หอมกลิ่นกระดังงาลนไฟ
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมเคยคบด้วย เธอเป็นพวก กระดังงาลนไฟ เธอเคยผ่านมือชายมาแล้ว เหมือนดอกกระดังงาที่ผ่านการลนไฟทำให้มีกลิ่นหอมยั่วยวนชวนลุ่มหลงเช่นเดียวกับกากี
ผู้เข้าชมรวม
850
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คุณเคยได้ยินเรื่อง ‘กากี’ ไหม?
หญิงสาวเลอโฉมผู้มีกลิ่นกายหอมกรุ่นชนิดที่ร่ำลือกันไปทั่วทุกสารทิศว่า
ชายใดสัมผัสถูกต้องผิวนาง กลิ่นกายนั้นก็จะติดตามตัวไปนานถึง 7 วัน
คุณจำได้ไหมว่า ‘กากี’ มีความสัมพันธ์ผู้ชายทั้งหมดกี่คน?
เริ่มจากการเป็นมเหสีของพระราชาแห่งเมืองพาราณสี...พรหมทัต
ต่อด้วยการถูกลักพาตัวไปเป็นชู้รักของพญาครุฑแห่งวิมานฉิมพลี...เวนไตย
ตามด้วยการเป็นชู้ของชู้รักของคนธรรพ์รำพัน...นาฎกุเวร
แล้วถูกลอยแพออกทะเลไปพบเรือสำเภาและกลายเป็นภรรยาเจ้าของเรือสำเภา...นายวานิช
จากนั้นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดตกบันดันไดพลอยโจนตกเป็นเมีย...หัวหน้าโจรป่า
ก่อนจับพลัดจับผลูขยับฐานะขึ้นเป็นราชินีของเจ้านครไพศาลี...ท้าวทศวงศ์
รวม 6 คน 6 ลีลา
มากกว่าวันทองและโมราถึง 4 คน
จึงเป็นที่มาของคำด่าผู้หญิงหลายชายว่า นางกากี หรือ อีกากี
คุณรู้ไหมว่า ผู้ชายทั้ง 6 ที่เคยสมสู่กับ ‘กากี’ มีบทบาทหรือจัดเป็นมนุษย์ประเภทไหนเมื่อว่ากันตามท้องเรื่อง?
พรหมทัต : ไว้ใจเพื่อนมากเกินไป
มีนัดเล่นสกาทุก 7 ปีกับพญาครุฑเวนไตยที่แปลงกายมาในคราบมานพรูปงาม แต่มัวเพลินเล่นสกาและฟังคนธรรพ์บรรเลงเพลงจึงไม่รู้ว่าคู่เล่นสกาของตนแอบส่งสายตาสื่อความนัยกับกากีเมียสาวแสนสวยเสน่ห์แรง
พญาครุฑ : เป็นพวกเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
รู้ทั้งรู้ว่ากากีเป็นเมียเพื่อน ยังลักพาไปเสพสมที่วิมานฉิมพลี มิหนำซ้ำ 7 ปีต่อมาเมื่อถึงกำหนดเล่นสกากับพระราชาพรหมทัตก็ยังแปลงกายเป็นมานพรูปงามมาตามนัด เล่นไปฟังคนธรรพ์รำพันไปอย่างหน้าตาเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนธรรพ์ : นักดนตรี นักสืบ นักรัก
สงสัยพฤติกรรมของอาคันตุกะประจำพาราณสีคือ พญาครุฑที่จำแลงมาในคราบมานพรูปงามจนเมียเจ้าของเมืองหายสาปสูญไร้ร่องรอย จึงอาสารับบทสายลับจับชู้รัก แปลงร่างเป็นตัวไรกระโดดเกาะมานพรูปงามรอเวลาเลิกเล่นสการ่ำลาพระราชาพรหมทัตออกมานอกเมืองแล้วคืนร่างกลับเป็นพญาครุฑบินสู่วิมานฉิมพลีโดยไม่ระแคะระคายว่ามีคนธรรพ์ในร่างตัวไรติดไปด้วย เมื่อมาถึงวิมานฉิมพลีก็กลายร่างกลับเป็นมานพรูปงามและเล่นรักกับกากีอย่างไม่รู้จกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยเพลีย
หลังจากนาฏกุเวรคนธรรพ์ลอบดูกากีเริงลีลาบทอัศจรรย์กับพญาครุฑอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งก็จับทางได้ว่า เจ้าสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งสัตว์ปากเจ่อจะเข้าไปในป่าหิมพานต์ตอนกลางวัน และจะกลับมาในตอนกลางคืน
วันหนึ่งเมื่อพญาครุฑไม่อยู่ คนธรรพ์ก็ออกมาเปิดเผยตนเองต่อกากี และเกี้ยวพาราสีจนนางตกลงใจยอมเป็นเมียเขาอีกคน และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา ทั้งคู่ก็มีนัด Make Love กันในตอนกลางวัน และแยกกันอยู่ในตอนกลางคืน ถือเป็นมหกรรมแห่งการสวมเขาซ้อนเขาอีกคู่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
วานิช : พ่อค้าบุญน้อย
นายวานิชแห่งเรือสำเภาที่ได้มาพบกับกากีซึ่งบัดเดี๋ยวนี้ถูกลอยแพอยู่กลางทะเล
ก่อนจะถูกลอยแพ กากีถูกพญาครุฑคาดคั้นเอาความจริงเรื่องว่านางได้ลักลอบเล่นชู้กับคนธรรพ์หรือไม่อย่างไรทำนองไหน เพราะก่อนหน้านนั้น พญาครุฑก็ถูกคนธรรพ์นำเรื่องคาวฉาวโฉ่มาแฉ เปิดโปงใส่สีตีไข่ต่อหน้าท้าวพรหมทัตขณะเล่นสกาด้วยกัน แม้จะอายขนาดไหนที่ถูกจับได้ว่าทรยศหักหลักเพื่อน แต่ก็จำต้องเสแสร้งทำหน้ามึนไม่รู้ไม่ชี้กลับวิมานฉิมพลี
พญาครุฑพยายามจะสอบสวนหาข้อเท็จจริง แต่มารยาหญิงร้อยแปดเล่มเกวียน จับยังไงก็ไม่ได้ไล่ยังไงไม่ทัน จนใจใช้วิธีถีบหัวส่งลงมาจากวิมานฉิมพลี ข้อหาสำส่อน!!!
