คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : The bodyguard 8 100%
The bodyguard 8
ชเว ซีวอน ในชุดเทควันโดชคาดด้วยสายดำ บ่งบอกความมีฝีมือที่ได้มาจากความสามารถ ใบหน้าคมขมวดคิ้วเข้าหากัน นึกหาทางออกที่จะทำให้เกิดการเจ็บตัวน้อยที่สุด
ในโรงยิมบริเวณด้านหลังบ้าน สี่บอดี้การ์ดที่ท่านดงเฮส่งมากให้ ต่างก็กำลังเปลี่ยนเป็นชุดตามที่แต่ละคนถนัด
“พี่ฮันว่า นายดารานี้จะมีฝีมืออย่างที่เก๊กท่าใส่พวกเราหรือเปล่า” ชายหนุ่มร่างอวบในชุดซูโม่ สีขาวสะอาดหนักเกือบยี่สิบกิโล หันไปถามผู้อาวุโสที่สุดในวันนี้
“ก็คงพอมีฝีมือบ้างแหล่ะ เห็นว่าเคยแข่งระดับประเทศได้รางวัลมากแล้ว ยังไงก็อย่าประมาทจนเสียไปถึงท่านดงเฮหล่ะกัน แต่ก็ห้ามรุนแรงอะไรมาก เพราะยังไงพ่อเขาก็เพื่อนท่านดงเฮ”
“ครับพี่” ชายหนุ่มรุ่นน้องอีกสามคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนที่จะตั้งใจวอร์มร่างกายตามแนวทางของศิลปะป้องกันตัวร่ำเรียนกันมา
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
ชายหนุ่มเดินเข้ามาในโรงยิม แล้วก็ต้องตกตะลึงพลางแอบปาดเหงื่อ แล้วนึกไปถึงว่าที่คนรักที่กำลังจะมาพร้อมท่านพี่ผู้ช่วยชีวิต แล้วถ้าชายชเวแพ้ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันหล่ะทีนี้
พี่ทึกคร้าบบบบ ช่วยน้องวอนด้วย
“เงื่อนไขของการประลองครั้งนี้คือ ถ้าพวกคุณแพ้ผม คุณต้องกลับไป แล้วผมก็หาการ์ดใหม่จากที่อื่น ตกลงไหมครับ” ชเว ซีวอน ชายหนุ่มมาดขรึม เจ้าชายแห่งวงการบอกกับเหล่าบอกดี้การืดทั้งสี่ด้วยความมั่นคง ไม่ปล่อยให้ใครรู้ว่า แอบกลัวแค่ไหน
“แล้วถ้าพวกผมชนะคุณทั้งหมด คุณต้องจ้างพวกเราทั้งสี่คนเลย ตกลงไหม” ฮันเกิงชายหนุ่มจากต่างแดน ผู้เป็นแรงงานถูกกฎหมายตามการรับรองของหระทรวงแรงงาน ยื่นข้อเสนอให้ชายหนุ่มเพราะก็มั่นใจในฝีมือตนเองและน้องๆ
“ตกลง” ชายหนุ่มยอมตอบตกลงยื่นมือหนาหยาบออกไป เป็นการจับมือแบบลุกผู้ชาย สายตาคมสองคู่ส่งกระแสอาฆาตถึงกัน จนอีกชายหนุ่มอีกสามคนสัมผัสได้
ศึกครั้งนี้นอกจากหน้าการ์ดเป็นเดิมพันแล้ว มันยังมี อนาคตว่าที่คุณนายชเวแขวนเอาไว้อีกด้วย ..ซีวอนจึงมิอาจแพ้ได้
