คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Way 6 ไม่เลือก
WAY 6
(ไม่เลือก)
คุณเคยมีความรู้สึกนี้มั้ย ‘รู้สึกปอดแหก’ แบคฮยอนกำลังรู้สึกแบบนั้นตอนนี้ชายหนุ่มกำลังยื่นเหมือนคนไร้สติอยู่ตรงหน้าห้องของคยองซู เขาถามที่อยู่ของคนตัวเล็กจากเพื่อนรักของเขาอย่างลู่หานจากนั้นก็รีบขับรถแจ้นมาทันที แต่พอถึงหน้าห้องของคนตัวเล็กนี่มันกลับไม่กล้าเคาะประตูห้องนี่สิ แบคฮยอนไม่รู้จะง้อยังไง ง้อในฐานะอะไร ใจหนึ่งก็บอกให้เคาะไปเลยพอคยองซูเปิดประตูห้องมาเดี๋ยวก็มีเรื่องคุยเองล่ะ แต่อีกใจถ้าเขาพูดไม่ออกล่ะ นี่ก็ยื่นแบบนี้มาจนฟ้าด้านนอกเริ่มมืดแล้วแบคฮยอนยังไม่กล้าเคาะประตูเลย
“เฮ้อจะไงดีว่ะ”
มือกร้านขยี้หัวตัวเองปากก็บ่นอุบอิบ ถึงจะทำเป็นอารมณ์เสียแต่แบคฮยอนก็ยังไม่ยอมแพ้กลับบ้านตัวเองอยู่ดี มือกร้านกำหลวมๆ ยื่นมาข้างหน้าเตรียมจะเคาะประตูจริงๆ แต่ยังไม่ทันได้เคาะบานประตูไม้สีนวลก็ถูกเปิดออก ตรงหน้าปรากฏร่างเล็กของคนที่เขาตั้งใจมาหาคยองซูเบิกตากว้าง
“คุณแบคฮยอน…”
“เอ่อ…คยองซูแฮะๆ”
แบคฮยอนเกาท้ายทอยตัวเองอย่างเขินๆ แสร้งขำออกมาทั้งที่ไม่มีอะไรให้ขำเพียงสักนิด
“คุณมาได้ไงครับ”
“ฉันเอ่อ…ฉันมาขอโทษนายน่ะ” แบคฮยอนพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจังขึ้น “ฉันรู้ว่านายรู้สึกแย่แต่ฉันขอโทษได้มั้ย ฉันไม่อยากให้ลูกน้องในสังกัดรู้สึกไม่ดีเวลาทำงานด้วยกันน่ะ นายเป็นลูกน้องฉันฉันก็อยากให้นายรู้สึกดีกับฉันไม่ใช่มาโกรธกันแบบนี้ ดีกันนะคยองซูอ่า”
โกหกออกไปเต็มๆ แบคฮยอนไม่เคยแคร์สักนิดว่าลูกจ้างแต่ละคนจะเป็นอย่างไร มีคยองซูคนแรกนี่ล่ะที่เขาสนใจความรู้สึกมากที่สุด แบคฮยอนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมรู้แค่ว่าทุกครั้งที่เขาอยู่กับคยองซูนั้นมีมันสบายใจ มีความสุขทุกครั้งที่ได้กวนประสาทคนตัวเล็ก มีความสุขทุกครั้งที่คนตัวเล็กถลึงตาใส่
“เอ่อ…”
คยองซูถึงกับไปไม่ถูกแบคฮยอนแค่แคร์เขาในฐานะลูกจ้างแค่นั้นเหรอ คยองซูหวังให้มันมากกว่านี้จริงๆ นะในความรู้สึกลึกๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องชีวิตจริงได้แค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้วคยองซูคนโง่คนนี้กำลังหวังอะไร
“คยองซูครับแบคฮยอนขอโทษจริงๆ ยกโทษให้ผมนะครับคนดี”
เคยมีใครบอกมั้ยนะว่าแบคฮยอนเป็นคนปากหวาน แค่คำพูดพวกนี้คยองซูก็หายโกรธไปหมดแล้ว คยองซูใจง่ายไปมั้ยนะไม่หรอกเพราะแบคฮยอนยอมมาง้อเขาแล้วนิ
“อือ กลับไปได้แล้วครับมันเย็นแล้ว”
“อะไรนี่จะไล่กันกลับเลยเหรอแสดงว่าแบบนี้ยังไม่หายโกรธแน่ เพราะถ้าหายแล้วนายจะต้องเชิญฉันเข้าห้องไปกินน้ำให้หายเหนื่อยที่ยื่นรอมาสองสามชั่วโมงนี่”
