คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : After valentine 150%
After valentine
วันวาเลนไทน์ ผ่านมาแล้วหนึ่งอาทิตย์ แต่ความรักของซีวอนกับฮีชอลมันช่างไม่เข้ากับบรรยากาศหวานชื่นที่ใครๆเขามีกัน เจ็ดวันแล้วที่ร่างบางต้องนั่งมองหน้าต่าง คอยฟังเสียงโทรศัพท์ ตื่นนอนและเข้านอนเพียงลำพัง ไร้คนข้างกายเช่นทุกครั้ง
วันวาเลนไทน์ มันคืออะไรกันแน่...?
บางคนใช้วันที่อบอวลไปด้วยความรักสารภาพความในใจ
บางคู่ใช้วันนี้ ฉลองโอกาสพิเศษกับคนรัก
แต่ทำไมซีวอนใช้วันนี้ทำร้ายฮีชอลกันหล่ะ
แค่นั่งนึกย้อนกลับไป น้ำตาเม็ดเล็กๆก็พาลจะไหลออกมา ทำผิดมากเลยใช่ไหม กับการลืมวันที่ การอยู่กับซีวอน สำหรับฮีชอลก็เป็นวันพิเศษอยู่แล้ว แล้วทำไมซีวอนวอนต้องเอาวันตายของคนอื่นมาใส่ใจด้วย บอกฮีชอลได้ไหม
ร่างบางนั่งนิ่งริมระเบียงไม่ไปไหน ในใจได้แต่คิดฟุ่งซ่านไปต่างๆนาๆ มือบางกำโทรศัพท์มือถือแน่น หวังจะได้ยินเสียงของคนที่รอคอย แต่การรอคอยที่เข้าสู่วันที่เจ็ด ก็ยังคงไร้เสียงใดๆ ไม่มีแม้แต่ข้อความแสดงความห่วงใย
มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่า ซีวอนเบื่อฮีชอลแล้วกันแน่
บอกให้รู้ได้ไหม อย่านิ่งและหายไปแบบนี้ บอกให้เตรียมใจว่า ฮีชอลหมดความหมายกับซีวอนแล้ว
13 กุมภาพันธ์ เวลา 23.49
สองร่างนอนแอบอิงท่ามกลางความมืด ความอบอุ่นที่มีกันและกันในอ้อมกอด มันทำให้ความสุขล้นออกมา ผ่านทางสายตาที่มองกันและกัน
เปลือกตาบางหรี่ลง เคลิ้มใกล้หลับ ขณะที่อีกคน นอนกอดหมอนข้างมีชีวิตแสนนุ่มนิ่ม ในใจนึกวาดฝันถึงแผนการวันพรุ่งนี้ ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาที สองตาคมมองดวงหน้าหวานที่กำลังเคลิ้มหลับฝันหวานอยู่ในอ้อมกอด ทำให้ มุมปากบางต้องยกยิ้มตาม ดวงตาคมที่ทำให้ใครต่อใครกลัวได้ ตอนนี้กลับทอดมองอย่างอบอุ่น
“นอนหลับฝันดี นะครับ ฮีชอลของซีวอน” ประโยคแผ่วเบาที่คงไม่มีใครได้ยินนอกจากเจ้าลูกเมี้ยวตัวนอนที่นอนแทรกกลางระหว่างคนสองคน ร้องเมี้ยวๆตอบรับคำของคุณพ่อที่บอกรักคุณแม่ “รักฮีบอม
เหมือนกันนะ” ซีวอนจุมพิตหน้าผากเล็ก แล้วตามด้วยบนหัวกลมๆของลูกแมวตัวดี สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำก่อนนอนและไม่เคยลืมที่จะทำ
14 กุมภาพันธ์ เวลา 06.30
ชายหนุ่มร่างสูงในชุดทำงานแสนเนี้ยบเตรียมตัวออกจากบ้านเช้าผิดปรกติ ไม่รอให้คนให้คนตัวเล็กได้ลุกขึ้นมาดูแลอย่างทุกวัน อย่าว่าแต่คนรักเลย เจ้าลุกตัวเล็กก็ยังไม่ตื่น ยังนอนซุกอยู่ผ้าห่มผืนหน้า ทำหน้าเหมือนลืมวิถีชีวิตแบบแมวๆไปแล้ว “ขี้เซาทั้งแม่ทั้งลุกเลยนะบ้านนี้ นอนรอซีวอนอยู่บ้านนะครับฮีชอล แล้วผมจะรีบกลับ”
เกือบแปดโมงกว่า ร่างบางถึงเริ่มรู้สึกตัว มุดซ้าย มุดขวา ควานหาความอบอุ่น แต่ก็เพียงความเย็นชืดจากที่นอน และสัมผัสนุ่มจากขนแมว ที่คงซุกหนีจากความหนาวเย็นเช่นเดียวกัน เปลือกตาบาง ค่อยลืมขึ้นทีละนิด ทีละข้างอย่างช้าๆ
ห้องมืดสนิท เพราะม่านหนาหนักกันแสงจากดวงอาทิตย์ที่จะส่องเข้ามา นี้เองที่ทำให้ร่างบางตื่นได้สายขนาดนี้ ดวงตากลมโตมองหาชายหนุ่มร่างสูงที่ปรกติแล้วจะต้องอยู่บนที่นอน แต่ตอนนี้ทั้งห้องเหมือนไม่มีใครอยู่อีกแล้ว
