเก็บมันไว้จริงๆเหรอ”
“ไม่รู้ อยากกินตอนไหนก็คงแกะกินแหละ”
“…”
“ไว้กินตอนไม่เจอนายแล้ว เผื่อจะนึกถึง” เขาพูดจบก็เดินไปรื้อของในตู้เสื้อผ้าของตัวเองต่อ สิ่งที่ยงกุกพูดมันทำให้จีฮุนรู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะลุกไปฟาดหัวสักทีแต่ก็ทำไม่ได้ พูดมาได้ไงหน้าตาเย็นชาขนาดนั้น..
ตึก!
จีฮุนถึงกับสะดุ้งเมื่ออยู่ๆยงกุกก็ปิดประตูกระแทกหัวตัวเอง เขายืนกุมหัวตัวเองด้วยสีหน้าเจ็บปวดในขณะที่จีฮุนก็นั่งหัวเราะชอบใจไปด้วย ที่บอกว่าเย็นชาเมื่อกี้ขอเปลี่ยนเป็นคำพูดแล้วกัน คนอะไรจะมีสองบุคลิกขนาดนี้
“พี่ปิดประตูใส่หัวตัวเองทำไม” จีฮุนยังคงพูดจาหยอกล้ออีกคน ยงกุกไม่มีแม้แต่เถียงเพราะเขายังคงดื่มด่ำกับความเจ็บปวดที่ยังคงทำร้ายเขาอยู่ “ไหน ผมขอดูหน่อย”
“ฉันโอเคๆ”
“ผมขอดูนิดนึงเผื่อเลือดไหล” จีฮุนไม่ฟังที่ยงกุกพูดเขากลับรีบลุกไปหายงกุกพลางพยายามจับมือของอีกคนออก “เร็ว ผมขอดูนิดนึง”
“ไม่มี...”
“พี่... !” มือเล็กยันหน้าอกของอีกฝ่ายเอาไว้หลังจากที่เขาพยายามจะเขย่งดูหัวของยงกุกแต่คนเจ็บกลับไม่อยู่เฉยจนเผลอสะดุดกับกองกระเป๋าของตัวเองทำให้ถลาเข้าใส่จีฮุน แผ่นหลังบางแนบกับตู้เสื้อผ้า มือหนาค้ำยันตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้ปากไปสัมผัสกับหน้าผากของเด็กตรงหน้า ทั้งสองคนกลั้นหายใจไม่มีใครกล้าขยับตัวเลยสักนิด ถึงแม้ว่าข้อเท้าของยงกุกจะเจ็บจี๊ดมากแค่ไหนเขาก็ไม่กล้าส่งเสียงออกมา ถ้าเขาค้ำตัวเองไม่ทันหรือไม่ถ้าจีฮุนไม่ดันหน้าอกเขาอยู่ นอกจากทั้งคู่จะยังไม่สนิทกันแล้วเขาสองคนอาจจะมองหน้ากันไม่ติดเลยก็ว่าได้...
“โทษๆ ฉันขอโทษ” ยงกุกรีบยันตัวเองออกมาจากตรงนั้นก่อนจะเซไปนั่งลงที่เตียงของจีฮุน เขารีบก้มลงจับข้อเท้าของตัวเอง ทั้งหัวทั้งข้อเท้าถ้ากะเอาฮาอีกทีนี่จะลุกขึ้นเอาหัวโหม่งเตียงแล้วนะ
“เจ็บเปล่า...”
“นายยืนอยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ต้องเข้ามา”
“แต่...”
