คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : The bodyguard 6 100%
The bodyguard 6
“คุณซีวอนถ่ายละครไหวไหมครับ” แทยังผู้กำกับหนุ่มไฟแรงสุดเท่ เดินเข้ามาถามพระเอกของเรื่องด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าของพระเอกดังซีดลงจนน่าตกใจ
“ไหวครับคุณแทยัง” เพราะสปิริตของนักแสดง ทำให้พระเอกหนุ่มตอบแบบนั้นออกไป ไม่อยากให้ผู้ร่วมงานคนอื่นๆต้องเดือดร้อน แล้วไหนจะกองถ่ายอีกที่ต้องยกกอง
“แต่วันนี้นายมีถ่ายฉากที่ต้องไปช่วยนางเอกนะ แล้วยังต้องวิ่งไล่จับซึงรีอีก จะวิ่งไหวหรือเปล่า” ผู้จัดการส่วนตัว ถามน้องชายด้วยความเป็นห่วง ดูสภาพแล้ว แค่เดินยังจะไม่รอด แล้วจะไปวิ่งไล่จับใครได้
“นั้นสิครับ วันนี้จะถ่ายฉากที่คุณต้องเข้าไปช่วยน้องยุนอา แล้วก็แอ็คชั่นกับซึงรีอีก ผมเกรงว่าคุณจะไม่ไหวนะครับ ถ้ายังไงเราถ่ายกันพรุ่งนี้ดีกว่า ส่วนคุณก็กลับไปพักผ่อน วันนี้เราถ่ายซีนที่น้องยุนอาถูกซึงรีจับตัวไปก่อนก็ได้ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอพาซีวอนกลับเลยหล่ะกันะครับ” ลีทึกถือโอกาสพาน้องชายที่อยากทำเท่โชว์สปิริตแบบไม่เจียมสังขารกลับบ้าน ค่อยๆประคองชายหนุ่มที่อ่อนแรงจากการเสียเลือดไปโดยมีลุงคังอิน
ช่วยประคองคุณหนูของแกอยู่อีกข้าง
“ให้ผมไปส่งที่โรงพยาบาลไหมครับคุณลีทึก” ลุงคังอินถามเจ้านายหนุ่มอีกคนหลังจากขึ้นมาในรถกันเป็นที่เรียบร้อย ยิ่งมองเห็นใบหน้าของคุณหนู ลุงก็ยิ่งเป็นห่วง
“ครับ/ไม่ต้องครับ” สองเสียงที่ตอบพร้อมกัน ทำเอาคนขับรถต้องมองผู้โดยสารทั้งสองผ่านกระจกมองหลังอย่างงุนงง
“ทำไมไม่ไปโรงพยาบาล” เสียงพี่ชายหันมาถามน้องชายอย่างจริงจัง ดูสภาพหน้าซีดขนาดนี้ ยังไม่ยอมไปหาหมออีก
“ไปหาแล้วให้ผมตอบว่าไงหล่ะพี่ แล้วคนที่โรงบาลได้แตกตื่น ลุงไปส่งผมที่ออฟฟิคดีกว่าครับ นะครับ ผมว่าจะเข้าไปสะสางงานสักหน่อย” ชายหนุ่มมองหน้าพี่ชายแล้วยิ้ม ยักคิ้วให้อีกหนึ่งที เป็นอันรู้กัน
“แต่ว่าคุณหนูน่าจะ....”
