ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปฏิบัติการพิชิตใจ หนุ่มวัยใส หัวใจติดเกม

    ลำดับตอนที่ #11 : งานกลุ่ม

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 48




    “เอาล่ะ โครงงานที่อาจารย์ให้ทำเนี่ย...”ฉันยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงแทรกมาจากทางด้านขวา



    “คร่อก”ยัยแฟร์ผู้ไม่มีความเป็นกุลสตรีในการนอนเอาซะเลย กรนคร่อกๆเฉย ต่อหน้าสมาชิกในกลุ่มที่อีกสี่คนซึ่งไม่มีใครมีท่าทีสนใจกับสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดเลยแม้แต่นิดเดียว



    พวกเรานั่งอยู่ริมสนามหญ้าของโรงเรียนในเวลาบ่ายสามโมงสิบนาที ซึ่งเลยเวลาเลิกเรียนมาสิบนาทีแล้ว เด็กนักเรียนก็ยังคงอยู่กันเต็มโรงเรียน บางห้องเรียนยังไม่เลิกด้วยซ้ำไป ฉันกวาดตามองดูลูกทีมทุกคนแล้วต้องส่ายหน้าอย่างระอา



    ยัยแฟร์นอนกรนคร่อกๆ น้ำลายยืดอีกต่างหาก



    ส่วนนิ้งกำลังนั่งฟังเพลงจากmp3เครื่องจิ๋วอย่างสบายอารมณ์



    นายแคมป์กับนายเอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนั่งจ้อเรื่องเกมสารพัดอย่างเซ็งๆ เพราะสองคนนี้จะโดดไปร้านเกมตั้งแต่ออดเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันจับฉุดกระชากลากถูมันสองคนมาผูกไว้กับขาโต๊ะ แต่ก็ยังไม่มีท่าทีจะฟังฉันเลย



    “คือ ฉันคิดว่า....”



    “นี่ ฉันว่าแกไปเปลี่ยนไฮคลาสแหละ ตัวbsอะ ไปเปลี่ยนได้แล้ว”เสียงนายแคมป์พูดขึ้นมา ฉันไม่ทราบว่า bs มันเกี่ยวกับโครงงานตรงไหน



    “กรุณาฟังอิฉันพูดหน่อยได้ไหมคะ”ฉันหันไปทำเสียงหวาน พร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจส่งไปให้นายแคมป์



    “No”นายแคมป์กับนายเอประสานเสียงกัน



    “งั้น ถ้านายฟังแล้วเดี๋ยวฉันจะปล่อยให้ไปเล่นเกม แต่ฟังฉันห้านาทีได้ไหม เพราะฉันก็อยากไปเล่นเกมเหมือนกัน”ฉันเริ่มใช่วิธีต่อรองด้วยไม้แข็งขึ้นมาอีกหน่อย



    “งั้นก็ได้”นายเอพยักหน้า



    “นิ้ง ถ้างานนี้ได้A ฉันจะซื้อI-pod รุ่นใหม่ให้เลย โอเคมะ”ต้องมีของมาล่อ ยัยนิ้งตาลุกวาว แล้วถอดหูฟังทันที



    “จริงๆนะ”นิ้งจ้องฉันตาลุกวาว ท่าทางกระตือรือร้นมากกว่าเก่า ตั้งอกตั้งใจฟังฉันด้วยท่าทางเรียบร้อยทีเดียวเชียวล่ะ แถมยังหยิบสมุดเล่มเล็กๆมาคอยจดอีก



    “แฟร์ ตื่น ไม่อย่างนั้นเธอก็ต้องไปหากลุ่มใหม่นะ”ฉันเขย่าร่างยัยแฟร์ แต่ท่าทียัยนี่จะไม่ตื่นง่ายๆนอนกินน้ำลายบูด แจ็บๆ อย่างไม่อายสายตาทุกคนที่จ้องมอง



    “แฟร์ แม่แกมา”ฉันลองเรียกเบาๆ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลยแม้แต่นิด



    “สุดามา”ฉันแหกปากดังลั่นข้างๆหูแฟร์ ได้ผลยัยนี้สะดุ้งตื่น แล้วรีบเอามือข้างซ้าย (ต้องจำว่าข้างซ้ายจะได้ไม่จับมือมันข้างซ้าย) แล้วหันซ้ายหันขวาทันที



