ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ซักฟอก
ตึง ตึง ตึง ตึง ตึง
นาฬิกาตีบอกเวลา 17.00นาฬิากา 0 นาที 4วินาที
หลังจากการทำงานที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยผ่านพ้นไป ได้เวลาไล่พวกนี้กลับบ้านซะที ให้ตายสิ แนยังคงพยายามทำใจดีกับนายแคมป์ซะหน่อย แต่พอฉันไปขอโทษที่ตีหลังนายนั่นด้วยกระป่อง กลับได้อะไรมารู้ไหม
รอยปูดที่หัวไง
มันเล่นเขกหัวฉันโป๊กใหญ่ แล้วพูดว่า “แค่นี้เราก็หายกัน” มันน่าจับมาเป็นกระสอบทรายชะมัด
“เดี๋ยวเราส่งตรงนี้นะ”ฉันส่งนิ้งกับเอที่ป้ายรถเมล์ สองคนนี้จะกลับบ้านด้วยกัน ฉันคิดว่าต่อไปสองคนนี้ต้องเป็นแฟนกันแน่เลย อิอิ
“นี่ๆ พี่เธอ กับพ่อเธอโหดน่าดูเลยเนอะ”นิ้งพูดขึ้น แล้วยิ้มแหยๆ
“ใช่ๆ ยังดีหน่อยว่าฉันไม่ใช่คนที่โดนเหล่”ว่าแล้วเอก็เหล่ตามองไปที่นายแคมป์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก (ข้างๆกันนั่นแหละ)
“เดี๋ยวนายกลับยังไง”ฉันหันไปถามแคมป์อย่างมีน้ำใจ เอาเหอะ ท่องไว้ว่ามันคือเป้าหมาย เพื่อเพื่อน สู้ๆ เราต้องทำได้
“เดี๋ยวเรียกแท็กซี่กลับ เธอไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย ฉันไม่ลืมจ่ายค่าแท็กซี่เหมือนเอหรอกนะ ยัยจืด”ฉันไม่น่าถามมันเลย ไม่น่าเปิดโอกาสให้มันแขวะได้ ชิชิ
“เออ ยังกับนายหล่อนัก”ฉันปากดีไปอย่างนั้นเอง จริงๆฉันต้องจีบมันให้ได้ พูดก็พูดเหอะ หน้าตานายแคมป์เองก็ไม่ได้ดีอะไรนักหนา เฉยๆ ไม่สะดุดตา แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ซะทีเดียว เพียงแต่ไม่หล่อ อย่างงสิ สรุปคือมัน หน้าตาธรรมดา
“ยัยจืด ไม่ต้องพูดมาก ดูตัวเองซะก่อนสิ”
“ฉันดูตัวเองแล้ว แต่นายตะหากที่ไม่ดูตัวเอง”
“พอๆ สงบศึก รถมาแล้ว ไปกันเหอะนิ้ง พวกนายสองคนอย่าทะเลาะกันนะ”เอพูด แล้วจับมือนิ้งขึ้นรถไป ถ้ามีใครมากระซิบหน่อยว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันนะ ฉันจะเชื่อทันทีเลย
“นายก็ไปได้แล้ว”ฉันโบกแท็กซี่ให้เขาแล้วไล่ๆมันไป
“ไม่อยากเจอเธอนักหนายัยจืด”มันจะไปแล้วยังไม่วายกัดฉันเลย ชิชะ ด้วยความโมโห ฉันจึงหลุดประโยคที่ไม่ควรพูดออกไปอย่างง่ายดาย
“คอยดูเหอะ ยัยจืดนี้แหละ จะทำให้นายชอบฉันให้ได้เลย คอยดู”ฉันแลบลิ้นให้กระโปรงรถที่กำลังจะแล่นจากไป แล้วหันหลังเดินกลับเข้าหมู่บ้านไป ชิชะ คอยดู๊ คอยดู
ฉันเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าปากซอย แล้วชะแวบเข้าร้านอาโกทันที ขอซื้อขนมกินแก้หงุดหงิดหน่อยเถอะ เดี๋ยวพี่กลมจะล้ออีกว่าฉันเป็นสตรีวัยใกล้หมดประจำเดือน ชิชะ ร้านอาโกไม่มีอะไรเปลี่ยน ของทุกอย่างถูกจัดวางในตำแหน่งเดิมที่ฉันคุ้นเคย เว้นแต่อย่างเดียวที่ผิดแปลกออกไป
\"โกคะ กระดาษปึกนี้...\"ฉันชี้ไปที่กองกระดาษประมาณ15แผ่น ที่วางอยู่บนโต๊ะ
\"อ๋อ มีอาเด๊กผู้ชายคงนึงเขามาวางไว้\"อากงตอบด้วยภาษาที่ยากจะเข้าใจ ได้แต่ใช้ความเคยชินฟังเอาให้รู้เรื่อง
\"เด็กผู้ชาย ใส่เสื้อยืดสีขาว กับกางเกงขาสั้น สูงประมาณนี้(ฉันเทียบระดับสูงไปจากหัวซักสิบเซนติเมตร) ผมยุ่งๆ หน้าตาขวางโลกใช่ไหมคะ\"ฉันถามอากงละเอียดยิบ
\"ช่ายๆ\"อากงพยักหน้าหงึกๆ \"แล้วลื้อจะเอาอาลายละ\"
\"นมขวดนึงคะ คราวนี้เอาขวดใหญ่เลย มีคนช่วยกิน\"ฉันหมายถึงน้องเนยกับน้องนาวที่นอนเอกเขนกอยู่บ้านสบายใจเฉิบ
“ไม่ต้องทอนคะ เออ หนูเอาไอ้นี่ไปเลยนะคะ ของเพื่อนหนูเอง”ฉันชี้ไปที่กระดาษปึกใหญ่ แล้วเดินไปหยิบโดยไม่รอคำอนุญาตจากอากง
“มันเหลือเยอะนะอาหนู”อากงตะโกนไหล่หลังฉันมา
“ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าขอบคุณที่ช่วยทำแบบสอบถามพวกนี้นะคะ”ฉันพูด แล้วเดินลิ่วๆตรงไปยังบ้านของตัวเองทันที สงสัยนี่พี่กลิ้งคงเตรียมการซักฟอกครั้งใหญ่ไว้ให้ฉันเลยนะเนี่ย
ฉันเดินมาเรื่อยๆตามทางเดินอย่างเคยชินกับสภาพหมู่บ้านของตัวเอง มองซ้าย มองขวา ไปเรื่อยๆเฮ้อ ต้อยติ่งขึ้นเต็มคูเลย เดี๋ยวชวนน้องเนยกับน้องนาวมาเก็บต้อยติ่งเล่นกันดีกว่า เคยเล่นไหม เวลาเก็บต้องเก็บเป็นร้อยๆเม็ดเลย ใส่ไว้ในกระป๋องเล็กๆ พอเต็มกระป่องก็ใส่น้ำลงไปหน่อย ได้พอวี้ดว้ายไปตามเรื่อย ยิ่งเอาไปแกล้งพวกคุณหนูๆนะ เสียงแปดหลอดของคุณๆทั้งหลาย แปลงมาเป็นเสียงหัวเราะของพวกเราได้ดีทีเดียว
“น้ากริ่งกลับมาแล้วจ้า”ฉันตะโกนอยู่หน้าบ้านตัวเอง แล้วเปิดประตูด้วยท่าทางทุลักทุเลสุดๆ อุตส่าห์เรียกแล้วไม่มีใครมาช่วยเปิดประตูเลย
เงียบ....
