คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 美花 : 第三花 100% (rewrite)
美花:第三花
ก่อนอาทิตย์จะสาดแสง ก่อนไก่จะขันยามเช้า ฮ่องเต้ผู้ทรงฝึกองค์อย่างเข้มงวดมิอาจนอนรอให้แสงอาทิตย์แยงตา ต้องตื่นขึ้นมาอ่านข้อร้องเรียนของประชาชน และแทบจะทุกวันต้องมีเรื่องของชาวเมืองที่ถูกพ่อลูกจากวังทู่หลงกดขี่ห่มเหง
พระบาทใหญ่ก้าวลงจากแท่นบรรทม เผลอไปเหยียบชายผ้า นึกขัดพระทัยแต่พอมองเห็นตัวต้นเหตุก็พอจะนึกออกว่าเมื่อวานได้ให้ต้นห้องคนใหม่มานอนที่หน้าเตียง และป่านนี้คนไม่เอาถ่านอย่างอ๋องน้องแห่งวังทู่หลงก็คงยังไม่มีทางตื่นขึ้นมาได้หากไม่มีคนปลุก “ฮีชอล ฮีชอล ถึงเวลาที่เจ้าต้องตื่นได้แล้ว”
“อือ ข้าขอเวลาอีกนิดนะท่านแม่”
ใบหน้ายามหลับใหลดูแล้วไมน่าเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกับยามตื่นนอน “นี้คงคิดว่าเราเป็นแม่ แต่เราไม่ใจดีกับเจ้าขนาดนั้นหรอกนะฮีชอล” พระหัตถ์หนา ลากผืนผ้าที่ร่างโปร่งของอ๋องผู้เคยชินกับความสบายไปตามพื้นจนถึงห้องสรงน้ำ
“เฉียนกุ้ย เจ้าไม่ต้องช่วยเราอาบน้ำหรอกวันนี้ เดี๋ยวเราให้ต้นห้องคนใหม่ทำเอง ส่วนเจ้าออกไปได้แล้ว” รับสั่งพร้อมแย้มพระโอษฐ์น้อยที่มีให้กับขันทีตัวน้อยนี้เสมอมา
“กระหม่อม แต่นั้น.....ท่านอ๋องฮีชอล”
“อือ ท่านอ๋องนั้นแหล่ะ ต้นห้องคนใหม่ของเรา เจ้าเองก็เหมือนกัน อย่าได้หลงไปกับคำหวานหูของอ๋องคนนี้นัก รู้ถึงกิตติศัพท์คำร่ำลือไม่ใช่หรือไง”
“กระหม่อม”
“ออกไปได้แล้ว” ฝ่าบาทมีรับสั่งไล่แล้วใครจะอยู่ได้อีก ร่างบางของขันทีค่อยเยื้องกายออกจากห้องสรงน้ำหากในใจกลับยังคงคิดถึงถ้อยคำหวานหูของอ๋องน้อยไม่คลาย
คนที่ยังหลับก็ยังคงต่อไปไม่ได้รับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่สนใจแม้ร่างกายจะถูกถอดเสื้อผ้าที่ใส่กันลมหนาวและความเย็นจากพื้น แม้ร่างกายจะเปลือยเปล่า แต่อ๋องน้อยก็ยังคงไม่สนใจสิ่งใด นิทรากำลังหวานจะมีสิ่งใดมาแทนได้
“รูปร่างเช่นนี้ แล้วยังจะใบหน้าหวาน อะไรทำให้เจ้ากลายเป็นคนแบบนี้ไปได้นะฮีชอล หากสักวันเจ้าจะต้องมีสามีเราคงไม่แปลกใจเท่าไหร่เลย” ฮ่องเต้หนุ่มมองร่างที่ถูกเปลื้องเสื้อผ้าด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์ทั้งยังทรงแปลกพระทัยที่ป่านนี้ก็ยังไม่คิดจะตื่น
“เฮ้ย!”เสียงร้องตกใจ ดังขึ้นทันทีที่สัมผัสน้ำอุ่นๆ คนที่หลับอยู่ต้องตื่นขึ้นมา “ท่านจะทำอะไร” เสียงแข็งตวาดกร้าวไม่สนใจว่าคนที่พูดด้วยมียศสูงเพียงใดในอาณาจักร
“เราก็จะจับเจ้าอาบน้ำไง”
