ตอนที่ 6 : EP.05
EP.05
:)
วันนี้นายอนดูจะพิถีพิถันกับการแต่งตัวเป็นพิเศษ ลิปสติกสีแดงถูกบรรจงแต้มลงบนริมฝีปาก เธอสวมเสื้อคลุมลายสก๊อตทับเสื้อกล้ามสีขาวและกระโปงสั้นสีดำสนิท เสียงฮัมเพลงดังขึ้นในลำคออย่างมีความสุข แน่นอนว่าเหตุผลที่ทำให้เธออารมณ์ดีกว่าทุกวันก็เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของจองยอน
“แหม อากาศข้างนอกหนาวจนฉันจะแข็งตายแล้ว แกยังมีอารมณ์จะแต่งตัวสวยอีกหรอคะ”
พัค จีฮโย สาวเกาหลีดวงตากลมโต ผู้เป็นเพื่อนสนิทของนายอนกล่าวขึ้นขณะอีกฝ่ายมัวแต่ส่องกระจกซ้ำไปซ้ำมา
“แกว่าฉันสวยยังอะจี้”
“ถ้าฉันตอบว่าไม่สวยล่ะ”
“ฉันก็จะเปลี่ยนชุด”
“โอเคงั้นสวยก็ได้ แกสวยที่สุดเลยเพื่อนรัก”
นายอนรู้สึกประหม่าไม่น้อย สายตากวาดมองไปทั่วร่างกายของตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ พลางหมุนตัวไปมาอยู่หลายรอบ ปกติแล้วเธอเป็นคนที่มั่นใจในการแต่งตัวพอสมควร แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกับครั้งก่อน
เธอกำลังรู้สึกไม่มั่นใจ เมื่อต้องไปพบหน้าจองยอน
“แค่ไปงานวันเกิดเพื่อนนี่ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยหรอคะคุณนายอน ทำไมกันนะ? น่าสงสัยจริงๆ” จีฮโยหรี่ตามองเพื่อนสนิทพลางเอ่ยแซวชุดใหญ่ ฝ่ายนายอนทำได้เพียงหันมองหล่อนอย่างคาดโทษ
จีฮโยรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างนายอนกับจองยอน ถึงแม้นายอนจะไม่ได้เปิดปากเล่าอะไรต่อมิอะไรให้หล่อนฟังมากนัก แหงล่ะ—เพื่อนสนิทย่อมรู้ใจเพื่อนสนิท เพียงแค่มองตาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดอะไร หรือต้องการอะไร
“แกมั่นใจใช่ไหมว่าจะบอกเขา” อีกฝ่ายเลิกคิ้วถาม น้ำเสียงแสนป่วนประสาทนั้นเปลี่ยนเป็นโหมดจริงจังอย่างกะทันหัน
“ฉันคิดว่าจะลองดู”
“ถ้าผลลัพธ์มันออกมาไม่ดี ก็กลับมาให้จี้คนสวยซับน้ำตานะคะ”
“ปากเสียว่ะจี้ ขนาดนี้แล้วเขาต้องมีใจให้ฉันสิ” นายอนยักไหล่
มั่นหน้ามาก อิม นายอน
มั่นให้ได้แบบนี้ตอนอยู่ต่อหน้าจองยอนบ้างสิ
“ฉันจะรอดูย่ะ! เพื่อนจะมีผัวแล้วตื่นเต้นจัง”
สาวฟันกระต่ายเบิกตากว้าง เธอกัดปากตัวเองพร้อมกดน้ำหนักลงบนต้นแขนของเพื่อนสนิทอย่างไม่ยั้งมือ
เวลาที่นายอน ‘เขิน’ ก็จะมีอาการแบบนี้แหละ —จีฮโยรู้ดี
Y E O U I N A R U S T A T I O N
“สวัสดีค่ะพี่นายอน เข้ามาก่อนสิคะ” เสียงหวานจากคนตัวเล็กกล่าวทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หล่อนนำเธอเข้ามายังห้องรับแขกของบ้าน ปรากฏโซฟาตัวเล็กที่พอนั่งได้สองถึงสามคน ถัดไปเป็นโต๊ะกินข้าว ครัวขนาดเล็ก และชั้นวางหนังสือที่ถูกตกแต่งให้เข้ากับดีไซน์ของห้อง
