คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : (sf) Question
Question
คืนนี้ไม่กลับ ไม่ต้องรอ ถ้อยคำในกระดาษแผ่นเล็กข้างหัวเตียงที่ร่างบางนั่งมองตั้งแต่ตื่นนอน ก่อนจะนำไปแปะรวมไว้กับกระดาษแผ่นอื่นที่มีถ้อยคำไม่ต่างกันเลย
กี่ครั้งที่ตื่นมาพบกับความเดียวดายและกระดาษแผ่นเล็กๆ เหมือนว่าทุกครั้งที่เจอจะผูกพันกันแค่เซ็กส์ เมื่อความเร่าร้อนยามค่ำคืนจบลง ใครคนนั้นก็หายไป ไม่มีอีกแล้ว มันหายไปนานมากแล้วสำหรับช่วงเวลาที่จะอยู่ด้วยกัน
...นานจนจำไม่ได้...
มันเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างที่ผ่านมา ทุกการกระทำ มันดูห่างไกลจากคำว่า..คนรัก.. คำถามเดียวที่คั่งค้างอยู่ในใจ คิม ฮีชอล ชายหนุ่มร่างบางที่มีใครหลายคนอยากจองตัวเป็นเจ้าของ คือใครกัน ที่เปลี่ยนไป เป็นคำถามที่ไม่กล้าถาม และไม่กล้าหาคำตอบ
วันนี้ร่างบางเตรียมออกไปทำงานอย่างทุกวันที่ผ่านมา ทุกวันที่ต้องตื่นขึ้นมาเพียงลำพัง กินข้าวเช้าคนเดียว ไม่มีใครให้พูดคุยด้วย ดำเนินชีวิตด้วยตนเอง
“พี่ฮีชอลครับ พี่ฮีชอล” เสียงหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารัก ที่เป็นเพื่อนกันมานานอย่างซองมินเรียกให้เจ้าของชื่อที่กำลังล็อคประตูห้อง ต้องหันมามอง ก่อนจะยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“คืนนี้พี่ฮีชอลว่างไหมอ่า” คำถามที่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการรบกวนพี่ชายคนสวยมากไปหรือเปล่าของเด็กน้อย เรียกรอยยิ้มอ่อนโยนของพี่ชาย
“ว่างมีอะไรหล่ะเรา ดูทำท่ายังกะคนมีความรักแหน่ะ หน้างี้ยิ้มแช่งเชียว”
“ก็...” ท่าบิดเม้นของน้องชายที่รู้จักกันมานาน ทำให้คนที่กำลังเศร้าเรื่องของตนเองเปลี่ยนมายิ้มได้อีกครั้ง
“จริงด้วยสิเนี่ย ใครกัน มาคว้าหัวใจกระต่ายน้อยไปได้”
“พี่อย่าแซวสิ ตกลงเย็นนี้ว่างนะครับ” แก้มใสๆอมชมพู ยิ่งแดงเรื่อ
“ว่างสิ มีอะไร จะให้ไปไหนหรือไงกัน”
“ครับ เมื่อกี้คนที่กำลังแบบ..แบบ..”