    “ไหนๆ สุดาอยู่ไหน”สุดาที่ว่าคือชื่อของแม่ยัยแฟร์นี่เอง



    “สุดามาแน่ ถ้าเธอไม่ฟังฉัน”ฉันยื่นคำขู่ให้ยัยแฟร์ แล้วหันมาสนใจกับทุกคนในกลุ่มที่มีท่าทีสนใจในสิ่งที่ฉันพูดมากขึ้นกว่าเดิมเท่าที่ควรจะเป็น



    \"เอาล่ะ หัวข้อที่เราได้มาเนี่ย ไม่ยากอะไรนักหนาหรอก ถ้าได้ความร่วมมือจากคนในกลุ่ม เพราะฉะนั้น ฉันคิดว่าควรจะแบ่งงานคร่าวๆ ให้ไปหาข้อมูลมาก่อน ตามหัวข้อย่อยๆพวกนี้\"ฉันยื่นกระดาษขนาดA4ให้พวกนี้คนละแผ่น ทำไมพวกเธอต้องมองหน้าฉันงงๆอย่างนั้นด้วยนะ



    \"ฉันเขียนรายละเอียดของหัวข้อที่พวกเธอต้องไปค้นหามาแล้ว รวมทั้งหน้าที่ และวันส่งที่จะต้องเอาข้อมูลหรือสิ่งที่สั่งมาส่งฉันเข้าใจไหม เอาล่ะ ทำไมต้องทำหน้าเป็นจิ้งจกอย่างนั้นด้วยเอ มีอะไรหรอ\"



    \"เธอเอาเวลาที่ไหนมานั่งเขียนพวกนี้เนี่ย\"เขาชูกระดาษA4 ยี่ห้อ ดับเบิ้ล เอ ของฉันขึ้น



    \"ก็เวลาที่เราเรียนกันไง เอาล่ะนะ ใครมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานบ้าง นิ้ง เธอจดบันทึกการประชุมไว้นะ นี่เป็นครั้งแรก เอาล่ะวันเสาร์นี้พวกเราใครไม่ว่างบ้าง\"ฉันกวาดสายตามองลูกน้องทุกคน



    \"เรา\"นายแคมป์ยกมือขึ้น



    \"ทำไร\"



    \"เล่นเกม\"



    \"มาเล่นที่บ้านฉัน โอเคไหมวันเสาร์สิบโมงเจอกันที่โรงเรียน ฉันจะมารับแล้วไปทำงานที่บ้านแล้วกัน ง่ายดี\"ฉันเสนอเอง สรุปเอง โดยปล่อยให้พวกนี้อ้าปากค้าง



    \"น้ำลายหยดแล้วเเฟร์\"



    แฟร์รีบหุบปาก แล้วหยิบกระจกขึ้นมาส่องทันที ฉันก้มลงมองนาฬิกา โอ้ว บ่ายสาม สิบห้านาทีแล้ว ตรงตามเวลาที่ฉันสัญญากับพวกนี้ไว้เป๊ะ



    \"โอเค ตกลงตามนี้ ไม่มีใครแย้งนะ วันเสาร์ฉันจะมารับตอน10โมง ถ้าใครไม่ไป เดี๋ยวก็รู้ว่าจะเจออะไร\"ฉันแก้มัดให้นายเอและนายแคมป์ที่แทบจะส่งสายตาพิฆาต พร้อมกับปล่อยลำแสงมาฆ่าฉันเลยทีเดียว



    \"บ๊าย บาย แล้วเจอกันน้าาาา\"ฉันตะโกนขณะที่นายสองหน่อกับอีกหนึ่งสาวเดินออกนอกรั้วโรงเรียนไป ส่วนยัยแฟร์รีบวิ่งไปขึ้นรถพ่อมันที่มารออยู่นานแล้ว



