คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : 美花 : 第十六花 100%
美花:第十六花
อ่างไม้กว้างที่ตั้งอยู่กลางห้อง มีไอความร้อนพลุ่งพวยขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมที่ถูกเหยาะใส่ด้วยความเอาใจใส่จากผู้เตรียมน้ำอ่างนี้ที่เป็นถึงต้นห้องคนโปรด หากแต่คนเตรียมกลับหายไปนาน จนฮ่องเต้หนุ่มต้องตามหาด้วยพระองค์เอง
“ลีทึก ท่านอ๋องหายไปไหน” ทรงมีรับส่งถามขันทีประจำตำหนักส่วนพระองค์ที่เดินสวนมาตามระเบียงยาว
“กระหม่อมเห็นท่านอ๋องเดินไปที่สวนดอกไม้หน้าตำหนักพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีร่างเล็ก โน้มศีรษะลงต่ำ ก้มตอบโอรสแห่งสวรรค์ที่กำลังทรงร้อนพระทัย
“อือ ขอบใจ” ทรงดำเนินก้าวเร็วไปยังสวนดอกไม้หน้าตำหนักที่ลีทึกบอกมาว่าน้องน้อยของพระองค์อยู่ที่นั้น แม้จะทรงแปลกพระทัยก็ตามว่าด้วยเหตุใดคนที่ต้องอาบน้ำให้พระองค์กลับมาอยู่ที่สวนดอกไม้ หรือต้องการหลบเลี่ยงกันนะ
แผ่นหลังที่ฮ่องเต้หนุ่มคุ้นพระเนตรกำลังก้มหน้าอยู่กับกอกุหลาบหอมจากเปอร์เซีย เรียกรอยแย้มพระโอษฐ์ของฮ่องเต้หนุ่มได้เป็นอย่างดี ทรงค่อยๆดำเนินอย่างแผ่วเบา พระกรโอบรอบเอวเล็กรั้งให้แนบชิดพระอุระ
“ฮะ...เฮ้ย ท่าน” ร่างเล็กที่กำลังเลือกเก็บดอกไม้อย่างใส่ใจเผลออุทานเสียงดัง ก่อนจะเหลียวหน้ากลับมามองพบเจ้าของแขนที่โอบรอบเอวตนเองเป็นวรองค์สูงสง่าของฮ่องเต้หนุ่ม
“ก็พี่หน่ะสิ เจ้าคิดว่าใครกันที่จะทำแบบนี้กับน้องน้อยของฮ่องเต้ได้อีก นอกจากพี่” สุรเสียงทุ้มแผ่วแนบชิดใบหูเล็ก ที่ร้อนและแดงจัด
“ปล่ะ... เปล่า ก็แล้วทำไมมาเงียบๆ ปล่อยข้าได้แล้ว เดี๋ยวใครมาเห็น นี้ไม่ใช่ในตำหนักท่านนะที่จะมาทำอะไรเช่นนี้” เสียงเล็กแผ่วเบา สองมือแกะแขนใหญ่ที่โอบไว้แน่น กลัวว่าจะมีใครเดินผ่านมาเห็น แล้วคนที่เสื่อมเสียคงเป็นชายหนุ่มสูงศักดิ์ผู้นี้ หาใช่อ๋องน้อยที่ด่างพร้อยอย่างเขา
วงพระกรใหญ่โอบรัดแน่นขึ้นไม่ใส่ใจกับแรงน้อยนิดของร่างเล็ก ไม่ใส่ใจว่าผู้ใดจะผ่านมา “ไม่ใช่ในตำหนักพี่แล้วอย่างไร คนเป็นพี่กอดน้องแล้วมันไม่ดีตรงไหนกัน ตัวเจ้าเถอะฮีชอลมาทำอะไรที่นี้ ทำไมไม่อยู่อาบให้พี่ หรือเจ้าคิดหนีกัน ทำอย่างนี้ไม่สมกับเป็นท่านอ๋องน้อยของพี่เลยนะ”
“ข้าไม่ได้หนี แต่แค่จะเก็บดอกไม้ไปลอยให้ท่านสดชื่นขึ้นเท่านั้น” ใบหน้าเล็กที่แดงก่ำค่อยๆคลายสีลงเหลือเพียงความหมองเศร้าที่ปกปิดไม่ให้ผู้ใดได้เห็น....กับเพียงแค่ พี่น้อง ก็เจ็บช้ำถึงเพียงนี้
หวังอะไรกันแน่ฮีชอล เจ้าหวังอะไรอยู่..ช่างน่าอับอายเสียจริง....