ง่ะ ทำไมบ้านเงียบเกินไปอย่างนี้ละ ยิ่งมียัยหลานฝาแฝด มันน่าจะอึกทึกครึกโครมไม่ใช่หรอ ทำไมเงียบเป็นป่าช้าอย่างนี้ละ คิดแล้วขนลุกซู่ ยิ่งไม่ถูกโรคกับผีด้วยสิ
“มาแล้วหรอ ยัยกริ่ง”เสียงเรียบๆของท่านเจ้าคุณพ่อดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ฉันหันไปตามเสียง ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าชวนให้คิดถึงหนังสือเรื่องสี่แผ่นดินอยู่หน่อยๆ ก็ดูสิ ท่านเจ้าคุณ (พ่อฉันเอง) นั่งอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดมุมบ้านที่จัดไว้ให้นั่งเล่น แม่นั่งอยู่บนตั่งเตี้ยๆที่ลูกๆเอาไว้นอนเล่น พี่กลมกับพี่กลิ้งนั่งอยู่ที่พื้นเยื้องไปทางซ้าย ถัดไปจากพี่กลิ้ง มีพี่อ้อยนั่งอยู่กับยัยหลานสาวฝาแฝดของฉัน
“ทำไมตั้งท่าน่ากลัวอย่างนั้นละคะ”ฉันเอ่ยถาม
“เราทำความผิดอะไร”พ่อเอ่ยถามเสียงเครียด น่ากลัวสุดๆ พ่อเก๊กเอาไว้หรือเปล่านะ
“เปล่านี่คะ”ฉันยังยืนอยู่ที่เดิม
“อย่ายืนค้ำหัวผู้ใหญ่สิ กริ่ง”พี่กลิ้งพูดเบาๆ เป็นเชิงดุ
“คะ แล้วทำอีท่าไหนละคะ ท่านผู้ใหญ่ถึงไปนั่งกับพื้น”ฉันถามพี่กลิ้งขณะที่ตัวเองเดินลงไปนั่งกับพื้น หน้าคุณพ่อ
“วันนี้คดียังไม่หมด จะเอาคดีอื่นอีกหรอ”พ่อถาม
“หนูไม่ผิดนี่คะ พาเพื่อนมาทำรายงานผิดตรงไหน”ฉันถามตามความคิด
“ไม่ผิดหรอกกริ่ง ถ้าเพื่อนปากไม่เสีย”พี่กลมพูดขำๆ แต่ยังไม่ทันปล่อยหัวเราะออกมา ก็โดนสายตาของแม่ปรามไว้
“อ้าว”ฉันยกมือเกาหัวอย่างงงๆ
“ไหนเล่ามาสิกริ่ง ว่านายเอ กับนายแคมป์เพื่อนกริ่งเนี่ย เป็นใครมาจากไหนแล้ว...”พี่กลิ้งยังถามไม่จบฉันก็พูดขัดขึ้นซะก่อน
“เอาประวัติละเอียดยิบเลยใช่ไหมคะ”ฉันถาม
“ใช่เลย”พี่กลิ้งตอบ
เฮ้อ ที่แท้ก็อยากรู้เรื่องนายแคมป์กับนายเอ แต่ดูท่าทางพี่กลิ้งจะถูกชะตากับสองคนนี้น่าดู ปกติเพื่อนผุ้ชายคนไหนของฉันพี่กลิ้งก็แค่เขม่งไว้ ไม่ค่อยมาซักรายละเอียดอย่างนี้ ฉันเงยหน้ามองแม่ อย่างขอความช่วยเหลือ แต่แค่เห็นแววตานึกสนุกดวงตาเป็นประกายของท่าน ฉันเลยได้แต่ถอนใจ
แม่มานึกสนุกตอนที่ลูกสาวกำลังจะตายคามือพ่อ
“ก็เล่าแล้วไงคะ ว่าแคมป์กับเอเป็นเพื่อนร่วมห้อง ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 ห้อง7 สองคนนี้เขาเป็นเพื่อนสนิทกันอีกที มีนิ้งรวมเข้าไปอีกคนครบก๊วน บ้าเกมกันทั้งคู่ โดยเฉพาะนายแคมป์ บ้าเกมมากกว่าเพื่อน เกมสำคัญกับเขายิ่งกว่ากินข้าวอีก หรืออาบน้ำอีก ไม่เชื่อพ่อกับพี่กลิ้งไปดมได้ แต่คงต้องวันหลัง แล้วจะรู้ว่ามันเหม็นมาก”ฉันหยุดหายใจ
“การเรียนของแคมป์จัดอยู่ในเกณฑ์ห่วย ถึงห่วยที่สุดเลยทีเดียวเพราะไม่เคยฟังอาจารย์งานไม่เคยส่ง สอบตกไม่เข้าซ้อม เขาอ้างว่าเปลืองเวลาเล่นเกม นิสัยเป็นคนนิ่งๆเงียบๆ ยกเว้นคุยเรื่องเกมจะจ้อๆไม่หยุดอันนี้เคยลองมาแล้ว ส่วนเอ การเรียนปานกลาง นิสัยดี อัธยาศัยดี ส่งงานบ้างไม่ส่งบ้าง เกรดขึ้นๆลงๆ ตามความเอาใจใส่ของตัวเอง”รู้สึกแปลกมากๆที่ต้องมานั่งแจกแจงเพื่อนให้พ่อกับพี่ฟัง
ฉันคิดว่าคงพอแล้ว แต่พอเหลือบมองสายตาของพี่กลิ้ง ก็ได้แต่กลืนน้ำลายดังอึกๆ แล้วอ้าปากเล่าต่อไป
“คราวนี้บังเอิญจับพลัดจับพลูได้มาอยู่กลุ่มรายงาน กลุ่มเดียวกันทั้งห้าคน เลยให้มาทำงานที่บ้านจะได้ควบคุมได้ง่ายขึ้น เดี๋ยวเขาหนีไปเล่นเกม”ฉันจบคำอธิบาย แล้วนั่งนิ่ง
ทุกคนเข้าสู่โหมดเงียบอีกครั้ง ฉันไม่ชอบเลยโหมดนี้