“ไปส่งที่ออฟฟิคก็แล้วกันครับลุง ตามใจคุณหนูของลุงหน่อย เดี๋ยวมันจะขาดใจตายซะเปล่าๆ” ลุงคังอินที่แสนจะเป็นห่วงคุณหนู มองหน้าคุณลีทึก ก่อนจะพยักหน้ารับ ทั้งๆ ที่ก็ไม่เห็นด้วย
“พี่ทึก เดี๋ยวพอถึงห้างแล้ว พี่แวะไปซื้อขนมปังในห้างให้ผมหน่อยสิครับ ตั้งแต่เช้าผมยังไม่ได้กินอะไรเลย” ชายหนุ่มหันมาบอกพี่ชายผู้จัดการส่วนตัว พลางเอามือลูบกล้ามเนื้อหน้าท้องของตัวเองไปมา
“แล้วทำไมไม่ไปซื้อเองหล่ะ ฉันจะรู้ไหมว่านายอยากกินอะไร แล้วขึ้นไปเองคนเดียวไหวหรือไง” ลีทึกพูดพลางก็มองสีหน้าที่เริ่มดีขึ้นนิดหน่อยของน้องชาย เลือดที่ปลายนิ้วทั้งห้าก็หยุดไหลไปนานแล้ว
“ให้ผมไปซื้อเองได้ คนได้แตกตื่นกันพอดี พี่ไปซื้อให้ผมหน่อยนะครับ ผมเดินขึ้นลิฟต์ไปไหวครับพี่”
“เออ เดี๋ยวพี่ไปดูให้ก็ได้ แล้วลุงจะเอาอะไรด้วยไหมครับ ผมจะดูมาฝาก” ลีทึกยื่นหน้าไปข้างหน้าถามคนขับรถที่จับจ้องสายตาอยู่บนถนน
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกับไปหาอะไรที่กินที่บ้านดีกว่า ตอนเย็นจะกลับแล้วคุณหนูโทรเรียกผมมารับนะครับ อย่ากลับบ้านเองคนเดียวมันอันตราย” ชายชราพุดกับคุณหนูด้วยความเป็นห่วงไม่กล้าให้ไปไหนเพียงลำพัง
“ครับลุง”
“ลุงเขาคิดว่าแกอยู่อนุบาลหรือเปล่าซีวอน” ลีทึกแอบกระซิบนินทาลุงคังอินที่ดูจะเป็นห่วงคุณหนูเกินความจำเป็น
“ก็ผมน่ารักไงพี่ ลุงถึงได้เป็นห่วง” คำตอบของน้องชายสร้างความหมั่นไส้ให้พี่ชายจนแทบอยากจะโบกหัวทุยๆของน้องชายตัวดี
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
รถซีดานคันหรูจอดหน้าห้างส่งคุณผู้จัดการแสนดี ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปที่จอดรถผู้บริหารส่งลูกชายเจ้าของห้าง
“ผมไปแล้วนะครับคุณหนู ตอนเย็นอย่าลืมโทรเรียกผมมารับนะครับ”
\
“ครับลุง”
ซีวอนเดินลงไปตามทางเดิน ก่อนจะเข้าไปในลิฟต์ เพียงลำพัง เสียงสัญญาณของลิฟต์ดังขึ้นเมื่อมาถึงชั้นที่ต้องการ ชายหนุ่มเดินออกมาจากลิฟต์อย่างคนหมดแรง ใบหน้าคมขาวซีด จนยามหน้าหวานประจำชั้นที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าลิฟต์รีบเดินเข้ามาอย่างเป็นห่วง
“คุณซีวอนเป็นอะไรไปครับ” เสียงหวานถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงดาราในดวงใจก่อนจะเข้าพยุงร่างสูงที่เหมือนพร้อมจะล้มตลอดเวลา “แล้วนิ้วคุณไปโดนอะไรมาครับ คุณซีวอน”
“คุณฮีชอล ช่วยไปส่งผมที่ห้องทีครับ ผมไม่มีแรงเลย” ร่างสูงเอ่ยเสียงแผ่ว ก่อนจะทิ้งน้ำหนักบางส่วนลงบนไหล่บางแขนข้างหนึ่งวางอยู่บนไหล่บางโอบแนบชิด
สองร่างบที่เดินกันแนบชิด ทำให้ใบหน้าของรปภ. ขึ้นสีเรื่อหัวใจดวงน้อยเต้นถี่รั่ว เมื่อก่อนเคยฝันว่าหากได้ชิดใกล้กับชายหนุ่มคนนี้คงจะดีไม่น้อย แต่ความจริงตอนนี้มันกลับรู้สึกดีกว่าที่คิดไว้ล้านเท่าเลยทีเดียว
