ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SHORTFIC] all song of LOVE {HANHYUK3883}

    ลำดับตอนที่ #1 : STORYONE :; 撑伞 《คนถือร่ม》 {38.83%}

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 54


    แนะนำให้ปิดเพลงที่หน้าบทความหลักก่อนอ่านเรื่องนี้
    เพื่ออรรถรสในการอ่านที่เข้าใจถึงอารมณ์มากขึ้น
    พูดเหมือนไรเตอร์อธิบายดียังไงอย่างนั้นเนอะ 55 5 5 5 5 55






    - 撑伞คนถือร่ม -

     

     









    ซ่า ซ่า ซ่า ...

     

     

    หยาดฝนเม็ดแล้วเม็ดเล่าร่วงหล่นกระทบกับพื้นเสียงดังกึกก้อง  บนท้องฟ้าที่เคยสดใส ตอนนี้เต็มไปด้วยเมฆสีดำมึดครึ้มทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลาตะวันจะตกดิน  ริมทางเดินยังมีผู้คนต่างวิ่งขวักไขว่ไปมาอย่างวุ่นวายท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำพรำ  ยังคงมีผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง กับร่มอีกหนึ่งคัน

     

     

    ให้ตายสิ ... ตกทำไมวะ

     

                    ริมฝีปากหนาได้รูปขยับพึมพำกับตัวเองเบาๆ  ดวงตาคมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างเหลือร้ายกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณ   สิ่งที่พบเห็น ก็มีเพียงแค่ ฝนที่ตกลงมาไม่หยุดหย่อนและผู้คนที่วิ่งวุ่นวายอยู่รอบกาย 

     

     

    ครืนนนน ...

     

     

    เสียงฟ้ามึดครึ้มจากเบื้องบนส่งเสียงร้องคำรามอยู่กู่ก้อง  คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนแทบผูกเป็นปมโบว์   ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย  อากาศโดยรอบที่ชื้นจนเหนอะหนะจนทำให้อยากกลับบ้านไวๆเพื่อไปชำระร่างกายให้สบาย  แต่กลับหงุดหงิดใจเป็นทวีคูณ  เพราะว่ายิ่งฝนตกรถก็ยิ่งติดหนักเข้าไปกันใหญ่  สถานการณ์ตอนนี้ทำเอาชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ

     

     

                    ฝนตก คนก็อารมณ์ไม่ค่อยดี เซงโว้ย!

     

                   

                    สบถออกมาด้วบความขุ่นเคือง  ร่างกายไปไวเท่าความคิด  ขายาวเตะไปที่แอ่งน้ำขังตรงหน้าเต็มแรงจนน้ำกระเด็นเซ็นซ่านออกไปไกล

     

     

                    แผละ !

     

     

                    อ๊ะ !

     

     

                    เสียงร้องด้วยความตกใจดังอยู่ไม่ห่างไกลจากร่างสูงเท่าไหร่นัก   ร่างขาวบอบบางผู้โชคร้ายทกำลังวิ่งหลบฝนผ่านมาทางนี้เลยไปเสียเต็มเต็ม  ดวงตาคมเบิกตาโตราวกลับไข่ห่าน  ก่อนจะรีบขอโทษขอโพยโทษฐานที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าของร่างเพรียวเปอะเปื้อนน้ำสีดำขุ่นนั่นอย่างรวดเร็ว

     

     

                    ผมขอโทษครับ ขอโทษ .. คุณเปื้อนตรงไหนรึเปล่า?พูดไปก็ก้มหัวขอโทษไป

     

     

                    เอ่อ ... ไม่เป็นไรครับ  ไม่เป็นไร ร่างเพรียวระหงโบกมือไปมาเล็กน้อยเป็นเชิงปฏิเสธว่าไม่เป็นอะไรมากมายอย่างที่คนตัวโตวิตกกังวล  แต่เสียงหวานที่เล็ดลอดออกจากกลีบปากบางทำให้ชายหนุ่มชะงักไปชั่วระยะหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นเพื่อมองใบหน้าของอีกคนให้ชัดเจน