ขาเล็กเรียวพาเจ้าของเดินออกมาจากห้องนอน เข้าสู่ห้องเล่น เดินตรงไปที่ห้องครัว เพราะกลิ่นหอมอ่อนของอาหารเช้าลอยมา หวังว่าจะได้เจอคนรัก แต่ใบหน้าหวานก็มุ่ยลง เมื่อพบแต่เพียงความว่างเปล่า ไร้เงาร่างสูง
บนโต๊ะอาหารตัวเล็กเต็มไปด้วยอาหารเช้าสีสวย ข้างๆจานมีดอกกุหลาบสีแดงสดวางเคียงกัน กลีบดอกยังคงมีเกร็ดน้ำเกาะอยู่เล่นประกายกับแสงนีออน กระดาษสีหวานมีลายมือตวัดๆ ที่เป็นเอกลักษณ์
ตื่นแล้วหิวหรือเปล่าครับ ซีวอนทำอาหารไว้ให้แล้วนะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว ตื่นแล้วอย่าลืมโทรหาซีวอนนะครับ
ซีวอน
14/02 06.00
ร่างบางได้แต่นั่งมอง กุหลาบแสนสวยและกระดาษสีหวานที่เขียนข้อความธรรมดา แต่กลับสัมผัสได้ถึงความรัก ความห่วงใยที่มีให้ ยิ่งมองเวลาที่เขียน ก็ยิ่งอยากเจอคนเขียน อยากอยู่ในอ้อมกอดแสนอบอุ่นที่ได้รับอยู่เป็นประจำ
ตื่นมาแล้วหิวที่สุดเลย ขอบคุณนะ อาหารอร่อยจัง อร่อยกว่าฮีชอลทำเองอีก อยากกอดซีวอนจังเลย วันนี้รีบกลับบ้านนะ
ปล. ตื่นตอนแปดโมงครึ่ง
ฮีชอล
ฮีชอลนั่งเล่นนอนเล่น เกลือกลิ้งไปมาอยู่ที่พื้นห้องหน้าทีวีท่ามกลางกองหมอนและตุ๊กตา ตรงที่ที่จัดไว้ให้นอนเล่นหากไม่อยากอยู่บนโซฟา หลับไปเพียงไม่นาน อินเตอร์คอมหน้าห้องก็ส่งสัญญาณให้ร่างบางตื่นขึ้นอย่างจำใจ
“ใครครับ”
“ผมมาส่งของให้คุณฮีชอลครับ” เสียงไม่คุ้นเคยตอบกลับมา ทำให้คนในห้องต้องขมวดคิ้วสงสัย ดวงตากลมโตเริ่มมองหาบางอย่างที่พอจะเป็นอาวุธได้ หากเกิดอะไรขึ้นมา
“แต่ผมไม่ได้สั่งอะไรไว้นะครับ” ฮีชอลพยายามถ่วงเวลาคิดหาทางหนีทีไล่ ไม่อยากเปิดประตูห้องรับคนแปลกหน้า กลัวว่าซีวอนจะรู้แล้วไม่พอใจ
“ครับ แต่มีคนสั่งให้มาส่งให้คุณฮีชอลครับ” เจ้าของเสียงแปลกประหลาดยังคงยืนยันภารกิจที่ได้รับ อย่างขันแข่ง จนคนรับเริ่มใจอ่อน
“ครับ “ ในที่สุดฮีชอลก็ยอมเปิดประตูให้ หากแต่สิ่งที่รอคอยอยู่ประตู ไม่ใช่กล่องใส่พัสดุ แต่เป็นช่อดอกไม้สีขาวขนาดใหญ่ เกือบ 20 ดอก
“ช่วยเซนต์รับไว้ด้วยครับ” เสียงของเด็กส่งดอกไม้เรียกให้ร่างบางหลุดออกจากความคิด มาสนใจกระดาษที่รอให้เขาเซนรับของ
มือบางถือช่อดอกทิลลิปสีขาวล้วนเดินเข้าไปในห้อง ดวงตากลมสอดส่งหา การ์ดที่พอจะบอกได้ว่ามาจากใคร แล้วมันก็มีอยู่จริง กระดาษสีเดียวที่ได้จากห้องครัว ลายมือเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน
18 ดอก แทนเวลาที่เราพบกัน และมันจะเพิ่มขึ้นอีกทุกๆปี เพราะความรักของเรา
Your Prisoner of love
4/02 10.12
ร่างบางนั่งมองดอกไม้อย่างแปลกใจ ถึงแม้ว่าซีวอนจะชอบทำอะไรที่โรแมนติก แต่การส่งดอกไม้มาให้แบบนี้ก็ยังแปลกๆ จนร่างบางสงสัย แต่ก็ไม่กล้าโทรไปถาม ได้แต่นั่งยิ้มให้กับข้อความบนการ์ดที่ได้รับมา
18 ปี มันดูยาวนาน สำหรับคนสองคน แต่สำหรับฮีชอลและซีวอนที่เริ่มต้นจากคำว่าพี่น้อง ก่อความรักที่แปรเปลี่ยนรูปแบบ จนกลายเป็นคนรัก 18 ปีมันดูช่างแสนสั้น เพราะเวลาข้างหน้ายังอีกยาวนาน จนมองไม่เห็นทางสิ้นสุด
