ตอนที่ 1 : Prologue : When we first met
Prologue
:)
คุณเคยกลัวความรักหรือเปล่า?
เคยรู้สึกอยากวิ่งหนีความรักบ้างหรือเปล่า?
วิ่งหนีไปให้ไกล ไกลเท่าที่จะหนีได้ ก่อกำแพงหนาเพื่อปกป้องก้อนเนื้อข้างซ้ายที่กำลังเต้นอย่างไร้ความรู้สึก
“ฉันขอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่รักใครอีก”
หากคุณเคยถูกความรักทำร้ายจนหัวใจสลายเป็นผุยผง คุณจะรู้สึกเหมือนกันกับฉันว่ามันเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส
ถ้ามีความรักแล้วต้องทรมาน ขอไม่มีมันเลยจะดีกว่า
แต่จะเป็นไปได้ไหมที่มนุษย์เราจะใช้ชีวิตอยู่โดยไร้ความรัก?
ถ้าลองคิดในแง่ดี
บางทีเราอาจจะเผลอเดินสวนกับคุณความรักอีกครั้งโดยที่ไม่รู้ตัว
JEONGYEON’S PART
ชีวิตช่วงนี้มีแต่เรื่อง ‘น่าเบื่อ’ นั่นก็เพราะชีวิตขาดสีสันแต่งแต้มมาเป็นเวลาหลายเดือน หัวใจที่เคยเต้นแรงจากความรักนั้นหยุดเต้นลงตั้งแต่ใครอีกคนเดินจากไป ถ้าให้เทียบชีวิตของผู้หญิงคนนี้เป็นกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่ง—กระดาษแผ่นนั้นคงถูกแต้มด้วยสีเทาไปทั่วทั้งแผ่น เรียบง่าย ไม่มีลวดลาย ไม่มีสีสัน
การตื่นนอนตั้งแต่หกโมงเช้า ปิ้งขนมปังหนึ่งแผ่น ชงกาแฟอีกหนึ่งแก้ว รวมถึงการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อไปทำงานเป็นกิจวัตรประจำวันของ ยู จองยอน หูฟัง In-Ear รุ่นใหม่ล่าสุดที่เขาลือนักลือหนาว่าเสียงดีมีคุณภาพถูกสวมใส่เป็นประจำทุกเช้า เรียวมือกดเปิดเพลงโปรดที่ไม่ว่าจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากี่ครั้งเธอก็ต้องกดเปิดฟัง
“ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันลืมมันไปหมดแล้ว”
“ทั้งๆที่แกล้งทำเป็นเหมือนไม่เป็นอะไรแล้วนะ”
“แต่คืนนี้ยังคงคิดถึงเธอ”
เนื้อเพลง How's Your Night ของนักร้องหนุ่มสุดแสนโรแมนติกอย่าง J_ust บรรเลงขึ้นในระดับเสียงที่พอเหมาะ จองยอนหลับตาพริ้มเพื่อซึมซับความหมายของเพลงอย่างลึกซึ้ง
อันที่จริงมันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว
เธอควรจะลืมความรู้สึกเหล่านั้นสักที
