ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - - - Freezing love - - - (woncin )

    ลำดับตอนที่ #7 : - -FL- - 7 100%

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 53


    - -FL- - 7

     

                    รถคันหรูเลี้ยวเข้าสู่อาณาเขตบ้านกว้างใหญ่ ตัวบ้านและสนามหญ้าที่กว้างขวางทำให้ผู้มาใหม่มองอย่างแปลกประหลาด เพราะบ้านมันกว้างอย่างนี้หรือเปล่า คนอยู่ถึงได้โดดเดี่ยว อ้างว้าง

     

                    “พี่ฮีชอล บ้านใหญ่ขนาดนี้ ถ้าพวกลิงที่บ้านได้อยู่ก็คงดีสิเนอะ” เด็กหนุ่มกระซิบกับพี่ชายหน้าหวาน  ก่อนที่ฮีชอลจะพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ถึงบ้านที่อยู่จะไม่แออัด แต่สักวันเด็กเหล่านั้นก็ต้องโต ต้องการที่พื้นที่มากขึ้น

     

                    “อย่าคิดว่าเป็นคนในตระกูลชเว แล้วจะเอาใครเข้ามาอยู่ได้ นายไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้” เสียงนิ่งทุ้มจากคนนั่งหน้านิ่ง ในมือถือพีดีเอไม่สนใจใครอีกสองคนที่อยู่ในรถเลย

     

                    ความเงียบเกิดขึ้นเพียงชั่วครูก่อนที่ประตูรถจะเปิดออก เด็กหนุ่มเห็นคนในบ้านมายืนรอกันมากมายตรงทางเข้าบ้าน ก่อนมองทุกคนเพียงแค่เลยผ่านไม่ให้ความสนใจ ผิดกับพี่ชายหน้าหวานที่ยืนส่งยิ้มให้ทุกคน เพราะรู้ดีว่าตนเองเข้ามาในฐานะเพียงคนอาศัย

     

                    “ป้าฮวางโบ นี้คยูฮยอน ลูกชายอีกคนของพ่อ” ซีวอนแนะนำแม่บ้านให้รุ้จักกับน้องชายที่เหมือนว่า ชายหนุ่มจะกลับเข้าสู่อาการต่อต้าน ไม่อยากยอมรับความจริง โดยไม่สนใจที่จะแนะนำอีกคนให้ทุกคนได้รู้จัก

     

                    “สวัสดีครับ ผมชื่อคยูฮยอนครับ” คยูฮยอนก้มโค้งให้ทุกคนแต่ใบหน้าของชายหนุ่มยังคงปราศจากรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปยิ้มให้พี่ชายหน้าหวาน “นี้พี่ชายคนเดียวของผมครับ พี่ฮีชอล จะมาอยู่เป็นเพื่อนผมที่นี้” ในเมื่อเจ้าของบ้านไม่อยากรับเขาเป็นน้องก็ใช่ว่าเขาจะมีพี่นิสัยแบบนี้ ทั้งชีวิต คยูฮยอนมีพี่ชายคนเดียวเท่านั้น

     

                    เจ้าของบ้านมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างไม่พอใจกับการแนะนำฐานะของชายหนุ่มหน้าหวาน แต่ในเมื่อเขาก็ไม่อยากได้น้อง แต่ที่ทำทุกอย่างลงไปก็เพื่อพ่อเท่านั้นเอง “ป้าฮวางโบ ทำเตรียมห้องนอนเพิ่มอีกห้องหล่ะกัน แล้วก็วันนี้ๆไม่ทานข้าวเย็นนะ ไม่ต้องเตรียมเผื่อ”

     

                    “ค่ะคุณชาย” ป้าฮวางโบได้แต่ก้มหน้ารับคำสั่ง พลางนึกไปถึงก่อนที่คุณท่านจะเสีย ถึงแม้บ้านจะเงียบเหงา แต่คุณชายก็ไม่ได้เย็นชาแบบนี้ ได้แต่หวังว่าคุณยุนอาจะทำให้คุณชายกลับมาเป็นดังเดิมได้อีกครั้ง

