ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - - - Freezing love - - - (woncin )

    ลำดับตอนที่ #3 : - -FL- - 3 100%

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 53


    - -FL- - 3

     

                    ร่างสูงในชุดสูทสีดำยืนไว้อาลัยหน้าป้ายฝังศพผู้เป็นบิดา พิธีศพผ่านพ้นไปแลวอย่างเรียบง่าย ผู้คนมากมายที่นักหน้าถือตาในวงธุรกิจ คุ้นบ้าง ไม่คุ้นบ้าง ต่างก็อยากมาดู ว่าที่ผู้บริหารคนใหม่ที่จะขึ้นมาทำงานแทนพ่อ แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ชายหนุ่มกำลังสับสนกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

     

                    ทั้งการสูญเสียผู้เป็นพ่อ

     

                    การเริ่มต้นดูแลในสิ่งที่พ่อทิ้งเอาไว้

     

                    และ...การรับรู้ว่าพ่อนอกใจแม่

     

                    ทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาจนไม่อาจตั้งรับ บางทีอาจจะจริงที่บอกว่า คนเรากลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวเวลาที่จะพาให้ความสุขหายไป สิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่ชายหนุ่มมีตอนนี้ คือร่างบอบบางของผู้หญิงเพียงคนเดียว..ยุนอา

     

                    ชายหนุ่มร่างสูง วัยกลางคนเดินตรงเข้ามาหาซีวอน ชายหนุ่มจำได้ดีว่าเป็นเลขาของพ่อที่ช่วงหลังมานี้ได้เห็นบ่อยเพราะเป็นคนจัดการเรื่องราวต่างๆให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ลำพังแค่เขาคนเดียวคงไม่สามารถทำอะไรได้ “ขอบคุณมากนะครับอา “

     

                    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ท่านประธานเองก็มีพระคุณกับผมมาก ไม่ต่างจากพ่อคนหนึ่ง” แรวอนกล่าวกับเจ้านายคนใหม่อย่างสุภาพ “แล้วส่วนเรื่องตามหาลูกชายอีกคนของท่านประธาน คุณซีวอนจะให้ผมดำเนินการหรือเปล่าครับ”

     

                    “ผม ขอเวลาอีกสักพักหล่ะกัน ตอนนี้มันยังเร็วเกินกว่าที่ผมจะรับเรื่องนี้ได้ มันเหมือนว่าความไว้ใจที่ผมมีตลอดมันถูกทรยศ อาคงเข้าใจนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างท้อใจ สิ่งที่ไม่เคยได้รุ้ กลับต้องมารู้ในวันที่ไม่มีใครให้หันหน้าไปพึ่ง มันดูหนักเกินกว่าจะยอมรับได้

     

                    “ผมเข้าใจครับ บางทีถ้าหากคุณไม่ต้องการ เราก็ไม่จำเป็นต้องตามหาก็ได้นะครับ เพราะป่านนี้แล้ว เขาก็คงไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ” เลขาวัยกลางคนเสนอทางเลือกที่สามารถทำได้ให้เจ้านายคนใหม่ มันอาจดูใจร้ายเกินไป กับเด็กผู้ชายคนนั้น แต่ถ้าคิดอีกที บางทีเด็กคนนั้นก็อาจไม่ต้องการสิ่งที่พวกเขากำลังยัดเยียดให้ก็ได้

    ผ่านมายี่สิบปี เวลาไม่น้อยเลยที่จะทำให้ลืมอะไรไป

     

                    “ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นความตั้งใจสุดท้ายของพ่อ อีกอย่างเขาก็เป็นน้องของผม สมควรได้รับการดูแลอย่างดี อย่างที่ผมเคยได้รับ ชดเชยสิ่งที่เขาขาดไปยี่สิบปี” ดวงตาคมทองมองไปไกล พูดออกไปทั้งที่เจ็บปวด เวลายี่สิบปีกับการปิดบังความจริงของผู้เป็นพ่อ

     

