คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : - -FL- - 12 100%
- -FL- - 12
อากาศยามเช้าที่ควรจะสดใส แต่สำหรับฮีชอล ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ เคยมีวันไหนบ้างไหมที่ตื่นมาพร้อมกับความสดชื่น และอบอุ่น ในใจดวงเล็กๆ ร้องเรียกให้กลับไปอยู่กลับแม่ครูดังเดิม หากแต่น้องชายตัวดีก็ยังรั้งเอาไว้แบบนี้
ฮีชอลเดินเข้าไปในห้องของน้องชายทำหน้าที่พี่ที่ดี ปลุกน้องไปเรียน หน้าที่ที่ต้องทำด้วยความเต็มใจ แม้น้องชายจะเติบใหญ่แค่ไหนก็ตาม “คยูฮยอน ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวไปเข้าเรียนสายนะ”
“อื้อ วันนี้ผมมีเรียนสาย ยังไม่ต้องตื่นก็ได้ครับ ให้ผมนอนต่อนะ” เด็กหนุ่มที่งัวเงียขึ้นมาเพราะถูกพี่ชายปลุกขอต่อรองเวลา เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อใบหน้าคมหันหน้าหนีมือเย็นๆของพี่ชาย
“เรียนสายบ้าอะไรเล่า นายมีเรียนตอนเก้าโมงนะ คุณชายโจว รีบตื่นขึ้นมาไปอาบน้ำเลย เร็วๆเข้า” มือเย็นๆตามไปจับหน้าเด็กหนุ่มที่หันหลบ
“วันนี้วันอะไรอ่ะครับพี่” เด็กหนุ่มเรียนหนักจนเริ่มหลงลืมวัน ถามพี่ชายทั้งที่ไม่ยอมเปิดเปลือกตา แต่สมองก็เริ่มทำงานได้บ้างแล้ว
“วันนี้อังคารจ๊ะ ตื่นได้หรือยัง หืม” พี่ชายใจดีมองหน้าน้องชายตัวแสบได้แต่อมยิ้มให้กับความเหลวไหลของน้องชายที่ไม่มีแม่ครูมาคุม
“เฮ็ย!!! ตายห่าแล้วพี่ฮีชอล วันนี้ผมมีนัดพรีเซนต์กับอาจารย์ตอนแปดโมงครึ่ง สายแล้วนี้หว่า ขอบคุณนะครับพี่ ” ไม่ใช่แค่คำขอบคุณ แต่น้องแสนดีหอมแก้มเนียนๆของพี่ชายเป็นของแถมอีกอย่าง “นี้กี่โมงแล้วครับ”
“นี้ก็หกโมงครึ่งแล้ว รีบไปอาบน้ำ แต่งตัวสะ จะได้ลงไปกินข้าว และจะได้ซ้อมพรีเซนต์ด้วย เดี๋ยวพี่ก็จะไปทำงานแล้วเหมือนกัน” ใบหน้าหวานยิ้มอ่อนๆ มือบางลูบผมยุ่งเหยิงของน้องชายให้เข้าที่
“อ้าว ทำไมพี่รีบไปหล่ะครับ ไม่อยู่กินข้าวกับผมก่อนหรอ นะ”
“ไม่หล่ะ พี่รีบไปนั้นแหล่ะดีแล้ว คนอื่นจะได้กินข้าวลง” ใบหน้าของเด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างขัดใจเมื่อรู้ว่าพี่ชายหมายถึงใคร ในขณะที่คนเป็นพี่ก็ได้แต่ส่งยิ้มเหนื่อยล้าให้น้องชาย
“ไม่เห็นต้องแคร์เลย กินไม่ลงก็ช่างเขาสิครับ ปัญหามาก ทำตัวเอง พี่ผมไม่ผิดสักหน่อย นะอยู่กินข้าวกับผมนะ” เด็กหนุ่มขี้อ้อนกลับมาอีกครั้ง โมตัวกอดพี่ชายที่อยู่ในชุดทำงานเรียบร้อย จนเสื้อยับตามแรงกอด
“ได้ไงกัน เขาเป็นเจ้าของบ้าน เป็นคนจ่ายค่าเทมอให้เรานะ ไม่สนได้ไงอีกอย่าง เขาก็เป็นพี่แท้ๆของคยูฮยอนนะ”
“ใครอยากได้กัน ไม่มีเขา แม่ครูก็เลี้ยงผมได้ แถมให้ความอบอุ่นกับผมอีกต่างหาก นี้ไม่เห็นมีดีอะไรเลย นอกจากมีตังค์ อีกอย่างนะพี่ชายผมมีคนเดียว ชื่อ คิม ฮีชอล”