“กำลังคบกันอยู่?” เพราะเห็นน้องชายอึกอักในคำพูดร่างบางจึงเป็นฝ่ายพูดให้เอง
“ก็ประมาณนั้นแหล่ะครับ คือเมื่อวานเขาโทรมาอ่า บอกว่า เขาชอบผม อยากขอเป็นแฟน แล้วก็ให้เวลาผมคืนหนึ่ง วันนี้ให้ไปบอกเขา ผมกลัวอ่ะพี่ฮีชอล ไปเป็นเพื่อนผมนะ” น้ำเสียงออดอ้อนที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ ค่อยๆแผ่วเบาลงเรื่อยๆจนกลายเป็นเสียงในลำคอ
ท่าทีไม่มั่นใจของน้องชายทำให้ร่างบางถึงตัวเอง เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาที่เดินเข้าไปบอกรักชายหนุ่มรุ่นน้องที่แทบจะเรียกได้ว่า เป็น เพอร์เฟคแมน มีทั้งผู้หญิง และผู้ชายมากมายมาให้เลือก
“มั่นใจหน่อยสิซองมิน รู้เปล่าพี่อ่ะยังไม่เคยมีใครมาขอเป็นแฟนเลยนะ เราก็ต้องมีดีให้เขามารักมาชอบ เพราะงั้นมั่นใจตัวเองหน่อยไอ้น้อง” มือบางขยี้หัวน้องชายด้วยความเอ็นดู ก่อนก้มมองนาฬิกาเรือนสวยที่มีคนซื้อให้ “สายแล้วพี่ไปทำงานก่อนดีกว่า เดี๋ยวเลิกงานแล้วพี่โทรหาอีกทีนะ”
“ครับ”
รอยยิ้มที่มีให้กันในตอนเช้า จางหายลงไปอย่างช้าๆเมื่อลับตาน้องชายที่รู้จักกันมานาน ก่อนจะลองโทรศัพท์ไปหาคนรัก เพื่อถามหาเหตุผล
“ฮัลโหล ฮีชอล ฉันไม่ว่าง ไว้จะโทรกลับนะ อ้อ เย็นนี้ฉันมีนัดกับลูกค้าสำคัญมาก คงไปหาไม่ได้ แค่นี้นะ” ร่างบางที่ได้แต่แนบโทรศัพท์ไว้กับหูยังไม่ทันได้พูดสิ่งใด แต่สายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไปเสียแล้ว
ไม่มีการไถ่ถามใดๆที่แสดงความเป็นห่วง
ไม่มีประโยคบอกรักเหมือนอย่างที่เคยมี
เหมือนว่า..ความรักมันกำลังจางไปกับกาลเวลา
ในวันที่ความรักของเขากำลังจืดจาง แต่ความรักของใครบางคนกำลังเริ่มต้น แล้วเขาก็ควรจะดีใจใช่ไหม
แต่...จะเอาหัวใจที่ไหนมายินดี?
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
เวลาเย็นหลังเลิกงาน ใบหน้าที่อ่อนแรงของร่างบางทำให้หลายคนอยากเข้าไปช่วยเหลือ แต่สายตาที่ไม่มองมองใครๆทำให้ทุกคนต่างก็ต้องถอยหนี
“ซองมินพี่เลิกงานแล้วหน่ะ จะให้พี่ไปหาที่ไหน” ความเหนื่อยล้าจากงานที่ทำไม่ทำให้ฮีชอลลืมสัญญาที่ให้ไว้กับน้องชายเมื่อตอนเช้า
“ตอนนี้ผมอยู่ที่ the love อ่ะครับ พี่มาหาผมนะครับ” น้ำเสียงตื่นกลัวเพราะความไม่คุ้นสถานที่ทำให้ร่างบางนึกเป็นห่วง แต่ไหนแต่ไรมาซองมินไม่ใช่เด็กเที่ยว ให้ไปอยู่ในที่แบบนั้นคนเดียวไม่แปลกเลยที่จะหวาดกลัว
“อือ เดี๋ยวพี่ไปนะ แล้วแฟนเรายังไม่มาหรือไง นัดกันไว้กี่โมง” เพราะความเป็นห่วงน้องชายทำให้ร่างบางเผลอทำเสียงแข็งใส่โดยไม่รู้ตัว
“อ่า พี่ฮีชอลอย่าทำเสียงแบบนั้นสิครับ คงยังไม่มามั้งครับ อ่ะ มาแล้ว แค่นี้นะครับ มาถึงแล้วพี่โทรมานะครับ เดี๋ยวผมจะออกไปรับ” เสียงที่หดหู่กลายเป็นร่าเริงขึ้นมาในทันที
“อือ พอแฟนมาก็ทิ้งพี่เลยนะ แค่นี้หล่ะกัน ไปถึงแล้วจะโทรหา” ร่างบางตัดสายโทรศัพท์ก่อนจะกดเบอร์คนรักที่บอกไว้ว่าจะโทรกลับ แต่จนป่านนี้ไม่มีแม้แต่มิสคอล
