ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mar-arch [ โลกาสังเคราะห์ ]

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : การเดิมพันที่สั่นประสาท

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.พ. 56


    ตอนที่ 2 การเดิมพันที่สั่นประสาท

                เทือกเขาพานุมเป็นแนวปราการทางธรรมชาติ ทอดยาวตั้งแต่ยอดดอยอินทนนท์เหนือสุดของอาณาจักรศยามจรดป่าดงพญาไฟ ป่าอาถรรพ์ที่เต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว ลือกันว่าถ้าหากผู้ใดหลงเข้าไปใกล้ก็จะถูกสะกดให้เข้าป่า เท่าที่มีรายงาน ไม่มีใครที่รอดชีวิตกลับมาได้ นอกจากจะมีเส้นทางเดินเขาที่ยากลำบาก ยังประกอบไปด้วยสิงสาราสัตว์และอมนุษย์มากมาย จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์สนใจดงพญาไฟ อีกส่วนหนึ่งก็มาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 11 เดือนที่ผ่านมา แรงสั่นสะเทือนที่ศูนย์วิจัยวัดได้ 8.1 ริกเตอร์ รุนแรงขนาดเท่ากับระเปิดปรมานูสองลูกลงติดกัน แน่นอนว่าทางรัฐบาลปิดข่าวเงียบ แต่บรรดาชาวบ้านในระแวก 20 กิโลเมตร ต่างตื่นตระหนกตกใจไปต่าง ๆ นานา ข่าวลือจึงแพร่ขยายไปในวงกว้าง ดึงดูดบรรดาผู้ท้าความตายให้เข้ามาค้นหาความจริง บ้างก็ต้องการดัง บ้างก็ลือว่าดงพญาไฟเป็นที่ซ่อนทองซึ่งสมัยหนึ่งเป็นที่อยู่ของเทวสถานสุวรรณคีรี กล่าวคือ เทวสถานที่สร้างด้วยทองคำ มีความสูงเท่ากับภูเขาหนึ่งลูก เชื่อกันว่าภายในสุวรรณคีรีมีน้ำอมฤทธิ์ที่ทำให้เป็นอมตะ บางก็เชื่อว่าหายนะของโลกกำลังจะมาถึง จนวันหนึ่ง บริษัท เซฟ โซลิจูด ได้ออกแถลงข่าวทางสถานีโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ของบริษัทว่า
                “เราจะส่งหน่วยกล้าตาย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ซึ่งเราคัดสรรค์มาเป็นอย่างดี เข้าไปสำรวจป่าดงพญาไฟ โดยทางบริษัทได้ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อขุดค้นหาความจริง ว่าอะไรอยู่ในดงพญาไฟ อะไรที่เป็นสาเหตุของแผ่นดินไหว”

                กระแสสังคมได้วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ไปต่าง ๆ นานา สองวันต่อมารัฐบาลได้ออกมาประกาศเตือนบรรดาประชาชนว่า “อย่าพึ่งตื่นตระหนกตกใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการสลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลก เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2012 เป็นต้นไปอาจจะมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ เรามาช่วยกันหาทางป้องกันและเตรียมตัวรับมือกับปัญหาโรคร้อนก่อนดีกว่า หากมีข่าวคราวที่แน่ชัดแล้วรัฐบาลจะรายงานให้ท่านทราบ โดยไม่มีการปิดบังอำพรางแต่อย่างใด”

    ในวันเดียวกันรัฐบาลก็ประกาศเพิ่มเติมอีกว่า “ห้ามไม่ให้มีการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ดงพญาไฟเป็นอันขาด เนื่องจากมีอันตรายรอบด้าน ทางเราไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยในชีวิตของท่านได้” พอสิ้นสุดการรายงานของโฆษกรัฐบาล ภาพก็ตัดไปที่ประธานบริษัทเซฟ โซลิจูด คุณอาร์รอน วิทยาการ ชายลูกครึ่งวัยสี่สิบต้น ๆ เขาเป็นถึงอภิมหาเศรษฐีติดอันดับโลก ทำธุรกิจเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัย ท่าทางน่าเชื่อถือ แววตาเป็นประกาย น้ำเสียงของเขาเรียบ ๆ แต่ทว่าหนักแน่น

