ตอนที่ 11 : EP.10
EP.10
:)
“รบกวนห่อโมเดลใส่กล่องของขวัญให้ด้วยนะคะ”
“ได้ค่ะ”
เหตุผลที่ทำให้จองยอนเลือกของชิ้นนี้...ก็เพราะซานะชอบมันมากๆ
“เอ้อ—ว่าแต่ที่นี่มีบริการส่งพัสดุไปต่างประเทศแบบด่วนไหมคะ?”
“มีดีเอชแอลอยู่ที่ชั้นกราวน์ค่ะลูกค้า เดินลงบันไดเลื่อนเลี้ยวซ้ายเจอเลย”
“ขอบคุณค่ะ”
เงินเก็บหายวับไปทันทีที่บัตรเครดิตถูกรูดชำระไปหนึ่งแสนสามหมื่นวอน เป็นครั้งแรกในรอบปีที่จองยอนใช้เงินขนาดนี้ ต่อให้ที่บ้านจะมีฐานะและมีหน้าที่การงานเป็นของตัวเองก็เถอะ
ความขี้งกมันไม่เข้าใครออกใครนี่นา
“หวังว่าจะชอบนะ” เธอบ่นพึมพำก่อนจะห่อโมเดลตัวจิ๋วด้วยวัสดุกันกระแทกอย่างดีเพื่อส่งมันให้กับคนรักเก่า
ใช่—จองยอนไม่ได้ไปร่วมงานแต่งของซานะที่อเมริกา
ก่อนวันแต่งงานของซานะหนึ่งวัน
คาทก คาทก
เสียง Kakao Talk ดังแจ้งเตือนบนสมาร์ทโฟนเครื่องโปรดของยู จองยอน หญิงสาวถอดหูฟังออนเอียร์ก่อนหันมาโฟกัสกับข้อความบนหน้าจอ
‘ยู จองยอน! ขอบคุณมากนะสำหรับของขวัญแต่งงาน - Sana’
‘อื้ม ของถึงอเมริกาไวเหมือนกันนะ เธอชอบมันไหมล่ะซาจัง?’
‘ชอบมากเลย! - Sana’
‘ขอบคุณนะ...ที่เข้าใจ - Sana’
‘อื้ม :)’
‘ว่างไหมจองยอน? ขอฉันคุยกับเธอสักแปปนะ - Sana’’
เสียงใสที่คุ้นเคยดังผ่านปลายสายทำเอาจองยอนเผลอฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอถือโอกาสช่วงพักกลางวันเพื่อ Voice call กับซานะ ถ้าเทียบเวลาเกาหลีกับอเมริกาตอนนี้—ที่นั่นก็จวนจะห้าทุ่มแล้วซานะยังไม่หลับไม่นอนอีกหรอ สงสัยจะตื่นเต้นสำหรับงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้ล่ะมั้ง
“ดีใจด้วยนะ เธอกำลังจะเป็นเจ้าสาวแล้ว...คงจะสวยน่าดู”
อันที่จริงจองยอนเองก็ยอมรับความจริงมาได้สักพักแล้วล่ะ เธอไม่ใช่คนไร้เหตุผลอะไรขนาดนั้น
“ฉันอยากขอโทษสำหรับทุกเรื่องและขอบคุณที่เธอเข้าใจฉันนะ”
“ขอบคุณจริงๆ...”
ถึงจองยอนจะไม่เห็นใบหน้าของหล่อนในตอนนี้ก็พอจะเดาออกว่าคนขี้แงกำลังร้องไห้ เสียงสั่นเครือบ่งบอกว่าคนปลายสายกำลังงอแงเป็นเด็กน้อย
“ขอโทษนะจองยอนที่ฉันเดินออกมาแบบนั้น ขอโทษที่ฉันทำให้เธอเสียใจ ทั้งๆที่ฉันเองก็รักเธอมาก ยู จองยอน”
ความรักไม่ใช่สิ่งสวยงามของมนุษย์ทุกคนเสมอไป บางครั้งมันก็เหมือนกับหนามที่คอยทิ่มแทงหัวใจ แต่มันก็ไม่ถึงกับเจ็บปวดรวดร้าวแทบปางตายหรอก ถูกไหมล่ะ?