มือบางเปิดประตูค่อยพยุงร่างใหญ่ของชายหนุ่มเดินไปที่โซฟา “เดี๋ยวคุณนอนพักที่โซฟาก่อนหล่ะกันนะครับ”
เพราะน้ำหนักตัวที่มากกว่าของซีวอนเมื่อชายหนุ่มล้มตัวลงนอน ร่างบางกว่าจึงเสียหลักล้มลงไปในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่เหมือนจะอ้าแขนออกรับได้พอดี
เพราะความตกตะลึงทำให้ร่างบางได้แต่หลับตานิ่งใบหน้าหวานค่อยๆไต้ระดับสี จากชมพูระเรือเป็นแดงเข้มอย่างรวดเร็ว ทำให้ชายหนุ่มเจ้าของวงแขนกว้างนอนมองอย่างเอ็นดู พร้อมไปกับสูดดมความหอมจากร่างบาง กลิ่นที่ไม่ใช่น้ำหอมฉุนเหมือนคนอื่นๆ แต่เป็นกลิ่นแป้งเด็กที่หอมหวาน
“เฮ้ย” ผู้จัดการจอมโหดเดินเข้ามาในห้องตกใจกับคนสองคนกอดกันอยู่บนโซฟาทั้งที่ไม่ได้ปิดประตูห้อง
“พี่ทึก โอ้ย” เสียงของเจ้าของพูดชื่อพี่ชายที่เดินเข้ามาขัดจังหวะ แลวตามด้วยเสียงร้องโอ้ยเมื่อร่างบางที่ดูก็คงตกใจไม่น้อยลุกพรวดขึ้นจนหัวเล็กๆชนเข้ากับคางกว้างอย่างจัง ก่อนจะวิ่งหายไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
“แกกำลังทำอะไรเมื่อกี้ห่ะซีวอนนนนนนนนนนนนน” ลีทึกตวาดเรียกน้องชายด้วยเสียงดังลั่นทันทีที่มองร่างบางของรปภ.วิ่งจู๊ดตัดหน้าออกจากห้องไป
“ก็นอนกอดว่าที่ที่รักไงครับพี่ชาย ไม่เห็นต้องเสียงดังขนาดนี้เลย ดูดิเข้ามาก็ไม่เสียงดังเลย ว่าที่ที่รักของผมตกใจ วิ่งหนีไปเลย ป่านนี้กำลังกลัวว่าจะโดนตัดเงินเดือนอีกแน่ๆเลย”
“อ้อหรอ แล้วทำไมหน้าซีดอีกแล้ว เลือดที่นิ้วก็หยุดไหลไปแล้วทำไมไหลออกมาอีก อธิบายเรื่องทุกอย่างมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” ลีทึกมองท่าทางกวนประสาทของน้องชายดูมันแตกต่างกับไอ้ที่เห็นจะเป็นจะตายสำออยอ่อนแรงเหมือนเป็นคนละคน
“เอาตั้งแต่เรื่องไหนหล่ะครับพี่ชาย” รอยยิ้มกวนประสาทของชายหนุ่มผู่พ่วงหลายตำแหน่งถามพี่ชายอย่างอารมณ์ดี ก็เพราะวันนี้ได้นอนกอดแถมได้แอบหอมแก้มนุ่มๆของว่าที่คุณนายชเวไปอีกหนึ่งที กำไรเห็นๆ
“ทุกเรื่องที่แกทำอ่ะ เล่ามาเดี๋ยวนี้”
“ทุกเรื่องเลยหรอครับ งั้นก็ เมื่อคืนตอนเที่ยงคืนได้มั้ง ผมออกไปเก็บขี้หมาหน้าแถวบ้านอ่ะครับ แล้วก็เอาคัตเตอร์กรีดรถตัวเอง พี่รู้ป่ะตอนลงมีดหน้า ผมโคตรเสียดายอ่า พึ่งซื้อมาด้วย น้ำแทบไหล” ชายหนุ่มเล่าไปพลางเสียดายรถคันสวยที่พึ่งถอยออกมา
“แล้วใครใช้ให้ทำเล่าไอ้บ้า” ลีทึกหมั่นไส้ท่าทางของน้องชาย ทำเองแล้วมาบ่นเสียดายเอง สมน้ำหน้ามัน อยากบ้าดีนัก ตอนนี้หล่ะมาทำเสียดาย
“ก็เพราะไม่มีใครใช้เนี่ยแหล่ะครับ ผมถึงได้เลือกคันนี้ มันพึ่งได้มายังผูกพันไม่เท่าไหร่ พอกรีดเสร็จผมก็เอาไอ้ขี้หมาที่ไปเก็บมาเอามาปาใส่ เหม็นก็เหม็น ไม่ไหว” ชายหนุ่มเล่าด้วยความสลดเล็กน้อยเพราะกำลังเสียดายมอไซค์คันสวยกะว่าจะพาสก้อยหน้าหวานอย่างยามที่รักไปแว้นซ์สักหน่อย
“สรุปว่าไอ้รถคันนั้นฝีมือนาย?”
