ตอนที่ 9 : EP.08
EP.08
:)
มนุษย์ทุกคนมีสิ่งที่พวกเขารู้ดีแต่ไม่เคยทำมันสำเร็จ นั่นคือการปล่อยให้อดีตเป็นแค่อดีต ผู้คนมากมายต่างเก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ในลิ้นชักความรู้สึก บ้างก็มีความสุข บ้างก็มีความทุกข์แตกต่างกันออกไปแล้วแต่สิ่งที่พบเจอมา
โดยบางครั้งผู้คนเหล่านั้นอาจจะเผลอนึกถึงแต่อดีต
จนลืมให้ความสำคัญกับ ‘ปัจจุบัน’
“ที่นี่สวยไหมคุณ”
หญิงสาวในเสื้อยืดแขนยาวตัวบาง กางเกงยีนส์และผ้าใบสีขาวดูสบายผิดกับอากาศที่ใกล้จะถึงจุดเยือกแข็ง เธอเหม่อมองไปยังแสงอาทิตย์รำไรในเวลาห้าโมงเย็น ฤดูหนาวใกล้เข้ามาทำให้เวลากลางวันถูกแทนที่ด้วยเวลากลางคืน
“มันสวยมากๆเลยค่ะ”
อันที่จริงนายอนก็พอจะรู้มาบ้างแล้วว่าจองยอนเป็นคนจังหวัดคังวอน แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีบ้านติดริมทะเล แถมบรรยากาศยังดีมากๆอีกด้วย
ดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าพร้อมกับแสงสว่างที่เริ่มจางหายไป สีม่วงแดงและส้มตัดกับสีใสของคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่งอย่างเบาบาง ยามเย็นถูกเติมเต็มด้วยลมหนาวที่พัดมาปะทะแสงจันทร์
จริงไหมกับประโยคที่บอกว่า ‘คนเศร้าชอบนั่งดูดวงอาทิตย์ตกดิน’
มันอาจจะจริง...ถ้านายอนไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย จองยอนนั่งลงบนผืนทรายจนเกิดรอยยุบลงไปเล็กน้อย—ฝ่ายสาวฟันกระต่ายก็เช่นกัน เรียวมือเปื้อนเม็ดทรายกระชับกันแน่น ถึงแม้เราจะไม่ได้พูดคุยอะไร แต่เราก็สามารถเข้าใจหัวใจของกันและกันได้
คุณอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆและจับมือฉันไว้
“ตอนที่คุณยังคบกับแฟนเก่า เธอชอบที่นี่หรือเปล่า?” นายอนคงไม่มีเจตนาวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเธอหรอก หล่อนแค่ถามไปเรื่อยแหละ
“ซานะจังน่ะหรอ”
“อื้อ”
“เธอชอบที่นี่ ชอบเหม่อมองไปบนท้องฟ้าและบอกว่าอยากไปอยู่บนนั้น”
“เธออยากเป็นแอร์โฮสเตสหรอคะ”
“เปล่าหรอก” จองยอนยกยิ้มบางๆ เธอส่ายหน้าเล็กน้อย
“เธออยากทำงานนาซ่า”
นั่นคงจะเป็นเหตุผลที่ทำให้จองยอนสูญเสียคนรักไป
“เราทะเลาะกันอยู่พักใหญ่ ฉันเองก็อยากจะเข้าใจชีวิตของเธอเหมือนกัน”
“…”
“แต่ฉัน...”
นิ้วเรียวหดเกร็งก่อนค่อยกำมันอย่างเจ็บปวด เธอทุบลงบนผืนทรายซ้ำๆย้ำๆราวกับหัวใจที่ยับเยินดวงเดิมยังรักษาไม่หาย ถึงจองยอนจะดูมีความสุขดีกับนายอน แต่อีกฝ่ายกลับดูออกว่าเธอยังคงเจ็บช้ำกับความรักครั้งเก่า แต่ครั้งนี้ไม่มีน้ำตาเหมือนครั้งก่อน—จองยอนเพียงเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงอดกลั้นความรู้สึกจากภายใน ถึงก้อนเนื้อเท่ากำปั้นจะยังมีแผลอยู่บ้าง แต่มันก็ถูกรักษาจนมันใกล้จะหายเป็นปกติแล้วล่ะ
ความอุ่นของใครบางคนเคลื่อนเข้ามาใกล้ เป็นฝ่ายนายอนที่พิงศีรษะบนบ่าของเธอได้พอดี เรียวมือที่ยังกุมกันอยู่กระชับแน่นขึ้น ณ เวลานี้—เธอสองคนไม่ต่างกับคนที่คบกันแล้ว สีหน้า ท่าทาง แววตาและจุมพิตที่ต่างฝ่ายต่างเต็มใจมอบให้กัน
เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกดีๆที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“นี่แหนะ!”