“แล้วถอดเสื้อข้าทำไม”
“หรือจะให้เราจับโยนลงอ่างทั้งเสื้อผ้าที่เจาใส่อยู่ พอดีได้จมน้ำในอ่างที่ตายก่อน” ฮ่องเต้ซีวอนไม่เพียงแค่จับร่างเปลือยเปล่าโยนลงไปในอ่างเท่านั้น หากขณะนี้ก็กำลังเปลื้องชุดทรงขององค์เองเช่นเดียวกัน
“แล้วท่านจะทำอะไรหน่ะ”
“เราก็จะอาบน้ำไง อย่าลืมว่าเจ้าเป็นต้นห้อง แล้วเราเป็นฮ่องเต้ ทำไมหรือกลัวอะไร กลัวว่าเราจะทำเหมือนที่เจ้าอยากทำกับเฉียนกุ้ยงั้นหรือฮีชอล” ทรงถามด้วยความนิ่งเฉย ไม่อนาทรต่อสิ่งใด มองร่างโปร่งยังมีรอยเล็บเป็นทางยาวที่ยังไม่จางลงก็พอจะรู้ได้ว่าก่อนเข้ามาในวัง ได้หมกหมุ่นในเรื่องใด
“ทำไมข้าต้องกลัว หรือท่านเองก็ชอบไม่ต่างจากข้า” ร่างโปร่งเยื้องกายเข้าหาวรกายสูงในอ่างกว้างที่พอให้คนลงมาได้สักสามหรือสี่คน
“ท่านเองก็อยากได้ความรักจากข้าหรืออย่างไง หากเป็นเช่นนั้นข้าจะทำหน้าที่สวามีฮ่องเต้อย่างเต็มความสามารถ จะดูแล บำรุง บำเรอให้ท่านหายเหนื่อยจากพระกรณียกิจที่มากล้น ขอเพียงท่านเอ่ยปาก ข้าจะไม่รอช้า” ร่างโปร่งบางลูบไล้ตามโครงร่างได้รูปสวยงาม ใบหน้าคมที่หากลดความกระด้างลงอาจจะเผยให้เห็นความอ่อนหวานที่ซ่อนตัว แต่ถึงไม่มีฮีชอลก็คงไม่สน
“หึๆๆ อย่างเจ้าหรือคิดจะเป็นสวามีเรา อย่าเอาแต่พูดเลยฮีชอล เมื่อไม่มีทางทำได้ หากเราสนใจในเพศรสแบบเจ้า ผิวขาวอ่อนนุ่มเช่นนี้ ใบหน้าหวาน เอวกลมกลึง สะโพกโค้งมน เหมาะสมกว่าหรือเปล่าที่จะมาเป็นสนมของเรา” ไม่เพียงรับสั่ง หากพระหัตถ์ใหญ่ค่อยไล่ลงจากใบหน้าหวาน สู่สะโพกโค้งมน จนอีกฝ่ายได้แต่เกร็งตัวหากไม่อาจหลบหลีกได้
“ท่านนนน ม่ะ....ม่าย” ร่างโปร่งพยายามดิ้นหนีให้สุดแรง ยิ่งพระพักตร์ดุโน้มใกล้เท่าไหร่ อ๋องน้อยก็ยิ่งหวาดกลัวมากเท่านั้น
“กลัวหล่ะสิฮีชอล แต่ประชาชนที่ถูกเจ้าข่มเหงนั้นหวาดกลัวกว่านี้หลายเท่านัก จำไว้” เพียงแค่รับสั่งฮ่องเต้หนุ่มก็เสด็จขึ้นจากน้ำที่เริ่มเย็นโดยไม่สนพระทัยอีกคนที่ยังนิ่งอึ้ง
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
อ๋องน้อยที่ถูกทิ้งไว้ในห้องน้ำเพียงลำพังเมื่อยามเช้ามืด เดินกลับห้องของตนเองทั้งที่สติยังกลับมาไม่ครบดังเดิม ภาพอันน่าหวาดกลัวสำหรับชายชาตรีทุกคนยังคงฝังแน่นไม่ยอมสละหายไปไหน
ในห้องส่วนตัวของอ๋องน้อยจากวังทู่หลงมีขันทีหนุ่มหากหน้าตาไม่ชวนมองสองสามคนคอยรับใช้ ยิ่งมองก็ยิ่งอารมณ์เสีย พาลคิดไปถึงอีกคนที่น่ามองยิ่งกว่า “พวกเจ้าออกไปให้หมดแล้วไปตามเฉียนกุ้ยมาหาข้าเดี๋ยวนี้”
“แต่เฉียนกุ้ยเป็น....เป็น..”