“ถูกครับไม่ใช่ฝีมือผมแล้วใครจะทำได้เล่า” น้องชายย้อนถามพี่ชายหน้าซื่อ
“แล้วไอ้เลือดที่นิ้วหล่ะ เลือดปลอมหรือไง” ลีทึกเหล่ตามองมือของน้องที่เลือดหยุดไหลเป็นรอบที่สองแล้ว โดยไม่ต้องอาศัยการทำแผล แค่เอาทิชชู่ซับไม่กี่ที
“เลือดจรงดิพี่ ผมไม่กระจอกขนาดใช้เลือดปลอมหรอ ระดับ ชเว ซีวอนเพื่อ คิม ฮีชอล ต้องแสดงจริงเท่านั้นครับคุณพี่”
“แล้วมันไหลได้ไง” มองหน้าเจ้าเล่ห์ของน้องชายแล้วได้แต่สงสารคนที่กองถ่าน สงสารลุงคังอิน และสงสารคุณรปภ.หน้าหวานที่ตกหลุมพรางเจ้าจิ้งจอกเก้าหางตัวนี้
“ก็เจ้านี้ไงครับ” ซีวอนหยิบเจ้านี้ที่ว่าออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ส่งให้พี่ชาย
“เข็มเนี้ยนะ” ลีทึกร้องเสียงหลงเมื่อมองเห็นอุปกรณ์เสริมของน้องชาย แล้วหันไปมองหน้าน้องชายสุดหล่ออีกครั้ง “โรคจิตเปล่าว่ะ เอาเข็มทิ่มนิ้วตัวเอง
“โฮ้ พี่ว่าผมได้ไง จะจีบพรหมลิขิตทั้งทีมันก็ต้องลงทุนหน่อยสิครับ ผมอาศัยช่วงแฟนคลับกำลังชุลมุนเอา เข็มทิ่มๆๆๆๆ แล้วมันก็ไหลงลงมา เยอะเลย แล้วก็คงเพราะคนมุงเยอะ แล้วไหนจะต้องเซนต์ให้แฟนๆอีก หน้าก็เลยซีดเลือดก็ไหลลงมาเยอะ”
“นี้พวกฉันโดนนายหลอกทั้งหมดเลยใช่ไหมเนี้ย”
“ไม่เชิงหรอกครับพี่” ใบหน้าคมยิ้มอ่อนๆ ขอโทษพี่ชาย แต่เพราะว่ามันจำเป็นนิหน่า ขอให้ทุกคนเข้าลูกด้วยนะครับ พระองค์ แล้ววันอาทิตย์ลูกจะไปสารภาพอีกครั้ง
“แล้วไอ้เมื่อกี้หล่ะ ที่มานอนกอดกันกลมซุกซบหวานชื่นขนาดนั้น มีคำอธิบายไหม”
“มันดูหวานมากเลยหรอครับพี่ อ่า เขินจังเลยนะเนี่ย” ใบหน้าคมสันของชายหนุ่ม เป็นสีแดงเพียงนิด ก่อนหายไป จนแทบมองไม่ทัน
“มาเขิน อธิบายมา” ลีทึกมองหน้าน้องชายที่นับวันยิ่งเป็นเอามากเกินเยียวยา
“ก็ในลิฟต์ ผมเอาแป้งโปะหน้า แล้วก็เอาเข็มจิ้มอีกรอบ เท่านั้นเองครับ แล้วก็ นั้นแหล่ะ อย่างพี่เห็น คนอะไรไม่รู้ตัวนุ่มนิ่มสุดๆ กอดเต็มไม้เต็มมือ หอมแป้งเด็กด้วย นี้ถ้าพี่ไม่ขึ้นมา ผมคงเนียนแกล้งหลับไปแล้ว”
“ไอ้วอนให้มันน้อยๆหน่อย เกิดมีใครมาเห็นแล้วเอาไปบอกคุณลุงว่าไง แล้วที่ให้ฉันไปซื้อขนมปังก็แผนนายจะลวนลามยามใช่ไหม”