แบคฮยอนบ่นอุบจนคนตัวเล็กจับความจริงได้ว่าอีกคนมายืนอยู่ตรงนี้นานแล้ว คยองซูอดอึ้งไม่ได้จริงๆ ว่าคนอย่างแบคฮยอนจะมายืนรอให้เจาเปิดประตูแบบนี้
“ทำไมไม่เคาะประตูล่ะครับ ยืนรอทำไมเข้ามาก็ได้ครับแต่ห้องผมเล็กนะ มันจะอึดอัดหรือเปล่า”
“ไม่หรอก ถ้านายอยู่ที่ไหนฉันก็อยู่ได้”
คำพูดชวนใจสั่นแบบนี้คืออะไร คยองซูรีบเขยิบตัวเปิดทางให้แบคฮยอนเมื่ออีกคนแทรกตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว แบคฮยอนเดินสำรวจห้องของเขาก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงของคยองซู
“ห้องนายมันเล็กจริงๆ เลยนะ อยู่แบบนี้ไม่อึดอัดเหรอขยับตัวไปทางซ้ายไปทางขวาก็ได้อย่างละนิด ถ้าจัดของไม่ดีนี่เต็มห้องไม่มีทางเดินเลยนะ ห้องน้ำก็นิดนึงไม่อึดอัดเหรอคยองซู”
แบคฮยอนร่ายความจริงของห้องพักของคยองซูออกมาอย่างไม่ปิดบัง คนตัวเล็กเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าขวดสุดท้ายออกมาส่งให้แบคฮยอนพร้อมกับนั่งลงข้างๆ แบคฮยอนรับน้ำในมือไปดื่มจนหมดไปครึ่งขวด
“ไม่หรอกครับ ผมมีเงินแค่นี้ได้ที่นี่ก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว เคยได้ยินมั้ยครับว่าคับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก ถึงมันจะเล็กไปหน่อยแต่อยู่แล้วสบายใจก็ดีกว่าอยู่ในที่หรูๆ แล้วไม่มีความสุขนะ”
แบคฮยอนพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเอนหลังลงกับเตียงนุ่มที่มีกลิ่นกายหอมๆ ของคนตัวเล็กฝั่งอยู่ทั่วไปทั้งที่นอน คนตัวสูงปิดเปลือกตาลงอย่างเหนื่อยล้า
“นี่คุณแบคฮยอนจะมานอนได้ยังไงกลับบ้านไปได้แล้ว”
คยองซูพยายามจะดึงร่างของแบคฮยอนออกจากเตียงแต่กลายเป็นเขาซะเองที่ถูกแบคฮยอนดึงลงไปบนอกของอีกคน แขนแกร่งโอบไปบนไหล่ของคยองซูพร้อมทั้งกดหัวของคยองซูให้ลงไปแบนกับอกของตัวเอง
“ก็ง่วงแล้วนิ จะนอนไม่ได้เหรอ”
แบคฮยอนยังคงหลับตาอยู่แม้ในขณะที่ปากพูด คยองซูเบ้หน้ากับความขี้ตู่ของอีกคนแต่ในใจก็ต้องยอมรับว่าอ้อมกอดของแบคฮยอนมันอบอุ่นเหลือเกิน
“แต่คุณจะนอนแบบนี้เลยเหรอ ผมเหม็นนะไปอาบน้ำเลย”
แบคฮยอนยิ้มกว้างกับคำพูดเชิงอนุญาตให้เขานอนที่นี่ได้ ร่างของแบคฮยอนปล่อยคยองซูออกจากอ้อมกอดแล้วลุกขึ้นนั่ง มือกร้างดึงเนคไทของตัวเองออกอย่างลวกๆ แต่เหมือนมันจะไม่อยากหลุดแบคฮยอนเลยต้องกระชากมันอย่างแรงแต่มันก็ไม่หลุดอยู่ดีจนคยองซูต้องดึงมือแบคฮยอนออก
“ทำไมไม่ค่อยแกะมันล่ะครับ กระชากแรงแบบนี้ก็เจ็บหมดทำไมไม่เคยเป็นห่วงเลยจริงๆ”