ความรักไม่เคยทำร้ายใคร
มีเพียงเราเท่านั้นที่ปล่อยให้ความรู้สึกลวงหลอกที่หน้าตาคล้ายกับ ‘ความรัก’ เข้ามาทำร้ายหัวใจของตัวเอง
“นี่ซานะจัง...เธอฟังฉันดีๆนะ” จองยอนกระแอมเสียงเล็กน้อยเพื่อปกปิดไม่ให้อีกคนได้ยินความอ่อนแอ
“ต่อให้เรายังรักกันมากแค่ไหน แต่ความฝันของเรามันกลับเดินคนละทาง วันนั้นฉันไม่ทันได้เก็บอารมณ์ของตัวเองเลยพูดไม่ดีใส่เธอไปแบบนั้น แต่ตอนนี้...ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้วนะ”
“จองยอนอา”
“บางที...การยืนมองซานะจังมีความสุขในเส้นทางของตัวเอง มีความสุขในสิ่งที่เหมาะสม มันคงจะดีกว่าการรั้งเธอให้อยู่กับฉัน บางที...การอยู่ห่างกันแบบนี้มันอาจจะดีกว่าตอนอยู่ด้วยกันก็ได้เนอะ จริงไหม?”
รู้ตัวอีกทีก็ใกล้หมดเวลาพักเที่ยงแล้ว จองยอนยังไม่ได้กินข้าวและคิดว่าคงจะไม่ได้กินข้าวกลางวันแล้วล่ะ ในเวลานี้เธออยากคุยพูดคุยกับคนรักเก่ามากกว่า เพราะรู้ว่ามันเป็นครั้งสุดท้าย
“เธอคือคนที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันเลย เธอรู้ตัวไหม”
“แต่คนดีก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นคนที่รัก ใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ” จองยอนแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน
“ฉันแอบใจหายนะที่จู่ๆเธอก็แต่งงาน วันที่เธอปล่อยมือฉันไป...มันเจ็บปวดมากเลยรู้ไหม”
“…”
“แต่มันคงจะเจ็บปวดกว่านี้ถ้าเรายังฝืนอยู่ด้วยกัน”
น้ำตาค่อยๆไหลออกมา จองยอนยอมปลดปล่อยความอ่อนแอและให้สัญญากับตัวเองแล้วว่ามันจะเป็นน้ำตาหยดสุดท้ายสำหรับผู้หญิงที่ชื่อมินาโตะซากิ ซานะ
“ขอให้เธอได้เป็นนักบินอย่างที่ฝันนะซานะ หวังว่าวันหนึ่งเธอจะมองกลับมาหาฉันจากดาวสักดวง”
“จองยอนอา ฉันรู้สึกผิดจนพูดไม่ออกเลย คือฉันไม่อยากให้เธอรักฉัน—”
“ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงนะ” เธอตัดบท
“เพราะฉันกำลังมีความรักครั้งใหม่แล้ว”
รอยยิ้มบางส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์ถึงคนรับจะไม่เห็นแต่ก็พอจะเดาออก ประโยคสุดท้ายดังออกมาด้วยความจริงจังก่อนสาวผมสั้นจะกดตัดสายคนรักเก่าทิ้งไป
พอกันทีความอึดอัดบ้าๆนี้
จองยอนรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อได้เปิดใจคุยกับคนรักเก่า...เป็นครั้งสุดท้าย
Call Ended…
.
.
.
.
.