“โปซงงี” เจ้าสุนัขขนฟูสีขาววิ่งออกมาต้อนรับแขก ปกติแล้วเจ้าโปซงจะสนิทกับคนแปลกหน้าค่อนข้างยาก แต่หากเป็นนายอนแล้วมันแทบจะนอนหงายให้เกาพุงเลยด้วยซ้ำ
“แล้วเจ้าของวันเกิดหายไปไหนแล้วล่ะน้องแชยอง?” เธอเอ่ยถาม
ก็แหงล่ะ ตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้าน เธอยังไม่เห็นแม้แต่เงาของจองยอน
“พี่จองยอนออกไปซื้อของค่ะ สงสัยสวนกับพี่นายอนพอดี”
“เดี๋ยวนั่งรอก่อนนะคะ อีกสักพักพี่จองยอนน่าจะกลับมาแล้ว”
คนตัวเล็กนั่งลงเคียงข้างแขกคนพิเศษ ใบหน้าสวยขมวดคิ้วพลางจ้องมองมาทางสาวฟันกระต่ายอยู่บ่อยครั้งเหมือนกับหล่อนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
“แชยองจ้องหน้าพี่นานแล้วนะคะ มีอะไรหรือเปล่า?”
“พี่นายอนนี่หน้าคุ้นๆนะคะ” หล่อนลากเสียงยาวพลางขมวดคิ้วต่ำจนหัวคิ้วแทบจะชนกัน
“ใช่จริงๆด้วย!”
คนตัวเล็กเบิกตากว้างพร้อมกับตบหน้าตักตัวเองดังแปะ ท่าทางตื่นตัวของแชยองทำเอานายอนถึงกับขมวดคิ้วตามด้วยความสงสัย
“พี่นายอนจบจากโรงเรียนมัธยมปลายฮันลิมใช่ไหมคะ ถึงว่าตอนพาโปซงไปอาบน้ำที่ร้าน ฉันถึงคุ้นหน้าคุ้นตาพี่นายอนมาก”
“แชยองรู้ได้ไงเนี่ย อย่าบอกนะว่า—”
บังเอิญกว่านี้มีอีกไหม
“ฉันเคยเห็นรูปพี่นายอนในอัลบั้มรุ่นของสาขาการแสดงค่ะ! ฉันเองก็จบจากฮันลิมเมื่อปีที่แล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะเจอรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน แถมพี่นายอนก็เป็นเพื่อนกับพี่จองยอนอีกด้วย บังเอิญจังเลยนะคะ”
เรื่องบังเอิญระหว่างเธอกับจองยอนเกิดขึ้นบ่อยมาก นายอนฉุกคิด—หัวสมองของเธอกำลังนึกย้อนกลับไปวันแรกที่เจอจองยอนในสถานีรถไฟฟ้ายออินารุ บางทีเหตุผลที่ทำให้เธอหยุดมองร่างสูงนั้นเป็นเพราะเธออาจจะเคยเห็นหน้าจองยอนมาก่อน อาจจะเคยเห็นที่โรงเรียนฮันลิมหรือที่ไหนสักแห่งก็เป็นได้
เพราะยังไงนายอนก็ไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิตอยู่ดี
ความตั้งใจต่างหาก ที่พาตัวเองมานั่งบนโซฟาในบ้านของจองยอนได้ในตอนนี้
“แล้วมีแฟนยังล่ะเรา หื้ม? ได้ข่าวว่าเด็กฮันลิมรุ่นนี้ฮอตไม่เบานะ” เธอเอ่ยถามคนตัวเล็กที่กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับหน้าจอมือถือ เธอรู้ว่าอาการยิ้มกรุ้มกริ่มเหล่านั้นเป็นอาการของคนกำลังอินเลิฟ—เหมือนกับตัวเธอเองในตอนนี้
“ยังค่ะ แค่คุยๆกันอยู่” แชยองตอบ “วันนี้เธอก็มาที่นี่นะคะ”
เสียงเปิดประตูดังขึ้นหลังสิ้นบทสนทนาพอดี เจ้าของวันเกิดเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับถุงผ้าอีกสองสามใบ นายอนลุกยืนขึ้นด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนเหมือนกำลังตื่นเต้น หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อสายตาปะทะเข้ากับใครบางคนที่เดินตามจองยอนมาติดๆ
