ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The bodyguard (woncin fiction)

    ลำดับตอนที่ #7 : The bodyguard 7 100..%

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 53


    The bodyguard  7

     

                       “คุณหนูครับ ท่านดงเฮ ส่งบอดี้การ์ดมาให้เลือกแล้วครับ” ยามสายตะวันส่องก้น แต่คุณหนูของบ้านที่นานๆที่จะได้มีวันพักผ่อนแบบชาวบ้านเขาบ้างก็ต้องมาตื่นด้วยพลังปลุกของคุณพี่เลี้ยง ที่ดูแลกันมาตั้งแต่เล็กๆ

     

              “อื้มมม ลุงเยซอง ขอผมนอนก่อนนะครับ  นานผมจะได้ตื่นสายนะครับลุง” แล้วชายหนุ่มเจ้าชายในฝันของสาวแท้สาวเทียมก็หมุดหายไปในผ้าห่ม ให้ลุงหน้ากลมได้แต่ส่ายหัวดิกๆ

     

                    “ไม่ได้ครับคุณหนู คนมารอเต็มบ้านเลยครับ อย่างน้อยก็เกรงใจท่านดงเฮอุตส่าห์ส่งมือหนึ่งมาให้ทั้งนั้นเลยนะครับ” พี่เลี้ยงวัยชรายื้อผ้าห่มจากร่างชายหนุ่มตัวโต ที่กำลังงอแงเป็นเด็ก

     

                    “ก็บอกให้เขากลับไปสิครับ ใครอยากได้การ์ดหน้าโหดกันเล่า” ประโยคหลังแอบงืงำกับตัวเองก่อนจะดิ้นหนีมือเล็กแต่หยาบกระด้างไม่ชวนสัมผัสของลุงหน้าแก่ นี้ถ้าเป็นว่าที่ที่รักหน้าหวานมาปลุกเบาแค่เอาปากแตะปากมีหรือชายชเวจะไม่ตื่น

     

                    “เมื่อกี้คุณหนูว่าอะไรนะครับ” ถึงแม้ลุงจะแก่ แต่หูลุงยังใช้หารได้ดี เพราะงั้นประโยคสุดท้ายไม่มีทางรอดพ้นหูเล็กๆไปได้อย่างแน่นอน “ถ้าคุณหนูไม่ตื่นผมจะโทรหาคุณลีทึกนะครับ”

     

                    “ตื่นแล้วครับลุง” ที่ตื่นไม่ใช่เพราะกลัวคุณผู้จัดการสุดโหดหรอกนะ แต่แค่ไม่อยากฟังเขาบ่น กร่นด่าที่ไม่มีทางเลิกรา ก็เท่านั้นเอง แล้วทำไมไอ้พวกการ์ดหน้าโหดมันต้องมาวันที่จะได้นอนสบายๆด้วย

     

                    “ดีแล้วครับ ล้างหน้าล้างตาแล้วรีบลงไปนะครับ ปล่อยให้คุณๆรอนานไม่ดีครับ” แล้วคุณลุงพี่เลี้ยงผู้มีหน้าที่มาปลุกคุณหนูแต่เช้าก็ลงไปพร้อมคำสอนอีกหนึ่งประโยค

     

                    “ให้ตายแล้วซิ แล้วจะได้เมียไหมว่ะงานนี้ พ่อนะพ่อ ไม่น่าทำกับลุกแบบนี้เลยยยย” ชายหนุ่โอดครวญก่อนจะยอมลุกขึ้นจากเตียงจัดการตัวเองให้มีสภาพเป็นคุณชายหนุ่มทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล

    ชเวผู้ยิ่งใหญ่

     

               * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

                      ในห้องรับแขกกว้างชายหนุ่มหน้าตานิ่งขรึมสี่คนนั่งคอยท่าคุณชายหนุ่ม กว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่ร่างสูงแบบนักกีฬา หน้าตาที่บอกว่าดูแลตัวเองเป็นอย่างดี จะเดินลงมาด้วยท่าทางสบายๆ

     

                    “พวกคุณเป็นการ์ดที่ท่านดงเฮส่งมาให้ผมใช่ไหมเนี่ย” ชายหนุ่มมองทั้งสี่แล้วได้แต่เครียด ภาวนาว่าคำตอบไม่ใช่ ใจคอจะให้ใช้ทีเดียวสี่คนเลยหรือไงกัน 

     

           วอนขอแค่เมียคนเดียว คนเดียวเท่านั้นพ่อ ไม่เอาการ์ดหน้าโหดสี่คนแบบนี้ ไม่อาวววววววว

     