                    “อย่างนั้นก็ได้ครับ แล้วคุณซีวอนจะเข้าโงแรมเมื่อไหร่ครับ” แรวอนถามเพื่อจัดเตรียมทุกอย่างไว้รอประธานคนใหม่ ที่ไม่เคยย่างกรายเข้าไปในอาณาจักรของพ่อตนเองเลย จวบจนวันนี้

     

                    “คงพรุ่งนี้แหละครับ ถ้ายังไงลุงช่วยแนะนำผมด้วย”

     

                    “ครับ แล้ววันพรุ่งนี้เจอกันนะครับ” ฝ่ายสูงวัยกว่าโค้งศีรษะลง ตามฐานะ ของเจ้านายและลูกน้อง ในขณะที่ร่างสูงเอง ก็โค้งศีรษะให้กับผู้สูงวัยเช่นเดียวกัน

     

                    “ยุนอาครับ เรากลับกันเถอะ” ชายหนุ่มหันไปหาหญิงสาว ที่อยู่เคียงข้างเขาเสมอ ก่อนจูงมือเดินไปขึ้นรถ ปล่อยให้สุสานแห่งนี้เงียบสงบ เป็นสถานที่ของผู้วายชนม์

     

                    “ซีวอนคะ แล้วเรื่องน้องชายของคุณ จะทำยังไงต่อไปคะ” ดวงตากลมมองใบหน้าคมเข้ม อย่างเข้าใจ ว่าเรื่องนี้คงทำให้คนรักของเธอเจ็บปวดไม่น้อย

     

                    “ผมก็คงตามหาเขา บอกเขาว่าเขาเป็นคนของตระกูลชเว มีผมเป็นพี่ ชดเชยสิ่งที่เขาควรได้รับ” ดูเหมือนเป็นคำพูดง่ายๆที่เขาท่องไวจนขึ้นใจ แต่ตอนนี้น้ำตาลูกผู้ชายมันกำลังไหลลงมาเพราะความเสียใจสิ่งที่พ่อไว้

     

                    “อย่าร้องเลยคะ สิ่งที่คุณทำถูกต้องที่สุดแล้ว ฉันจะอยู่ข้างคุณนะคะ” ร่างบางกอบกุมมือหนาเอาไว้แน่น เป็นสัญญาให้ชายหนุ่มได้รู้ว่าจะมีเธอเสมอไป

     

                    “ขอบคุณครับ ผมรักคุณนะยุนอา”

     

                    “ฉันก็รักคุณคะ ซีวอน” สองคนบอกรักกันท่ามกลางความเงียบ หัวใจที่เคยว้าวุ่นสงบลงได้เพียงค่คำเดียวที่เปรียบเหมือนน้ำทิพย์ชโมจิตใจ

     

     * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

                    “นี้ คิม ฮีชอลผู้ช่วยของผมครับ และจะเป็นเลชาอีกคนให้กับท่านประธาน” ชายหนุ่มร่างสูงในสูทพอดีตัวนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ทำให้จิตใจของฮีชอลเต้นไม่เป็นจังหวะ นี้เป็นครั้งที่สองที่เขาได้ใกล้ชิดกับคนที่แอบรักมานาน คำพูดแนะนำตัวที่เลขาใหญ่ ผ่านเข้ากระทบหูเพียงน้อยนิด

     

                    “ยินดีที่ได้ร่วมงาน ผม ชเว ซีวอน” มือหนายื่นออกมา หวังจะทักทายด้วยการจับมือแบบสากล หากแต่ผู้ชายหุ่นบางตรงหน้าเขากับทำท่าคล้ายเหม่อลอยไปไกล จนชักเริ่มไม่พอใจ

     

                    “ฮีชอล” เสียงเรียกพร้อมการสะกิดเบาๆของคิม แรวอน ทำให้ร่างบางรู้สึกตัว ยื่นมืออกไปจับมือหนา ด้วยใบหน้าแดงกล่ำ

     

    ในที่สุดฝันที่รอคอบมานานก็เป็นจริงสักที แค่ได้ใกล้ชิดขนาดนี้ คงทำให้เขามีความสุข แม้จะต้องเห็นชายหนุ่มกับคนรักก็ตาม แต่การได้เห็นคนที่รักมีความสุข นั่นก็น่าจะมากพอแล้ว มกพอสำหรับฮีชอล

