คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ของตาย....
วันนี้....ก็เป็นเพียงวันหนึ่งสำหรับคนทั่วไป
แต่...มันเป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตผม
ที่มันสำคัญก็เพราะ.....
“อ่ะ......แรง....แรง” เสียงหวานครางลั่นที่ข้างหูผม ยิ่งเพิ่มความรู้สึกให้ตอบสนองเธอคนนี้จนผมลืมสังเกตอะไรบางอย่างไป หากไม่มีเสียงที่ต่างไปจากทุกครั้งที่ผมตอกย้ำความสนุกลงบนเรือนร่างแสนสวย
ตุ๊บ!!!
เสียงที่ไม่ดังเท่าไหร่นัก แต่ก็ทำให้ต้องจำต้องหันไปมอง ผมเห็นอีกคนอยู่ในห้องนี้ คนที่ไม่ควรจะมาอยู่ในเวลานี้
“กรี๊ดดดดดด” เสียงกรีดร้องของคนที่เคยครางหวานๆเธอรีบแทรกตัวลงใต้ผ้าห่มพร้อมๆกับที่ คนที่พึ่งเข้ามาเดินจากไป
“แต่งตัวนะครับคนดี เดี๋ยวผมออกไปรอข้างนอก” ผมทิ้งผู้หญิงคนนั้นไว้เบื้องหลัง ก่อนเดินออกไปหาใครอีกคนที่คงยืนรอฟังคำอธิบายอยู่ข้างนอก
“หมายความว่าไง” เสียงหวานสั่นสะท้าน ถามผมอย่างเอาเรื่อง ดวงตาจ้องมองผมอย่างผิดหวังและเจ็บปวด น้ำตามากมายไหลลงมาจนไม่น่ามอง
ความรู้สึกของผมในตอนนั้นมันอยากจะถามว่า...ร้องไห้ทำไม เรื่องแค่นี้ทำเหมือนไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็น....เขาจะรู้ไหมว่าน้ำตาที่เขาปล่อยออกมา ผมมองมันเป็นเพียงแค่หยดน้ำจากก๊อกน้ำเวลาที่มันปิดไม่สนิทเท่านั้นเอง....มันน่ารำคาญ
“ไหนว่ากลับอาทิตย์หน้าไง ทำไมรีบกลับมาหล่ะ” ผมถามไปอย่างเบื่อหน่าย ยิ่งมองหน้าที่อาบน้ำตาก็ยิ่งคิดว่าสามปีที่ผ่านมา ผมทนมาได้ไงกับเรื่องแบบนี้
“ก็แล้วถ้าไม่กลับมาจะเห็นไหม..ว่านายกำลังทำอะไรบนเตียงของเรา...” มือเล็กๆพยายามทุบตีผม เหมือนอย่างที่นางเอกในนิยายน้ำเน่าชอบทำกัน...แต่ขอโทษ ผมไม่ใช่พระเอก
ผมเป็นคน ก็เจ็บเป็น..คิดว่าผมจะอยู่เฉยให้เขาทำหรือไง....งี่เง่าสิ้นดี คิดว่าตัวเองทำได้แค่คนเดียวหรือไง...ตรรกะโง่ๆ
ผมแค่ออกแรงเพียงนิด ก็ไม่ได้มากอะไร แต่คนที่ตัวเล็กกว่าคงรู้สึกว่ามันมากมาย ร่างเล็กๆที่ผมเคยกกกอดปลิวกระเด็นไปชนกับผนังห้อง หัวคงโขกอย่างรุนแรง เพราะผมเห็นเลือดสีแดงไหลลงมาจากหน้าผาก
“ฮีชอลเป็นไงบ้าง ฉันขอโทษ” ผมรีบเดินเข้าไปหา ไม่รู้หรอกว่ามองผมแบบนั้นเขากำลังคิดอะไร รู้แค่ว่า เขาหยุดร้องไห้ไปแล้ว...หรือว่านอกจาก ปากปิดปากแล้วเนี้ย ทำให้หัวแตกก็ทำให้เงียบได้เหมือนกัน
“เรื่องของฉัน” เขาตวาดผมเสียงดัง ปัดมือผมออก เขาเสียใจแค่ไหนผมไม่รู้ แต่นี้มันมากเกินไปแล้ว คนเป็นห่วง แต่กลับมาทำเหมือนความเป็นห่วงผมไร้ค่า
เรื่องของเขาใช่ไหม?....ผมไม่ต้องรับรู้หรือเปล่า?