“ฮีบอม วันนี้พ่อฮีบอมเป็นอะไรหรือเปล่า ดูส่งช่อดอกไม้มาให้สิ ลงชื่อว่าพ่อฮีบอมด้วยนะ” ร่างบางยกลุกแมวสีเทาเข้มตัวเล็กขึ้นมากอดอย่างเอ็นดู ชี้ให้เห็นชื่อที่ลงว่า พ่อฮีบอม ให้เจ้าลูกแมวได้ดูด้วย หนึ่งคนหนึ่งแมวมองกระดาษแผ่นเดียวกันแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
ฮีชอลใช้ชีวิตแบบทุกวันที่ผ่านมา แต่ก็พยายามนั่งคิดถึงเหตุการณ์พิเศษ ที่นึกอย่างไร วันนี้ก็ดูจะไม่ใช่วันพิเศษที่ตรงไหน ก็ยังคงเป็นเหมือนวันปรกติทั่วไปที่ฮีชอลรักซีวอน
“หรือวันนี้จะเป็นวันซีวอน?” ปากอวบอิ่มเชิดขึ้นอย่างสงสัยทั้งที่มือก็กำลังทอดปลาตัวตที่จะเป็นมื้อเที่ยงของทั้งคนและแมว “ก็ไม่ใช่นี้หน่า นี้พึ่งกุมภาเอง วันที่ซีวอนแจ้งเกิดก็ แปดกุมภา วันนี้วันอะไรหรือเปล่า คิดซิฮีชอล ” เพราะกำลังใช้ความคิดอย่างเพลิดเพลิน แต่แล้วกลิ่นไหม้ๆก็โชยมาให้ตกใจ
“เฮ้ย!! ไหม้หมดเลยอ่า ขอโทษนะฮีบอม สงสัยตอนเที่ยงกิน อาหารแมวอีกมื้อแล้วนะ ” ปลาตัวเดียวที่มีอยู่ในตู้เย็นไหม้กลายเป็นสีดำ ร่างบางจึงตัดใจทิ้ง เทอาหารแมวลงในถาดข้าว ส่วนตัวเองก็ต้องนั่งต้มม่าม่ากินอย่างจำใจ
“ออด ออด ออด” เสียงออดที่มีคนมากด ทำให้ฮีชอลต้องละความสนใจจากม่าม่าที่กำลังนั่งกินอยู่ เดินออกไปเปิดประตู โดยลืมถามว่าเป็นใคร
คาร์เนชั่นช่อใหญ่ ยื่นมาตรงหน้าทันทีที่เปิดประตูออกไป ดอกไม้ช่อสีขาว ช่อที่สามของวันที่ได้รับ ยิ่งเพิ่มความสงสัยให้กับร่างบาง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป เพราะดูท่ายังไงคนส่งดอกไม้ก็ไม่น่าจะรู้เรื่องอะไร
“ขอบคุณมากนะครับ” ร่างบางกล่าวอย่างสุภาพ ก่อนจะปิดประตูห้อง มองหากระดาษสีหวานกับลายมือที่คุ้นเคย ที่วันนี้ได้มาแล้วสองใบ เพราะมัวแต่มองหากระดาษสีหวาน จนลืมมองทางแม้จะเป็นห้องที่คุ้นเคย แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้เสมอ จึงเดินไปชนเข้ากับโต๊ะตัวเล็กให้เจ็บตัวเป็นรอยแดงช้ำรอต้อนรับคนรักตอนเย็น
16 ดอก แทนอายุเด็กน้อยสองคนที่นั่งร้องไห้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เด็กชายอายุ7ขวบ กับเด็กน่ารักตัวเตี้ยๆอายุ 9 ขวบ น่ารักดีใช่ไหมครับ อยู่บ้านกับลูก ดูแลตัวเอง อย่าให้เจ็บตัว แล้วอย่าทะเลาะกันให้พ่อปวดหัวนะครับ
Heebom’s Father
14/02 11.54
ฮีชอลได้แต่นั่งหน้ามุ่ยอยู่คนเดียว กับความหลังครั้งแรกที่เจอกัน ไม่ว่าจะนานแค่ไหนแต่ความทรงจำก็ยังคงชัดเจนในความรู้สึก เด็กผู้ชายสองคนที่พึ่งเจอกัน แต่กลับร้องไห้เป็นเพื่อนกัน มันดูช่างน่ารัก บางทีนั้นอาจเป็นพรหมลิขิตเอาไว้แล้วสำหรับคนทั้งคู่
ความเป็นห่วงเป็นใยที่เคยได้รับตั้งแต่เมื่อ18ปีก่อน วันนี้ก็ยังคงได้รับ และดูจะมากขึ้นตามกาลเวลา ที่เดินไปข้างหน้า แต่ความเป็นห่วงนั้นดูจะไม่ทันซะแล้ว รอยช้ำบนเข่าคงไม่ทำให้ปวดหัวเท่าไหร่ หรอกมั้ง
ร่างบางนั่งรอเวลา อยากจะจับนาฬิกาให้หมุนไวขึ้น อยากเห็นหน้าคนส่งดอกไม้ อยากเห็นหน้าคนที่บอกว่าเป็นนักโทษความรักกัน คนที่บอกว่าเป็นพ่อของลูกแมว อยากโทรไปหาใจแทบขาด แต่ก็ต้องอดทนเพราะไม่อยากรบกวนเวลางานของคนรัก
ฮีชอลนั่งเล่น นอนเล่นฆ่าเวลาไปเรื่อยเปื่อยในใจคิดไปถึงดอกไม้ทั้งหลายที่ได้มาวันนี้ไหนจะข้อความต่างๆอีก ทำให้ใบหน้าใสปรากฏรอยยิ้มกว้าง จะเสียก็แค่ ทำไมต้องย้ำอีกแล้วว่าตัวไม่สูง....