     

                    “งานแรกที่ผมจะสั่งให้คุณทำคือ ตามหาน้องชายอีกคนให้ผมที ไปขอรายละเอียดได้ที่อาแรวอนนะ”

     

                    “ครับ”

     

                    “เป็นเชจาผม คุณต้องรู้ไว้อย่าง ผมไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในขณะที่ผมทำงาน ถ้าเป็นเรื่องไม่สำคัญจริงๆ เว้นแต่ ผู้หญิงชื่อยุนอา  ถ้าเธอมา คุณก็ให้เธอเข้ามาได้ทันที ไม่ต้องโทรเข้ามาถามผม”

     

                    “ครับ” ชื่อที่ได้ยิน ทำให้ร่างบางรู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ทำได้แค่เก็บเอาไว้ไม่สามารถจะแสดอะไรออกมาดั่งที่ใจต้องการ

     

                    “อ้อ คุณฮีชอล เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า ทำไมผมรู้สึกคุ้นหน้าคุณจังเลย” ชายหนุ่มจ้องใบหน้าหวาน พยายามนึกว่าเคยเห็นหน้าแบบนี้ที่ไหน แต่ยังไงก็นึกไม่ออก

     

                    “เอ่อ...ไม่เคยครับ” ร่างบางอ้ำอึ้งก่อนตัดใจปฏิเสธออกไป แต่ในใจกำลังร่ำร้องด้วยความน้อยใจ ที่ชายหนุ่มไม่แม้จะจดจำกันบ้างเลย ทั้งๆที่เขาไม่เคยเลยจะลืมเลือนใบหน้าคม ท่วงท่าแสนสง่า และน้ำเสียงทุ้มนุ่ม

     

                    “อือ คุณออกไปได้แล้ว” ประโยคไล่อย่างสุภาพที่แสนเย็นชาทำให้ร่างบางเดินหันหลังกลับไปอย่างเงียบๆ

     

                    ดีแล้วที่จำไม่ได้

     

                    ดีแล้วที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร

     

                    ดีต่อซีวอนและยุนอา

     

                    ดีแล้วหรือ..? กับฮีชอล

     

     

    * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

          

                        ผ่านพักเที่ยงมาเกือบสามชั่วโมง ใกล้เวลาเลิกงานเต็มที แต่ชายหนุ่มในห้องกลับไม่มีทีท่าว่าจะเรียกใช้เลขาคนใหม่เลย ปล่อยเลขานั่งว่างงานอยุ่หน้าห้อง ไม่แม้แต่จะเรียกเข้าไปซักถามตารางงานเลย

     

                    “สวัสดีคะ ดิฉันมาขอพบคุณซีวอนคะ” เสียงหวานใสที่ดังขึ้นเรียกให้ร่างบางต้องเงยหน้าขึ้นมองแจกที่มาพบผู้บริหารคนใหม่ของโรงแรม

     

                    “อ้าว! ยุนอา” ยามนี้ความรู้สึกของร่างบางกำลังตีกันมั่วไปหมด จนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ดีใจหรือเสียใจ ในเมื่อเธอคนนี้เป็นน้องรหัสที่สนิทด้วยสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็เป็นคนที่ซีวอนรักมาเช่นกัน “มาพบท่านประธานหรอ” สุดท้ายเมื่อไม่สามารถทำอะไรได้ ฮีชอลจึงส่งยิ้มที่แสนเศร้าไปให้รุ่นน้องที่ไมเจอกันตั้งนาน

     

                    “คะ ว่าจะมาหาคนในห้อง แต่ตอนนี้ยุนอาคุยกับคนหน้าห้องก่อนดีกว่า พี่ฮีชอลสบายดีหรือเปล่าคะ ไม่เจอกันตั้งนาน ไม่ยอมโทรหาน้องบ้างเลย” เสียงใสที่ทำให้คนฟังรู้สึกดี กับใบหน้าหวาน ที่เรียกความเอ็นดูจากคนอื่นๆถามพี่รหัสอย่างคุ้นเคยแม้จะไม่ได้เจอกันนาน