“ก็ดี งั้นนายก็ดูเรื่องของตัวเองไปแล้วกัน” ผมตวาดออกไปแบบนั้นก่อนกลับเข้าไปในห้องนอน โอบผู้หญิงที่กำลังแต่งตัวออกไปด้วย ไม่ลืมคว้ากุญแจรถทิ้งเขาไว้เพียงคนเดียวในห้องกว้าง
ก่อนที่ผมจะปิดประตูคอนโด สายตาเหลียวไปมองยังร่างเล็กที่นั่งนิ่งอยู่กับพื้นอีกครั้ง ดวงตาโตเบิกกว้าง มองมายังผม เหมือนน้ำตาจะไหลลงมาอีกแล้วนะ
....เขาคิดว่าผมจะใจอ่อนกับน้ำตาหรอ....อยู่กันมาตั้งสามปี ไม่รู้หรือไงว่าน้ำตาหน่ะ มันไร้ค่า
“ซีวอนคะ แล้วเขาเป็นใครหรอคะ ถึงได้เข้ามาในห้องคุณได้” เสียงผู้หญิงที่อุดมด้วยเนื้อนมไข่ ถามผมเสียงไม่ดังนัก แต่มันคงรอดเข้าไปในห้องผมบ้างหล่ะ
“เพื่อนร่วมห้องหน่ะ อย่าสนเลย คุณอยากไปต่อที่ไหนหรือเปล่า” แล้วคืนนั้น....ไม่สิ ต่อจากนั้นอีกหลายคืนผมก็ไม่ได้กลับไปที่ห้องนั้นอีก....
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
“ซีวอนกลับมาแล้วหรอ นายไปนอนที่ไหนมา หิวไหม ฉันทำอาหารเผื่อนายไว้ด้วย ไปอาบน้ำก่อนสิ” แค่ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องที่ดูเป็นระเบียบกว่าปรกติ คำถามมากมายก็ระดมยิงมาที่ผม....จนผมเริ่มสงสัย เขาคิดว่าตัวเองเป็นแม่ผมหรือไงกัน
ผมเหลือบตามองไปที่หน้าผากมน มีรอยนูนอยู่เล็กๆพร้อมผ้าพันแผลแปะอยู่ ก็ดูไม่เป็นอะไรมากแล้วนิ “ฉันเหนื่อย อยากนอน นายกินไปคนเดียวล่ะกัน”
รอยยิ้มที่มีอยู่บางๆ จางหายไปในทันที แต่ว่าผมก็เหนื่อยเกินกว่าจะสนใจแล้ว ช่วยไม่ได้...เขาอยากเซ้าซี้ผมผิดเวลาเอง
ผมหลับไปสักพักใหญ่ รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อที่นอนข้างๆยวบลงเพราะน้ำหนักของบางคน เหลียวมองนาฬิกานี้มันเกือบเที่ยงคืนแล้ว ทำอะไรข้างนอกอยู่ตั้งนาน
ผมทนนอนฟังเสียงสะอื้นแผ่วๆ ที่เขาคงคิดว่าไม่มีใครได้ยิน จนเกือบเคลิ้มหลับหากว่าจะไม่มีเสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กดังแผดลั่น อยากจะลุกไปด่าคนโทรมานักว่าไม่มีความคิดหรือไง แต่มันก็ดังอยู่ไม่นาน เมื่อคนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ด้านหลังผมรับมันแล้วเดินออกไปคุยที่ระเบียง....ก็ดีผมจะได้ไม่ต้องทนรำคาญ
ผมว่าผมจะหลับนะ แต่ทำไมไม่หลับไม่รู้ สายตามันพาลแต่จะมองไปที่ระเบียงกับนาฬิกา ตอนนี้เข็มสั้นมันบอกว่าเกือบตีสองแล้ว....มันจะธุระอะไรนักหนาไม่ทราบ
ตีสองกว่าเกือบตีสาม คนที่ออกไปคุยโทรศัพท์ถึงได้เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง แล้วคราวนี้ผมก็ไม่เย็นพอจะอดทนอีกแล้ว “นี้คุณ ที่บ้านไม่มีนาฬิกาหรือไง เวลานี้ ผัวเมียเขาจะนอนกัน”
