คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Stand by You .3 100....%
Stand by You
.3
ร่างบอบบางของคิม ฮีชอล ตอนนี้ได้แต่นอนกลิ้งบนเตียงกรอกตากลมโตไปมาเพราะว่าที่คุณพ่อกำลังอยู่ในภาวะบ้าเห่อ ไม่ยอมให้ว่าที่คุณแม่ทำอะไรนอกจากวิ่งไปห้องน้ำ เพื่ออาเจียนเท่านั้น “ซีวอน วันนี้ฮีชอลอยากออกไปซื้อของได้ไหมอ่า”
“ก็ได้ แต่ว่ารอให้ซีวอนไปรับที่บ้านใหญ่ก่อนนะ” ชายหนุ่มตะโกนตอยมาจากห้องครัวที่ตอนนี้กำลังทำอาหารเช้าสำหรับว่าที่คุณแม่ตามสูตรในนิตยสารพวกแม่และเด็ก
“ซีวอนใจดีจังเลย มาหาฮีชอลหน่อยสิ” ใบหน้าหวานยิ้มแป้นกับคำตอบของคนรัก ตั้งแต่ที่ชายหนุ่มรู้ว่าร่างกายอันบอบบางของคนรักกำลังมีอีกหนึ่งชีวิตอาศัยอยู่ ทุกเช้าซีวอนจะรีบตื่นให้เร็วขึ้น อาบน้ำแล้วมาทำอาหารอ่อนๆเตรียมให้กับภรรยาแสนน่ารัก เป็นอาหารเช้าแล้วก็แบ่งอีกส่วนเอาใส่ปิ่นโต ผูกติดกับร่างบางไปส่งที่บ้านใหญ่ก่อนที่ตัวเองจะไปทำงาน แล้วบ่ายๆก็มารับพากันกลับบ้าน
“รอแปปนะคร้าบให้ซีวอนทำ..” ชายหนุ่มตอบได้เพียงแค่นั้นก็ต้องรีบวางทัพพีหันหลังวิ่งไปในห้องน้ำ เข้าไปช่วยลูบหลังบางก่อนจะอุ้มมากลับมาวางบนที่นอนเหมือนเดิม “ไหวหรือเปล่าฮีชอล พรุ่งนี้หมอนัดใช่ไหม” มือหนาปัดผมปรกหน้าไปทัดหูเล็ก ยิ่งมองหน้าซีดๆขาวๆกลังอาเจียนซีวอนก็ยิ่งเป็นห่วงเข้าไปใหญ่
“อือ ซีวอนว่างหรือเปล่า” ดวงตากลมโตจ้องมองชายหนุ่ม ก่อนหลุบตาลงพร้อมคำถามเสียงเศร้าๆ
“ว่างสิครับ ซีวอนว่างเสมอถ้าเป็นเรื่องของฮีชอลนะครับ” ซีวอนจ้องมองคนตาโตแป๋วๆ อย่างรักใคร่ หากตอบว่าไม่สงสัยว่างานนี้คงได้ร้องไห้กันแต่เช้าแน่ๆ
“แล้วถ้าเป็นเองลูกหล่ะ” อารมณ์คนท้องที่มักจะน้อยใจ คิดอะไรไปเอง มันทำให้ร่างบางยิ่งกลายเป็นคนขี้อ้อน ติดชายหนุ่มมากขึ้นไปอีก แล้วก็ยังกลายเป็นคนช่างคิดอะไรมากมาย
“ว่างเหมือนกัน ทั้งแม่แลลูกเลย ซีวอนว่างเสมอนะครับ” ริมฝีปากหนาจุมพิตลงบนหน้าผากเนียน “ซีวอนไปทำอาหารต่อนะครับ ใกล้เสร็จแล้ว”
“อือ” ร่างบางพยักหน้ารับก่อนจะคว้าเจ้าลูกแมวที่กำลังจะได้เป็นพี่ชายคนโตมากอดก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
ซีวอนเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับถาดอาหารสำหรับคนแพ้ท้องและกาแฟหนึ่งแก้ว ขนมปังอีกหนึ่งคู่ ยิ้มกว้างจนเห็นรอยบุ๋มสองข้างแก้ม ก่อนจะปลุกร่างบางที่หลับไปพร้อมๆกับแมวน้อย “ฮีชอลครับ ตื่นมาทานข้าวนะครับ”