“ขออภัยคะ ขณะนี้หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้กรุณาติดต่ออีกครั้งคะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ยินบ่อยๆในช่วงนี้ ไม่สามารถทดแทนเสียงทุ้มนุ่มแสนอบอุ่นได้เลย กี่ครั้งแล้วที่โทรไปแล้วต้องเจอกับเสียงนี้ ร่างบางได้แต่ยิ้มให้กับตัวเอง
วันจากลา...มันคงใกล้เข้ามาแล้ว
ฮีชอลเดิมไปตามถนนท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดบาดผิวขาวเข้าไปจับกระดูก ไม่สนใจสายตาที่มองมา ไม่สนใจว่าเดินผ่านใครไปบ้าง รับรู้เพียงแค่ผู้คนที่เดินผ่านไปมา หน้าตาไม่เหมือนคนที่เขารัก และ ยังเดินไม่เลยร้านที่นัดกับน้องชายตัวอวบเอาไว้
ป้ายหน้าร้านสีแดงรูปหัวใจขนาดใหญ่ ที่เขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษไว้ อย่างสดใสว่า The love การตบแต่งร้านที่ดูแล้วหวานแหวว แตกต่างจากที่เที่ยวที่อื่นๆ เหมาะกับการบอกรัก ทำให้ร่างบางเปิดรอยิ้มออกมา
“ซองมินพี่มาถึงแล้วนะ” ร่างบางโทรหาน้องชายให้ออกมารับที่หน้าร้าน ที่มีคนเข้าออกมามากมาย บ้างก็มาเป็นกลุ่ม เป็นคู่ แต่ดูแล้วไม่มีใครเลยที่จะมาเพียงคนเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า
“พี่ฮีชอลครับ มาเร็วดีจัง อาหารที่สั่งไปพึ่งมาเมื่อกี้นี้เองครับ” ใบหน้าหวานที่ยิ้มแย้ม เดาได้ไม่ยากถึงบทสรุปความรักที่กำลังเริ่มต้นนับหนึ่ง
“หรอ แล้วไหนหล่ะคนที่อยากให้พี่รู้จัก” ฮีชอลเดินฝ่าฝูงคนที่แออัดเดินตามน้องชายเข้าไป ไม่สนใจคนรอบข้าง ที่มองตาม
“เขานั่งรออยู่ข้างในครับ ผมพึ่งรู้ว่าที่นี้เป็นของเขาด้วยแหล่ะพี่ฮีชอล” น้ำเสียงที่กลบความยินดีไม่มิดของร่างเล็ก น้ำให้คนเดินตามยิ้มตามไปด้วย “เขาเป็นคนดีมากๆเลยนะครับ ทำงานประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยเลย”
สรรพคุณที่ร่างเล็กบอกออกมาทำให้ฮีชอลนึกไปถึงคนรักของตน ที่ก็ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย อยากได้อะไรก็ได้ เหมือนว่าโลกทั้งโลกแทบจะใต้เท้า
“หน้าตาก็ดี พี่ฮีชอลเห็น รับรองต้องชมว่าหล่อแน่ๆ ผมเห็นครั้งแรกยังอึ้งเลยที่เข้าจะเข้ามาจีบผู้ชายธรรมดาอย่างผม”
ฮีชอลไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังจะชมใครได้อีกไหม ในเมื่อคนเดียวที่อยู่ในใจ คนเดียวที่มองว่าเหนือกว่าใครๆ คงไม่ใช่คนรักของน้องชาย
“แต่ก็แปลกนะ เขาเล่าให้ฟังว่าแฟนเก่าที่เลิกไป เพราะฝ่ายนู้นมีคนใหม่ ผมหล่ะไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าจะมีใครทิ้งคนอย่างนี้ได้คอ แต่เห็นว่าแฟนเก่าเป็นรุ่นพี่ที่แก่กว่า แถมเป็นคนเดินเข้ามาขอเป็นแฟนเองด้วย”
ทำไมเรื่องราวช่างเหมือนกัน ฮีชอลเองก็แก่กว่าคนรัก เป็นคนเดินเข้าไปขอเป็นแฟน ต่างกันก็เพียงว่า ตอนนี้ ฮีชอล ยังคงเป็น คนรัก ไม่ใช่..อดีตคนรัก...