     

     

              เรียวตากลมโตที่จ้องมองมายังใบหน้าของชายหนุ่มด้วยความงุนงงสงสัย   ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มที่ร่างบางกำลังขบเม้มดึงดูดสายตาให้จับจ้อง  ผมซอยสั้นประบ่าสีโค้กล้อมกรอบใบหน้าเพียงเล็กน้อยขับให้ใบหน้าแลดูสวยหวานมากขึ้น  ดวงตาคมเผลอมองใบหน้าอีกคนไม่วางตา

     

                   

              “คุณ ... เป็นอะไรมั้ยครับ? สิ้นเสียงหวานที่ดังขึ้นอีกครั้ง  ร่างสูงก็ได้สติกลับคืน  พรวดพราดลุกขึ้นยืนตรงจนร่างบางตรงหน้าอดตกใจไม่ได้กลับการกระทำของอีกคน   มือหนากำร่มที่อยู่ในมือแน่น  ผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างเป็นธรรมชาติ ผิดกับก้อนเนื้อในหน้าอกซ้ายที่กำลังเต้นระส่ำดุจกลองชุดระรัว

     

     

                    ผะ .. ผมไม่เป็นไรครับ

     

              ร่างขาวยิ้มเล็กน้อยอย่างสุภาพ  ก่อนที่จะสังเกตที่ใบหน้าของชายหนุ่มอีกคน  ดวงตาคมทรงอำนาจและมีเสน่ห์ราวกับดวงแก้วของพญามังกรจากแผ่นดินใหญ่   จมูกโด่งเป็นสันคมกับริมฝีปากได้รูป ร่างกายกำยำสูงใหญ่และเต็มไปด้วยมัดกล้ามน้อยๆแลดูแข็งแรง แต่งตัวอยู่ในเสื้อเชิ้ตที่ถูกรีดจนเรียบกริบสีดำสนิทกับกางเกงแสลคสีมืด  คนตรงหน้าร่างบางจัดว่าเป็นคนที่ดูดีและหล่อไม่เบาเลยทีเดียว  แต่จู่ๆดวงตากลมโตสะดุดกับสิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาได้รูป

     

     

                    หน้าคุณเปื้อน ผมขอโทษนะครับ สอดมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง  หยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวเนื้อดีออกมาก่อนจะซับอย่างแผ่วเบาที่คราบน้ำดำขุ่นตรงแก้มขวาของร่างสูง  ดวงตาสีนิลจ้องมองการกระทำของร่างขาวตรงหน้า  หากร่างบางรู้สึกนิด ว่าการกระทำของเขานั้น  กำลังจะทำทำให้คนตัวใหญ่แทบล้มทั้งยืน !

     

     

                    ขอบคุณครับ

     

                   

     

    เอ่อ .. คุณจะว่าผมเสียมารยาทมั้ยถ้า ... ผมจะขออยู่ในร่มด้วยคน  ร่างเพรียวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงติดขัดเล็กน้อย   เมื่อคิดว่าเป็นการเสียมารยาทที่ต้องขอหลบฝนกับอีกคน   นั่นก็เพราะรอบข้างมีแต่ต้นไม้และทางเดินเท่านั้น  ไม่มีที่บังฝนได้เท่าในร่มของอีกคนแล้ว  คนตัวโตหยุดนิ่งไปชั่วระยะ  ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

     

     

     

                    อ่า .. ได้ครับ

     

     

     

                    เมื่อคนตัวโตอนุญาตเสร็จสิ้น  กายสองกายที่เรียกว่าแทบจะบดเบียดกันอยู่ภายใต้สิ่งที่กำบังนั่นคือร่มคันเล็ก  ฝนยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง .. แต่กลิ่นฝนไม่อาจกลบกลิ่นกายอ่อนๆจากร่างขาวที่ลอยโชยมาแตะจมูกของคนตัวสูง  กลิ่นนั้นช่างหอมหวานและโหยหวนราวกลับเรียกร้องให้อีกคนอยากที่จะสัมผัสกับกลิ่นนี้ให้มากขึ้น  กายหนาบดเบียดเข้าใกล้กับกายเล็กที่กำลังสั่นเทาด้วยความหนาวเหน็บ  ในใจยังคงพร่ำเพรียกร้อง  อยากหยุด .. หยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ หยุดไว้แค่นี้ ที่ๆเขากับร่างบางอยู่ด้วยกัน