เกือบจะโรแมนติกแล้วเชียว จู่ๆนายอนก็กระแทกหมัดใส่แขนของสาวผมสั้นเบาๆด้วยความหมั่นไส้
“นี่คุณ ต่อยฉันทำไมเนี่ย”
น้ำเสียงปะปนเสียงหัวเราะถ่ายทอดออกมาจากปากคนตัวสูง เธอลุกยืนขึ้นพร้อมกับหล่อน พลางยกฝ่ามือขึ้นเพื่อป้องกันหมัดรอบสองจากอีกฝ่าย
“หมัดแรก—ลงโทษที่คุณไม่ยอมใส่เสื้อกันหนาว”
หล่อนกระแทกอีกหมัดใส่เธออีกครั้ง
“หมัดที่สอง—ลงโทษที่คุณชอบทำให้ฉันเป็นห่วงอยู่เรื่อย ไอ้คนบ้า รู้บ้างไหมว่าคุณน่ะ—อ๊ะ”
“มานี่เลย!”
ร่างบางถูกช้อนขึ้นอุ้มด้วยฝีมือของคนตัวสูง หญิงสาวไม่มีอาการขัดขืน หล่อนเพียงทุบเบาๆไปที่หัวไหล่ของใครอีกคน
“นี่คุณจองยอน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“ไม่ปล่อย” จองยอนเล่นหูเล่นตา
“ถ้าฉันปล่อย คุณก็ต่อยฉันอีกน่ะสิ ฉันไม่ยอมหรอกนะ”
เธออุ้มช้อนหล่อนไว้พร้อมหมุนไปรอบๆ ความแข็งแรงของผู้หญิงคนหนึ่งสามารถแบกอีกคนได้โดยไม่รู้สึกเมื่อยเลยสักนิด เธอยกร่างอีกคนหมุนไปหมุนมาอย่างขี้เล่นกระทั่งมาถึงริมทะเล ความเปียกชื้นสัมผัสบนปลายเท้าบวกกับอากาศเย็นๆทำเอาจองยอนสะดุ้งไม่เป็นท่า ฝ่ายนายอนที่กำลังดิ้นให้หลุดจากอำนาจกลับร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงอย่างไม่ตั้งตัว โชคดีที่หล่อนเยียดขาทัน...ไม่อย่างนั้นเสื้อผ้าชุดสวยคงเปียกชุ่มไปทั้งตัวแล้ว
ทว่าโชคไม่เข้าข้างคนซุ่มซ่าม
ปลายเท้าของนายอนสัมผัสกับเปลือกหอยที่นอนจมอยู่ใต้น้ำทะเล คมแหลมบาดอุ้งเท้าจนเลือดสีแดงสดไหลซิบออกมา
“เฮ้ยคุณ!” ร่างสูงรีบเข้ามาประคองหล่อนไว้เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ดีของอีกฝ่าย
“โห—บาดลึกมากเลยอะ เดี๋ยวฉันทำแผลให้นะ”
บ้านของจองยอนถูกปูด้วยพื้นไม้ราคาแพงถึงดีไซน์ด้านนอกจะดูโมเดิร์นเอาการ เฟอร์นิเจอร์ด้านในสะอาดเอี่ยมเหมือนของใหม่ไม่มีผิด ยังไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าทันสมัยที่บางชิ้นนายอนเองก็ยังไม่มีไว้ครอบครอง
คนต่างจังหวัดบางคนรวยกว่าคนในเมืองอีกมั้งเนี่ย
นายอนคิดในใจ
“สวัสดีค่ะคุณอา” เธอก้มโค้งทำความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยสภาพทุลักทุเล ฝ่ายผู้ใหญ่ยิ้มรับก่อนเหลือบไปเห็นความผิดปกติใต้เท้าของนายอน
“สวัสดีจ้ะ—เอ๊ะ”
“เท้าหนูไปโดนอะไรมาจ๊ะเนี่ย เข้ามานั่งก่อนลูก เข้ามาๆ”
พ่อแม่ของจองยอนใจดีกว่าที่คิด สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทำให้นายอนรู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น จองยอนประคองเธอเข้ามานั่งบนโซฟาในห้องโถงสูง มองไปด้านหน้าเป็นกระจกบานใหญ่ปรากฏวิวทิวทัศน์ของทะเล
“หนูรบกวนคุณอาด้วยนะคะ” เธอนั่งลงบนโซฟาตัวนิ่ม
“เรียกแม่กับพ่อเถอะจ้ะ หนูคงจะเป็นแฟนของจองยอนใช่ไหมลูก?”