เสียงเคาะประตูเป็นจังหวะทำให้ร่างบางต้องรีบวิ่งออกไปเปิดประตูเพื่อจะพบกับดอกลั่นทม 4 ดอก ในช่อกลมเล็กที่แขวนไว้กับลูกบิดประตู เหลียวซ้าย มองขวาก็ไม่เห็นว่าใครเป็นคนเอามาวางไว้ มีเพียงกระดาษกระดาษห้อยไว้ให้ได้รู้ว่าใครเป็นคนส่งมาให้
ดอกไม้แสนเศร้าแต่กลิ่นแสนหอม เหมือน4ปีที่เราต้องห่างไกลกัน แต่ถึงแม้จะเศร้าแค่ไหน แต่รักเรายังคงส่งกลิ่นหอมอยู่เสมอ
The man who love you
14/02 13.36
คนได้รับดอกลั่นทมกลั่นยิ้มไม่อยู่ น้ำตาเม็ดเล็กๆเกือบจะหยดลงมาเพราะความรักที่ได้รับ สี่ปีที่ห่างกัน มันก็แค่ระยะทางไม่ทำให้หัวใจต้องห่างกันเลย มีแต่ความคิดถึงที่เพิ่มขึ้น
ชื่อลงท้ายที่ส่งมายิ่งทำให้หัวใจพองโต ไม่คิดว่าคนอย่างซีวอน จะเขียนอะไรแบบนี้ ออกมาได้ แต่ ฮีชอลก็มีเวลานั่งชื่นชมได้ไม่นาน เมื่อเสียงโทรศัพท์แผดลั่นให้ต้องละความสนใจจากช่อดอกไม้
“สวัสดีครับ ผมฮีชอลพูดครับ” เพราะอารมณ์ดีทำให้ร่างบางยิ้มกับกระบอกโทรศัพท์อยู่เพียงคนเดียว
“คุณฮีชอลคะ ยุนอานะคะ” เสียงหวานๆจากปลายสายไม่ทำให้ร่างบางหุบยิ้มลงได้เลย “วันนี้คุณฮีชอลว่างหรือเปล่าคะ”
“ว่างครับ ความจริงก็ผมว่างทั้งวันนั้นแหล่ะครับ น้องยุนอามีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เปล่าหรอคะ เพียงแต่ว่าวันนี้ยุนอาหัดทำช็อคโกแล็ตอ่ะคะ แล้วอยากให้คุณฮีชอล ได้หรือเปล่าคะ”
“เอ๋! ทำช็อคโกแล็ต ให้ผมหรอครับ” น้ำเสียงตื่นเต้นและดีใจที่มีคนนึกถึง ทำให้ลืมอีกคนที่วันนี้ส่งดอกไม้มาให้ทั้งวัน
“ทำให้คุณฮีชอล สะดวกมารับหรือเปล่าคะ ถ้าไม่สะดวกก็...”
“สะดวกครับ น้องยุนอาว่างกี่โมงเดี๋ยวผมออกไปหาก็ได้นะครับ” เพราะน้ำเสียงเศร้าๆทำให้ร่างบางรีบตอบรับทันทีดดยลืมมองเวลาว่าจวนได้เวลาที่พ่อฮีบอมจะกลับมาบ้านมาแล้ว
“สักสามโมงว่างไหมคะ”
“ว่างครับ เดี๋ยวสามโมงผมออกไปหาน้องยุนอาที่ร้านกาแฟข้างๆบริษัทนะครับ”
“คะ ขอบคุณมานะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมซะอีกที่ต้องขอบคุณ น้องยุนอาอุตส่าห์นึกถึง ทำมาให้” ร่างบางตบปากรับคำหญิงสาวอย่างยืนดีโดยลืมไปว่าวันนี้คือวันที่ 14 กุมภา วันที่คนรักกันจะทำอะไรพิเศษให้แก่กัน จะมอบช็อคโกแล็ตและดอกไม้ให้แก่กัน
14 กุมภาพันธ์ เวลา 17.49
ร่างบางของฮีชอลเปิดประตูเข้ามาด้วยความเบิกบานใจเต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม พร้อมช็อคโกแล็ตทำมือห่อใหญ่ที่ถือกลับมาอย่างทะนุถนอม แต่แล้วใบหน้าหวานกลับกลายเป็นแปลกใจเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงนั่งดื่มเบียร์เพียงลำพังที่ระเบียง “อ้าว! ซีวอนกลับมาแล้วหรอ”
“......”
