ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    美花 ; (mei hua) (woncin)

    ลำดับตอนที่ #7 : 美花 : 第六花 100%

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 53


    美花:六花

     

     

                    พระองค์สูงใหญ่ในห้องทรงอักษร กำลังประทับนิ่งให้หมอหลวงรักษาแผลลึกที่ฝ่าพระหัตถ์ ในขณะที่สายตายังทอดพระเนตรรายงานต่างๆ ที่มีเข้ามาทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทหาร การชลประทาน และเรื่องเดือดร้อนที่ชาวบ้านส่งมาร้องเรียน

     

                    พระขนงขมวดเข้าหากันเมื่ออ่านฏีการ้องเรียนจากชาวบ้านกว่าร้อยคนในเขตปกครองของปาหยางอ๋องที่รวมตัวกันเพราะทนเดือดร้อนจากการถูกขูดรีดไม่ได้

     

                    ตั้งแต่เดือนอ้าย ปาหยางอ๋องขึ้นภาษีที่ดินเป็นครั้งที่ห้า หากบ้านไม่ไหนไม่มีตำลึงมาจ่ายก็ให้เอาตัวลูกสาวมาขัดไว้เสีย นอกจากนั้นยังเกณฑ์ชายหนุ่มตั้งแต่สิบสี่ไปจนถึงชายชราวัยหกสิบ เพื่อไปก่อสร้างขยายเขตวังทู่หลงให้กว้างขวางขึ้น ตามที่นาเหลือแต่ ผู้หญิง และคนชราเท่านั้น

                   

                    พระหัตถ์อีกข้างที่ยังใช้การได้หยิบฏีกาฉบับนี้ส่งให้องค์รักษ์เอกอ่านดู ก่อนจะทรงไล่ทั้งหมอหลวง ทั้งข้าราชบริพารให้ออกไป เว้นเพียงแต่ ซึงฮยอนเท่านั้นที่ยังคงก้มหน้าอ่านฏีกาที่ชาวบ้านร้องเรียนมา

     

                    “เจ้าคิดว่ายังไงดีกับเรื่องนี้” องค์ฮ่องเต้ซีวอนรับสั่งถามคนสนิทที่กำลังทำสีหน้าครุ่นคิด ไม่ต่างจากพระองค์

     

                    “หม่อมฉันคิดว่าหากปล่อยไว้ให้เป็นแบบนี้ต่อไป จะส่งผลเสียต่อฝ่าบาท ประชาชนอาจไม่พอใจแล้วรุกฮือขึ้นมาต่อต้าน จนเกิดการเปลี่ยนราชวงศ์ ดังที่แล้วๆมา”  สำหรับองค์รักษ์ ความปลอดภัยของโอรสสวรรค์และราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญ หากจำเป็นก็ต้องตัดเนื้อร้ายออกไป

     

                    “กฎบชาวนาเป็นเรื่องสำคัญและมีอิทธิพลต่อทุกราชวงศ์ ฝ่ายหนึ่งก็ปะชาชน อีกฝ่ายหนึ่งก็ท่านอา หากเราทำรุนแรงไปก็ไม่สมควร จะให้ไต่สวนก็เกรงจะช้าไม่ทันการ ป่านนั้นท่านอาคงยิ่งหลงมัวเมาในลาภยศ สร้างความเดือดร้อนไม่หยุดหย่อน” ฮ่องเต้ทรงถอนหายใจด้วยความกังวล หาหนทางหยุดความประพฤติของท่านอ๋องปาหยางที่นับวันยิ่งสร้างแต่ปัญหา ไม่แปลกใจที่ลูกชายคนเดียวถึงได้เป็นคนเช่นนี้ “เออจริงสิ ตอนนี้ฮีชอลอยู่ไหน”

     

                    “ตอนนี้ท่านอ๋องน้อยถูกกุมตัวไว้ในเรือนอาญา รอให้ท่านกรมวังมาไต่สวนแล้วออกประกาศลงโทษ ประหารเก้าชั่วโคตรกระหม่อม” ซึงฮยอนตอบอย่างฉะฉานเพราะก่อนหน้านี้ได้ให้คนไปสอบถามมาแล้วเรียบร้อย เพราะรู้ดีว่ายังไงฮ่องเต้ก็ต้องถามถึงเรื่องนี้