“ผมขอเริ่มที่....คุณหล่ะกัน” ชายหนุ่มชี้นิ้วไปยังชายหนุ่มร่างอวบในชุดน้อยชิ้น ดูท่าน่าจะล้มได้ง่าย สู้กับซูโม่ แค่ดันๆ ผลักๆ ไม่น่ายากหรอกม้างงงงง
ชายหนุ่มหุ่นอ้วนท้วม เดินออกมาก่อนจะคว้าเกลือที่พกไว้ตลอดเวลา ลงบนพื้นเพื่อทำเป็นวงล้อมตามกฏของซูโม่ผู้รักสงบ ต่อสู้ด้วยความขาวสะอาด ก่อนจะเริ่มทำการไหว้ครูด้วยสมาธิ
“นี้ พี่ชายคุณจะทำพิธีอีกนานไหม” ชเว ซีวอนหันไปถามการ์ดหน้านิ่งคยูฮยอน เพราะไม่เคยเห็นใครทำพิธีอะไรแบบนี้ ถึงเทจะไหว้ครู แต่ก็แค่คำนับไม่เท่าไหร่
“คุณดูเฉยๆ อย่าสงสัยอะไรเลย ทุกอย่างมีหนทางเป็นของตัวเอง ถึงคุณไม่เข้าใจ แต่ก็กรุณาดูอย่างเงียบสงบ” สมแล้วที่เป็นนักคาราเต้ผู้ฝึกตนตามลัทธิเซน โจว คยูฮยอนสั่งสอนชายหนุ่มผู้ที่ชีวิตอยู่บนจังหวะเร่งรีบห่างไกลจากคำว่าสงบ
“คร้าบ แค่นี้ก็ดุด้วยเว้ย อย่างนี้ไม่มีทางเป็นการ์ดได้แน่” ประโยคหลัง ชายหนุ่มแอบกระซิบกับตนเองเบา แต่ก็คงไม่อดพ้นการได้ยิน จึงได้รับสายตาโหดๆเป็นของแถม
“ผมไหว้ครูเสร็จแล้ว ขอโทษที่ทำให้รอ เราจะสู้กัน คุณตั้งกฎขึ้นมาเลย” ร่างอวบๆที่ปรกติอารมณ์หันมาพูดกับว่าที่เจ้านายอย่างหมั่นไส้นิดๆ ในท่าทางขี้เก๊กแบบนี้
“ก็คุณสู้แบบซูโม่ ผมสู้แบบเทควันโด จะมานับคะแนนก็คงไม่ดี เอาเป็นว่าถ้าใครทำให้อีกฝ่ายออกนอกวงล้อมได้ก่อนก็ชนะ ตกลงไหม” ชายหนุ่มครุ่นคิดก่อนตัดสินใจใช้การตัดสินแบบซู่โม่ ด้วยกฎที่รู้กันอยู่ทั่วไป
“ตกลง” เพียงแค่นั้นการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น ชายหนุ่มทั้งสองคนต่างก็มีวิถีกาต่อสู้ที่แตกต่างกันไป ทำให้ไม่อาจหาจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าถึงตัวกันได้เลย
คนหนึ่งใช้ขาเป็นส่วนมากในการต่อสู้ จึงพยายามปล่อยลูกเตะออกไป แล้วด้วยช่วงขาที่ยาวกว่าทำให้เจ้าของบ้านหนุ่มผู้มีว่าที่ภรรยาและหน้าตาการ์ดป็นเดิมพันค่อนข้างได้เปรียบกว่าช่วงแขนอวบที่สั้นกว่าเล็กน้อย การเข้าถึงตัวจึงทำได้ยากกว่า