     

                    “เอ่อ..ให้ผมนอนห้องเดียวกับคูยฮยอนก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องลำบาก จัดห้องเพิ่ม” ร่างบางรีบแย้งขึ้นทันที เพราะที่เขามาอยู่ก็แค่มาอยู่เป็นเพื่อนน้องชายในช่วงปรับตัวตามที่สัญญาที่ให้ไว้เท่านั้น

     

                    “ไม่ได้ คยูฮยอนไม่ใช่เด็กที่จะนอนคนเดียวไม่ได้ บ้านหลังนี้ ผมเป็นเจ้าของบ้านสั่งอะไรก็ทำตาม ตอนมืดผมกลับมาแล้ว จะให้คนไปเรียกคุณที่ห้องนะฮีชอล ผมมีเรื่องที่อยากจะพูดด้วย”

     

                    “เอ่อ..ครับ” ใบหน้าหวานซีด ได้แต่แอบน้อยใจในความเย็นชาของชายหนุ่มร่างสูง ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือเปล่าที่เขามาอยู่ใกล้แบบนี้ เหมือนว่ายิ่งชิดใกล้ ก็ยิ่งเจ็บลึก

     

                    “เข้าบ้านกันเถอะคะ” แม่บ้านผู้ดูแลบ้านหลังใหญ่แห่งนี้ชวนผู้มาใหม่ให้เดินเข้าบ้านหลังจากที่เจ้าของบ้านจากไปแล้ว

     

                    “เขาเป็นแบบนี้ตลอดเลหรอครับ” เด็กหนุ่มถามแม่บ้านที่เดินนำขึ้นบันไดเพื่อพาไปยังห้องนอนที่เตรียมไว้ 

     

                    “ไม่หรอกคะ แต่ตั้งแต่คุณท่านเสียก็เป็นแบบนี้ เธอคงช็อคเรื่องที่อยู่ๆก็มีน้อง ก็เลยค่อนข้างจะเย็นชา จะมีก็แต่ช่วงที่อยู่กับคุณยุนอาที่ร่าเริงขึ้น” ฮวางโบ แม่บ้านที่อยู่มานาน เห็นทุกการเปลี่ยนแปลงของคุณชายได้แต่บอกเล่า ให้ผู้มาใหม่ได้ทำความเข้าใจในความเป็นคุณชายของบ้าน

     

                    “ทำยังกะผมไม่ช็อคงั้นอ่ะที่อยู่ดีๆก็มีพี่แย่ๆแบบนี้” คยูฮยอนเอามือป้องปาก บอกกับพี่ชายหน้าหวานที่เริ่มทำหน้าเศร้าเมื่อยินชื่อน้องรหัส

     

                    “แล้วยุนอามาที่นี้บ่อยหรือเปล่าครับ” ฮีชอลถามแม่บ้านเพื่อจะได้เตรียมใจยอมรับความเจ็บที่กำลังจะเกิดขึ้น มือบางอยู่ในอุ้มมือของน้องชายที่บีบเบาๆให้กำลังใจ

     

                    “ก็มาบ่อยนะคะ อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง บางทีคุณชายก็ออกไปรับ น่ารักนะคะคู่นี้ ตอนแรกจะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่ว่าวันที่ถ่ายรูปแต่งงาน คุณท่านก็เสียไป ก็เลยต้องเลื่อนออกไป แต่งงานกันเมื่อไหร่บ้านหลังนี้ก็คงจะดีกว่านี้หล่ะคะ”

     

                    “พี่ฮีชอลไม่ได้ถามอะไรเลยนะครับ นอกจากว่าพี่ยุนอามาที่บ่อยหรือเปล่า คราวหลังก็อย่าพูดเกินความจำเป็นนะครับ” คยูฮยอนทนเห็นน้ำที่คลออยู่ในดวงตากลมโตของพี่ชายไม่ได้ จึงพูดออกมาแบบไม่เกรงใจ

     