     

                    “พี่ก็สบายดี แต่คงไม่เท่ายุนอาหรอกมั้ง แล้วเป็นยังไงบ้าง” เพราะความน่ารักของยุนอา ทำให้แม้แต่ฮีชอลเองก็ยังเอ็นสาวน้อยคนนี้

     

                      ถึงแม้จะมียุนอาเป็นศัตรูความรัก ฮีชอลเองก็รู้ดีว่าคงไม่มีวันได้หัวใจของชายหนุ่มมาครอบครอง แล้วทำไมจะต้องไปโกรธเกลียด หญิงสาวที่ไม่ความผิดอะไรเลยแบบยุนอา

     

                       “ก็สบายดีแบบยุนอาอ่ะแหล่ะคะ แล้วพี่ฮีชอลพึ่งเข้ามาทำงานที่นี้หรอคะ เจ้านายเป็นยังไงบ้างดุหรือเปล่า ถ้าดุหรือทำตัวงี่เง่าบอกยุนอาได้เลยนะคะ ยุนอาจะจัดการให้ “  รอยยิ้มร่าเริง สายตาแวววาว ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แลบลิ้นเล็กออกมาอย่างทะเล้น

     

                          “เส้นใหญ่จริงนะ” มือบางขยี้ผมนุ่มเหมือนเส้นไหมอย่างเอ็นดู ใบหน้ายิ้มแย้มให้กับคำพูดที่ใสซื่อ แต่จะมีใครรู้บ้างไหม ว่าถ้อยคำที่ฟังก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของชายหญิงคู่นี้ มันทำให้ร่างบางที่แสร้งว่ายิ้มแย้มนั้นเจ็บร้าวแค่ไหน ต้องมารับรู้ความสุขของผู้อื่น บนความทุกข์ของตัวเอง....แต่จะโทษใครได้

     

                    “ทำอะไรกัน” เสียงทุ่ม ที่ฟังดูก็รู้ว่ากำลังระงับอารมณ์ไม่พอใจ ถามจากด้านหลัง ทำให้ ฮีชอลต้องรีบละมือออกจาศีรษะเล็กสวย

     

                    “เปล่าครับ” เสียงเบาๆของคนที่ก้มหน้าตอบ ไม่ใช่เพราะกลัวอารมณ์ของเจ้านาย แต่กลัวน้ำตาตัวเองที่ไม่อาจห้ามได้จะไหลออกมาเพราะความน้อยใจ

     

                    “เปล่าสักหน่อย ซีวอนอย่ามาทำเสียงดุใส่พี่ฮีชอลนะไม่งั้นเย็นนี้ยุนอาไม่พากลับบ้านด้วย” เหมือนจะเป็นคำพูดที่ทำให้ไม่พอใจ เหมือนจะเป็นน้ำเสียงที่ไม่มีกล้าใช้กับซีวอน แต่ เพียงแค่ยุนอาคนเดียวเท่านั้นที่ชายหนุ่มยอมให้ด้วยทั้งหมดของหัวใจ สายตาที่มองหญิงสาวเต็มไปด้วยความรัก ความหวังดี ยอมลงให้ทุกอย่าง

     

                    แขนเรียวคล้องเข้ากับวงแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ส่งยิ้มอย่างออดอ้อนให้กับชายหนุ่ม “ซีวอนห้ามแกล้งพี่ฮีชอลของยุนอานะคะ นะ” ดวงตากลมโตมองคนรัก พลางถูไถศีรษะตนเองกับ แขนแกร่ง

     

                    “แล้วเลขาผมเป็นอะไรกับยุนอาหล่ะครับ หืม? ยุนอาถึงต้องลงทุนขู่ ผมแบบนี้” เสียงนุ่มแตกต่างจากเมื่อกี้มากนัก ถามคนรัก อย่างอ่อนโยน มือหนาจับปอยผมที่ละลงมาไปทัดใบหูเล็กให้ ก่อนมองใบหน้าหวานอย่างพอใจ