“จ๊ะ พ่อคนเก่ง แต่ตอนนี้ไปอาบน้ำได้แล้วเดี๋ยวสาย พี่ก็จะได้ไปทำงานแล้วเหมือนกัน เย็นๆเจอกันนะจ๊ะ” ใบหน้าหวานโน้มตัวลงมาหอมหน้าผากกว้างๆของน้องชายอย่างแสนรัก ก่อนเดินออกจากห้อง ทิ้งให้อีกคนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย
“กว่าจะออกมาได้ เข้าไปทำอะไรกันอยู่ข้างใน” ชายหนุ่มร่างสูงที่ฮีชอลไม่คิดว่าจะได้เจอ กำลังยืนกอดอกก้มหน้ามองพื้น เหมือนว่าคู่สนทนาไม่มีค่าพอที่จะเสียเวลามอง
“ผมเข้าไปปลุกน้องชาย ให้ตื่นไปมหาลัย คุณมีอะไรกับผมหรือเปล่า หรือว่างานอะไรไม่พอใจคุณอีก ถ้าเป็นเรื่องงานกรุณาไปพูดที่บริษัท” ถึงจะรักคนตรงหน้ามากแค่ไหม แต่หัวใจของฮีชอลก็เจ็บเกินหว่าที่จะหลอกตัวเองให้อยู่ในฝันหวาน
“เรื่องงานหน่ะตอนนี้ยังไม่มีปัญหาหรอก ผมก็แค่สงสัยว่าคุณเข้าไปทำอะไรในห้องน้องชายผมเป็นนานสองนาน ก็แค่กลัวว่า มันจะเกิดเรื่องสกปรกๆในบ้านที่พ่อแม่ของผมช่วยกันสร้างมาก็เท่านั้นเอง” คำพูดแสนดูถูกจากชายหนุ่มทำให้คนฟังแทบหยุดหายใจ
ใบหน้าหวานแดงกล่ำ น้ำตาเม็ดเล็กจวนเจียนจะไหลรับอรุณ “คุณซีวอน แค่ผมรักคุณมันไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องทำตัวต่ำแบบความคิดคุณหรอกนะครับ”
“ก็ดี แต่รู้ไว้ด้วยว่าคุณมันก็ไม่ได้สูงไปกว่าความคิดผมเท่าไหร่หรอก รวมถึงน้องชายของคุณด้วย แม่ของมันคงทำตัวไว้ดีหรอก ถึงได้ไปมีอะไรกับคนที่เขามีเจ้าของอยู่แล้ว” ชเว ซีวอนยอมรับกับตัวเองได้เลยว่า จนถึงตอนนี้เก็ยังโกรธแค้นพ่อไม่หายที่ หักหลังความไว้ใจของแม่และเขา ความแค้นมันพาลไปถึงผู้หญิงที่เขาไม่รู้จัก และน้องชายที่เขาจำต้องเอามาดูแล
“คุณจะมองว่าผมสูงหรือต่ำแค่ไหน มันก็เรื่องของคุณ แต่คยูฮยอนและแม่ของเขาไม่ใช่คนที่คุณจะพูดถึงแบบนี้ อีกอย่างใช่ว่าคยูอยากที่จะมาอยู่บ้านหลังนี้เป็นคุณเองนะที่บังคับเขาให้เข้ามาอยู่” น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ มันไหลลงมาแล้ว ไหลลงมาจนชายหนุ่มที่มองเห็นได้แต่ยิ้มเหยียดหยาม
“ก็จริง ผมต้องบังคับให้เข้ามาอยู่ เพราะกลัวว่าน้องชายแสนดีของคุณมันจะมีนิสัยชอบแย่งของคนอื่นเหมือนที่แม่เขาเป็นไง” แท้จริงแล้ว ซีวอนก็แค่ผู้ชายที่ขาดความอบอุ่นคนหนึ่ง แม่ที่เสียไปนานปล่อยให้โตขึ้นมากับพ่อที่เอาแต่ทำงาน แล้วยังมารู้ความจริง ว่าเขามีน้องชายต่างมารดาอีกหนึ่งคน มันก็ยิ่งทำให้เขาแค้น
“คยูฮยอนไม่ใช่คนแบบนั้นแน่ เขาไม่คิดจะแย่งอะไรของใครคุณสบายใจได้เลย เว้นเสียแต่ว่ามันจะเป็นของที่เจ้าของเขาละเลย เมื่อนั้นแหล่ะ น้องชายผมจะเอาของชิ้นนั้นมาดูแลอย่างทะนุถนอม” ดวงตากลมจ้องมองใบหน้าคมที่มีแต่จะคอยทำร้าย เอ่ยเตือนคนที่ถือดีให้ระวังเสียของรัก