     

                    “ถึงขั้นต้องประหารเลยงั้นหรือ”  ทรงนิ่งเงียบไป ทวนโทษของอ๋องน้อยที่พระองค์หมายมั่นจะให้ขึ้นมาเป็นคนพิเศษที่จะอยู่เคียงข้างกันไป เป็นคนที่จะทรงผ่อนคลายยามอยู่ใกล้

     

                    “กระหม่อม ตามกฎมณเฑียรบา~

     

                    “พอเลยๆ” ทงยกพระหัตถ์ข้างที่ได้รับการพันแผลอย่างปราณีตขึ้นห้ามองค์รักษ์ “เราจำกฎคร่ำครึพวกนั่นได้ดี ท่านราชครูสอนเราเรื่องนี้ตั้งแต่เรายังพูดไม่ได้เลยมั้ง” ทรงเหนื่อยใจกับกฎเก่าๆที่ยากแก่การเปลี่ยนแปลง เพราะมันเป็นสิ่งที่คงอยู่กับการปกครอง “เออจริงสิ เจ้าไปเชิญท่านราชครูมาหาเราหน่อย แล้วก็ไปบอกท่านกรมวังอย่าพึ่งไต่สวนหรืออะไรทั้งสิ้น ส่วนฮีชอลก็ให้อยู่ในเรือนอาญาไปก่อน รอคำสั่งจากเรา”

     

                    “กระหม่อม” ซึงฮยอนรับคำฮ่องเต้ก่อนถวามความเคารพแล้วจากไปทำตามคำสั่งที่ได้รับ รีบไปเชิญท่านราชครูก่อนจะไปทำเรื่องอื่นๆ

     

            * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                   

                    ชายชราแววตาเต็มไปด้วยความห่วงใยและเอ็นดูร่างสูงเพียงหนึ่งเดียวในห้องไม่ต่างจากลูกหลานคนหนึ่ง หนวดขาวยาว บ่งบอกวัยที่ล่วงเลย และประสบการณ์ที่มากล้น เดินเข้ามาในห้องทรงอักษรของโอรสสวรรค์อย่างคุ้นเคย ห้องนี้เคยสั่งสอนให้ความรู้แก่ยุวกษัตริย์ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จนบัดนี้ กลายเป็นฮ่องเต้ที่เก่งกาจ “ท่านองค์รักษ์ซึงฮยอนบอกว่า ฮ่องเต้มีรับสั่งเรียกหาครูหรือกระหม่อม”

     

                    “ท่านครู เรามีเรื่องอยากจะปรึกษา” ทุกครั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าชายชราผู้นี้จากฮ่องเต้ที่คนทั้งประเทศเกรงกลัว จะกลับกลายเป็นเด็กตัวน้อยทันที  “เรื่องท่านอาปาหยางกับเรื่องของอ๋องน้อยฮีชอลลูกชายของท่านอา”

     

                    “เรื่องที่ท่านปาหยางอ๋องกดขี่ราษฏรใช่ไหมกระหม่อม ครูพอจะได้ยินมาบ้าง แต่เรื่องท่านอ๋องน้อย....อ๊ะ พระหัตถ์ของฝ่าบาท” ผู้เฒ่าสังเกตเห็นผ้าพันแผลบนผระหัตถ์ของศิษย์คนเก่งถึงกับมองด้วยความตกใจ

     

                    “ก็นี้แหล่ะเรื่องที่ท่านอ๋องน้อยทำไว้ ท่านครูพอมีทางเลี่ยงกฎมณเฑียรบ้างหรือเปล่า แบบที่ไม่ให้ใครต้องมาเอาชีวิตมาชดใช้กับเลือดของเรา” นี้เป็นเรื่องใหญ่ที่องค์ฮ่องเต้คิดว่าสมควรที่จะปรึกษาชายที่ผ่านอะไรมามกมาย ทั้งเหล่เหลี่ยมกลโกงสารพัด

     

                    “ครูว่าถึงจะหลีกเลี่ยงยังไง แต่ท่านอ๋องน้อยก็ต้องรับโทษ ไม่เช่นนั้นกฎจะไม่เป็นกฎ อาจไม่จำเป็นต้องเก้าชั่วโคตร แต่อาจเหลือแค่เพียงคนที่ทำร้ายฝ่าบาทเพียงคนเดียว” หลังจากใคร่ครวญแล้ว โทษที่ลดได้มากที่สุดเห็นจะเป็นเพียงแค่นั้น

