ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [PRODUCE101] MA BAE - YONGGUK & JINYOUNG

    ลำดับตอนที่ #2 : MABAE 02

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 60



    \ kinda like
     

     

    หยิบโทรศัพท์มือถือมากดดูเวลาก็แอบตกใจ ออกจากบ้านมาตั้งแต่สี่โมงเย็นนี่จะเที่ยงคืนอยู่แล้ว พี่ดงโฮโทรมาสายนึงก็ไม่ได้กดรับ ตั้ง-สาย-นึง คงจะได้ยินหรอกนะ ความพยายามในการตามน้องกลับบ้านช่างน้อยนิดไม่ต่างจากความอดทนของพี่มันเลย

     

    "จะไปต่อปะเนี่ยไอ้แดน"

     

    "ไปดิ แต่ขอไปส่งแดฮวีกับจินยองก่อน" 

     

    "งั้นขึ้นรถๆ" เซอุนพูดจบก็เดินขึ้นรถก่อนใครตามด้วยแจฮวานต่อด้วยยงกุกส่วนเด็กตัวเล็กได้แต่ยืนมองประตูที่เปิดอ้าตาปริบๆเพราะแค่คิดว่าต้องนั่งข้างคิมยงกุกก็รู้สึกชีวิตสั้นลงไปแล้วครึ่งนึง มันเหมือนจะตายให้ได้เวลาอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้

     

    "เอ้า ไมมึงไม่ให้น้องเข้ามาก่อนวะ" เสียงแจฮวานดังออกมาจากด้านในแต่เขามองไม่เห็นจะเห็นก็แต่คิมยงกุกที่หันไปมองเพื่อนตัวเองแล้วหันมาช้อนตามองบุคคลที่เพื่อนเอ่ยถึงที่ยืนสงบนิ่งอยู่ด้านนอก เขามองหน้าจินยองอยู่ครู่หนึ่งถึงยอมขยับตัวออกจากรถแล้วพยักเพยิดหน้าให้อีกคนเข้าไปนั่ง

     

    "เข้าไปดิ" จินยองดูลังเลนิดหน่อยแต่ก็ยอมเข้าไปนั่งโดยมียงกุกเข้าตามมาติดๆ เบียด... คือมันเบียดกันมากด้านหลัง 

     

    "ไอ้เชี่ย ทำไมตูดมึงใหญ่จังวะไอ้เซอุน ไปโบท็อกซ์ตูดบ้างนะมึง"

     

    "โบท็อกซ์หน้ามึงสิ ไอ้แดนมึงรีบออกรถเลยกูจะหายใจไม่ออกแล้ว" จินยองเผลอหัวเราะออกมาเบาๆพอได้ยินพี่สองคนเถียงกัน สำหรับเขากับยงกุกคงไม่มีปัญหาสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้สบายตัวเสียทีเดียว

     

    "มึงก็นั่งตักกันสักคนสิวะ" เกิดความเงียบระหว่างโซนด้านหลัง จินยองสบตากับแดฮวีที่เอี้ยวตัวมามองจากด้านหน้า แจฮวานหันสบตากับเซอุนไม่มีใครพูดอะไรกันหลังจากได้ยินเจ้าของรถอย่างคังแดเนียลออกความคิดเห็น

     

    "งั้นนายมานั่งระหว่างขาฉัน"

     

    "หะ"

     

    "ก็นายตัวเล็กสุด" ยงกุกเอนตัวพิงกับเบาะพลางใช้มือตบๆระหว่างขาตัวเอง

     

    "..."

     

    "ไม่ได้ให้นั่งตักสักหน่อย แค่นั่งตรงกลาง" แล้วมันต่างกันตรงไหนเล่าาา! 