                    “ท่านดงเฮสั่งมาว่าให้ตามใจคุณครับว่าจะเอายังไง”หนึ่งในการ์ดหน้าโหด แต่ตัวแอบอ้วนบอกชายหนุ่มที่คุ้นหน้าทางทีวี และป้ายโฆษณา ที่ดูท่าทางไม่ต่างจากคุณชายผู้เพียงพร้อม

     

                    “งั้น พวกคุณก็กลับไปเหอะ ผมมีคนที่อยากจ้างแล้ว” ในเมื่อตามใจกัน คุณชายก็ขอเอาแต่ใจเลยหล่ะกัน ก็ที่ทำมาทั้งหมดจะเอาเมียไม่ใช่การ์ดแบบนี้ เห็นหน้ากันทุกวันไดเหี่ยวตายพอดี

     

                    “ไม่ได้ครับ คุณไล่เรากลับไปก็เท่ากับดูถูกเอเยนซี่ของท่านดงเฮ”

     

                    เออะ! ขนาดนั้นเลยหรือว่ะเนี่ย แค่ไล่กลับ เป็นการดูถูกกันเลย เอาหว่ะ ไม่ไล่ก็ไม่ไล่ “งั้นเอางี้ คุณจะเป็นการ์ดให้ผมได้ คุณก็ต้องดูแล และปกป้องผมจากอะไรก็ตามได้ เรามาประลองกันทีละคนเลยหล่ะกัน ถ้าฝีมือไม่เป็นที่พอใจ พวกคุณก็กลับไปโอเคไหม”

     

                    ก็จริง เป็นการ์ดต้องปกป้องได้ และที่รักผมก็ต้องปกป้องหัวใจของผมนะคร้าบบบบ

     

                    “ตกลงครับ”

     

                    “อือ งั้นผมขอรู้ชื่อแล้วก็ ประวัติของพวกคุณหน่อย จะมาเป็นการ์ดให้ผมทำอะไรเป็นบ้าง ผมไม่ต้องการพวกอ่อนหัด อ่อนแอ น่ารำคาญ หวังว่าคุณจะเข้าใจ”

     

                    “ครับ” ชายหนุ่มทั้งสี่ตอบอย่างพร้อมเพรียงเริ่มหมั่นไส้คุรชายขี้เก๊กนี้เต็มทน ดูหน้าก็รู้ว่าไม่อยากได้การ์ดสักเท่าไหร่ แล้วใครว่าการ์ดอยากจะมาดูแลคุณชายตัวถึกๆ กล้าโตเป็นลูกๆแบบนี้เล่า

     

                      อยากดูแลและปกป้องคุณหนูผู้บอบบางเหมือนกันโว้ยยยย การ์ดก็มีหัวใจ รู้บ้างสิ

     

                    “เริ่มที่คุณหล่ะกัน” ชายหนุ่มชี้ไปที่ร่างอวบที่สุดของเหล่าการ์ดหน้านิ่ง

     

              “ผม ชิน ดงฮี อายุ 25 มีความสามารถทางซูโม่ ได้ระดับมาคุอุจิครับ”

     

              “แล้วไอ้ระดับอุนจินี้มันคืออะไร” คุณชายหน้างง อึ้งค้าง กับไอ้ภาษาต่างดาวที่ได้ยิน เกิดมาไม่เคยได้ยินชื่อพิลึกอะไรแบบนี้

     

              “มาคุอุจิ เป็นระดับสูงสุดของนักซูโม่ครับ” ชายหนุ่มร่างอ้วนกลม ตอบชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจที่ดูถูกระดับความสำคัญของซูโม่

     

              “อ้อ หรอ เออ เอาเป็นว่าขอโทษหล่ะกัน เออ แล้วคุณหล่ะ” มือหนาชี้ไปอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นชาวต่างชาติ รูปร่างผอมสูง หน้าตานิ่งขรึม เหมือนจะแก่กว่าอีกสามคน

     

              “ผมชื่อ ฮันเกิง อายุ 26 ครับ ถนัด กังฟู ” ใบหน้านิ่ง ก็ยังคงนิ่งต่อไป

     

              “คุณมาจากจีนหรือเปล่า” ชายหนุ่มนั่งคิดไปไหล จ้างแรงงานต่างดาว จะโดนจับไหมว่ะนั่น

     

              “ใช่ครับ”

     

              “แล้วคุณมีวิทยายุทธ์ไหม” ซีวอนเริ่มนึกไปถึงหนังจีนกำลังภายในที่ได้ดูอยู่บ่อยๆ เหาะเหินเดินอากาศอะไรเทือกนั้น

     

              “ผมมีพลังดรรชนีบีบอาชา ที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นของคุณทวด”  ชายหนุ่มบอกคนถามหน้านิ่ง ไม่สนใจกับอาการนิ่งอึ้งของว่าที่นายจ้าง

