คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 美花 : 第四花 100% (re NC)
美花:第四花
ข่าวขันทีคนสนิทอย่างเฉียนกุ้ยถูกต้นห้องคนใหม่เรียกเข้าพบนั่นแว่วถึงหูฮ่องเต้โดยมหาดเล็กคนสนิทเป็นผู้เล่าถวาย “ฝ่าบาทเมื่อตอนเช้า เฉียนกุ้ยถูกท่านฮีชอลเรียกเข้าไปพบที่ตำหนัก”
“เจ้าบอกว่า ฮีชอลเรียกเฉียนกุ้ยเข้าไปในที่ตำหนักงั้นหรอ หวังว่าคงไม่ได้ทำอะไรเด็กคนนั่นหรอกนะ เฉียนกุ้ยก็เหมือนเป็นน้องเราคนหนึ่ง หากถูกคนเช่นนั้นหลอกลวง เราที่เป็นพี่ก็อดไม่ได้ที่จะห่วง” ฮ่องเต้ซีวอนกล่าวถึงขันทีคนสนิท ที่เห็นมาแต่เล็ก ก่อนจะถวามยตัวเข้ามารับใช้ในวังหลวง
“แต่ทหารที่เฝ้าหน้าประตูตำหนักเล่าว่า เฉียนกุ้ยร้องไห้ออกมา เหมือนกำลังหวาดกับอะไรบางอย่าง ท่านอ๋องทำเช่นนี้เหมือนไม่สนใจต่อรับสั่งฝ่าบาท กระหม่อมว่าควรหาทางจัดการเสียดีกว่า” ซึงฮยอนทหารองรักษ์ประจำพระองค์ เป็นอีกหนึ่งคนของทหารในเขตพระราชฐานส่วนพระองค์ที่แอบมีใจให้ขันทีตัวน้อย กล่าวด้วยความโกรธแค้นในตัวอ๋องน้อย
“เย็นก่อนซึงฮยอน เรารู้ว่าเจ้าโกรธ เราเองก็เห็นเฉียนกุ้ยเป็นน้องคนหนึ่ง และเราก็ไม่อยากให้สองพ่อลูกอยู่ในเมืองหลวงนี้นานๆ ถ้าเจ้าอยากให้ฮีชอลออกห่างจากเฉียนกุ้ยก็ช่วยเราคิดว่าจะขับไล่ทั้งปาหยางอ๋อง และฮีชอลยังไง” ฮ่องเต้หนุ่มทรงสงบพระอารมณ์อย่างใช้ความคิด อยากขับไล่สองพ่อลูกในเร็ววัน หากแต่อีกฝ่ายก็เป็นพระญาติคนหนึ่ง
“กระหม่อมขอพระราชอภัยโทษที่วู่วาม แต่ น้ำตาของเฉียนกุ้ย....” องค์รักษ์คนสนิททนิ่งงัน ไม่อาจคำใดแทนความรู้สึกเวลานี้ ขันทีที่เฝ้ามองมานาน กลับต้องเสียน้ำตาเพราะคนที่พึ่งเข้ามา
“ไม่เป็นไร เราเข้าใจ แต่เวลานี้เรานึกไม่ออกว่าจะหาทางไหนที่จะบีบให้สองพ่อลูกยอมออกจากเมืองหลวง แค่หนึ่งคืนที่ฮีชอลเข้ามา เหมือนว่าเรายังไม่เห็นมากพอที่จะหาลู่ทางได้เลย”
“คนอย่างท่านอ๋อง ดูเหมือนไม่มีอะไร หากไม่มีตำแหน่งอ๋องน้อยค้ำไว้ก็คงไม่มีใครเหลียวแล คนแบบนี้ไม่มีประโยชน์เลยจริงๆมีแต่ทำเรื่องเสียหาย แล้วยังจะยโสในเกรียติยศ ช่างไม่รู้เลยว่าตนเองเป็นที่น่าสมเพชเพียงใด” องค์รักษ์หนุ่มส่ายหน้าสมเพชอ๋องที่ดีแต่ข่งเหงประชาชน
“ใช่ ซึงฮยอนเจ้าพูดถูก คนอย่างฮีชอลเกียรติยศเป็นเรื่องสำคัญ แต่จะทำยังไง” พระองค์ทรงคิดตรึกตรอง นั่งมองหาก้าวจังหวะที่อาจนำมาทำให้อ๋องน้อยได้กระเด็นออกจากเมืองหลวงพร้อมครอบครัว
“คนอย่างท่านอ๋องมีข่าวเสียหายมากมาย แต่ไม่เห็นสนใจในข่าวเหล่านั้น ท่านปาหยางอ๋องก็เช่นกัน กระหม่อมไม่เคยเห็นสองพ่อลูกนี้สนใจในข่าวใดๆเลยสักนิด”