ความเงียบที่ร่างบางได้รับเป็นคำตอบ เหมือนเสียงที่ถามไปไม่ลอยเข้าหูคนฟัง หากแต่ฮีชอลก็ยังไม่ยอมให้เกิดความเงียบต่อไป “วันนี้ฮีชอลไปหาน้องยุนอามา น้องเขาให้ช็อคโกแล็ตมาด้วยนะ ดูน่าจะอร่อย
ซีวอนยังคงนั่งเงียบยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม ประดุจไม่ได้ยินเสียงของคนรัก จนร่างบางเริ่มใจเสียเดินกลับเข้าไปในห้อง ก่อนจะเหลือบเห็นดอกไม้นานาชนิดนอนนิ่งอยู่ในถังขยะ พร้อมกับกระดาษสีชาวที่ถูกขย้ำทิ้งเหมือนไม่ใยดี “ซีวอนทิ้งดอกไม้ของฮีชอลทำไม”
“ฮีชอลสนใจด้วยหรอว่ามันจะเป็นยังไง ผมเห็นมันวางทิ้งไว้หน้าห้องหนึ่งช่อ ไม่มีใคสนใจ เห็นรกๆ ก็เลยทิ้งไป” น้ำเสียงเย็นชาของชายหนุ่มที่ใครๆก็เคยได้ยิน แต่ไม่ใช่กับ ฮีชอล
“ทำไมซีวอนพูดแบบนี้ ดอกไม้พวกนี้ซีวอนก็เป็นคนให้มาเองไม่ใช่หรือไง” เพราะน้ำเสียงเย็นชาและท่าทางเฉยเมยทำให้น้ำตาเม็ดเล็กๆไหลลงมา
“ใช่ ผมให้เอง แต่ถ้าคนรับไม่เห็นค่าก็ทิ้งมันไปซะ” เสียงตะตอกดังของชายหนุ่มทำให้คนฟังร้องไห้อย่างไม่สามารถหยุดได้
“ทำไมจะไม่เห็นค่าหล่ะ ของที่ซีวอนให้มีความหมายกับฮีชอลเสมอนะ” เพราะความเสียใจทำให้ร่างบางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่ม ได้แต่ก้มหน้า ปล่อยให้น้ำตาร่วงสู่พื้น
“งั้นรู้บ้างไหมว่าวันนี้วันอะไร ดอกไม้พวหนี้ส่งมาเนื่องในโอกาสอะไร” เพราะความน้อยใจที่กลับมาแล้วไม่เจอใคร ทั้งที่เป็นวันพิเศษสำหรับคู่รัก เพราะว่ากลับมาแล้วเจอดอกไม้ที่ส่งมาตอน15.18 ถูกทิ้งอยู่หน้าห้อง ไม่มีใครเหลียวแล เหมือนดอกไม้ที่ถืออยู่ในมือ ชายหนุ่มจึงจัดการโยนดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ทั้งหมดลงถังขยะพร้อมข้อความเขียนขึ้น
“วันนี้วัน... วัน..” เพราะให้คำตอบไม่ได้ น้ำตาเม็ดใหญ่ก็ยิ่งหยดลงพื้น ยิ่งร้องไห้ สุดท้ายก็ได้แต่ก้มหน้าร้องไห้
“พอเหอะฮีชอล ถ้ามันนึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึก มันไม่ใช่วันพิเศษอะไรหรอก อย่าฝีนเลย ผมจะไปดูงานที่ยุโรปสักอาทิตย์ ถ้าฮีชอลอยู่ที่นี้ไม่ได้ จะกลับไปอยู่บ้านใหญ่ก็ได้ ผมขอตัวนะครับ” คำพูดแสนเย็นชาและสุภาพจากไปพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูง ทิ้งให้ร่างบางร้องไห้จนแทบทรุดกับพื้น
ตั้งแต่คืนวันนั้น จนถึงตอนนี้ ร่างบางได้แต่นั่งมองลุกแมวไร้พ่อแมว มองห้องกว้างที่ไร้เจ้าของ มองตัวเองที่ไร้คนรัก เวลาที่ตื่นนอนมาตอนเช้าแล้วไม่มีใครอยู่ข้างๆ แทบจะทำให้น้ำตาไหลออกมา
ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่
ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรผิด ถึงต้องลงโทษกันขนาดนี้ โทรหาสักกี่ครั้งก็เจอแต่ฝากข้อความ จะโทรกลับก็ไม่มี
หรือ..คนคนนี้ไม่มีความสำคัญกับซีวอนแล้ว...บอกให้รู้ได้ไหม
ดวงตาแดงช้ำของคนตาสวยที่เวลานี้หากมีใครได้มาเห็น คงอดรู้สึกสงสารและเสียใจไปด้วยไม่ได้ แต่ใครกันที่จะได้เห็น ในเมื่อเวลานี้ฮีชอลเอาแต่เก็บตัว ไม่ยอมออกไปพบใครเลย
“ซีวอน กลับมาได้ไหม ฮีชอลขอโทษ กลับมาเหอะนะ” ประโยคเดิม ที่ไม่รู้ว่าพูดเป็นครั้งที่เท่าไหร่และจะต้องพูดอีกกี่ครั้งกัน กว่าที่ เจ้าขอเบอร์มือถือจะยอมรับฟังเสียงของคนคนนี้
จะมองไปทางไหนก็มีแต่เรื่องราว ของคนสองคน ที่อาจจะกำลังเป็นอดีตในเร็ววันนี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ให้กลับไปที่บ้านใหญ่ตอนนี้ แล้วจะบอกกับทุกคนว่ายังไง จะตอบคำถามโดยไม่มีน้ำตาได้อย่างไร
ซีวอนไล่ฮีชอลไป ซีวอนก็ช่วยตอบคำถามให้ฮีชอลได้ไหม