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง” มือหนาบีบที่แขนเรียวอย่างแรงไม่ไว้ใจคำพูดที่ดูมีความนัยจนเขาเองนึกระแวง อะไรกันที่ถูกละเลย อะไรกันที่จะถูกไปดูแลอย่างทะนุถนอม
“ก็หมายความตรงตัวไงครับ ของที่ถูกทิ้งคว้างไม่มีใครสนใจ น้องชายผมก็จะเก็บขึ้นมาดูแล ปล่อยแขนผมได้แล้วคุณซีวอน”
“ฮึ พูดอย่างกับเป็นพวกเก็บของเหลือใช้มากินงั้นแหล่ะ แล้วน้องชายของผมมันเคยเก็บพี่ชายที่ไม่มีใครสนใจอย่างคุณมาให้ความเอ็นดูบ้างไหมหล่ะ” ดวงตาคู่คมมองร่างอย่างสมเพช ของที่ถูกละเลยมันไม่ใช่ใครอื่นไกล ก็คือคนที่อยู่ตรงหน้าเขานี้แหล่ะ
* ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
ถ้อยคำรุนแรงที่พี่ชายต้องทนฟัง เด็กหนุ่มได้ยินมันทุกประโยค ความเจ็บปวดที่พี่ชายผู้อ่อนแอต้องทนเผชิญเขาเองก็รับรู้มันร่วมกัน เสียงที่ดังอยู่หน้าห้อง มันร้องเรียกให้เขาออกไปปกป้องพี่ชายที่แสนดี แต่บางอย่างมันรั้งเขาเอาไว้
เมสเสจจากโทรศัพท์ ข้อความที่บอกเขาว่า โอกาสแก้แค้น และเอาคืนคนเลวๆกำลังจะมาถึง ข้อความจากพี่สาวหน้าสวยที่ใจกำลังแบ่งออกเป็นสอง
/กำลังจะถึงแล้ว แต่งตัวเสร็จหรือยัง......ยุนอา/
คยูฮยอนเตรียมของที่ควรมีอยู่บนโต๊ะเพื่อให้ถูกมองเห็นได้ง่ายๆ อะไรที่ควรมี และอะไรที่ไม่ควรมี เขาเก็บกวาดโต๊ะอ่านหนังสือที่รกรุงรังให้เป็นระเบียบ และวางบางอย่างเอาไว้ให้เด่นตา แสะดุดใจ
“ก็อย่างที่พี่ฮีชอลพูดนั้นแหล่ะครับ อะไรที่มันถูกละเลย ผมจะเก็บขึ้นมา แต่จะทะนุถนอมดูแลด้วยความรักหรือเปล่ามันก็อีกเรื่อง รีบมาไวๆนะครับ คนที่ละเลย อย่าทำให้ผมเสียแผน” ดวงตากร้าวแสนน่ากลัว จ้องมองข้อความในโทรศัพท์อย่างน่ากลัว ไม่มีแววตาแห่งความสงสารสายน้อยที่พลังหลงเข้ามาเส้นทางสายนี้เลย
* ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
หญิงสาวพร้อมรอยยิ้มสดใสเดินเข้ามาในบ้านที่เธอคุ้นเคยอย่างดี แม้เธอจะไม่ใช่เจ้าของก็ตาม อาหารบนโต๊ะถูกตั้งไว้ตามจำนวนผู้ที่อยู่ในบ้านหลังนี้ แต่กลับไม่เห็นใครสักคนนั่งประจำอยู่บนโต๊ะ
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง” เสียงทุ้มของคนรักที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังลอยมาจากด้านบนเหมือนว่ากำลังทะเลาะกับใครอีกคนที่เสียงเบากว่า ทำให้ยุนอาต้องแหงนหน้ามองหาที่มาของเสียง
ชายหนุ่มร่างสูงตะคอกประโยคที่เธอได้ยินใส่พี่รหัสที่เธอรัก มือหนาๆนั้นบีบแขนเรียวจนขึ้นรอยแดงบนผิวขาวใส แม้ว่าเธอจะอยู่ไกล แต่ก็ยังมองเห็นมันได้ชัด