โอ้โหคุณแม่คะ...แทงใจดำยิ่งกว่าอะไรอีกค่ะ
“เดี๋ยวแม่! คุณนายอนเขาเป็น—”
“เอาหน่า แฟนไม่แฟนพ่อกับแม่ดูออกนะ เห็นหนูสองคนเล่นกันที่ริมหาดก็รู้แล้วล่ะ เอาเป็นว่าลูกไปหยิบกล่องพยาบาลมาทำแผลให้หนู...เอ่อ”
“อิม นายอนค่ะ” เธอก้มหัวเล็กน้อย
“ขอบคุณนะคะคุณแม่”
จองยอนขนกล่องพยาบาลติดตัวมาวางบนโซฟาเพื่อจะทำแผลให้อีกคน หล่อนแกะสำลีออกมาพร้อมกับชุบแอลกอฮอล์จนชุ่ม
“เจ็บนิดหน่อยนะคุณ ฉันกลัวคุณติดเชื้อนะ น้ำทะเลมันสกปรก”
ยังไม่ทันจะสัมผัสลำสีเปื้อนน้ำยาล้างแผลลงไป เสียงทุ้มจากด้านหลังกล่าวขึ้นก่อนทำให้จองยอนต้องหันขวับไปตามต้นเสียง
“พ่อกับแม่จะออกไปดินเนอร์กันที่ร้านนะ ถือโอกาสดูแลร้านไปด้วย ช่วงนี้ลูกค้าเยอะมาก” เขาเอ่ยขึ้น
“ถ้าลูกจะพาหนูนายอนไปกินข้าวที่ร้านก็ตามมาเลยนะ เอ้อ! เกือบลืมไปเลย หนูซานะฝากจดหมายมาที่บ้านได้สองวันแล้ว อย่าลืมไปแกะดูล่ะ พ่อวางไว้บนโต๊ะทำงานของลูกนะ”
พูดจบพ่อกับแม่ก็เดินออกไปทันที...ทิ้งให้เธอสองคนอยู่ด้วยกันลำพัง
“คุณจองยอนคะ”
“…”
“คุณจองยอน คุณโอเคนะ?”