     

                    “พี่ฮีชอล เป็นพี่รหัสของยุนอาคะ เพราะงั้น ซีวอนต้องดูแลพี่ฮีชอลให้ดีๆนะ พี่คนนี้ ยุนอารักที่สุดเลย”  คำบอกรักของน้องรหัสที่สนิทกันทำให้ฮีชอลรุ้สึกดี แต่หากจะไม่มีภาพบางอย่างให้เห็นคงดีกว่านี้

     

                    จบคำพูดของยุนอา หญิงสาวก็ไม่มีโอกาสได้พูดสิ่งใดอีก เมื่อ ริมฝีปากร้อนก้มลงฉวยความหอมหวานขาริมฝีปากบาง โดยไม่แคร์ว่าตรงนั้นจะมีใครอื่นยืนอยู่

     

                         แม้จะเจ็บแค่ไหนกับภาพที่เห็น แต่เวลานี้ คงไม่อาจทำอะไรได้ จะยิ้ม จะเศร้า หรือจะร้องไห้ ก็คงทำไม่ได้สักอย่าง ได้แต่ปล่อยให้ความรู้สึกมันกดดันอยู่ภายใน

     

    จะโกรธ จะเกลียดใครได้..ในเมื่อมันไม่มีใครผิดเลย...ไม่แม้แต่คนเดียว

     

    ถามตัวเองว่าเจ็บไหม คำตอบคือ เจ็บ...เจ็บมาก เหมือนจะทนไม่ได้ ที่ต้องเห็นความรักของคนคู่นี้ แต่ก็อยากอยู่ใกล้ๆ ไม่ไปไหน

     

    ถามตัวเองว่าอิจฉารุ่นน้อง คำตอบคือ ...อิจฉา  มากด้วย อยากเข้าไปแทนที่ ไปยืนอยู่ในวงแขนแกร่งคู่นั่น

     

                    แล้วจะทำไปเพื่ออะไร คำตอบง่ายๆ ทนก็เพราะรัก อิจฉาก็เพราะรัก นองจากทนความเจ็บปวดอยู่แบบนี้ ก็คงไม่มีทางใดแล้วที่จะชิดใกล้ แม้ว่ามันจะแลกมาด้วยความรู้สึกแสนเจ็บปวด 

     

                    “อืม ซีวอนอ่า” เสียงหวานประท้วงหลังหลุดจากการจุมพิตแสนหวานแบบไม่สนใจใครของชายหนุ่ม ทำให้ใบหน้าหวานขึ้นสี ไม่กล้าสบตากับรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ ได้แต่ซุกหน้าลงกับอกกว้างที่แสนอบอุ่น

     

                    “ก็ยุนอาบอกเองนี้ครับว่าให้ดูแลรุ่นพี่ของยุนอาให้ดี  ยุนอาก็ต้องให้รางวัลผมสิ” ชายหนุ่มบอกอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะควงคนรักกลับเข้าไปในห้องทำงาน ไม่สนใจอีกคนที่ยืนนิ่ง

     

                    ร่างบางยืนมองคนทั้งคู่เดินหายเข้าไปในห้องพร้อมรอยยิ้ม สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า อยากคิดซะว่าไม่เห็น แต่จะทำได้อย่างไร ในเมื่อภาพเหล่านี้ติดแน่นในความจำ ต่อไปนี้ คงมีแต่ความรัก ความหวานชื่น เฝ้าคอยหลอกหลอน

     

                    อีกกี่น้ำตาที่ต้องเสียไป

     

                    ฮีชอลไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะมีสักวันไหมที่จะมองภาพเหล่านี้ได้อย่างไม่เจ็บช้ำ

     

                    แค่เริ่มต้นก็ เป็นมากขนาดนี้ แล้วจะทนได้อีกนานแค่ไหนกัน

                     

    * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

     

    ห้าโมงเวลาเลิกงานทั่วไปทั่วไป แต่สำหรับเลขาท่านประธานอย่างคิม ฮีชอล คงต้องรอคำอนุญาตจากเข้านายเสียก่อน แต่ชายหนุ่มในเวลานี้ก็กำลังอยู่กับคนรักภายในห้อง ตอนนี้ก็คงได้แค่นั่งรอเพียงเท่านั้น