คำพูดที่เธอได้ยิน หากว่าไม่ได้ยินด้วยตัวเองก็คงจะไม่เชื่อว่ามันหลุดออกมาจากคนที่เธอรัก คนที่แสนใจดีและอ่อนโยน เป็นสุภาพบุรุษเสมอไม่ว่ากับใครๆ แต่ทำไมกับพี่รหัสของเธอ เขาถึงได้มีวาจาร้ายๆแบบนี้
“ซีวอน” เสียงหวานที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดคำพูดเผ็ดร้อนที่กำลังจะพ่นใส่ร่างบางตรงหน้า หันไปมองเจ้าของเสียงที่เขาแสนรัก
“ยุนอา ! มาได้ยังไง” เพราะความแปลกใจ ทำให้เขาเผลอหลุดคำถามที่ทำร้ายจิตใจคนฟังที่เขาทะนุถนอม ดูแลเธอมาตลอด
“ฉันจะมาได้ไง มันไม่สำคัญเท่ากับที่ซีวอนกำลังว่าพี่ฮีชอลกับคยูอยู่หรอกนะ รู้ไหมว่าคำพูดที่ซีวอนพูดมา ถ้าไม่ได้ยินเอง ก็คงไม่มีทางเชื่อว่ามันจะหลุดออกมาจากปากคนที่ฉันรัก” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียว คว้ามือพี่รหัสที่ดูเปราะบางเกินไป บีบมือเล็กๆไว้แน่น บอกให้รู้ว่าพี่มีน้องอีกคนอยู่ตรงนี้
“ถ้ายุนอารู้ในสิ่งที่พี่ชายคุณทำ คุณจะไม่คิดว่าคำพูดพวกนี้มันแรงเกินไป คุณจะไม่คิดว่าที่ผมทำมันผิด” ซีวอนจ้องมองหญิงสาวที่เขารัก มันเต็มไปด้วยความแน่วแน่ เขาเชื่อในสิ่งที่ตนคิด และเขาก็เชื่อว่าสักวันเมื่อหญิงสาวคนนี้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง วันนั้นจะเป็นวันที่เธอเข้าใจเขาได้มากกว่านี้
“ฉันไม่รู้ว่าพี่ฮีชอลทำอะไรไว้ แต่สำหรับฉันเขาเป็นพี่ที่ดีของฉัน แค่นี้แหล่ะที่ฉันรู้”
“พวกคุณหยุดทะเลาะกันเถอะครับ” ร่างบางที่ได้แต่ยืนนิ่งมานาน พูดออกมาก่อนที่ชายหนุ่มอีกคนจะได้พูดอะไรออกมา หันไปคุยกับน้องรหัสที่คุ้นเคยกัน “ ยุนอาอย่าเอาเรื่องนี้มาทะเลาะกับคุณซีวอนเลย เขาแค่เข้าใจพี่ผิดเท่านั้นเอง คุยกันดีๆ อย่าเอาเรื่องของคนอื่นมาเป็นปัญหาเลยนะ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ประโยคสุดท้ายร่างบางหันไปหาเจ้าของบ้าน ก่อนจะเดินจากมาปล่อยให้คู่รักได้ทำความเข้าใจ
ปล่อยให้คนที่รัก...ได้รักกันต่อไป
“พูดดีนะ แต่นี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณสองคนพี่น้องต้องการหรือไง อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าพวกคุณต้องการอะไร คงคิดจะให้คยูฮยอนทำให้ ผมกับยุนอาต้องเลิกกันหล่ะสิ อยากรู้จริงๆ วิธีสกปรกแบบนี้คิดนานไหม” คำพูดที่ฉุดรั้งร่างบางเอาไว้ มันจบลงด้วยการเรียกน้ำตาของหญิงสาวให้เอ่อไหลออกมาด้วยความเสียใจ
“ซีวอน! นายกำลังดูถูกฉันอยู่ไม่ใช่หรือไง คิดว่าฉันเป็นใครกันที่จะเอาอะไรมาแยกจากความรักได้ เราห่างกันเกินไปถึงขนาดที่ลืมแล้วหรือไงว่า คนอย่างฉัน สิ่งที่ทำให้รักกันคือ หัวใจ และที่จะทำให้เลิกกันก็คือ เราหมดรักกันแล้ว และคนที่ทำให้เราห่างกันก็คือนายเองรู้ไว้ด้วย ต่อให้ไม่มีคยู เรื่องมันก็ต้องเป็นแบบนี้” เพราะความรู้สึกที่เก็บเอาไว้ข้างใน ถูกบังคับให้เปิดออกมา หญิงสาวจึงพรั่งพรูทุกความรู้สึก ย้ำเตือนสิ่งที่อาจถูกลืมเลือนไป น้ำตาไหลอาบแก้มใส