ผมแย่งโทรศัพท์เครื่องเล็กมากรอกเสียงลงไป ก่อนหน้านั้นเหมือนจะได้ยินเสียงในสายเป็นผู้ชายนะ...แค่ผมไม่อยู่สองสามวัน คนที่มอบตำแหน่งเมียให้ก็มีผู้ชายโทรมาหาตอนกลางคืนแล้วหรือไง
“ซีวอน นายทำแบบนี้ทำไม เอาโทรศัพท์ฉันคืนมา” ผมมองหน้าคนที่กล้าขึ้นเสียงกับผม สายตาของเขาผมอ่านไม่ออกอีกแล้ว รู้แค่ว่าผมโกรธ....โกรธมาก
“ทำไม จะโทรกลับไปหามันหรือไง อย่าฝันเลยฮีชอล ผัวยืนอยู่ตรงนี้ทนโท่ ยังคิดจะโทรหาคนอื่น หรือว่าไอ้สองสามวันที่ฉันไม่อยู่บ้านนายก็ทำทุกคืนจนติดฮะ อยากได้ก็บอกสิ” ความง่วงของผมมันหายไปไหนหมดไม่รู้ เหลือแต่ความโกรธ และอยากบอกให้ไอ้หน้าที่โทรมาหาชาวบ้านเขาดึกดื่นมันรู้ว่า ผู้ชายคนนี้มีเจ้าของแล้ว...
คืนนั้นถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมบอกได้เต็มปากเลย...ความสุขไง ผมสุขไปไม่รู้กี่รอบ ที่ระเบียงนั้นส่วนอีกคน...ก็คงสุขบ้างทุกข์บ้าง เพราะผมเองก็ไม่ได้ทะนุถนอมเหมือนทุกครั้ง sexครั้งนั้นเกิดขึ้นเพราะแค่อยากแสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้นเอง...คิดๆไปเหมือนหมาที่ต้องทำอาณาเขต..ผมเองก็คงไม่ต่าง
ร่างกายขาวโพลนเต็มไปด้วยรอยแดง รอยช้ำ นอนเปลือยหมดแรงอยู่ที่ระเบียงด้านนอก จนผมต้องอุ้มกลับเข้ามาในห้อง จับอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ เช็ดเลือดที่ไหลเปื้อนตรงหว่าขา แต่ก็ ยังดีที่ไม่มีน้ำตาออกมาให้ต้องเช็ด ส่วนเขาก็นิ่งเหมือนตุ๊กตา ขนาดดวงตายังว่างเปล่า เหมือนไม่มองอะไรอีกแล้ว
ผมไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อนที่อยากจะเล่นแต่งตัวตุ๊กตาเอาตอนใกล้รุ่งหรอกนะ..วันนั้นก็เลยคว้ากุญแจรถแล้วออกไปอีกครั้ง ทั้งที่ก็พึ่งได้กลับมาบ้าน
...คับที่หน่ะผมพอจะทนอยู่ได้ แต่คับใจทำให้อึดอัดขนาดนี้ เชิญอยู่ไปคนเดียวเหอะ...รอยขนาดนี้คงไม่มีผู้ชายคนไหนมันอยากปีนต้นงิ้วผมหรอกนะ
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
วันนี้ที่ต่อไปจะกลายเป็นวันสำคัญ ผมกลับเข้าบ้าน แต่ไม่มีเงาของคนที่ควรต้องอยู่บ้าน...แล้วผมจะอยู่ทำไม
ผมออกมาเที่ยวเล่นตามประสาผู้ชายที่โสดแต่ไม่สด เพื่อนกลุ่มใหญ่นั่งเฮฮากันอยู่มากมาย ทั้งเหล้า ทั้งผู้หญิงมีครบ แล้วทำไมผมยังต้องคิดถึงเรื่องบ้านที่ไม่คนอยู่
ผมเองก็เฮฮากับเพื่อนไม่น้อย จนกระทั่งมีคนหนึ่งมันปากหมาถามขึ้นมา ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าหรอกว่าคำถามนี้จะเปลี่ยนชีวิตผมทั้งชีวิต....ถ้าผมรู้ ผมจะตอบมันอย่างที่ผมรู้สึก ไม่ใช่อย่างที่ผมอยากจะตอบ
“เฮ้ย ซีวอน ไหนๆแกก็มีสาวเพียบแล้ว ยกฮีชอลให้ฉันเหอะ ฉันขอ ”