                    “คยูฮยอน” ฮีชอลปรามน้องชายเสียงเบา นึกขอโทษป้าแม่บ้านในใจที่ต้องมาเจอโหมดไม่สนใจใครของคยูฮยอน

     

                    “ทำไมหล่ะครับ พี่ทนฟังได้หรอ ผมรู้ว่าผมเอาพี่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะยอมให้พี่ถูกทำร้ายจิตใจแบบนี้”

     

                    “เดี๋ยวดิฉันให้คนขึ้นมาช่วยจัดของนะคะ” ฮวางโบหน้าเสีย ไม่นึกว่าคุณชายคนเล็กที่พึ่งมาใหม่จะมีนิสัยไม่สนใจใครแบบคุณชายใหญ่

     

                    “ไม่ต้องหรอกครับ ให้คนไปเตรียมห้องนอนให้พี่ฮีชอลดีกว่า ผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งของของผมเท่าไหร่ อ้อ แล้วถ้าเป็นไปได้ห้องพี่ฮีชอลผมอยากให้อยู่ใกล้ห้องผมนะครับ” คยูฮยอนจัดการสั่งทุกอย่าง ใช้อำนาจของคุณชายคนเล็กของตระกูลอย่างเต็มที่

     

                  * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                   สองพี่น้องนั่งทานข้าวเย็นเพียงลำพังบนโต๊ะทานข้าวตัวใหญ่ อาหารบนโต๊ะก็มากมาย ฝีมือคนทำก็ระดับเซฟตามภัคตาคาร แต่สองพี่น้องกลับไม่รู้สึกว่ามันจะอร่อยไปกว่าที่บ้านหลังเล็ก กับข้าวน้อยอย่าง แต่คนนั่งทานข้าวด้วยเป็นสิบทั้งที่โต๊ะทานข้าวก็ออกจะเล็กนิดเดียว

     

                    “คิดถึงบ้านจังเลยพี่ฮีชอล ไม่รู่ป่านนี้แม่ครูกับพวกลิงที่บ้านจะเป็นไงกันมั่ง” คยูฮยอนบ่นกับพี่ชาย มือเขี่ยข้าวในจานสวยอย่างไม่มีอารมณ์จะทาน

     

                    “พึ่งมาอยู่ได้ไม่กี่ชั่วโมง เป็นโฮมซิคซะแล้วหรอ ทีเมื่อก่อนกว่าจะกลับเข้าบ้านได้ เถลไถลที่นู้นที่นี้จนดึก” รอยยิ้มหวานล้อเลียนน้องชาย หวังทำให้บรรยากาศมันดูสดใสขึ้น

     

                    “ก็มันไม่เหมือนกันนี้ครับ อันนู้นมันยังได้รู้ว่ายังไงก็กลับไปเจอ แม่ครู เจอพี่ เจอพวกลิง เจอความอบอุ่น แต่แบบนี้ ไม่เห็นมีอะไรเลย ไม่รู้จะให้มาอยู่ทำไม เขาก็ไม่ได้อยากได้น้องชายสักหน่อย”

     

                    “ก็เพราะเขาสิ่งที่คุณพ่อของเขากับคยูต้องการไง ไม่ดีใจหรือไง ได้รู้ว่าใครเป็นพ่อ ได้อยู่กับพี่ชายในบ้านหลังใหญ่แบบนี้ ต่อไปคยูอยากไปเที่ยวไหนก็ไปได้ อยากได้อะไรก็มีเงินซื้อ” มือบางลูบหัวน้องชายเป็นการปลอบใจ

     

                    “แต่ไอ้ที่พี่พูดมา ผมต้องแลกกับความสุขทั้งชีวิตเลยนะครับ” คยูฮยอนรวบช้อนส้อมเขาด้วยกันอย่างที่แม่ครูพร่ำสอนเมื่อครั้งเป็นเด็กชาย

     

                    “ไม่มีใครได้อะไรมาโดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนกับบางอย่างหรอกนะคยูฮยอน”

     

                    “แม่ครูก็บอกผมแบบนี้”

     

