คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : จิตวิทยา ฆ่าคน
ราตรีสวัสดิ์ครับ
เนื่องจากคอมเม้นท์นี้
#1 : ความคิดเห็นที่ 153 อยากถามว่า..
ถ้าแบบฆ่าคนด้วยการใช้จิตวิทยาจะทำอย่างไรคะ?
แบบว่าให้คนคนนั้นฆ่าตัวเองตายไปเลยโดยที่สาเหตุมันอยู่ที่เรานี่แหละ
แต่เราไม่จำเป็นต้องไปแตะเนื้อต้องตัวเหยื่อหรือจับเหยื่อเลย
เพียงแค่ทำท่าทาง พูด หรือลักษณะสายตาอะไรแบบนี้
เหยื่อก็เกิดอาการและฆ่าตัวตายเองหรือตายลงไปเองอย่างช้าๆ
ปล.เคยอ่านเจอในนิยายและหนังสือจิตวิทยาทั่วไปอ่ะค่ะ
PS. ~เมื่อไหร่จะอัพ เธอคงไม่คิดหาคำตอบ~=_=;; Name : ทูน่าหวาน< My.iD > [ IP : 118.172.198.40 ]
ผมจึงแยกออกมาเขียนเป็นตอนใหม่ให้เลย เพราะเนื้อหาจะยาวหน่อย
วิธีฆ่าดังที่กล่าวนั้นทำได้ยาก ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่ศึกษามาทางนี้โดยเฉพาะ หรือแม้กระทั่งนักจิตวิทยาเองก็ใช่ว่าจะสามารถทำได้ทุกคน
เพราะฉะนั้นผมจะมาบอกองค์ประกอบของการพูดคุยในเชิงจิตวิทยาก่อนละกัน
เคยเห็นในหนังหรือข่าว เวลาที่ตำรวจสืบสวนผู้ต้องหาหรือไม่?
ใช่แล้ว ถ้าคุณต้องการให้การกดดดันของคุณได้ประสิทธิภาพสูงสุด คุณจำเป็นต้องใช้ “ห้อง”
และ “ข้อมูลของเหยื่อ”
เมื่อคุณได้ห้องมาแล้ว
ห้องที่คุณมีจะต้องเงียบ และโล่ง ไม่มีเครื่องตกแต่งหรือของใด ๆ ที่ดึงดูดความสนใจ
ติดโคมไฟสว่าง
อย่าให้มีของใด ๆ อยู่ใกล้มือ เพราะเหยื่อจะสามารถลดการระบายความกังวลลงได้ (สังเกตได้จากตัวเอง เวลาเบื่อหน่ายหรือมีเรื่องหวั่นวิตกอะไร เรามักจะหยิบของเล็ก ๆ ใกล้มือมาเล่นโดยอัตโนมัติ เช่นการที่เด็กนักเรียนกดปากกาเล่นตอนเรียน บางคนเล่นผ้าเช็ดหน้าตอนฟังครูเทศนา หรือลูบแหวนบนมือตอนว่าง ๆ เป็นต้น)
การจัดตำแหน่งก็มีความสำคัญมากเช่นกัน คุณควรจัดให้นั่งตรงข้ามและเผชิญหน้าเข้าหากัน
(ถ้าหากไม่มี คุณใช้ห้องเรียนที่เหลือแค่คุณกับเหยื่อก็ได้นะ?)
เมื่อองค์ประกอบครบแล้ว ที่เหลือก็คือ “ข้อมูลของเหยื่อ”
คุณต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้อง จะสร้างความยำเกรงและหวาดกลัวให้แก่เหยื่อ
และคุณจะสามารถอ่านความคิดได้จากกริยาต่าง ๆ ได้ เช่นการกอดอก จะเป็นการปกป้องตัวเอง
การเอนตัวออกห่าง หมายถึงเหยื่อเริ่มจะรำคาญหรือกำลังโกหก
หรือการลูบผมลูบเผ้า เล่นชายเสื้อ คือการที่กำลังกระวนกระวาย
กระทั่งการกลอกตาของเหยื่อก็สามารถบ่งได้ว่ากำลังพูดความจริงอยู่หรือไม่ ถ้าหากเหลือบตาไปทางขวาแสดงว่าสมองส่วนซ้ายกำลังทำงาน (ด้านจินตนาการ) ซึ่งอาจจะกำลังโกหกคุณได้ และถ้าหากคุณสามารถจับผิดเขาได้ อาจจะใช้วิธีการแตะแขนเขาเบา ๆ เพื่อเป็นการสื่อบอกว่าคุณกำลังรู้ทันเขา
ที่กล่าวมานี่คือหลักในการสอบสวนปากคำของตำรวจนะครับ
ส่วนหลักการใช้คำพูดฆ่าคนนั้น ต้องใช้จิตวิทยาสูงกว่ามาก
อย่างที่กล่าวไปข้างบน คุณจำเป็นต้องมี “ข้อมูลของเหยื่อ” ที่แน่นมาก
รู้เรื่องในครอบครัวของเขา คนใกล้ตัวรอบข้าง เพื่อนสนิท หรือกระทั่งคนรัก
และ “ปัญหาของเหยื่อ”
ซึ่งในปัจจัยสุดท้าย คุณอาจจะสร้างมันขึ้นมาเองก็ได้?