ครั้นถูกพญาครุฑทิ้งขว้าง กากีก็ซมซานกลับไปหาผัวเก่าท้าวพรหมทัต แต่ก็ถูกเฉดหัวจับลอยเท้งเต้งออกทะเลโทษฐานที่ใจง่าย ไม่ซื่อสัตย์ ประพฤติตัวไม่เหมาะสม
ลอยไปลอยมาจนพบเรือสำเภาของนายวานิชซึ่งได้รับเกียรติให้เป็นสามีคนที่ 4 ของกากี แต่คงเพราะทำบุญมาน้อย วาสนาไม่หนุนนำ จึงได้ชื่นชมความงามนางอยู่ไม่กี่เพลา
เหตุเกิดเมื่อวันหนึ่งทอดสมอเรือขึ้นฝั่งมาเที่ยว ดวงซวยมาประสบพบหัวหน้าโจรป่าซึ่งใช้คาถาอาคมสะกดให้ทั้งคู่หลับ และพานางไปยังซ่องโจรของตน เมื่อนางตื่นขึ้นมาก็ไม่มีทางเลือกอื่น จำเป็นต้องตกกระไดพลอยโจน ยอมตกเป็นเมียหัวหน้าโจรป่าแต่โดยดี
โจรป่า : หื่นกระหาย
หัวหน้าโจรป่าเป็นผัวคนที่ 5 ของกากีอยู่ได้ไม่กี่น้ำก็ถูกลูกสมุนสังหาร เพราะต่างก็หื่นกระหายที่จะยัดเยียดความเป็นผัวให้นางด้วยกันทั้งนั้น แย่งกันไปแย่งมาก็เลยถูกตาอยู่เอาไปกิน ตาอยู่ที่ว่าคือ ท้าวทศวงศ์
ท้าวทศวงศ์ : เป็นตาอยู่ แต่มาทีหลังก็ต้องล้างจาน
กากีอาศัยจังหวะชุลมุนช่วงที่สมุนโจรทะเลาะแย่งชิงกันอยู่นั่นเองหลบเข้าไปในป่าและวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเอาตัวรอดจนไปพบกับท้าวทศวงศ์เจ้าครองนครไพศาลี ซึ่งออกประพาสป่าเพื่อลืมความโศกเศร้าที่สูญเสียพระมเหสีจากการให้กำเนิดรัชทายาท พระองค์เสด็จมาพบกากีร้องไห้อยู่เพียงลำพัง ความงามของนางทำให้พระราชาหม้ายเกิดเสน่หาในทันทีที่พบ หลังจากทรงสดับตรับฟังเรื่องราวอันแสนรันทดหดหู่ของนางแล้ว พระองค์ก็ไม่อินังขังขอบที่จะได้ชื่อว่ามาทีหลัง อิ่มทีหลัง ต้องล้างถ้วยล้างจาน ทรงนำนางกลับพระนครและแต่งตั้งให้เป็นพระมเหสีองค์ใหม่
เรื่องราวของกากีน่าจะเพียงเท่านี้ เพราะดูแล้วก็ถือว่า Happy ending แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า
...หลังจากพระราชาแห่งพาราณสีสั่งลอยแพกากี ก็ทรงโศกเศร้าเสียพระทัยจนทรุดโทรมและสวรรคตในที่สุด พระองค์ไม่มีรัชทายาทสืบบัลลังก์ บรรดาขุนนางอำมาตย์และชาวเมืองจึงพร้อมใจกันเชิญคนธรรพ์นาฏกุเวรขึ้นเป็นพระราชาองค์ใหม่
แม้นาฏกุเวรพระราชาจะปกครองเมืองด้วยความร่มเย็นเป็นสุข แต่ก็ไม่อาจลืมกลิ่นกามรสรักกากีได้ ทรงโหยหานางตลอดเวลาและทรงดำริเสมอว่า การที่นางประสบทุกขเวทนาสาหัสสากรรจ์ก็เพราะพระองค์ตีหน้าเศร้าเล่าความจริงปนเท็จต่อพระราชาพรหมทัตผู้ล่วงลับ จึงทรงตำหนิพระองค์เองที่ทำผิดต่อนางและพระราชาองค์ก่อน บัดเดี๋ยวนี้ทรงรู้จักหัวใจตนเองแล้วว่ามีความรักนางอย่างจริงใจ เป็นความรักแท้ และไม่ทรงสนใจอดีตของนางที่ผ่านมือชายมากี่คนก็ตาม