‘ผู้หญิงคนนั้นใช่คนในรูปปกคาทกเธอหรือเปล่า - Sana’
‘อือ’
‘อิม นายอน คือผู้หญิงที่ฉันรัก’
Y E O U I N A R U S T A T I O N
ถนนสายเดิมมากด้วยผู้คนเนื่องจากเป็นเวลาเลิกงานของพนักงานออฟฟิศละแวกนี้ จองยอนไม่ชินกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวสักเท่าไร ตั้งแต่ย้ายบริษัทมา—ถ้าเป็นไปได้ก็จะไม่ขับรถมาเองแบบนี้หรอก เหนื่อยก็เหนื่อย ไหนจะต้องวนหาที่จอดก่อนเข้าบริษัทอีก
“แชยองอา พี่จะซื้อของกลับไปทำอาหารเย็นให้กิน เอาไรไหม”
“ขนมที่ฉันชอบ โซจูรสพีช ไก่ทอด ต็อกโบกีด้วย”
เด็กอะไรวะเนี่ย เรื่องมากเหลือเกิน
“ขนมอะไรของแก พี่จำไม่ได้”
“โถ่พี่จองยอน แกล้งลืมหรือไม่ใส่ใจน้องสาวอะ” คนปลายสายบ่นอุบ
“ก็เยลลี่ที่พี่นายอนซื้อมาให้ฉันครั้งที่แล้วไง”
“เออๆรู้แล้ว แค่นี้นะ รีบกลับบ้านล่ะ”
จองยอนสอดส่องไปทั่วเชลฟ์สินค้าหมวดขนมหวาน สายตาปะทะเข้ากับซองสีเขียวของเยลลี่ยี่ห้อหนึ่ง นอกจากมันจะเป็นเยลลี่ที่แชยองชอบกินแล้ว—มันยังเป็นของที่นายอนชอบมากๆอีกด้วย
“คุณแน่ใจหรอว่าจะซื้อขนม” คนตัวสูงเลิกคิ้ว
“แน่ใจที่สุดเลยค่ะ”
นายอนยิ้มกว้างเผยฟันกระต่าย ดูท่าแล้วคนที่คาดว่าจะมีความสุขกับขนมขบเคี้ยวนั้นจะไม่ใช่แค่แชยองคนเดียวแล้วสิ
เธอเองก็ดูมีความสุขกับชั้นวางเยลลี่เอาเสียมาก
“นี่คุณ หยิบเยลลี่เยอะไปแล้วนะ เดี๋ยวน้องสาวฉันก็อ้วนกันพอดีหรอก”
จองยอนส่ายหน้าเบาๆอย่างเอ็นดู
“นี่คุณไม่รู้อะไร เยลลี่ยี่ห้อนี้อร่อยมากเลยนะ”
นายอนบ่นอุบ ก่อนกวาดเยลลี่ลงตะกร้าเหมือนกับเธอตั้งใจจะเหมาเสียให้หมดทั้งชั้น
“แสดงว่าคุณอยากกินเองล่ะสิ ดูท่าทางคุณจะชอบเยลลี่จัง”
เห็นแล้วก็คิดถึงเหมือนกันนะ...โทรหาหน่อยดีกว่า
ตื๊ด......ตื๊ด
โทรไม่ติด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนายอนลืมชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือไว้หรือเปลี่ยนเบอร์กะทะหัน แหงล่ะ—เล่นทิ้งหล่อนไว้แบบนั้นก็แปลกที่จะโดนโกรธ จองยอนนะจองยอน...เมื่อไรจะเลิกสักทีไอ้นิสัยทำอะไรตามใจตัวเองเนี่ย
“โกรธเราหรอกหรอถึงหายไปแบบนี้”
คนเราโกรธได้ก็หายโกรธได้ นอกจากขนมกองโตสำหรับเด็กหญิงแชยองตัวน้อยแล้วจองยอนยังแอบซื้อดอกไม้ช่อโตมาง้อนายอนอีกด้วย ใบหน้ายิ้มแย้มของสาวแต้มบนใบหน้าสวยพร้อมเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี
“ดอกไม้ของใครเนี่ยสวยจัง มีสาวให้มาหรอ”
“สาวเสิวที่ไหนกันล่ะ พี่ตั้งใจจะเอาไปให้คุณนายอนต่างหาก”
แหม อยากจะเบะปากมองบนไปให้ถึงดาวอังคาร
“ยี้—เหม็นความรักอ่า” คนตัวเล็กเบะปาก
“ธรรมดา”
“เออนี่พี่จองยอน” แชยองกล่าวขึ้น
“ที่พี่เคยบอกให้ฉันไปหาพี่มินะอะ ฉันตัดสินใจแล้วนะ”
“ว่า?”