“พูดมาตั้งนานแฟนเราชื่ออะไรหล่ะซองมิน”
“อ่า ยังไม่ใช่แฟนนะพี่ฮีชอล ผมยังไม่ได้ให้คำตอบเขาเลย” ร่างบางที่อายม้วน จนเกือบสะดุดล้ม ดที่ฮีชอลรับไว้ได้ก่อน ไม่งั้นคงได้อายเป็นแน่
“อือ ไม่ใช่แฟนก็ได้ แล้วชื่ออะไรหล่ะ”
“ชื่อ ซีวอน ครับ” ชื่อสั้นๆที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่กำลังทำให้ร่างบางหยุหายใจ
เพียงแค่ชื่อสองพยางค์ ที่แสนคุ้นเคย ทำให้ร่างบางลืมแม้แต่วิธีการหายใจ ลืมไปว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่เพียงลำพังที่บ้าน ...ชื่อที่แสนจะเหมือนกันเหลือเกิน...เหมือนจนน่ากลัว
“พี่ฮีชอลเป็นอะไรครับ หน้าซีดๆ”
“เปล่าหรอก อากาศคงไม่พอมั้ง แล้วคนนั้นนั่งอยู่ที่ไหน ทำไมไกลจัง” ฮีชอลโทษสถานที่ ที่อากาศไม่เพียงพอ แต่ใครจะรู้ว่าความจริงแล้วสิ่งที่แย่งอากาศไปกลับเป็นชื่อสั้นๆที่ทำให้ซองมินกำลังยิ้มอยู่เวลานี้
“อยู่ข้างในนั่นครับ นู้นไง ผู้ชายที่ใส่เสื้อดำๆอ่ะครับ”
ใบหน้าที่หันกลับมามอง ดวงตากลมโต และสายตาคม ที่ประสานกันต่างจ้องมองจนลืมตัว ทุกอย่างรอบตัวร่างบางหยุดนิ่ง ไม่มีเสียงใดๆ ไม่มีแสงใดๆ มีเพียงแค่สองคนที่สบตากันด้วยความตกตะลึง
ซีวอนของซองมิน...ซีวอนของฮีชอล..เหมือนกันจนเกินไป จนเป็นคนๆเดียวกัน
“ซีวอน นี้พี่ฮีชอล พี่ชายข้างบ้านของซองมินเอง” ร่างอวบที่ไม่รู้ถึงความกดดัน แนะนำชายหนุ่มให้พี่ชายได้รู้จัก “ส่วนนี้ ซีวอนครับ พี่ฮีชอล”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ร่างบางเป็นฝ่ายทำลายความเงียบที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้น้องชายสงสัย เก็บงำความเจ็บที่แทบจะทลายลงไปไว้ในใจ เหมือนสายนำจากตาที่ต้องไหลอยู่ภายใน
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ คุณฮีชอล” การทำเป็นไม่รู้จัก นั้นเจ็บปวด แต่การเป็นฝ่ายถูกละเลยความสัมพันธ์กลับเจ็บปวดยิ่งกว่า
“รู้จักกันแล้ว ถ้างั้น ซีวอน ผมฝากพี่ชายผมแปปนะครับ ขอไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวมา” ซองมินเดินหายไปในห้อน้ำโดยทิ้งคนทั้งสองไว้เบื้องหลัง
“คุณรักน้องชายผมใช่ไหมครับ” เสียงเคร่งขรึมที่สะกดบางสิ่งเอาไว้ เป็นจริงเป็นจังผิดกับบรรยากาศรอบตัวที่ดูสนุกสนาน
“มาได้ยังไง” ชายหนุ่มไม่ตอบคำถาม หากเป็นฝ่ายยื่นคำถามเสียเอง