การรอคอยจังหวะอย่างใจเย็นในที่สุดช่องว่างที่ชายหนุ่มเพียงนิด ทำให้ชินดงอาศัยความพลิ้วเข้าจับช่วงเอวหนาที่เต็มไปด้วยไขมัน อาศัยแรงตามการฝึกฝน ดันชายหนุ่มจนเกือบจะหลุดออกจากวงล้อมที่โรยด้วยเกลือ แต่ซีวอนเองก็ใช่ว่าจะมีแรงน้อย พยายามออกแรงขืนเอาไว้ เช่นกัน
ชายหนุ่มสองคนพยายามออกแรงสุดตัวเท่าที่มีจะมีได้ ต่างดันต่างขืนแรงจนกระทั่ง ซีวอนสามารถพาตัวเองกลับเข้ามาอยู่กึ่งกลางได้อีกครั้ง ใบหน้าคมเหยเก เมื่อต้องสู้กับแรงมหาศาล ความอ่อนล้าจากการขืนแรงและการออกท่าเตะไปในช่วงแรกทำให้ขาอ่อนล้า จนถูกดันไปติดกับวงล้อมอีกครั้ง
เพราะแรงใจเมื่อนึกถึง และใบหน้าหวานที่เห็นเพียงครั้งเดียวก็ตกหลุมรักทำให้ชายหนุ่มฮึดมามีแรงได้อีกครั้ง ค่อยดันจนคู่ต่อสู้ไปประชิดเส้นรอบวงอีกด้าน ขากำลังจะก้าวออกไปอีกแค่เพียงนิด
“ซีวอนนนนนนนนนนนนนนนนนนน” เสียงเรียกชื่อทำให้สมาธิหายไปชั่วแวบ แต่แค่นั้นก็มากพอสำหรับนักสู้มืออาชีพ ชินดงดันจนสุดท้ายแล้วขาทั้งสองข้างของก็หลุดออกจาเส้นรอบวงที่กำหนด
“ชินดงชนะ” เสียงประกาศจากผู้อาวุโสสุดอย่างฮันคยองทำเอาผู้พ่ายแพ้ เริ่มเครียด จนต้องหันไปดูสาเหตุการพ่ายแพ้ของตน พี่ชายสุดที่รัก ผู้ตะโกนเยกเสียงดังจนสมาธิหลุดไป และมันคงจะดีกว่านี้หากว่าข้างหลังพี่ชายจอมกวนจะไม่มีร่างบางผู้น่ารัก ในชุดลำลองแบบไม่มีเครื่องแบบยามให้รำคาญตา
“พี่ลีทึก”ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาพี่ชายอย่างอดโมโหไม่ได้ เข้ามาทีทำเอาแพ้เลย ที่สำคัญแพ้ต่อหน้าคนสวยด้วย เสียท่ากันพอดี จะโวยก็ไม่ได้เดี่ยวคนสวยได้มองว่าเป็นเจ้านายจอมโหดไปอีก
“คุณซีวอน เมื่อกี้คุณเก่งมากเลย ผมพึ่งได้เห็นเวลาคุณเล่นเทควันโดแบบใกล้ชิดก็ครั้งนี้เป็นครั้งแรก คุณเก่งมากเลยครับ” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้พูดอะไรแต่ร่างบางก็แย่งชิงพูดออกมา ดวงตากลมโต ฉายความปลาบปลื้ม
เคยวาดฝันไว้อยากเห็นดาราหนุ่มหุ่นดีผู้นี้ถ่ายแบบในชุดเทควันโดสักครั้ง แต่วันนี้มาเห็นตัวเป็นๆฮีชอลยิ่งดีใจ ไม่เสียแรงติดตามเป็นแฟนคลับมานาน ถ้าได้คนนี้เป็นครูฝีกสอนเทควันโด คิม ฮีชอลจะตั้งใจเรียนเป็นอย่างดีเลย.......