     

    "แปบเดียวเดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว ไอ้ยงกุกมันก็ไม่ได้เลวมากขนาดนั้น พี่สัญญามันไม่ทำอะไรเราหรอก" จินยองแอบเห็นยงกุกถอนหายใจระหว่างที่แดเนียลกำลังพูด เขาสบตากับแดฮวีแปบนึงพอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าให้ทำตามไปเถอะ อดทนนิดนึง เขาถึงยอม

     

    ร่างเล็กขยับตัวไปนั่งระหว่างขาของอีกคนอย่างทุลักทุเล เหมือนอีกฝ่ายจะเผลอจับเอวของเขาด้วยตอนที่จินยองเซเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยออกแทบจะทันที ยงกุกนั่งหลังกระชับเบาะเพื่อให้จินยองนั่งได้ถนัด มือก็ไม่รู้จะไปวางไว้ตรงไหนข้างนึงเลยพาดไปที่บ่าของแจฮวานอีกข้างก็วางไว้ตรงขอบประตูแต่คนที่เกร็งที่สุดดูเหมือนจะเป็นแบจินยอง เขาพยายามทำตัวให้ลีบที่สุด กระชับมือทั้งสองข้างกับเบาะด้านหน้าเพื่อไม่ให้ตัวไปโดนคนด้านหลังมากไปกว่านี้ แค่ส่วนหลังเขาสัมผัสกับร่างอีกคนก็รู้สึกวูบวาบไปหมดแล้ว

     

    "กูไปแล้วนะ"

     

    "เออ ให้ไว" เป็นยงกุกที่พูดขึ้นซึ่งเรียกรอยยิ้มของแดเนียลได้พอสมควร เขาไม่เคยเห็นเพื่อนตัวเองมีท่าทางอึดอัดขนาดนี้มาก่อน คนอย่างคิมยงกุกไม่เคยที่จะต้องมานั่งประคองใครแบบนี้แค่เห็นก็อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ มีแต่ชอบทำให้คนอื่นอึดอัด นี่นับว่าเป็นครั้งแรกเลยที่มันอึดอัดคนอื่น แดเนียลหัวเราะชอบใจก่อนจะออกรถตามที่อีกคนขอ 

     

    พวกเขานั่งเงียบกันอยู่สักพักใหญ่จนคนเปิดบทสนทนาก็เป็นคังแดเนียลคนเดิมเพิ่มเติมคือปากเคี้ยวขนมอยู่

     

    “มึงจะให้ไปรับน้องจูปะ” ยงกุกที่นั่งเอามือยันหัวของตัวเองอยู่โดยใช้ไหล่ของแจฮวานเป็นฐานรองเหลือบตามองเจ้าของคำถามก่อนจะส่ายหัว

     

    “ไม่ต้อง”

     

    “อะไรวะ พรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้วนะ” 

     

    “มันมีเรียนพิเศษตอนเช้า” ยงกุกตอบแจฮวานทั้งๆที่ไม่ได้หันไปมองหน้าคนถามเลยด้วยซ้ำเลยไม่ได้สังเกตว่าเขากำลังขยิบปากขยิบคอล้อเลียนอยู่

     

    “เดี๋ยวนี้กูไม่เห็นมึงชวนน้องเขาไปไหนเลย เบื่อน้องมันแล้วเหรอ” แจฮวานเอาศอกกระทุ้งสีข้างเซอุนเต็มแรงจนคนโดนถึงกับทุบเข้าให้ที่ไหล่ของอีกคนอย่างจังด้วยความโมโห “กูเจ็บ ไอ้สัด”

     

    “ช่วงนี้น้องฮักนยอนเขาค่อนข้างติดรุ่นพี่ที่โรงเรียน มึงนี่ไม่รู้เรื่องเลยไอ้เซอุน” นี่ถ้าไม่ติดว่าแดเนียลมันขับรถอยู่ แจฮวานคงชกเข้าให้ที่หัวของมันแรงๆแล้ว อุตส่าห์ห้ามคนข้างๆคนข้างหน้าก็เสือกกวนน้ำให้ขุ่น เป็นกลุ่มเพื่อนที่ชอบซ้ำเติมกันชิบผาย

     

    “แต่ไอ้จินอูแม่งหล่อน้อยกว่าเพื่อนกูนิดนึงวะ เนาะ” ยงกุกขยับหัวหนีพอโดนแจฮวานเอื้อมมือมาขยี้หัว 

     

    “มึงอย่าไปปลอบมัน กูอยากเห็นมันร้องไห้ฟูมฟาย ตั้งแต่คบมากูยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นคนหรือเป็นกำแพงเมืองจีน ตอนที่มันบอกว่าไปจีบน้องเขาก่อนกูยังนึกภาพไม่ออกเลยห่า แต่งเรื่องเปล่าก็ไม่รู้”

     

    “แดฮวี”

     

