คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 ซึ้งซะไม่มี
ตอนที่ 1
กิ้ง
ก่อง... กาง... ก่อง...
เสียงหอนาฬิกาประจำโรงเรียนดังขึ้น ต้อนรับบรรยากาศพลบค่ำที่เริ่มปกคลุม... แสงตะวันค่อยๆลับหายไปหลังปุยเมฆเพื่อหลีกทางให้พระจันทร์ได้ขึ้นทำหน้าที่แทน...
สายลมพัดโชยรวยรินกลิ่นหอมของดอกจำปีหน้าโรงเรียน ซึ่งความจริงแล้วมันคือดอกตะเคียนต่างหาก แถมกลิ่นฉุนยิ่งกว่าไขมันหมู... นั่นคือความจริงของโรงเรียนที่ฉันรู้เพียงคนเดียว
อากาศยามเย็นนี่ช่างเหมาะต่อการเดินเล่นเสียจริงๆ ^3^=3
ถ้าไม่ติดตรงที่ว่า... “^3^...
“ใครก็ได้ช่วยด้วยยยยยย!!!! เอากูออกไปทีเว้ยยย!!” ฉันโวยวายพร้อมเขย่าลูกกรงประตูโรงเรียนจนมันแทบจะพังลงมาเป็นภาพสโลว์โมชั่น กรี๊ดดดดดด!!! ฉันกำลังจะถูกขังลืม!!! โฮกกกกก...
โครม! โครม! โครม!
ฉันระดมถีบใส่ประตูเผื่อมันจะทะลุออกไปได้เหมือนจีจ้า อ๊ากกกกก! แค่เผลอหลับในห้องส้วมไม่กี่ชั่วโมงเอง แหม! บรรยากาศมันดีจะตายไป
รู้ตัวอีกทีก็เล่นซะหกโมงเย็น เป็นเวลาที่ประตูปิดตาย ใครๆก็ออกไม่ได้!! อ๊ายยยยย...
เอาละ... ยังไงแรงแมงหวี่อย่างฉันก็ทำอะไรประตูนรกนี่ไม่ได้อยู่ดี จะแหกปากตะโกนไปก็ไม่มีประโยน์ในเมื่อยามมันไปฉลองกันที่บาร์เกย์แถวหาดใหญ่ (รู้มาได้เนื่องจากได้ยินพวกมันซุบซิบกัน)
ฉันคงต้องหาทางออกทางอื่น... รู้แล้ว! เพิ่งเรียนมาไม่กี่ปีก่อน (ป.4) การพรวนดินต้นไม้
แล้วมันเกี่ยวกันยังไงน่ะเหรอ...
ฉันจะขุดดินหนีออกไปไง!!
.....ฟิ่ว....
เหมือนมีใบตะเคียนพัดผ่านหน้าไปหลังจากความคิดหลุดโลกฉันจบลง... ใครจะบ้าไปทำอย่างนั้นได้... ว่าแต่แค่หกโมงเอง... คงต้องมีอาจารย์หรือนักเรียนอื่นๆหลงเหลืออยู่บ้างล่ะน่า
ฉันหันหลังเดินเตะใบตะเคียนกลับเข้าไปในโรงเรียน เผื่อจะเจอคนอื่น... อ้อ จะว่าไป เวลานี้ฉันต้องแนะนำตัวใช่มิ?
ฉันชื่อ เต่าปิ้ง ชื่อนี้ได้มาจากหมอดูเมืองนอก... เนื่องจากการเข้าใจผิดทางภาษาอังกฤษอย่างรุนแรงของพ่อ... Taoping เตาผิง จึงกลายเป็นเต่าปิ้งไปได้โดยปริยาย
ไม่เป็นไรค่ะ ฉันภูมิใจในความโง่ เอ้ย...ความพิลึกของป๊ะป๋าตัวเอง >O<
เพราะยังมีอีกหลายส่วนดีที่ได้มาจากป๊ะป๋า อย่างเช่นเส้นผมสีดำขลับที่มันน่าจะปลิวพริ้วไสวเหมือนคนอื่น แต่ดั้นดันพันกันเป็นสังกะตัง เลยทำให้ดูหยิกเป็นลอนสวยเสียแทน (ต้องสัมผัสถึงจะรู้ว่ามันไม่ใช่) แถมใบหน้ากลมขาวดุจไข่ต้ม... เข้ากันได้ดีกับดวงตาเรียวคมเหมือนก๊วยจี๊สีพลอยดอกตะแบก (ถ้าตามหลักแฟนตาซีแล้วมันคือสีอเมทิสต์ดีๆนี่เองล่ะ)
ใช่ ฉันเป็นลูกครึ่งเยอรมัน-ไทย ที่พูดเป็นแต่เขมรกับไทยนี่ล่ะค่ะ! (ภาษาเขมรเป็นความชอบส่วนตัว...)
