คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : STORYONE :; 撑伞 《คนถือร่ม》 {38.83%}
แนะนำให้ปิดเพลงที่หน้าบทความหลักก่อนอ่านเรื่องนี้
เพื่ออรรถรสในการอ่านที่เข้าใจถึงอารมณ์มากขึ้น
พูดเหมือนไรเตอร์อธิบายดียังไงอย่างนั้นเนอะ 55 5 5 5 5 55
- 撑伞《คนถือร่ม》 -
ซ่า ซ่า ซ่า ...
หยาดฝนเม็ดแล้วเม็ดเล่าร่วงหล่นกระทบกับพื้นเสียงดังกึกก้อง บนท้องฟ้าที่เคยสดใส ตอนนี้เต็มไปด้วยเมฆสีดำมึดครึ้มทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลาตะวันจะตกดิน ริมทางเดินยังมีผู้คนต่างวิ่งขวักไขว่ไปมาอย่างวุ่นวายท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำพรำ ยังคงมีผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง กับร่มอีกหนึ่งคัน
“ให้ตายสิ ... ตกทำไมวะ”
ริมฝีปากหนาได้รูปขยับพึมพำกับตัวเองเบาๆ ดวงตาคมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างเหลือร้ายกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณ สิ่งที่พบเห็น ก็มีเพียงแค่ ฝนที่ตกลงมาไม่หยุดหย่อนและผู้คนที่วิ่งวุ่นวายอยู่รอบกาย
ครืนนนน ...
เสียงฟ้ามึดครึ้มจากเบื้องบนส่งเสียงร้องคำรามอยู่กู่ก้อง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนแทบผูกเป็นปมโบว์ ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย อากาศโดยรอบที่ชื้นจนเหนอะหนะจนทำให้อยากกลับบ้านไวๆเพื่อไปชำระร่างกายให้สบาย แต่กลับหงุดหงิดใจเป็นทวีคูณ เพราะว่ายิ่งฝนตกรถก็ยิ่งติดหนักเข้าไปกันใหญ่ สถานการณ์ตอนนี้ทำเอาชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ
“ฝนตก คนก็อารมณ์ไม่ค่อยดี เซงโว้ย!”
สบถออกมาด้วบความขุ่นเคือง ร่างกายไปไวเท่าความคิด ขายาวเตะไปที่แอ่งน้ำขังตรงหน้าเต็มแรงจนน้ำกระเด็นเซ็นซ่านออกไปไกล
แผละ !
“อ๊ะ !”
เสียงร้องด้วยความตกใจดังอยู่ไม่ห่างไกลจากร่างสูงเท่าไหร่นัก ร่างขาวบอบบางผู้โชคร้ายทกำลังวิ่งหลบฝนผ่านมาทางนี้เลยไปเสียเต็มเต็ม ดวงตาคมเบิกตาโตราวกลับไข่ห่าน ก่อนจะรีบขอโทษขอโพยโทษฐานที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าของร่างเพรียวเปอะเปื้อนน้ำสีดำขุ่นนั่นอย่างรวดเร็ว
“ผมขอโทษครับ ขอโทษ .. คุณเปื้อนตรงไหนรึเปล่า?” พูดไปก็ก้มหัวขอโทษไป
“เอ่อ ... ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร” ร่างเพรียวระหงโบกมือไปมาเล็กน้อยเป็นเชิงปฏิเสธว่าไม่เป็นอะไรมากมายอย่างที่คนตัวโตวิตกกังวล แต่เสียงหวานที่เล็ดลอดออกจากกลีบปากบางทำให้ชายหนุ่มชะงักไปชั่วระยะหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นเพื่อมองใบหน้าของอีกคนให้ชัดเจน
เรียวตากลมโตที่จ้องมองมายังใบหน้าของชายหนุ่มด้วยความงุนงงสงสัย ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มที่ร่างบางกำลังขบเม้มดึงดูดสายตาให้จับจ้อง ผมซอยสั้นประบ่าสีโค้กล้อมกรอบใบหน้าเพียงเล็กน้อยขับให้ใบหน้าแลดูสวยหวานมากขึ้น ดวงตาคมเผลอมองใบหน้าอีกคนไม่วางตา
“คุณ ... เป็นอะไรมั้ยครับ?” สิ้นเสียงหวานที่ดังขึ้นอีกครั้ง ร่างสูงก็ได้สติกลับคืน พรวดพราดลุกขึ้นยืนตรงจนร่างบางตรงหน้าอดตกใจไม่ได้กลับการกระทำของอีกคน มือหนากำร่มที่อยู่ในมือแน่น ผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างเป็นธรรมชาติ ผิดกับก้อนเนื้อในหน้าอกซ้ายที่กำลังเต้นระส่ำดุจกลองชุดระรัว
“ผะ .. ผมไม่เป็นไรครับ”
ร่างขาวยิ้มเล็กน้อยอย่างสุภาพ ก่อนที่จะสังเกตที่ใบหน้าของชายหนุ่มอีกคน ดวงตาคมทรงอำนาจและมีเสน่ห์ราวกับดวงแก้วของพญามังกรจากแผ่นดินใหญ่ จมูกโด่งเป็นสันคมกับริมฝีปากได้รูป ร่างกายกำยำสูงใหญ่และเต็มไปด้วยมัดกล้ามน้อยๆแลดูแข็งแรง แต่งตัวอยู่ในเสื้อเชิ้ตที่ถูกรีดจนเรียบกริบสีดำสนิทกับกางเกงแสลคสีมืด คนตรงหน้าร่างบางจัดว่าเป็นคนที่ดูดีและหล่อไม่เบาเลยทีเดียว แต่จู่ๆดวงตากลมโตสะดุดกับสิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาได้รูป
“หน้าคุณเปื้อน ผมขอโทษนะครับ” สอดมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวเนื้อดีออกมาก่อนจะซับอย่างแผ่วเบาที่คราบน้ำดำขุ่นตรงแก้มขวาของร่างสูง ดวงตาสีนิลจ้องมองการกระทำของร่างขาวตรงหน้า หากร่างบางรู้สึกนิด ว่าการกระทำของเขานั้น กำลังจะทำทำให้คนตัวใหญ่แทบล้มทั้งยืน !
