ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - - - Freezing love - - - (woncin )

    ลำดับตอนที่ #8 : - -FL- - 8 100%

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 53


    - -FL- - 8

     

                    การได้มองเห็นคนรักจากที่ไกลห่าง กับการได้อยู่ใกล้ชิด ใช้ชีวิตในบ้านหลังเดียวกัน ทำงานร่วมกัน ดูเหมือนว่า การได้มองเห็นจากที่ไกลๆจะทำให้ร่างบางมีความสุขได้มากกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องมารับรู้ความเย็นชาอยู่แบบนี้

     

                    ฮีชอลไม่เข้าใจเลยว่าท่านประธานหนุ่มจะรับเขากลับเข้ามาทำงานอีกครั้งทำไม ในเมื่อก็เคยไล่ออกไปแล้วครั้งหนึ่ง การทำงานที่เคยบอกว่าจะสบายใจ มันก็ดูมีแต่ความเย็นชา......เหมือนตอนนี้

     

                    “คุณฮีชอล เข้ามาเอาเอกสารของฝ่ายบัญชีกลับไปให้เขาดูใหม่อีกทีด้วย” เสียงจากอินเตอร์คอมดังเรียกให้ร่างบางเข้าไปในห้องเพื่อหยิบเอกสารเพียงเท่านั้น

     

                    “เอกสารนี้เอาไปให้ผู้จัดการบัญชีอีกครั้ง อ้อ เดี๋ยวยุนอาจะเข้ามา คุณช่วยไปเตรียมน้ำส้มเย็นๆไว้ให้ยุนอาด้วย แล้วถ้าถึงแล้วก็ให้เขามาได้เลย”

     

                    “ครับ” ร่างบางทำได้เพียงแค่ก้มหน้าตอบรับ ยุนอากำลังจะมาอีกแล้ว เขาก็คงต้องทนเห็น ทนเจ็บอีกแล้ว นี้หรือเปล่าข้อเสียที่สุดของการแอบรักและได้อยู่ใกล้คนที่มีเจ้าของอยู่แล้ว

     

                    “อือ ออกไปได้แล้ว”

     

                    แค่รับคำสั่งแล้วเดินออกมา เท่านี้เองที่เขาทำ อ้อ!แล้วก็ออกไปเตรียมเครื่องดื่มให้กับคนรักของเจ้านาย ตกลงว่าเป็นเลขา หรือเป็นอะไรกันแน่    

     

                    ตอนนี้ร่างบางได้แต่โทษตัวเองที่คิดผิดตกลงกลับเข้ามาทำงานเหมือนเดิม ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าคงไม่มีทางมีความสุข แต่ขอแค่เวลาอีกปีเดียว แล้วเขาจะยอมตัดใจ ขอใช้เวลาหนึ่งปีที่ได้ใกล้ชิดแบบนี้ เก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิต

     

                    “พี่ฮีชอล” เสียงเรียกชื่อดังขึ้นท่ามกลามความเงียบ ทำให้เจ้าของชื่อที่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยถึงกับสะดุ้งสุดตัว ก่อนเงยหน้าขึ้นมองคนเรียก ที่ก็เตรียมใจไว้แล้วว่าต้องเจอ

     

                    “ว่าไงยุนอามาเงียบๆแบบนี้ตั้งใจแกล้งพี่ใช่ไหมเนี้ย” รอยยิ้มอ่อนล้าส่งให้กับน้องรหัส ไม่ว่ายังไงก็คงไม่มีทางทำใจไม่เอ็นดูเด็กคนนี้ ในเมื่อยุนอามีแต่ความใสซื่อ น่ารัก และเรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของหญิงสาวคนนี้

     

                    “แหม ไม่เงียบนะคะ ยุนอาก็เดินมาเรื่อยๆ พี่ฮีชอลนั้นแหล่ะนั่งเหม่อคิดถึงใครหรือเปล่า” หญิงสาวยิ้มสดใสให้กับพี่รหัสแสนน่ารัก ที่ป่านนี้ก็ยังไม่มีใครสักคน

     

                    จะผิดไหมถ้าบอกว่ากำลังคิดถึงคนของน้อง สายตาที่ได้รับจะเป็นแบบไหนถ้าพูดแบบนั้นออกไป “เปล่าหรอก อย่างพี่จะให้คิดถึงใครได้เล่า ไม่เหมือนคนข้างในห้องหรอกที่คงหายใจเข้าเป็นยุนอา หายใจออกเป็นยุนอาหน่ะ รีบเข้าไปเหอะ คุณซีวอนรอตั้งนานแล้ว”

     

                   พูดเองแล้วก็ต้องเจ็บเอง......น่าสมน้ำหน้าไหม?