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์บ้านดังก้องขึ้นจนร่างบางจ้องเหลียวไปมอง ก่อนที่ดวงตากลมโตวาวน้ำตาจะเป็นประกาย ฉายแววดีใจ คาดหวังจะเป็นสายของคนรัก รีบวิ่งเข้าไปรับ จนสะดุดขาตัวเองล้มลงกระแทกกับมุมโต๊ะเกิดเป็นแผลเลือดซึม แต่ถึงยังงั้นร่างบางก็ไม่สนใจจะเช็ดเลือด รีบลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ ก่อนที่สายจะถูกตัดไป
“ฮัลโหล ซีวอนใช่ไหม จะกลับมาเมื่อไหร่” ไม่รอให้คนโทรมาได้พูด ร่างบางที่มั่นใจว่าใครเป็นคนโทรมารีบกรอกเสียงตัวเองลงไปด้วยความดีใจ
/ฉันเจย์ ไม่ใช่ซีวอน/
เสียงตอบกลับจากปลายสายทำให้ใจดวงน้อยที่พองลม เหมือนถูกเข็มเจาะจนแฟบลงในชั่วิ น้ำตาที่พร้อมจะไหลลงมาตลอดเวลา กลั่นตัวออกมาเป็นสายเล็ก จนเสียงหวาน กลายเป็นเสียงสะอื้น “ไม่ใช่ซีวอนหรอกหรอ”
/ก็ไม่ใช่นะสิ เป็นอะไร ทำไมทำเสียงแบบนั้น อยากให้เจย์ไปหาไหม อยู่คนเดียวหรือเปล่า/
“อือ อยุ่คนเดียว เจย์ ฮึก...ฮึก.. เจยยยยย ซีวอนไม่รักฮีชอลแล้ววววววววว ฮือ อือ” เพราะความเป็นห่วงที่ได้รับ และความน้อยใจที่ถูกเมินเฉย ทำให้ ไม่เพียงแค่น้ำตาที่ไหลออกมา แต่เป็นการร้องไห้ แบบที่ไม่คิดจะปิดบัง ปล่อยให้ความเสียใจที่อัดแน่นได้ระบายออกมา “เจย์ ฮือ ช่วยฮีชอลด้วย แงงงง คิดถึงซีวอน ฮีก ซีวอนไม่สนใจฮีชอลแล้ว ฮีชอลไม่เหลือใครแล้ว ไม่มีใครรักฮีชอลแล้วววววว”
/ฮีชอล ไม่ร้องนะ เดี่ยวเจย์ไปหานะคนดี อย่าร้องนะครับ ซีวอนรักฮีชอล เชื่อเจย์นะ ร้องไห้มากๆ เดี๋ยวไม่สวยนะ คนนดีของเจย์ เจย์รักฮีชอลนะ ฮีชอลยังมีเจย์อยู่นะครับ แค่นี้นะ เดี๋ยวเจย์ไปหานะครับ/ เพราะเสียงร้องไห้ และคำพูดที่สะท้อนจิตใจดวงน้อยที่แสนอ่อนไหว ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบปลอบ พร้อมกับรีบไปให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้
ความรักที่ซีวอนมีให้ฮีชอลนั้นชายหนุ่มไม่รู้ว่ามากน้อยเพียงใด แต่สำหรับความรักที่เขาเองมีให้ร่างบางขี้อ้อนนั้น ไม่เคยลดน้อยลงไป มีแต่เพิ่มมากขึ้น ทั้งความรัก ความเป็นดู และความห่วงใย แต่ปัญหาเดียวที่มี คือ ไม่รู้ว่าเป็นรักแบบใด
เป็นพี่ที่รักน้องชาย น้องชายที่ห่วงพี่ชาย
หรือ... พ่อรักลูก
จะให้รุ้ได้ยังไง ในเมื่อทุกวัน ความรักความห่วงหา มันเกินกว่าคำว่าเพื่อนไปนานแล้ว
เพียงลำพังในห้องกว้าง ม่านน้ำตาที่ไม่ยอมหลุดไหล ทำให้การมองหนช่างลางเลือน มีความทรงจำแสนหวานที่ซ้อนทับ ยิ่งเพิ่มความเหงาในหัวใจ ถึงแม้จะลูกแมวรองอยู่ข้างๆแต่ก็ไม่เท่าพ่อแมวตัวโตที่มักจะคลอเคลีย
ร่างบางลุกขึ้นเดิน ตั้งใจจะกลับไปนั่งที่รอคอยใครก็ตามที่กำลังจะมา แต่เพราะความเหนื่อยล้าจากการเสียใจ ทำให้หน้ามืด เซจนเกือบล้ม โชคดีที่คว้าเคาเตอร์วางของไว้ได้ทัน แต่มือบางก็พลาดไปปัด ของหล่นลงมา และคงจะดีกว่านี้ ถ้าที่หล่นลงมาจะไม่ใช่...กล้องตัวใหม่ ของซีวอน
ฮีชอลทรุดนั่งลงกับพื้นโดยไม่สนใจเลยว่า ที่นั่งลงไปนั้น จะมีเศษกระจกที่หลุดออกมาจากเลนส์ตัวโต บาดลงไปตามขาให้เลือดไหลซิบๆ
“ฮีชอล ขอโทษ ฮีชอลไม่ตั้งใจ ซีวอนอย่าเกลียดฮีชอลนะ” แม่เจ้าขอคำขอโทษจะไม่รับรู้แต่ร่างกายที่บอบบางก็สั่นไหวด้วยความหวาดกลัว กล้องตัวนี้เป็นกล้องตัวใหม่ที่ชายหนุ่มพึ่งซื้อหลังจากที่รอให้เปิดตัวมานานเกือบปี และไม่เพียงแค่กล้อง แต่เลนส์ตัวโปรดก็ตกลงมา จนกระจกเลนส์ แตกออกเป็นเสี่ยง
ความผิดที่เกิดขึ้น มันจะทำให้ความรัก หายไปเร็วหรือเปล่า ฮีชอลขอโทษจริงๆ.....