“ซองมินเป็นน้องของผม คงไม่แปลกถ้าผมจะเป็นห่วงน้องชายตัวเอง ซองมินยังเด็กอยู่มาก ถ้าคุณจะเข้ามาเพื่อหลอกกัน ผมขอให้คุณไปสะ”
“ถ้าฉันไม่ไปหล่ะ” น้ำเสียงลองดี ท่าทางที่หยิ่งทะนง สายตาคมกล้า ทั้งหมดคือซีวอน...ซีวอนที่ชายหนุ่มไม่คุ้นเคยเลยสักนิด
“งั้นผมก็คงต้องขัดขวางคุณ” คำพูดเผ็ดร้อนที่กำลังออกจากริมฝีปากบางถูกเก็บเอาไว้เมื่อร่างบางเห็นน้องชายเดินใกล้เข้ามา
“ซองมิน เดี๋ยวพี่มานะ” ฮีชอลลุกขึ้นทันทีไม่ฟังเสียงทัดทานของน้องชาย ร่างบางเดินไปตามทางที่ลูกศรชี้ที่มีปลายทางคือห้องน้ำ
น้ำตาที่เก็บไว้กำลังไหลออกมาอย่างช้าๆ ไม่แน่ใจว่าจะทนได้นานแค่ไหน หากต้องมองภาพของซองมิน และคนรัก ที่ตอนนี้เป็นแค่อดีต สำหรับซีวอน เขาคงเป็น อดีตคนรักที่น่าเบื่อ
“ร้องไห้ทำไม เมื่อกี้ยังทำปากเก่ง” ชายหนุ่มที่เดินตามเข้ามาโดยร่างบางไม่รู้ตัว ผลักให้หายเข้าไปในห้องน้ำแคบเล็กก่อนจะล็อคประตูกั้นทางออก
“แล้วนายจะทำอะไรซีวอน เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ” น้ำเสียงสั่นพร่า มองหน้าคนรักอย่างไม่เข้าใจ จะตามเข้ามาในนี้เพื่ออะไรกัน...ต้องการอะไรจากอดีต อย่างเขาอีก
“ทำไม ฉันเป็นคนรักของนายจะตามเข้ามาดูแลไม่ได้หรือไง หรือว่ากะเก็บพวกตามทาง”
“ซีวอน” มือบางที่เงื้อขึ้น แต่เพราะความรัก ไม่อาจทำให้คนตรงหน้าบาดเจ็บได้ จึงทิ้งมือลงข้างลำตัวอีกครั้ง “ฉันไม่มีนิสัยแบบนาย จะพูดอะไรระวังปากไว้บ้าง ถอยไป ฉันจะออก” ร่างบางผลักชายหนุ่มออกไปให้พ้นบานประตูเล็ก แต่แรงที่มีอยู่เพียงน้อยนิดไม่ทำให้ร่างสูงขยับออกไป น้ำตาเม็ดเล็กไหลรินออกมาจากดวงตากลมโต
“ฮีชอล” เสียงทุ่มนุ้มตกใจ ที่เห็นน้ำตาของคนรัก มือหนาตั้งใจจะเอื้อมเช็ดออกให้ แต่ร่างบางกลับถอยหลังหนี ทั้งที่ไม่มีที่จะยืนอีกแล้ว ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนเป็นรั้งไหล่บางไม่ให้ถอยหนีได้อีก
“ซีวอนอย่ามาทำแบบนี้ทั้งที่ข้างนอกยังมีซองมินอยู่ อย่าทำให้ฉันคิดว่านายเป็นแค่ผู้ชายมักง่ายทั่วไป” น้ำตาที่ฮีชอลปล่อยให้ไหลลงมานั้น มันกำลังนองเต็มใบหน้าหวาน “ วันนี้ฉันได้รู้ว่าตัวเองเป็นแค่แฟนเก่าของนายมันก็มากพอแล้ว ฉันอยากรู้จริงๆ ฉันเป็นแฟนเก่ามานานแค่ไหนแล้ว บอกฉันได้ไหม”
“ฮีชอล” เพียงชื่อแผ่วที่หลุดออกมาจากชายหนุ่ม ไม่กล้านับเวลาย้อนกลับไปถึงวันที่เขามอบตำแหน่งแฟนเก่าให้แก่คนรัก