“ขอโทษที่ให้นั่งรอนานนะคุณ”
จองยอนยิ้มทักทายสาวฟันกระต่าย พลางมองหญิงสาวอีกคนสลับกันไปมา
“เอ่อ”
“แชยองอา แกปล่อยให้โมโมะยืนรอหน้าบ้านแบบนี้ได้ยังไง ถ้าพี่กลับมาช้ากว่านี้โมโมะคงหนีกลับไปก่อนแล้วมั้ง”
ที่แท้ผู้หญิงที่ตามจองยอนเข้ามาด้วยก็คือคนคุยของแชยองเองสินะ
เห้อ—โล่งอกไปที
นายอนพึมพำในใจ ยอมรับว่าเธอก็แอบใจหายเล็กน้อยที่เห็นจองยอนเดินมากับผู้หญิงคนอื่น ถึงโมโมะจะเป็นคนที่กำลังศึกษาดูใจกับแชยองก็เถอะ เธอเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความรู้สึกบางอย่างกำลังวิ่งเข้ามาในหัวสมองของเธอ—ความรู้สึกเหมือนคนกำลังรู้สึกหงุดหงิด หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ‘หึง’ นั่นแหละ
“วันนี้ฉันให้พี่โมโมะนอนค้างที่นี่กับฉันนะคะ” แชยองเอ่ยขอพลางปั้นใบหน้าออดอ้อนพี่สาว
“พี่โมโมะจะได้ไม่ต้องกลับหอดึก มันอันตราย”
“...”
“นะพี่จองยอน น้าาาา”
ท่าทางออดอ้อนกับริมฝีปากที่เริ่มเบะทำเอาคนเป็นพี่ต้องใจอ่อนให้กับน้องสาวตัวดีเช่นเคย ไม่นานนักภาพของคนตัวเล็กกำลังประกบริมฝีปากบนอวัยวะเดียวกันกับคนผมสั้นปรากฏต่อหน้า ทำเอานายอนถึงกับถลึงตาโตด้วยความตกใจ
โอ้มายก้อช—
“โปะโปะให้รางวัลพี่สาวคนน่ารักของฉันนะคะ”
แชยองฉีกยิ้มกว้างอย่างไร้เดียงสาก่อนจะจูงมือโมโมะเข้าไปเก็บของในห้องนอนส่วนตัว บรรยากาศในห้องรับแขกกลับเงียบสงัด เหลือไว้แต่ความงุนงงและตกใจของนายอนไม่ใช่น้อย
Y E O U I N A R U S T A T I O N
จองยอนฉีกยิ้มออกมาหลังจากปรุงอาหารจานสุดท้ายเสร็จ ทุกๆปีในวันเกิด เธอมักจะทำอาหารอยู่กับบ้านให้ครอบครัวและคนสนิทกิน การออกไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน หรือจัดปาร์ตี้เลี้ยงวันเกิดแบบยิ่งใหญ่คงไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ของเธอ
“ดีจังที่ได้คุณมาช่วย อาหารเสร็จเร็วกว่าที่คิดเยอะเลย”
ร่างสูงเหลือบมองอีกฝ่ายที่กำลังจัดจานอย่างตั้งใจ กลิ่นหอมของมื้อเย็นลอยแตะจมูกจนแทบจะทนไม่ไหว เธอโน้มใบหน้าเข้าใกล้อาหารจานล่าสุดที่นายอนเพิ่งจัดมันเสร็จ ก่อนจะสูดรับความหอมของมันอย่างตั้งใจ
“ห๊อมหอมเนอะคุณ”
ใบหน้าที่ยื่นเข้ามาทำให้ระยะห่างของเธอและหล่อนใกล้กันมากขึ้น จองยอนจ้องมองไปยังแววตาของคนตรงหน้าที่กำลังเหงื่อไหลพราก
“นี่คุณเป็นอะไร? ดูเงียบๆตั้งแต่ฉันกลับมาแล้วนะ”
นายอนส่ายหน้าเบาๆ หล่อนทอดสายตามองไปทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงแววตาคู่เดิมที่กำลังจ้องมองหล่อนโดยไม่คิดจะละสายตา
“ถ้าคุณไม่พูด ฉันก็จะจ้องคุณอยู่แบบนี้แหละ”
จองยอนยกยิ้มยั่วพลางเล่นหูเล่นตาใส่อีกฝ่าย
“...”