คำถามแบบนี้ ในวงเหล้า จะให้ผมตอบอะไร นอกจากคำตอบที่จะทำให้ผมดูดี ดูเท่ ดูเหนือกว่าใคร “ไรว่ะ มาขอกันง่ายๆแบบนี้ เดี๋ยวพ่อก็ยกให้จริงๆแล้วไม่รับคืนนะเว้ย”
หลายคนหัวเราะกับคำตอบผม แต่อีกคนที่นั่งนิ่งมานานมันพูดกับผมอย่างเครียดๆ ทำไมจะไม่รู้ ไอ้นี้มันก็เคยแอบชอบฮีชอลมาก่อน “แกพูดแบบนี้ ถ้าฮีชอลมาได้ยิน แกนั่นแหล่ะที่จะเสียใจ”
ตอนนั้นผมไม่กลัวหรอกว่าเขาจะเสียใจ ผมกลัวแค่ว่าผมจะเสียหน้ามากกว่า “กลัวทำไมวะ ฮีชอลอ่ะของตาย เลิกไปก็หาใหม่ได้”
“ฉันมีค่าแค่ของตายสำหรับนายใช่ไหม” เสียงที่ผมแน่ใจว่าไม่ใช่เพื่อนของผมแน่ๆ ดังขึ้นมาจากด้านหลัง หน้าสวยๆดูเศร้าเสียจนผมอดใจหายไม่ได้ ดูเหมือนว่าน้ำตาของเขาครั้งนี้จะทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ แต่ผมคงจะรู้สึกมากกว่านี้ ถ้าด้านหลังเขาจะไม่มีผู้ชายแปลกหน้าคอยประคองอยู่
“ก็ใช่ รู้แล้วจะทำไม เลิกกับฉันหรือไง เลิกรักฉันได้หรอฮีชอล” สายตาผมตวัดมองไปทางด้านหลัง บอกให้ไอ้หมอนั่นมันรู้ว่า คนนี้คือของผม ที่มันได้แค่ดูแลเวลาที่ผมไม่ว่างเท่านั้น
“ไม่...ฉันเลิกรักนายไม่ได้หรอกซีวอน แต่แค่รู้เอาไว้ว่าฉันเป็นแค่ของตายสำหรับนายเท่านั้น” ผมไม่แปลกใจหรอกกับคำตอบนี้ เพราะผมก็รู้ว่านายจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เอาจริงๆ ผมเองก็...เลิกไม่ได้หรอก
หลังจากที่เขาตอบผม เขาก็วิ่งออกไป ไม่รู้ทำไมแผ่นหลังที่ผมมองครั้งนี้มันดูแล้วใจหาย มันเหมือนการจากลาครั้งสุดท้าย ทำไมใจผมมันหวิวโหวง จนอยากเอื้อมรั้งเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้ทำ
ฮึ! ให้รั้งทำไม มีผู้ชายตั้งสองคนวิ่งตามคนหนึ่งเป็นเพื่อนผม อีกคนก็ไอ้คนที่ผมไม่รู้จัก เอาเหอะ ตั้งสองคน คงตกลงกันไม่ได้หรอกว่าใครจะได้กินเมียผม กว่าจะตกลงได้ ฮีชอลกลับมานอนซบอกผมแล้ว...ใช่ไหม
ผมนั่งกินเหล้าต่อไป อย่างแกล้งสนุกสนามเพื่อที่ว่า.... “ซีวอน ฮีชอลถูกรถชนหน้าร้าน”
แค่คำไม่กี่คำ ความรู้สึกที่ผมไม่เคยเข้าใจ ดวงตาที่อ่านไม่ออก น้ำตาที่ไร้ค่า มันถามโถมเข้ามาให้ผมได้เข้าใจ ได้อ่านออก และรู้ซึ้งถึงคุณค่า สองขาของผมออกวิ่ง...วิ่งให้เร็วที่สุด
ร่างเล็กที่ผมเคยกอดนอนจมกองเลือดอยู่ข้างหน้าผม...ต่อหน้าผม เลือดสีข้นไหลนองไปทั่วพื้น ไม่เว้นแม้แต่ตรงที่ผมยืนอยู่ ขาของผมอ่อนแรงลงอยู่ตรงนั้น สายตาไม่หลุดไปจากร่างบางตรงหน้า กลิ่นคาวเลือดไม่อาจทำอะไรผมได้เลย เมื่อความรู้สึกของผมมันจางหายไปแล้ว...ไม่เหลือความรู้สึกอะไรอีกแล้ว