จำไว้ว่า...แค่เพียงพี่น้อง เท่านั้นนะฮีชอล แค่เพียงเท่านั้น....
“งั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นแค่นี้ก็เพียงพอ เจ้ากลับไปอาบน้ำให้พี่ได้แล้วหล่ะฮีชอล” พระหัตถ์หนาแย่งตะกร้าที่เต็มไปด้วยกุหลาบกลีบช้ำเพราะแรงดึงของอ๋องน้อยมาถือไว้ในมือ ก่อนที่พระหัตถ์อีกข้างจะจับจูงร่างบางให้เดินกลับเข้าพระตำหนักส่วนพระองค์ไปด้วยกัน
“แค่นี้จะพอจริงๆหรือ เมื่อก่อนตอนข้าไปเที่ยวสำนักโคมแดง พวกนางจัดหาดอกไม้มาลอยมากกว่านี้เสียอีก” ร่างเล็กที่ถูกชักพาให้เดินไปด้วยกัน เล่าไปถึงสมัยยังใช้ชีวิตแสนสำราญเที่ยวหอโคมแดงจนขึ้นชื่อไปทั่วเมืองหลวง ไม่ได้สังเกตเลยว่า ใบหน้าของฮ่องเต้ซีวอนบึ้งตึงขึ้นเพียงใด
พระพักตร์คมขึ้นสันกรามนูน อยากหาอะไรปิดปากเล็กช่างเล่าของน้องน้อยยิ่งนัก ไม่รู้เลยหรือไงกันว่าที่พูดมาทำร้ายใจคนฟังเพียงใด แต่พระองค์คงทำได้เพียงฝืนยิ้มรับ ไม่อาจแสดงออกถึงความไปพอใจที่มี “พี่ควรดีใจหรือไม่นะฮีชอล ที่เจ้าเคยเที่ยวบ่อยเสียจนรู้ดี แล้วนำมันมันมาปรนนิบัติให้พี่เช่นนี้”
ใบหน้าสวย หันมามองวรกายที่สูงกว่ามาก ด้วยร้อยยิ้มโดยไต้องปรุงแต่ง “ดีใจสิ หากท่านได้คนอื่นเป็นต้นห้องมีหรือที่จะทำแบบนี้ให้ท่าน ยิ่งขันทีเหี่ยวยิ่งไม่มีทางเสียหรอก แล้วเดี๋ยวท่านก็จะรู้ว่ามันมีดีเพียงไรข้านำน้ำมันหอมหยดลงไปด้วย คราวนี้ก็ยิ่งหอม ไหนจะกลีบดอกไม้พวกนี้อีก ถึงมันจะช้ำไปหน่อยก็ตาม”
“เจ้าอยากให้พี่รู้สึกดีถึงเพียงนั้นเชียวหรือฮีชอล” พระพัตร์ที่ฝืนเฝืออยู่เป็นนาน ค่อยคลายออกเป็นพระรอยแย้มพระโอษฐ์กว้าง รวมไปถึงพระเนตรคมแฝงนัยน์ลึกซึ้งที่มองร่างบางอย่างแสนสิเน่หา
“อือ ถึงข้าจะดูไม่ได้เรื่อง แต่ข้าก็ดูออกว่าท่านคงกำลังมีเรื่องในใจอยู่ไม่น้อย และว่าข้าว่าก็คงเป็นเพราะเรื่องของข้าด้วยส่วนหนึ่งกระมัง หากข้าช่วยผ่อนคลายให้ท่านได้บ้างก็คงดี ใช่หรือไม่” ดวงตากลมจ้องมองในพระเนตรคม เห็นถึงร่องลอยของความเหนื่อยล้าที่ปิดบังได้เกือบมิด
“ก็จริงของเจ้า แต่รู้ไหมวิธีที่จะช่วยให้พี่ผ่อนคลายโดยที่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปเก็บดอกไม้เหล่านี้มานั่งลอยน้ำให้พี่เลยก็มี”
“อะไร” อ๋องน้อยไม่ได้สังเกตเลยว่ารอยแย้มพระโอษฐ์เปลี่ยนความหมายไปแล้ว ได้แต่จดจ้องอยากรู้วิธีการ โดยไม่ต้องเสียเวลา จนลืมนึกถึงนิสัยส่วนพระองค์บางอย่างที่มีเพียงตนเท่านั้นที่เคยเห็น