“ฉันเพิ่งรู้มาว่าพี่มินะบินกลับเกาหลีไฟล์ทเที่ยงคืนพอดี เลยว่าจะไปรับที่สนามบินคืนนี้ พี่ไปกับฉันนะ”
ไบโพล่าร์กินกันทั้งคู่แล้วพี่น้องคู่นี้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวนอยด์ นึกอยากจะเปลี่ยนใจก็ทำอะไรปุบปับไม่เกรงใจอาหารเย็นที่ซื้อมาเลย
“แล้วอาหารที่ฉันซื้อมาทำให้แกกินล่ะ จะเทกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ”
“ไม่ได้เทโว้ยค่ะ ก็กินให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปไงคะ เครื่องลงเที่ยงคืนนะไม่ใช่สองทุ่ม”
ผู้คนยังคงหนาแน่นแม้ในเวลาเกือบเที่ยงคืน วันนี้ท่าอากาศยานนานาชาติกิมโปดูจะครึกครื้นกว่าทุกครั้ง เหตุเพราะนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาต่างหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวกรุงโซลในวันคริสมาสต์
“คนเยอะจังไม่มีที่นั่งเลยอะ” หญิงสาวบ่นอุบต่อหน้าน้องสาว
“วันนี้ไอดอลวงตไวซ์บินกลับมาจากญี่ปุ่นพอดีน่ะพี่จองยอน พี่มินะก็น่าจะมาไฟล์ทเดียวกับพวกเขาด้วย ไหนจะนักท่องเที่ยวที่บินมาฉลองคริสมาสต์ที่นี่อีก คนเยอะก็ไม่แปลก”
“อ่อหรอ ก็ว่า...”
ลืมไปเลยว่าพรุ่งนี้เป็นวันคริสมาสต์
“งั้นพี่ไปหาอะไรร้อนๆดื่มก่อนนะ โคตรหนาวเลยวันนี้”
อุณหภูมิเพียงสามองศาทำเอาปลายจมูกขึ้นสีเลือด ขนาดสวมเสื้อผ้าเกือบสี่ชั้นยังไม่อาจต้านทานความหนาวได้สักเท่าไร ฮอตแพดส์และเครื่องดื่มร้อนเท่านั้นที่ช่วยให้อุณหภูมิร่างกายคงที่ บวกกับความอุ่นในสนามบินทำให้เธอไม่หนาวตายก่อนวัยอันควร
“กลับมาแล้วครับคุณหญิง ไม่ทราบว่าคุณหญิงอยากดื่มลาเต้ร้อนหรือช็อตโกแลตร้อนดีคะ?” จองยอนดัดเสียงกวนประสาทน้องสาว
“เอิ่ม...เป็นอะไรของพี่เนี่ย กินยาผิดขวดมาหรอ? คุณหญิงบ้าบออะไร ของแบบนี้มันต้องช็อคโกแล็ตร้อนอยู่แล้วสิ!” คนตัวเล็กรับเครื่องดื่มจากมือคนพี่
“เอ้อ! พี่จองยอนๆๆ”
“อะไร”
“พี่นายอนไปเที่ยวที่ไหนมาหรอ ทำไมพี่ถึงไม่บอกฉันล่ะว่าเขากลับโซลวันนี้”
คนตัวเล็กกำลังพูดถึงอะไร? จองยอนกำลังไม่เข้าใจ
“แกพูดถึงอะไร? พี่งง”
“ก็ระหว่างที่พี่จองยอนไปซื้อของอะ ฉันเหลือบไปเห็นพี่นายอนเดินออกมาจากเกทพร้อมผู้ชายตัวสูงๆ แต่ฉันไม่ทันได้เรียกอะ สองคนนั้นเดินขึ้นแท็กซี่ออกไปแล้ว”
“…”
“ฉันนึกว่าพี่รู้นะเนี่ย”
Y E O U I N A R U S T A T I O N
วันคริสมาสต์
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ”
รอยยิ้มเปื้อนใบหน้าสวยหลังสิ้นเสียงกระดิ่งประตูหน้าร้าน เหล่าสุนัขตัวเล็กใหญ่ส่งเสียงต้อนรับบ่งบอกว่ากิจการกรูมมิ่งที่นี่กำลังรุ่งเรืองด้วยจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น
“เอ่อ คุณนายอนอยู่ไหมคะ? พอดีฉัน...”