“ อย่ามาเรียกชื่อฉันแล้วเงียบแบบนี้ซีวอน ฉันแค่อยากรู้ว่ามันนานแค่ไหนแล้ว ฉันเป็นคนโง่มานานแค่ไหนแล้ว บอกได้ไหม” น้ำตาที่ไหลยังคงไหลต่อไป แต่จะไม่มีฮีชอลที่โวยวายเพื่อทวงผู้ชายคนหนึ่งคืนมา ในเมื่อใจดวงนั้นไม่ได้เป็นของเขาตั้งแต่แรก แล้วจะรั้งไว้ทำไมอีก ที่ร้องไห้ตอนนี้ก็แค่บอกตัวเองว่าล้างความโง่ในดวงตา....ฮีชอลบอกตัวเองอย่างนั้น
“ฉัน...” ความเงียบที่ตามมาไม่ช่วยให้เข้าใจอะไรได้เลย
“ตอบไม่ได้งั้นสิ มันคงนานเกินไปใช่ไหม งั้นฉันเปลี่ยนคำถามดีไหม” กลีบปากบางแย้มยิ้มทั้งน้ำตา ในดวงตาที่จ้องมองคนตรงหน้าช่างแสนเศร้า ก่อนเอื้อนเอ่ยประโยคที่คำตอบอาจทำให้ความเข้มแข็งทลายลง “นายเคยรักฉันบ้างไหม ฉันเคยมีค่าบ้างหรือเปล่า”
“......” มีเพียงความเงียบที่ร่างบางได้รับ ไม่มีคำพูดใดๆ หรือความเงียบคือคำตอบ
ความเงียบ เท่ากับ ความว่างเปล่า
ใช่หรือเปล่า...?
ความว่างเปล่าในหัวใจ...คุณค่าที่ไม่เคยมีอยู่...รักเป็นเพียงแค่ลมปาก
“มีคำถามไหนที่นายตอบฉันได้บ้างซีวอน ความเงียบมันไม่ช่วยอะไรหรอกนะ บอกฉันมาซิ นายต้องการอะไร”
ซีวอนรั้งร่างบางเข้าสู่อ้อมกอด ความเงียบเข้าปกคลุมห้องน้ำแคบ ก่อนจะตัดสินใจพูดบางอย่างออกมา “ฉันต้องการนาย”
“ฮึ ฉันไม่ได้ถามว่านายต้องการใคร แต่ฉันถามว่า ฉันเคยมีค่าบ้างไหม หรือเป็นแค่ของเล่นเท่านั้นเอง บอกฉันให้รู้หน่อยสิ” ฮีชอลดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดแสนอบอุ่น จ้องหน้าร่างสูงด้วยความสงสัย
“.....”
“เงียบอีกแล้ว นายต้องการฉันเพราะแค่เซ็กส์หรือเปล่า ถ้าแค่นั้นอย่าบอกว่าต้องการฉัน ใครต่อใครก็ทำให้นายได้ ไม่ใช่แค่ฉันเท่านั้น หรือที่บอกว่ายังต้องการฉันเพราะแค่สงสารก็ไม่ต้อง เพราะฉันไม่อยากดูน่าสมเพชไปมากกว่านี้” เสียงแผ่วเบาหลุดลอดออกมาจากร่างบางที่กลั่นก้อนสะอื้นให้กลับลงไป แต่ก็ดูเหมือนจะทำไม่ได้ น้ำตายังคงไหลต่อไป เหมือนสายน้ำที่จะไม่มีวันหยุด
“ไม่ใช่เพราะเซ็กส์ ไม่ใช่เพราะสงสาร แต่เพราะฮีชอลคือฮีชอล ฉันรู้แค่นั้น อย่าถามอะไรอีกได้ไหม” ชายหนุ่มเว้าวอนบอกกับร่างบาง ซบลงที่ไหล่เล็ก
“แล้วซองมินหล่ะ น้องที่นั่งคอยอยู่ข้างนอก ซีวอนจะพูดว่าอะไร จะบอกกับน้องว่าอะไร เด็กคนนี้ไม่ใช่หรือไงที่ซีวอนเข้าไปหาก่อน ต่างจากฉันนะที่เป็นฝ่ายเดินเข้าไปนายเอง”
“.........”