                    “ก็แม่ครูพูดกับพี่เองนี้หน่า พี่ถึงได้เอามาพูดกับเรา” ใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องยิ้มตามพี่ชาย นี้เป็นรอยยิ้มแรกในบ้านหลังนี้ของสองพี่น้อง

     

                    “พี่ก็เลยแลกความสุขในชีวิตกับการแอบรักใครบางคนไปเรื่อยๆแบบนี้อ่ะนะ” คยูฮยอนย้อนถามพี่ชาย และคำถามนี้ก็กระชากรอยยิ้มไปจากใบหน้าหวาน

     

                    “อือ ไม่ชอบใจหรอ” ฮีชอลถามน้องชายด้วยเสียงแผ่วเบา ก็รู้อยู่ว่าเป็นเรื่องที่น้องชายไม่ชอบมานานแสนนาน แต่คนเรา ต่อให้ใช้สมองตรึกตรองเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถห้ามหัวใจได้

     

                    “แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่นี้ใช่ไหมครับ ผมทนเห็นพี่เจ็บมานานมากแล้ว แล้วจะทนต่อไปก็คงไม่เป็นอะไร แต่พี่รู้ใช่ไหมครับว่าผมรักพี่มาก แล้วก็มากพอที่จะช่วยพี่ในทุกเรื่อง”

     

                   ประกายตาจริงจังของน้องชายทำให้ฮีชอลไม่อาจคาดเดาได้ว่าภายในท่าทีแบบนี้ คยูฮยอนกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ “พี่ก็รักคยูฮยอนมากนะ มากพอที่จะสละชีวิตทั้งชีวิตให้ได้”

     

                    “ขอบคุณครับ เราขึ้นข้างบนกันเหอะครับ” มือหนาจูงมือพี่ชายเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตนเอง “เป็นคนรวยมันก็ดีอย่างงี้เอง ไม่ต้องเก็บอะไรมีคนทำให้ตลอด ดีจังเลย ผมชักติดใจแล้วสิ”

     

                    “อะไรของเรา เมื่อกี้ยังบอกคิดถึงบ้านอยู่เลย”

     

                    “ก็คิดถึงไงครับ แต่ว่าแหม มันก็แลกเปลี่ยนไงพี่ กฎทั่วไปของชีวิตแหล่ะครับ” คยูฮยอนตอบหน้าตาทะเล้น พยายามดึงพี่ชายออกจากอารมณ์เศร้าให้ได้

     

                    เสียงเคาะประตูห้องเรียกให้สองพี่น้องหันไปสนใจ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตู “มีอะไร”

     

                    “คุณชายกลับมาแล้วคะ ให้ดิฉันมาเรียกคุณฮีชอลไปพบที่ห้องทำงาน”

     

                    “อือ ไปบอกคุณชายของเธอ ว่าเดี๋ยวพี่ชายฉันจะไป”

     

                    “คะ”

     

                    คยูฮยอนเดินกลับไปหาพี่ชายที่กำลังทำหน้าเศร้า เตรียมใจก่อนไปพบกับความเย็นชาที่ต่อจากนี้อีกหนึ่งปีคงไม่มีทางหนีพ้น “พี่จะไปหาเขาเลยหรือเปล่าครับ หรือให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม”

     

                    ยิ้มเหนื่อยอ่อนของฮีชอลมันออกมาจากใจ ที่อย่างน้อยในสถานที่ที่มีแต่คนแปลกหน้า ไม่คุ้นเคยก็ยังมีน้องชายอีกคนที่อยู่เป็นเพื่อน “ไม่เป็นอะไรหรอก พี่ไปเองได้ นายเองก็นอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า”

     

                    “ครับ พี่เองก็ สู้ๆนะ ถ้าเกิดทนไม่ได้ก็ ร้องดังๆเดี๋ยวผมไปช่วยเอง” คยูฮยอนบอกพี่ชายด้วยเสยงจริงจัง ไม่รู้ว่าที่เรียกไป จะไปคุยเรื่องอะไรกันแน่ ถ้าเกิดจะทำอะไรขึ้นใครจะช่วยได้ นอกจากเขา