จ้อง
“ว่าไงล่ะคุณ จะบอกหรือไม่บอกคะ?”
“...”
จ้อง
จะจ้องจนกว่านายอนจะพูดออกมา
นายอนเป็นคนเก็บอาการไม่เก่ง เมื่อใดที่หล่อนรู้สึก นึก คิด อารมณ์เหล่านั้นจะถูกถ่ายทอดผ่านแววตาและสีหน้าออกมาอย่างไม่สามารถปกปิดได้
และตอนนี้จองยอนอ่านใจของนายอนออก
หล่อนกำลังรู้สึกไม่พอใจ แต่ด้วยเหตุผลอะไรนั้น จองยอนก็ไม่อาจรู้ได้
“คุณจูบกับผู้หญิงแบบนี้ทุกคนเลยหรอ?”
หรือนี่จะเป็นเหตุผลที่ทำให้นายอนเงียบไป
“แชยองเป็นน้องสาวของฉัน เราสนิทกันมากค่ะ จะจูบกันก็ไม่แปลกหนิคุณ”
เธอระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ ท่าทีเป็นกังวลของอีกฝ่ายทำเอาจองยอนรู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก
“แค่แตะปากกันเอง ฉันไม่ได้จูบกันแบบดูดดื่มเหมือนในซีรีย์สักหน่อย อีกอย่างนะคุณ ฉันไม่ใช่พวกที่ไล่จูบกับคนอื่นไปทั่วหรอกนะ”
พี่น้องจูบกัน—ไม่เห็นจะมีอะไรมากกว่านั้นเลย
“อย่างนั้นถ้าฉันสนิทกับคุณมากกว่านี้” นายอนเอ่ยเสียงแผ่ว
“เราก็จูบกันได้สินะคะ”
ถามอะไรออกไปเนี่ย!
คนบางคนที่ไม่มีประสบการณ์เรื่องความรักคงยากที่จะเข้าใจการกระทำเหล่านั้น จองยอนดูออกว่านายอนไม่ใช่ผู้หญิงที่มีพิษมีภัย แต่เธอเองก็ยอมรับว่าแอบตกใจกับประโยคที่หล่อนถามออกมาไม่ใช่น้อย
“แล้วคุณคิดว่าเราสนิทกันพอหรือยังล่ะ?”