“ไม่เอาหน่าพี่อย่าคิดมาก นิดๆหน่อยๆ คราวนี้ตาพี่โทรหาพ่อได้แล้ว บอกไปเลยว่าผมโดนปาอุนจิ ผมโดนทำร้ายบาดเจ็บ โทรเลยพี่”
“เออ สั่งจริงเว้ย” แม้ปากจะพูดบ่นแต่มือบางก็หยิบโทรศัพท์กดโทรออกหาคุณลุง ผู้แสนน่านับถือแตกต่างกับลูกชายสุดฤทธิ์ “สวัสดีครับคุณลุง”
/ว่าไงลีทึก มีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า/
“ครับคุณลุง ซีวอนตอนนี้กำลังโดนโจมตีหนักเลยครับ เมื่อคืนมันมีคนเอาขี้หมามาโยนใส่มอไซค์คันที่พึ่งซื้อมาอ่ะครับคุณลุง แล้วยังเอามีดมากรีดด้วยนะครับ แล้วเมื่อเช้าก็มีคนอาศัยจังหวะตอนกำลังวุ่น ใช้ของมีคนแทงมืองของซีวอนจนเลือดไหลหน้าซีดมาก”
/แล้วมันเป็นไงบ้างแล้วตอนนี้ ไปหาหมอหรือยัง/ น้ำเสียงแสนเป็นห่วงของพ่อทำเอาคนแอบฟังซาบซึ้งและรู้สึกผิดหน่อยๆอยู่เหมือนกัน
“เรียบร้อยแล้วครับ คุณลุงผมว่าเราหาบอดี้การ์ดสักคนให้ซีวอนเหอะครับ” ใบหน้าของชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างที่พี่ชายรู้ว่าเขาต้องการอะไร
/อือ ได้ ขอลุงคุยกับซีวอนหน่อยสิ/
ลีทึกส่งโทรศัพท์ให้น้องชาย แล้วนั่งกลั้นยิ้ม เมื่อได้ยินเสียงสำออยที่ไม่ค่อยจะได้ยินบ่อย “สวัสดีครับพ่อ”
/เป็นไงมั่งลูก คงต้องมีการ์ดสักคนแล้วใช่ไหมเนี้ย/
“ครับพ่อ” ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างให้พี่ชายที่นั่งอยู่ไม่ห่าง
/เดี๋ยวพ่อโทรหาท่านดงเฮให้หล่ะกัน จะได้ดูว่าจะส่งใครมาเป็นการ์ดให้ลูก/
คำพูดของพ่อทำให้ชายหนุ่มถึงกับชะงักนิ่ง อึ้ง ไม่คิดว่าพ่อจะเล่นแบบนี้ “ท่านดงเฮที่เป็นส.ส.อ่านะพ่อ”
/อือ นั่นแหล่ะ เป็นเจ้าของเอเยนซี่การ์ดฝีมือดีด้วย เดี๋ยวพ่อโทรไปบอกพรุ่งนี้ก็คงส่งคนมาให้เลือก ช่วงนี้ก็ระวังตัวหน่อยหล่ะกัน แค่นี้นะพ่อต้องพาแม่ไปช็อปแล้ว/
“ครับหวัดดีครับ” ชายหนุ่มบอกลาผู้เป็นพ่ออย่างเศร้าๆ
ม่ายยยย พ่อไม่เข้าใจวอน อ่าพ่อ ผมจะเอาเมีย เอาการ์ดหน้าหวานๆ ไม่ใช่ การ์ดหน้าโหด ของท่านดงเฮ
To~be~con
Talk
เอามาลงให้แล้วนะคะ
ขอเม้มท์เยอะๆนะคะ ความโลภยังอยู่ และอาการปวดตายังไม่หาย 555
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ
ความคิดเห็น