     

                    “โธ่ท่านครู เราก็บอกว่าไม่เอาชีวิตใครไง ไม่ได้หรือไง” ขณะนี้ราชครูกลับมองเห็นเด็กน้อยจอมดื้อรั้นแทนที่ฮ่องเต้ผู้สง่าเสียแล้ว “ขอเหอะครั้งนี้ ท่านน่าจะมีทางเลี่ยงที่ดีกว่านั้น เราเชื่อใจท่านครูที่สุดแล้ว”

     

                    “เรื่องท่านอ๋องน้อย ขอเวลาให้ครูได้คิดกว่านี้คงมีทางออกที่ดีกว่านี้ แต่เรื่องท่านปาหยางอ๋อง ครูเกรงว่าหากปล่อยไว้นาน เรื่องมันจะบานปลาย ประชาชนจะลุกฮือได้” ในที่สุด ท่านครูก็ไม่สามารถทนความขี้อ้อนของเด็กน้อยที่แฝงในตัวฮ่องเต้จนได้

     

                    “ท่านพูดเหมือนซึงฮยอนเลย เราเองก็คิดแบบนั้น สงสัยว่าหากจะอ้างความเป็นญาติ แล้วใช้แผลบนมือให้เป็นประโยชน์ ไล่ท่านอาออกจากเมืองหลวงแล้ว ยึดตำแหน่งคืน มันจะได้ไหม” องค์ฮ่องเต้ทรงอธิบายที่วางไว้แบบคร่าวๆให้ท่านครูช่วยคิดถึงความเหมาะสมอีกครั้ง

     

                    “อืออออ....มันก็ได้” คำว่าก็ได้ ทำให้พระพักตร์คมปรากฏรอยยิ้มขึ้น แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็วเพราะประโยคต่อมา “แต่ถ้าทำแบบนั้นท่านก็ต้องไล่คนทั้งวังทู่หลง รวมถึงท่านอ๋องน้อย”

     

            “ไม่ใช่สิท่านครู เราหมายถึงแค่ท่านอา ไม่ได้หมายถึงฮีชอลเลย” ดวงตาคมเข้มของพญามังกรกลายกลับเป็นดวงตาขี้อ้อนดั่งลูกกวางน้อยอีกครั้ง เหมือนเมื่อครั้งยังทรงเยาว์วัย ร้องขอให้ท่านครูทำตามสิ่งที่ทรงประสงค์

     

                    “แต่ท่านจะยังให้ท่านอ๋องประทับอยู่ที่นี้อีกทำไม ในเมื่อประสงค์แรกเริ่มของพระองค์ คือสองพ่อลูกจากวังทู่หลง อย่าทรงลืมสิกระหม่อมว่าที่พระองค์ให้อ๋องเข้ามาอยู่ก็เพราะจะจับผิดท่านอ๋องน้อยเพื่อการนี้” ท่านราชครูเอ่ยเตือนศิษย์รักไม่ให้หลงลืมเหตุผลที่ให้ท่านอ๋องเข้ามาอยู่ในวัง แม้จะงงๆนิดหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นฮ่องเต้ถึงได้พยายามรั้งท่านอ๋องไว้ขนาดนี้

     

                    “มันก็ใช่ แต่ว่าท่านครู พอฮีชอลเข้ามาอยู่แล้ว เรารู้สึกว่าความจริงเขาก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ว่ามันเป็นที่การเลี้ยงดูของท่านอาปาหยาง ให้เวลาและโอกาส เราเชื่อว่าฮีชอลจะเป็นคนดี นะท่านครู ช่วยเรานะ” จากที่อ้อมค้อมให้ช่วยท่านอ๋องสุดท้ายฮ่องเต้หนุ่มกลับลงได้ว่าให้อาจารย์ช่วยพระองค์เอง

     

                    “โถ่ ฝ่าบาท ทำเนตรเหมือนเด็กเช่นนั้น ครูก็ใจอ่อนสิกระหม่อม” ในที่สุดชายชราหนวดยาวก็ ใจอ่อนกับท่าทางของฮ่องเต้หนุ่ม “ก็ได้ แต่จะใช้ข้ออ้างอะไรทรงคิดให้ครูสิ แล้วครูจะแจ้งแก่ท่านกรมวังให้ ต้องเป็นข้ออ้างที่เหมาะสมด้วยนะกระหม่อม”