“เป็นอะไรเล่า ไปตามมาเดี๋ยวนี้ จะเป็นคนของใครข้าก็ไม่สนทั้งนั้นไม่ตามมาหากไม่อยากให้ข้าต้องสั่งตัดคอพวกเจ้า”
“กระหม่อม” อีกนิสัยที่เลื่องลือของท่านอ๋องน้อยคือความก้าวร้าวและโหดร้ายในยามโมโหจนไม่อยากมีใครยุ่ง เหล่าขันทีตัวน้อยได้แต่แตกกระเจิงหนีหาย รีบออกไปตามขันทีคนโปรดของฮ่องเต้ที่ท่านอ๋องอยากพบ
ในเมื่อฝ่าบาททรงหวงนัก ข้าก็จะเอ็นดูเฉียนกุ้ยให้ถึงที่สุดเช่นกัน
“ท่านอ๋อง ใช้คนไปตามข้ามา ไม่ทราบว่ามีสิ่งใด” ร่างบอบบางของขันทีน้อยเดินเข้ามาภายในห้องของท่านอ๋องด้วยใบหน้าแดงจัด เพราะความเขินอายต่อชายหนุ่มที่มีใจให้
“หากข้าไม่มีสิ่งใด จะไม่อาจให้คนเรียกเจ้ามาพบได้เลยใช่ไหม เฉียนกุ้ยของข้า....”ท่านอ๋องจงใจทอดคำหวานพลางตัดพ้อด้วยความห่วงหาอย่างลึกล้ำ
“ท่านอ๋อง คำกล่าวท่าน....หากใครมาได้ยินคง...คง” เพราะความขัดเขินถึงแม้ไม่มีผู้ใดเดินผ่านแต่สายลมที่พัดกระทบกาย แสงแดดที่ลอดเข้ามาในห้องก็ทำให้ขันทีน้อยหน้าแดงยิ่งขึ้น
“คงอะไร หรือว่าเจ้ากลัวใครนำเจ้าไปนินทาได้ อย่าได้เกรงกลัวเลยเด็กน้อยที่นี้ใครจะกล้าว่าเจ้ากันเล่า” เฉียนกุ้ยคงไม่รู้ตัวเลยว่าบัดนี้ได้ถูกนำเข้ามายังห้องส่วนในมีฉากกั้นบังสายตาที่ไม่พึงประสงค์ “หรือหากมีใครกล้าว่าเจ้าได้ ข้าเองที่จะนำลิ้นมันออกมาสับ”
“ท่นอ๋อง! ท่านมิควรทำเช่นนั้นเพื่อคนต้อยต่ำเช่นข้า” แค่ถ้อยคำก็ทำให้เฉียนกุ้ยหวาดกลัว บัดนี้ในหัวใจดวงน้อยมีแต่ภาพท่านอ๋องอัดแน่นจนไม่เหลือที่ว่างให้ผู้ใด
เรียวนิ้วยาวประทับห้ามบนปากเล็ก ดวงตาหยาดเยิ้ม ริมฝีปากได้รูปกล่าวถ้อยคำที่ปั้นแต่งอย่างสวยงาม “แม้นเจ้าจะต่ำต้อยในสายตาผู้ใด แต่สำหรับข้า เจ้าสูงส่งยิ่งกว่าผู้ใด สูงส่งและเล่อค่ากว่าทรัพย์สินทั้งวังหลวง สูงส่งจนหากข้าไม่ใช่อ๋องก็คงมิอาจเอื้อมคว้าเจ้ามาแนบกาย”
“ข้า..ไม่ได้สูงค่าถึงเพียงนั้นเป็นเพียงแค่คนพิการที่ไร้เพศ ไม่อาจมีชีวิตแบบคนธรรมดา นอกกำแพงวังก็เป็นได้แค่คนที่ถูกรังแก แต่เคยมีผู้ใดถามบ้างไหม ว่าข้าอยากเป็นเช่นนี้หรือเปล่า ข้ามีสิทธิ์ได้เลือกไหม ข้าไม่คู่ควรกับคุณชายผู้เพียบพร้อมเช่นท่านหรอก”
“ใครกันเป็นผู้กำหนดว่าคู่ควรหรือไม่ หากข้าฝากรักไว้ที่เจ้าและเจ้ายอมรับฝากหัวใจดวงนี้ เราสองย่อมเป็นคู่ที่ควรเสียยิ่งกว่าคู่ใครในโลกใบนี้เฉียนกุ้ย”