“เอ่อ ขอบคุณครับ” มือหนายกขึ้นเกาหัวตัวเองแก้เขิน อยู่ดีๆมีคนน่ารักมาชม ใครบ้างจะไม่ใจสั่น ถึงแม้จะแอบช้ำใจที่ไม่สามารถคว้าชัยชนะมาอวดได้
“แต่เมื่อกี้ซีวอนแพ้ นายยังคิดว่ามันเก่งหรอ” ลีทึกหันมามองรปภ.หน้าหวานอย่างเซ็งๆที่ดูชื่นชมเจ้าชายแห่งวงการจนออกนอกหน้าไม่ฟังผลที่ชายหนุ่ม อีกคนประกาศออกมา แล้วยังสภาพที่โดนดันถอยหลังกรูดแบบนั้นอีก
“คุณอีทึกครับ คุณซีวอนทำได้ขนาดนี้ผมว่ามันเจ๋งมากเลยนะครับ สุดยอดมาก เพราะคุณอีกคนก็ตัวใหญ่ขนาดนี้ สุดยอดมากครับ ผมเป็นรปภ.ยังทำไม่ได้เลย แล้วดูหุ่นคุณซีวอนซิครับ กล้ามสวยมากเลย ผิดกับคนผมทั้งๆที่ผมก็ควรจะมีแบบนั้นบ้าง” แก้ต่างให้หนุ่มในฝันเสร็จ ร่างบางก็อดเปรียบเทียบรูปร่างตัวเองไม่ได้
“นายเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว อย่านึกพิเรนทร์เลย” ลีทึกจองอใบหน้าหวานถ้ามีหุ่นแบบซีวอนคงไม่เข้ากันอย่างรุนแรง “แล้วนั่นคือคนที่ท่านดงเฮส่งมาให้หรือไง” ประโยคหลังหันไปถามน้องชาย แต่สายตาจับจ้องสี่หนุ่มที่ดูแล้ว ถ้าปล่อยไว้ ซีวอนคงไม่รอดเป็นแน่
“อือ ทั้งสี่คนนั้นแหล่ะ ตกลงไว้ว่า ผมแพ้คนไหน ผมต้องยอมให้เขามาเป็นการ์ด” ซีวอนบอกอย่างรันทด สายตามองร่างบางอย่างอาวรณ์ หรือชาตินี้เราจะไม่สมพงค์กัน ที่รักของซีวอน
“พี่มีวิธีช่วยผมยัง” ชายหนุ่มแอบกระซิบกับพี่ชายตอนที่รปภ.หน้าหวานเดินไปมองกระสอบทรายที่ถูกแขวนไว้อย่างสนใจ
“เอาหน่า เชื่อมือพี่ ไม่ปล่อยให้รปภ.บริษัทเราเป็นหม่ายหรอก”
“จริงนะ” ชายหนุ่มถามยืนยันความมั่นใจ สิ่งที่ออกมาจากสมองพี่ชายคนนี้ ไม่ค่อยพลาดสักเท่าไหร่
“อือ แต่ถ้าพลาดต้องเป็นม่ายจริงๆ พี่รับช่วงต่อเอง”
“ไอ้พี่” เสียงเย็นๆชวนให้หนาวสันหลัง แต่ชายหนุ่มผู้โดนข่มขู่กลับทำหน้าไม่สนใจ
“เอาหน่าเชื่อมือฉัน แล้วแกนอนรอมีการ์ดหน้าหวาน ฝีมือไม่เอาไหนที่สุดในเกาหลีใต้ได้เลย”
“ขอโทษครับ พวกคุณเป็นคนที่ท่านดงเฮส่งมาให้เป็นการ์ดของน้องชายผมใช่ไหมครับ” ร่างบางเดินเข้าไปหาชายหนุ่มทั้งสี่ที่ยังคงมึนงงกับผู้มาใหม่ อยู่ดีๆก็เข้ามาถามแบบนี้
“ครับ” ชายหนุ่มจากเมืองจีนตอบรับคำถามของชายหนุ่มแปลกหน้าอย่างงง