“ยุนอา!” มือหนาๆของคนรักยื่นมือออกไปหวังจะเช็ดน้ำตาบนแก้มเนียนหากแต่กลับต้องชะงักเมื่อร่างเล็กๆที่อยู่ตรงหน้าถอยห่างจากมือที่เคยอบอุ่น ถอยไปหาพี่รหัสที่ยืนนิ่งอยู่ไม่ไกล
“พี่ยุนอา!” เสียงร้องอย่างตกใจของเด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้อง มองหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวด้วยความแปลกใจและแสนเป็นห่วง ก่อนที่สายตาจะมองพี่ชายสองคนที่ยืนอยู่สลับไปมาด้วยความสงสัย “นี้มันเกิดอะไรขึ้นครับ พวกพี่ทำอะไรพี่ยุนอา”
“เปล่าหรอก คยู ไม่มีใครทำอะไรพี่ทั้งนั้นแหล่ะ มีแต่พี่ที่ทำร้ายตัวเอง” ยุนอากล่าวทั้งที่น้ำตานองหน้า สายตาทอดมองยังพี่รหัสที่ยืนนิ่ง คำว่าขอโทษที่หลุดออกมาไม่ได้ จึงมีเพียงแววตาที่ขอโทษ
ขอโทษที่ทำให้ต้องมาพบเจอกับวาจาร้ายๆ ของคนใจร้าย....ที่เธอรัก
“แล้วพี่ฮีชอลเป็นอะไรครับ ทำไมหน้าซีดจัง เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย” เด็กหนุ่มหันหน้ามาทางพี่ชายของตนเอง ดวงตาคมจ้องมองจับสังเกตไม่ใช่แค่หน้าที่ขาวซีด หากมือเล็กๆยังสั่นเทา
เขาทำให้พี่เจ็บอีกแล้วใช่ไหม?.....ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมกำลังจะทำให้เขาเจ็บ...เจ็บกว่าที่พี่กำลังเป็น
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอก นี้แต่งตัวแบบนี้จะไปออกกำลังกายหรือไง ใส่เป็นคู่กันด้วย น่ารักดีนะ” ฮีชอล พยายามเปลี่ยนความสนใจของน้องชาย ก่อนจะกลับมาสนใจที่ชุดของคนทั้งสอง แม้จะเป็นรอยยิ้มที่ฝืนเฝื่อน หากแต่เขาก็ยังอยากมีรอยยิ้มให้น้องชายและน้องรหัสที่แสนน่ารัก
“ครับ แต่ว่าคงไม่ไปแล้ว เพราะพี่สาวของผมร้องไห้ใหญ่เลย พี่ยุนอาเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องผมก่อนเถอะครับ ยืนร้องไห้ตรงนี้คงไม่ดีเท่าไหร่” เด็กหนุ่มที่พึ่งเดินออกมาจากหอง โอบประคองร่างเล็กเอาไว้ ให้เดินผ่านร่างสูงใหญ่ เดินเข้าไปในห้องนอนของตน...ปล่อยให้อีกสองคนได้แต่จ้องหน้ากัน
“มานี้” มือหนากระชากท่อนแขนเรียวด้วยความโกรธอย่างถึงที่สุด เมื่อเห็นคนรักถูกคนอื่นพาไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่สนใจเลยว่า เขาที่ยืนอยู่ตรงนี้จะรู้สึกเช่นไร
ร่างเล็กได้แต่ยอมจำนนต่อแรงกระชากเดินตามร่างสูงที่ออกแรงบีบข้อมือแน่นขึ้นทุกลมหายใจ ช่วงขายาวก้าวลงบันไดไม่สนใจว่าอีกคนจะก้าวตามทันหรือไม่
ไม่สนใจว่าอีกคนจะก้าวพลาดตกบันไดแต่ก็ต้องขึ้นเพื่อไม่ให้ถูกไถลตกบันไดไปทั้งแบบนั้น