    “ครับ?” เจ้าของชื่อรีบหันตัวกลับมามองคนด้านหลัง

     

    “ตบหัวมันทีดิ เดี๋ยวเลี้ยงขนม”

     

    “มือเล็กแค่นั้นตบไปก็ไม่เจ็บหรอก เนอะตัวเล็ก”

     

    “อยากลองไหมละ” แดเนียลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พอกวนประสาทคนข้างๆได้ ซึ่งไม่เข้าใจจริงๆว่าสองคนนี้จะเลิกกันทำไม เป็นแบบนี้สินะแดฮวีถึงตัดใจไม่ได้สักที จินยองเอาแต่นั่งมองคนสองคนพลางอมยิ้มกับความหยอกล้อแต่ในหัวเขาก็อดคิดไม่ได้ว่า น้องจูหรือฮักนยอนนี่เป็นใคร
     

     

    ต้องเป็นแฟนพี่ยงกุกแน่เลย
     

     

    “นี่จินยอง”

     

    “คะ ครับ?” จินยองเหมือนหลุดจากความคิด เขาหันไปมองแดเนียลที่อยู่ๆก็เรียกเขา

     

    “จะว่าไปนายก็เหมาะกับเพื่อนพี่เหมือนกันนะ”

     

    “…”

     

    “เป็นเชี่ยอะไรของมึงอีกครับคุณแดน” ยงกุกถึงกับอดไม่ไหวโน้มตัวไปผลักหัวเพื่อนตัวแสบของตัวเอง ดูก็รู้ว่าเขาค่อนข้างหงุดหงิดตั้งแต่พูดเรื่องจูฮักนยอน แต่เขาคงจะลืมไปว่ามีอีกคนกำลังนั่งอยู่ระหว่างขา จินยองตัวถลาไปด้านหน้าเล็กน้อยหลังจากโดนแผ่นอกของคนด้านหลังดันตัวเขาเพียงชั่วคราวแต่ก็เผลอใจหล่นวูบ มือหนาบีบลงที่แขนของจินยองเบาๆเพราะกลัวว่าอีกคนจะไปกระแทกกับเบาะด้านหน้าขณะที่ตัวเองเอื้อมมือไปทำโทษเพื่อน

     

    ถ้าไม่ถึงบ้านในอีกห้านาทีข้างหน้า ผมได้ขาดอากาศหายใจตายบนรถนี้แน่ๆ!!

     


     

    :


     

     

    “เข้าบ้านดีๆนะ”

     

    “อื้อ” จินยองโบกมือลาแดฮวีก่อนจะไล่ไปตั้งแต่แดเนียล เซอุน แจฮวานแต่พอมาถึงยงกุกเขากลับลดมือลงเพราะอีกคนไม่ได้ยกมือโบกมือให้เขาเอาแต่นั่งมองหน้าเห็นแบบนั้นก็ไม่กล้าขยับมือเลยด้วยซ้ำแต่ก่อนที่รถจะออกตัว มุมปากบางก็กระตุกยิ้มให้ มันเร็วมาก มากจนจินยองแทบจะคิดว่าตัวเองคิดไปเองหรือเปล่าว่าอีกฝ่ายยิ้มให้เขา 

     

    รถขับเคลื่อนหายลับตาไปได้แปบเดียวจินยองก็ดึงเสื้อที่ไหล่พลางพยายามหันไปดมว่ามีกลิ่นของรุ่นพี่คนนั้นติดตัวอยู่หรือเปล่า แต่ก็เปล่า... ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่มีวันลืมกลิ่นหอมๆนั่นแน่นอน ก็มันฝังอยู่ในจมูกขนาดนี้ ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย

     

    “ยืนโง่อะไรอยู่หน้าบ้าน รีบเข้าบ้านได้แล้ว” เขาหันตัวกลับมามองเจ้าของเสียงแทบจะทันทีด้วยความตกใจ ดงโฮยืนชะโงกหน้าออกมาจากประตูบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันไม่ได้ใส่เสื้อ ดีนะแดฮวีกลับไปแล้ว ไม่งั้นได้วิ่งเอามือปิดหน้ากลับบ้านแน่ๆ

     

    “ยังไม่นอนอีกเหรอ”

     