     

     

     

                    แต่เหมือนฟ้าฝนจะไม่เป็นใจกับร่างสูงเท่าไหร่นัก .. คล้อยหลังจากนั้นไม่นาน  ฟ้าที่เคยมึดครึ้มก็สว่างขึ้น  จากเมฆฝนที่เคยปกคลุมทั่วทุกบริเวณจนมึดมนถูกเปิดด้วยท้องฟ้าแจ่มใส  และเริ่มทอแสงแดดอ่อนๆส่องประกายลงมา  หยาดน้ำฝนที่ตกกันอย่างต่อเนื่องเหลือเพียงแค่พรำเบาบางก่อนที่จะหายไป

     

     

     

                    มือขาวยื่นออกนอกร่มเป็นเชิงพิสูจน์ให้แน่ใจว่าฝนได้หยุดตกจริงๆแล้ว   เมื่อไม่มีหยาดน้ำสักเม็ดหล่นหยดใส่มือบาง  กายขาวก็พลิกร่างหันกลับมามองชายหนุ่มตัวโตแล้วโค้งก้มต่ำลง

     

     

     

                    ขอบคุณที่ให้หลบฝนนะครับ  กลีบปากแย้มยิ้มอ่อนๆ

     

                   

                    ไม่เป็นไรครับ อดเคลิบเคลิ้มไม่ได้ทุกทีกับรอยยิ้มที่หวานจับใจของอีกคน  ใบหน้าขาวที่เคยเจือสีแดงระเรื่อซีดลงไปเล็กน้อยเพราะอุณหภูมิรอบข้างที่เย็นจัด  ใจแกร่งแอบบีบแรงเบาๆด้วยความเป็นห่วงร่างบางข้างกายเกรงว่าจะเป็นลมล้มพับไป  แต่เจ้าของใบหน้าหวานก็หันมามาโค้งตัวต่ำๆอีกครั้ง

     

     

                   

              “งั้นผมขอตัวไปก่อนนะครับ

     

                   

     

                    กลีบปากแยกแย้มยิ้มหวานฉ่ำอีกเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนจะพาร่างเพรียวก้าวขาเดินออกไปจากจุดที่ยืนอยู่  ทิ้งให้คนตัวโตยืนจมอยู่กับห้วงความคิดตนเอง  และหัวใจที่เต้นที่เคยเต้นกระส่ำ  กลับวูบโหวงลงไปทันตาเห็น  สายตาคมยังคงจับจ้องไปที่แผ่นหลังของคนที่เดินจากไปไม่ละไปไหน

     

     

     

    ไม่ทันได้ถามชื่อเลยแหะ ...

     

     

     

                    ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มกับตนเองบางๆ  มือหนาเลื่อนมาวางทาบทับไปที่ตำแหน่งอกซ้ายอย่างแผ่วเบา  อัตราการเต้นของหัวใจมันแผ่วเบาเกินไปเสียจนรู้สึกว่ามันกลวงโบ๋และว่างเปล่า   เรียวคิ้วเข้มขมวดขึ้นด้วยความแปลกใจ   เกิดมาทั้งชีวิต  ฮันคยอง  ไม่เคยเจอเหตุการณ์เฉกเฉ่นนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว  สิ้นความคิดคนตัวสูงก็เผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง

     

     

     

                    คุณคงจะขโมยมันไปพร้อมกับประโยคนั้นสินะ ....

     

     

     

     

     

     

     

    ขอบคุณนะครับ ... คนถือร่ม

     

     

     

                   

           (38.83 %)      
    -撑伞-



    ขออนุญาตลงเพียงแค่นี้ก่อน แล้วไรเตอร์จะรีบปั่นให้เกิน 50% โดยเร็วครับ :’) 







    nu eng
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×