    ฉันเก็บของแล้วเดินออกนอกประตูโรงเรียนตรงดิ่งไปที่ป้ายรถเมล์ทันทีอย่างเคยชิน ใช่ว่าฉันจะรีบร้อนอะไรนักหรอก แต่ทว่าฉันไม่ชอบเดินอืดอาดยืดยาดน่าเบื่อ ฉันเลยจ้ำพรวดๆอย่างนี้ทุกวันด้วยความเคยชิน ผ่านผู้คนมากมาย แต่กลับครุ่นคิดเรื่อราวๆต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้นวันเสาร์ แน่นอนว่ามันเป็นแผนการไม่ใช่การทำรายงาน ฉันจำเป็นจะต้องหาเวลาให้ได้อยู่ใกล้นายแคมป์มากขึ้น เพื่องานจะได้เสร็จเร็วๆ และฉันจะหลุดพ้นจากตรงนี้เสียที



    %%%%%%%

    ในที่สุดเช้าวันเสาร์ก็คืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนฉันแทบจะตั้งตัวไม่ติด ทำไมเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน ฉันตื่นแต่เช้าแล้วก็ใส่เสื้อยืดตัวโครงกับผ้าถุงที่ใส่นอนนั่นแหะ ลงมานั่งกินข้าวกับแม่และพ่อ



    \"อรุณสวัสดิ์ ทำไมวันนี้อยู่กันพร้อมหน้าจังเลยคะ\"ฉันถามอย่างแปลกใจ ปกติเช้าวันเสาร์มักจะไม่มีใครอยู่บ้าน พ่อชอบออกไปตีกอล์ฟ แม่มักจะไปตลาด พี่กลมจะอาบน้ำแต่งตัวซะหล่อ แล้วออกไปหม้อสาวแถวสยาม



    \"อ้าว กริ่ง ลืมได้ไง วันนี้ไอ้เจ้าพี่ชายเราจะมาเยี่ยมไง\"แม่บอก พลางยื่นชามข้าวต้มให้ฉัน



    \"ห๊า ทำไมไม่มีใครบอกเค้าล่ะ เดี๋ยววันนี้เค้านัดเพื่อนมาทำรายงานด้วย\"



    \"บอกแล้ว เราลืมเองช่วยไม่ได้นะจ๊ะ\"พ่อฉันวันนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษเลย ก็น้องเนยกับน้องนาว หลานสาวตัวป่วนเนี่ย สุดยอดแห่งความซนที่ทำให้ใครๆหลงรัก(ยังไงฟะ) เอาเป็นว่าหลานสาวฉันน่ารักน่าเอ็นดูมากมายเลยทีเดียว



    เอาล่ะระหว่างฉันนั่งโซ้ยข้าวต้มอยู่ จะเล่าเรื่องราวประวัติครอบครัวอย่างคร่าวๆให้ฟังแล้วกัน ฉันเป็นลูกคนเล็ก จะเรียกว่าลูกหลงก็ได้ เพราะพี่ชายฉันก็โตๆกันหมดแล้ว แม่กับพ่อมีลูกห่างกันมาก พี่ชายคนโต อย่างที่เคยบอกว่ายังอยู่ปักษ์ใต้ แต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้ว ลูกของพี่กลิ้งมีอยู่สองคน เป็นฝาแฝด ชื่อน้องเนยกับน้องนาว สองคนนี้น่ารักน่าชัง น่าฟัดน่ากอดมากเลย เหมือนตุ๊กตา เพราะแม่เขาสวย พี่อ้อยภรรยาพี่กลิ้งเนี่ยเขาเป็นคนใต้แท้ๆเลยทีเดียว แต่ดั๊น มาเจอกันที่กรุงเทพ กลับไปแต่งงานที่ปักษ์ใต้ แล้วก็อยู่กันที่นั่นเลย



    พี่กลมเนี่ย อายุห่างกับพี่กลิ้งประมาณ3ปีเห็นจะได้ เรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปีสามแล้วแลหะ แต่ยังคงต๊องไม่หาย ส่วนฉันอายุห่างกับพี่กลม5ปีแหนะ ถึงบอกไงว่าแม่มีลูกห่างกันมาก ฉันกับหลานเลยเหมือนพี่น้องมากกว่า ฉันอายุห่ากันหลานก็1รอบพอดิบพอดีเลยทีเดียว