หญิงสาวผมสั้นหลุบมองช่อดอกไม้ในอ้อมแขนตัวเองด้วยความขวยเขิน ทำเอาพนักงานสาวสัญาชาติญี่ปุ่นแอบยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาเล็กน้อย
นี่แฟนคุณนายอนหรอ ไม่เบาเหมือนกันนะ เมย์พึมพำในใจ
“ขอโทษทีนะคะพอดีคุณนายอนกลับไปทานข้าวกับพ่อแม่ที่คังนัม สงสัยคืนนี้คงจะค้างที่นั่นเลย”
“เอ่อแต่ฉันก็ไม่แน่ใจนะคะ คุณนายอนไม่ได้บอกไว้ว่ากลับมาเมื่อไร แค่เดาว่าน่าจะเป็นแบบนั้นน่ะค่ะ”
“อ่าว งั้นหรอคะ” จองยอนเอ่ยเสียงแผ่วอย่างเสียดาย
“งั้นไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ”
จองยอนพลาดโอกาสที่จะได้เจอกับนายอนสองครั้งแล้ว สงสัยดอกไม้ช่อนี้จะเหี่ยวเฉาโดยไร้เจ้าของเสียแล้วล่ะมั้ง ก็ในเมื่อเจ้าตัวเขาไม่อยู่รับ—เธอจะเอาไปให้กันล่ะ คนที่จองยอนจะมอบมันให้ด้วยความเต็มใจ...
ก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ
“โกรธเราจริงๆด้วยสินะ”
เธอไม่อาจรู้ได้ว่านายอนเดินทางไปที่ไหน ไปทำไม และผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่ ความอึดอัดสะสมในหัวใจเป็นสัญญาณว่าเธอกำลังกังวลเรื่องของนายอนมากๆ
หรือที่เขาเรียกกันทั่วไปว่า ‘หึง’ นั่นแหละ
“เฮ้อ...”
ร่างสูงเดินทางจากอีแดมาถึงสวนสาธารณะแห่งเดิมที่คุ้นเคย การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสาธารณะมันก็ดีเหมือนกันนะ บรรยากาศที่ได้รับมันช่างแตกต่างกับการขับรถส่วนตัวโดนสิ้นเชิง หูฟังราคาแพงถูกสวมก่อนนิ้วเรียวเคลื่อนสัมผัสปุ่มเล่นเพลง บทเพลงช้าอาร์แอนด์บีบรรเลงขึ้นพร้อมพาหัวใจที่โดดเดี่ยวก้าวมายังริมแม่น้ำฮัน
เธอกลับมาที่สวนสาธารณะยออิโดอีกครั้ง สมองคิดฟุ้งซ่านถึงเรื่องราวต่างๆนาๆที่ไม่อาจหาคำตอบได้ ดูเหมือนว่าเรื่องราวเหล่านั้นที่ฉายอยู่ในสมองของจองยอนจะเป็นเรื่องของผู้หญิงที่ชื่ออิม นายอนเสียทั้งหมด เธอกำลังคิดถึงหล่อนอย่างปฏิเสธไม่ได้
ไม่สบายใจ
“โทรไปหาดีไหมนะ”
จองยอนฉุกคิดซ้ำไปซ้ำมา เธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะรำคาญที่เธอทำตัวเซ้าซี้แบบนี้ หญิงสาวนั่งคิดอยู่สักพักก่อนตัดสินใจกดโทรไปหานายอนเป็นสายสุดท้าย
สายสุดท้ายแล้วจริงๆ หวังว่าคุณจะรับนะ...นายอน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ยอโบเซโย”
หัวใจแทบหลุดจากออกเมื่อคนปลายสายพูดขึ้น ก้อนเนื้อในอกซ้ายสั่นระริกไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหูอีกครั้ง
นึกว่าจะไม่รับสายกันแล้วซะอีก
“คุณนายอน...”