พระพักตร์คมโน้มลงมากระซิบใบหูเล็กอย่างพอพระทัยในคำถามแสนซื่อของอ๋องน้อย “ก็แค่เจ้าลงมาร่วมในอ่างน้ำกับพี่อย่างไรเล่า แค่นั้น หากเจ้าอยากได้กลีบดอกไม้ลอยน้ำ พี่ก็ทำให้เจ้าได้ อย่างนั้นดีกว่ามิใช่หรือฮีชอล”
“ทะ...ท่าน ข้าไม่เอาด้วยหรอก” ใบหน้าหวานแดงก่ำ น้ำเสียงทุ้มลึกที่แนบชิด ลมหายใจร้อนที่เป่ามาสัมผัสผิวกายทำให้ขนบางตามตัวลุกชัน ภาพหวานหวิวในคืนเก่าย้อนกลับมา ย้อมร่างเล็กให้กลายเป็นสีแดงไปทั่วกาย
ฮ่องเต้หนุ่มมองร่างบางที่เดินหนีไปอย่างเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก จนเผลอหลุดเสียงพระสรวลดังก้องไปทั่วไล่หลังร่างบางที่เดินไวเข้าไปทางห้องสรงน้ำ
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
“ฮีชอล เจ้าจะหนีพี่ไปไหนหืมม์” พระหัตถ์ใหญ่ โอบรอบเอวเล็กของคนที่กำลังจะเดินหนีออกไปหลังจากที่เด็ดกลีบกุหลาบให้ลอยล่องอยู่ในอ่างไม้ใบใหญ่
“ข้าไม่ได้จะหนี เพียงแต่เตรียมน้ำให้ท่านเสร็จแล้ว แล้วจะให้ข้าอยู่ทำไมอีก ปล่อยข้าได้แล้ว” มือเล็กพยายามแกะๆแงะๆ พระหัตถ์ใหญ่ที่จับอยู่รอบเอวตัวเอง หาทางเบี่ยงหนีพระพักตร์ที่โน้มลงมาใกล้ซอกคอจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อน
“อย่างนี้ยังไม่เรียกว่าหนีอีกหรือ เจ้าสัญญาไว้เองนะ ว่าจะอาบน้ำให้พี่ ไม่ใช่เพียงแค่เตรียมน้ำเท่านี้ เจ้าทำแบบนี้ พี่ถือว่าผิดสัญญานะ เพราะอย่างนั้นเจ้าต้องลงไปอาบน้ำกับพี่เป็นการขอโทษนะฮีชอล” ฮ่องเต้หนุ่มไม่รั้งรอให้ท่านอ๋องที่เตรียมหนีได้เอยปากใด ทรงโอบอุ้มร่างเล็กไว้กับพระอุระ แล้วก้าวลงไปในอ่างน้ำ ปล่อยปากอิ่มให้โวยวายเสียงดัง
“ท่านนนนนน ปล่อยข้าเลยนะ เห็นไหมว่าข้าเปียกไปหมดแล้ว” ร่างเล็กที่ถูกอุ้มลงมาในอ่างสัมผัสแนบชิดกับพระอุระที่เปล่าเปลือย ดิ้นรนให้หลุดออกจากอ้อมพระกรใหญ่จนสุดกำลัง กลีบกุหลาบที่เคยลอยล่อง ไหลออกไปจนหมด เมื่อมีร่างสองร่างลงมาพร้อมๆกัน
“ไม่ปล่อย ก็เจ้าคิดจะหนีพี่ไปทำไม เปลี่ยนเป็นพี่อาบน้ำให้เจ้าดีกว่า จะได้ไม่ต้องหนีไปไหน” พระหัตถ์ข้างหนึ่งปล่อยออกจากร่างเล็ก มาวักน้ำลาดลงบนไหล่บางแล้วสูดดมความหอมจากซอกคอขาว “หอมเสียจริงเลยนะ น้ำที่เจ้าเตรียมวันนี้”
“อื้อออออออออ ท่านปล่อยข้านะ ปล่อยเหอะ ข้าเปียกไปหมดแล้ว” เพราะหัวใจที่เต้นแรงจนเกรงว่าทำให้วรองค์สูงที่แนบชิดอยู่รับรู้ ร่างเล็กที่เสื้อผ้าเปียกแนบลำตัว ได้แต่ดิ้นรนเพื่อขึ้นจากอ่างน้ำใบนี้