    \"ค่ะ งั้นเดี๋ยวเค้าไปอาบน้ำไปรับเพื่อนก่อนนะ เดี๋ยวกลับมา\"ฉันเก็บชามข้าวต้มแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำทันที อาบน้ำไม่เท่าไหร่ แต่แต่งตัวนี่สิ เรื่องยาก ฉันรื้อๆเสื้อผ้าอยู่นาน รู้งี้เชื่อยัยแฝดนรกซะหน่อยว่าหาเสื้อผ้าที่ดูเป็นผู้หญิงๆเมืองเขาใส่กันหน่อย ก็ปกติ ฉันไม่ค่อยออกจากบ้านนี่นา เลยมีแต่เสื้อยืดตัวใหญ่ๆกับกางเกงยีนขายาว ไม่ก็ขาสั้น



    เอาก็เอาวะ ฉันจะดูมีเสน่ห์ภายใต้ชุดเสื้อยืดหลวมๆ กับกางเกงยีนขายาวปอนๆมันนี่แหละ บางทีนายแคมป์อาจจะไม่สนใจเท่าไหร่ เรื่องเสื้อผ้า ฉันจัดการหวีผมเผ้าให้เรียบร้อย แล้วปล่อยมันไปอย่างนั้นแหละ



    แต่งตัวเสร็จก็คว้ามือถือและกระเป๋าตังค์ ไปยืนรอรถเมล์หน้าหมู่บ้านทันที เอ๊ะหรือเอาแท็กซี่ดี เอางี้ ถ้ารถไหนมาก่อนก็จะขึ้นคันนั้นเลย



    รถสีเขียวเหลืองจอดอยู่ตรงหน้าฉัน เอาล่ะวะ เอาแท็กซี่นี่แหละ เดี๋ยวจะได้เรียกให้กลับมาด้วย ไม่ต้องเรียกใหม่อีก เปลืองตังค์หน่อย แต่ดีกว่าฟังไอ้แฟร์บ่นตลอดทางมาบ้าน



    แฟร์เคยมาบ้านฉันหลายครั้งแล้ว เพราะต้องมานั่งทำงานกลุ่มเอย งานคู่เอย หลายต่อหลายงาน ฉันก็มักจะให้มันมาช่วยกันทำที่บ้านนี่แหละ



    “พี่คะ ไปโรงเรียนt.p.ค่ะ”ฉันบอกคนขับที่แต่งกายด้วยเสื้อสีฟ้า ตามเครื่องแบบของแท็กซี่ ผมซึ่งถูกมัดยางไว้อย่างลวงกๆดูยาวรุงรังยังไงชอบกล แหวะ กลิ่นบุหรี่หึ่งรถเชียว เฮ้อ คิดผิดหรือเปล่าหว่า



    “ได้ๆ”เขาพยักหน้ารับ



    ตลอดทางฉันไม่กล้ามองซ้ายมองขวา มองแต่กระจกหน้ารถอย่างเดียวด้วยความกลัว ทำไมผู้ชายคนนี้ดูไม่น่าไว้วางใจเลยนะ แถมยังแหล่ๆมองฉันจากกระจก บ่อยๆ แม่จ๋า ช่วยหนูด้วย



    ในความเงียบ แอร์ที่เย็นเฉียบ ไม่มีใครเอ่ยปากก่อน เรื่องอะไรฉํนจะคุยกับคนไม่รู้จักล่ะ เดี๋ยวถ้าจ้อไป เขาจะหาว่ามนุษยสัมพันธ์ดีเกินเหตุ มันไม่ดี



    “หนูไปทำอะไรที่โรงเรียนล่ะ”โชเฟอร์หน้าโหดเอ่ยก่อน



    “ไม่ได้ไปเรียนค่ะ”



    “หึหึ แล้วเรียนอยู่ชั้นอะไรเนี่ย”



    “มอ……”ฉันนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรบอก เกือบไปแล้วไหมล่ะ “มอ มอ มอ มอ ลูกวัวร้องมอมอ”



    “หนูๆ หนูไม่สบายหรือเปล่า”แกหยุดรถ แล้วหันมาถามฉันด้วยน้ำเสียงแสนจะเป็นห่วง แต่ไม่มีทางฉันไม่หลงกลแกง่ายๆหรอก แกต้องเป็นแก๊งสิบแปดมงกุฏแน่แท้



    “ซำบายดีค้าาาาาาาา”ฉันพูดแล้วเสมองออกหน้าต่างรถไป



    คนขับมองฉันแปลกๆ แล้วหันไปขับรถต่อ และไม่พูดอะไรอีกตลอดทาง ถ้าคุณคิดว่าหนูบ้า ก็ดีแล้ว คงไม่มีใครคิดจะทำอะไรคนบ้าหรอกนะ