ใบหน้าสวยโน้มเข้าใกล้อีกฝ่ายจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ปะทะบนใบหน้า สายตาจดจ้องคนไร้เดียงสาโดยไม่คิดจะละ มุมปากยกยิ้มอย่างพอใจ จองยอนเคลื่อนปลายจมูกเข้ามาใกล้จนเกือบจะแตะกับส่วนเดียวกัน ฝ่ายนายอนไม่คิดจะค้านการกระทำของเธอ—หล่อนเพียงแต่หลับตาปี๋พลางกัดริมฝีปากล่างของตัวเองแน่น
“คุณมันไร้เดียงสา”
จองยอนหยุดการกระทำไว้แค่นั้น โดยที่เธอไม่คิดจะล่วงเกินอีกฝ่ายเลยสักนิด
ไร้เดียงสาเหลือเกิน อิม นายอน
สิ้นเสียงกระซิบแผ่ว จองยอนจึงถอยใบหน้าออกห่างจากสาวฟันกระต่ายทันที ส่วนฝ่ายนายอนตอนนี้เหมือนถูกถอดวิญญาณออกจากร่างไปเสียแล้ว หล่อนยืนแข็งทื่อเหมือนกับรูปปั้นหิน ริมฝีปากขบเม้มเป็นเส้นตรง เม็ดเหงื่อไหลซึมบนใบหน้า รวมถึงใบหูที่ถูกแต้มด้วยสีแดงระเรื่อ
“ฉันจะจูบคุณก็ต่อเมื่อคุณเป็นแฟนของฉันเท่านั้นนะคะ เพื่อนสนิทน่ะมันจูบกันไม่ได้หรอกนะ”
จองยอนเอ่ยเสียงแค่นหัวเราะในลำคอให้กับความไร้เดียงสาของคนตรงหน้า อันที่จริงเธอเองก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน การกระทำเมื่อก่อนหน้านี้เธอเพียงต้องการแค่แกล้งนายอนเล่นเท่านั้น แต่ทำไมถึงรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาเสียดื้อๆ เธอหันหลังขวับเพื่อแก้เก้อก่อนจะหยิบจานอาหารไปเสิร์ฟบนโต๊ะกินข้าว
หารู้ไม่ว่ามีใครบางคนแอบหน้าชากับคำว่า ‘เพื่อน’
“จองยอนอา”
ร่างสูงหยุดกึกพลางหันไปตามเสียงเรียก
“ฉันคิดว่าฉันชอ—”
แกรก
“หอมจัง! หอมทะลุเข้าไปในห้องนอนของฉันเลยนะเนี่ย ฝีมือพี่สาวไม่ธรรมดาจริงๆ”
สาวฟันกระต่ายยังไม่ทันพูดจบประโยค เสียงลูกบิดประตูดังแทรกขึ้นมาพอดิบพอดี ก่อนจะปรากฏร่างเล็กและสาวญี่ปุ่นอีกคนในชุดนอนแสนบาง บางจนสามารถมองทะลุเห็นด้านในได้เลย
“แชยองอา” จองยอนเอ่ยชื่อน้องสาวด้วยน้ำเสียงเรียบ
“อุ่ย—ฉันเข้ามาผิดจังหวะหรือเปล่าคะเนี่ย”
ผิดจังหวะรุนแรงเลยค่ะแชยอง
นายอนฉีกยิ้มแก้เก้อ เธอเร่งฝีเท้าเข้ามาใกล้เจ้าของวันเกิดก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าคนสูงกว่า มือเรียวหยิบกล่องของขวัญขนาดเท่าฝ่ามือพลางยื่นมันให้กับคนตรงหน้า
นายอนใส่ใจจองยอนมาก
หล่อนไม่ลืมที่จะพกของขวัญติดตัวมาด้วยในวันเกิดของเธอ
“เมื่อกี้คุณจะพูดว่าอะไร”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
ความกล้าที่เคยมีมันหายวับไปกับตา
อันที่จริงจองยอนก็อยากรู้ความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีให้เธอเหมือนกัน อยากรู้มาตลอด อยากรู้ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบและพูดคุย จองยอนไม่ใช่คนโง่—ที่จะดูไม่ออกว่านายอนคิดยังไงกับเธอ แต่มุมมองความรักของเธอที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้เธอรู้สึกกลัว กลัวที่จะปล่อยความรู้สึกไปกับความรักที่เป็นเพียงเรื่องโกหก—เหมือนกับที่เธอเคยถูกทำร้ายหัวใจจนรู้สึกเจ็บปวด และกลายเป็นคนกลัวความรักไปโดยปริยาย
“แค่ฉันจะบอกคุณว่า—”
“…”
“สุขสันต์วันเกิดนะคะ ยู จองยอน”
สุดท้ายแล้วนายอนก็ไม่กล้าที่จะพูดมันออกไป
:)
TBC.
Yeouinaru Station
#สถานียออินารุ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ว้ายยยยยยยยย ไม่ใจเลยอ่าาา