พล่ามมาน้ำท่วมแล้ว ตอนนี้ฉันต้องหาทางออกจากไอ้โรงเรียนนี่สักที ไม่งั้นมีหวังได้นอนคุยกับยุงแน่ๆ -3-
เพล้งง...
อุ้ยแป๊ดวิกอลจารึกกี๊ดโรย (ภาษาเขมร...แปลว่าจิตแพทย์คิดเงิน ...???) เสียงอะไรน่ะ! โฮกกกก... ถึงวันโลกาพินาศแล้วเหรอเนี่ย!! ฉันยังไม่ได้กินส้มลิ้มเมืองแปดริ้วที่บ้านเลย!!
[หนอนบ่อนไส้ : นี่หล่อนเวอร์ไปหน่อยปะ?]
หลังจากตั้งสติ + หายเพ้อได้ ฉันจึงรีบมองหาต้นเหตุของเสียงที่ทำให้ฉันเกือบอดกินส้มลิ้ม... เออ... ก็แค่เสียง...
โทรศัพท์มือถือตก...
แค่นี้เอง... เดี๋ยวโทรศัทพ์สารธารณะเอาก็ได้...
..... -_-+
...เฮ่ยยยยย!!!!! มือถือช้านนน!!!!
กรี๊ดดดดดด!!! ยนเฮาะทะไลโปมาน (แปลว่าเครื่องบินราคาเท่าไหร่... ดูคำอุทานแต่ละคำของแม่นางสิ...) แล้วฉันจะเอาอะไรติดต่อกับโลกภายนอกล่ะเนี่ย!! ฉันถูกควักลูกตา!! อ๊ากกกกกก!!
(แล้วตอนที่มีทำไมไม่ใช่ล่ะ...)
ฉันรีบโกยซากปรักหักพังของมือถือขึ้นมาสำรวจความเสียหาย โฮ... TOT ถูกมะนายยึดส้มลิ้มแน่เลยยยยย ม่ายยยยยย.... (มะนาย = แม่)
เพราะใคร ใครก๊านนน
>O<
ขยมเองแล... (ฉันเองแหละ)
เอาเท้อ... เดี๋ยวเก็บเงินซื้อใหม่ก็ได้ ปัญหาอยู่แค่ว่า... ฉันจะเอาอะไรโทรไปบอกมะนายล่ะเนี่ย... โทรศัพท์สาธารณะในโรงเรียนก็ไม่มี !!
นี่ฉันถูกขังลืมจริงๆนะเนี่ย!!
“โฮฮฮฮฮฮ... อยากบอกมะนายยยว่า... ขยมซกบายดีเด้อ ฮือ...” (อยากบอกแม่ว่าฉันสบายดี)
“โฮ้ย... เฌอจักทมึน” (เรื่องไม้จิ้มฟันๆ)
จิ้มฟันบ้านนายเซ่!!... แต่เอ๊ะ... ผู้ใดมาใช้ภาษาเขมรกับฉันกันเนี่ย... ฉันรีบเงยหน้าหาต้นเสียงพลางหยิบเศษหักๆของมือถือขึ้นมาเผื่อใช้เป็นอาวุธได้
“เป็นอะไรไปเรอะ” ร่างตรงหน้าฉันคือผู้ชายร่างสูงโปร่ง ผิวสีขาวดุจดอกไม้จันช่างเข้ากันดีกับเรือนผมดำสนิทที่ถูกซอยลงมาปรกๆดวงตาสีเฉกเช่นเดียวกัน จมูกโด่งเป็นสันเหมือนเด็กฝรั่ง แถมริมฝีปากเรียวได้รูปยิ่งผลัดให้เขาดูดีขึ้นไปใหญ่อีก
เด็กฝรั่งชัดๆ... ถ้าไม่ติดตรงที่ว่า...
“เตอเนี้ยะชัวเว่ย” (เธอชื่ออะไร)
=[]=
เขมรหลุด... เสียดายหน้ามันจริงๆ !! โฮกกกกก...
“เอ่อ... ขยมฉม้วกเต่าปิ้ง” (ฉันชื่อเต่าปิ้ง)
แล้วไปรับมุกมันทำไมเนี่ย...=__=;; (ประมาณว่าเจอพวกเดียวกัน)
“เต่าปิ้ง? ...ก๊ากๆๆๆๆๆ เต่าปิ๊งเรอะ! เธอชื่อเต่าปิ้ง? เต่าปิ้ง 55555+” ว่าแล้วเขมรสุดหล่อก็ปล่อยก๊ากออกมาอยากหมดท่าผู้ดี =O=” ฉันดีใจอยู่หรอกนะที่เจอพวกที่หลงอยู่ในโรงเรียนตอนเย็นเหมือนกัน แต่... ทำไมต้องเป็นหมอนี่ด้วย...