น้ำตาที่ไม่มีใครสนใจ เสียงร้องเพราะความเจ็บ เสียงประท้วงที่บอกว่าตามไม่ทัน ไม่ได้รับการสนใจจากชายหนุ่มที่สร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา เหมือนเป็นแค่เสียงลมที่พัดผ่านไม่จำเป็นต้องสนใจ
* ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
หญิงสาวที่ถูกประคองเข้ามาในห้องยังคงมีน้ำตาไหลอาบหน้า ไม่ใช่ว่าเธอไม่น้อยใจ ที่คนรักมักไม่มีเวลาให้ แต่ก็ยังอุตส่าห์เก็บความน้อยใจนั้นไว้ แต่นี้อะไรกัน....เขากลับมองว่าเธอจะเปลี่ยนใจไปง่ายๆแค่เพราะความใกล้ชิดเท่านั้นหรือ...?
“พี่ยุนอาอย่าคิดมากเลยนะครับ ที่พี่ซีวอนพูดออกมาก็เพราะเขารักพี่มาก อีกอย่างเขาก็คงไม่ค่อยพอใจผมอยู่แล้ว ก็เลยเอาสองเรื่องมาปนกันเท่านั้นเองครับ” เด็กหนุ่มพูดปลอบใจพี่สาวอย่างอ่อนโยน มือค่อยๆเช็ดน้ำตาที่ยังไหลอาบแก้มลงมา
“รักหรอ คนรักกันเขาไม่พูดแบบนี้หรอก เขาพูดแบบนี้กับพี่ กับนายได้ยังไงกัน พี่ไม่เข้าใจเลย” หญิงสาวยังคงจมอยู่กับคำพูที่ชายหนุ่มพูดมา แม้มันจะเป็นถ้อยคำธรรมดาที่ไม่เจ็บปวด แต่ถ้ามันหลุดออกมาจากปากคนที่รัก มีหรือที่จะไม่ทำร้ายจิตใจ
“รักสิครับ เพราะรักถึงได้ห่วง ได้หวง ได้ระแวง เพราะพี่ซีวอนรักพี่นะครับ ผมเข้าใจพี่เขาดี ที่พูดออกมาก็เพราะน้อยใจ ที่เห็นว่าคนที่เรารักไปสนิทกับคนอื่น ความรู้สึกแบบนั้นมันทรมานนะครับ ที่ต้องทนเห็น”
“คยูฮยอน” เพราะน้ำเสียงแสนเศร้า เพราะคำพูดที่บอกชัดถึงความรู้สึก หรือเพราะความอบอุ่นในดวงตาคู่คมที่ช่างเหมือนพี่ชายตามสายเลือด เพราะอะไรก็ตาม...แต่มันทำให้หญิงสาวต้องหยุด เพื่อมองเด็กหนุ่มให้ชัด....มองหาที่มาของแววตาอันแสนอบอุ่นนี้
“พี่ไปล้างหน้าเถอะนะครับ เดี๋ยวผมจะหาผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าให้” เด็กหนุ่มก้มหลบสายตาของหญิงสาว คล้ายว่าต้องการปิดบังบางอย่างที่สื่อสารผ่านดวงตาได้ ก่อนจะผละออกไปทางตู้เสื้อผ้า
ยุนอาสลัดทิ้งความสงสัยเอาไว้เบื้องหลัง ล้างคราบน้ำตาให้หายไป ให้สายน้ำนำพาความชุ่มชื้นคืนกลับมา คงถึงเวลาที่ต้องคุยเพื่อปรับความเข้าใจกับคนรักแบบจริงจัง บางครั้งการที่เรารักกัน เข้าใจกันมานาน มันอาจทำให้เราละเลยความรู้สึกกันไป เพียงเพราะคำว่า ‘เขาคงเข้าใจ’ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย
หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ พร้อมความสดชื่น สายตาเหลียวมองไปรอบๆห้อง ไม่เห็นเจ้าของห้อง ทำให้เลือกที่จะมองไปรอบๆห้องอย่างสำรวจ รอยยิ้มพอใจที่เห็นว่าห้องช่างเป็นระเบียบเรียบร้อยบนโต๊ะหนังสือมีหนังสือเรียนวางตั้งสวยงาม หากแต่มีสมุดปกแข็งหนึ่งเล่มที่ถูกวางไว้แยกออกมาจากตั้งอื่นๆ
ปกของสมุดทำให้เธอไม่กล้าเปิดมันออกมาดู....