     

                    ท่าทางเอียงอายยิ้มเขินๆ หน้าสวยแดงเรื่อๆ ของหญิงสาวแสนน่ารัก ดูเป็นธรรมชาติ ไร้มารยาแต่งเติมอย่างที่ผู้หญิงทั่วไปทำกัน นี้คงเป็นเสน่ห์หนึ่งในหลายๆอย่างของผู้หญิงชื่อ ยุนอา

     

                     “พี่ฮีชอลก็ล้อยุนอาไป ถ้าพี่ฮีชอลมีใครเมื่อไหร่นะ ยุนอาจะล้อ เช้า กลางวัน เย็นเลย คอยดู” ยุนอาเองก็เฝ้ารอวันที่จะได้ล้อพี่รหัสเรื่องนี้มาหลายปี แต่ก็เห็นจะมีใครสักคนเข้ามา แล้วยังไม่แน่ใจด้วยว่าใครคนนั้นของพี่รหัสหน้าหวานจะเป็นหญิง หรือ....ชาย?

     

                    “งั้นคนต้องรอเก้อแล้วน้องรัก คงไม่วันนั้นหรอก เข้าไปข้างในได้แล้ว เดี๋ยวพี่เอาน้ำเข้าไปให้” ชายหนุ่มเอ่ยไล่น้องรหัสแสนน่ารักเป็นครั้งที่สอง จนคนโดนไล่แกล้งทำหน้าบึ้งแต่ก็ยอมเดินเข้าไปให้ห้องขอคนรักแต่โดยดี

     

                    “คงไม่มีวันนั้นหรอกยุนอา” ร่างบางได้แต่พึมพำเบาๆกับตัวเอง จะให้มีวันนั้นได้อย่างไรในเมื่อหัวใจของคนที่เขารักมันอยู่กับหญิงสาวน่ารักแบบยุนอา และคงไม่มีวันปันใจให้กับคนอื่น

     

                    ฮีชอลลุกขึ้นไปหยิบแก้วน้ำส้มที่ทำไว้ให้ จะเอาเข้าไปให้หญิงสาวในห้อง เสียงแผ่วเบาจากบทสนทนาภายในห้องทำให้ร่างบางต้องหยุดชะงักอยู่หน้าห้อง เพราะสะดุดกับคำกล่าวถึงตัวเองที่ได้ยินจากปากของชายหนุ่ม

     

                    “มาหาซีวอนวันนี้หรือมาดูพี่รหัสของตัวเองกันแน่ครับยุนอา”

     

                    “อ่า ซีวอนอย่ามารู้ทันยุนอานะ มาหาก็เพราะคิดถึงไงคะ หรือซีวอนไม่คิดถึงยุนอา”

     

                    “คิดถึงสิครับ แต่ผมแค่สงสัยว่ายุนอามาหาที่บริษัท เพราะว่าอยากรู้ว่าผมทำตามสัญญาหรือเปล่า

     

                    “เอ๋ แล้วซีวอนทำตามสัญญาหรือเปล่าหล่ะคะ ซีวอนอาจใช้งานพี่ฮีชอลหนักก็ได้นิหน่า ตอนที่ยุนอาไม่อยู่”

     

                    “ไม่หรอกครับ ผมรับพี่หัสของยุนอากลับเข้าทำงานแล้ว แถมงานไม่หนักด้วย ยุนอาไม่คิดให้รางวัลซีวอนผู้น่ารักคนนี้บ้างเลยหรือครับ”

     

                    ในที่สุดฮีชอลก็รู้สาเหตุที่ชายหนุ่มเรียกตัวเขากลับเข้ามาทำงานแล้ว ไม่ใช่เพราะถูกใจในการทำงาน ไม่ใช่เพราะการเข้ามาอยู่บ้านหลังเดียวกัน

     

                    แต่เพราะ...คำสัญญาที่ให้ไว้กับคนรัก

     

                    ทุกอย่างของซีวอน มีไว้เพื่อ..ยุนอา ยุนอา ยุนอา ยุนอา เพียงเท่านั้น

     

                    ถ้าไม่มียุนอา ซีวอนก็คงมองผ่านฮีชอลไป อย่างไม่เคยคิดจะเหลียวแล....นี้ใช่ไหมคือโทษของการแอบรัก?

     

                    มือบางเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างเงียบๆ กลืนก้อนสะอื้นที่ทะลักขึ้นมาให้กลับลงไปอยู่ที่เดิม สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทำตัวเองให้เป็นปรกติที่สุด ก่อนจะเคาะประตูบานหนาที่ไม่อาจเก็บเสียงสนทนาที่เต็มไปด้วยความสุขได้

     

                   ร่างบางรอกระทั่งได้รับคำอนุญาตจากคนข้างในจึงเปิดประตูเข้าไป ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องคงจะดีหากมีเจ้าของห้องมาโอบกอดมอบไออุ่น คงจะดีถ้าได้รับความห่วงใยจากชายหนุ่มคนนั้น

     

                    คนที่กำลังโอบประคองสาวน้อยร่างบางให้นั่งบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ คนที่เสียสละเสื้อสูทของตัวเองคลุมไหล่บางที่คงจะหนาวจากแอร์ภายในห้องเช่นกัน

     

                    “ผมเอาน้ำมาให้ยุนอาครับ” ทั้งที่ๆไม่อยากเงยหน้าหน้ามองใรในห้อง แต่ก็คงไม่อาจเลี่ยงได้ ริมฝีปากแดงบวม อาการหอบน้อยๆ คงบอกได้ดีว่าทำไมหญิงสาวถึงมานั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน

     