    “ผมไม่รู้ว่าจะมีอะไรในดงพญาไฟ แต่เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของพ่อแม่พี่น้องที่จะรู้ความจริงให้ได้ ผมก็จะยอมทุ่มเงินส่งหน่วยกล้าตายออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ ตามที่เราได้ประกาศไปก่อนหน้านี่แล้ว หน่วยกล้าตายของเราได้มาจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญการเดินป่า ทั้ง พรานป่าจากหมู่บ้านสามเศียร หมอผีจอมขมังเวทย์ อดีตทหารเก่า แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ นักวิศวกร ฯลฯ ทั้งหมด 12 คนด้วยกันที่ตกลงเซ็นชื่อแบกรับความตายแทนพ่อแม่พี่น้อง เพื่อความจริงที่ไม่อาจบิดเบือนได้ เราควรภาคภูมิใจในความเสียสละของพวกเขาเหล่านี้ ทางบริษัทได้ทำการติดกล้องโทรทัศน์ทางไกลเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เห็นชัด ๆ ด้วยตาของตนเองไปเลยว่าความจริงเป็นอย่างไร”

     

    ณ ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งอาณาจักรศยาม

                “ดร.พาร์คเกอร์ครับ มีโทรศัพท์ถึงคุณ”

                “อ่อ ขอบคุณมาก”

                “ฮัลโล พาร์คเกอร์พูดครับ”

                “ผมพลโทอัศวินพูด คุณได้ดูข่าวตอนเช้าหรือยัง”

                “อ่อครับ ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหานะครับ ถึงแม้ว่าบ้านสามเศียรอยู่ใกล้กับศูนย์ฯ แต่ทางเข้าดงพญาไฟก็อยู่อีกเส้นทางหนึ่ง ปกติชาวบ้านจะใช้เส้นทางลัดเลาะไปตามไม่น้ำอิรวารีขึ้นไป ไม่มีใครรู้ว่ามีเส้นทางลัดจากศูนย์เราถึงดงพญาไฟเลย ผมว่าเรื่องนี้ท่านไม่ต้องห่วง เรามีเจ้าหน้าที่เพียงพอ แต่ละคนก็ชำนาญพื้นที่เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้พันนาวิน ธรรมโชติ”

                “ถ้าอย่างนั้นก็ดี คุณระวังตัวหน่อยล่ะ หูตาของเซฟมีเยอะ ไม่แน่ว่าในหน่วยอาจจะมีเกลือเป็นหนอนก็ได้ แล้วผมจะโทรหาใหม่”

                “ครับท่าน เรื่องนี้ผมก็สงสัยมานานแล้ว เอาไว้ถ้าหาตัวเจอจะรายงานท่านทันทีครับ”

                พอวางสายเสร็จ ดร.พาร์คเกอร์ถอนหายใจอย่างรุนแรง แล้วเดินออกไปข้างนอกศูนย์วิจัย มองไปทางตะวันตก ที่ที่ยอดเขาลูกหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าเขาสามพันเศียร ยอดเขาที่ในประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่าเป็นยอดเขาแห่งหายนะที่มีคนตายและถูกนำกะโหลกศีรษะไปเสียบแขวนตามต้นไม้ถึงสามพันกะโหลกหรืออาจจะมากกว่านั้น เมฆลอยต่ำคลอบคลุมเหนือยอดเขา ทำให้เกิดเงาดำทะมึนพาดผ่านหลังเขาไปถึงหมู่บ้านสามเศียร แม้ว่าแสงอาทิตย์เที่ยงวันจะส่องสว่าง แต่ที่นั่นในเวลานี้ดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก

                เขายืนมองอยู่นานแล้วเดินกลับเข้าไปในศูนย์วิจัย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×