    “ถึงแล้ว”คนขับจอดรถหน้าประตูโรงเรียน เย้ในที่สุดก็ถึงแล้ว ฉันไม่เคยรู้สึกว่าโรงเรียนมันน่าอยู่ขนาดนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย ว่าแล้วก็รีบเปิดประตูรถ แล้วกระโดดออกมาทันที



    ก้มลงมองนาฬิกา ตายละหว่า ฉันสายไปตั้ง20นาที



    มองซ้ายมองขวา โอ๊ะ โอ นิ้งในชุดเสื้อแขนกุดสีขาวกับกางเกงยีนขาสามส่วน ดูเป็นวัยรุ่นสุดๆ ผมซอยๆของเธอถูกปล่อยอย่างสบายๆ กำไลข้อมือส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊ง ทุกครั้งที่เธอขยับข้อมือเพื่อดูนาฬิกา แขนขวาของเธอกำลังอุ้มหนังสือสองสามเล่มไว้



    ข้างๆนิ้งคือยัยแฟร์ที่ฟุบหลังลงไปบนหนังสือสามสี่เล่ม หลับได้ทุกสถานการณ์จริงๆเลย ผมยาวประบ่าของแฟร์ปรกลงมาปิดใบหน้าที่กำลังหลับตาพริ้มสู่นิทรา เสื้อยืดพอดีตัวสีส้มแสบตา กับกาเกงผ้ายาวสีเข้ม แบบที่เห็นจนชินตาทุกครั้งที่นัดยัยนี่ มา



    ส่วนที่กำลังคุยกันอย่างออกรสเช่นทุกครั้งที่เจอกัน คือนายเอ อยู่ในชุดเสื้อเซิ้ตสีดำ กางเกงยีน แบบที่พวกผู้ชายชอบใส่กัน ดูดีพอสมควร เพราะน่าตาเอก็ไม่ได้ดีอะไรนักหนา มีกระเป๋าขนาดพอจะใส่หนังสือเรียนเข้าไปได้ซักเล่มนึง ส่วนนายแคมป์เป้าหมายของฉัน กำลังยืนคุยกัยนายเอไปพลาง แคะขี้มูกไปพลาง ไอ้ซกมกเอ้ย อยู่ในชุดกางเกงยีนขาสั้น ที่เปื่อยจนเหมือนกางเกงใส่นอนอยู่บ้าน กับเสื้อยืดสีน้ำตาล ไม่เก่านัก แต่ดูเหมือนจะผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน ฉันก้มหน้าลงสำรวจการแต่งกายของเขอย่างละเอียด มันคีบอีแตะมาค่ะ มือถือหนังสือro news  เกมเมอร์นิวส์ เป็นปึ๊งๆ



    “เฮ้ มาแล้วไปกับเหอะ”ฉันวิ่งเข้าไปทักทายทันที แล้วเอามือถือจิ้มๆยัยแฟร์ให้ตื่น



    “กว่าจะมาปล่อยให้คนอื่นเขารอแย่”นายแคมป์พูดเบาๆเหมือนจะบ่นกับตัวเอง ฉันหันขวับไปจ้องหน้าเขาทันที เย็นไว้ 1..2...3..4...5.....10



    “โทษที เอาหนังสือมาครบหรือเปล่า อ่านกันมาก่อนบ้างไหม”ฉันถาม



    “จ้า อ่านมาแล้ว ทำโมโครงงานสำรวจมันง่ายจนไม่น่าจะเป็นวิชาวิทยาศาสตร์เลยนะ”นิ้งพูด



    “อืม ใช่ แต่ดีแล้ว เราต้องทำออกมาให้ดีที่สุด ฉันว่าหัวข้อนี้นายถนัดนะ แคมป์ เอ”



    “เออ”



    “เอาล่ะ ไปเรียกแท็กซี่กันเหอะ เดี๋ยวไปสาย พอกับแม่จะว่าเอา แล้วพวกนายเดี๋ยวกลับกันยังไงให้ฉันมาส่งที่นี้ไหม”นิสัยฉันเป็นอย่างนี้แหละ ทั้งๆที่เพิ่งมาแต่ว่าก็ต้องถามเวลากลับไว้จะได้วางแผนถูก