“แล้วกริ่งคิดยังไงกับเขา”พี่อ้อยถามทำลายความเงียบ
“คิดยังไง หมายถึงอะไรละคะ”ฉันงงกับคำถามมาก
“หมายถึง กริ่งจะเอาคนไหนมาเป็นลูกเขย แม่เอ่ยเสียงเย้า แม่นี่เล่นไม่รู้จักเวลาเอาซะเลย ดูก่อนสิคะว่าพ่อจะฆ่าหนูตายไหม หนูหาลูกเขยให้พ่อตอนนี้
“ไม่รู้สิคะ”จริงๆก็รู้อยู่หรอกว่าต้องจีบใคร แต่บอกไปมีแต่ตายกับตาย ฉันอาจจะไม่ตายคนเดียวด้วย นายนั่นอาจจะตายด้วยอีกคนใครจะไปรู้ว่าไหม
“ว่าอะไรนะ”พ่อถามเสียงเรียบๆ น่ากลัวสุดๆ
“คือ...เออ...”ฉันเกลียดตัวเองจริงๆ เวลาพ่อพูดเรียบๆ เสียงมักจะตะกุกตะกักเสมอเลย เฮ้อ ให้ตายสิ จะพูดอะไรดีละ
“อากริ่งคะ คุงปู่น่ากัว”น้องเนยเข้ามากอดฉัน
“โอ๋ๆ คือ คุณพ่อคะ...”ฉันปลอบน้องเนย แล้วหันไปจะพูดกับพ่อ
“ดูสิคุณหลานกลัวใหญ่แล้วนะ”แม่แตะแขนพ่อเบาๆ
“คุณเลย ไปแซวลูก เชียร์ลูกหาแฟน เดี๋ยวแกก็เสียเด็ก”พ่อหันไปพูดกับแม่ด้วยน้ำเสียงเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน
“อ้าว”แม่เกาหัวแกรกๆ แล้วนั่งนิ่งๆเหมือนเดิม
“พ่อถามว่าลูกคิดยังไงกับเขา ไม่ได้ถามตามความหมายที่แม่แปลให้ ไหน กริ่งตอบมาสิ”พ่อหันมาถามฉัน ที่นั่งกอดน้องเนยอยู่กับพื้น
“ก็เพื่อนร่วมห้องธรรมดาๆนี่คะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นนี่”ฉันตอบ
“แล้วผู้หญิงอีกคนละ ที่น่ารักๆ ใส่เสื้อสีขาวอะ”พี่กลมยื่นหน้าเข้ามาถาม พี่แกหน้าหม้อสุดๆ ดูสิ อี๋ หูนี่ดำปี๋เชียว เอาไงดี ขืนฉันเล่นลิ้นตอนนี้ พ่อคงเอาตายแน่เลย
“เพื่อนไง บอกแล้ว่าชื่อนิ้ง พี่กลมจะทำไมหรอ”
“น่ารักนี่ ไม่น่าเชื่อว่า จืดๆอย่างน้องพี่ มีแต่เพื่อนๆน่ารักๆทั้งนั้นเลย”พี่กลมพูด แล้วยิ้ม (หื่น) น้อยๆ พี่กลมจ๋า ก่อนจะคิดหรือพูดอะไรเนี่ย ก้มลงมองลูกแตงโมในท้องพี่ก่อนได้ไหม พี่จะกลิ้งไปจีบเขาหรือไงนะ
“หืม”พี่กลิ้งยื่นหน้าเข้ามา เออ ใช่ พี่กลิ้งยังไม่ค่อยเห็นเพื่อนๆฉันเท่าไหร่ ไอ้พี่กลมนี่แหละ อยู่บ้านตลอดเลยแหล่ตลอด
“ก็อย่างแฝดนรกของยัยกริ่งไง ดูสิพี่กลิ้ง สวยยังกับอะไรดี”พี่กลมทำตาปิ๊งๆขึ้นมาทันที น่าหมั่นไส้
“สองแฝดแสบนั้นน่ะหรอ”พี่กลิ้งทวนคำอย่างไม่เชื่อหู
“เมื่อก่อนก็จืดๆ เดี๋ยวนี้น่ารักขึ้นแยะ พี่กลิ้งไม่ได้เห็นซะนาน เดี๋ยวนี้คงจำไม่ได้แล้วละมั้ง”
“สวยขนาดไหนละ”พี่กลิ้งดูจะสนใจอยู่มากทีเดียว เลยลืมดูสายตาภรรยาตัวเองที่มองตาเขียวปัด ด้วยความหึงหวงสามีตัวเอง
“คิดดูสิพี่ เป็นดัมเมเยอร์ เป็นลีด เป็นดาวโรงเรียน สวยสุดๆ แม้ว่าจะไม่ออกแนวขาว สวย หมวย ตามแบบฉบับสาวยุคใหม่ แต่สวยความ เปรี้ยวสุดๆเลยพี่ ไม่ใช่แค่หนึ่งนะ ตั้งสอง”พี่กลมตั้งหน้าตั้งตา ยกยอปอปั้น เพื่อนฉันให้พี่ชายคนโตฟังใหญ่ คนฟังก็นั่งฟังเงียบกริบอย่างตั้งอกตั้งใจ
“มีรูปไหม”พี่กลิ้งถาม
“ขอกริ่งสิพี่ รายนั้นรูปเพื่อนตัวเอง เยอะกว่ารูปตัวเองอีก”พี่กลมกับพี่กลิ้งแหล่ฉันทันที
“แล้วพี่เห็นเพื่อนกริ่งที่ชื่อนิ้งหรือเปล่า ที่มาวันนี้ น่ารักใช่ย่อย ถึงฝาแฝดจะสวยกว่าก็เหอะ ไอ้ผมก็จะเข้าไปเจ๊าะแจ๊ะหน่อย ไอ้เอคนเดียว ขวางอยู่ได้”พี่กลมพูดต่ออย่างเมามันส์ พี่ฉันไม่ได้ดูตัวเองเลย
“หว่า เสียดาย ถ้าพี่อ่อนกว่านี้ซักห้าหกปี คงมีโอกาสบ้าง”พี่กลิ้งเปรย แล้วก็ต้องร้องสะดุ้งขึ้นมาทันที เพราะ แรงบิดจากภรรยาสุดสวย ทำให้เจ้าตัวลูบหูป่อยๆ   
“อ่อนกว่านี้ซักห้าหกปี ชีกอไม่เลิก”พี่อ้อยทวนคำแล้วว่าเข้าให้ ทำเอาคนถูกว่าหน้าเจื่อนไปในพริบตา