สีหน้าเปลี่ยนหลังสิ้นประโยคจากผู้เป็นพ่อ ราวกับสติของจองยอนหลุดลอยหายไปทันทีทันใด ใบหน้าสงบนิ่งจนมองอารมณ์ไม่ออก แววตาสั่นระริกฉายแววความประหม่า ความเศร้า และอารมณ์ที่นายอนไม่อาจคาดเดาได้
นายอนรู้ทันทีว่าจองยอนกำลังสับสน ไม่อาจรู้ได้ว่าจดหมายที่ซานะส่งมานั้นคืออะไร น่าแปลกที่หล่อนไม่ใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อความมาหาจองยอนด้วยตัวเอง—แต่กลับฝากจดหมายมาที่บ้านซะงั้น
“เปล่านี่ ฉันทำแผลให้คุณต่อดีกว่า”
“เพราะฉันแท้ๆที่ทำให้คุณเจ็บตัว ขอโทษนะ”
คนผมสั้นก้มลงเป่าเบาๆบนที่บาดแผลของสาวฟันกระต่ายถึงแม้ว่ามันจะอยู่บนฝ่าเท้าของเธอก็เถอะ หล่อนไม่มีท่าทีรังเกียจเธอเลยสักนิด
“เพี้ยง! ฉันขอให้เท้าของคุณนายอนหายป่วยไวๆนะ”
จองยอนจะรู้ไหมว่าการที่หล่อนทำแบบนั้นมันทำให้หัวใจของนายอนพองโตจนแทบจะระเบิดออกมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอกำลังประทับใจในสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้
จองยอนเป็นคนดูแลเก่ง แถมยังน่ารัก...น่ารักมากๆ
“ฉันจะล้างแผลให้จริงๆแล้วนะ เจ็บนิดนึงนะนายอน”
จองยอนก้มสัมผัสฝ่าเท้าอีกฝ่ายเพื่อรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองก่อ สำลีชุบน้ำยาล้างแผลชิ้นเดิมสัมผัสลงบนรอยฉีกลึกทำเอานายอนแสบร้อนไปทั่ว ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที—แสงไฟสีส้มสลัวในห้องโถงกลับดับลงเหมือนไฟฟ้าถูกตัดอย่างไรอย่างนั้น มีเพียงเสียงสว่างจากดวงจันทร์ที่ส่องผ่านกระจกบานใหญ่ ทำให้หญิงสาวเห็นแสงที่สะท้อนบนแววตาของอีกฝ่ายได้ชัดเจน
“ขอบคุณนะคะ คุณจองยอน”
เธอไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ เรียวมือประคองใบหน้าของคนที่อยู่ในรัศมีที่ต่ำกว่า นายอนค่อยโน้มใบหน้าของตัวเองลงไป ดวงตาสั่นระริกพร้อมก้อนหัวใจที่เรียกหา กระทั่งความอุ่นสัมผัสกันอีกครั้ง เธอสองคนหลับตาพริ้มพร้อมมอบจุมพิตแก่กันและกัน จังหวะของจูบช่างหวานหอมและยืดยาวกว่าครั้งก่อน ใต้แสงอ่อนๆจากดวงจันทร์และเสียงของเกลียวคลื่น
“ฉันรักคุณแล้ว ยู จองยอน…ฉันรักคุณ”
หญิงสาวหาช่องว่างพ่นคำสารภาพออกไป รสจูบยังคงละมุนนุ่มนวลโดยไม่คิดจะหยุดพัก สัมผัสของริมฝีปากยังคงตอบรับกันอย่างยอดเยี่ยม คนผมสั้นเปลี่ยนองศาของจุมพิตหล่อนกระเถิบตัวขึ้นจนอยู่ในระดับเดียวกับอีกฝ่ายพร้อมบรรจงเรียวปากที่ร้อนแรงมากขึ้น
คุณรักฉันบ้างไหม...จองยอน
ประโยคสุดท้ายดังลั่นภายในใจของนายอนเพียงผู้เดียว เธอรู้ดีว่าจองยอนยังไม่พร้อมจะรับใครเข้ามาในหัวใจ—เธอรู้ดี
Y E O U I N A R U S T A T I O N
แดดอ่อนๆ ทอดจากหน้าต่างมายังเตียงนอนขนาดกลาง ความร้อนจากแสงแดดทำให้หญิงสาวตื่นขึ้นจากความฝัน ถึงอากาศในห้องนอนจะเย็นเฉียบแค่ไหนแต่แสงแดดที่ปะทะลงบนท่อนแขนนั้นทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดไม่ใช่น้อย เปลือกตาทั้งสองเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า นายอนเหลือบมองนาฬิกาในโทรศัพท์มือถือก่อนปรากฏเวลาเก้าโมงเช้า เธอกวาดตามองไปรอบๆห้องจนพบว่ามันไม่ใช่ห้องที่เธอคุ้นเคย