ชื่อฉันมันน่าตลกยังไงยะ! (สุดๆเลยเธอเอ๋ย)
“>O< หยุดขำสักทีน่า แล้วนายมาอยู่นี่ได้ไง?”
“นอนในแท็งค์น้ำบนด่านฟ้าเพลินไปหน่อย”
“ขยมเมิ่นยวนเต๊ -_-“ (กูไม่เข้าใจ)
“เออๆ จริงๆแล้ว... เผลอหลับในห้องน้ำห้องสุดท้ายน่ะ”
“ห้องเก็บอุปกรณ์อ่ะนะ =_=;”
“Yes, sir” น่ะ ปล่อยฝรั่งอีก น่าต่อยชะมัดนายนี่ แต่... ดูยังไงมันก็พวกเดียวกับฉันจริงๆ หลับในห้องน้ำได้เหมือนกันอีกเนอะ!!
“แล้วเราจะออกไปอิหยัง” (อีสานหลุดครับท่าน) ฉันถามตานั่น ดูทำหน้าเข้าสิ ระรื่นจริงๆ
“ปีน”
“แง้วววววว!! มีตัวเลือกที่ดีกว่านั้นไหม นายมีมือถือหรือเปล่า?”
“อ้อ มีสิ”
“งั้นขอยืมหน่อย -_-;”
“อ๊อดเมียนโร้ย...” (ไม่มีเงิน)
“...โฮ้ยซาบู๊เกาะเซาะตราซันโซ้ย” (โอ๊ยสบู่สระผมตราซัลซิล
?) ฉันถึงกับสบถออกมาเป็นภาษาเขมร... แต่ไม่ทันทีจะได้หลุดอะไรรั่วๆต่อ...
“เฮ้ๆพวกเจ้า... เฮ็ดอิหยัง!!” (พวกเธอทำอะไรกันอยู่) ภาษาที่ฉันฟังพอจะรู้ว่าไม่ใช่ภาษาถิ่นดังขึ้นมาจากด้านหลังพวกเราชาวเขมร แล้วเอ็งเป็นไผ~!!!
“เจ้ามาแต่ไส” (คุณมาจากไหน) ไอ้รูปหล่อชาวเขมรข้างๆฉันหลุดลาวถามชายหนุ่มหน้าตาดิบเถื่อนในชุดลำลองกลับไป หมอนั่นขมวดคิ้วหนาเตอะยิ่งกว่าชินจังเข้าหากันก่อนตอบกลับมา
“ข้อยมาเฮ็ดเวียก” (ฉันมาทำงาน)
“ยาม?”
“Yes, sir!!” ชาวลาวดันตอบกลับมาเป็นภาษาปะกิดให้ฉันเอ๋อเล่น ไอ้พวกนี้มันยังไงๆกันอยู่หรอกนะ -_-“
ในที่สุดเขมรหน้าฝรั่งข้างๆฉันก็เจรจากับยามถิ่นลาวจนบรรลุ... เรื่องมีอยู่ว่า ยามนั่นขึ้นรถด่วนขบวนสุดท้ายไปบาร์เกย์ที่หาดใหญ่ไม่ทัน เลยต้องมาทำงานต่อในโรงเรียน เป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ โฮ้ย...
“เอ่อ... เจ้าโอ้โลมไทยเป็นบ่?” (คุณพูดไทยได้ไหม) สุดท้ายหมอนั่นก็ต้องเอ่ยถามด้วยความเหนื่อย ฉันพอจะดูออกอยู่หรอกนะ น่าสงสารชะมัด -_-“
“พอฮู้” (พอรู้)
“จบลาว!!” ฉันตะโกนแทรกปิดวงภาษาลาวหลังจากยืนเอ๋อมานาน ให้ตายเถอะ! ทีหลังขอเขมรนะ พูดเป็นภาษาเดียว! =[]=”
ฉันได้ขอความช่วยเหลือจากพ่อยามนั่นจนสำเร็จ หมอนั่นบอกว่าจะไปเปิดประตูให้ แต่แล้ว... ระหว่างทาง...
“พวกเจ้ามีถุงยางบ่?”
“ฉันจะมีถุงยางได้ยังงายยยยยย!!” ฉันหลุดโวยใส่หน้ายามนั่นไป >O< จะบ้าเรอะ ใครมันจะพกถุงยางมาโรงเรียนก๊านน!!
“เฮ็ดอิหยัง?”
