ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    美花 ; (mei hua) (woncin)

    ลำดับตอนที่ #2 : 美花 : 第一花 100% (rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 53


    美花:第一

     

                    คุณชายหนุ่มเจ้าสำราญโอบอุ้มร่างบอบบางของหญิงสาวจากสำนักโคมแดงลงจากหลังม้าตัวใหญ่ พาาเดินเข้าวังชิวเลี่ยน เดินผ่านหน้าตำหนักหลังใหญ่ หากแต่กลับถูกรั้งไว้ด้วยเสียงที่ทรงอำนาจที่สุดแห่งวังนี้ “ฮีชอลเจ้าไปพาใครเข้าในบ้าน”

     

            “ท่านพ่อ!” เสียงตกตะลึงของอ๋องน้อยเพียงองค์เดียวแห่งวังชิวเลี่ยน บุตรชายท่านปาหยางอ๋อง คุณชายเจ้าสำราญผู้ออกเที่ยวในทุกค่ำคืนราตรี

     

                    “เจ้ายังเห็นว่าข้าเป็นพ่อก็วางผู้หญิงคนนั้นสะ” เสียงสูงทรงอำนาจของปาหยางอ๋องสั่งลูกชาย  แววตาเรืองๆมองหญิงสาวในมือลูกชายอย่างไม่พอใจ หญิงชั้นต่ำที่บังอาจก้าวล่วงเข้ามาในวังอันสูงส่ง

     

                    “ข้าก็เห็นว่าท่านเป็นพ่อ แต่ข้าก็คงมิอาจให้เท้าน้อยๆของแม่นางไห่ซินได้สัมผัสกับพื้นดินอันหยาบกระด้าง”

     

                    “แก” มือเหี่ยวๆชี้หน้าลูกชายด้วยโทสะ ที่ขัดขืนประกาศิตของอ๋องใหญ่

     

                    “ขอโทษนะท่านพ่อ แต่ข้าไม่อยากเถียงกับท่านเวลานี้ ดูใบหน้าหวานของแม่นางไห่ซินสิท่านพ่อ นางหวาดกลัดท่านไปหมดแล้ว ข้าขอตัวก่อน” แล้วร่างของคนสองก็เดินห่างออกไปทางตำหนักหลังย่อมที่ประดับดาด้วยดอกไม้สีหวาน

     

                    เงาเปลือยเปล่าเคลื่อนไหวของสองคนที่ทาบทับแลกเปลี่ยนความหวานล้ำอย่างเชี่ยวชาญ เปลวเทียวไหวระริก ด้วยลมหายใจที่หอบสะท้าน แสงเทียนสะท้อนหยาดน้ำบนเรือนกายเป็นประกายระยิบระยับ ความสุขล้น ถูกตักตวงอย่างไม่เบื่อหน่าย

     

                    ทั้งสองว่ายวนอยู่ในกระแสแห่งตัณหา ไม่รู้จักคำว่าเบื่อหน่าย เงินสามหมื่นตำลึงทองที่เสียไปแลกได้กับความสุขที่ล่วงเลยเข้าสู่คืนที่สาม

     

            “ฮีชอล” ปาหยาง อ๋อง เปิดประตูเข้าสู่ตำหนักลูกชายด้วยความเดือดดาล เมื่อล่วงเข้าสู่วันที่สาม หากแต่ลูกชายยังคงระเริงอยู่ในห้วงแห่งราคะ และคงจะไม่โกรธเท่านี้หากวันนี้จะไม่ใช่วันฉลองพระชนน์พรรษาครบสิบเก้าพรรษาของฮ่องเต้องค์ใหม่

     

                    ทหารประจำตำหนักกรูเข้ามาแยกอ๋องน้อยเพียงหนึ่งเดียวแห่งวัง ออกจากเนินเนื้อขาวนุ่มของหญิงจากหอโคมแดง ก่อนจะจับยัดลงในอ่างไม้ที่เหล่านางกำนัลเตรียมไว้ตามคำสั่งของท่านอ๋อง ก่อนที่พวกนางจะเข้าแต่งกายให้กลายเป็นอ๋องน้อยผู้สูงศักดิ์ และเหมาะสมจะเข้าร่วมพิธีหลวง