     

    ฮีชอลนั่งทำงานรอเวลาที่จะมีใครสักคนเดินออกมาจากห้องที่ใหญ่ที่สุดขอตึกนี้ และเพียงไม่นาน หญิงสาวร่างบางแสนน่ารักก็เดินออกมาพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ใครก็ต้องยิ้มตาม

     

    “พี่ฮีชอลคะ เดี๋ยวกลับบ้านยังไงคะ” เสียงหวานๆถามอย่างห่วงใย  ยิ่งตอนนี้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วก็ยิ่งเป็นห่วงพี่ชายหน้าสวย

     

    “อ้อ เดี๋ยวพี่ไปรับท้องชายที่มหาลัยแล้วก็คงนั่งรถกลับนั่นแหล่ะ แล้วยุนอาหล่ะ คงมีราชรถไปส่ง

    หล่ะสิ มืดขนาดนี้แล้ว” คำพูดหยอกเย้าพร้อมรอยยิ้ม แต่จะมีใครรู้บ้างไหม ว่าเวลานี้ ฮีชอลไม่ต่างจากคำว่า หน้าชื่น อกตรม

     

                    “พี่ฮีชอลก็มีราชรถคะ เดี๋ยวกลับพร้อมกันเลยนะคะ แวะรับน้องชายก่อนแล้วก็ไปส่งพี่ที่บ้าน พี่ฮีชอลยังอยู่กับแม่ครูหรือเปล่าคะ”

     

                    “ไม่ต้องหรอก เสียเวลาเปล่าๆ เดี่ยวพี่กลับเองก็ได้ อย่าลำบากเลย” อย่าทำให้พี่เจ็บเลย ถ้อยคำที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ บอกใครไม่ได้ แค่เมื่อตอนบ่ายก็มากพอแล้ว แล้วจะให้ไปทนอยู่ในรถได้อย่างไร

     

                    “ไม่ลำบากหรอกคะ กลับด้วยกันนะคะ ถือว่าเป็นสวัสดิการพนักงานไงคะ ถ้าพี่ฮีชอลไม่กลับด้วยวันหลังยุนอาไม่มาแล้วนะคะ” น้ำเสียงแสนงอน กับท่าทางน่ารักๆ ยังคงเป็นสิ่งที่ฮีชอลชอบดูจากรุ่นน้องคนนี้เสมอ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าถ้างอน ก็คงง้อกันนาน

     

                    “งั้นพี่รบกวนด้วยนะครับ โรงแรมนี้สวัสดิการดีจริง ส่งพนักงานกลับบ้านด้วยรถผู้บริหารระดับเจ้าของโรงแรม”

     

    “ใช่ไหมหล่ะคะ เพราะงั้นพี่ฮีชอลต้องทำงานที่นี้นานๆนะคะ ยุนอาจะได้มาหาบ่อยๆ” ยิ้มสวยใส ของหญิงสาวดูเป็นธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องแต่งเสริมอะไรให้มากมาย

     

    ในใจของฮีชอลอยากร้องตะโกนบอกกับรุ่นน้องเหลือเกินว่าอย่ามาได้ไหม อ่ามาอีกเลย ยิ่งยุนอามา พี่ก็ยิ่งเจบ แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่คิดอยู่ในใจเท่านั้น คงไม่มีวันได้พูดออกไป

     

    “ยุนอา จะกลับหรือยังครับ” เสียงทุ้มจากประตูห้อง ทำให้บุคคลทั้งสองต้องหันไปมองชายหนุ่มหน้าร่างสูง ที่ทำหน้าสีหน้าเหมือนไม่พอใจบางอย่างมาให้เลขาที่พยายามทำตัวให้เล็กที่สุด

     