ไม่เพียงแต่จะไม่ทรงยอมปล่อยร่างเล็กให้ขึ้นจากอ่างน้ำ หากพระพักตร์ยังโน้มลงมาใกล้ แตะสัมผัสลงบนเรียวปากอิ่มสีสดที่เอาแต่ร้องโวยวาย จนต้องเงียบเสียงลง กลายเป็นเพียงเสียงครางแผ่วในลำคอ ยามที่ถูกกวาดต้อนค้นหาความหวานในโพรงปาก ก่อนจะทรงละออกเมื่อร่างเล็กเหนื่อยหอบ
พระเนตรคมมองน้องน้อยอย่างล้อเลียนที่แดงกล่ำไปทั่วใบหน้าและร่างกายขาวใส “น้ำร้อนไปหรือฮีชอล เจ้าถึงได้แดงไปทั้งตัวเช่นนี้” นิ้วพระหัตถ์(นิ้วมือ)เรียวไล้ไปตามริมฝีปากที่แดงช้ำ อย่างสมพระทัย
“ก็ใครจะไปเหมือนท่านเล่า ปล่อยข้าเหอะนะ รับรองว่าจะไม่หนีอีกแล้ว” มือบางผลักพระอุระเปลือยเปล่าที่เริ่มเห่อแดงด้วยแรงอารมณ์วาบหวาม จนน่ากลัวว่าจะเกินเลยไปกว่าการอาบน้ำ
“เอาแต่เรียกว่าท่านๆ เช่นนี้ พี่จะรู้ไหมว่าเจ้าหมายถึงใคร ท่านราชครู ท่านองค์รักษ์ ท่านขันที หรือท่านพี่” คำสุดท้ายที่ทรงกล่าวถึงนั้นเสียงช่างแผ่วเบากระซิบชิดหูเล็กๆ ที่แดงจัด ในยามนี้ทรงรู้ดีว่าอารมณ์ขององค์เองเป็นเช่นไร และควรต้องหยุดยั้งไว้แค่นี้ หากแต่ก็ยังอยากแกล้งร่างเล็กที่ถูกจะเล็กบางยิ่งขึ้นเมื่อเนื้อผ้าเบาแนบชิดเผยเห็นทุกส่วนสัด
ใบหน้าหวานแดงก่ำ เสียงกระซิบข้างหูด้วยสำเนียงแสนหวาน ชวนให้นึกถึงยามเช้าที่มอบบางสิ่งให้แก่ฮ่องเต้ผู้นี้ แต่เพราะคำถามที่ทรงตรัสถามช่างกวนอารมณ์อ๋องน้อย จนกลายเป็น ใบหน้าหวานแดงจัดเพราะความอาย และดวงตากลมที่เหลือบค้อน “ฮ่องเต้ ทรงปล่อยกระหม่อมเถิด”
ทรงฟังคำพูดอย่างเป็นทางการของอ๋องน้อยแล้วก็ได้แต่ปล่อยพระสรวลออกมา หากแต่ก็ไม่ใช่คำที่พระองค์ปรารถนาจากน้องน้อย “ เจ้าบอกว่าฮ่องเต้ แผ่นดินนี้มีมาก็เนิ่นนาน ฮ่องเต้ก็มีเป็นร้อยองค์ เจ้าหมายถึงฮ่องเต้องค์ใดกันหล่ะหืมมมม์? ฮีชอล”
ถ้อยรับสั่งของฮ่องเต้พระองค์ที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ร่างเล็กอยากจะฝากรอยเล็กลงบนประอุระหนาเป็นยิ่งนัก หากไม่ติดว่าแววพระเนตรแสนหวานที่แฝงความนัยจะไม่มองมาด้วยความร้อนของอารมณ์จนต้องรีบหาทางออกห่างเช่นนี้ “ฮ๋องเต้ซีวอน ทรงปล่อยหม่อมฉันเถิดนะ”
“เรียกว่า ‘พี่’ ก่อนสิ แล้วพี่จะยอมปล่อยเจ้า ไม่ทำอะไรอย่างที่เจ้ากลัวทั้งนั้น แต่หากเจ้าไม่เรียก พี่ก็ไม่รู้นะ จะเผลอทำอะไรเจ้านอกจากจูบบ้าง” ทรงยื่นข้อเสนอแสนหวานให้แก่น้องน้อยอีกครั้ง ทั้งที่พระองค์ก็กำลังหักห้ามพระทัยอย่างทรมาน