“ฉันบอกให้ยืนตรงนั้น” ยงกุกชี้ตำแหน่งให้จีฮุนยืนอยู่กับที่ มืออีกข้างก็นวดข้อเท้าของตัวเองไปมา ขืนถ้าอีกคนเดินตรงมาหาเขาอาจจะมีเรื่องให้เจ็บตัวอีกแน่ แค่นี้เขาก็ทำตัวไม่ถูกจะแย่อยู่แล้ว หน้าเริ่มแดงตัวก็รู้สึกชาไปหมด ไม่รู้ว่าอาการเจ็บมันรุมเร้าหรือภาพใบหน้าน่ารักของอีกคนที่ดูตื่นตกใจตอนที่เงยหน้ามามองเขาเมื่อกี้กำลังเล่นงานเขาอยู่
“พี่ยงกุกครับ”
“ไม่ต้องมาเรียก จีฮุน นายไม่ต้องเดินมาเลยนะ”
“แต่นั่นเตียงผม”
“ฉันจะนอนตรงนี้ นายนอนเตียงฉันไปเลย แค่อย่าเดินมาก็พอ” ยงกุกหลับหูหลับตาปฏิเสธปาร์คจีฮุนทุกอย่าง เขาไม่เอาแล้วไม่อยากมองหน้าไม่อยากสบตาเด็กนั่นอีกแล้ว ตอนนี้เขาอยากจะมุดตัวเข้าผ้าห่มอุ่นๆหนีให้พ้นจากภัยอันตรายรอบตัว เขาหยิบผ้าห่มของจีฮุนขึ้นมาคลุมตัวเองอย่างถือวิสาสะ จีฮุนเห็นแบบนั้นก็อดขำไม่ได้ อันที่จริงเขาค่อนข้างมีความสุขยังไงบอกไม่ถูก เพราะเมื่อกี้ถ้าเขาฟังไม่ผิด คิมยงกุกเรียกเขาว่า ‘จีฮุน’ เฉยๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่พี่ยงกุกเรียกผมว่า จีฮุน...
“พี่จะให้ผมนอนเตียงพี่จริงๆเหรอ”
“บอกว่าอย่าคุยกับฉัน นอนได้แล้ว จีฮุน” เสียงยงกุกดังรอดผ่านผ้าห่มผืนสีขาวออกมา ให้ตายยังไงเขาก็ไม่เปิดผ้าห่มออกมาแน่นอน ยงกุกไม่มีทางให้จีฮุนได้เห็นหน้าเขาตอนนี้แน่ ไม่รู้ว่ามันจะแดงขนาดไหน... อยู่ๆก็รู้สึกเขินเด็กนั่นขึ้นมา เขินจนคุมท่าทางของตัวเองไม่อยู่
“พี่เรียกผมว่าอะไรนะ”
“จีฮุน.. ถ้าไม่นอนฉันจะจัดการนายแล้วนะ”
“ลุกมาสิ”
“จีฮุน...”
“จ๋าาาา พี่ยงกุก”
“พอได้แล้ว ปาร์คจีฮุนนนน!”
________________
โอ้ยยยย ขำๆ อยากลองแต่งคู่อื่นดู แต่งแบบงงแต่งแบบสนองตัวเองล้วนๆ
แต่งเอาฮาเลยไม่มีฉากหวานแหววมากมายเพราะคู่นี้มัน #อึดอัด อ่ะ! 555555
ว่าจะแต่งคู่นี้สักพักละ พอเมื่อไม่นานมานี้ได้ยินยงกุกบอกเคยเป็นรูมเมทจีฮุนก็เลยจัดสักหน่อย
ยังไม่กล้าแต่งจีบกันเพราะว่าเราสงวนคิมยงกุกให้แพจินยอง คิ้คิ้
แต่ถ้ามีใครสนใจเราก็จะแต่งให้นะ
ยองยง บินกุก กุกฮุน
ห้อยยย รีเควสมาเลยจ้า 5555555
ขอดูความเป็นไปได้ของคู่นี้ก่อนว่าฐานหนาแค่ไหน
#รูมหลงกั๋ว (all yongguk)
แต่หลักๆห้ามทิ้ง #กุกนยอง เรือยอร์ชของเราเด็ดขาด!
ความคิดเห็น