     

                    “คิดไปไหนแล้วคยู เขาไม่ทำอะไรพี่หรอกหน่า ไปอาบน้ำนอนไป” ฮีชอลหัวเราะให้กับความกังวลของน้องชายก่อนจะปิดประตูห้อง เดินไปตามระเบียงยาว เคาะประตูหนาสองสามที รอคนข้างในตอบรับ

     

                    “เข้ามา”

     

                    “คุณมีอะไรเรียกผมหรือครับ” เสียงที่พยายามทำให้นิ่ง เป็นเสียงที่ฮีชอลต้องใจทำที่สุด ในห้องทำงานที่เครื่องปรับอากาศทำหน้าที่ได้ดีจนหนาวเย็น คนที่นั่งอยู่ในห้อง ชายหนุ่มที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน จะทำอะไร ก็ยังอยู่ในหัวใจเรื่อยมา

     

                    “ไหนๆ คุณก็มาอยู่ที่บ้านผมแล้ว แล้วคยูฮยอนก็ได้เป็นน้องชายผมแล้ว คุณสนใจที่จะกลับมาทำงานให้ผมไหม” รอยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าชายหนุ่ม การทำงานร่วมกับร่างบางตรงหน้า อย่างน้อยก็ทำให้เขาสบายใจไม่เรื่องจุกจิกมากมาย

     

                    “แต่คุณเป็นคนไล่ผมออก” ฮีชอลเองก็ดูตั้งตัวไม่ทันกับเรื่องที่ชายหนุ่มพูด  มันดูห่างไกลกับสิ่งที่เจาคิดเอาไว้มาก จนไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

     

                    “ก็ใช่ แต่การได้ทำงานกับคนที่เราสบายใจด้วยมันก็ดีไม่ใช่หรือไง ผมเห็นว่าในเมื่อคนที่อยู่บ้านเดียวกัน ทำงานด้วยกัน ยิ่งเป็นเลขาก็น่าจะดี หรือคุณได้งานใหม่แล้ว”

     

                    คำร่ายยาวของชายหนุ่มทำให้ฮีชอลแอบดีใจลึกๆ อย่างน้อย ตนเองก็มีคุณค่าสำหรับชายหนุ่มตรงหน้าอยู่บ้าง แม้ในฐานะคนหนึ่งก็ตาม “เออ..ถ้าคุณคิดว่าผมสามารถทำได้ ผมจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดครับ” ใบหน้าหวานยิ้มกว้าง ไม่คิดว่าในชีวิตจะมีเรื่องน่ายินดีแบบนี้ผ่านเข้ามาเป็นครั้งที่สองในชีวิต

     

                    “ดีงั้นคุณก็เริ่มงานได้วันพรุ่งนี้เลย วันนี้ก็ไปรีบนอน พรุ่งนี้จะได้เริ่มงานอย่างสดชื่น” ท่าทีสบายๆ คำพูดเป็นกันเอง มันทำให้คนฟังมีความสุข จนแทบไม่อาจกลั้นยิ้มไว้ได้

     

                    ความสุขเล็กๆของคนแอบเล็ก ที่ฮีชอลไม่ค่อยได้สัมผัส วันนี้ได้รู้แล้วว่ามันเป็นยังไง

     

                    “งั้นผมขอตัวนะครับ คุณเองก็อย่านอนดึก มันไม่ดีต่อสุขภาพ”

     

                    “ออกไปได้แล้ว” ใบหน้าที่เคยยิ้มกลับแปรเปลี่ยนทันทีที่ฮีชอลพูดประโยคนั้นออกมา จนทำให้ร่างบางตกใจ และสงสัย และได้แต่เดินกลับออกไปอย่างสงสัย 

     

                    ความสงสัยของร่างบางที่ซีวอนเองก็เห็นในแววตาคู่นั้น แต่สิ่งที่ฮีชอลไม่เข้าใจ ว่าทำไมแค่คำพูดธรรมดาที่คนทั่วไปใช้พูดกัน เพื่อแสดงความห่วงใยถึงทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจ

                   

                    เป็นแค่ผู้อยู่อาศัยเท่านั้น แล้วมีสิทธิ์อะไรที่จะมาออกคำสั่งแบบนี้

     

                * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

                     ร่างบางเดินกลับเข้าห้องนอนด้วยหัวใจที่แฟบฟีบ ทั้งที่มันมีโอกาสพองลมอยู่ได้เพียงไม่นาน  “เฮ้อ ช่างเป็นคุณชายที่เข้าใจอะไรยากจริงๆ” คำพูดเบาๆที่บ่นกับตัวเอง เมื่อเดินไปตามระเบียงกว้าง ก่อนจะหยุดที่ห้องนอนห้องใหม่ อยู่ข้างห้องของน้องชาย

     

                    เตียงกว้างกว่าที่เคยมี นอนเพียงคนเดียวไม่ต้องเบียดกับน้องชาย ที่นอนแสนนุ่มกว่าอันเก่า แต่ทำไมไม่ให้ความรู้สึกที่สบายใจเลย ร่างบางได้แต่ยืนมองนิ่งๆ จนกระทั่งเห็นบางอย่างที่แปลกออกไป

     

                    กุญแจดอกเล็ก กับ กระดาษโน้ตอีกหนึ่งแผ่น

     

                    กุญแจห้องใคร พี่น่าจะรู้ ใช้เมื่อหัวใจอยากใช้นะครับ ผมเอามาให้เป็นของแลกเปลี่ยนกับการมาอยู่เป็นเพื่อนของผม บอกแล้วทุกอย่างต้องมีการข้อแลกเปลี่ยนไงครับ  

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                          คยูฮยน

     

                   * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                   

                         วันแรกของการทำงานอีกครั้งของร่างบางผ่านไปได้ด้วยดี ทุกอย่างเป็นไปไปอย่างที่เคยเป็น  เข้าไปในห้องทำงานก็ต่อเมื่อเจ้านาย ทำหน้าที่ในส่วนรับผิดชอบอย่างดีที่สุด รอเมื่อถึงตอนเย็นก็กลับบ้านพร้อมเจ้านาย จะมีที่เปลี่ยนแปลงไปคือ ตอนนี้ฮีชอลอาศัยอยู่บ้านเดียวกับเจ้านาย

     

                    เมื่อลงจากรถเสียงหัวเราะใสของชายหญิงคู่หนึ่งดังมาจากในตัวบ้านจนร่างบางนึกสงสัย ผิดกับชายหนุ่มอีกคนที่ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ รีบเดินดุ่มเข้าไปในบ้านเหมือนรู้ว่าเสียงหัวเราะนี้เป็นของใคร

     

                    “ยุนอามาทำอะไรตอนผมไม่อยู่ครับเนี่ย” ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้คนรักก่อนจะโน้มตัวลงหอมแก้มเนียน ไม่สนใจสายตาอีกสองคู่ที่มองมา ผิดกับหญิงสาวที่ใบหน้ากำลังแดงกล่ำ

     

                    “ยุนอามาไม่ได้หรอคะ” เสียงหวาน รอยยิ้มอ่อนโยน ของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ในคำตอบแสนยอกย้อน แต่ก็เพราะเป็น หญิงสาวที่รัก ไม่ว่าจะตอบอย่างไรก็เป็นคำตอบที่ชายหนุ่มพอใจอยู่ดี

     

                    “มาได้สิครับ บ้านหลังนี้ก็เหมือนบ้านยุนอา พอเราแต่งงานกัน ยุนอาก็ต้องมาอยู่ที่นี้ ทีนี่ยุนอาห้ามเบื่อนะครับ” คำพูดและท่าทางแสนสาภพที่เต็มไปด้วยความรัก ยังไม่เท่ากับนัยน์ตาคมที่เปล่งประกายออกมา

     