    “เดี๋ยวพ่อฉันจะมารับที่โรงเรียนตอนหกโมง”แฟร์บอก แล้วลุกขึ้นหยิบหนังสือมาถือไว้



    “ของฉัน เดี๋ยวกลับเองเลย ไม่มีลิมิต”นิ้งพูดยิ้มๆ



    “ฉันก็กลับเอง เดี๋ยวกลับกับยัยนิ้งก็ได้”เอพูด



    “ดีแล้วนิ้งกลับคนเดียวเราก็เป็นห่วง”



    “เป็นห่วงคนอื่นด้วยหรอ มาก็สาย แล้วเพิ่งถึงก็ถามเวลากลับยังกับจะไล่ เสียเวลาเล่นเกมชะมัด เดี๋ยวถ้าไนท์ฉันไม่ได้เปลี่ยนไฮคลาสก่อนวันพรุ่งนี้นะ ฉันจะจัดการกับเธอ”นายแคมป์พูดลอยหน้าลอยตา



    “ยะ”



    ฉันละรำคาญนายนี่จริงๆ น่าเตะเป็นที่สุดเลย ถ้าไม่มีเป้าหมายเป็นนายนะ หัวเด็ดตี-นขาดฉันก็ไม่มีทางยุ่งกับนายหรอกยะ



    ทันใดนั้น ฉันก็เหลือบไปเห็นคนขับแท็กซี่คันที่ฉันนั่งมา วิ่งกระหืดกระหอบตรงดิ่งมาที่ฉัน อ๊าย น่ากลัวชะมัดนายจะมาทำอะไรฉันเนี่ย ปล้น ฆ่า ข่มขืนหรอ แม่จ๋าหนูกลัว ฉันดึงนายเอที่อยู่ใกล้ที่สุดมาบังตัวทันที



    “เอ้ยไอ้น้อง...”



    “พี่มีอะไรหรอครับ”เอถามอย่างงงๆ



    “เอ คนขับแท็กซี่คนนี้น่ากลัว ฉันเรียกเขามาส่ง แล้วนี่เขาตามมาอีกทำไมไม่รู้”ฉันเกาะเสื้อเอจากด้านหลังไว้แน่น ยัยแฟร์กับนิ้งมองซ้ายทีขวาที แล้วเดินมาหลับอยู่หลังฉันอีกที



    “น้องพูดงี้ก็สวยสิ”สวยอยู่แล้วล่ะค่ะ พี่ไม่ต้องชม



    “ค่ะ”



    “นายอย่าหาเรื่องนะ แกจะมายุ่งอะไรกับเพื่อนฉัน ยังไงฉันก็สู้ไม่ถอยนะ ไอ้หน้าโจรห้าร้อย”แคมป์ออกโรง นายน่ารักมาแคมป์ ฉันขอโทษที่มองนายผิดมาตลอด



    “ก็เพื่อนน้องยังไม่ได้จ่ายเงินค่าแท็กซี่เลย”





    ------

    กำลังอัพค่ะ คอมเจ๊งไม่ได้เข้าเน็ตมาหลายวันแล้ว













    ---

    ขอโทษนะคะ แต่ว่าตอนนี้มันง่วงมาก เหนื่อยสุดๆ เลยอัพช้า ไม่ค่อยมีเวลาเลย

    ----





    แต่ก่อนอัพขอบ่นหน่อยนะเจ้าคะ



    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด



    ขอกรี๊ดให้สะใจนิดนึง เมื่อวานไปเจอพี่ปลาน้อยมา กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    พี่เขาน่ารักมั่กๆ ต้องไปเจอตัวจริง ถ้าใครอยากเห็นหน้าพี่เขาแนะนำเลยว่าให้ไปเจอตัวจริง

    เพราะตัวจริงน่ารักกว่ารูปถ่ายมากกกกกกกกก

    ก็พี่ปลาถ่ายรูปไม่ขึ้น(ถ้าพี่ปลามาอ่านขอโทษไว้ด้วยนะคะ) แต่ตัวจริง เรากับเพื่อนคอนเฟิร์ม