ลวดลายที่แสนสวยงาม ได้รับการตกแต่งอย่างดีด้วยสีสันที่หลากหลาย รูปภาพของผู้หญิงหนึ่งคนที่แสนเป็นธรรมชาติ รอยยิ้มร่าเริง ที่แสดงถึงความตั้งใจของคนทำ และเธอคงมีใจอยากจะชื่นชมมันมากกว่านี้ หากว่า หญิงสาวคนนั้น...จะไม่ใช่คนที่เธอเคยทุกวันในกระจกเงา
ยุนอาได้แต่ยืนจ้องสมุดปกแข็งเล่มนั้น ไม่กล้าหยิบมันขึ้นมาดู กลัวความลับที่สมุดเล่มนี้เก็บงำไว้ กลัวว่ามันจะทำให้เธอกลับไปคิดฟุ้งซ่านเมื่อสักครู่นี้อีก
เด็กหนุ่มร่างสูงเปิดประตูเข้ามา พร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่ไปหยิบมาจากห้องพี่ชาย ชั่วแวบที่เห็นร่างของหญิงสาวยืนอยู่หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ สายตาจับจ้องอยู่ที่สมุกปกแข็งที่เขาจงใจวางไว้ รอยยิ้มพอใจปรากฏขึ้นให้เห็น และหายไปก่อนที่หญิงสาวจะทันเห็น
“พี่ยุนอา” เสียงร้องเรียกอย่างตกใจ ทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวอย่างคนที่เผลอทำผิดแล้วโดนจับได้ ก่อนหันไปเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มเจ้าของห้องอีกครั้ง
“คยูฮยอน” เสียงหวานสั่นอยู่ในลำคอ ทั้งที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดในห้องนี้ แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็คงไม่สามารถทำอย่างที่ตั้งใจได้
“พี่เห็นแล้วใช่ไหม ผมขอโทษนะครับ” น้าเสียงแสนเศร้าแผ่วเบา อย่างคนที่กำลังหวาดกลัว ออกมากจากปากเด็กหนุ่ม ต่อจากนั้นคือความเงียบ เมื่อคนทั้งคู่ไม่รู้ว่าควรจะพูดสิ่งใดออกมา
“พี่....” หญิงสาวอยากจะทำลายความเงียบที่กำลังเข้าครอบงำห้องนี้ แต่สุดท้ายเสียงก็ต้องแผ่วหายไป เมื่อไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร ต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแค่มองใบหน้าคม
“ช่วยหันหลังไปก่อนได้ไหมครับ อย่าพึ่งมองผมตอนนี้เลย” เด็กหนุ่มขอร้องหญิงสาว เหมือนว่านี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้ใกล้ชิดกับคนที่รัก
แม้จะแปลกใจ หากแต่ยุนอาก็จำยอมทำในสิ่งที่เด็กหนุ่มขอร้อง แต่ในทันทีที่หันหลังไป กลับรู้สึกได้ถึงอ้อมแขนอุ่น ที่โอบรอบเอว น้ำหนักกดลงบนไหล่
“อย่าพึ่งรังเกียจผมเลยนะ ผมขอเวลาพี่แค่ห้านาทีเท่านั้น แค่ห้านาทีที่อาจกลายเป็นความสุขเดียวในชีวิตของผม” เด็กหนุ่มโอบรอบเอวเล็กแน่นขึ้น ใบหน้าวางอยู่บนไหล่เล็ก
“ผมขอโทษที่ทำให้พี่ต้องลำบากใจแบบนี้ ขอโทษที่เผลอคิดเกินเลยไป พี่อาจรับไม่ได้ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมรู้สึกมันผิด ผมเองก็ลำบากใจที่มันเป็นแบบนี้ ผิดต่อพี่ซีวอนและพี่ ผมขอโทษนะครับ”
