คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Way 5 ครั้งแรกที่เจ็บ
WAY 5
“หิวมั้ยครับ”
คยองซูถามคนตัวสูงกว่าหลังจากที่เดินออกมาจากห้องนอน แบคฮยอนแต่งตัวเสร็จแล้วทีนี้ก็พร้อมจะไปเจอลูกค้าสักทีแต่ติดตรงที่คยองซูเป็นห่วงว่าอีกคนจะหิว เพราะดูท่าแล้วแบคฮยอนคงจะเอาแต่สูบบุหรี่กับกินเหล้าจนลืมกินเป็นแน่ ถ้าท้องไม่อิ่มการทำงานมันก็ไม่ลื่นไหลหรอกนะ
“ไม่หรอกเราไม่มีเวลาแล้วนี่”
“กินในรถก็ได้ไงครับ”
คยองซูชูกล่องแซนวิชที่เขารื้อตู้เย็นของแบคฮยอนออกมาทำ เปิดไปแทบลมจับเพราะในตู้เย็นมาแต่เหล้าเกือบเต็มไปหมดโชคดีที่ชั้นสุดท้ายของตู้เย็นยังคงมีวัตถุดิบให้พอทำได้บ้าง แบคฮยอนยิ้มบางๆ ให้กับคนตัวเล็กก่อนจะพยักหน้าเป็นอันตกลง
“ขอบคุณนะคยองซู”
“ไม่เป็นไรหรอกครับท่านประธาน” ยิ้มจนตาปิด “คนขี้เกียจขี้เมา”
คยองซูพูดจบเท้าเล็กก็รีบวิ่งออกไปนอกห้องแบคฮยอนส่ายหัวกับพฤติกรรมเล่นเป็นเด็กของอีกคนก่อนจะตามออกไป แบคฮยอนขับรถให้เลขานั่งข้างๆ คนตัวเล็กบังคับจะให้เขากินแซนวิชอยู่นั่นแหละ เขากำลังขับรถนะไม่ได้ว่างขนาดนั้นถ้ามัวแต่กินแล้วรถชนไม่ตายกันหมดหรือไง
“กินเถอะนะครับคุณแบคฮยอน”
“ก็ขับรถอยู่นี่ไงจะกินได้ไงเดี๋ยวรถก็ชนหรอก”
ตอบส่งๆ ออกมามาเวลาแบบนี้รถยิ่งเยอะอยู่มัวแต่เงอะงะเดี๋ยวก็โดนชนร่วงพอดี คยองซูถอนหายใจอย่างขัดใจก่อนจะยื่นแซนวิชมาตรงหน้าแบคฮยอน
“ผมป้อนกินได้หรือยังครับคุณแบคฮยอน”
แบคฮยอนเหล่มองคนตัวเล็กก่อนจะระบายยิ้มออกมา ความคิดบางอย่างเกิดขึ้นมาในหัวทันที
“เรียกพี่ก่อนแล้วจะกิน เรียกเหมือนตอนที่ขอให้ฉันเลิกสูบบุหรี่น่ะ”
คยองซูปั้นหน้ายากขึ้นมาทันทีตอนนั้นที่พูดก็เพราะมันเป็นฟิลลิ่งแต่จะให้มาพูดตอนนี้ทำไม่ได้หรอก คยองซูอายเป็นนะมันดูเขินยังไงไม่รู้เวลาพูด
“มะ ไม่ได้หรอกผมเป็นเลขาส่วนคุณเป็นประธานใหญ่ถ้าผมเรียกแบบนั้นคุณก็ไม่ได้รับความเคารพพอดีกัน ทำไม่ได้หรอกนะ”
แบคฮยอนขมวดคิ้วอย่างขัดใจ เขาก็แค่ชอบให้คนเรียกว่าพี่มันผิดรึไงทำไมเรื่องแค่นี้คยองซูทำให้ไม่ได้ ทำไมชอบขัดใจเขาจังนะ
“ไม่เรียกก็ไม่กิน”
“โถ่คุณแบคฮยอนไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วนะครับ”
“ทำไมฉันแค่ต้องการแค่นี้ทำไม่ได้หรือไง”
คยองซูเบ้ปากออกมาอย่างหมั่นไส้คนตรงหน้าคิดว่ามันน่ารักหรือไง เอาแต่ใจตัวเองอยู่ได้จะกินหรือไม่กินก็เรื่องของแบคฮยอนเองไม่เกี่ยวกับเขา พอจะลดมือลงก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงอีกคนทำไมคยองซูถึงได้แคร์แบคฮยอนมากขนาดนี้นะ