                    ความหวานของคนสองคนที่ดูเหมือนว่าจะลืมโลกทั้งโลก ไม่สนใจเลยว่าตรงนั้นจะมีอีกคนที่ยืนมองด้วยความเจ็บช้ำ ฮีชอลค่อยๆเดินออกจากห้องโถงกว้าง จะขึ้นไปยังห้องนอน เลี่ยงการมองภาพที่ทำให้เศร้าหมอง

     

                    มือใหญ่ของเด็กหนุ่มเอื้อมมาบีบมือบางของพี่ชายอย่างให้กำลังใจ และเป็นเครื่องยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างก่อนจะจูงมือพี่ชาย ผ่านคนทั้งคู่ที่กำลังอยู่ในโลกส่วนตัว ขึ้นบันไดเดินเข้าไปในห้องกว้างที่เตียงใหญ่ของพี่ชายหน้าหวาน

     

                    “คยูพี่อยากกลับบ้าน ไปอยู่กับแม่ครู พี่ไม่อยากอยู่ที่นี้แล้ว” ใบหน้าหวานพูดทั้งน้ำตาอาบแก้ม อยู่ในอ้อมกอดปลอบประโลมของน้องชาย ทันทีที่ประตูห้องปิดลง ไม่อยากจะอยู่ที่นี้อีกแล้ว แค่นี้ก็แทบรับไม่ไหวอีกแล้ว

     

                    “การแลกเปลี่ยนไงครับ พี่ได้อยู่ใกล้กับคนที่พี่รัก ไม่ดีหรือครับ ” คยูฮยอนลูบแผ่นหลังบางของพี่ชายที่กำลังสั่นสะท้าน หว่านล้อมหาเหตุผลที่จะรั้งให้ฮีชอลอยู่ที่นี้ต่อไป

     

                    “ไม่คุ้มเลยคยูฮยอน การแลกเปลี่ยนแบบนี้ พี่ต้องทนอะไร อีกแค่ไหนกัน บางทีการแอบรักก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ขนาดนี้ก็ได้ นะคยูฮยอน เรื่องของความรักยังมีอีกหลายอย่างให้เราต้องเรียนรู้ และไม่ต้องเจ็บแบบนี้”

     

                      “พี่ครับ อดทนอีกนิดได้ไหมครับ คิดซะว่าทำเพื่อผมก็ได้ พี่มาอยู่เป็นเพื่อนผมไงครับ ไม่อยากเห็น ก็ไม่ต้องมอง ไม่ต้องฟัง พี่อยากเดินหนีเมื่อไหร่ก็ได้ นะครับ แค่อยู่เป็นเพื่อนผมก่อน ผมเองก็อยู่ที่นี้คนเดียวไม่ได้เหมือนกัน” คยูฮยอนขอร้องพี่ชายด้วยเหตุผลที่ฮีชอลไม่มีทางปฏิเสธได้ เพราะรู้ดีว่า เพื่อน้องๆ พี่ฮีชอลจะยอมทำให้ได้ทุกอย่าง แล้วยิ่งน้องรักอย่างเขา พี่ชายไม่มีทางปล่อยให้ต้องผจญอยู่ในโลกใหม่ที่คุ้นเคยเพียงลำพัง

     

                    “แค่ปีเดียวเท่านั้นนะ”

     

                    “ครับพี่ ปีเดียวเท่านั้น” ชายหนุ่มพยักหน้า ให้สัญญากับพี่ชาย เรื่องทั้งหมดจะจบลงภายในปีเดียว ปีสุดท้ายที่พี่ชายเขาต้องร้องไห้ให้กับความรักที่ไม่สมหวัง

     

                    การแลกเปลี่ยนครั้งนี้มันสูง.....จนชายหนุ่มเองก็ยังไม่กล้าบอกใคร..แม้แต่ฮีชอลหนึ่งคนที่ร่วมแลกเปลี่ยนโดยไม่รู้ตัว

                    * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                   

                       ยามดึกสงัด ๆไฟทุกดวงในบ้านหลังใหญ่ถูกปิดลงหมดแล้ว ระเบียงทางเดินที่มืดมิดดูเหมือนจะยาวไกลกว่าทุกครั้งที่เดินผ่านยามที่มีแสงไฟ  ประตูห้องที่เหมือนๆกันไม่ทำให้คนในความมืดสนใจไดเลย