     

             * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                    งานรื่นเริงของวังหลวงเหล่าอ๋องเล็กอ๋องน้อย ขุนนางอำมาตย์ ต่างเตรียมตัวมาเพื่อถวายพระพรฮ่องเต้ซีวอน ฮ่องเต้หนุ่มผู้เป็นเจ้าของงานวันนี้

     

                    “ฝ่าบาทนั้นใช่ คุณชายที่ประมูลแม่นางในหอโคมแดงด้วยเงินสามหมื่นตำหมื่นทองหรือไม่” องค์รักษ์ประจำองค์ที่มักติดตามฮ่องเต้ออกนอกวังเสมอ ชี้ชวนให้ฮ่องเต้มองคุณชายเจ้าสำอางในวันนี้ที่วันนี้แขวนป้ายหยกแสดงฐานะอ๋องจากวังทู่หลง

     

                    “ก็คงใช่มั้ง คุณชายรักสนุกไร้สาระไปวัน ไม่แปลกเลยที่มาจากวังทู่หลง คงไม่ต่างกันนัก พ่อและลูก” พระเนตรเฉียบคมมององค์ชายร่างเพรียวที่กำลังพูดคุยกับนางกำนัลจากห้องเครื่อง   

     

             * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                   อ๋องน้อยแห่งวังทู่หลงเกี้ยวพาราสีนางกำนัลจากห้องเครื่อง ลืมเลือนแม่นางไห่ซินที่กำลังรออ๋องน้อยกลับไปกกกอดอีกครั้ง “กลิ่นกายเจ้าช่างหอมหวนยิ่งนักแม่นาง จนข้าเสียดายที่องค์ฮ่องเต้เอาแต่เก็บเจ้าไว้กับเนื้อสัตว์ ช่างเป็นการละเลยหญิงงามเช่นเจ้าได้อย่างหยาบคายที่สุด”

     

            “หามิได้เพคะท่านอ๋อง เมิ่งลี่เป็นแค่นางกำนัลธรรมดา หน้าตาหรือจะสู้เหล่าองค์หญิงน้อยใหญ่ที่รัฐต่างๆส่งมาบรรณาการแด่องค์ฮ่องเต้ได้” ใบหน้าขาวใส เอียงอาย แก้มแดงสะท้านเมื่อนิ้วเรียวของอ๋องน้อยเชยคางให้สบดวงตาคู่กลม

     

                    “ใยเจ้าจึงประมาณตนต้อยต่ำเยี่ยงนั้นเล่า ข้า....” แววตากรุ่มกริ่มมองยาวเลยผ่านสาวงามตรงหน้าไปยัง อีกหนึ่งนางที่กำลังสนุกสนามกับอาหารรับรองบนโต๊ะตัวยาว ติดเพียงแค่นางกำนัลตรงหน้าเท่านั้น “ข้าคงต้องไปหาท่านพ่อเสียแล้ว เมิ่งลี่หากข้าสามารถเจรจากับท่านพ่อได้เจ้าจะออกไปอยู่ตำหนักข้าได้ไหม เป็นคนทำอาหารให้กับคนเดียวเท่านั้น”

     

                    “ท่านอ๋อง ข้า....”สาวงามผู้ซื่อใสไม่เคยถูกเล่ห์เหลี่ยมใดหรือจะเท่าทันอ๋องน้อยนักรัก

     

                    “หากเจ้าไม่ตอบข้อถือว่าเจ้ายินยอมแล้วนะ” รอยยิ้มหวานชวนให้หญิงสาวมอบกายและใจให้ เป็นรอยยิ้มที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือมาช้านาน

     

                    อ๋องน้อยสลัดสาวนางกำนัลได้ก็รีบเดินตรงเข้าหาหญิงสาวผู้กำลังนั่งเลือกสรรเหล่าอาหารมังกรเข้าปากอย่างสนุกสนาม

     

                    “สิ่งนั้นเรียก เกี๊ยวสวรรค์ ว่ากันหากได้ลิ้มรสจะเหมือนได้อยู่แดนสวรรค์” เสียงทุ้มข้างหูทำให้สาวน้อยตกใจเผลอปล่อยตะเกียบเงินร่วงสู่พื้น “ข้อขอโทษ ไม่ตั้งใจทำให้ท่านตกใจ เห็นเพียงแม่นางกำลังลังเลที่จะลิ้มรสอาหารแสนรส ข้าชื่อ ฮีชอล อ๋องน้อยแห่งวังทู่หลง ไม่ทราบว่าแม่นางคือ...”