“เอาล่ะเรียกก็เรียก” แบคฮยอนยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ “แต่จะเรียกเฉพาะอยู่ด้วยกันสองคนนะ เวลาอยู่ต่อหน้าพนักงานคนอื่นผมจะเรียกคุณว่าคุณแบคฮยอนเหมือนเดิม”
แบคฮยอนกำลังจะเอ่ยประท้วงแต่ก็โดนอีกคนยัดแซนวิชเข้าปากไปคำโต ทำให้เขาได้แต่ถลึงตามองคนตัวเล็กที่นั่งหัวเราะชอบใจ
“นี่จะฆ่าฉันหรือไงคยองซู”
“เปล่าครับผมแค่รำคาญเสียงคุณเวลาโมโหมันหนวกหูก็เลยหาอะไรอุดปากก็แค่นั้นเอง”
เมื่อคนตัวเล็กยื่นแซนวิชมาข้างหน้าอีกครั้งแบคฮยอนก็เม้มปากแน่น คยองซูหน่ายใจจริงๆ ที่ต้องมาคอยบังคับให้ผู้ใหญ่ไม่รู้จักโตตรงหน้ากินอาหารเช้า ตอนแรกที่เจอกันก็ดูจะเป็นผู้ใหญ่ดีหรอกใครจะรู้ว่าแบคฮยอนดื้อแค่ไหน
“ทำไมอีกคุณแบคฮยอน”
คยองซูถามด้วยน้ำเสียงติดไม่พอใจ แบคฮยอนละสายตาจากถนนมามองหน้าคนตัวเล็กด้วยสายตาขัดใจก่อนจะเอ่ยคำตอบที่คยองซูอยากรู้ออกมา
“ก็นายไม่เรียกฉันว่าพี่”
ตึบเลยคยองซูอยากจะสลบกลางอากาศ แบคฮยอนเป็นเด็กสามขวบไปแล้วพระเจ้า!
“ก็ได้ครับพี่แบคฮยอนกินแซนวิชนะครับ”
พูดเหมือนเวลาป้อนข้าวเด็กถึงแบคฮยอนจะดูว่ามันแปลกๆ แต่เขาก็อ้าปากรับแซนวิชนั่นเข้าปากไปอย่างอารมณ์ดี
“หิวมั้ยคยองซูขอโทษทีนะคุยนานไปหน่อย บ่ายสองแล้วนายยังไม่ได้กินอะไรเลย”
แบคฮยอนเอ่ยถามคนข้างตัวตอนนี้พวกเขากำลังเดินอยู่ในห้างที่ลูกค้านัดแบคฮยอนมา ตัวแบคฮยอนน่ะไม่หิวหรอกอิ่มเกินไปเสียด้วยซ้ำเพราะระหว่างคุยเขาก็กินไปด้วย แต่เลขาอย่างคยองซูน่ะไม่ได้กินด้วยเพราะมีแต่คนระดับผู้บริหารคุยกันตอนแรกแบคฮยอนก็ชวนเข้าไปด้วยแต่คนตัวเล็กปฏิเสธบอกว่าอึดอัดไม่ชอบ ขอนั่งอยู่ข้างนอกดีกว่า
“ไม่หรอกครับผมไม่หิวหรอกรีบกลับไปบริษัทเถอะครับเมื่อกี้พี่ที่บริษัทโทรมาบอกว่ามีเอกสารรอพี่ไปเซ็นอนุมัติ รีบกลับไปกันเถอะครับเดี๋ยวพวกเขาจะรอนาน”
คยองซูพูดไปตามความจริงเขาไม่ได้หิวอะไรมาก กลับกันเขาเป็นห่วงงานที่บริษัทมากกว่ากลัวว่าแบคฮยอนจะคุยนานจนกลับไปเซ็นอนุมัติไม่ทันโชคดีที่ยังพอเหลือเวลาอยู่บ้าง จากนี่ไปถึงบริษัทก็น่าจะประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษยังเหลือเวลาทันอยู่
“ไม่หิวก็ต้องกินนายไม่ได้กินอะไรเลยนะ กินอาหารไม่ตรงเวลาเดี๋ยวเป็นโรคกระเพราะนะ ไปเดี๋ยวนี้เดี๋ยวพาไปกินอะไรอร่อยๆ”
“แต่เราอาจจะกลับไปไม่ทันนะครับ” คยองซูแย้งคนเอาแต่ใจ