     

                         ร่างบอบบาง เดินลงเท้าแผ่วเบาไม่อยากทำเสียงให้ใครตื่นขึ้นมายามที่เข็มสั้นของนาฬิกาเลยเลข12ไปแล้วแบบนี้ คงไม่ดีแน่หากมีใครตื่นมาพบผู้มาอยู่ใหม่ เดินอยู่ท่ามกลางความมืด ไปตามระเบียงที่ทอดยาวไปอีกฟากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในมือบางกำกุญแจหนึ่งดอกแน่น

     

                    ฮีชอลจับลูกลูกบิดประตู ค่อยหมุนอย่างแผ่วเบา  แต่แล้วเสียงล็อคประตูก็ดังให้ร่างบางใจหายเล่น ก่อนจะผ่อนลมหายใจเมื่อไม่ได้ยินเสียงใดๆจากภายในห้องที่ปิดไฟมืด มือบางใช้กุญแจที่น้องชายให้มา ไขเข้าไปในห้องมืดสนิท ด้วยใจที่กระวนกระวาย และหวาดกลัว

     

                    บนเตียงกว้างกลางห้อง ชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของกำลังนอนหลับอย่างมีความสุขไม่รับรู้ว่าตอนนี้มีใครบางคนเดินเข้ามาประชิดเตียง อย่างถือวิสาสะ

     

                    แม้ในความมืด แต่ใบหน้าคม ดวงตาดุ ริมฝีปากที่คอยพ่นแต่คำร้ายๆ ก็ยังชัดเจนในใจของฮีชอล มือบางอยากจะเอื้อมไปสัมผัส คนที่รักมานาน แต่ก็กลัว

     

                   แค่ได้ใกล้ชิดขนาดนี้ โดยไม่มีความเย็นชา ไม่มีวาจาร้ายๆมาเฉือดเชือนหัวใจ ก็ดีเกินพอแล้ว...อย่าหวังอะไรที่มากไปกว่านี้เลย

     

                    ร่างบางนั่งริมขอบเตียงจ้องมองชายหนุ่มที่นอนนิ่ง อยากถ่ายทอดความรัก ความรู้สึกให้รับรู้ แต่วันนั้นคงไม่มาถึง หรือถ้าวันนั้นมีจริง....คงเป็นวันสุดท้ายที่ได้พบหน้า

     

                    ริมฝีปากอิ่มประทับลงบนกลีบปากหนา อย่างนุ่มนวลและแผ่วเบา ไม่หวังให้ใครรับรู้เรื่องในคืนนี้ จะมีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่รู้ และจดจำมันไว้  ไม่ต้องมีใครร่วมรับรู้

     

                    คิม ฮีชอลเดินออกจากห้องของชายหนุ่มอย่างเงียบสงบ หันไปมองครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดประตูเดินกลับห้องตัวเองทั้งน้ำตา ที่ไม่รู้ว่าไหลลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่

     

                   

                    รู้ว่าสิ่งที่ทำมันไม่ถูก....แต่สำหรับหัวใจที่เต็มไปด้วยบาดแผล ขอแค่นี้คงไม่มากเกินไป

     

    * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

     

    Talk

     

                    ครบร้อยคร้า   ฉลอง สงกรานต์นะคะ 

    อ่านส่วนหลังแล้วเป็นไงมั่งคะ อย่าว่าคิมฮีเลยนะคะ  เพราะว่าความรักคะ เลยต้องมาลักจูบพระเอกแบบนี้ หลังจากนี้ จะเข้าโหมดเศร้าอย่างจริงจังแล้วนะคะ( แต่ไม่รู้ว่าจะเศร้าหรือเปล่า จะพยายามเต็มที่คะ)

    หยุดยาว เดินทางระวังๆนะคะ แล้วก็ให้มีความสุขในวันปีใหม่ไทยคะ

     

     

    ขอบคุณทุกคอมเม้มท์ นะคะ

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×