“อย่ามาเงียบได้ไหม ความเงียบมันช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ” เสียงหวานที่เคยนิ่งสงบตะคอกออกมาทั้งน้ำตา เพราะทนไม่ได้กับสภาพแบบนี้ ที่ไม่ว่าจะทำอะไร จะถามอะไรก็ได้แต่เงียบ ไม่มีคำตอบ ไม่มีทางออก “ถ้ายังตอบไม่ได้อีก ฉันหาทางออกให้นะ นายเดินออกไปนั่งฟังคำตอบจากปากซองมิน แล้วปล่อยฉันเอาไว้ตรงนี้ เดี๋ยวฉันจะเดินตามออกไปทีหลังเอง”
“.......” คำพูดที่ได้ยินกรีดเข้าไปในหัวใจ ทำให้ชายหนุ่มนิ่งอึ้ง ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ไม่รู้ว่าเพราะทำไม แต่ที่รู้แน่ๆคือ เหมือนว่ากำลังสูญเสียบางอย่างไป
ร่างบางมองชายหนุ่มที่กำลังนิ่งอึ้งกับหนทางที่ได้รับก่อนจะค่อยๆเดินผ่านหน้า เปิดประตูเดินหนีออกมาอย่างช้าๆ ค่อยๆลงเท้ากลัวว่าจังหวะที่ก้าวเดินจะทำให้น้ำตาไหลออกมา
“ซองมินพี่คงต้องกลับก่อนนะ แล้วคำตอบว่ายังไงอย่าลืมโทรไปบอกพี่หล่ะ” รอยยิ้มอึนๆส่งให้น้องชายที่แสนน่าเอ็นดูในทันทีที่กลับมาถึงโต๊ะ ไม่เหลียวมองชายหนุ่มร่างสูงที่เดินตามมาอย่างมึนงง
“อ้าว! ทำไมรีบกลับหล่ะครับ ไหนบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนผมไง ผมกลัวนิครับ อยู่กับผมก่อนนะ” เสียงอ้อนๆ บอกถึงความกลัวที่มีอยู่ ใบหน้าใสซื่อทำให้คนอยากจะปล่อยน้ำตาให้ไหลงลงมา
เพราะความน่ารักแบบนี้ใช่ไหม ที่ทำให้ซีวอนพาตัวเข้าไปอยู่ใกล้ๆ
ผิดกับบางคน ที่เป็นคนขอเริ่มต้น แต่ที่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากเซ็กส์...ไม่มีแม้แต่ความผูกพัน
“ไม่ต้องกลัวหรอก พี่รับรองได้ว่าผู้ชายคนนั้นจะทำให้ซองมินมีความสุข เขาจะดูแลซองมินเป็น
อย่างดี เพราะเขาเป็นฝ่ายเดินมาหาซองมินเอง เชื่อพี่นะ กล้าๆเข้าไว้น้องรัก พี่ไปแล้วนะ”
“ครับพี่” ในที่สุดเด็กน้อยก็หมดหนทางจะรั้งพี่ชายคนสวยเอาไว้ ได้แต่ปล่อยให้กลับบ้านไป นั่งมองพี่ชายหายลับไปในหมู่คนจำนวนมาก
“ซีวอน ทำไมไปห้องน้ำนานจังเลยครับ” ดวงตาใสซื่อ จ้องถามคนที่หายไปนาน นานพอๆกับพี่ชายหน้าหวาน ที่พึ่งขอตัวกลับไปก่อน
“พอดีมีเรื่องนิดหน่อยในห้องน้ำครับ แล้วพี่ชายซองมินยังไม่ออกมาหรอครับ หายไปนานกว่า
ผมซะอีก” ก็รู้ว่าออกมาแล้ว แต่ก็ขอถามด้วยความเป็นห่วง คงไม่ได้ถูกใครฉุดไปหรอกนะ
“อ้อ พี่ฮีชอลออกมาแล้วครับ ก่อนหน้าซีวอนแปปเดียวเอง แต่ว่าพี่ฮีชอลขอตัวกลับไปก่อนไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน” หนุ่มน้อยตอบคำถามอย่างใสซื่อไม่ทันเห็นแววตาไหววูบของชายหนุ่ม
“หรอครับ” ซีวอนครางอยู่ในลำคอหนา อย่างรับรู้ ความรู้สึกเหมือนบางอย่างกำลังจะหายไปโดยที่ไม่อาจรั้งเอาไว้ ทุกคำถามที่ฮีชอลถาม เขาไม่อาจตอบได้สักข้อ
เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นมานานแค่ไหน...ตอบไม่ได้เพราะมันอาจจะนานเท่าที่เราสองคนคบกัน
เคยรักบ้างไหม เคยมีค่าบ้างหรือเปล่า...ตอบไม่ได้เพราะจนวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าความรักคืออะไร
ต้องการเพราะแค่เซ็กส์หรือเปล่า...เซ็กส์อาจเป็นเรื่องที่มัดเขาให้อยู่ได้นาน แต่ไม่ใช่แค่เซ็กส์ที่ทำให้ผูกพันกัน
แล้วซองมินหล่ะ....คำถามสุดท้ายทำให้นิ่งอึ้ง...แล้วซองมินหล่ะ???