     

                    “เราชื่อ ย่าหนาน องค์หญิงแห่งเกาะชิงเต่า ขอบคุณท่านอ๋องที่อยากช่วยแนะนำเรา” องค์หญิงผู้สูงศักดิ์ ตกอยู่ในมนต์เสน่ห์แห่งรอยยิ้ม หยิบยื่นไมตรีให้อย่างง่ายดาย

     

                    “หม่อมฉันขอประทานอภัยที่กล่าวล่วงเกิน เพราะหารู้ไม่ท่านเป็นถึงสาวผู้สูงศักดิ์” ร่างสูงบางรีบโค้งกายขออภัยเมื่อได้ล่วงเกินสาวงาม

     

                    “มิเป็นไรหรอกเรามาก็ไม่มีเพื่อนคุยเลย หากท่านไม่รังเกียจ เชิญนั่งเป็นเพื่อนเราก่อนจะได้ไหม ช่วยแนะนำอาหารมากมายพวกนี้ให้เรารู้จักหน่อย”

     

                    “ได้กระหม่อม แต่หม่อนฉันเคยได้ยินว่าชาวชิงเต่า หญิงชายล้วนร่ำสุราเก่งยิ่งนัก” แม้ดวงตากลมโตช่างดูจริงใจ หากแต่เจ้าของช่างมีหลายเล่ห์หลายเหลี่ยมยิ่งนัก

     

            “ท่านจะชวนเราดื่มหรือ ได้สิ เราเองก็อยากรู้เช่นกันว่าสุราในวังหลวงรสชาติดีเท่าเทียมสุราจากเกาะของเราไหม”

     

                    มือขาวปลอดดั่งหิมะรินสุราจากวังหลวงลงในถ้วยเล็กให้องค์หญิงจากต่างแดน และรินให้ตนเองอย่างไม่รู้เบื่อ เสียงหัวเราะพูดคุยดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่เกรงต่อสายตาผู้ใดที่มองมา

     

                    “แก้มท่านแดงแล้วน่าองค์หญิงงงงงงงง ท่านมาวแลวววว..เอิ้ก”

     

                    “เราม่ายมาววว ท่านต่างหาก แก้มดั่งดอกเชอร์รี่ในฤดูหนาว ปากท่านก็คล้ายลูกเชอร์รี่เสียจริง ฮ่าๆ”

     

                    “ท่านก็ไม่ต่างจากข้านักหรอกองค์หญิง” อาจเป็นเพราะความเมาทำให้ไม่อาจคุมสติได้ อ้อมแขนบางๆสวมกอดเข้าที่เอวบางขององค์หญิงอย่างจงใจ ก่อนบรรจงประทับรอยบนเรียวปากอิ่มอย่างเผลอไผล

     

                    “ว้ายยยยยยยยยยย ท่านฮีชอล” เสียงกรี๊ดร้องขององค์หญิงเรียกให้สายตาของคนทั้งหมดหันมอง และหนึ่งในนั้นคือ ปาหยางอ๋อง.....