                    รางวัลที่ชายหนุ่มอยากได้ในการให้เขากลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง ก็คงได้ไปแล้วขากหญิงสาวผู้บอบบางคนนี้ แล้วที่เข้ามา ฮีชอลกล้ายอมรับกับตัวเองว่า เป็นเพราะอยากขัดจังหวะ

     

                     ไม่อยากให้คนทั้งสองมีความสุขมากไปกว่านี้

     

                     อิจฉาหญิงสาวผู้ได้หัวเราะกับคนรัก ในขณะที่เขามีเพียงน้ำตา

     

                      “เอาเข้ามาก็วางไว้ วันนี้คุณกลับบ้านไปก่อนได้เลย ผมจะพายุนอาไปดินเนอร์” ชายหนุ่มสั่งกับเลขาคนสนิทเสียเรียบ คนทั้งสองผู้กำลังมีความสุขไม่สังเกตเห็นร่อยรอยน้ำตา หรือไหล่บางที่สั่นเท่าเลยสักนิด

     

                    “ครับ” ฮีชอลได้แต่รับคำนิ่งเงียบ รีบเดินออกมา ก่อนที่น้ำตาจะไหล ประจานความอ่อนแอของผู้เป็นเจ้าของ

      

                    * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                  เกือบสองทุ่มร่างเพียวบางเดินเข้ามาในบริเวณบ้านหลังใหญ่ในสภาพแสนอ่อนล้า จนน้องชายที่นั่งมองจากด้านบนต้องรีบวิ่งลงมารับพี่ชายที่สนามหญ้า “พี่ฮีชอล ทำไมโทรมแบบนี้หล่ะ แล้วไปไหนมา ทำไมป่านนี้พึ่งมาถึง”

     

                    “พี่ไปหาแม่ครูมา พวกลิงนั่นถามหาพี่คยูกันใหญ่เลย” ร่างบางนั่งลงบนโซฟาในห้องนอนของน้องชาย อย่างจะพับคอหักลงไปกอง ที่พื้นจริงๆ

     

                    “ก็คิดถึงอยากไปหาแม่ครุกับเด็กเหมือนกัน อ้าวแล้วพี่ไปได้ไง ผมนึกว่าพี่ไปไหนกับเจ้านายสะอีก” ทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่าเจ้านายพี่ชายเป็นใคร แต่ไม่อยากเรียกไม่อยากนึกถึง

     

                    “เปล่า พี่ชายเราไปกับยุนอา ส่วนพี่ก็ไปหาแม่ครู แล้วป่านนี้เขายังไม่กลับมาอีกหรอ แต่ก็น่าจะดึกหรอก เห็นว่าไปดินเนอร์กันนิ” ฮีชอลพยายามเก็บน้ำเสียงของความเสียใจ

     

                     ยิ่งคยูฮยอนรู้ว่าร่างบางเสียใจเท่าไหร่....ก็ยิ่งเกลียดพี่ชายตัวเองมากเท่านั้น

                    
                     “เขาไม่ใช่พี่ชายผม ผมบอกไปแล้วว่ามีพี่ชายคนเดียวคือพี่ ส่วนคนอื่นผมไม่นับหรอก  แล้วพี่ก็เลิกทำเป็นไม่เจ็บไม่เป็นไรได้แล้ว ผมเห็นนะน้ำตาพี่มันไม่ไหลออกมา แต่มันก็ไหลอยู่ข้างในใช่ไหม อย่าปิดผมเลยนะ”  ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าหวานของพี่ชาย ในที่สุด น้ำตาของพี่ชายก็ไหลออกมาให้เขาช่วยเช็ดออกไป

     

                    มือหนาเช็ดน้ำตาให้พี่ชายอย่างแผ่วเบา กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ดวงตาคู่นี้ต้องมีน้ำตาเพราะผู้ชายคนหนึ่ง แล้วกี่ครั้งแล้วที่ได้น้องชายมาซับหน้าตาให้ ทั้งที่บอกกับตัวเองให้เข้มแข็ง...แต่ก็ไม่เคยทำได้

     

                    “สักวันพี่จะเลิกร้องไห้นะคยู พี่สัญญา”

     

                    “อย่าเลยครับ วันที่พี่เลิกร้องไห้ มันคงเป็นวันทีพี่เจ็บจนใจด้านชา หรือไม่ก็เป็นวันที่พี่ลืมเขาได้หมด ซึ่งก็มีแค่พี่ความจำเสื่อม ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ถึงแม้พี่จะร้องไห้อีกเท่าไหร่ ผมก็จะเช็ดน้ำตาให้พี่เอง”

     

                    ร่างบางยิ้มออกมา น้ำตาที่ไหลอยู่ตอนนี้ มันไม่ใช่แค่เพราะความเจ็บเพียงอย่างเดียว แต่มันมีความดีใจ ที่อย่างน้อง บนโลกใบนี้ก็มีคนที่จะอยู่เคียงข้าง

     

                    “พี่ฮีชอล” ชายหนุ่มถามพี่ชายที่นั่งหลับตาอยู่ข้างๆอย่างนึกสงสัยบางอย่าง อยู่ดีๆต่อมอยากรู้ก็ทำงานแบบไม่รู้เวลาขึ้นมา