“ท่านอ๋อง!” คำหวานแทรกซึมเข้าไปในหัวใจดวงน้อย คำเตือนจากฮ่องเต้ไร้ค่าและความหมาย
“เจ้าจะรับฝากหัวใจของข้าได้ไหม เฉียนกุ้ย” ดวงตาแสนซึ้งจ้องมองเขาไปในแววตาเจ้าลูกแกะตัวน้อย นิ้วเรียวค่อยๆปลดชุดหลายชั้นของขันทีตัวน้อย ไม่รอฟังคำตอบ
“หากท่านไม่รังเกียจข้าจริง ข้าก็.....”เพราะความเขินอายจนสุดที่จะกล่าวสิ่งใด ขันทีตัวน้อยได้แต่ก้มหน้านิ่งไม่อาจบอกได้จนจบประโยค รับรู้เพียงผิวกายที่ถูกสัมผัสอย่างแสนอ่อนโยน
อ๋องน้อยเชยใบหน้าหวานขึ้นให้สบสายตา รั้งใบหน้าหวานหมายจะมอบสัมผัสลึกล้ำหากแต่เสี้ยววิที่จะแตะริมฝีปาก ภาพที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้า ใบหน้าของฮ่องเต้แทรกทับใบหน้าหวานจนหมดสิ้น
“เฮ้ย” ท่านอ๋องสลัดร่างบางออกจากตัวอย่างแรง หายใจหอบหนัก ตกใจกับสิ่งที่เห็น นึกแค้นกับเรื่องเมื่อเช้า “ออกไปก่อน เฉียนกุ้ย เจ้าออกไป”
“ท่านอ๋อง” ขันทีตัวน้อยไม่เข้าใจท่านอ๋องเดี๋ยวว่ารักฝากหัวใจ หากต่อมากลับขับไล่เช่นนี้ แต่มันก็สมควรคนไร้เพศเช่นเขาใครกันจะรักจริง มีแต่ใจดวงนี้ที่มองให้ท่านอ๋องไปแล้ว อย่างไม่คิดเรียกคืน
“ออกไป ข้าบอกให้ออกไป” อ๋องน้อยอาละวาดคว้างปาเครื่องใช้ จนขันทีน้อยผู้น่าสงสารต้องจำใจเดินจากมา น้ำตาเม็ดเล็กไหลรินไม่เข้าใจคุณชายผู้สูงศักดิ์เลย
ท่านทำกับข้าเช่นนี้ได้แค่วันนี้เท่านั้นฮ่องเต้ เมื่อวันใดที่พ่อข้าเป็นใหญ่ ท่านต้องมาเป็นสนมของข้า...ซีวอน ท่านต้องเป็นสนมของข้า
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
Talk
มีใครสงสารเฉียนกุ้ยไหมคะ ไอซ์สงสารอ่า ตอนนี้รันทดดันหลงรักอ๋องน้อยไปแล้ว แล้วต่อไปยังต้องโดนฮ่องเต้แย่งคนรัก ไม่นะ เฉียนกุ้ยของไอซ์ เจ้าของชื่อมันรู้เข้าไอซ์ตายแน่ ให้เป็นขันที 555
วันนี้ครบร้อยในทีเดียวสามารถสุดๆ ปั่นเรื่องนี้ยากกว่าปั่นหลอดสะอีกคะ เพราะไม่รู้ว่าควรต้องใช้ภาษาระดับไหนแน่ ถ้าเป็นแบบหลอดก็คงยากเกินไปสำหรับไอซ์ แล้วก็ไม่เหมะกับเรื่องนี้ อ๊ากกก
แอบมีซินวอนนิดๆคะ สนองความต้องการส่วนตัวคะ 555
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์นะคะ
ความคิดเห็น