“ซีวอนครับ ซีวอน” เสียงเรียกชื่อ ทำให้คนที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองได้สติ หันกลับมาตั้งใจฟังคนตรงหน้าอีกครั้ง
“ครับ” ใบหน้าใส ดวงตาซื่อๆ แบบนี้หรือเปล่าที่ดึงดูดให้เข้าไปหา แล้วอีกคนอะไรกันที่ดึงดูดให้เขายอมมอบคำว่า ‘คนรัก’ ให้...เพราะอะไรกัน ทั้งที่สิ่งที่เขาทำก็ไม่ต่างจากคู่นอนระยะยาวเลย ไม่เคยคิดให้เข้ามารับรู้เรื่องส่วนตัว และก็ไม่อยากจะรู้เรื่องราวของร่างบางคนนั้น
“เรื่องที่ซีวอนถามผม แล้วผมขอเวลาคิด ตอนนี้ได้คำตอบแล้วนะครับ”
“แล้วซองมินจะตอบผมว่าอะไรครับ” ดวงตาคมจ้องหน้าคนพูดพร้อมด้วยรอยยิ้ม แบบที่ใครเห็นก็คงต้องยอมทุกสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการ แม้แต่...หัวใจ
“ผม...”เพราะถูกจ้องหน้า เพราะท่าทางคาดหวังกับคำตอบ ทำให้ร่างบางยิ่งประหม่า หากที่นี้จะมีแสงเพียงพอ คงได้มองเห็นใบหน้ากลมอาบด้วยสีแดง “ผม...ตกลงครับ”
คำสั้นๆที่ดูไม่มีความหมายใดๆ แต่คนที่รับฟัง และแอบฟังก็รับรู้ได้ถึงความหมายของมัน คนฟังเพียงแค่ยิ้ม ยินดี แต่คนแอบฟังกลับยิ้มทั้งน้ำตา รอยยิ้มแสนเศร้าในค่ำคืนเดียวดายท่ามกลางผู้คนมากมาย
“ขอให้มีความสุขมากๆนะ ซีวอน ซองมิน”
E.N.D
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
Talk
นี้แหล่ะคะ ของขวัญที่ไอซ์พูดถึง 555 ฟิคเศร้า ตามกระแสของความเจ็บปวด ไหนๆ เรื่องหลักก็เชียร์คยูซิน ซ้อตฟิคเลยเป็นวอนมิน ซะเลย หุหุ
ล้อเล่นคะ อันนี้เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ เพราะฉะนั้นชายฉ่อยก็ต้องหาคำตอบมาตอบคำถามที่คั่งค้างให้ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คำตอบจะมานะคะ
อยากจะบอกว่าเรื่องนี้มีอีกหนึ่งคู่ ที่คาดไม่ถึงกันด้วยซึ่ง.....ไอซ์เองก็ยังคาดไม่ถึงและนึกไม่ออก ลองเดาดูสิคะ ว่าใคร เผื่อถูกไอซ์จะรีบปั่นให้เลย 555
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ
ความคิดเห็น