     

                    “ฮีชอล แกทำอะไร นั่นองค์หญิงแห่งเกาะชิงเต่านะ แก!!!” ปาหยางอ๋องกระชากแขนของลูกชายออกห่างจากองค์หญิงย่าหนาน

     

                    เพลี้ยะ

     

                    ใบหน้าแดงกล่ำเพราะฤทธิ์สุรา หันตามแรงตบจากผู้เป็นพ่อ ก่อนจะหันกลับมามองหน้าพ่อด้วยความน้อยใจ

     

                    “ท่านอา” เสียงทุ้มดังจากด้านหลัง ผู้คนต่างเปิดทางให้แก่ชายหนุ่มในชุดมังกรจักรพรรดิ ผู้มีใบหน้าเคร่งขรึม “เมื่อครู่ท่านทำอะไรอ๋องน้อย ในงานวันเกิดของหลานกันท่านอา”

     

                    “ข้าสั่งสอนลูกชายที่บังอาจล่วงเกินองค์หญิงย่าหนานผู้เป็นว่าที่สนมของพระองค์”

     

                    “ท่านสั่งสอนลูกชายด้วยวิธีนี้หรือ แล้วลูกชายจะเชื่อฟังได้อย่างไรกัน จะเป็นไรไหมหากหลานจะขอนำตัวบุตรชายของท่านมาสั่งสอนในวังหลวง” ฮ่องเต้มองอ๋องน้อยถูกบิดาตบกลางวังหลวงด้วยความสมเพช แม้จะนึกสงสารบ้างก็ตาม

     

                    “ฝ่าบาท จะดีหรือ~”องค์รักษ์ประจำตัวถามฮ่องเต้หนุ่มอย่างไม่เชื่อหู การพบเจอทั้งสองครั้ง ล้วนแสดงให้เห็นว่าอ๋องน้อยผู้นี้เป็นคนเช่นไร แล้วจะเอาเข้ามาอยู่ในวังหลวง เขาเกรงว่าต่อให้เคี่ยวกรำอย่างไรอ๋องผู้นี้ก็ยังคงนิสัยเดิม

     

                    “อย่าพึ่งขัดเรา ตกลงท่านว่าอย่างไรท่านอา ให้หลานได้ไหม ถือเสียว่าเป็นของขวัญให้หลาน”

     

                    “เอิ่ม...หากพระองค์ตรัสเช่นนั้น หม่อมฉันคงไม่อาจปฏิเสธได้ พรุ่งนี้ฮีชอลจะเข้าถวายตัวเป็นข้าในวังหลวง แต่วันนี้เห็นทีคงต้องลากตัวกลับไปก่อน” ปาหยางอ๋องผู้อับอายจากการกระทำของบุตรชายรีบบังคับให้อ๋องน้อยเดินไปยังเกี้ยวที่รออยู่

     

                    “ท่านพ่อคงไม่รักข้าแล้วถึงทำเช่นนี้” เสียงพึมพำของอ๋องผู้เคยเห็นโลกมืดหม่น แต่วันนี้ท่านพ่อกลับกำลังไล่ให้เข้าไปอยู่ในดินแดนที่มีแต่กฏระเบียบเคร่งครัด หญิงงามก็น้อยนัก

     

                    ข้าจะดัดนิสัยเจ้าและหาทางไล่พวกเจ้าทั้งตระกูลออกห่างจากกิจการบ้านเมืองให้จงได้ 

     

                * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

    Talk

                     อ่า อ๋องน้อยเปิดมาก็จีบไปแล้วสามสาว ไม่มีวี่แววว่าวันข้างหน้าจะพิสมัยในทางสีม่วงเลย แต่สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมคะ  ซึ่งอ๋องน้อยท่าจะทำกรรมไว้มากสะด้วย อิอิ

                    แต่ละตอนช่างสั้นนัก เห็นด้วยคะ ไร้ข้อแก้ตัวใดๆ แต่ว่าเรื่องนี้จะอยู่ในโปรเจคเดียวกับการ์ดคะ คือจะเป็นตอนสั้นๆ นะคะ ก็ประมาณห้า หกหน้า แล้วก็ จะไม่ค่อยมีคำราชาศัพท์ นะคะ

                  ส่วนชื่อคนก็.....บางคนก็มีตัวตน วนเวียนมาเจอกัน บ้างคนก็คิดขึ้นมาเอง มันเลยดูมั่วๆ เช่นนี้แล ขออภัยนะคะ 

     

    เซี่ยเซี่ยหนี่

     

     

                      

     

                   

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×