อยู่มาวันหนึ่ง พระราชานาฏกุเวรได้ข่าวว่ากากีเป็นราชินีของพระราชาแห่งเมืองไพศาลี โดยเปลี่ยนพระนามเป็นเทพอัปสร พระองค์รีบส่งสาสน์ไปยังท้าวทศวงศ์ ทูลความจริงให้ทราบ และขอร้องให้ส่งตัวนางกลับเมืองพาราณสี หลังจากอ่านพระสาสน์ ท้าวทศวงค์ทรงกริวกริ่วกริ้ว
“ชิชะ!!! ไอ้คนธรรพ์โอหัง ไอ้คางคกขึ้นวอ ไอ้กิ่งก่าได้ทอง ของใครใครก็หวง เมียใครใครก็รัก ตอนนี้น่างเป็นเมียตูข้าเฟ้ย ข้ารักของข้า บังอาจมาทวงคืนได้จะได”
เมื่อสองพระราชาตกลงกันไม่ได้จึงนำไปสู่การทำศึกชิงนาง ซึ่งในการรบทัพจับศึกกันทุกครั้ง ท้าวทศวงศ์จะเป็นฝ่ายชนะเสมอ เพราะความลับประการหนึ่งคือ ทรงใช้ช้างวิเศษที่สร้างด้วยฤทธิ์มนตราของพระองค์มาช่วยรบ ทำให้คงกระพันศาสตราวุธใด ๆ ก็ทำอันตรายไม่ได้
พระราชานาฏกุเวรนึกสงสัยในความแพ้ทางของตนเองว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลสักอย่าง ความช่างสงสัยได้นำไปสู่การใช้ทักษะนักสืบจับชู้รักสืบสาวราวเรื่องจนรู้ว่าความลับเกี่ยวกับช้างวิเศษของพระราชาคู่อริ จึงแก้ทางด้วยการเสกหนูขึ้นมาด้วยฤทธิ์มนตราของพระองค์บ้าง 'ช้างกลัวหนู' ด้วยเหตุนี้เอง ช้างวิเศษ ศิษย์ท้าวทศวงศ์จึงแพ้หนูวิเศษ ศิษย์พระราชานาฏกุเวร ทำให้นายของมันต้องพ่ายแพ้ในที่สุด
หลังจากนั้นพระราชานาฏกุเวรก็เสด็จกลับพระนครพร้อมกากี และทรงแต่งตั้งเป็นพระราชินี แล้วทั้งสองพระองค์ก็ทรงปกครองเมืองพาราณสีอย่างมีความสุขนับแต่นั้นมา
คุณสงสัยไหมว่า ผมหยิบยกเรื่อง ‘กากี’ ขึ้นมาเล่าเพื่ออะไร?
ผมเหตุผลมีอยู่ 2 ประการ
หนึ่ง...เรื่องกากีแฝงแง่คิดว่า ‘รักแท้ย่อมเอาชนะอุปสรรคทั้งปวงได้ในที่สุด’ เหมือนคนธรรพ์ซึ่งเริ่มจากการแอบมอง ลักลอบเป็นชู้ และต่อสู้จนได้ครอบครองกากีในบั้นปลาย
นั่นทำให้ผมรู้ว่า ชีวิตผมที่ผ่านผู้หญิงคนแล้วคนเล่ามาจนถึงวันนี้ ผมยังไม่เคยพบรักแท้หรือความรักซึ่งมากพอที่จะเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้
สอง...ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมเคยคบด้วย เธอเป็นพวก ‘กระดังงาลนไฟ’ เธอเคยผ่านมือชายมาแล้ว เหมือนดอกกระดังงาที่ผ่านการลนไฟทำให้มีกลิ่นหอมยั่วยวนชวนลุ่มหลงเช่นเดียวกับกากี ถึงแม้กลิ่นกายของเธอจะไม่หอมหวนติดตัวไปนานถึง 7 วัน แต่ที่ทำให้ผมจำได้ติดหูติดตาติดใจไม่ลืมเลือนก็คือ
คืนแรกที่เปลือยกายกระโจนสู่ห้วงดำฤษณา เรามีอะไรกันถึง 7 ครั้ง!!!!!!!
ผลงานอื่นๆ ของ PenสุขเกษมD ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ PenสุขเกษมD
ความคิดเห็น