เป้าหมายแรกหลังจากรถไฟฟ้าจอดลงที่สถานีแห่งเดิมคือตึกสูง 20 กว่าชั้นที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร ถึงจะไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกลมาก เดินเท้าเพียงแค่สิบห้านาทีก็ถึงที่หมายแล้ว
หญิงสาวรูปร่างสูงหุ่นนางแบบก้าวเข้ามายังสถานที่ที่คุ้นเคย ใบหน้าสวยฉีกยิ้มทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างเป็นมิตร จมูกโด่งสวยรับกับใบหน้า ดวงตาคมโต ริมฝีปากเฉียบคมและฟันที่เรียงสวยเป็นธรรมชาติ แน่นอนว่าจองยอนเป็นคนหน้าตาดีและอัธยาศัยดีจนใครต่อใครก็ยอมรับ แต่ด้วยบุคลิกที่ดูเหมือนผู้ชายทำให้ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะเข้าหาเธอสักเท่าไร
อันที่จริงแล้วจองยอนก็เป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง—
ที่ชอบผู้หญิงด้วยกัน
แต่ก่อนเธอก็มีบุคลิกเหมือนผู้หญิงทั่วไปนั่นแหละ ผมยาวสีบลอนด์ไว้หน้าม้า แถมแต่งตัวน่ารักเหมือนวัยรุ่นเกาหลีทั่วไป ทว่าทั้งหมดที่เธอทำไปก็เพราะความต้องการของใครบางคนเท่านั้น—คนที่พยายามเปลี่ยนเธอให้เป็นในแบบที่หล่อนชอบ คนที่บังคับให้เธอต้องเสียความเป็นตัวของตัวเอง แล้วแน่นอนว่าหล่อนคนนั้นคือ คนที่ทำร้ายหัวใจของจองยอนจนไม่เหลือชิ้นดี
ถ้าจะให้เล่าคงต้องใช้เวลาในการสาธยายหลายชั่วโมงเลยล่ะ เอาเป็นว่าอธิบายแบบรวบรัดไปก่อนนั่นคือจองยอนเคยรักใครคนหนึ่งมาก—มากจนให้ทุกอย่างในชีวิตได้ แล้วสุดท้ายก็ถูกเขาทิ้งอย่างไม่ใยดี
แต่ด้วยเหตุผลอะไรจะไม่พูดถึง
จะว่าไปทรงผมซอยสั้นเปิดหูก็ดูเหมาะกับจองยอน สไตล์การแต่งตัวที่เปลี่ยนไปจากเดิมคนละขั้วนั้นยิ่งทำให้เธอดูดีอย่างเหลือเชื่อ เสื้อยืดแขนยาวพับแขนขึ้นสองสามทบ กางเกงยีนส์สีอ่อน บวกกับรองเท้าผ้าใบสีขาวดูเหมาะกันไปหมด จองยอนเป็นคนสูง—ดังนั้นไม่ว่าเวลาเธอจะแต่งตัวแนวไหนก็ดูดีเสมอ
“ส่งดราฟเสร็จแล้วกลับก่อนเลยก็ได้นะคะคุณยู” เสียงใสจากหัวหน้าเอ่ยขึ้นอย่างเป็นกันเอง
อันที่จริงบริษัทที่จองยอนทำงานอยู่เป็นเพียงบริษัทเล็กๆเกี่ยวกับหนังสือ โดยเธออยู่ในตำแหน่งกราฟิกดีไซน์เนอร์ของฝ่ายศิลป์ จึงไม่แปลกที่เธอไม่ค่อยสวมเสื้อเชิ้ตหรือชุดยูนิฟอร์มที่มันดูเป็นทางการมาทำงานสักเท่าไร
อยู่ออฟฟิศทั้งวันคงน่าเบื่อจะตาย จริงไหม?
“งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะคะ” ถึงจะเกรงใจคนตรงหน้ามากเท่าไร แต่นิสัยชอบอยู่คนเดียวและความติสท์ของจองยอนทำให้เธอไม่คิดจะปฏิเสธ
วันนี้เป็นวันแรกที่เธอไม่ต้องทำงานเต็มวันเหมือนที่ผ่านมา ร่างสูงสวมหูฟังคู่เดิมพร้อมก้าวฝีเท้าไปยังสวนยออิโดที่อยู่ไม่ไกลจากออฟฟิศ นิสัยชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยกำเริบอีกครั้งเมื่อเธอมีโอกาสได้อยู่ลำพังอีกครั้ง
ยอมรับว่าจองยอนยังคิดถึงคนรักเก่าอยู่
แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความคิดถึง
ไม่ได้โหยหา
ไม่ได้ต้องการ
จวบจนพระอาทิตย์ตกดิน ความมืดเริ่มเข้ามาแทนที่แสงสว่างจากท้องฟ้า เม็ดฝนเพียงน้อยนิดตกลงปรอยๆพอชุ่มฉ่ำร่างกาย ร่างสูงพอใจกับการนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเพียงคนเดียวข้างริมแม่น้ำฮัน เธอเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเพื่อหลบฝน รู้ตัวอีกทีเจ้าตัวก็มายืนอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินแห่งเดิมแล้ว
ไม่บ่อยนักที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเกิดระบบขัดข้อง ปกติเวลานี้ต้องมีรถไฟฟ้ามาถึงสถานีแล้วแต่ด้วยเหตุสุดวิสัยบางอย่างทำให้ขบวนรถไฟช้ากว่าเดิมจวบหลายนาที ชีวิตที่เอื่อยๆไม่เร่งรีบคงกลายเป็นความเคยชินของจองยอนไปแล้ว การยืนรอรถไฟวันนี้ก็เหมือนกับชีวิตของเธอนั่นแหละ
ไม่รู้ว่าขบวนต่อไปจะขับมารับตอนไหน
เหมือนกับที่เธอไม่รู้ว่าความสุขจะหวนกลับมาอีกเมื่อไร
ความรักของเรามันก็เหมือนกับจดหมายที่ว่างเปล่า จดหมายที่ถูกส่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ผ่านอากาศ ผ่านเมฆปุยสีขาว กระทั่งมันตกลงที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้ หากเราศรัทธาว่าความรักยังคงมีอยู่ จดหมายฉบับนั้นมันอาจจะมีใครสักคนรับและเปิดอ่านมันแล้วก็ได้
ใครสักคนบนโลกใบนี้
รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว
การเผลอสบตากับคนแปลกหน้านั้นเป็นเรื่องปกติที่เธอพบเจอทุกวัน แต่ทำไมครั้งนี้เธอถึงรู้สึกแปลก
เหมือนคนที่เพิ่งเดินสวนกันช่างมีผลต่อหัวใจ
ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้นเพียงแว้บหนึ่งในขณะที่เธอเดินสวนกัน หล่อนมีผมที่ตรงสวยดำสนิท หน้าม้าบางนั้นดูเหมาะกับหน้าอย่างบอกไม่ถูก เรียวปากอิ่มดูน่าค้นหาถูกแต้มด้วยลิปสติกสีแดง
ทั้งที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยพูดคุย ไม่เคยแม้กระทั่งพบเจอกันมาก่อน กลิ่นหอมอ่อนๆจากน้ำหอมราคาแพง Acqua di Parma Magnolia Nobile ลอยแตะจมูกอย่างไม่ตั้งใจ จองยอนมีความสนใจเรื่องน้ำหอมจึงสามารถแยกแยะกลิ่นได้แค่เพียงปลายจมูก เธอหยุดกึกก่อนหันหน้ากลับไปมองเจ้าของน้ำหอมกลิ่นนั้นอีกครั้ง
ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ
หากลองคิดในแง่ดี
บางทีเราอาจจะเผลอเดินสวนกับคุณความรักอีกครั้งโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้
Y E O U I N A R U S T A T I O N
NAYEON’S PART
มีเรื่องราวแปลกใหม่เกิดขึ้นกับเราได้เสมอหากโลกยังคงหมุน
