ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สงครามเลือดอสูร

    ลำดับตอนที่ #1 : อดีต !

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 50


              ในคืนที่ดวงจันทราส่องแสงสว่างไปทั่วท้องฟ้าที่ไร้เมฆ ทำให้แสงจันทร์ส่องได้ทั่วถึงดูแล้วทำให้หลายชีวิตสบายใจขึ้น  แต่ทว่า...

              กลุ่มคนที่อยู่เบื้องล่างแสงจันทร์กลุ่มหนึ่งที่ยืนประจัญหน้ากันอยู่กลางทุ่งหญ้ากว้าง มิใส่ใจในความงามของแสงจันทร์เท่าใดนัก หากแต่มุ่งความสนใจไปที่กลุ่มคนเบื้องหน้าที่พวกเขาถือว่าเป็นศัตรูที่ต้องฆ่าให้หมดในค่ำคืนนี้
              แน่นอนหนึ่งในจำนวนคนทั้งหมดมีผมแน่นอน...



              ต่างฝ่ายต่างยืนตรงอย่างสงบนิ่งโดยไม่มีการพูดจากันสักคำ 

              "ว่าไง...เรียกพวกชั้นมาทำไม"

              หนึ่งในนั้นก้าวออกมาข้างหน้า ผ้าครุมสีดำที่ติดอยู่ข้างหลังปลิวตามสายลม  หมวกฟางที่ใส่อยู่นั้นก็ไม่วายเป็นสีดำไปด้วย  แต่หากมองดูแล้วจะเห็นว่าบุคคลเบื้องหลังเขาก็ใส่หมวกสีดำเหมือนกัน  ต่างกับอีกฝ่ายที่ใส่ผ้าสีขาวพันรอบศีรษะแทน  อีกทั้งชุดยังเป็นสีขาวซะส่วนใหญ่ และผมก็อยู่ฝ่ายสีดำซะด้วย
              "ก็ไม่มีอะไรนักหนาหรอก  แค่ได้ข่าวว่าพวกแกจะไปส่งข่าวเกี่ยวกับพวกชั้น เลยกะจะมาฆ่าให้หมด ก็เท่านั้นแหละ"

              [เผยออกมาหมดเปลือกเลยนะ]

              ผมได้แต่คิดอยู่ในใจเพราะยังทำอะไรมันไม่ได้  แต่มือขวาก็เอื้อมไปกุมดาบที่เหน็บอยู่ที่เอวข้างซ้ายของผมเป็นการระวังตัวไว้ก่อนน่ะ  แต่ดูเหมือนผมจะระวังตัวอยู่คนเดียว  ก็ใช่น่ะสิ ผมเพิ่งเข้ามาใหม่นี่นา และนี่ก็งานแรกของผม 
              ฝ่ายสีขาวเริ่มเคลื่อนไหว ตางคนต่างวิ่งเข้ามาล้อมวงพวกเราไว้  แล้วหยิบฝักดาบที่อยูข้างเอวข้างซ้ายขึ้นมา แล้ว...
              ขว้างมันทิ้งไป

              [ทำอะไรของมัน]

              แต่ในชั่วพริบตาเดียวในมือพวกเขากลับมีดาบอยู่ในมือทั้งสองข้าง   เร็วอะไรขนาดนั้น...

              "ภารกิจนี้สำคัญมากต้องทำให้สำเร็จ"

              บุรุษที่ยืนอยู่หน้ากลุ่ม บัดนี้หันหลังกลับมา ผมบังเอิญมองเห็นบาดแผลที่ตาของเขาแว้บหนึ่ง เป็นบาดแผลที่หนักทีเดียว มันลากยาวจากคิ้วลงมาผ่านลูกตาลงมาถึงแก้ม เห็นแล้วสยอง...

              "รับทราบ!!"

              ทุกคนในกลุ่มรวมถึงตัวผมขานรับแล้วรีบดึงดาบออกมา 

              [....]