คยองซูจรดมือลงบนปมเนคไทหลายสวย มือเล็กค่อยคลายปมมันออกช้าๆ โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าหน้าของตัวเองจะติดกับหน้าของอีกคนอยู่แล้ว แบคฮยอนลอบยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนตัวเล็กกำลังตั้งใจปลดเนคไทให้เขา มันใกล้วะจนเขาเห็นใบหน้าหวานเนียนของคยองซูทุกซอกทุกมุม มือกร้านค่อยๆ เชยคางของคนตัวเล็กขึ้นทั้งที่ยังปลดเนคไทไม่หมด คยองซูมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ แต่พอตาของทั้งคู่สบกันใบหน้าหวานก็ซับสีขึ้นมาทันที
แบคฮยอนเลื่อนหน้าของตัวเองเข้ามาใกล้จนจมูกของทั้งคู่ชนกัน ตากลมโตของคยองซูค่อยๆ ปิดลง แบคฮยอนมองภาพคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งที่เขายังลืมซูจองไม่ได้แต่นี่เขากำลังจะจูบกับคยองซูงั้นเหรอ เขาทำไม่ได้แน่เขาจะไม่ยอมให้ใครมาแทนที่ซูจอง แบคฮยอนค่อยๆ ปล่อยมือออกจากคางของคยองซูแล้วถอนหน้าออก
“ฉันขอโทษคยองซู ฉันกำลังจะล่วงเกินนาย”
แบคฮยอนลุกขึ้นยืน คยองซูค่อยๆ ลืมตามองแผ่นหลังของคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า เขารู้ว่าแบคฮยอนกำลังคิดอะไรอยู่ แบคฮยอนคงกำลังคิดว่าคยองซูเป็นตัวแทนของซูจองอีกแล้วสินะ ผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไรนักหนาแบคฮยอนถึงได้หลงหัวปักหัวปำ คยองซูอดที่จะอิจฉาไม่ได้เลย
“เอ่อ….มะ ไม่เป็นไรหรอกครับ”
คยองซูเสียงสั่นเครือพยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาสุดชีวิต
“งั้นเดี๋ยววันนี้ฉันกลับบ้านก่อนดีกว่า ฉันไปแล้วนะ”
แบคฮยอนกำลังจะเดินออกไปจากห้องมือกร้านบิดลูกบิดช้าๆ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกไปก็ต้องหยุดชะงักไว้ก่อนด้วยเสียงร้องของคยองซู
“พี่แบคฮยอนครับ พรุ่งนี้พี่มารับผมไปมหาลัยหน่อยได้มั้ยครับ”
คยองซูพูดออกไปอย่างไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าต้องการอะไรจากแบคฮยอน แต่รู้แค่ว่าต้องการให้แบคฮยอนหันมามองบ้างก็เท่านั้น
“อื้ม เอาสิเดี๋ยวพี่มารับ”
ยิ้มบางๆ รับปากก่อนจะเดินออกไป คยองซูปล่อยน้ำตาเม็ดเล็กๆ หลุดออกมาจาดวงตากลมโตคยองซูชันเข่าขึ้นมาพร้อมกับซบหน้าลงไป ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ จนกระทั่งหมดแรงแล้วหลับไปเอง
แบคฮยอนขับรถกลับบ้านตัวเองช้าๆ สมองของเขากำลังคิดหนักเกี่ยวกับคยองซู คยองซูเข้ามามีอิธพลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมแบคฮยอนถึงได้แคร์มากขนาดนี้ ระหว่างกำลังคิดไม่ตกสายตาของแบคฮยอนก็พลันไปเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังจูบกันอยู่ริมถนน เขากำพวกมาลัยแน่นรีบหักรถเข้าข้างทางแล้วลงจากรถตรงดิ่งไปยังทั้งคู่
“ซูจอง!!”