     

              “เออ หรอครับ ดีจังเลยเนอะ แล้วคุณหล่ะ” ซีวอนเริ่มเกรงในตัวคุณการ์ดที่ถูกส่งมาให้ คนหนึ่งก็สูงสุดของซูโม่ อีกคนก็พลังดรรชนีบีบอาชา  แล้วคนที่เหลือหล่ะมีอะไร

     

     

            

    “ผม โจว คยูคฮยอน อายุ 22ปี” ชายหนุ่มท่าทางอ่อนน้อม สุภาพเรียบร้อย สมดังเป็นนักคาราเต้ผู้ฝึกฝนตนเองตามแนวทางของหลักธิเชนอันบริสุทธิ์ ไม่มาการฉุนเฉียวกับการวางมาดของคุณชายผู้น่าหมั่นไส้

     

                    “อือ 22เองหรอ อายุยังน้อยนะนาย ได้สายอะไรหล่ะ เขียวหรือเหลืองหล่ะนายอ่ะ” คุณชายชเวนั่งมองชายหนุ่มรุ่นมองอย่างประเมินฝีมือ สงสัยว่าจะจัดการได้ง่ายที่สุด

     

                    “ผมได้สายดำดั้ง10เมื่อห้าปีที่แล้วครับ”

     

                    อึ้ง ทึ้ง และ เอ่อ กับความสามารถ เออ สายดำดั้ง10เมื่อห้าปีที่แล้ว อาเมน พระเจ้าช่วยลูกด้วยเหอะ วันนี้ลูกต้องเล่นกับอะไรบ้างครับเนี่ย

     

                    “เก่งเนอะ เมื่อห้าปีที่แล้ว ก็ 17-18 เองสิเนี่ย เก่งนะ ท่านดงเฮมีแต่คนเก่งๆสมแล้วที่เอเยนซี่ของส.ส.” ซีวอนพูดไปก็เริ่มอนาถตัวเอง ก่อนหันไปมองคนสุดท้ายที่นั่งนิ่ง ไม่พูด ไม่ยิ้ม ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย “แล้วนายหล่ะ”

     

                    “ผมเป็นนักแม่นปืนทีมชาติครับ ชื่อ คิม คิบอม อายุ23 ปี” นิ่งๆเรียบๆ ไม่มีอะไรพิเศษ ก็แค่ นักแม่นปืนทีมชาติ!!!

     

                    “.....” ชายหนุ่มผู้กำลังหาทางออกให้กับปัญหาใหม่เริ่มนั่งเครียด นั่งแม่นปืน แล้วชายชเวจะเอาอะไรไปสู้ หนังยางยิงจิ้งจกยังไม่แม้แต่จะเฉียด แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปแข่ง

     

                    เส้นทางมีเมียชักริบหรี่

     

                    “นายไม่เป็นพวกศิลปะการต่อสู้อย่างอื่นหรือไง เพราะว่าพวกนั้นคงไม่เล่นกันถึงปืนหรอกมั้ง”  ชายหนุ่มลงท้ายประโยคด้วยเสียงสูง คล้ายๆว่าจะทำให้ไม่แน่ใจ แต่ใครจะบ้ายิงตัวเอง

     

                    “อ้อ ผมกำลังหัดยูโดอยู่ครับ”

     

                    “อ้อ พึ่งหัดหรอครับ อือ ผมขอเชิญพวกคุณไปเตรียมตัวที่ยิมหลังบ้านก่อนได้เลยนะครับ อีกสัก สิบนาที ผมจะลงไป ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเดี๋ยวลงไปกัน”

     

                    ซีวอนเดินกลับขึ้นไปบนห้องพร้อมกับการถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความคิดต่างโลดแล่นเข้ามาในสมองหาวิธีทางที่จะเอาชนะคนทั้งสี่ ที่ดูแล้วล้วนแต่น่ากลัวในฝีมือ

     

                    ภาพร่างบอบบางหน้าหวานในชุดสูทสีดำ วนเวียนอยู่ข้างกายง่ายต่อการคว้าเอวมาโอบกอด หอมนิด หอมหน่อย ดูเลือนรางใกล้ห่างความจริงขึ้นทุกที เผลอๆจะเป็น หน้าโหดสักคน มาบดบังรัศมีความหล่อหรือเปล่า ยังไม่แน่ใจ  

     

                    ม่ายยยยยยยยยยยยยยย วอนอยากตาย

     