“นั่นแหล่ะที่เรากำลังคิด ถ้าอยากกันให้ฮีชอลออกห่างจากเฉียนกุ้ยไวๆ เจ้าก็ลองไปชวนพวกทหารที่หมายปองเฉียนกุ้ยอยู่ หาทางทำให้อ๋องน้อยคนนี้ต้องอยู่ไกลจากเฉียนกุ้ยสิ ส่วนเราคืนนี้จะนั่งดื่มสุราชมจันทร์เสียหน่อย เจ้าไปเรียกฮีชอลให้เราด้วยหล่ะกัน”
“กระหม่อม”
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
ร่างบางโปร่งของอ๋องน้อยเดินเข้ามากลางสวนดอกเหมยในคืนเดือนเต็ม ตามรับสั่งของฮ่องเต้ที่ให้องค์รักษ์ประจำพระองค์ไปเรียกมาจากห้องดวงตาโตมองไปรอบๆเห็นเพียงโต๊ะหินสลักและหนึ่งบุรุษไร้องค์รักษ์แม้สักคน “ท่านมานั่งตรงนี้ไม่มีใครมายืนอารักขาได้ไงกัน”
“เราอยากนั่งดื่มสุรากับน้อง ทำไมต้องนั่งมีใครอื่นด้วยหรือไง หรือน้องชายอย่างเจ้า คิดไม่ซื่อกับพี่ชายอย่างเรา” รอยยิ้มกว้างบนพระพักตร์ บ่งบอกว่ากำลังสบายพระทัยเป็นที่สุด “เจ้านั่งลงสิ หรือรังเกียจจะดื่มสุรากับเราแทนที่จะได้ไปดื่มกับเหล่านารีอรชร”
“ใครจะรังเกียจได้นั่งดื่มสุราชมจันทร์กับฮ่องเต้ ทั่งแผ่นดินจะมีใครโชคดีแบบนี้บ้างเล่า แต่ว่าท่านแน่ใจนะที่จะดื่มกับข้า เวลาข้าเมา พวกสาวๆชอบบอกว่ามือไม้ข้ายิ่งกว่าหนวดปลาหมึกเสียอีก” อ๋องน้อยบอกเล่าสรรพคุณของตนเองด้วยความภาคภูมิใจก่อนนั่งลงที่เก้าอี้หินสลัก
“งั้นข้าจะลองดูว่าหนวดปลาหมึกหรือจะกล้าสู้กับหนวดมังกร แต่เวลานี้เจ้ายังไม่เมาก็ดื่มเถอะ สุรานี้ได้มาจากเมืองกุ้ยโจว ว่ากันว่าเป็นสุราชั้นดี” ฮ่องเต้หนุ่ม บรรจงเทสุราลงในจอกเล็กแต่เพียงนิดให้แก่อ๋องน้อยผู้มีศักดิ์เป็นน้อง
“ช่างเป็นสุราที่แรงนัก แต่ก็นุ่มลิ้นเช่นกัน นี้คือสุราอะไร เพื่อหาข้าออกจากวังจะได้ไปหาบ้าง” อ๋องน้อยฮีชอลยังหวังว่าจะได้ออกจากวังไปหาความสำราญด้านนอก ไม่ลืมหาชื่อสุรารสชาติเยี่ยมยอด
“สุรานี้คือเหมาไถ หากเจ้าชอบข้าจะแบ่งให้บ้างก็ได้ ข้าพอมีเก็บไว้อีกเยอะ คืนนี้ก็อย่าดื่มหนักนัก จะได้มีเวลาชมจันทร์ได้นาน” แม้ปากจะเตือน แต่มือหนาของฮ่องเต้ซีวอนกลับรินน้ำใสติดจะเหลืองๆลงในจอกแก้วเซรามิคเนื้อดี
สองชายหนุ่มนั่งร่ำสุราชมพระจันทร์ดวงกลมโต จนใบหน้าหวานแดงเรื่อ พูดจาไม่รู้เรื่อง มือไม้ไม่อยู่กับที่ หากแต่ฮ่องเต้ผู้สุงศักดิ์กลับยังคงนั่งยิ้มสบายพระทัยไม่ได้เคลิ้มไปกับดีกรีแสนแรงของเหล้าจากกุ้ยโจว
“พระจันทร์ช่างโตๆ ในนั้นคงมีกระต่ายอยู่หลายตัวไม่งั้นคงเหงาแย่” เสียงอ้อแอ้ของคนเมาที่เหม่อมองกระต่าย เรียกให้องค์ฮ่องเต้ต้องแหงนมองจันทร์ก่อนจะเหลือบมองคนพูด
“กระต่ายไม่เหงาหรอกก็ในนั่นมีตากับยายอยู่ด้วย แล้วจะเหงาได้อย่างไร” ฮ่องเต้หยิบนิทานจากดวงจันทร์ขึ้นมาพูด ทั้งที่ก็ลืมเลือนไปนานแล้ว