หญิงสาวผู้มองโลกในแง่ดีเชื่อแบบนั้นเสมอ เครื่องสำอางราคาแพงถูกแต้มลงบนใบหน้าสวยอย่างเป็นธรรมชาติ แลดูวันนี้เธอจะอารมณ์ดีกว่าทุกวัน เนื่องจาก อิม นายอน ได้มีเวลาส่วนตัวเพื่อการออกเดท
แน่นอนว่าไม่ใช่การเดทแบบคู่รักชายหญิงทั่วไป—เดทที่ว่าหมายถึงเดทกับเพื่อนฝูงที่ไม่ได้พบปะหน้ากันมาเป็นเวลาเกือบสองปี จริงๆมันก็แค่การนัดพบปะกันเพื่อพูดคุยนั่นแหละ ทว่าพวกเธอเรียกมันว่าการเดทเพราะทุกคนล้วนโสดสนิท
ไม่รู้จะเดทกับใครก็เดทกับเพื่อนเลยแล้วกัน
ดูเหมือนคาเฟ่ที่เพิ่งเปิดใหม่แถวสวนสาธารณะชื่อดังริมแม่น้ำฮันจะเป็นตัวเลือกแรกและตัวเลือกเดียวของนายอน เอาจริงแค่ได้มีเวลาว่างจากการทำงานมาเที่ยวกับเพื่อนแบบนี้เธอก็มีความสุข ถึงมันจะไม่ใช่ทริปใหญ่โตอะไร—เป็นแค่การนัดเจอกันเพื่อนเก่าเพื่อพูดคุยและเล่าเรื่องราวที่ตัวเองได้เจอมาก็เท่านั้น
นายอนมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ
“แล้วตอนนี้ชีวิตแกเป็นไงล่ะนายอน” เพื่อนสนิทเสียงแหลมเอ่ยถาม หลายปีแล้วที่ไม่ได้เจอหน้ากัน หล่อนยอมรับเลยว่าสาวฟันกระต่ายสวยและดูดีขึ้นมาก
“ก็ดีนะแก กิจการที่ร้านกำลังไปได้สวยมากเลยล่ะ”
Grooming & Petshop เป็นกิจการที่นายอนกำลังดูแลอยู่ตอนนี้ เธอเป็นคนรักสัตว์แต่ไม่มีความรู้เรื่องสัตวศาสตร์เลยสักนิด พ่อแม่ของเธอเห็นชอบสิ่งที่เธอโปรดปรานจึงลงทุนเปิดร้านให้เธอบริหารเอง เหล่าพนักงานทำงานเป็นสัดส่วนก็เพราะความเอาใจใส่ของนายอน แล้วแน่นอนว่าการบริการที่มีระบบระเบียบ พนักงานพูดจาไพเราะจนได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าในระดับดีเยี่ยม ทำให้กิจการของนายอนเป็นไปด้วยดีและขยับขยายจนเป็นธุรกิจใหญ่โต
เธอเป็นคนอ่อนโยนและใส่ใจทุกอย่างบนโลกนี้
“แล้วมีหนุ่มไว้ควงหรือยังคะคุณเพื่อน” เพื่อนสนิทอีกคนเอ่ยถาม
“ยังเลย ฉันยังไม่คิดเรื่องนี้อะแก”
แน่นอนว่าการใช้ชีวิตตัวคนเดียวมันมีความสุขมากจนเธออธิบายไม่ถูก ความรักคงยังไม่จำเป็นสำหรับเธอในตอนนี้หรอก ในเมื่อชีวิตมีความสุขอยู่แล้วจะหาเรื่องวุ่นวายมาใส่ตัวทำไมกัน? มีความรักก็ต้องมีความเจ็บปวดตามมาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว—มันเป็นสัจธรรม
“ไว้มาเจอกันใหม่นะ”
ผ่านไปหลายชั่วโมงสำหรับการแลกเปลี่ยนเรื่องเล่าที่ตัวเองได้พบเจอ ตอนนี้เป็นเวลาค่ำแล้วแถมฝนยังตกลงมาอีกด้วย—ทำไมถึงชอบตกในวันที่ไม่ได้เตรียมร่มออกมาจังนะ
หญิงสาวโบกมือลาเพื่อนสนิทอย่างเสียดาย
เธอเร่งฝีเท้ามายังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ใกล้ที่สุด นายอนไม่คุ้ยเคยกับสวนสาธารณะแห่งนี้สักเท่าไรเพราะเธอไม่ค่อยมาที่ละแวกนี้บ่อยนัก นานทีจะมาพักผ่อนหย่อนกายแต่ก็เพียงแค่เดือนละครั้งเท่านั้น
โชคไม่เข้าข้างเอาเสียเลยที่รถไฟฟ้าใต้ดินกลับดีเลย์ขึ้นมาเสียดื้อๆ ถ้ากลับบ้านดึกคงถูกแม่บ่นอีกตามเคย แต่จะให้ทำอย่างไรล่ะ? นายอนขับรถไม่เป็น แท็กซี่หรืออูเบอร์ก็คงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับเธอนัก การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าคงดีที่สุดแล้วสำหรับเธอ
เคยได้ยินประโยคนี้ไหม?