“ขอบคุณครับ”
“เอ่อ .. คุณจะว่าผมเสียมารยาทมั้ยถ้า ... ผมจะขออยู่ในร่มด้วยคน” ร่างเพรียวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงติดขัดเล็กน้อย เมื่อคิดว่าเป็นการเสียมารยาทที่ต้องขอหลบฝนกับอีกคน นั่นก็เพราะรอบข้างมีแต่ต้นไม้และทางเดินเท่านั้น ไม่มีที่บังฝนได้เท่าในร่มของอีกคนแล้ว คนตัวโตหยุดนิ่งไปชั่วระยะ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“อ่า .. ได้ครับ”
เมื่อคนตัวโตอนุญาตเสร็จสิ้น กายสองกายที่เรียกว่าแทบจะบดเบียดกันอยู่ภายใต้สิ่งที่กำบังนั่นคือร่มคันเล็ก ฝนยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง .. แต่กลิ่นฝนไม่อาจกลบกลิ่นกายอ่อนๆจากร่างขาวที่ลอยโชยมาแตะจมูกของคนตัวสูง กลิ่นนั้นช่างหอมหวานและโหยหวนราวกลับเรียกร้องให้อีกคนอยากที่จะสัมผัสกับกลิ่นนี้ให้มากขึ้น กายหนาบดเบียดเข้าใกล้กับกายเล็กที่กำลังสั่นเทาด้วยความหนาวเหน็บ ในใจยังคงพร่ำเพรียกร้อง อยากหยุด .. หยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ หยุดไว้แค่นี้ ที่ๆเขากับร่างบางอยู่ด้วยกัน
แต่เหมือนฟ้าฝนจะไม่เป็นใจกับร่างสูงเท่าไหร่นัก .. คล้อยหลังจากนั้นไม่นาน ฟ้าที่เคยมึดครึ้มก็สว่างขึ้น จากเมฆฝนที่เคยปกคลุมทั่วทุกบริเวณจนมึดมนถูกเปิดด้วยท้องฟ้าแจ่มใส และเริ่มทอแสงแดดอ่อนๆส่องประกายลงมา หยาดน้ำฝนที่ตกกันอย่างต่อเนื่องเหลือเพียงแค่พรำเบาบางก่อนที่จะหายไป
มือขาวยื่นออกนอกร่มเป็นเชิงพิสูจน์ให้แน่ใจว่าฝนได้หยุดตกจริงๆแล้ว เมื่อไม่มีหยาดน้ำสักเม็ดหล่นหยดใส่มือบาง กายขาวก็พลิกร่างหันกลับมามองชายหนุ่มตัวโตแล้วโค้งก้มต่ำลง
“ขอบคุณที่ให้หลบฝนนะครับ” กลีบปากแย้มยิ้มอ่อนๆ
“ไม่เป็นไรครับ” อดเคลิบเคลิ้มไม่ได้ทุกทีกับรอยยิ้มที่หวานจับใจของอีกคน ใบหน้าขาวที่เคยเจือสีแดงระเรื่อซีดลงไปเล็กน้อยเพราะอุณหภูมิรอบข้างที่เย็นจัด ใจแกร่งแอบบีบแรงเบาๆด้วยความเป็นห่วงร่างบางข้างกายเกรงว่าจะเป็นลมล้มพับไป แต่เจ้าของใบหน้าหวานก็หันมามาโค้งตัวต่ำๆอีกครั้ง
“งั้นผมขอตัวไปก่อนนะครับ”
กลีบปากแยกแย้มยิ้มหวานฉ่ำอีกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพาร่างเพรียวก้าวขาเดินออกไปจากจุดที่ยืนอยู่ ทิ้งให้คนตัวโตยืนจมอยู่กับห้วงความคิดตนเอง และหัวใจที่เต้นที่เคยเต้นกระส่ำ กลับวูบโหวงลงไปทันตาเห็น สายตาคมยังคงจับจ้องไปที่แผ่นหลังของคนที่เดินจากไปไม่ละไปไหน
ไม่ทันได้ถามชื่อเลยแหะ ...
ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มกับตนเองบางๆ มือหนาเลื่อนมาวางทาบทับไปที่ตำแหน่งอกซ้ายอย่างแผ่วเบา อัตราการเต้นของหัวใจมันแผ่วเบาเกินไปเสียจนรู้สึกว่ามันกลวงโบ๋และว่างเปล่า เรียวคิ้วเข้มขมวดขึ้นด้วยความแปลกใจ เกิดมาทั้งชีวิต ฮันคยอง ไม่เคยเจอเหตุการณ์เฉกเฉ่นนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว สิ้นความคิดคนตัวสูงก็เผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง
คุณคงจะขโมยมันไปพร้อมกับประโยคนั้นสินะ ....
“ขอบคุณนะครับ ... คนถือร่ม”
(38.83 %)
-撑伞-
ขออนุญาตลงเพียงแค่นี้ก่อน แล้วไรเตอร์จะรีบปั่นให้เกิน 50% โดยเร็วครับ :’)
nu eng
ความคิดเห็น