              ผมกวาดสายตาดูพวกชุดขาวที่ลายล้อมอยู่ทีละคน ก่อนจะตัดสินใจไม่ใช้ดาบดีกว่า  
              ขณะที่ผมกำลังลังเลว่าจะใช้ดาบดีไหม  คนในกลุ่มก็พากันกระโจนพรวดออกไปปะทะกับพวกชุดขาว  ใบหน้าของทุกคนล้วนแสดงถึงความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก  ซึ่งก็ทำให้ผมมีความฮึกเฮิมขึ้นมานิดนึง
              ผมกวาดสายตาอีกครั้งหาคู่ต่อสู้ที่เหมาะสม

              "ว่าไงไอ้หนู อยากจะทดสอบฝีมือกับข้าหน่อยมั้ยล่ะ"

              ไม่ทันสังเกต ไอ้บิ๊กเบิ่มที่ผมคาดเอาไว้ว่ามันไม่เหมาะสมก็มาอยู่เบื้องหน้าผม แถมยังท้าผมอีก 

              "เอาสิ  ถ้าแกไม่กลัวตาย"

              "กล้ามากเจ้าหนู จัดให้เลย"

              จากนั้นมันก็เดินเข้ามาใกล้ผม ตั้งท่าที่มันคงคิดว่ารัดกุมที่สุด คือ ยืนหันข้างขวาให้  ชูดาบเฉียงลงพื้น แต่ผมกลับคิดว่าเปนท่าที่สิ้นคิดที่สุด
              มันวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมกับเงื้อดาบเตรียมฟาดฟัน ส่วนตัวผมยังไม่ได้ดึงดาบออกจากฝักเลย อาศัยมือเปล่านี่แหละ
              
              ย้ากกกกกกก

              ดาบแรกที่ฟาดลงมาตรงๆ ผมเพียงบิดตัวเล็กน้อยก็พ้นรัศมีมันแล้ว มันหันกลับมา พร้อมกับคมดาบที่หวังจะบั่นหัวผมให้กระจุย ครั้งนี้ผมก้มตัวต่ำเพียงเล็กน้อยก็พ้นคมดาบของมันไปได้
             
              "ดูท่าจะเหนื่อยแล้วล่ะสิ"

              "ยังหรอกน่า"

              มันฟาดดาบลงมาอีกครั้ง คราวนี้ผมไม่หลบแต่ใช้มือปัดมันออกไปแล้วกระโดดม้วนตัวลงข้างหลังมัน อย่างนุ่มนวล แล้วฟาดสันมือลงท้ายทอยของมัน ดัง ปึ้ก 
              ไอ้บิ๊กเบิ้มล้มลงไม่เป็นท่า ไปกองกับพื้นดินที่มีเศษใบไม้ใบหญ้าปกคลุม
               
              "นี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ"

              ผมละเบื่อจริงๆ ไอ้พวกที่ทำเป็นเก่ง บางครั้งก็ทำเอาผมกลัวๆเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็จบลงง่ายๆ

              "เก่งนี่เจ้าหนู อายุแค่  60 ปี ล้ม เจ้า กิเกอร์ได้ ไม่เบาๆ"

              ชายเจ้าของเสียงปรากฏตัวข้างหลังผมหลังพูดจบ แถมยังทายอายุผมถูกอีกต่างหาก ผมอายุ 60 ปี จริงๆ เทียบกับพวกมนุษย์ที่ไร้พิษสงก็คงอายุประมาณ 12 ปี 

              "ก็เจ้านั้นมันดันไม่เก่งเองนี่"

              "หรอ แต่ชั้นว่า กิเกอร์น่ะ เขาเป็นนักรบชั้นยอดเลยนะ"
     
              "นั่นยอดเรอะ แกว่งดาบสองทีก็หอบ แฮก แฮก แล้ว"

              "...."

              เสียงของเขาหายไป พร้อมกับเสียงใบไม้ปลิว ผมเดาว่าเขาคงไปจากข้างหลังผมแล้ว 
               แต่ว่า....
               พริบตานั้น เขากลับปรากฏตัวอีกครั้ง ข้างหน้าผม พ้อมกับมือที่พุ่งออกมาอย่างเร็ว บีบคอผมแล้วชูขึ้นกลางอากาศ  ผมหายใจไม่ออกฉับพลัน บวกกับความเจ็บปวดที่มือของมันพุ่งเข้ามากระแทกกับคอของผม 

               "แต่ว่านั่นน้องชายของชั้น"

               เขาตะคอกเสียงใส่ผมที่ดิ้นอยู่กลางอากาศ พยายามแกะมือของมันออก 
    ผมใช้ทางเลือกสุดท้าย ถึงแม้ไม่อยากทำก็เถอะ 

               ปึด 

               "อ้ากกกกกกกกกกกกกกก!! "

               เขาร้องออกมา หลังจากที่แขนข้างที่บีบคอของผมขาดสะบั้น เลือดแดงฉาน สาดกระจายไปทั่ว  พื้นหญ้าสีเขียว บัดนี้ ถูกย้อมเป็นสีแดงสดของเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากบาดแผลที่แขน   
              ในที่สุดดาบของผมก็ได้ทำหน้าที่สักที มันมาพร้อมกับความสะใจที่จะได้ฆ่าหรือตัดร่างของฝ่ายตรงข้าม แต่ที่ผมพยายามจะไม่ให้เกิดขึ้นคือ การที่ผมจะใช้ดาบนี่ฆ่าพวกมัน  มันเป็นคำสาป...
              