“พูดเล่นน่ะ ใครจะสวยกว่าอ้อย”ยอกันเข้าไป
“เอานอกเรื่องแล้ว สรุป กริ่งคิดยังไงกับสองคนนั้น บอกพ่อมาตรงๆเลยดีกว่า”พ่อเอ่ยเสียงเคร่ง น่ากลัวจังพ่อใครหว่า
“ถ้านายเอ เขานิสัยดีค่ะ อัธยาศัยดี น่ารัก แต่ว่า หนูก็ไม่ได้คิดอะไรไปเกินเพื่อนนี่นา เพราะว่าเขาชอบนิ้งอยู่ (วะ เห็นไหมพี่ ผมจะจีบหน่อยไม่ได้ เสียงบ่นดังมาจากพี่กลม) ถึงเขาไม่ชอบนิ้ง หนูก็ไม่ชอบเขาแบบนั้น”
คิ้วของพ่อเลิกขึ้น
“แปลว่าเราชอบนายแคมป์หรอใช่ไหม”พ่อถาม
“เปล่านะคะ เออ..คือ.คือว่า..งะ....เอ...เออ....”ฉันพูดติดอ่างอีกแล้ว เอาไงดีวะ เพื่อง่ายแก่แผนการ เอาก็เอา เพื่อเพื่อน
\"เขาก็ดีนี่คะ\"ฉันตอบสั้นๆ ให้ความหมายได้ดี
“งั้นดีเลย พ่อก็รู้สึกถูกชะตากับนายแคมป์ ปากกล้านัก คนอย่างนี้สิ เล่นด้วยสนุก ปากคมๆยังกับมีดคงพอให้พ่อเคาะสนิมลับฝีปากกันบ้าง กริ่ง พ่อเอาคนนี้นะ วันหลังชวนมาบ้านบ่อยๆละ”พ่อพูดแล้วลุกขึ้นเดินออกไปปล่อยให้ฉันงงอยู่กับที่ ตามหลังไปด้วยแม่ พี่กลม พี่อ้อย(ที่งอนพี่กลิ้งอยู่ )
“อ้าวแล้วตกลง”ฉันชี้มือตามหลังพ่อไป
“เรื่องนี้แหละที่พ่อเขาจะพูด”พี่กลิ้งตบบ่าฉันแล้วเดินออกไปอีกคนพร้อมกับลูกสาวตัวเอง
ฉันงงอยู่กับที่ รู้อย่างเดียวว่าพ่อถูกชะตากับนายแคมป์ ตายแน่นายแคมป์เอ๋ย นายได้เครียดจัดจนสมองหลุดออกมากลิ้งขลุกๆแน่ แคมป์ผู้น่าสงสาร ต้องมาลับฝีปากกับพ่ออีกเมื่อไหร่นี่
------------
จบตอนแล้วไม่มีชื่อตอน ใครคิดออกบอกด้วยเน้อ
------------
แค่นี้ก่อนนะคะไม่ไหวง่วงมาก กว่าจะได้เล่นคอมเล่นเอาสามทุ่มเลย พรุ่งนี้เรีรยนอีก เหนื่อยๆๆๆๆ
------------
หุหุ เดือนนี้กิจกรรมเยอะอย่างแรง
เริ่มด้วยวันลอยกระทง โรงเรียนจัดวันที่16นี้ ต้องร่วมกินกรรม เราต้องไปช่วยเขาออกแบบ และซ้อมแดนเซอร์ประกวดวงลูกทุ่งให้ห้อง แดนเซอร์เนี่ย หุ่น หุหุ ฮามาก
2.ค่ายลูกเสือยุวกาชาด ก็คงต้องซ้อมรอบกองไฟอีก
3.ค่ายวิชาการอีก งะ
4.ทัศนศึกษา
----
พรุ่งนี้testอะ แง่วๆ จำตารางธาตุง่ะ
---
จบงานสาธิตมามัคคีแล้ว ยังสนุกไม่หายเลย วันก่อนที่โณงเรียนเปิดวีดีโอให้ดู แทบจะกรีด เพราะแสตนมันสวย อิอิ ลีดเราก็สวย หุหุ เอาเหอะ เราเปิดเทอมแล้วคะ คงได้อัพวันละนิดวันละหน่อย ตกประมาณอาทิตย์ละตอนน้อยไปไหมคะ เราเปิดดิสก์ไม่ได้ น้องเราลืมลงไดรฟ์เอ งะ เฮ้อ
รักคนอ่านนะคะ เม้นต์ๆๆ โพสๆๆๆ
นาฬิกาตีบอกเวลา 17.00นาฬิากา 0 นาที 4วินาที
หลังจากการทำงานที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยผ่านพ้นไป ได้เวลาไล่พวกนี้กลับบ้านซะที ให้ตายสิ แนยังคงพยายามทำใจดีกับนายแคมป์ซะหน่อย แต่พอฉันไปขอโทษที่ตีหลังนายนั่นด้วยกระป่อง กลับได้อะไรมารู้ไหม
รอยปูดที่หัวไง
มันเล่นเขกหัวฉันโป๊กใหญ่ แล้วพูดว่า “แค่นี้เราก็หายกัน” มันน่าจับมาเป็นกระสอบทรายชะมัด
“เดี๋ยวเราส่งตรงนี้นะ”ฉันส่งนิ้งกับเอที่ป้ายรถเมล์ สองคนนี้จะกลับบ้านด้วยกัน ฉันคิดว่าต่อไปสองคนนี้ต้องเป็นแฟนกันแน่เลย อิอิ
“นี่ๆ พี่เธอ กับพ่อเธอโหดน่าดูเลยเนอะ”นิ้งพูดขึ้น แล้วยิ้มแหยๆ
“ใช่ๆ ยังดีหน่อยว่าฉันไม่ใช่คนที่โดนเหล่”ว่าแล้วเอก็เหล่ตามองไปที่นายแคมป์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก (ข้างๆกันนั่นแหละ)
“เดี๋ยวนายกลับยังไง”ฉันหันไปถามแคมป์อย่างมีน้ำใจ เอาเหอะ ท่องไว้ว่ามันคือเป้าหมาย เพื่อเพื่อน สู้ๆ เราต้องทำได้