“....” ยุนอาได้แต่นิ่งเงียบ รับฟังคำขอโทษที่ไม่จำเป็นเลย เธอเข้าใจดีเรื่องของความรัก เป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อาจห้ามได้ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่เธอสัมผัสได้ ยิ่งทำให้เธอไม่โกรธเคืองน้องชายคนนี้เลย
“พี่อาจคิดว่าผมฉวยโอกาส ที่ใช้ความสนิทสนมของพี่ฮีชอลเข้ามาใกล้ชิดพี่ หรืออาจคิดว่าเลวที่กล้ารักแฟนของพี่ชายตัวเอง หรืออะไรก็ตาม แต่พี่ครับ ผมรักพี่ รักทั้งๆที่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“คยูฮยอน!” แม้จะเดาได้กับความรู้สึกของเด็กหนุ่ม หากแต่เมื่อได้ยิน หญิงสาวก็ยังคงตกใจ บางครั้งการได้รู้ว่ามีใครที่รักเราอยู่ มันก็อาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป “บางทีมันอาจไม่ใช่ความรักนะ เราอาจแค่สับสนเพราะความใกล้ชิดนะ”
“ผมไม่ใช่เด็กอมมือที่จะแยกความรู้สึกไม่ออกแล้วนะครับ”
“พี่รู้ แต่ว่า....”
“พี่ไม่จำเป็นต้องรักผม ผมแค่ขอให้พี่ได้รู้ แค่อยากให้รู้ว่าผมอยู่ตรงนี้เสมอๆ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่พี่หันมา พี่จะเจอผม ไม่ว่าพี่จะเสียใจเพราะใคร ผมจะคอยปลอบพี่ และยิ้มให้ในวันที่พี่มีความสุข” เด็กหนุ่มปล่อยมือจากเอวบาง ค่อยๆเดินถอยห่างจากร่างเล็ก ก่อนจะหันหลังไปอีกทาง ไม่อยากให้หญิงสาวได้เห็นน้ำตาเครื่องหมายของความอ่อนแอ
“ไปหาพี่ซีวอนเถอะครับ เขาคงคอยพี่อยู่ กลับไปคุยให้เข้าใจ อย่าเก็บเรื่องของผม หรือำพูดที่เขาพูดกับพี่ฮีชอลมาคิดมากเลย ที่พี่เขาทำไปก็เพราะเขารักพี่มาก ออกไปเถอะครับ ก่อนที่พี่ผมจะขอร้องในสิ่งที่พี่ให้ผมไม่ได้” เด็กหนุ่มได้แต่พูดกับพื้น ไม่หันหน้าไปทางที่หญิงสาวยืนอยู่
หญิงสาวจ้องมองแผ่นหลังกว้าง ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสารและอาทร ก่อนจะเดินออกจากห้องไป รู้ดีว่าสิ่งที่ชายหนุ่มอยากขอ แต่ให้ไม่ได้นั้นคืออะไร
....ขอโทษนะคยูฮยอน หัวใจของพี่เป็นของซีวอนไปแล้ว หากเราได้รู้จักกันดีกว่านี้ก็คงดี.....
เด็กหนุ่มนิ่งฟังเสียปิดประตูห้องที่ถูกปิดลง ก่อนจะหันกลับมาด้วยรอยยิ้ม ที่หญิงสาวจะไม่มีโอกาสได้เห็น “วันนี้ผมไม่ขอ แต่วันหน้า พี่ต้องยกมันให้กับผม”
* ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
Talk
มาแล้วคร้า ครบร้อยแล้วด้วย แต่คนอ่านหายไปหมดเลยอ่า กระซิกๆๆๆๆ
มาครั้งนี้ กี้รุกฆาตคะ แต่ว่าหัวใจ ใช่จะให้กันง่ายๆสะเมื่อไหร่ ใช่ไหมคะ ก็เลยต้องรอต่อไป แต่เร็วๆนี้แต่ว่าเร็วๆนี้แหล่ะคะ
รออ่านกันด้วยนะคะ อย่าพึ่งทิ้งอาณาจักรน้ำแข็งของไอซ์นะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ
ความคิดเห็น