“ท่านพี่ ปล่อยข้าเถอะนะ” เสียงหวานจงใจออดอ้อนฮ่องเต้หนุ่ม พร้อมดวงตากลมที่จ้องมองอย่างใสซื่อ เหมือนทุกครั้งที่เคยทำและได้ผล
ฮ่องเต้หนุ่มทอดมองดวงตาใสซื่อด้วยรอยยิ้มแสนหวาน ก่อนที่พระกรจะยอมละจากเอวบาง พระโอษฐ์ร้อนก็ประทับบนกลีบปากนุ่มที่สั่นไหว เอื้อมมือกดท้ายทอยเล็กไม่ให้หลีกหนีไปจนกว่าพระองค์จะซึมซับความหวามจนเต็มอิ่ม
“หอบเสียแล้วฮีชอล แล้วจะอาบน้ำให้พี่ได้หรือ เปลี่ยนเป็นพี่อาบให้แทนดีไหม” ฮ่องเต้หนุ่มเชยคางเล็กที่แดงกล่ำขึ้น ทอดพระเนตรคนตรงหน้าที่เหนื่อยหอบจนต้องทิ้งตัวลงมาพิงพระองค์
“ไม่เอา ข้าอาบให้ท่านเองแหล่ะดีแล้ว” ข้าเล็กที่เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย ตะกายตัวเองขึ้นจากอ่างน้ำมายืนตัวเปียกอยู่ภายนอก ตั้งใจจะอาบน้ำให้ฮ่องเต้หนุ่มตามสัญญา
มือเล็กวักน้ำขึ้นราดใส่ไหล่กว้างที่เปิดเปลือย ค่อยๆใช้ผ้าผืนหยาบขัดไปตามแผ่นหลังกว้างอย่างนุ่มนวล ไม่ต่างจากที่เคยหยอกล้อกับสาวงามทั้งหลาย ริมฝีปากอิ่มฉีกยิ้มกว้างโดยไม่รู้ตัว ยามคำนึงถึงชีวิตนอกวังที่เคยมี
“เจ้ายิ้มอะไร” พระพักตร์คมย้อนกับมาหาร่างเล็กที่ดูเหมือนจะเพลินกับการขัดหลังจนลืมว่าส่วนอื่นก็ต้องการการขัดถูเช่นกัน
“ป่ะ เปล่า ท่านนี้” ร่างเล็กที่เคลิ้มฝันจำต้องหยุดลงแล้ว เพราะฮ่องเต้หนุ่มที่อยู่ตรงหน้า พลางถอนหายใจเล็กน้อยที่ถูกขัดเวลาแห่งความสุขที่ต่อจากนี้อาจไม่ได้สัมผัสอีกแล้ว “นี้ ท่านจะเล่าให้ข้าฟังได้หรือยังเรื่ององค์หญิงย่าหนานหน่ะ” ร่างเล็กของอ๋องน้อยที่เปียกไปทั้งตัว
“ก็จะเล่าหากเจ้าเลิกขัดหลังแล้วมาถูข้างหน้าให้พี่เสียที เจ้าขัดจนพี่เริ่มแสบแล้วนะฮีชอล” พระปฤษฎางค์ของฮ่องเต้หนุ่มถูกขัดจนแดงไปเกือบหมด จนคนทำได้แต่ละอายที่มัวแต่ใจลอย
“ข้าขอโทษ” ร่างเล็กย้ายจากด้านหลัง มายืนประจันหน้ากับฮ่องเต้หนุ่มที่ทรงเปลือยกายอยู่ในน้ำ พยายามบังคับสายตาไม่ให้มองต่ำเกินกว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องที่ชวนให้ผู้ชายด้วยกันอิจฉา
“ไม่ต้องมือสั่นก็ได้นะฮีชอล” ทรงเอ่ยยั่วเย้าน้องน้อยที่มือกำลังสั่นเทาอย่างน่าสงสาร
“อื้อ อย่าพูดได้ไหม เล่าเรื่ององค์หญิงมาได้แล้ว”