“เดี๋ยวเรียกแท็กซี่กลับ เธอไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย ฉันไม่ลืมจ่ายค่าแท็กซี่เหมือนเอหรอกนะ ยัยจืด”ฉันไม่น่าถามมันเลย ไม่น่าเปิดโอกาสให้มันแขวะได้ ชิชิ
“เออ ยังกับนายหล่อนัก”ฉันปากดีไปอย่างนั้นเอง จริงๆฉันต้องจีบมันให้ได้ พูดก็พูดเหอะ หน้าตานายแคมป์เองก็ไม่ได้ดีอะไรนักหนา เฉยๆ ไม่สะดุดตา แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ซะทีเดียว เพียงแต่ไม่หล่อ อย่างงสิ สรุปคือมัน หน้าตาธรรมดา
“ยัยจืด ไม่ต้องพูดมาก ดูตัวเองซะก่อนสิ”
“ฉันดูตัวเองแล้ว แต่นายตะหากที่ไม่ดูตัวเอง”
“พอๆ สงบศึก รถมาแล้ว ไปกันเหอะนิ้ง พวกนายสองคนอย่าทะเลาะกันนะ”เอพูด แล้วจับมือนิ้งขึ้นรถไป ถ้ามีใครมากระซิบหน่อยว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันนะ ฉันจะเชื่อทันทีเลย
“นายก็ไปได้แล้ว”ฉันโบกแท็กซี่ให้เขาแล้วไล่ๆมันไป
“ไม่อยากเจอเธอนักหนายัยจืด”มันจะไปแล้วยังไม่วายกัดฉันเลย ชิชะ ด้วยความโมโห ฉันจึงหลุดประโยคที่ไม่ควรพูดออกไปอย่างง่ายดาย
“คอยดูเหอะ ยัยจืดนี้แหละ จะทำให้นายชอบฉันให้ได้เลย คอยดู”ฉันแลบลิ้นให้กระโปรงรถที่กำลังจะแล่นจากไป แล้วหันหลังเดินกลับเข้าหมู่บ้านไป ชิชะ คอยดู๊ คอยดู
ฉันเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าปากซอย แล้วชะแวบเข้าร้านอาโกทันที ขอซื้อขนมกินแก้หงุดหงิดหน่อยเถอะ เดี๋ยวพี่กลมจะล้ออีกว่าฉันเป็นสตรีวัยใกล้หมดประจำเดือน ชิชะ ร้านอาโกไม่มีอะไรเปลี่ยน ของทุกอย่างถูกจัดวางในตำแหน่งเดิมที่ฉันคุ้นเคย เว้นแต่อย่างเดียวที่ผิดแปลกออกไป
\"โกคะ กระดาษปึกนี้...\"ฉันชี้ไปที่กองกระดาษประมาณ15แผ่น ที่วางอยู่บนโต๊ะ
\"อ๋อ มีอาเด๊กผู้ชายคงนึงเขามาวางไว้\"อากงตอบด้วยภาษาที่ยากจะเข้าใจ ได้แต่ใช้ความเคยชินฟังเอาให้รู้เรื่อง
\"เด็กผู้ชาย ใส่เสื้อยืดสีขาว กับกางเกงขาสั้น สูงประมาณนี้(ฉันเทียบระดับสูงไปจากหัวซักสิบเซนติเมตร) ผมยุ่งๆ หน้าตาขวางโลกใช่ไหมคะ\"ฉันถามอากงละเอียดยิบ
\"ช่ายๆ\"อากงพยักหน้าหงึกๆ \"แล้วลื้อจะเอาอาลายละ\"
\"นมขวดนึงคะ คราวนี้เอาขวดใหญ่เลย มีคนช่วยกิน\"ฉันหมายถึงน้องเนยกับน้องนาวที่นอนเอกเขนกอยู่บ้านสบายใจเฉิบ
“ไม่ต้องทอนคะ เออ หนูเอาไอ้นี่ไปเลยนะคะ ของเพื่อนหนูเอง”ฉันชี้ไปที่กระดาษปึกใหญ่ แล้วเดินไปหยิบโดยไม่รอคำอนุญาตจากอากง
“มันเหลือเยอะนะอาหนู”อากงตะโกนไหล่หลังฉันมา
“ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าขอบคุณที่ช่วยทำแบบสอบถามพวกนี้นะคะ”ฉันพูด แล้วเดินลิ่วๆตรงไปยังบ้านของตัวเองทันที สงสัยนี่พี่กลิ้งคงเตรียมการซักฟอกครั้งใหญ่ไว้ให้ฉันเลยนะเนี่ย
ฉันเดินมาเรื่อยๆตามทางเดินอย่างเคยชินกับสภาพหมู่บ้านของตัวเอง มองซ้าย มองขวา ไปเรื่อยๆเฮ้อ ต้อยติ่งขึ้นเต็มคูเลย เดี๋ยวชวนน้องเนยกับน้องนาวมาเก็บต้อยติ่งเล่นกันดีกว่า เคยเล่นไหม เวลาเก็บต้องเก็บเป็นร้อยๆเม็ดเลย ใส่ไว้ในกระป๋องเล็กๆ พอเต็มกระป่องก็ใส่น้ำลงไปหน่อย ได้พอวี้ดว้ายไปตามเรื่อย ยิ่งเอาไปแกล้งพวกคุณหนูๆนะ เสียงแปดหลอดของคุณๆทั้งหลาย แปลงมาเป็นเสียงหัวเราะของพวกเราได้ดีทีเดียว
“น้ากริ่งกลับมาแล้วจ้า”ฉันตะโกนอยู่หน้าบ้านตัวเอง แล้วเปิดประตูด้วยท่าทางทุลักทุเลสุดๆ อุตส่าห์เรียกแล้วไม่มีใครมาช่วยเปิดประตูเลย
เงียบ....