นายอนตื่นขึ้นบนเตียงนอนของจองยอน
เรื่องเมื่อคืนทำให้นายอนมีความสุขมาก เธอจำทุกฉาก ทุกตอน ทุกวินาทีที่ได้ใช้ร่วมกับหล่อน ความหวานของจูบนั้นยังตราตรึงในหัวใจ แต่อย่าคิดไปถึงไหนต่อไหนล่ะ...เธอกับจองยอนยังไม่ถึงขั้นนั้นกันสักหน่อย ก็แค่นอนกอดกันเหมือนคนเป็นแฟนกันเขาทำกันนั่นแหละ
“คุณจองยอน”
“จองยอนคะ”
ไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย...น่าเสียดายที่ต้องตื่นมาเพียงลำพัง จองยอนหายไปไหนตั้งแต่เช้าก็ไม่รู้ หล่อนเพียงวางอาหารเช้าและน้ำผลไม้ไว้ข้างหัวเตียงพร้อมกับโพสอิทสีเขียวที่แปะอยู่ข้างๆ
‘ถ้าคุณตื่นแล้วลงไปหาพ่อกับแม่ได้เลยนะ พวกท่านจะไปหาแชยองที่โซลและแวะไปส่งคุณที่บ้าน ขอโทษนะที่ฉันต้องออกมาก่อน มันจำเป็นจริงๆ – จองยอน’
ถัดไปเป็นจดหมายที่ถูกเปิดแล้ว นายอนมั่นใจว่ามันคือจดหมายที่ซานะส่งมาให้จองยอน ความสงสัยบีบให้หญิงสาวทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ—เธอตัดสินใจแกะจดหมายฉบับนั้นออกมาก่อนปรากฏกระดาษหอมสีขาว ประดับด้วยหัวใจสีทองสองดวง
‘ Sana Minatozaki ❤ Ericson Taylor ’
.
.
.
.
.
.
“คุณหายไปไหน...ยู จองยอน” นายอนพึมพำเพียงคนเดียวในห้องสี่เหลี่ยม
บอกฉันสิว่าที่คุณหายไปจากฉันแบบนี้...
มันไม่ใช่เพราะเขา
:(
TBC.
Yeouinaru Station
#สถานียออินารุ
Talk...
เหนื่อยกันไหมคะกับความไบโพลาร์ของพิจองเขา ;-; เดี๋ยวดีเดี๋ยวเศร้าปะปนกันไปในเวลาเดียวกัน สิ่งที่อยู่ในใจของจองยอนยากจะค้นหาจริงๆค่ะ ไรท์เองก็ยังไม่เข้าใจ (เขียนเองงงเอง อะฮ่า) อย่างที่ว่ากันแหละ...ทุกคนล้วนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง แต่มันดีแล้วใช่ไหมสำหรับคุณนายอนเนี่ย มีความรักครั้งแรกก็เจอศึกหนักซะแล้วค่ะ เหนื่อยใจกับคุณเขาจริงๆ
ตอนหน้าจะเฉลยทุกอย่างนะคะว่าพิจองหนีหายไปจากคุณนายอนทำไม ตอนหน้าก็จะพูดถึงอดีตของจองยอนซะส่วนใหญ่ด้วย อย่างไรก็ตาม...ฟิคเรื่องนี้อาจจะมีความละมุนในความเศร้าค่ะ คำเตือน กรุณาสูดลมหายใจเข้าออกก่อนอ่าน เพราะมันจะหน่วงมากๆหน่วงในแบบที่ไรท์เพนกวิ้นสามารถเขียนออกมาได้ค่ะ น่ารักไม่สุด เศร้าไม่สุด สไตล์ไรท์เอง คริๆๆๆ เจอกันตอนหน้าค้าบ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

68 ความคิดเห็น
-
#54 หมาป่ารอวันหอน (จากตอนที่ 9)วันที่ 11 ธันวาคม 2561 / 11:49จองยอนหายไปไหนน เมียอ่ะจะเอามั้ยย#540
-
#53 besoice (จากตอนที่ 9)วันที่ 10 ธันวาคม 2561 / 22:27สงสารนายอนy_y#530
-
#52 sunantha sihabut (จากตอนที่ 9)วันที่ 10 ธันวาคม 2561 / 18:46หน่วงจัง😂😂#520
-
#51 angelwings (จากตอนที่ 9)วันที่ 10 ธันวาคม 2561 / 18:30หน่วงอีกแล้วไรท์ TT#510
-
#50 mongmaimakmild (จากตอนที่ 9)วันที่ 10 ธันวาคม 2561 / 17:32อิพี่จองงงงงง ไบโพล่ามาก เขินได้แปบๆ พี่แม่งหนีไปอีกละ รอตอนต่อไปค่า#500