     

                    “ข้ออ้างที่เหมาะสม ก็เช่น....ฮีชอลอายุยังน้อย ที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ท่านครูว่ามันเหมาะสมไหม หรือว่า เพราะเรามีเมตตาสูงส่งเลยสงสารฮีชอลผู้สนิทเสน่ห์หาเหมือนน้องชายเลยละเว้นโทษไว้”

     

                    “แต่ละอย่างที่ท่านอ้าง มันดู.....ง่ายไปหน่อยหรือเปล่า เรื่องที่ท่านจะทำมันขัดกับกฎมณเฑียรอยู่มากแล้ว จะมาอ้างว่าเป็นน้อง ครูว่ามันไม่เหมาะสม” ท่านราชครูลูบหนวดตัวเองอย่างใช้ความคิด หาหนทางช่วยเหลือทุกวิธีทาง “เอ แต่ถ้าจะบอกว่า เพราะท่านอ๋องไม่มีส่วนผิดในเรื่องที่ข่มเหงประชาชน จึงไม่ต้องถูกเนรเทศ หากแต่เพราะความผิดที่พลั้งมือทำฮ่องเต้หลั่งพระโลหิตจึงต้องรับโทษ แต่เพราะองค์ฮ่องเต้ทรงมีพระเมตตาเป็นล้นพ้น จึงละเว้นโทษตาย เหลือเพียงทำหน้าที่รับใช้เบื้องยุคลบาทในวังหลวง อย่างนี้พอจะได้”

     

                    “ดีๆ เอาอย่างนั้นแหล่ะท่านครู ท่านไปบอกกรมวัง ให้ออกประกาศได้เลย ขอบคุณนะท่านครู เราเชื่อใจคนไม่ผิดจริงๆด้วย” พระพักตร์ที่เคยนิ่งขรึมกลายเป็นรอยยิ้มร่า ทรงรู้อยู่แล้วว่าเช่นไรท่านราชครูผู้แสนใจดี ก็ไม่ปล่อยให้มีอะไรขัดพระประสงค์ฮ่องเต้ได้  “เดี๋ยวเราจะมีคำสั่งถ่ายทอด ถอดยศอ๋องทั้งสองแห่งวังทู่หลง แล้วก็ประกาศเนรเทศท่านอาปาหยาง และสั่งลงโทษฮีชอล อ้อสั่งปล่อยฮีชอลออกจากเรือยอาญา เราฝากด้วยนะท่านครู” แล้วฮ่องเต้ซีวอนก็กลับสู่ความนิ่งเงียบ ดั่งที่โอรสสวรรค์พึงเป็น

     

                    “รับด้วยเกล้า” ท่านราชครูก้มโค้งให้ผู้มีศักดิ์สูงสุดในแผ่นดิน น้อมรับคำสั่งก่อนแจ้งเรื่องให้ท่านกรมวังรับรู้ แล้วประกาศเรื่องราวออกสู่ประชาชน

     

                    “เฮ้อ รอดพ้นเคราะห์ไปได้นะฮีชอล ต่อจากนี้เราจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง จะมองเจ้าด้วยแง่มุมที่ไร้อคติ จะทำให้เจ้ากลายเป็นคนพิเศษของพี่ และอยู่เคียงข้างพี่” เสียงกระซิบแผ่ว ถ้อยคำที่องค์ฮ่องเต้ซีวอนหวังฝากสายลมไปถึงเรือนอาญา บอกกล่างให้หนึ่งคนในนั้นได้ยิน

           

             * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

    Talk

     

            ลงแบบครบร้อยในคราวเดียวภาคภูมิใจอะไรแบบนี้

                    หมดเรื่องร้ายๆไปหนึ่งเรื่อง ทั้งขจัด อ๋องนิสัยไม่ดีไปได้ ทั้งได้อ๋องน้อยมาอยู่ด้วยแบบถาวรขนาดนี้ ถ้าไม่มีท่านราชครูแย่เลยนะเนี่ย  หุหุ

           

                    เซี่ยเซี่ยหนี่

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×