ง่ะ ทำไมบ้านเงียบเกินไปอย่างนี้ละ ยิ่งมียัยหลานฝาแฝด มันน่าจะอึกทึกครึกโครมไม่ใช่หรอ ทำไมเงียบเป็นป่าช้าอย่างนี้ละ คิดแล้วขนลุกซู่ ยิ่งไม่ถูกโรคกับผีด้วยสิ
“มาแล้วหรอ ยัยกริ่ง”เสียงเรียบๆของท่านเจ้าคุณพ่อดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ฉันหันไปตามเสียง ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าชวนให้คิดถึงหนังสือเรื่องสี่แผ่นดินอยู่หน่อยๆ ก็ดูสิ ท่านเจ้าคุณ (พ่อฉันเอง) นั่งอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดมุมบ้านที่จัดไว้ให้นั่งเล่น แม่นั่งอยู่บนตั่งเตี้ยๆที่ลูกๆเอาไว้นอนเล่น พี่กลมกับพี่กลิ้งนั่งอยู่ที่พื้นเยื้องไปทางซ้าย ถัดไปจากพี่กลิ้ง มีพี่อ้อยนั่งอยู่กับยัยหลานสาวฝาแฝดของฉัน
“ทำไมตั้งท่าน่ากลัวอย่างนั้นละคะ”ฉันเอ่ยถาม
“เราทำความผิดอะไร”พ่อเอ่ยถามเสียงเครียด น่ากลัวสุดๆ พ่อเก๊กเอาไว้หรือเปล่านะ
“เปล่านี่คะ”ฉันยังยืนอยู่ที่เดิม
“อย่ายืนค้ำหัวผู้ใหญ่สิ กริ่ง”พี่กลิ้งพูดเบาๆ เป็นเชิงดุ
“คะ แล้วทำอีท่าไหนละคะ ท่านผู้ใหญ่ถึงไปนั่งกับพื้น”ฉันถามพี่กลิ้งขณะที่ตัวเองเดินลงไปนั่งกับพื้น หน้าคุณพ่อ
“วันนี้คดียังไม่หมด จะเอาคดีอื่นอีกหรอ”พ่อถาม
“หนูไม่ผิดนี่คะ พาเพื่อนมาทำรายงานผิดตรงไหน”ฉันถามตามความคิด
“ไม่ผิดหรอกกริ่ง ถ้าเพื่อนปากไม่เสีย”พี่กลมพูดขำๆ แต่ยังไม่ทันปล่อยหัวเราะออกมา ก็โดนสายตาของแม่ปรามไว้
“อ้าว”ฉันยกมือเกาหัวอย่างงงๆ
“ไหนเล่ามาสิกริ่ง ว่านายเอ กับนายแคมป์เพื่อนกริ่งเนี่ย เป็นใครมาจากไหนแล้ว...”พี่กลิ้งยังถามไม่จบฉันก็พูดขัดขึ้นซะก่อน
“เอาประวัติละเอียดยิบเลยใช่ไหมคะ”ฉันถาม
“ใช่เลย”พี่กลิ้งตอบ
เฮ้อ ที่แท้ก็อยากรู้เรื่องนายแคมป์กับนายเอ แต่ดูท่าทางพี่กลิ้งจะถูกชะตากับสองคนนี้น่าดู ปกติเพื่อนผุ้ชายคนไหนของฉันพี่กลิ้งก็แค่เขม่งไว้ ไม่ค่อยมาซักรายละเอียดอย่างนี้ ฉันเงยหน้ามองแม่ อย่างขอความช่วยเหลือ แต่แค่เห็นแววตานึกสนุกดวงตาเป็นประกายของท่าน ฉันเลยได้แต่ถอนใจ
แม่มานึกสนุกตอนที่ลูกสาวกำลังจะตายคามือพ่อ
“ก็เล่าแล้วไงคะ ว่าแคมป์กับเอเป็นเพื่อนร่วมห้อง ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 ห้อง7 สองคนนี้เขาเป็นเพื่อนสนิทกันอีกที มีนิ้งรวมเข้าไปอีกคนครบก๊วน บ้าเกมกันทั้งคู่ โดยเฉพาะนายแคมป์ บ้าเกมมากกว่าเพื่อน เกมสำคัญกับเขายิ่งกว่ากินข้าวอีก หรืออาบน้ำอีก ไม่เชื่อพ่อกับพี่กลิ้งไปดมได้ แต่คงต้องวันหลัง แล้วจะรู้ว่ามันเหม็นมาก”ฉันหยุดหายใจ
“การเรียนของแคมป์จัดอยู่ในเกณฑ์ห่วย ถึงห่วยที่สุดเลยทีเดียวเพราะไม่เคยฟังอาจารย์งานไม่เคยส่ง สอบตกไม่เข้าซ้อม เขาอ้างว่าเปลืองเวลาเล่นเกม นิสัยเป็นคนนิ่งๆเงียบๆ ยกเว้นคุยเรื่องเกมจะจ้อๆไม่หยุดอันนี้เคยลองมาแล้ว ส่วนเอ การเรียนปานกลาง นิสัยดี อัธยาศัยดี ส่งงานบ้างไม่ส่งบ้าง เกรดขึ้นๆลงๆ ตามความเอาใจใส่ของตัวเอง”รู้สึกแปลกมากๆที่ต้องมานั่งแจกแจงเพื่อนให้พ่อกับพี่ฟัง
ฉันคิดว่าคงพอแล้ว แต่พอเหลือบมองสายตาของพี่กลิ้ง ก็ได้แต่กลืนน้ำลายดังอึกๆ แล้วอ้าปากเล่าต่อไป