      
              หลังจากจัดการฝ่ายสีขาวเสร็จ ฝ่ายสีดำของเราก็พุ่งทะยานเข้าป่าไปเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ   
              ขณะที่หัวหน้าของผมกำลังวิ่งนำหน้าอยู่
     
               "อักก"

              เขากระอักเลือดออกมา แล้วล้มคว่ำลงต่อหน้าทุกคน ผมรีบวิ่งเข้าไปประคอง จับเขานอนหงาย  แล้วก็ต้องตะลึงกับบาดแผลบนร่างของเขา เป็นรอยถูกฟันเป็นทางยาว ตั้งแต่หน้าอกด้านซ้ายไปจนถึงสะโพกด้านขวา

              "เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"

              ผมถามออกไปเพราะไม่เห็นว่าเขาจะเจ็บปวดเลยสักนิด  ไปหน้าเขายังคงถูก แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ เหมือนเมื่อก่อน...

              "ไม่เป็นไร ชั้นไม่เป็นไร ไปกันต่อเถอะ"

               เขาลุกขึ้นโดยที่ผมช่วยพยุงอยู่ข้างๆ
               พวกเราออกเดินทางต่อโดยที่ยังมีหัวหน้าวิ่งนำ  วิ่งไปได้ไม่นานเข่าก็หยุดวิ่ง เขายืนตรงโดยมือขวากุมอยู่ที่ดาบของเขา ดูเหมือนเขาจะสัมผัสถึงรังสีอาฆาตได้พร้อมๆ กับที่ผมสัมผัสถึงมันได้ รังสีนั้นดุจคลื่นยักษ์ถาโถม ทำเอาเสียวสันหลังวาบไปเลย  ใครกันนะที่มีรังสีอาฆาตได้ถึงเพียงนี้...

              ฉึก  ฉึก  ฉึก

              วัตถุแหมคมพุ่งทะลวงร่างของคนในกลุ่ม  ล้มลงเกือบทุกคน เลือดทะลักออกจากบาดแผล ไหลลงสู่ผืนดินไม่ขาดสาย เสียงร้องครวญครางดังระงมในป่าทึบ  
    ถึงผมจะทำงานที่เสี่ยงภัยบ่อยๆ ก็เถอะ  แต่ก็ไม่มีครั้งไหนจะเฉียดความตายเท่ากับครั้งนี้   เป็นครั้งแรกที่ความตายมาอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา   หากเผลอนิดเดียว  ยมทูตอาจมากระชากวิณญาณไปได้เสมอ
               และหัวหน้า...
              คงจะโดนยมทูตหมายหัวไว้แล้วงั้นสิ
              ขณะคิดถึงพวกพ้องและหัวหน้าที่ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน  วัตถุประหลาดชิ้นหนึ่งพุ่งมาทางผมจากด้านข้าง  หมายจะทะลวงกะโหลกผม  แต่ใฃมันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก 
              ขณะมันลอยอยู่กลางอากาศ ผมยกแขนซ้ายขึ้นแล้วรับมันไว้ในมืออย่างง่ายดาย  แล้วเอามาพิจารณารูปร่างของมัน
               มันเป็นมีดรูปร่างเรียวยาว  ด้ามจับพันด้วยผ้าสีขาวหลายชั้น ปลายของมันเป็นรูปหัวกะโหลก  ดวงตาของมันช่างน่ากลัว  
      
              ผมดั่งถูกมนต์สะกดจากดวงตาของ ร่างกายขยับไม่ได้

             ฟ้าววววว

              ฉึก

              มีดบินพุ่งทะลวงร่างของผม  ไม่สิ  ต้องเรียกว่าเฉียดต่างหาก  แต่ผู้ที่ถูกมันทะลวงร่างนั้นกลับเป็น...

              "หัวหน้า!!"

             

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×