    พร้อมใจกันกรี๊ด ว่าพี่เขาน่ารักจริงๆ



    แล้วไปเจอพี่แก้ม ทิวลิปสีฟ้าอ่ะ พี่เขาก็น่ารักกกกกกก แบบน่ารักอะ

    แล้วพี่ซิงเหมยด้วย ได้ลายเซ็นมาด้วยแหละ

    ไปแล้วรุ้สึกว่าตัวเองโรคจิต ไปงานหนังสือมันทุกวันเลย อ่า วันที่6 โดดซ้อมไปกะเพื่อน ได้หนังสือมา13เล่ม

    จากที่บอกแม่ว่าจะไปซื้อ2-3เล่ม ตังค์หมดไปโขเลย แต่ยังไม่เข็ด พอวันที่7 เลิกซ้อม เราก็ไปอีก

    นัดเพื่อนโรงเรียนเก่าไว้ มันดันเบี้ยวนัด เลยต้องไปคนเดียว ไปเจอน้องนักอ่านคนนึง น้องเขาน่ารักมาก

    ไม่เห็นอ้วนเลยนะแคทจ้า ผอมจะตาย เราได้หนังสือมาเล่มนึง money honey เงินมามะหัวใจจ๊ะจ๋า ของมิเรียม

    ได้ลายเซ็นด้วย วันที่8 ตอนแรกเรากะจะไม่ไป พักหน่อย แต่แม่เราอยากไป มีหรือเราจะพลาด

    เรียนพิเศษเสร็จก็วิ่งโร่ไปที่งานหนังสือทันที ได้หนังสือมาอีกสม สี่ เอ๊ะ หรือห้าหว่า อืม นับก่อน 6เล่ม อะ

    อิอิ สองเล่มใน6คือ Handsome Girl รักหวานป่วนใจของหนุ่มหน้าใสกับยัยสุดเท่ ของซิงเหมย ได้ลายเซ้นมาด้วย

    แอบไปกรี๊ดอีกครั้งนึง ว่าด้วยพี่เขาน่ารัก แล้วก็ไปเบียดที่บูธแจ่มใส ได้มาอีกเล่มนึงคือ

    รักไม่ได้ตั้งใจของยัยซินเดอเรลร่า ของพี่เจ้าปลาน้อย(ปลาน้อยร้อยชั่ง) พอกลับบ้านก็เอามานั่งห่อปก

    แล้วเก้บใส่ตู้ไม่ยอมให้ใครแตะ เนื่องด้วยว่า ยังไม่ได้ให้พี่เขาเซ็น วันที่9 เราก็ไปอีก แม่เซย์ บาย ไม่ไปด้วยปวดหัว

    น้องขี้เกียจ(ดูมัน) เราเลยนัดกะเพื่อนกะทันหัน แล้วโดดไปจากบ้า น(ฝนไม่เป็นอุปสรรค ตูอยากไป) ไปถึงก็บ่ายโมงแล้ว

    ไปยืนรอเพื่อนด้วยท่าทางร้อนรนอย่างยิ่ง เพราะพี่ปลาน้อยเขาจะแจกลายเซ้น12.00-14.00น.

    ตอนรออยู่ก็เจอะเพื่อนอีกคน ถามทางเรา แล้วก็รอต่อไป มีแต่คนเข้ามาถามทาง เราเป็นอะไรหว่า

    แต่ด้วยสปีริด เราบอกไปอย่างถูกต้องแม่นยำ(ก็เรามาสามวันแล้วนี่เดินทั่วแล้ว)เพื่อนมาถึงบ่ายโมงครึ่ง

    เราก็ลากมันไปบูธแจ่มใสแล้วรอให้มันยืนอยู่ แล้วเราเอาหนังสือเบียดไปให้พี่ปลาน้อยเซ็น กี๊ดดดดดดดด

    พี่เขาน่ารักมาก แม้ไม่ใช่ครังแรกที่เจอ แต่ว่าครั้งนี้พี่เขาน่ารักกว่าครั้งก่อนๆจริงๆ ขนาดเพื่อนเรายังบอกว่าน่ารักเลย

    แล้วก็ไปบูธสี่ม่วงอ่อน ซื้อสุ่มเบอร์ดันเจอรักของพี่ทิวลิปสีฟ้า(พี่แก้ม)ได้ลายเซ็นอีก ไปยืนกรี๊ดๆพี่เขาได้แปป

    ก็โดนเพื่อนลากทั่วงาน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×