     

                    “หืม”

     

                    “ทำไมพี่ถึงรักซีวอน ผู้ชายแบบนั้น มีอะไรดี พี่รักเขาตั้งแต่ไม่รู้จักนิสัยเขาด้วยอ่ะ เพราะอะไร”

     

                    ร่างบางลืมตาขึ้นมองใบหน้าช่างสงสัยของหนุ่มน้อย “นั่นสิ พี่รักเขาได้ไง ทำไมถึงรัก รักทั้งๆที่ก็ไม่รู้จัก แต่มันก็ดีกว่าพี่มาเริ่มรักเขาตอนนี้แหล่ะ”

      

                    “ทำไมอ่ะ ผมเห็นพี่จะรักเขาตอนไหน สุดท้ายก็มาร้องไห้อยู่ดีไม่ต่างหรอก” หนุ่มน้อยมองหน้าพี่ชายแบบไม่เห็นด้วย ก็เห็นอยู่ เมื่อก่อนหรือตอนนี้ก็มีแต่น้ำตา

     

                    “ก็ถ้าพี่เพิ่งมารักตอนที่รุ้จักเขาก็แปลว่าพี่อาจเป็นพวกมาโซก็ได้  ชอบความเจ็บปวดอะไรแบบนั้น แต่ว่าที่พี่ยังรักทั้งที่เจ็บอยู่แบบนี้ก็เพราะพี่รักมานานแล้ว รักฝังลึกเกินกว่าจะตัดใจได้”

     

                    “เกินกว่าจะตัดใจ หรือไม่ยอมตัดใจกันแน่พี่ฮีชอล ผมมองตาพี่ออกนะ ความรักที่พี่ให้เขา มันไม่เคยลด หรือพยายามลดเลยนะพี่”

     

                    ใบหน้าหวานแย้มยิ้มให้กับความช่างสังเกตของน้องชาย มือบางยีผมที่จัดทรงเป็นอย่างดี “ความรักมันเป็นอะไรที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจนะคยู พี่รักซีวอนก็เพราะ....เพราะอะไรไม่รู้สิ รู้แค่ว่ารัก ต่อให้เขามีใคร หรือจะร้ายกว่าพี่มากกว่านี้ พี่ก็คงยังรักต่อไป ไม่น้องลง อาจมีก็แค่พี่ถอยห่างจากเขาเพื่อตัวพี่เอง”

     

                    “งั้นก็หยุดรัก แล้วถอยออกไปได้แล้ว” เสียงตวาดลั่นจากหน้าประตู ทำให้สองพี่น้องหันหน้าไปดูด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนที่สามมาได้ยิน

     

                    ใบหน้าหวานซีดเผือด ไม่ควรเลยที่ชายหนุ่มจะได้รู้เรื่องนี้ แล้วต่อจากนี้ไปจะมองหน้ากันยังไง

     

                    คยูฮยอนมองคนที่เข้ามาใหม่ด้วยความตกใจ ก่อนเปลี่ยนเป็นเรียบเฉ มือหนาเกาะกุมมือบางของพี่ชายเอาไว้แน่น “คุณเข้ามาในห้องผมได้ยังไง”

     

                    “ถ้านายยังไม่ลืมนะ ชเว คยูฮยอน ที่นี้คือบ้านฉํน แล้วนายก็เป็นน้องของฉัน ทำไมฉันจะเข้ามาที่ในห้องนี้ไม่ได้” สองพี่น้องจ้องตานิ่งไม่มีใครยอมใครก็ที่คนเป็นพี่จะเลื่อนสายตาลงไปมองยังมือสองข้างที่เกาะกุมกันแน่น เผยรอยยิ้มเหยียดหยาม

     

                    “ฮึ ดูไปก็น่าสมเพชดีนะ ปากก็บอกว่ารักฉัน แต่สิ่งที่นายสองคนทำ มันออกจะไม่ใช่นะ ฮีชอลนายเป็นผู้ชายที่น่าขยะแขยงที่สุดเลยรู้ตัวไหม”

     

     

                    “แก” ไม่เพียงแค่ไม่ให้ความเคารพคนเป็นพี่ แต่เด็กหนุ่มกำลังจะเข้าไปชกเพราะทนไม่ได้กับสายตาที่มองมา หากไม่โดนรั้งไว้โดยร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆ

     

                    “คยูฮยอน อย่าทำแบบนี้” ถึงน้ำตาจะไหลออกมาเพราะคำพูดดูถูก สายตาเหยียดหยามแบบนั้นก็ใช่ว่าจะมองไม่ออก แต่เพราะยังไง ตยูฮยอนก็เป็นน้อง แล้วน้องที่ไหนสมควรจะทำร้ายพี่บ้าง

     

                    “นายสองคนก็รักกันดีนะ ระวังไว้หล่ะกันคยูฮยอนเกิดวันไหน ความดีของนายมันทำให้พี่ชายแสนดี เกิดนึกไม่ซื่อกับน้องชาย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องทุเรศๆในบ้านหลังนี้” คำพูดทิ้งท้าย มันกรีดเข้าไปในใจคนฟังให้แหลกยับ

     