ความรักมักวิ่งหนีเราเมื่อเราวิ่งตามมัน
แต่กลับวิ่งเข้ามาหาเมื่อเราไม่ได้สนใจ
ก้อนเนื้อเท่ากำปั้นในอกซ้ายเต้นแรงเหมือนอาการเวลาถูกอาจารย์เรียกตอบคำถามหน้าชั้น นายอนยอมรับว่าเธอไม่คุ้ยชินกับอาการเหล่านี้สักเท่าไร สายตาที่เคยว่างเปล่ากลับมีใครบางคนปรากฏเข้ามา เธอเดินสวนกับใครบางคนในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจนหัวใจเกิดเต้นตึกตักเหมือนคนตกหลุมรักแต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว คิดให้เป็นกลางเขาอาจจะแค่ดูดีตรงสเปคหนุ่มในฝันของเธอก็เท่านั้น
ทว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย
เธอหยุดกึกหลังจากเดินสวนกับเขาอย่างไม่ตั้งใจก่อนตัดสินใจหันกลับไปมองเขาอีกครั้ง คิดเสียว่าอย่างน้อยวันนี้ก็บังเอิญเจอคนที่ทำให้ใจเต้นแรงถึงจะไม่ได้คิดถึงขั้นอยากเข้าหาหรือตกหลุมรัก
ขอมองอีกสักครั้งแล้วกัน เผื่อว่าวันต่อไปเราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
หัวใจที่ไม่เคยเต้นแรงกลับดื้อรั้นขึ้นมาเมื่อดวงตากลมโตกำลังมองมาที่เธอเหมือนกัน หญิงสาวยืนสบตากันในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินโดยทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
รอยยิ้มบางปรากฏต่อหน้านายอน เขายิ้มพลางก้มหัวเล็กน้อยก่อนเบือนหน้าหลบเธอ
ไม่มีใครรู้หรอกว่าต่างฝ่ายต่างรู้สึกใจเต้น
สองชีวิตยืนห่างกันเพียง 50 เซนติเมตร วินาทีที่รอรถไฟฟ้ามาถึงสถานีมันยาวนานแต่กลับรู้สึกเวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
อยากยืนอยู่ตรงนี้ให้นานทีสุดเท่าที่จะยืนได้
ยืนเฉยๆแบบนี้แหละ
แอบมองเขาโดยไม่คิดจะถามชื่อมันก็ดีเหมือนกันนะ
รถไฟฟ้ากำลังเข้ามาจอดตรงหน้าบ่งบอกว่าถึงเวลาที่เธอทั้งสองต้องแยกจากกันแล้ว มันน่าเสียดายนะถ้าไม่คิดจะเข้าไปทำความรู้จักอีกฝ่าย
ช่างมันเถอะเนอะ
เธอคงมีความสุขกับการแอบมองแบบนี้มากกว่า
TBC.
Yeouinaru Station
#สถานียออินารุ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ดีมากอ่ะไรท์เค้าจะร้องไห้แล้วววว
อือออออออออออ