แน่นอนว่าแค่การเจอหน้ากันและพูดคุยกันครั้งเดียว มันมีโอกาสสำเร็จยาก
คุณจะต้องทำอะไรมาก่อนล่วงหน้านี้
ให้เหยื่อรู้สึกถึง “ปัญหา” ที่ตัวเองกำลังเผชิญ รู้สึกว่าตนเองกำลังไม่ปลอดภัย และเข้าสู่ในสภาวะกดดันในที่สุด
ซึ่งคำพูดของคุณจะเป็นเพียงแค่การกระตุ้นกลไกให้เหยื่อเกิดความวิตกกังวล
ฟังดูง่าย แต่ยาก
มาดูปัจจัยที่ผลักดันให้ฆ่าตัวตายหลัก ๆ กันดีไหม?
1. ปัจจัยภายใน คือเกิดมาจากภายในตัวของตนเอง ซึ่งอาจหมายถึงพันธุกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงสมดุลเคมีในสมองทำให้เกิดการควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายท้อแท้หรือหมดหวัง รวมถึงสุขภาพและบุคลิกภาพของบุคคลนั้น ๆ ซึ่งอาจจะมีปมด้อยอยู่ เมื่อไปกระทบกระทั่งถึงจุดนั้นก็ง่ายต่อการแตกร้าว
2. ปัจจัยภายนอก คือสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัว โดยส่วนมากที่สุดมักจะเป็นครอบครัว รองลงมาก็เพื่อนในโรงเรียน และอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะก่อให้เกิดความกดดันมากลงมาตามลำดับ
คุณสามารถใช้ประโยชน์จากปัจจัยทั้งสองนี้
และคุณต้องรู้ถึงปมด้อยของเหยื่อ อาจจะเป็นจุดเล็ก ๆ ภายในจิตใจ (ไม่ได้หมายถึงพิการอย่างเดียว อาจหมายถึงเรื่องรอบตัวต่าง ๆ เช่น เพื่อน พี่น้อง พ่อแม่ การเงิน การเรียน ฯลฯ) ที่เมื่อโดนกระตุ้นแล้วพร้อมจะระเบิดออกมาได้
อีกทั้งยังสามารถใช้จำนวนคนเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความกดดันได้ด้วย
ซึ่งผมไม่สามารถยกตัวอย่างคำพูดที่สามารถฆ่าคนได้ขึ้นมาให้ดู เพราะไม่อย่างนั้นผมก็คงเป็นฆาตกรไปแล้ว
สิ่งที่ผมรู้มีเพียงแค่ทฤษฎี แต่ยังไม่มีประสบการณ์จริง ไม่รับประกันว่าจะได้ผล และไม่แนะนำให้ปฏิบัติทำจริง
แต่ถ้าหากเป็นนิยาย คุณสามารถทำมันขึ้นมาได้ง่าย ๆ เลยล่ะ!
สิ่งที่ผมพอจะรู้ก็มีอยู่เพียงแค่นี้ หวังว่าข้อมูลด้านบนคงจะพอเป็นประโยชน์ต่อคุณได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
สำหรับวันนี้คงต้องพอเท่านี้ก่อน... ไว้เจอกันใหม่ในคราวหน้า ราตรีสวัสดิ์ครับ
ขอจงพ้นจากสายตาพระเจ้า
หนอนบ่อนไส้
ความคิดเห็น