                    “พี่ปล่อยผมนะ ปล่อย ปากทุเรศๆแบบนี้ จะเก็บไว้อีกทำไม ปล่อยผม ไอ้ผู้ชายเลวๆแบบนี้”

     

                    “เพลี้ยะ”

     

                    มือบางฝาดลงบนใบหน้าของน้องชายอย่างแรงท่ามกลางความตกใจทั้งคนถูกตบและคนตบ ร่างบางร้องไห้ จนทั้งหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา สองมือจับใบหน้าของน้องชายไว้แน่น “คยูฮยอนพี่ขอโทษ เจ็บไหม ขอโทษ”

     

                    “ที่หน้ามันไม่เจ็บเท่าที่ใจหรอกครับพี่ พี่ตบผมเพราะมัน มีเห็นมันดีกว่าผม” คยูฮอนมองหน้าตนที่ตบเขาด้วยความไม่เข้าใจ เพราะผู้ชายคนนั้น เพราะเขาอยากปกป้องพี่ชายตัวเอง แต่กลับกลายเป็นพี่ชายผู้ถูกเหยียดหยามมาตบหน้าเขา

     

                    “พี่ขอโทษ เขาเป็นพี่ นายไม่ควรไปว่าแบบนั้น พี่ขอโทษ” ร่างบางได้แต่ร่ำร้อง ขอโทษ พูดคำเดิมซ้ำไปซ้ำมา กลัวว่าน้องชายที่รักจะแปรเปลี่ยนไป สองมือได้รั้งให้ชายหนุ่มหันหน้ามาฟัง รั้งใบหน้าน้องชายที่ถูกตบมาดู

     

                    “พี่ออกไปก่อนเถอะครับ ขอผมอยู่คนเดียวสักแปป แล้วเดี๋ยวผมไปหาที่ห้อง” ชายหนุ่มเดินหนีพี่ชายออกไปที่ระเบียงไม่สนใจเสียงร้องไห้ ที่ดังอยู่ในห้อง ก่อนที่จะหันไปมองประตูเมื่อมีเสียงปิดประตูลงไปแล้ว

                   

               * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                    ร่างบางเดินออกมาจากห้องชายด้วยความเสียใจ ที่ทำลงไปก็เพราะไม่อยากให้น้องชายพูดแบบนั้นกับพี่ ไม่อยากเป็นตัวปัญหาระหว่างพี่น้อง รู้ดีว่าแค่นี้ก็บาดหมางมากพอแล้ว

     

                    “ผมไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมน้องชายผมมันถึงได้รักและปกป้องคุณมากขนาดนี้” เสียงทุ้มของคนที่ดักรออยู่หน้าห้องทำให้ร่างบางที่ตั้งใจเดินผ่านต้องหยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมอง สายตาคมกล้าเต็มไปด้วยความขยะแขยง

     

                    “คุณกำลังพูดถึงอะไร ผมไม่เข้าใจ” แม้จะอยากร้องไห้แค่ไหน แต่เวลานี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น โดยเฉพาะผู้ชายตรงหน้า

     

                    “ยังต้องให้ผมพูดอีกหรือไง มันน่าขยะแขยงนะ ถ้าต้องพูดถึงความง่ายของผู้ชายคนหนึ่งที่มีอะไรกับน้องชายตัวเอง ตอนแรกผมก็นึกว่าคยูฮยอนรักคุณเพราะความผูกพันธุ์ แต่มาคิดดูแล้ว มันคงมีอะไรมากกว่านั้น” น้ำเสียงเรียบเรื่อย และคำสุภาพ ไม่ทำให้ประโยคที่ชายหนุ่มพุดลดความรุนแรงลงได้เลย

     

                    “คุณกำลังคิดอะไรอยุ่ ผมไม่ทราบ แต่อย่าเอาคยูลงมายุ่งกับเรื่องสกปรกแบบนี้ เพราะเขายังเป็นเด็ก ถ้าคุณไม่พอใจผม ก็ลงที่ผม อย่างยุ่งกับคยูฮยอน”

     

                    “ปกป้องกันดีนะ ก็ดี คนตระกูลชเวจะได้ไม่เสียหาย ไม่ต้องลงไปเกลือกกลั้วกับเรื่องต่ำๆแบบนี้”

     

                    “คุณ” เสียงหวานขึ้นสูง มองหน้าคนพูโอย่างคาดไม่ถึง ว่าผู้ชายที่ดูอบอุ่นกับหญิงสาวคนรัก จะทำร้ายคนด้วยคำพูดได้ร้ายแรงแบบนี้

     

                    “ทำไม พูดอะไรไม่ออกเลยหรือไงกัน ผมไม่ว่าถ้าคุณจะไปทำเรื่องต่ำๆแบบนั้นที่ไหน แต่อย่ามาทำในบ้านหลังนี้ มันน่าขยะแขยง แล้วถ้าจะกรุณาเลิกชอบผมเหอะ ผมไม่อยากรู้สึกเหมือนมีอะไรสกปรกมาเกาะอยู่ตลอดเวลา”

     

                    เสียงแผ่วเบาไม่เกินหว่ากระซิบ แต่สำหรับคนฟังมันดังยิ่งกว่าตะโกนใส่หู ร่างบางมองจนคนพูดลับสายตา ก่อนปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา ขาเรียบแทบไม่เหลือแรงไว้พยุงกาย

     

                    นี้เขากำลังถูกมองว่าเป็นอะไร..?