                    “พี่ทึก อยู่ไหนมาหาผมที่บ้านเดี๋ยวนี้เลย รีบมานะพี่” ซีวอนไม่ให้เสียเวลา พอถึงห้องปุบ ก็รีบโทรหาตัวช่วยอันดับหนึ่ง มีพี่ทึกไว้ ปลอดภัยทุกสถานการณ์

     

                    /อะไรของแก ไอ้วอน วันนี้วันหยุด จะให้ฉันไปหาทำไม เจอหน้าทุกวันไม่เบื่อหรือไง/

     

                    “เบื่อ เฮ้ย ไม่เบื่อ พี่รีบมาช่วยผมเลยก่อนที่พี่จะไม่มีน้องชายชื่อ ชเว ซีวอนด่วนนะพี่ ด่วน!!!” ซีวอนยังคงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แม้จะแอบได้ยินเสียงหวานๆของผู้หญิง หวังว่าพี่ชายที่แสนดีคงไม่กำลังหม้อสาวหรอกใช่ไหม

     

                    /ฉันไม่มีน้องชื่อ ชเว ซีวอนตั้งแต่แกโทรมาแล้วเว้ย รู้ไหม ฉันกำลังอยู่กับใคร/

     

                    “ไม่บอกแล้วจะรู้ไหม คงไม่ใช่อยู่กับ ท่าน ชเว ซึงฮยอนหรอกใช่ไหม”

     

                    /ไม่ใช่โว้ย ฉันอยู่ ซอง เฮเคียว นะเว้ย ซอง เฮเคียว แก ไอ้น้องขัดลาภเอ้ย/ เสียงโหยหวนของพี่ชายพอให้ชายหนุ่มเดาได้ว่า ตอนนี้คงเดินออกมาจาก แม่สาวปากเจ่อแล้วแน่ๆ

     

                    “เอาหน่าพี่ มาช่วยผมก่อน เดี๋ยวผมหาสาวกว่า สวยกว่า ชอง เฮเคียวให้  รีบๆมานะพี่” ซีวอนย้ำกับพี่ชายอีกที

     

                    /ทำไม จะตายแล้วหรือไง ถ้าใช่ จะได้ไปหลอกล่อ ว่าที่คุณนายตระกูลชเวไปดูใจถึงห้องนอนเลย เอาไหม/

     

                    “เอา แต่ว่าไปดูใจผมที่โรงยิมนะพี่ ป่านนั้นคงกำลังพะงาบๆอยู่ รีบๆไปพามาผมเลยนะพี่ สัญญาแล้วห้ามเบี้ยว แค่นี้นะ อ้อ อย่าลืมสวดมนต์ให้ผมชีวิตรอดด้วยหล่ะกัน” แล้วซีวอนก็รีบวางสายก่อนได้รับคำด่าเจ็บๆจากพี่ชายหน้าหวานที่คิดเคลมหญิง

     

                    ชายหนุ่มหยิบชุดเทควันโดที่แขวนนิ่งอยู่ในตู้เสื้อผ้ามานาน ก่อนจะมัดด้วยสายดำ ที่ทำให้สัมฟัสได้ถึงพลังอันแฝงเร้นอยู่ภายใน กำลังใจที่หายไปกำลังถูกเรียกกลับมาด้วยความศักดิ์สิทธิ์และฮึกเหิมของชุดที่สวมใส่

     

                    ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก มีหน้าตาของบอดี้การ์ดเป็นเดิมพัน

     

    To~be~con

     

    * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

    Talk

     

                   ครบร้อยแล้วคะ แบบสั้นๆ  อิอิ ตอนนี้ได้มาอย่างยากลำบาก ต้องพึ่งผู้มีความรู้ทางภาษาญี่ปุ่น(คาดว่าตอนหน้ายิ่งต้องพึ่ง)  นอกจากนั้นแล้วยังต้องถามผู้มีความรู้ทางเทควันโด(คนเดียวกะคนเมื่อกี้ 555)

                    ตอนหน้า วอนจะลงสนามรบแล้วนะคะ แถมพี่ทึกจะพากำลังใจคนสวยมาด้วย มาดูกันว่าฟอร์มของเทสายดำดั้ง5(มั้ง) อย่างคุณชเว จะเป็นยังไง เพราะศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก

                    ช่วงนี้ไอซ์กำลังบ้าแพคของชาย(เคย)หนุ่มอ่าคะ  เพราะงั้นคราวหน้าถ้าสู้กันแล้วชุดหลุดหลุ่ย อะไรโผล่มานิดๆหน่อย อย่าว่ากันนะคะ โดยเฉพาะชุดยูโด อ้อ มีซูโม่ อีกหนึ่ง   อิอิ

     

            ขอคอมเม้มท์เยอะๆนะคะ

     

    ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×