“ ผมชื่อ ลีทึก เป็นผู้จัดการส่วนตัวของซีวอน ผมคงรับพวกคุณเป็นการืดของซีวอนไมได้ เพราะด้วยอาชีพของซีวอนเอง คุณคงเข้าใจ ถ้ามืการ์ดหน้าเหี้ยมแบบนี้ตามติด พวกแฟนคลับคงหวาดกลัว” คุณผู้จัดการส่วนตัว หยิบยกข้ออ้าวที่น่าเชื่อถือที่สุด มาอ้าง
“แต่เห็นท่านดงเฮบอกว่า เมื่อวันก่อนมีการลอบทำร้าย ขนาดเลือดตกอย่างออก แล้วไหนจะรถที่ถูกทำร้ายนั่นอีก พวกคุณจะว่ายังไง ถ้ายังกลัวแฟนคลับจะกลัวก็แปลว่าคุณไม่ได้เห็นความปลอดภัยของคุณซีวอนเป็นหลักเลยนะครับ คุณผู้จัดการ” ชายหนุ่มร่ายยาวถึงหลักความปลอดภัย ในเมื่อมีคนแฝงตัวมาทำร้ายกันได้แบบนั้น มันก็น่าจะต้องดูแลแบบใกล้ชิด
“เอ่อ....” ลีทึกฟังแล้วแทบอยากจะหันไปฆ่าไอ้คนผูกเรื่องทั้งหมด สร้างเรื่องเก่งดีนัก คราวนี้ต้องมาตามให้เขาแก้ไขให้ ไอ้น้องบ้าเอ้ย “มันก็ใช่ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าจะเป็นการ์ดที่ดูแล้วไม่น่ากลัวแบบพวกคุณ ท่านดงเฮมีการ์ดคนอื่นอีกไหม ที่แบบมีฝีมือดี แต่หน้าหวานแบบคนที่ผมพาด้วยนั่นนะ” ผู้จัดการส่วนตัวชี้นิ้วเรียวยาวไปยังคนที่พามาด้วยที่ดูเหมือนกำลังตื่นตาตื่นใจกับลูกเตะของดาราผู้กำลังโชว์ออฟอยู่ตอนนี้
“ผมเริ่มเข้าใจแล้ว คือคุณอยากได้การ์ดที่ดูแล้วไม่น่ากลัวเท่าพวกผมใช่ไหม”
“ใช่เพราะผมไม่อยากให้มีเงามืดแผ่คลุมเวลาดาราในสังกัดไปไหนมาไหน มันคงจะดูน่ากลัวไม่ต่างจากมาเฟียสักเท่าไหร่ คุณว่าไหม” ลีทึกรีบฉวยช่องว่างที่ชายหนุ่มเปิดไว้ให้ทันที
“พวกผมก็ไม่รู้จักแบบนั้นด้วยสิ แต่คนที่คุณพามาก็ไม่น่าจะมีฝี.....”ชายหนุ่มค้างไว้แค่นั้น เมื่อโดนขัดด้วยเสียงร้องโหยหวนของดาราหนุ่มที่น่าจะโดนร่างบางทำอะไรสักอย่าง ถึงได้ร้องเสียงหลงแบบนั้น
“คุณอย่าดูคนที่ภายนอกสิ เห็นไหม เห็นตัวเล็กๆแบบนั้น ล้มซีวอนได้เลยนะ คุณคงสามารถกลับไปบอกท่านดงเฮได้นะครับ ว่าวกมต้องขอโทษจริงๆ แต่พวกคุณไม่ตรงกับความต้องการของทางเรา” ไม่ตรงกับความการอยากมีเมียของไอ้วอน ลีทึกได้แต่นึกในใจ ไม่พูดออกไป หากแต่ก็ยังนึกเป็นห่วงน้องชายอยู่ดีก็ลงไปนอนร้องโอดโอย เกิดอะไรขึ้น?