     

                  แค่บังเอิญเดินผ่านมาได้ยิน.....ว่าหัวใจของเขามีใครอยู่ข้างใน

     

                   ก็คิดว่าเขาเป็นคนง่าย.....สำหรับใครก็ได้ใช่ไหม

     

                    “ความรักจากเขากลายเป็น.....สิ่งที่น่าขยะแขยงและสกปรกไปแล้ว

     

               * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                    ฮีชอลนั่งร้องไห้เพียงลำพังในห้องส่วนตัว เฝ้ามองเมื่อไหร่น้องชายจะเดินมาหา เมื่อไหร่ คนที่บอกว่าอีกแปป แต่นี้มันนานจนนาฬิกาพาข้ามวันมาแล้ว แต่ในห้องมืดก็ยังไม่มีใครเข้ามาหา หรือว่าจ่อไปนี้จะไม่เหลือใครแล้ว....

     

                    แม่ครูครับ....ผมไม่เหลือใครแล้ว

     

                    ร่างบางนั่งร้องไห้จนน้ำตาไม่อาจจะไหลออกมาได้อีก นั่งนิ่งงั้นอยู่ที่เดิม ก่อนจะคว้าพวงกุญแจที่มีเพียงดอกเดียวกำแน่นเอาไวในมือ เดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ

     

                    หน้าประตูบานใหญ่ กุญแจดอกเล็กถูกไขให้เปิดเข้าไปในห้องที่เย็นและเหน็บหนาว ร่างสูงใหญ่นอนขดตัว ไร้ผ้าห่มปกคลุม จนร่างบางที่พึ่งผ่านความเสียใจ ยิ้มออกมา

     

                    “ไม่ห่มผ้าห่ม หนาวสิ” มือบางลูบผมนุ่มอย่างช้าๆ รอยยิ้มเศร้าๆถูกปล่อยออกมา ต่อจากนี้ เวลาแบบนี้ คงเป็นแค่เวลาเดียวที่จะมองชายหนุ่มได้ด้วยรอยยิ้ม ไม่มีคำพูดว่าร้ายใดๆ

     

                    “แม่ครับ ผมรักแม่นะครับ” มือบางถูกดึงไปเกาะกุมไว้แน่น แนบกับแก้มสากของชายหนุ่ม เขาพูดที่ไม่ได้สติ ทำให้คนฟังนิ่งอึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิม

     

                    “คุณเรียกผมว่าแม่ ทั้งๆที่ก็พึ่งด่าผมหรอครับ ตอนตื่นกับตอนนอน ต่างกันมากเลยนะ นอนฝันดีนะครับ ที่รักของฮีชอล” มือบางค่อยๆดึงออกมาจากมือหนา ก่อนจะประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากหนา แล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆ

     

                * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

                    ยามเช้าในบ้านหลังใหญ่ที่ไม่มีคนคุ้นเคย วันนี้มันยิ่งเคว้งคว้างกว่าวันอื่นเมื่อเช้าวันนี้ รับรู้ได้ว่าไม่เหลือใครอีกแล้ว คยูฮยอนคงไม่ให้อภัย ไม่ยอมมองหน้า คำพูดเมื่อวานคงเป็นแค่การปลอบใจเท่านั้น

     

                    “เย็นนี้ค่อยกลับมาเก็บของหล่ะกัน” ฮีชอลตั้งใจเอาไว้แล้วกับเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น และมันจะต้องจบวันนี้ กลับไปอยู่บ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มีแม่ครูเป็นเสาหลักให้กับทุกชีวิตเหมือนเดิม

     

                    ในห้องทานข้าวที่ปกรติจะมีเพียงร่างบางและน้องชาย แต่วันนี้กลับไม่มีใครนอกจากแม่บ้านที่ยืนรออยู่สองคน “คยูฮยอนยังไม่ลงมาหรือครับ” อย่างน้อยๆ จะได้ใช้ช่วงเช้าเพื่ออำลา เพราะจากนี้พี่น้องคงต้องห่างเหิน แค่เพียงการกระทำชั่ววิ เท่านั้น

     

                    “คุณคยูฮยอนออกไปแล้วคะ ออกไปก่อนที่คุณชายจะลงมา”

     

                    “หรอครับ แล้วคุณชายก็ไปทำงานแล้วใช่ไหมครับ” คำถามที่รู้คำตอบดี แต่ร่างบางก็แค่อยากจะถาม แค่คืนเดียวผ่านไป ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด จนไม่อาจตั้งรับได้

     

                    “คะ”

     

                    “งั้นผมไปทำงานเลยหล่ะกันครับ ขอบคุณมากนะครับ” ฮีชอลโค้งตัวให้อย่างสุภาพ ขอบคุณที่ดูแลเขาดีมาตลอด ถึงจะเป็นแค่ชั่วเวลาสั้นๆเท่านั้น

     

              * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                    ฮีชอลหยุดหน้าประตูห้องทำงานกว้าง ในมือถือซองจดหมายสีขาวที่เขียนขึ้นตั้งแต่เมื่อคืน ก่อนจะเคาะประตู รอให้คนข้างในตอบรับ แล้วจึงก้าวเข้าไปในห้องทำงานเย็นเฉียบเหมือนเจ้าของ

     

                    “ผมจำได้ว่าไม่ได้เรียกคุณ” ปรกติที่ดูเย็นชา แต่วันนี้หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไม่สนใจว่าใบหน้าหวานจะมีร่องรอยความอ่อนล้าแค่ไหน

     

                    “ผมเอา จดหมายลาออกมายื่น คุณจะได้ไม่ต้องลำบากใจหรือรู้สึกว่ามีสิ่งสกปรกอยู่ห้อง” ร่างบางวางจดหมายสีขาวลงบนโต๊ะของชายหนุ่ม ท่องจำประโยคที่ได้ยินเมื่อคืน มากล่าวย้ำเตือนกับชายหนุ่มตรงหน้า  ทั้งๆที่พูดเองก็เจ็บเอง

     

                    “ผมคงให้คุณออกไม่ได้ แต่ไม่ต้องอยากแก้ปัญหาให้ผมหรอกเมื่อเช้าผมให้คุณอากงยูหาผู้ช่วยมาให้คุณแล้ว ตอนเที่ยงๆน่าจะมาถึง เวลามีอะไร คุณก็ให้เข้าแทนไปแล้วกัน ออกไปได้แล้ว แล้วถ้าผมไม่ได้สั่งพิเศษก็ไม่ต้องเข้ามาอีก” ชายหนุ่มเหลือบตามองซองสีขาวสะอาดตาก่อนเลยผ่านกลับมาสนใจเอกสารที่อ่านค้างเอาไว้

     

                    “แต่ทำแบบนั้นมันก็เท่ากับว่าผมไม่ได้ทำงานอะไร”  ร่างบางจ้องมองคนพูดอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่ไล่ออก แต่หาคนใหม่มาทำแทนมันหมายความว่าไง หรือเพราะว่า....ยุนอา

     

                    “ผมว่าคุณน่าจะรู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ผมสัญญากับยุนอาว่าจะให้คุณกลับเข้ามาทำงาน ผมรักษาสัญญาที่ให้กับคนรักเสมอ แม้ว่าเธอจะหวังดีกับคนที่ไม่ควรได้รับแบบคุณก็ตาม ออกไปได้แล้ว จะไม่มีการไล่ออกหรือเซ็นอนุมัติอะไรทั้งสิ้น”

     

                    คิม ฮีชอลยอมเดินออกมาจากห้องแบบอื้ออึง สุดท้ายแล้วก็เพราะ...ยุนอา...ที่ทำให้ต้องทนต่อไป

     

                    ร่างบางอยากถามชายหนุ่ม ว่าแค่การแอบรักมันเลวร้ายเท่ากับเป็นผู้กระทำความผิดใช่ไหม..ไม่เหมาะสมแม้แต่กับความหวังดี

     

                    สุดท้ายสิ่งที่ตั้งใจก็ไม่อาจทำได้ ต่อไปนี้ เขาจะกลายเป็นตัวอะไรสำหรับที่นี้ มาทำงาน นั่งรับเงินเดือน แต่ไม่มีงานให้ทำ เจ้านายรังเกียจ

     

                    คิม ฮีชอลกลายเป็นแค่กากที่ไม่มีใครต้องการ

     

                    * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

                     ทันทีที่เลิกงาน ร่างบางก็รีบตรงกลับบ้าน เพื่อเก็บของอันน้อยนิด อย่างน้อยการที่ได้อยู่ห่างไกล อาจทำให้น้องชายที่รัก ได้คิดถึง และยกโทษให้พี่ชายคนนี้บ้าง

     

                      แต่มันอาจไม่ได้เป็นแบบที่ฮีชอลคิด

     

                    ไฟในห้องเปิดสว่างทำให้ร่างบางนึกสงสัย ยังไม่ค่ำใครกันจะเข้ามาเปิดไฟให้แบบนี้ แล้วความสงสัยก็เลือนหายไปเมื่อเปิดประตูเข้าไปพบกับน้องชายนอนนิ่งสนิทอยู่บนที่นอน

     

                    “คยูฮยอนหลับหรือเปล่า” ร่างบางถามน้องชายเสียงเบา หากว่าหลับอยู่ก็คงไม่ทำให้ตื่นขึ้นมาได้

     

                    “พี่กลับมาแล้วหรอ” ชายหนุ่มเด้งตัวขึ้นจากที่นอนมองพี่ชายผู้บอบบาง ใบหน้าหวาน ดวงตากลมที่คุ้นเคย จนทำให้รู้ว่า อีกไม่นานคงมีน้ำตาไหลงลงมา ...แล้วมันก็เป็นจริง “พี่ร้องไห้ทำไมครับ ยังโกรธผมเรื่องเมื่อวานหรอ”

     