                    “เสร็จแล้วคะ แต่เดี๋ยวซีวอนต้องไปรับน้องชายของพี่ฮีชอลที่มหาลัยก่อนนะคะ รีบไปกันดีกว่าคะ เดี๋ยวพี่ฮีชอลเปลี่ยนใจไม่ไปกับเรา” แขนเรียวคล้องเขากับคนรักที่ยืนนิ่ง ก่อนจะดันให้ออกเดินเคียงคู่กันไป ปล่อยให้อีกคนเดินตามอยู่ข้างหลัง

     

                    ฮีชอล คงเดินเฉยตามหลังคนทั้งคู่หากไม่มีคำพูดของชายหนุ่มลอยเข้ามากระทบหู แล้วกรีดหัวใจ ให้น้ำตาไหล ว่า “ถ้าเขาไม่อยากกลับกับเรา ก็ปล่อยเขาไปสิครับ ผมจะได้พายุนอาไปหาอะไรทานด้วย         

     

    น้ำตาเม็ดเล็กไหลลงจากหางตา อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรให้หลุดพ้นจากภาพตรงหน้า แต่ก็คงไม่มีทางทำได้ ในเมื่อรู้ตัวอีกที ก็เข้ามานั่งอยู่ในรถคันหรู มองคู่รักหัวเราะให้กันและกันอย่างมีความสุข

     

                    “น้องชายรออยู่ตรงไหน” น้ำเสียงเข้มที่แตกต่างจากยามพูดคุยกับหญิงสาวถามคนนั่งข้างหลัง ด้วยความขัดใจ เพราะไม่อาจพาคนรักไปนั่งดินเนอร์ได้ แต่ต้องมาติดรับส่งคนที่พึ่งเข้ามาเป็นเลขา

     

                    “รออยู่ที่ป้ายรถเมล์ครับ ผู้ชายคนที่ใส่เสื้อเชิ้ตนั่นแหล่ะครับ” ฮีชอลรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของชายหนุ่มได้แต่บอกเสียงแผ่ว ไม่อยากทำอะไรให้รำคาญใจ แต่ก็ไม่สามารถขัดใจหญิงสาวเพียงคนเดียวในรถได้

     

                    “งั้นก็ลงไปเรียกซะสิ ตรงนี้จอดนานไม่ได้”

     

                    “ครับ เอ่อ ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง  เดี๋ยวผมกับน้องนั่งรถกลับกันเองได้” ร่างบางีบหาทางออกจากบรรยากาศแบบนี้ให้เร็วที่สุด โดยถือโอกาสเอ่ยลาคนทั้งสองซะตั้งแต่ตรงนี้ดีกว่านั่งทนต่อไป

     

                    “ได้ไงคะ ไหนๆก็มาแล้ว ก็ไปส่งให้ถึงที่เลยนะคะ ซีวอน” ร่างบางหันไปอ้อนคนรัก ให้เห็นด้วยกับตนเองด้วยแก้มป่องพองลม ที่คงไม่มีใครปฏิเสธลง

     

                    “ตามใจยุนอาสิครับ” น้ำเสียงหวานบอกกับหญิงสาวอย่างตามใจพร้อมรอยยิ้มแสนเอ็นดู ที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน สายตาแบบนี้ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง

     

    สุดท้ายแล้วฮีชอลก็ต้องลงไปพาน้องชายมาขึ้นรถคันหรูที่จอดรออยู่ “คยูฮยอน นี้ยุนอาน้องรหัสของพี่ แล้วก็คุณซีวอน เจ้านายพี่ นี้น้องชายผมครับ” เพียงเท่านั้นแล้วทั้งรถก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง

     

                    ชื่อของน้องชายที่ฮีชอลเอ่ยเรียกสะกิดความสนใจของชายหนุ่มให้ต้องหันมามองอีกครั้งอย่างสนใจ ก่อนเริ่มขับรถออกไป สร้างบรรยากาศที่น่าอึดอัดให้แก่ผู้โดยสารไม่เว้นแม้กระทั่งคนรักที่นั่งข้างคนขับจนกระทั่งรถจอดนิ่งสนิทหน้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า

     