“ไม่ทันก็ไม่เห็นเป็นไรบริษัทฉันเอง”
แบคฮยอนจับข้อมือของคยองซูลากไปตามทางที่ตัวเองบอกว่ามีของอร่อย คยองซูจำใจเดินตามแบคฮยอนไปอย่างขัดใจแบคฮยอนไม่แคร์เลยรึไงถ้าเอกสารนั้นเป็นเอกสารเกี่ยวกับเงินเดือนของพนักงานขึ้นมาจะทำไง พวกเขาไม่ต้องรอเงินเดือนที่มันออกช้าเพราะความไร้สาระรึไง
“กินสิคยองซู”
“ผมไม่อยากกิน”
คยองซูยังคงไม่แตะอาหารสักจานที่แบคฮยอนสั่งมาตรงหน้า ทำใจไม่ได้จริงๆ ที่ตัวเองสบายแล้วเพื่อนร่วมงานจะต้องลำบาก คยองซูไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวเพราะรู้ว่าความลำบากมันเป็นยังไง
“กินเดี๋ยวนี้ถ้านายไม่กินฉันจะไล่ออก”
แบคฮยอนพยายามบังคับเด็กดื้อเงียบให้ทานอาหารหลางวัน คยองซูยังไม่ยอมแพ้คนตัวเล็กยังไม่ยอมทำตาม คงจะรู้ว่าแบคฮยอนไม่ใช่คนปัญญาอ่อนจะไล่ออกเพราะคนตัวเล็กไม่ยอมกินข้าวกลางวันแน่
“คยองซูฉันจะบังคับนายแบบจริงจังแล้วนะ”
แบคฮยอนลุกมานั่งข้างคนตัวเล็กคยองซูคนตัวเล็กเบิกตากว้างเมื่อคนตัวสูงวาดแขนมาโอบไหล่เขา พร้อมกับตักข้าวขึ้นมาตรงหน้าเขาพยายามจะยัดมันเข้ามาแต่คยองซูก็ยื้อมันไว้
“คยองซูกินเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ก็บอกว่าไม่ไงจะบังคับกันทำไมนะ”
“กินไปเดี๋ยวนี้ฉันเป็นประธานนะ!!!”
“ตอนนี้คุณไม่ใช่ประธานคุณเป็นพี่แบคฮยอนต่างหาก!!”
แบคฮยอนหยุดนิ่งทันทีมือกร้านค่อยๆ วางช้อนข้าวลง พอวางเสร็จก็เลื่อนมาประคองหน้าหวานให้หันมาซบกับตน คยองซูทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกในเมื่อท่าทีที่เปลี่ยนไปของแบคฮยอน แววตาของแบคฮยอนที่คอย.ซูซบตอนนี้มันดูโหยหา เจ็บปวด และกำลังสบสน คยองซูรับรู้ได้ถึงมัน
“เรียกพี่ว่าพี่แบคฮยอนอีกครั้งได้ครับ ได้มั้ยครับคนดี”
เสียงของแบคฮยอนสั่นอย่างเก็บไว้ไม่อยู่ มันแผ่วเหมือนกับคนใกล้หมดแรง แต่ใครจะรู้ว่าคยองซูกำลังเจ็บเหมือนกันไม่รู้ทำไมพอคิดว่าแบคฮยอนกำลังเห็นตัวเขาเองซ้ำอยู่ที่ซูจองเคยยืนอยู่ หัวใจมันก็เจ็บแปลบขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“เร็วสิคยองซูเรียกพี่หน่อยได้มั้ยครับ”
แบคฮยอนกำลังอ้อนวอนเขากำลังคิดถึงซูจองมาก คำพูดเมื่อกี้ของคยองซูที่บอกว่าเขาไม่ใช่ประธานแต่เป็นพี่แบคฮยอนซูจองเคยพูดแบบนี้กับเขาเหมือนกัน แบคฮยอนเกือบลืมไปแล้วว่าเขายังลืมซูจองไม่ได้ เขามัวแต่ทะเลาะกับคยองซูจนลืมเรื่อราวของเขากับซูจอง
“ไม่!!”