    “ถ้านอนแล้วใครจะมาเปิดประตูให้ โทรไปก็ไม่รับ” เขาดูหัวเสียที่น้องชายตัวเองไม่ยอมรับสายโดยที่ไม่ได้คิดเลยว่าการโทรมาครั้งเดียวคุณเขาไม่สมควรมาหงุดหงิดขนาดนี้นะครับ ถ้าโทรมาสิบกว่าสายแล้วน้องชายไม่รับก็ว่าไปอย่างค่อยสมเหตุสมผลหน่อย

     

    “ก็ผมไม่ได้ยินอ่ะ”

     

    “แล้วใครมาส่ง”

     

    “พี่แดเนียล”

     

    “ใครคือพี่แดเนียล”

     

    “แฟนเก่าแดฮวี”

     

    “….”

     

    “จะให้ผมเข้าบ้านได้ยัง” ดงโฮมองหน้าจินยองแปบนึงก่อนจะขยับตัวแนบกับขอบประตูให้น้องชายตัวเองได้เดินเข้ามาข้างใน แต่ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาเฉย

     

    “คราวหลังถ้ากลับดึกขนาดนี้ก็ไม่ต้องกลับ ขี้เกียจรอเปิด”

     

    “เอ้า แล้วจะให้ผมไปนอนไหนละ” 

     

    “มึงไม่รู้แล้วกูจะรู้เหรอ” พูดจบก็เดินเกาพุงขึ้นบ้านไปเฉย ปกติก็เป็นคนนอนดึกอยู่แล้วนี่หน่าเรื่องเปิดประตูให้ผมตอนกลับบ้านดึกนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยด้วยซ้ำ เดี๋ยวด่าเลยหนิ! จินยองง้างมือทำท่าจะทำร้ายร่างกายพี่ชายตัวเองถึงแม้ว่ากายหยาบจะเดินขึ้นห้องไปแล้วก็ตาม แต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้เขาลืมความโกรธพี่ชายตัวเองเมื่อสายตาเผลอมองไปที่ข้อมือแล้วไม่เจอของสำคัญ

     

    กำไลข้อมือผมหายไปไหน!

     

     

     

    ตั้งแต่เขาอาบน้ำเสร็จจนเตรียมตัวนอนในหัวก็ยังไม่เลิกหงุดหงิดตัวเองเรื่องทำกำไรข้อมือหาย นั่นแม่เขาซื้อให้จากเมืองนอกเลยนะ สวยด้วยอ่ะ เสียดายยิ่งถ้าแม่รู้ต้องโดนว่าแน่ๆ

     

    (ก็ไปหาซื้อคล้ายๆกันมาใส่สิ แม่จะได้ไม่สงสัย)

     

    “ไม่เอาหรอก ไม่อยากโกหก”

     

    (งั้นก็เดินไปบอกแม่เลย)

     

    “แดฮวววววี ฉันจะทำยังไงดี แม่งหงุดหงิดอ่ะ” ถึงปากจะพูดไปแบบนั้นแต่พอเพื่อนยุให้ไปบอกแม่ก็กลัวจนอยากจะย้อนเวลาไปตอนที่ยังใส่อยู่ รู้งี้ไม่เอาไปงานโรงเรียนด้วยหรอก ไม่งั้นก็คงไม่หายไป

     

    (แล้วมันหายไปตอนไหน)

     

    “ฉันเพิ่งมารู้ตอนถึงบ้านเนี่ย”

     

    (งั้นเสียใจด้วยนะแบจินยอง) 

     

    โถ เพื่อนสนิทขอบคุณที่ปลอบใจ จินยองเบ้ปากจะร้องไห้ตั้งท่าจะงอแงใส่เพื่อนตัวเองอีกสักครั้งก็ต้องหยุดความตั้งใจนั้นพอได้ยินเสียงสายซ้อนดังขึ้นมา

     

    “แดฮวี เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะมีคนโทรเข้ามาอ่ะ”

     

    (งั้นไว้คุยกันพรุ่งนี้) 

     

    “โอเค” เขามองเบอร์แปลกที่โชว์ซ้อนกับสายของเพื่อนตัวเองก่อนจะกดรับพอแดฮวีวางสายไป ซึ่งเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเบอร์ของใคร “ฮัลโหล”

     

    (จินยองปะ) เจ้าของชื่อเงียบไปแปบนึง ทำไมเสียงคุ้นๆ

     

    “ใช่ นั่นใคร”

     

    (พูดห้วนกับรุ่นพี่ได้ไง) ดูเหมือนเขาเริ่มจะคุ้นๆกับโทนเสียงแบบนี้ของใครสักคนแต่ก็ไม่อยากคิดไปเองอีกนั่นแหละว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า แต่มันต้องใช่สิ...