    “ขอบคุณมากครับที่มาส่งผมกับน้อง”  ร่างบางก้มหัวให้กับคนทั้งคู่ ก่อนจะก้าวลงจากรถโดยไม่ทันสังเกตแววตาที่แปลกไปของชายหนุ่ม

     

                    สองพี่น้องยืนส่งรถคันงาม จนกระทั่งไฟท้ายเลือนหายไปใน “ผู้ชายคนนั้นหรอครับที่ทำให้พี่ชายผมต้องเสียใจบ่อยๆ” เสียงทุ้มถามพี่ชายตรงไปตรงมา

     

                    “อือ คนนี้แหล่ะ หล่อใช่ไหมหล่ะ” ร่างบางถามกลับน้องชายอย่างร่าเริง

     

                    “ไม่อ่ะ ผมหล่อกกว่าอีก” ท่าทีที่ดูร่าเริงของพี่ชายทำไม คยูฮยอนจะดูไม่ออกว่ามันไม่ได้มาจากใจ แต่ทำไม เขาต้องทำลายสิ่งที่พี่ชายพยายามสร้างขึ้น จึงได้แต่ตามน้ำไป ไม่จริงจังกับคำตอบ ผิดกับคำถามต่อมา ที่น้ำเสียงดูเคร่งเครียด “แล้วผู้หญิงคนนั้นคงเป็นแฟนเขาใช่ไหมครับ”

     

                    “อือ ยุนอานั่นแหล่ะ ที่ซีวอนรัก น่ารักดีนะ คู่นี้ ดูยังไงก็เหมาะสมกัน” เสียงถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยล้ากับคำพูดและความรู้สึกของตัวเอง

     

                    “ก็น่ารักดีครับ แต่ไม่เหมาะสมกันเท่าไหร่หรอก” ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายก็จะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งพี่ชายหน้าหวานไว้เพียงลำพัง

     

                    “คยูฮยอน นายพูดแบบนี้หมายความว่าไง นายจะคิดจะทำอะไร บอกพี่นะ” ร่างบางรีบวิ่งตามน้องชาย รั่งให้หันหน้ามาคุยกัน ไม่มีการหลบสายตาของสองพี่น้อง

     

                    “ผมไม่ทำอะไรหรอกครับ ถ้ามันไม่ทำให้เสียใจไปมากกว่านี้ และถ้าไม่มีโอกาส” น้ำเสียงเย็นชาในแบบที่ฮีชอลไม่เคยได้ยิน ทำให้รู้สึกหวาดกลัวกับความคิดของน้องชาย

     

                    “อย่าทำอะไรยุนอา พี่ขอร้อง ยุนอาไม่รู้เรื่องนี้ และมันก็ไม่มีใครผิดด้วย เข้าใจไหม” ฮีชอลตะโกนถามน้องชาย แต่ก็ได้คำตอบเป็นเพียงความเงียบ แผ่นหลังตรงที่เดินจากไป ทิ้งให้พี่ชายได้แต่นึกกลัวนาคตที่ยังมาไม่ถึง และยากเกินกว่าจะคาดเดา

    * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

    Talk

                         จบตอนแล้วคะ ในที่สุด ก็เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา แถมคุพี่กับคุณน้องก็ได้เจอกันแล้ว แม้กี้จะยังไม่รู้ตัวก็ตาม

                           ดูเรื่องนี้มันไม่ค่อยมีคนอ่านจริงจัง เริ่มเครียดแล้วนะเนี่ย อ่านแล้วเป็นไงบอกกันนะคะ จะได้ปรับปรุงและแก้ไข ขอบคุณ พี่ojsuju(ขอเรียกพี่นะคะ) พี่ObNumZ พี่กิ๊ก พี่noody แล้วก็น้องซัน ที่ยังอุตสาห์แวะเวียนมาอ่าน ช่วยไอซ์หาข้อบกพร่องของเรื่องหน่อยดีกว่าคะ  
                  จริงจังนะเนี่ย ไม่มีคนอ่านเลย มันเกิดจากอะไรอ่า ย่ำแย่ มากมาย   

    เจอกันครั้งหน้าที่โฮมนะคะ

                    

    ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ

     

          
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×