คยองซูแวกแขนของแบคฮยอนออกพร้อมกับลุกออกจากโต๊ะ ขาเล็กรีบวิ่งออกมาจากร้านคยองซูจะไม่ยอมเป็นตัวสำรองของใครทั้งสิน ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่เจ็บเท่าไหร่แต่คยองซูจะไม่ยอมเจ็บกว่านี้แน่ คยองซูไม่ใช่คนดีแต่ก็ไม่ได้เห็นแก่ตัวอะไรที่พอจะช่วยได้ก็จะช่วยแต่เรื่องนี้คยองซูช่วยไม่ได้จริงๆ ถ้าจะมีรักครั้งแรกก็ขอให้มันเป็นรักครั้งแรกในชีวิตที่สวยงามไม่ใช่อยู่ในเงาของใครอีกคน
“ตั้งสติสิคยองซู เขากำลังอ่อนแอแล้วกำลังจะมองเราเป็นตัวแทนอย่าหวั่นไหวเขาไม่ได้ชอบนายอย่าหวั่นไหว นายจะเจ็บรู้มั้ย ตั้งสติไว้สู้ๆ”
หลังจากนั้นไม่นานแบคฮยอนก็ตามหาร่างเล็กจนเจอเป็นอันว่าไม่ต้องกินข้าวและต้องกลับบริษัททันทีเพราะคยองซูต้องการแบบนั้น แบคฮยอนไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีกเขารู้ว่าเขากำลังทำผิดแต่มันก็แค่เผลอไปเท่านั้นเองนะ ทันทีที่ถึงบริษัทคยองซูก็เก็บของตัวเองทันทีแบคฮยอนที่กำลังจะไปเซ็นเอกสารถึงกับชะงัก
“จะเก็บกระเป๋าทำไมยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลย”
“ผมจะลางานกลับบ้านเร็ว เอ่อพรุ่งนี้ผมมีเรียนครับท่านประธานจะหักเงินเดือนก็ได้นะครับ”
คยองซูก้มหัวบอกลาเสร็จก็เดินออกไปเลยแบคฮยอนไม่ได้เดินตามไป ร่างของแบคฮยอนทิ้งลงกับเก้าอี้ทำงานอย่างคนหมดแรง เขากำลังสบสนตัวเองทั้งที่ใจก็ชอบทุกอย่างที่คยองซูทำให้แต่เขาก็ไม่อยากลืมซูจองเธอสำคัญกับเขากว่าสิ่งใด ร่างสูงหลับตาไล่น้ำตาหยดใสออกมาทางหางตาเหนื่อยเกินไปแล้วแต่ความคิดหนึ่งก็เด้งเข้ามาในหัว
“ไอ้แบคมึงต้องง้อคยองซูก่อนดิไอ้โง่!!”
อัพสองวันติดกันเบยย เค้าน่ารักม้อยยยย 555555
หลังจากนี้คงมาอัพช้าเหรอว่ะเพราะว่าติดเรียนทุกวันอาทิตย์
ตั้งแต่สองโมงเช้าถึงสี่โมงเย็นเลยยยย
ว่างก็แค่วันเสาร์วันเดียวซึ่งเค้าจะเอามันไปลั้นลาาาาา
ฟิคก็คงจะเดินไปเรื่อยๆ ช้าๆ นะค่ะ
มีข่าดีมาบอกเค้าแต่งฟิคมาจะครบสองปีแล้วนะะะะ
มีเปิดซีรีย์ไว้ฉลองแล้วด้วยยย แต่เหลือแก้ไขโปสเอตร์กับหน้าบทความนิดหน่อย
ฝากด้วยน้าาาาาาา
แท็ก #คยองรับจ้าง ทวีต @JP_Fairy
ความคิดเห็น