“ใส่ผ้าอนามัย” เจ้ายามนั่นตอบกลับมาเล่นเอาฉันแทบสลบ อะไรของม๊านนน >O<”
“บ่มีดอก”
“บ่เป็นหยังๆ” พลางส่ายมือไม่เป็นไร ทันทีที่ไอ้โรคจิตนั่นหันหลังไปฉันก็รีบกระซิบถามนายเขมรข้างๆทันที
“มันจะเอาถุงยางกับผ้าอนามัยไปทำอะไรว้าาาา??” หมอนั่นทำท่าเหมือนจะขำออกมายก ฮ่วย...คนมันสงสัยจริงๆนี่นา
“ภาษาลาว ถุงยางคือถุงพลาสติก ผ้าอนามัยคือกระดาษทิชชูจ้ะยัยเบื้อก”
“กรี๊ดดดดดดดดดดด!! >[]<!!”
“กรี๊ดทำไมฟะ” เจ้านั่นรีบตบหัวให้ฉันหุบปากจนแทบหน้าทิ่ม อ๊าา... ว่าแต่ฉันกรี๊ดทำไมหว่า... มันจะตกใจจริงๆนี่หว่าโอ้พระเจ้าจอร์จดับเบิ้ลยูบุ๊ช
“กรี๊ดดดดดด....” และเจ้ายามนั่นก็ร้องออกมาต่อ =[ ]=
อู้วลัลล้า...ฉันเห็นอะไรเข้าแล้วเนี่ย... สรุปข่าวลือที่ว่ายามทั้งโรงเรียนเป็นเกย์นี่เรื่องจริงเรอะ? =[]=”
“เป็นอิหยัง?”
“ข้อยต้องรีบไปกิ่นน้ำบอลิสุด ขอโทดพวกเจ้าหลายๆ โซกดี” (ฉันต้องรีบไปกินน้ำเปล่า ขอโทษพวกเธอจริงๆ ลาก่อน)
“เอ่อ.....” ไม่ทันที่ฉันจะอ้าปากเรียก... กะเทยถึกก็วิ่งขวิดหายไปหลังปุยเมฆทันที... ฉันกับนายนั่นจึงทำได้แต่ยืนอ้าปากค้าง...
“...เอ่อ........” จะรีบไปกินน้ำเปล่าทำไมเนี่ย?? เฮ้ย......
“เอ่อ... ดูท่าเราต้องปีนออกเหมือนเดิมแล้วล่ะ” หา... ไม่จริ๊ง... วันนี้ดั๊นใส่หวอลายจระเข้สีบานเย็น ทำไมไม่รอให้ฉันใส่ลายกูปรีก่อนค่อยปีนเนี่ยยย TOT
“เออ ว่าแต่... เตอเนี้ยะชัวเว่ย...?” (เธอชื่ออะไร) บังเอิญเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่รู้ชื่อตานี่เลย ให้ตายสิ -_-+
“ข้าวแช่...”
“ซมเตี๊ยบ?” (อีกทีซิ)
“ขยมฉม้วกข้าว -0-v“ (ฉันชื่อข้าว) หมอนั่นว่าพลางชูสองนิ้ว เอ่อ... ชื่อข้าวสินะ... ทำไมชื่อไม่พิเรนทร์เหมือนฉันบ้าง T^T โฮยยยยย
“โอเค แล้วจะไปได้ยัง...เต่าปิ้ง”
“เรียกฉันว่าปิ้งเถอะ T^T /” ฉันรำพึง ทำไมเกิดมาชื่อมันธรรมดาโลกเหมือนคนอื่นนะ... โฮก...
ไม่นานตาข้าวก็พาแหวกป่ามาจนถึงหลังโรงเรียน ฉันจำได้ว่ารั้วโรงเรียนนี่สูงตั้งสามเมตรนะ! เอ็งจะให้ข้าปีนขึ้นไปเรอะ!!
“นี่ไง ฉันไปเจอเข้า” หมอนั่นแหวกพุ่มไม้พุ่มสุดท้ายออกเผยให้เห็นรั้วสีทองที่หักออกไปสองท่อน พอจะปีนออกไปได้ เอ้อ ว่าแต่แกไปเจอของอย่างนี้ได้ยังไงฟะเนี่ย
“ให้ฉันปีนก่...” ไม่ทันที่จะพูดจบ นายข้าวก็กระโดดปีนรั้วออกไปอย่างคล่องแคล่วทันที =[]=.. อย่าทิ้งช้านไว้ในนี้คนเดียวเซ่!!!
กรี๊ดดด ฉันกำลังจะถูกปล่อยป่า ม่ายยยย T[]T ไม่เอาน้า...
ว่าแล้วก็รีบกระโดดตามไปทันที พลันหูก็แว่วไปได้ยิน...
“เฮ่ย! อย่าเพิ่งง!!”
สายไปแล้วดอก...
ผลัวะ! ตูมมม!!
อ๊า.... ฉันกำลังจูบ... จูบ....
....
จูบกับน้ำคลอง!! โฮกกก...TOT ~~
ความคิดเห็น