“จะไม่เหงาได้ไง ตากับยายที่อยู่ด้วยกันก็รักกัน แล้วเหลือทิ้งไว้แค่กระต่ายน้อยหนึ่งตัวกลายเป็นส่วนเกิน มันเที่ยวขอความรักจากใคร ก็ไม่มีใครให้มันได้จริง” ใบหน้าหวานสะท้อนความเหงาที่เจ้าตัวปิดบังเอาไว้ ไม่ให้ใครได้รู้ ท่าทีแสนสำราญแท้จริงแล้วกลับปิดบังบางสิ่งเอาไว้
องค์ฮ่องเต้ถอดถอนใจ มองคนตรงหน้าที่เก็บกักความเหงาไว้ภายใน พลางนึกไปถึงคำพูดอวดมือปลาหมึก แล้วแบบนี้ปลากหมึกที่ไหนกัน “เพราะกระต่ายเองก็เอาแต่หนีความจริงด้วยหรือเปล่า นิสัยที่ขี้กลัว ทำให้ไม่กล้าผูกพันกับใครหรือเปล่า”
“อ่าคงใช่ เจ้านี้ช่างเข้าใจวิสัยของกระต่าย อย่างนี้คงเข้าใจความรู้สึกคนขี้กลัวแบบข้าเป็นแน่” อ๋องน้อยเดินโซเซจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ลุกขึ้นมานั่งเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ข้างๆผู้สูงศักดิ์
มือบางๆลูบไล้ตามโครงหน้าเรียวยาว เริ่มสัมผัสไรหนวดแข็งๆแต่ก็ไม่สนใจ เอื้อมดันท้ายทอยกว้างให้รับสัมผัสเร่าร้อนจากริมฝีปากร้อนอวลด้วยกลิ่นสุราชั้นดี
ฮ่องเต้หนุ่มแม้จะเคยได้สัมผัสหญิงสาวที่รับเข้ามาคนอื่นๆ แต่สัมผัสของนางเหล่านั้นกลับสู่สัมผัสร้อนของคนๆนี้ไม่ได้เลย ค่อยๆรับรู้ความหวานของริมฝีปากจนต้องคว้าเอวบางเข้าแนบชิด ก่อนจะตกตะลึงเมื่อรู้ถึงมือเล็กๆเริ่มไม่อยู่สุข
สองสนิทชิดชมสมคู่ เชิงชู้เชิงชมสมศรี
ต่างองค์เกษมเปรมปรีดิ์ ในที่สวนสวรรค์ชั้นใน
“ทำใครต่อใครมามาก พอถึงตอนนี้กลับสลบเสียแล้วหรือฮีชอล” เสียงทุ้มหัวเราะแผ่วเบา ก่อนจะจัดการให้เสื้อกลับขึ้นมาคลุมร่างบางดังเดิม นับแต่พรุ่งนี้คงได้เปลี่ยนจากตำแหน่งต้นห้องกลายเป็นคนในห้อง หวังว่าจะช่วยให้นิสัยไม่ดีบางอย่างหายไปได้
ฮ่องเต้ผู้สูงศักดิ์โอบอุ้บร่างไร้สติของต้นห้องขึ้นแนบอกกว้าง พากลับห้องบรรทมที่อบอุ่นกว่ากลางสวนเช่นนี้ต่อจากนี้คงให้นอนกับพื้นหน้าเตียงไม่ได้อีกแล้ว
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
Talk
ขอขอบคุณ zonk ที่ช่วยปลุกปั่นจนกลายเป็นเอ็นศีที่ยาวที่สุดในชีวิตของไอซ์คะ
และขอบคุณน้องช.ที่ทั้งขู่ทั้งปลอบจนไอซ์ต้องโผล่เอ็นซีที่สองในชีวิด อิอิ
ไอซ์เริ่มเสียวหากใครอยากได้น้องเอ็นน้องซีที่ไม่ใช่กลอน ให้ทิ้งน้องแมวไว้นะคะ
แอบมีความรู้ซ่อมมาอีกหนึ่ง เหล้าเหมาไถอ่าคะ เป็นเหล้าแห่งชาติของจีนเลยทีเดียว ทำมานานมากแล้ว และต้องใช้น้ำจากบ่อน้ำมังกรเท่านั้น เขาว่าแรงอยู่ ตั้ง53ดีกรีเลยอ่ะคะ ตอนเรียก็ไม่คิดว่าจะได้เอามาใช้นะนี้ อิอิ
อ้างอิงบนกลอนพระราชนิพนธ์จากเรื่องท้าวแสนปมคะ
เซี่ยเซี่ยหนี่ 10.06.05
ความคิดเห็น