ร่างกายที่แหลกเหลวถูกช้อนขึ้น ฮีชอลของผม ยังคงอุ่น แต่ไร้ลมหายใจ...ใบหน้าสวยที่ผมเคยมองอย่างแสนรัก แสนหวง และแสนรำคาญ เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด แก้มใสเป็นรอยเหวอะ จนเห็นกระดูกสีขาวโพลน แต่อย่างนั้นก็ยังไม่อาจบดบังความสวยงามที่ผมหลงใหลได้
ภาพตรงหน้าพร่าเลือนขึ้นเรื่อยๆ แต่ฮีชอลกลับชัดเจนขึ้น ชัดเสียกว่าทุกครั้งที่ผมเคยมอง ผมเห็นริมฝีปากที่เปื้อนเลือดยิ้มให้กับผมอย่างอ่อนโยน ผมเหมือนรู้สึกถูกโอบกอดไว้ด้วยความอบอุ่น เหมือนผมได้ยินเขาเรียกชื่อผม แต่..ทำไม
ผมขานรับเขาไม่ได้ ทำไมผมไม่อาจยิ้มตอบให้เขาได้ ทำไมผมถึงมองไม่เห็นมือที่โอบกอดผมอยู่
ของตาย...ไม่ใช่สิ่งที่จะอยู่กับผมไปตลอดหรอกหรือ....แล้วเขาหนีผมไปทำไม
ผมยืนอยู่สวนดอกไม้เล็กๆหน้าหาดที่เป็นของผม เขาชอบที่นี้ ผมถึงให้ที่นี้เป็นบ้านของเขา บ้านที่ผมจะกลับมาอยู่เสมอยามว่างเว้นจากงานที่รีบเร่ง แต่ทุกวันนี้ของปี ต่อให้ผมจะมีงานมากแค่ไหน วันนี้ผมก็จะว่างเสมอ เพื่อเขา เพื่อเราจะได้อยู่ด้วยกันในวันพิเศษนี้
แม้เวลาจะผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว แต่ผมยังจำแววตาคู่นั้น... ที่บอกว่ารักผม ที่บอกว่าเจ็บปวด และที่บอกว่าเขามีเพียงแค่ผม ผมอยากให้เขาเห็นแววตาของผมเวลานี้เช่นกัน มันกำลังบอกว่า ผมรักเขาแค่ไหน
น้ำตาที่ผมคิดว่าไร้ค่าในวันนั้น ผมรู้แล้วว่ามันมีค่ามหาศาลแค่ไหน ผมอยากจะเช็ด จะปลอบ และอ่อนลงกับน้ำตาของเขา จะกระซิบเบาๆที่ข้างหู “ที่รักอย่าร้องไห้อีกเลย”
คำถามที่เขาเคยได้ยิน ผมอยากตอบมันอีกครั้ง ตอบด้วยหัวใจ “ฮีชอลคือหัวใจของฉัน ยกให้ใครไม่ได้ และมีค่าเสียยิ่งกว่าชีวิตฉัน”
อยู่ข้างบนฮีชอลรับรู้หรือเปล่า...ได้มองผ่านมาทางนี้บ้างไหม ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเสียใจกับของตาย....
วันนี้....ก็เป็นเพียงหนึ่งวันสำหรับคนทั่วไป
แต่...มันเป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิต
ที่มันสำคัญก็เพราะ.....ของตายที่ผมรัก จากผมไปตลอดกาล
“ฮีชอล ฉันรักนาย ”
End
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
Talk
สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เคยเอาลงแล้ว และก็ลบไปแล้ว(เพื่ออออออ????) 555 แต่ว่าก็เอามาลงใหม่ เผื่ออยากมีใครอยากอ่านเรื่องป่วงๆเรื่องนี้อีก (จะมีหรือเปล่านี้) แล้วก็ไม่แน่ (ไม่สัญญานะคะ) เรื่องนี้อาจมีภาคต่อ ชื่อ ของเป็น ดีไหมคะ อิอิ
ส่วนตอนนี้ใครยังเป็นผู้ประสบภัย ไอซืก็ขอเอาใจช่วยนะคะ แล้วเราจะผ่านไปด้วยกัน เพราะไอซ์เองก็ยังเป็นผู้อพยพอยู่เลยคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ
ความคิดเห็น