เสียงเคาะประตูห้องทำให้ร่างบางรีบลุกขึ้น ก่อนจะวิ่งกะเผลกๆไปเปิดประตู ถึงจะรู้ว่าไม่ใช่ซีวอน แต่อย่างน้อยก็เป็นเจย์ คนที่มักอยู่กับฮีชอล ในยามที่ไม่มีซีวอน ในยามที่ต้องการคนดูแล
ร่างบางโถมตัวเข้าใส่ชายหนุ่มที่ยืนรออยู่หน้าประตู ใบหน้าหวาน แนบชิดอกกว้าง ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่กลัวเกรงสายตาใคร
“เจย์ ซีวอนต้องเกลียดฮีชอลแน่ๆเลย ช่วยฮีชอลด้วย ฮีชอลกลัว” เสียงสะอื้นและอู้อี้จากคนที่ซบหน้าอยู่บนอกกว้าง ทำให้ชายหนุ่มต้องตั้งใจฟัง พอจะจับใจความได้บ้างนิดหน่อย
“ไม่หรอก ซีวอนไม่เกลียดฮีชอลหรอกนะครับ เข้าไปคุยกันในห้องนะ” ชายหนุ่มรั้งร่างบางให้เดิน แต่แล้ว ท่าทีและย่างก้าวที่แปลกไป ทำให้ชายหนุ่มต้องก้มมองคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะพบความจริง เป็นเรียวขาสวยที่มีเลือดไหลลงมา เป็นทางขัดกับความขาวเนียน “ฮีชอล!ไปโดนอะไรมา” เพราะความเป็นห่วง ทำให้ชายหนุ่มเริ่มรุ้แล้วว่า สงสัยจะเป็นความรักแบบพ่อลูกเป็นแน่
“อื้อ อย่าดุสิ ฮีชอลล้มนิดหน่อยเอง” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างขัดใจพร้อมกับใบหน้าหวานที่ริมฝีปากบางเชิดขึ้น
“ทำไมไม่ระวังตัวเองหล่ะ เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง” เสียงบ่นเพราะความเป็นห่วงดังขึ้นเมื่อชายหนุ่มอุ้มร่างบางไปวางบนโซฟานุ่ม อย่างโมโหนิดๆ “กล่องยาอยู่ไหน จะทำแผลให้”
“เจย์ อย่าดุฮีชอลสิ ฮีชอลไม่มีใครแล้วจริงๆนะ” สายตาอ้อนๆเหมือนลูกแมว น้ำเสียงหงอยๆที่เกิดขึ้นเพราะความกลัวจะไม่เหลือใคร ทำให้ฮีชอลเวลานี้ดูเป็นเด็กเล็กมากกว่าผู้ชายที่แก่กว่า ชายหนุ่มอีกสองคน
“เจย์ถามว่า กล่องยาอยู่ไหน” เสียงเข้มๆที่ทนต่อลูกอ้อนของคนตรงหน้าถามขึ้น อย่างเหลืออดเพราะความเป็นห่วง
“เจย์อ่า แค่นี้ก็ต้องทำเสียงน่ากลัวด้วย กล่องยาอยู่ในครัว” แก้มป่องพองลมเมินหน้าไปทางอื่น ทำให้ชายหนุ่มเจ้าของชื่อได้แต่ส่ายหน้า กับความขี้งอน แม้ในเวลาที่กำลังกลัวว่าจะถูกทิ้งแบบนี้
ชายหนุ่มจับขาเรียวให้วางไปตามความยาวของโซฟา พาดลงบนตักของตัวเอง ค่อยๆทายาทำแผลที่กำลังจะบวมแดงบนหัวเข่า และจัดการดึงเศษกระจกที่ฝังอยู่ออกก่อนจะใส่ยาด้วยอย่างเบามือ ในขณะที่คนเจ็บได้แต่นั่งมองเงียบๆ เบี่ยงขาหนีบ้างในบางทีรู้สึกว่า แสบแผล
“เอ้า ทำแผลเสร็จแล้ว คราวนี้ฮีชอลก็เล่ามาว่า มันเกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มทำใจแข็งกล่าวกับร่างบางด้วยเสียงนิ่งขรึม
“ก็อาทิตย์ก่อนซีวอนส่งดอกไม้มาให้ทั้งวันเลย แล้วทีนี้พอตอนบ่ายๆ น้องยุนอาก็โทรมา บอกว่าทำช้อคโกแล็ตมาฝาก ให้ออกไปเอา ฮีชอลก็ออกไปเอา ไม่ได้รับดอกไม้ของซีวอนช่อหนึ่ง พอกลับมาถึงฮีชอลก็เห็นดอกไม้ทั้งหมดของฮีชอลลงใปนอนนิ่งอยู่ในถุงขยะ แล้วซีวอนก็โกรธมากเลย ถามด้วยว่าจำได้ไหมว่าวันอะไร ส่งมาทำไม แล้วพอฮีชอลตอบไม่ได้ ฮึก...ซีวอนก่อ ก...ก็ ไปอ่า” ที่เล่ามาอย่างไม่ติดขัด แต่เมื่อ
ถึงประโยคสุดท้ายน้ำตาที่มีก็ไหลงลงมาอีกครั้ง อยากจะโผกอดชายหนุ่มอย่างต้องการกำลังใจ แต่ก็ถูกดันออก ไม่ให้ซบลงไป
“แล้วมันวันอะไร ฮีชอลจำได้ไหม”
“ก็แค่วันที่14 กุมภา เท่านั้นเอง” ร่างบางตอบอย่างใสซื่อ ไม่นึกอะไร ขอบตาแดงเรื่อ ทำไมจะจำไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นวันที่ซีวอนเดินจากไป แล้วไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกหรือไม่