“ครับ แต่ว่าที่คุณซีวอนตกลงไว้คือ ถ้าใครชนะแล้วจะให้เป็นการ์ดแล้ว ชินดงน้องชายผมก็ชนะเขา” ผู้อาวุโสสุดยังคงนึกถึงข้อตกลงที่ทำไว้ตั้งแต่แรก
“หรอ ผมขอไปถามน้องชายผมแปปนะครับ” ผู้จัดการเดินมาหาน้องชายที่ยังคงนั่งหนาซีด บ่งบอกว่ายังเจ็บจากอะไรสักอย่าง “เมื่อกี้ร้องทำไม”
“ผมขอโทษครับ คุณลีทึก คุณซีวอน อย่าไล่ผมออกนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” ไม่ใช่คำตอบจากคนเจ็บ แต่เป็นร่างบางผู้นั่งนั่งเหงื่อตก ไม่มั่นใจในความมั่นคงทางการงานของตนเอง ดีไม่ดีอาจโดนไล่ออก เล่นทำลุกชายเจาของห้างเจ็บตัวขนาดนี้
“แล้วนายไปทำอะไรเข้าหล่ะ ซีวอนถึงได้เป็นแบบนี้”
“คุณซีวอนสองผมเตะครับ แต่ว่าผมเตะไม่ถึงเลยพลาดไปโดนเอ่อ...เป้าคุณซีวอนครับ” รปภ.หน้าหวานบอกแบบอ้อมแอ้มสุดชีวิต ทำดาราที่รักขาดใจดิ้นเป็นหมันจะโดนแฟนคลับรุมประชาทัณฑ์ไหมหนอ
“กร๊ากกกกกกกกกกก วอนแกโดนเตะน้องชายหรอกหรอ ฮาว่ะ” พี่ชายขำกับสาเหตุการบาดเจ็บของน้องชาย ก่อนจะหยุดหัวเราะเพราะได้สายตาอาฆาตส่งมาให้
“จะหัวเราะอะไรเล่า” ชายหนุ่มผู้บาดเจ็บจ้องหน้าพี่ชายแบบไม่พอใจ คนเจ็บแทนที่จะสงสารกลับมานั่งหัวเราะ
“เออ ขอโทษ ว่าจะมาถามว่าที่แกตกลงกับเขาไว้ว่าถ้าแพ้อ่ะจะให้เป็นการ์ดจะเอาไง”
“ก็ได้พี่ ตกลงกันไว้แล้วนิ พี่จัดการให้ผมที” ชายหนุ่มพูดแบบตัดปัญหา ตอนนี้ใครจะทำอะไรคงยอมหมดแล้ว ก็กำลังเจ็บปวดแบบสุดๆ โดยใส่มาไม่ยั้งแรงขนาดนั้น
“เออ พี่จัดการงั้นก็ ฮีชอลผมไล่คุณออกนะ” ลีทึกหันมาพูดกับรปภ.หน้าหวาน แล้วฟังอะไรทั้งนั้นเดินกลับไปหาชายหนุ่มทั้งสี่ที่ยืนจับกลุ่มกันอยู่ ไม่รู้เลยว่าคนโดนไล่ออก มีน้ำตาไหลแหม่ะ ออกมา
“โอเค ตกลงผมจ้างคนที่ชนะเจ้าน้องชายผมเมื่อกี้แล้วกัน คุณชื่ออะไร”
“ผมชื่อชินดงครับ แล้วจะให้เริ่มงานได้เมื่อไหร่ครับ”หนุ่มร่างอวบกระตือรือร้นกับงานใหม่ที่ได้รับ แม้จะแอบเหนื่อยใจกับว่าที่เจ้านายก็เหอะ
“เริ่มงานพรุ่งนี้ คุณมาที่นี้ตอนเจ็ดโมงเช้านะ ส่วนคนอื่นผมต้องขอโทษคุณจริงๆนะครับ” ลีทึกก้มศีรษะให้ ขอโทษจากใจจริงก่อนเดินไปส่งชายทั้งสีที่หน้าประตูโรงยิม หันกลับมาก็เจอคนโดนไล่ออกกำลังร้องไห้ อยู่ในอ้อมกอดคนกำลังปลอบใจ
มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าคนปลอบใจไม่ทำหน้าขี้หลี!!!!