เสียงหวานที่ขึ้นสูงบอกให้ฮ่องเต้หนุ่มรับรู้ว่าน้องน้อยของพระองค์กำลังงอแง จนต้องยอมตามใจเล่าเรื่องที่ร่างบางอยากรู้ “เจ้ารู้จักรัฐหลู่ใช่ไหมฮีชอล”
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างคิดหนัก ภาพเลือนรางของแผนที่ โผล่ขึ้นมาในหัวเล็ก แต่ก็ยังไม่นึกว่าตรงไหนกันคือที่ตั้งของรัฐหลู่ที่กำลังถูกเอ่ยถึง อยากจะบอกคนตรงหน้าว่าไม่รู้จัก แต่ก็กลัวจะเสียหน้าและถูกดุที่ไม่ใส่ใจต่อเรื่องแผนที่ จนต้องพูดปด “รู้จักสิ ใครไม่รู้จักก็แย่แล้ว”
“ก็ดี....” ทรงทอดพระเนตรในดวงตากลมที่หลุกหลิกไปมาจนอยากพระสรวล ทำไมกันนะแค่บอกความจริงว่าไม่รู้จัก ก็คงไม่ว่า เฮ้อ.... ฮีชอลหนอ ฮีชอล “องค์ชายของรัฐหลู่กำลังเตรียมคนเพื่อมาชิงตัวเจ้าสาวของพี่ไปในเร็ววันนี้”
...เจ้าสาวของพี่.... คำนี้ที่หลุดออกมาจากปากฮ่องเต้หนุ่มทำให้ใบหน้าหวานที่แดงเรื่อด้วยความเขินอายกลายเป็นซีดขาว หลุบตาลงต่ำ โดยไม่ตั้งใจ ความเจ็บที่แปลกใหม่แต่ก็เริ่มคุ้นเคย แล่นเข้าสู่หัวใจดวงเล็กอย่างไม่ทันตั้งตัว มือเล็กหยุดนิ่งอย่างลืมตัว
รู้ดีว่าคำนี้หมายถึงผู้ใด....
ยากเหลือเกินที่จะห้ามน้ำใสไม่ให้ออกมาจากเปลือกตาที่กักเก็บมันไว้
พระเนตรคมจับจ้องอยู่ที่อาการของน้องน้อย กับคำที่ทรงเจตนาหลุดออกไป แล้วมันก็ได้ผลอย่างที่ทรงประสงค์ น้องที่พระองค์ฝากหทัยไว้ดูเจ็บปวดกับคำนั้น ราวกับมีใจให้แก่พระองค์ไม่ต่างกัน
พี่ขอโทษ...แต่ที่พี่ทำก็เพื่อความแน่ใจ เท่านั้นนะฮีชอล ต่อจากนี้ไปสิ่งที่พี่จะทำก็เพื่อความสุขของเจ้าเท่านั้น...
“พี่ได้คุยกับองค์หญิงย่าหนานแล้ว องค์หญิงก็ยอมรับว่ามีใจให้กับองค์ชายหลี่แห่งรัฐหลู่จริง จึงคิดว่าจะลอบส่งตัวองค์หญิงให้องค์ชายหลี่เสีย เพื่อป้องกันทั้งปัญหาจากหลู่ และจากชิงเต่า”
“ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อชิงเต่าส่งองค์หญิงมาเพื่อให้แต่งงานกับท่าน แต่ท่านกลับจะส่งตัวให้คนอื่นอย่างนี้....”
“ก็จริง แต่รัฐหลู่ใหญ่กว่าชิงเต่ามากนัก ทางนั้นก็บอกไว้แล้วว่าหากพี่คุ้มครององค์หญิงไปถึงองค์ชายหลี่ได้ เขาก็จะช่วยเราเจรจากับชิงเต่าให้ ป่านนั้นพี่ว่าพ่อขององค์หญิงก็คงทำอะไรไม่ได้ แล้วอีกอย่าง พี่ว่าทำเช่นนี้ดีที่สุดต่อคนทั้งสี่”
“คนทั้งสี่” เสียงหวานทวนคำแผ่วเบา อย่างไม่เข้าใจว่าคนทั้งสี่หมายถึงผู้ใดกันบ้าง ใครเล่าที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้กัน คนสี่คนเช่นนั้นหรือ....