มือกร้านกระชากร่างบางให้หลุดออกจากการกอดรัดกับผู้ชายตรงหน้า หญิงสาวหน้าเสียในตอนแรกแต่พอเห็นหน้าคนที่กระชากเธอออกมาสีหน้าก็ดูหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“จะมายุ่งอะไรอีกแบคฮยอน!!!”
เธอกระชากเสียงถามอย่างหัวเสีย สะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของแบคฮยอน พลางไล่ปัดไปตามนอนตัวด้วยท่าทางรังเกียจ
“เธอมีคนใหม่อีกแล้วรึไง!!”
แบคฮยอนเองก็ตะคอกใส่อย่างลืมตัวเหมือนกันว่านี่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง ที่แบคฮยอนโมโหเพราะในขณะที่เขากำลังเสียใจซูจองกำลังคั่วผู้ชายใหม่อีกคนแล้ว เมื่อไหร่กันที่เธอจะพอใจและหยุดสักที
“ใช่!! แล้วจะทำไมฉันจะมีใครใหม่มันต้องเกียวอะไรกับนายตรงไหนไม่ทราบ แล้วก็นะเลิกโทรมาหาฉันได้แล้วมันน่ารำคาญ”
แบคฮยอนกำมือแน่นอย่างสงบอารมณ์ยิ่งถ้าเขาโมโหและใช้อารมณ์มากเท่าไหร่ซูจองก็จะถอยห่างมากขึ้น เพราะเธอเป็นคนไม่ยอมใครง่ายๆ ถ้าเขาโอนอ่อนสักหน่อยเธอก็คงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ซูจองกลับมาหาพี่ได้มั้ย ได้มั้ยครับ”
น้ำเสียงสั่นๆ นั่นไม่ได้ทำให้ซูจองสงสารสักนิดเธอสมเพชด้วยซ้ำ แบคฮยอนดึงร่างของซูจองเข้าสู่อ้อมกอด ซูจองรีบสบัดออกพร้อมกับฟาดมือลงไปบนหน้าเรียวนั่นอย่างแรงเพื่อเรียกสติ
เพี๊ยะ!!
“เลิกยุ่งกับฉันสักทีไอ้ผู้ชายน่าสมเพช!!”
แบคฮยอนยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองอย่างอึ้งๆ ตั้งแต่รู้จักกันมานี่คือครั้งแรกที่ซูจองตบเขา ขาของเขาเหมือนเรี่ยวแรงมันจะหายไปหมด แบคฮยอนล้มนั่งลงกับบนคอนกรีตไม่สนใจสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา เข่าของเขาถูกชันขึ้นมาแล้วซบหน้าลงไป น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ทำไมซูจองถึงทำกับเขาแบบนี้ ทำไมซูจองถึงทำกับแบคฮยอนแบบนี้
ห่างหายกันไปอาทิตย์ใหญ่มากกก เค้าเรียนหนักอ่ะตัวเองง
นี่แทบไม่ได้พักเลยวันอาทิตย์นี่ก็ไปเรียนพิเศษอีก
วันจันทร์สอบฟิสิกโอ้ยแม่จะบ้าฮื่อออออ
วันอังคารเคมีนางก็จะมาสอบ ดีนะชีวะไม่มีโล่งง
5555 บ่นไปก้แค่นั้นอาทิตย์นี้เค้าเรียนชีวะทั้งอาทิตย์เลยตัวเอง
อาจารย์เคมีสลับคาบ เรียนตั้งเก้าชั่วโมงขึ้เป็นลำไส้กบเลย
นี่บ่นอะไรเยอะจังฉันที่บ่นๆ มาก็อยากได้กำลังใจจริงๆ
อยากให้ทุกคนเม้นยาวๆ ไม่เม้นก็โหวตได้มั้ยพลีสสสส
แท็ก #คยองรับจ้าง
ความคิดเห็น