“คุณจองยอน...อะเอ่อ” ฟังเสียงแล้วเหมือนคนปลายสายกำลังเดินหรือวิ่งอยู่อะไรทำนองนั้นแหละ
“แค่ฟังฉันก็พอนะ” จองยอนเอ่ยเสียงเรียบ
“แต่จองยอนฉัน—แฮ่กๆ”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แค่ฟังฉันก็พอ...นายอนอา ฉันขอโทษที่ทิ้งคุณไว้เมื่อเช้าวันนั้น ฉันขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่ทำให้คุณไม่สบายใจ และอยากขอโทษที่ฉันเคยบอกว่าฉันยังไม่พร้อมจะรักใคร”
“…”
“ที่ฉันโทรมาวันนี้ไม่ได้จะขอร้องให้คุณกลับมาคืนดีกับฉัน ไม่ได้จะขอร้องให้คุณกลับมาสนใจแค่ฉัน ที่คุณหลบหน้าฉันไปแบบนั้นน่ะ...ฉันรู้เรื่องที่คุณไปต่างประเทศกับใครคนนั้นแล้วนะ”
“เขาคงจะดีกว่าฉันใช่ไหมคะ? ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงทำได้แค่ยินดี—”
“จองยอนอา” นายอนแทรกเข้ามา หล่อนทนฟังจองยอนพูดอยู่ฝ่ายเดียวไม่ไหวแล้ว
“อย่าเพิ่งพูดได้ไหมคะ ฉันวิ่งไปฟังคุณพูดไปจนปอดจะหลุดแล้วนะ!”
“…”
“ผู้ชายคนนั้นคือเพื่อนของฉันค่ะ และอีกอย่างฉันก็ไม่ได้โกรธคุณด้วย แฮ่ก”
เรื่องทั้งหมดคืออะไร จองยอนงงไปหมดแล้ว
ว่าแต่นายอนกำลังวิ่งไปไหน? หรือกำลังออกกำลังกายอยู่บ้านที่คังนัมอยู่กันนะ
“อย่าเพิ่งวางนะคะ ฉัน—โอ้ย เหนื่อยจัง”
“…”
“ฉันไม่ได้หลบหน้าคุณค่ะ คุณจองยอน” หล่อนพูดไปหอบไป
“แล้วที่คุณหนีหายไปแบบนั้น ไม่ใช่เพราะว่าคุณโกรธฉันหรอกหรอ?”
ถึงจะไม่เห็นหน้าคนผมสั้นตอนนี้แต่ก็พอจะดูออกว่าอีกฝ่ายกำลังใส่ใจความรู้สึกของนายอนมากๆ
“ถ้าฉันโกรธคุณ...ฉันจะมาหาคุณทำไมล่ะคะ ยู จองยอน”
“…”
“หันหลังมาสิคะ”
หัวใจที่เต้นช้าลงเหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาตอนนี้มันกำลังเบ่งบานและถูกแต้มด้วยสีสัน จังหวะของชีพจรพลันเต้นเร็วขึ้นเมื่อใบหน้าสวยของสาวฟันกระต่ายเผยต่อหน้าเธอ เสื้อกันหนาวขนเป็ดตัวหนากับรองเท้าบูทสีดำนั้นดูดีอย่างเหลือเชื่อ
หัวใจสองดวงเคลื่อนที่เข้าใกล้กันมากขึ้นกระทั่งระยะห่างระหว่างทั้งสองเหลือเพียงสามสิบเซนติเมตร ชั้นหิมะที่กองอยู่บนพื้นราบบุบยุบลงไปเป็นรอยรองเท้าสองคู่ที่เคลื่อนที่เข้าหากันอย่างตั้งใจ
“รู้ไหมว่าวิ่งผ่าอากาศสี่องศามันหนาวมากเลยนะ”
“…”
ดวงตาสั่นไหวเมื่อจ้องมองคนตรงหน้า
“เพราะฉะนั้นคุณต้องรับผิดชอบฉัน...ด้วยการกอดนะ”
ร่างสูงไม่รอช้า—เธอสวมกอดคนตรงหน้าเพื่อรับไออุ่นท่ามกลางหิมะในวันคริสมาสต์ อ้อมกอดกระชับแน่น ความอุ่นถูกถ่ายทอดผ่านหัวใจที่กำลังเต้นตึกตัก ร่างเล็กซบลงบนอกคนสูงกว่าโดยไม่แคร์สายตาคนอื่น ความอบอุ่นแผ่ซ่านจากภายในพร้อมหัวใจที่มันกำลังเต้นดังว่า...