“ปลอบใจพอยังน้องชายที่รัก” ชายหนุ่มรูปร่างโปร่ง เดินเข้ามาถามน้องชายด้วยเสียงจิกกัด แหม อย่างนี้มันเรียกหาเศษหาเลยหรือเปล่า
“คุณลีทึกครับ อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ ผมยังต้องเลี้ยงแมวอีกหลายตัว แล้วยังลูกหมาจรจัดอีก แล้วผมยังต้องซื้ออัลบั้มใหม่ของคุณซีวอนอีก ถ้าคุณไล่ผมออก ผมจะหาเงินที่ไหนไปซื้อครับ” ร่างบางพูดไปสะอื้นไป ร่ายลูกหมาลูกแมวที่อยู่ในความรับผิดชอบ แล้วยังจะผลงานของดาราคนโปรดที่กำลังโอบกอดปลอบใจอยู่ตอนนี้
“เออ..ตกลงที่นายร้องไห่เพราะกลัวไม่มีกิน หรือว่ากลัวไม่มีเงินไปซื้องานของไอ้วอน” ผู้จัดการส่วนตัวถามคนกำลังร้องไห้แบบงง มันก็ดีอยู่หรอกที่มีคนรักซีวอนแบบนี้ แต่ว่า...เอิ่ม..มันก็น่าสงสัย
“พี่ก็อย่าไปถามแบบนี้สิ ไม่ร้องนะครับคนดี” เป็นชายหนุ่มผู้บาดเจ็บตอบพี่ชายแบบไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ก่อนจะไปปลอบโยนคนร้องไห้ต่อ ทำคนร้องไห้แล้วยังไม่ขอโทษอีก
“เออ ไม่ถาม ฮีชอลที่ฉันไล่นายออก ก็เพราะว่าฉันจะให้นายมาเป็นการ์ดส่วนตัวให้กับซีวอน ทำได้ไหม” ผู้จัดการส่วนตัวพูดด้วยน้ำเสียงใจดี เห็นหน้าหวานๆร้องไห้แล้วใจอ่อนไม่รู้เป็นยังไง
“เอ๋ คุณว่าอะไรนะครับ” ร่างบางถามย้ำอีกครั้งด้วยความแปลกใจ ได้ยินอะไรพลาดไปแน่ๆ
“ฉันจะให้นายมาเป็นการ์ดให้คุณดาราแสนดีสุดหล่อของนายทำได้ไหม เริ่มงานพรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมง มาได้หรือเปล่า”
“ได้ครับ” คิม ฮีชอลยังคงเอ่อ แต่ก็ตอบรับไปก่อน แม้จะยังงงอยู่ก็เหอะ
“ดีแล้ว งั้นก็ไปได้แล้ว ฉันจะพาไปทำเรื่อกับคุณจียง ไอ้วอน ปล่อยฮีชอลได้แล้ว ไม่ได้ร้องไห้แล้ว” ประโยคหลังลีทึกหันไปพูดเสียงเข้มกับน้องชายได้ที กอดไม่ปล่อยเลย มันน่านัก
ชเว ซีวอนยอมปล่อยมือจากร่างบาง ยอมให้พี่ชายดึงตัวร่างบางออกไปจากอ้อมแขน แม้จะไม่อยากแต่โอกาสยังมีอกเยอะนับจากวันพรุ่งนี้ วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้
ไชโยยยยยยยยยยยย วอนได้เมีย เอ้ย...การ์ดแล้วคร้าบบบบบบ ขอบคุณพี่ชายสุดที่รัก
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
Talk
.ในที่สุดวอนก็ได้เมีย เอ้ย การ์ดคะ ต้องรอดูต่อไปว่าวอนจะจัดการเลื่อนขั้นยังไง เพราะก็ยังคิดไม่ออกเลย ตอนนี้แอบยาวกว่าปรกติด้วยคะ ตั้งเจ็ดหน้ากับอีกสองบรรทัดแหน่ะ 555
วันนี้ไปหาหมอตามาคะตาอับเสบอีกแล้ว แต่คราวนี้ดีหน่อย ที่เส้นเลือดไม่เข้าตาดำ แค่กระจกตาเป็นรอย ใครที่ใช้สายตามากๆ อยู่หน้าคอมนานๆ ดูแลดวงตานะคะ แล้วก็ดูแลสุขภาพนะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ
ความคิดเห็น