สายพระเนตรจับจ้องที่ริมฝีปากอิ่มที่ถูกฟันขาวขบกัดด้วยกำลังครุ่นคิด หากแต่ก็ไม่ทรงบอกให้น้องน้อยขี้สงสัยได้รับรู้ว่าใครกัน คือคนสี่คนที่ว่า
“เจ้าอย่ากังวลไปเลยฮีชอล อีกสองวันพี่ก็จะให้องค์รักษ์คุ้มกันองค์หญิงไปรัฐหลู่แล้ว ก็คงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอีก” ทรงปลอบร่างบางที่กำลังหวั่นใจให้คลายลง แต่ฟันก็ไม่เลิกขบกัดริมฝีปากอิ่มจนระองค์ต้องใช้ พระอังคุฐ(นิ้วโป้ง) ไล้เกลี่ยเบาๆ
“ต่อจากนั้น ก็วันประลองแล้วสินะ” ร่างเล็กใจลอยอีกครั้งปล่อยผ้าเนื้อหยาบลงไปในน้ำ เดินห่างออกไปจ้องมองพระจันทร์ที่เกือบเต็มดวงผ่านหน้าต่างกว้าง “หากว่าไม่ชนะการประลองท่านจะทำเช่นไร”
ทรงทอดเนตรแผ่นหลังบางเงียบๆ “หากเจ้าไม่ชนะก็คงต้องอยู่ในวังต่อไปอีกสามเดือน”
แต่เจ้าอย่ากลัวไปเลย...สิ่งใดที่เจ้าต้องการพี่จะยอมให้ แม้ว่านั้นคือการปล่อยเจ้าไป
“ฮีชอลอากาศเริ่มเย็นแล้ว เจ้ามาอาบน้ำเถอะ พี่จะไปรอเจ้าอยู่ข้างนอก อย่าแช่น้ำนานนะ” วรองค์สูงสง่าเดินห่างจากไป ปล่อยให้น้องน้อยที่พระองค์รักได้อาบน้ำเพียงลำพังอย่างที่เจ้าตัวโปรดปราน
ในห้องบรรทมที่แสนกว้างมีแผ่นกระดาษประทับคลั่งให้รู้ว่ามาจากปาหยางอ๋องวางอยู่ให้เห็นเด่นชัด จนพระองค์ไม่อาจละเลยที่จะหยิบขึ้นมาอ่านได้ ถ้อยคำที่บอกชัดให้ทรงได้รู้ว่าปาหยางอ๋องไม่ปรารถนากลับสู่เมืองหลวงอีก...
เรื่องการปกครองนี้เป็นเรื่องดี..ที่จะไม่มีใครมาข่มเหงรังแกประชาชนได้อีก
แต่เรื่องหัวใจ....หากน้องน้อยต้องการกลับไปอยู่กับพ่อในที่ไกลสายตา
พี่ไม่แน่ใจว่าจะยินดีกับเรื่องนี้ได้หรือไม่...แค่ไม่รั้งเจ้าไว้กับตัว พี่ก็เจ็บปวดมากพอแล้ว และหากเจ้าไปไกลถึงเพียงนั้น
ฮีชอล...พี่รักเจ้าเหลือเกิน.....
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
Talk
ง๊ากกกกกก ปั่นไปอู้ไป กว่าจะเสร็จ แฮ่ๆๆๆ ช่วงนี้กำลังสนุกกับ ฟิคคริสมาต(ที่มีคนกระซิบว่าซาดิส) และก็วันส์(ที่คนอ่านว่าโหดร้าย) เลยค่ะ ทำให้เรื่องอื่นดูอืดๆไปบ้าง ขอโทษนะค่ะ
อีกไม่นานก็จบแล้วค่ะสำหรับเรื่องนี้ อีกแค่สี่ตอน+หนึ่งตอนประหลาดเท่านั้นเองงงงง อ้ายดีใจ ก็เลยถาม(ถามเฉยๆนะค่ะ) ไอซ์ว่าจะเอาฮวากับการ์ด จับยัดลงหนังสือเล่มเดียวกันดีไหมค่ะ มีใครสนใจไหมอ่า บอกกันด้วยนะค่ะ
ห่างหายตอบคอมเม้มท์ไปนาน มาตอบกันดีกว่าค่ะ
เซี่ยเซี่ยหนี่
ความคิดเห็น