“อิม นายอน…ฉันรักคุณ”
นั่นคือประโยคที่นายอนรอคอยมานาน น้ำตาแห่งความสุขเอ่อล้นออกมาหลังสิ้นคำสารภาพจากคนปากแข็ง เสื้อตัวหนาที่ทับกันเกือบสี่ชั้นไม่อาจขวางกั้นหัวใจที่สั่นคลอน...มันกำลังร้องหาคนตรงหน้าดังขึ้น...ดังขึ้น
เรากอดกันท่ามกลางหิมะที่ร่วงโรย สีขาวโพลนบริสุทธิ์เหมือนเป็นสักขีพยานให้ความรู้สึกที่มีให้กันและกัน มันเป็นความรู้สึก...ที่ไม่อาจหาได้จากใครง่ายๆเลย
“นึกว่าจะไม่ได้ยินคำนี้ซะแล้ว”
นายอนฉีกยิ้มออกมาพร้อมน้ำใสที่หยดลงข้างแก้ม เธอแหงนมองใบหน้าเรียวเล็กที่ของอีกฝ่าย ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้ที่ไร้ซึ่งความเศร้า มือเรียวยกปาดมันออกอย่างอ้อยอิ่ง เป็นนายอนที่ทำหน้าที่ปลอบโยนจองยอนในครั้งนี้
หญิงสาวสูดลมหายใจเหน็บหนาวก่อนหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้ จองยอนหยิบสิ่งของรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ดูเหมือนจะเป็นหนังสือออกมาและยื่นมันให้กับเธอ
มันคือหนังสือนวนิยาย
“คุณจองยอน...”
“ลองเปิดหน้าสุดท้ายดูสิ”
ยังมีคนหนึ่งผูกพันกับความรักและความชัง ความรักที่เป็นเพียงอดีตแสนโหดร้าย ความรักที่เป็นเพียงเรื่องหลอกเด็ก
รักแท้...มันไม่มีจริงหรอก
.
.
.
.
.
ฉันเคยเชื่ออย่างนั้น...
กระทั่งฉันได้มาเจอกับคุณ...
'อิม นายอน'
“คุณจำที่ฉันเคยบอกคุณได้ไหม ว่าฉันเคยแต่งนิยายรัก” หล่อนฉีกยิ้ม ประกายตาคู่สวยบ่งบอกว่าคนตรงหน้าของจองยอนมีค่ามากๆสำหรับหล่อน
“ฉันแต่งมันจบแล้วนะ...และคุณคือคนแรกที่ได้อ่านมัน”
“…”
นายอนไม่ใช่คนโชคร้ายแล้วแหละ ความรักครั้งแรกของเธอมันยิ่งใหญ่และมีความหมายมากกว่าที่คิดไว้หลายเท่า กำแพงหัวใจหนาที่จองยอนสร้างมันไว้ปิดกั้นตัวเองกลับถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย
เพราะคนตรงหน้า...คืออิม นายอน
“ได้โปรดคบกับฉันเถอะนะ คุณนายอน”
:)
TBC.
Yeouinaru Station
#สถานียออินารุ
Talk...
เขาคบกันแล้วค่ะ อร้ากกกกกกกในที่สุดหิมะก็เป็นใจสักที เห้อ...เจอกันครั้งแรกในวันฝนตก สุดท้ายก็กลับมาคบกันในวันที่หิมะตก ณ สถานที่เดิม ยังไงก็...ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ หวังว่าทุกคนจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจในฤดูหนาวไม่มาก็น้อย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ค้างที่สูดดดด;-; รอนะคะะ //ขอบคุณไรท์ค่าา