“อีชอล” ชายหนุ่มแถบอยากจะเอาหน้าผากตนเองโขกกับเหม่งสวยๆของคนตัวเล็กกว่า อยากบอกว่าสมควรแล้วที่ซีวอนโกรธ จำวันแบบนี้ไม่ได้ ยังไม่พอ ยังจะออกไปเช็อคโกแล็ตจากคนอื่นอีก คนขี้หึงแบบซีวอนทำแค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว “แล้ววันที่14 กุมภา มันวันอะไรหล่ะ”
“ก็วันอาทิตย์ที่ซีวอนติดทำงานทั้งวั้นไง”
“ฮีชอล วันนั้นมันวาเลนไทน์นะลืมหรือไงกัน แล้วที่ซีวอนโกรธก็เพราะฮีชอลออกไปข้างนอกกับคนอื่นนี้แหล่ะ” เจย์บอกอย่างเหนื่อยใจกับคนตรงหน้า
“อ่า จริงด้วย ฮีชอลลืมไปเลย เจย์ ทำไงดีอ่า แล้วฮีชอลพึ่งทำกล้องของซีวอนตกพังด้วย ซีวอนต้องเกลียดฮีชอลแน่เลย ทำไงดี” ร่างบางตรงเข้าเขย่าแขนใหญ่ อย่างร้อนใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร หลังจากที่พึ่งรับรู้ความผิดของตัวเอง
“ฮีชอลก็คงต้องรอให้ซีวอนกลับมา แล้วก็ขอโทษ แล้วกล้อง อยู่ไหน เผื่อเจย์จะเอาไปซ่อมได้” ชายหนุ่มที่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยครอบครัวลูกสาวอย่างจำใจ คิดหาหนทาง มองคนตรงหน้า มีน้ำตาที่ไรแล้วเหมือนจะหายใจไม่สะดวกทุกที
“อยู่นั่น” นิ้วเรียวยาวชี้ไปซากกล้องที่นอนแอ้งแม้งอยู่กลางห้อง อย่างหวาดกลัว พาให้อีกคนต้องลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นสภาพ
“กล้องพึ่งออกใหม่ไม่ใช่หรอ แล้วเลนส์เทเล ตัวเท่าบ้านเนี้ยนะ” ชายหนุ่มมองสภาพของอดีตกล้องราคาแพงแล้วหันมาถามร่างบางเพื่อความแน่ใจ ก่อนได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้า “เจย์ว่า ซื้อใหม่เหอะ ยับขนาดนี้ ซ่อมไปก็ไม่คุ้ม”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ก่อนที่ร่างบางจะพูดขึ้น “เจย์ ฮีชอลอยากได้เงิน มีงานอะไรให้ทำไหม”
“แล้วเงินที่ซีวอนเอาเข้าบัญชีให้ทุกเดือนหล่ะ” ชายหนุ่มหันมามองใบหน้าหวานที่คิ้วกำลังขมวดเข้าหากัน ดวงตาหลุบลง ปลาบเล็บนิ้วโป้งถูกกัดด้วยฟันขาวอย่างกำลังใช้ความคิด
เผลี้ย
มือหนาตีลงบนมือบางอย่างแรง ด้วยความไม่พอใจ “อย่านิ้วเข้าปากสิ แล้วที่ถามก็ตอบด้วย อย่าเงียบ”
“อ่า เจย์ดุ ตีแรงด้วย” ร่างบางตั้งท่าจะโวยต่อ แต่เพราะสายตาดุๆกับใบหน้าเรียบเฉย ทำให้ร่างบางต้องตอบคำถามของชายหนุ่ม “ก็นั่นเงินซีวอน แต่ฮีชอลอยากซื้อของขวัญวันวาเลนไทน์ที่มาจากเงินของฮีชอลเอง แล้วก็อยากได้เงินมาซื้อกล้องใหม่ด้วยอ่า มีงานไหนที่เงินได้เยอะบ้างไหมอ่า”
“เอาเงินเจย์ไปก่อนไปไหม” ชายหนุ่มเสนอทางเลือกให้ร่างบาง
“นั่นก็เงินเจย์อ่ะซิ”
“ก็ฟังให้จบก่อนซิ” น้ำเสียงเมไต่ระดับความโหดขึ้นจนคนที่ฟังอยู่ ทำตัวลีบ “เอาเงินเจย์ไปก่อน แล้วฮีชอลก็ไปทำงานที่ร้านคอฟฟี่ช็อป ที่เจย์พึ่งเปิด เอาไหม”
“เอา” ร่างบางตอบโดยไม่คิด ใบหน้าหวานเริ่มปรากฏรอยยิ้ม
“แต่มันอยู่แถวที่ทำงานของซีวอนนะ แน่ใจนะว่าซีวอนกลับมาแล้วจะไม่ว่า” เพราะความไม่แน่ใจ ชายหนุ่มจึงต้องถามย้ำอีกครั้ง ไม่อยากเห็นฮีชอลเวอร์ชั่น หงอยเหงาอีก
“คงไม่เป็นไรหรอก เริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ” ใบหน้าหวานยิ้มสดใสได้อีกครั้ง เมื่อหาหนทางเอาใจชายหนุ่มได้ และนึกถึงวันเก่าๆที่จะกลับมาอีก
เพื่อความรักของซีวอน ฮีชอล และฮีบอมแล้ว
Talk
อย่าตกใจกับ50%ที่เกินมานะคะ เพราะว่าตอนหน้าก็จะเป็นภาคของซีวอน เลยต้องเอามาเป็นติ่งแบบนี้
อันนี้ดูอารมณ์แปลกๆ ป่วงๆ ยังไงไม่รุ้ เป็นผลกระทบจาก เรื่อง FLโดยแท้ อย่าประหลาดใจเลยคะ อันนั้นปั่นไป เก็บกดไป แถมไม่มีคนอ่า อ๊ากกกกก(แปลกร่าง)
ฝากอันนี้ด้วยนะคะพาตัวป่วนสุดหล่อมาแล้วววว งงกับการเปลี่ยนอารมณ์หรือเปล่า บอกกล่าวได้นะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ
Dr. Fu
ความคิดเห็น