                    “เปล่า พี่สิต้องถามนายยังโกรธพี่เรื่องเมื่อวานใช่ไหม ไม่เป็นไรนะ พี่กำลังเก็บของจะกลับไปอยู่กับแม่ครูแล้ว ถ้านาย....” ใบหน้าหวานก้มหน้าไม่กล้าสบตาน้องชาย ไม่อยากให้รู้ว่ากำลังคาดหวังในบางอย่าง “ถ้านาย.คิดถึง ก็ไปเยี่ยมพี่บ้างนะ”

     

                    “พี่ฮีชอล” ชายหนุ่มตะหวาดเสียงดังก่อนนึกได้ว่าจะยิ่งทำให้พี่ชายเสียใจ แค่เมื่อวานก็มากพอแล้ว จึงลดเสียงลงเท่าเดิม เช็ดน้ำตาบนใบหน้าหวาน “ใครบอกให้พี่ออกไป พี่ลืมสัญญาที่ไว้กับผมแล้วหรอครับ”

     

                    “พี่ไม่ได้ลืม แต่นายคงไม่ต้องการให้พี่อยู่ที่นี้”

     

                    “ไม่..ผมต้องการให้พี่อยู่กับผม อยู่กับผมนะครับ ที่นี้ผมไม่มีใครนอกจากพี่แล้วจริงๆ” เด็กหนุ่มร่างสูง หน้าตาคม แต่เด็กก็คือเด็ก เมื่อใบหน้าหล่อมีน้ำตาไหลงลงมาเหมือนเด็กน้อยที่กำลังเสียขวัญ กลัวการอยู่คนเดียว

     

                    “คยูฮยอน..!” ร่างบางหลุดชื่อน้องชายเสียงแผ่วด้วยความตกใจ รีบเช็ดน้ำตาให้คนที่ไม่ค่อยจะยอมร้องไห้เท่าไหร่ อยากจะยิ้มขำ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ “อย่าร้องไห้เป็นเด็กขี้แยสิ”

     

                    “ก็พี่แหล่ะ แกล้งผม เมื่อวานก็จีไปทีหนึ่งแล้ว วันนี้ยังจะทิ้งผมอีกหรือไง” คยูฮยอนรู้ดีว่าเรื่องเมื่อวานพี่ชายคงรู้สึกผิด จึงลดความรุนแรงของคำพูด จากตบเหลือแค่ ตี ให้พี่ชายสบายใจ

     

                    “ขอโทษพี่ขอโทษ พี่นึกว่านาย...ทั้งเมื่อคืน เมื่อเช้าก็เอาแต่หลบหน้าก็เลย..ขอโทษนะ” ร่างบางกอดน้องชายที่นานๆจะยอมอ่อนแอสักครั้งด้วยการกอดไว้แล้วโยกตัวไปมา

     

                    “ผมแค่กลัวว่าพี่ยังไม่หายโกรธ ผมขอโทษนะครับ” เด้กหนุ่มตัวใหญ่ในอ้อมกอดพี่ชาวร่างบาง พูดอู้อี้กับไหล่บาง ไม่นึกอายที่มีน้ำตาไหล

     

                    “อือ”

     

                    “แล้วผู้ชายคนนั้น~

                    
                     “อย่าไปพูดถึงเลย” ฮีชอลตัดบทน้องชายทันทีที่รู้ว่าจะถามเรื่องอะไร ในเวลานี้ เขายังไม่พร้อมตอบคำถามใดๆ

     

                    “ครับ” ชายหนุ่มรับรู้ด้วยปาก หากในใจไม่มีใครรับรู้ว่าเป็นเช่นไร

     

                    ผมจะทำให้เขารู้ว่าความเสียใจเป็นยังไง ผมจะทำมันเพื่อพี่นะครับ

      

         

                    * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

    Talk

     

                    ครบแล้วคะ  ยามเมื่อดึกมากแล้วววววว (ตีสาม)

                    ว่าจะนอนตั้งแต่พึ่งตีหนึ่ง แต่เพราะมันปวดเข่าจนข่มตาหลับไม่ได้ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง โรคเก่ากำเริบอื้อเลย เศร้าคะ เศร้าไม่แพ้เอฟแอล

                      นั่งปั่นไปรู้สึกว่าคุณชายเย็นชามันดูคุ้นๆ เหมือนบางคนที่รู้จัก แต่ปากไม่ร้ายเท่า ซึ่งนั้นเป็นเรื่องดี 555 ลองปากแบบนี้ มีหวังได้ถูกรุมสกรัมเข้าสักวัน แค่ที่เคยพูดออกมาก็เท่าให้เจ็บจี๊ดไปเป็นแถวๆ

                   ไอซ์แอบชอบคำอุทานของคุณหนอนน้อยคะ โอ้ว !บุดดา  ไอซ์มีอีกคำที่ติดปาก และปลอบใจตัวเอง ว่า “พระพุทธเจ้าคุ้มครอง”  

                                   

                อย่าลืมเม้มท์กันเยอะๆนะคะ มันช่วยกระตุ้นต่อมขยันได้มากอยู่ ถึง150เมื่อไหร่ ไอซ์ มีของขวัญเซอร์ไพร์ด้วยคะ

                   

    ขอบคุณทุกคอมเม้มท์นะคะ

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×