“คราวนี้บังเอิญจับพลัดจับพลูได้มาอยู่กลุ่มรายงาน กลุ่มเดียวกันทั้งห้าคน เลยให้มาทำงานที่บ้านจะได้ควบคุมได้ง่ายขึ้น เดี๋ยวเขาหนีไปเล่นเกม”ฉันจบคำอธิบาย แล้วนั่งนิ่ง
ทุกคนเข้าสู่โหมดเงียบอีกครั้ง ฉันไม่ชอบเลยโหมดนี้
“แล้วกริ่งคิดยังไงกับเขา”พี่อ้อยถามทำลายความเงียบ
“คิดยังไง หมายถึงอะไรละคะ”ฉันงงกับคำถามมาก
“หมายถึง กริ่งจะเอาคนไหนมาเป็นลูกเขย แม่เอ่ยเสียงเย้า แม่นี่เล่นไม่รู้จักเวลาเอาซะเลย ดูก่อนสิคะว่าพ่อจะฆ่าหนูตายไหม หนูหาลูกเขยให้พ่อตอนนี้
“ไม่รู้สิคะ”จริงๆก็รู้อยู่หรอกว่าต้องจีบใคร แต่บอกไปมีแต่ตายกับตาย ฉันอาจจะไม่ตายคนเดียวด้วย นายนั่นอาจจะตายด้วยอีกคนใครจะไปรู้ว่าไหม
“ว่าอะไรนะ”พ่อถามเสียงเรียบๆ น่ากลัวสุดๆ
“คือ...เออ...”ฉันเกลียดตัวเองจริงๆ เวลาพ่อพูดเรียบๆ เสียงมักจะตะกุกตะกักเสมอเลย เฮ้อ ให้ตายสิ จะพูดอะไรดีละ
“อากริ่งคะ คุงปู่น่ากัว”น้องเนยเข้ามากอดฉัน
“โอ๋ๆ คือ คุณพ่อคะ...”ฉันปลอบน้องเนย แล้วหันไปจะพูดกับพ่อ
“ดูสิคุณหลานกลัวใหญ่แล้วนะ”แม่แตะแขนพ่อเบาๆ
“คุณเลย ไปแซวลูก เชียร์ลูกหาแฟน เดี๋ยวแกก็เสียเด็ก”พ่อหันไปพูดกับแม่ด้วยน้ำเสียงเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน
“อ้าว”แม่เกาหัวแกรกๆ แล้วนั่งนิ่งๆเหมือนเดิม
“พ่อถามว่าลูกคิดยังไงกับเขา ไม่ได้ถามตามความหมายที่แม่แปลให้ ไหน กริ่งตอบมาสิ”พ่อหันมาถามฉัน ที่นั่งกอดน้องเนยอยู่กับพื้น
“ก็เพื่อนร่วมห้องธรรมดาๆนี่คะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นนี่”ฉันตอบ
“แล้วผู้หญิงอีกคนละ ที่น่ารักๆ ใส่เสื้อสีขาวอะ”พี่กลมยื่นหน้าเข้ามาถาม พี่แกหน้าหม้อสุดๆ ดูสิ อี๋ หูนี่ดำปี๋เชียว เอาไงดี ขืนฉันเล่นลิ้นตอนนี้ พ่อคงเอาตายแน่เลย
“เพื่อนไง บอกแล้ว่าชื่อนิ้ง พี่กลมจะทำไมหรอ”
“น่ารักนี่ ไม่น่าเชื่อว่า จืดๆอย่างน้องพี่ มีแต่เพื่อนๆน่ารักๆทั้งนั้นเลย”พี่กลมพูด แล้วยิ้ม (หื่น) น้อยๆ พี่กลมจ๋า ก่อนจะคิดหรือพูดอะไรเนี่ย ก้มลงมองลูกแตงโมในท้องพี่ก่อนได้ไหม พี่จะกลิ้งไปจีบเขาหรือไงนะ
“หืม”พี่กลิ้งยื่นหน้าเข้ามา เออ ใช่ พี่กลิ้งยังไม่ค่อยเห็นเพื่อนๆฉันเท่าไหร่ ไอ้พี่กลมนี่แหละ อยู่บ้านตลอดเลยแหล่ตลอด
“ก็อย่างแฝดนรกของยัยกริ่งไง ดูสิพี่กลิ้ง สวยยังกับอะไรดี”พี่กลมทำตาปิ๊งๆขึ้นมาทันที น่าหมั่นไส้
“สองแฝดแสบนั้นน่ะหรอ”พี่กลิ้งทวนคำอย่างไม่เชื่อหู
“เมื่อก่อนก็จืดๆ เดี๋ยวนี้น่ารักขึ้นแยะ พี่กลิ้งไม่ได้เห็นซะนาน เดี๋ยวนี้คงจำไม่ได้แล้วละมั้ง”
“สวยขนาดไหนละ”พี่กลิ้งดูจะสนใจอยู่มากทีเดียว เลยลืมดูสายตาภรรยาตัวเองที่มองตาเขียวปัด ด้วยความหึงหวงสามีตัวเอง
“คิดดูสิพี่ เป็นดัมเมเยอร์ เป็นลีด เป็นดาวโรงเรียน สวยสุดๆ แม้ว่าจะไม่ออกแนวขาว สวย หมวย ตามแบบฉบับสาวยุคใหม่ แต่สวยความ เปรี้ยวสุดๆเลยพี่ ไม่ใช่แค่หนึ่งนะ ตั้งสอง”พี่กลมตั้งหน้าตั้งตา ยกยอปอปั้น เพื่อนฉันให้พี่ชายคนโตฟังใหญ่ คนฟังก็นั่งฟังเงียบกริบอย่างตั้งอกตั้งใจ
“มีรูปไหม”พี่กลิ้งถาม