     

    “พี่... พี่ยงกุกเหรอ”

     

    (อือ) โทรศัพท์ถึงกับลื่นหลุดมือ ไม่รู้ว่ามือไม้อ่อนหรือตกใจที่คนปลายสายคือคนเดียวกันกับที่เขาคิดเอาไว้ จินยองดีดตัวลุกขึ้นมานั่งตาตั้งพอรู้ว่าเป็นยงกุก รู้สึกทำตัวไม่ถูกเฉยเลย

     

    “พี่ไปเอาเบอร์ผมมาจากไหน”

     

    (ไอ้แดนไง ฉันแค่จะโทรมาถามว่านายได้ทำอะไรหายหรือเปล่า) จินยองถึงกับชูแขนขึ้นมองข้อมือตัวเองพลางพยักหน้ารับทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเขากำลังทำอะไร (ถ้าไม่ใช่ฉันจะได้ทิ้งไป)

     

    “ใช่ครับๆ ถ้าเป็นกำไลข้อมืออันนั้นของผมเอง” รีบตอบกลับแทบไม่ทันกลัวว่าอีกคนจะเอาของที่เก็บได้ไปทิ้งจริงๆ

     

    (งั้นเดี๋ยวฝากแดฮวีเอาไปให้แล้วกัน)

     

    “คะ ครับ” ทั้งสองคนเงียบไม่มีใครพูดอะไรต่อแต่เหมือนจินยองจะได้ยินเสียงเพลงดังรอดเข้ามาในสายเลยอดสงสัยไม่ได้ “พี่ยังไม่กลับบ้านเหรอ”

     

    (อือ) 

     

    “ตีสองกว่าแล้วเนี่ยนะ” แอบคิดว่าสถานที่ไปต่อของพวกพี่เขาจะต้องเป็นอะไรที่บันเทิงมากแน่ๆ... ได้ข่าวว่ายังเรียนม.ปลายกันอยู่เลยนะ

     

    (แล้วทำไมนายยังไม่นอน) ยงกุกไม่ตอบคำถามแต่เขากลับย้อนถามกลับคนตัวเล็กเฉย

     

    “จะนอนแล้วครับ”

     

    (เค งั้นไปนอนซะ)

     

    “อือ อะ อ่าว... นึกจะวางก็วาง แบบนี้ก็ได้เหรอ” จินยองดูหัวเสียเล็กน้อยที่อีกฝ่ายวางสายไปดื้อๆ ทำไมเขาจะต้องรู้สึกเสียดายด้วยเนี่ย เขาไม่ได้กำลังยิ้มอยู่ใช่ไหม สงสัยดีใจที่รู้ว่ากำไลข้อมืออยู่ที่ไหนก็แค่นั้น 

     

    ก็แค่นั้นเอง แบจินยอง

     

     

    :

     

     

     

    กำไลสีน้ำเงินเข้มของ BOTTAGA ถูกยัดเก็บใส่กระเป๋ากางเกง บนใบหน้าเรียบเฉยปรากฎรอยยิ้มที่เจ้าตัวเผลอแสดงออกมาอย่างลืมตัวพอนึกถึงใบหน้ามึนๆของเด็กผู้ชายตัวเล็กที่ชื่อจินยอง คิมยงกุกจ้องมองโทรศัพท์พลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

     

    จะเมมเบอร์เด็กนั่นว่าอะไรดีวะ ใส่เป็นอีโมแมวก็แล้วกัน แม่งน่ารักดี 


     

    ______________


    มันก็เหมือนว่า จะชอบ   
    ห้อยยย ใจบางหมดแล้วว จะบอกฝันดีน้องหน่อยก็ไม่ได้นะอัยตี๋!
     พอหอมปากหอมคอโน๊ะ ดีใจมีคนชอบคู่ #กุกนยอง เยอะ
    โมเม้นเดียวฟาดเรียบนะคะ 555


    #ฟมบ

     

     

    (c)  Chess theme

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×