“ขอกริ่งสิพี่ รายนั้นรูปเพื่อนตัวเอง เยอะกว่ารูปตัวเองอีก”พี่กลมกับพี่กลิ้งแหล่ฉันทันที
“แล้วพี่เห็นเพื่อนกริ่งที่ชื่อนิ้งหรือเปล่า ที่มาวันนี้ น่ารักใช่ย่อย ถึงฝาแฝดจะสวยกว่าก็เหอะ ไอ้ผมก็จะเข้าไปเจ๊าะแจ๊ะหน่อย ไอ้เอคนเดียว ขวางอยู่ได้”พี่กลมพูดต่ออย่างเมามันส์ พี่ฉันไม่ได้ดูตัวเองเลย
“หว่า เสียดาย ถ้าพี่อ่อนกว่านี้ซักห้าหกปี คงมีโอกาสบ้าง”พี่กลิ้งเปรย แล้วก็ต้องร้องสะดุ้งขึ้นมาทันที เพราะ แรงบิดจากภรรยาสุดสวย ทำให้เจ้าตัวลูบหูป่อยๆ   
“อ่อนกว่านี้ซักห้าหกปี ชีกอไม่เลิก”พี่อ้อยทวนคำแล้วว่าเข้าให้ ทำเอาคนถูกว่าหน้าเจื่อนไปในพริบตา
“พูดเล่นน่ะ ใครจะสวยกว่าอ้อย”ยอกันเข้าไป
“เอานอกเรื่องแล้ว สรุป กริ่งคิดยังไงกับสองคนนั้น บอกพ่อมาตรงๆเลยดีกว่า”พ่อเอ่ยเสียงเคร่ง น่ากลัวจังพ่อใครหว่า
“ถ้านายเอ เขานิสัยดีค่ะ อัธยาศัยดี น่ารัก แต่ว่า หนูก็ไม่ได้คิดอะไรไปเกินเพื่อนนี่นา เพราะว่าเขาชอบนิ้งอยู่ (วะ เห็นไหมพี่ ผมจะจีบหน่อยไม่ได้ เสียงบ่นดังมาจากพี่กลม) ถึงเขาไม่ชอบนิ้ง หนูก็ไม่ชอบเขาแบบนั้น”
คิ้วของพ่อเลิกขึ้น
“แปลว่าเราชอบนายแคมป์หรอใช่ไหม”พ่อถาม
“เปล่านะคะ เออ..คือ.คือว่า..งะ....เอ...เออ....”ฉันพูดติดอ่างอีกแล้ว เอาไงดีวะ เพื่อง่ายแก่แผนการ เอาก็เอา เพื่อเพื่อน
\"เขาก็ดีนี่คะ\"ฉันตอบสั้นๆ ให้ความหมายได้ดี
“งั้นดีเลย พ่อก็รู้สึกถูกชะตากับนายแคมป์ ปากกล้านัก คนอย่างนี้สิ เล่นด้วยสนุก ปากคมๆยังกับมีดคงพอให้พ่อเคาะสนิมลับฝีปากกันบ้าง กริ่ง พ่อเอาคนนี้นะ วันหลังชวนมาบ้านบ่อยๆละ”พ่อพูดแล้วลุกขึ้นเดินออกไปปล่อยให้ฉันงงอยู่กับที่ ตามหลังไปด้วยแม่ พี่กลม พี่อ้อย(ที่งอนพี่กลิ้งอยู่ )
“อ้าวแล้วตกลง”ฉันชี้มือตามหลังพ่อไป
“เรื่องนี้แหละที่พ่อเขาจะพูด”พี่กลิ้งตบบ่าฉันแล้วเดินออกไปอีกคนพร้อมกับลูกสาวตัวเอง
ฉันงงอยู่กับที่ รู้อย่างเดียวว่าพ่อถูกชะตากับนายแคมป์ ตายแน่นายแคมป์เอ๋ย นายได้เครียดจัดจนสมองหลุดออกมากลิ้งขลุกๆแน่ แคมป์ผู้น่าสงสาร ต้องมาลับฝีปากกับพ่ออีกเมื่อไหร่นี่
------------
จบตอนแล้วไม่มีชื่อตอน ใครคิดออกบอกด้วยเน้อ
------------
แค่นี้ก่อนนะคะไม่ไหวง่วงมาก กว่าจะได้เล่นคอมเล่นเอาสามทุ่มเลย พรุ่งนี้เรีรยนอีก เหนื่อยๆๆๆๆ
------------
หุหุ เดือนนี้กิจกรรมเยอะอย่างแรง
เริ่มด้วยวันลอยกระทง โรงเรียนจัดวันที่16นี้ ต้องร่วมกินกรรม เราต้องไปช่วยเขาออกแบบ และซ้อมแดนเซอร์ประกวดวงลูกทุ่งให้ห้อง แดนเซอร์เนี่ย หุ่น หุหุ ฮามาก
2.ค่ายลูกเสือยุวกาชาด ก็คงต้องซ้อมรอบกองไฟอีก
3.ค่ายวิชาการอีก งะ
4.ทัศนศึกษา
----
พรุ่งนี้testอะ แง่วๆ จำตารางธาตุง่ะ
---
จบงานสาธิตมามัคคีแล้ว ยังสนุกไม่หายเลย วันก่อนที่โณงเรียนเปิดวีดีโอให้ดู แทบจะกรีด เพราะแสตนมันสวย อิอิ ลีดเราก็สวย หุหุ เอาเหอะ เราเปิดเทอมแล้วคะ คงได้อัพวันละนิดวันละหน่อย ตกประมาณอาทิตย์ละตอนน้อยไปไหมคะ เราเปิดดิสก์ไม่ได้ น้องเราลืมลงไดรฟ์เอ งะ เฮ้อ
รักคนอ่านนะคะ เม้นต์ๆๆ โพสๆๆๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น