“งื้อ ง่วงจังเลย ยังไม่ตื่นนะ” ใบหน้าหวาน ตาโตๆมุดหายลงไปในผ้านวมผืนหนา พร้อมกับฮีบอมที่ยังคงกอดไว้ในมือ ไม่ให้แมวน้อยดิ้นหนีไปไหน
“ไม่ได้ครับมาทานเข้ากินยา แล้วจะไปอาบน้ำนะ เด็กดี ตื่นได้แล้วครับ” ชายหนุ่มรั้งผ้านวมเอาไว้ เปิดเจอใบหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข แต่ก็ต้องทำใจปลุกให้ตื่นมาทานข้าวทานยา “ตื่นนะครับคนเก่ง ไม่ตื่นวันนี้ซีวอนไม่พาไปเดินซื้อของนะครับ” ไม่ใช่แค่คำพูดกระซิบข้างหู แต่ลมหายใจร้อนยังเป่าใส่หูเล็กให้คนหลับได้จั๊กจี้อีกด้วย
“ไม่แกล้งสิ ตื่นแล้วก็ได้ ต้องพาฮีชอลไปนะ” ในที่สุด คิม ฮีชอลก็ต้องยอมแพ้ให้กับ ชเว ซีวอน ยอมตื่นขึ้นมา ตาโตๆมองอาหารเช้าเละนิ่มๆ ที่เปลี่ยนสีไปตามผักผลไม้ที่เอามาปรุงในแต่ละวัน “ซีวอนคิดว่าฮีชอลเป็นเด็กสามขวบแน่เลย ดูอาหารสิ ยังกะรุ้งแหน่ะ เจ็ดสีเจ็ดวันเลย”
“ไม่ดีหรอครับ” ชายหนุ่มมองใบหน้าหวานของคนรักทั้งที่บ่น แต่กลับมีรอยยิ้มพอใจประดับอยู่ ดูแล้วก็เหมือนเด็กสามขวบจริงๆนั่นแหล่ะ
“ดี” คำตอบสั้นๆก่อนตั้งหน้าตั้งตักเข้าปาก ดวงตากลมเหลือบมองขนมปังในมือชายหนุ่มก่อนจะกัดริมฝีปากไม่พอใจเท่าไหร่ ที่ตั้งแต่รู้ว่าท้องดูเหมือนอาหารเช้าของซีวอนจะด้อยคุณภาพลง
“อ้าปาก” มือบางในมือถือช้อนที่ตักอาหารเละๆของตัวเองยื่นมาตรงหน้าคมเข้มที่พึ่งจิบกาแฟเข้าไป พยายามใช้สายตาตัวเองบังคับให้ชายหนุ่มอ้าปาก
“ฮีชอลจะทำอะไรครับ” ซีวอนมองหน้าคนรักที่ปากมู่ติดกันอย่างยิ้มๆ ไม่เข้าใจว่ายื่นช้อนมาให้ทำไมกัน หรือจะให้ป้อน???
“ก็ให้ซีวอนทานไง ดูสิเมื่อก่อนเข้าเช้าของซีวอนดีกว่านี้ตั้งเยอะ แล้วพอซีวอน้องมาทำให้ฮีชอลกิน ซีวอนก็ไม่ดูแลตัวเอง กินแต่ขนมปังกับกาแฟ อย่างนี้ใช้ไม่ได้รู้ไหม ฮีชอลอุตส่าห์ขุนมาให้ตัวโตจะได้กอดนุ่มๆ”
“ฮ่าๆๆๆ ฮีชอลนะหรือครับที่ขุนซีวอนมา” ใบหน้าพยักหน้าตอบรับ จนผมเส้นเล็กปลิกระจาย ยุ่งเหยิง “ไม่ใช่ซีวอนหรอ ที่บังคับให้ฮีชอลกินข้าวทุกวันหน่ะ”
“ซีวอนอ่า ไม่พูดด้วยแล้ว อ้าปากเดี๋ยวนี้เลย ” ถึงจะบอกว่าไม่พูดด้วยแล้ แต่ร่างบางก็ยังคงบังคับให้ชายหนุ่มอ้าปากทานสิ่งที่อยู่ในช้อนให้ได้
“ม่ทานหรอกครับ ฮีชอลทานเหอะผมทานแค่นี้ก็ได้ รอให้ฮีชอลไม่แพ้ท้องก่อน แล้วค่อยมาทำอาหารเช้าให้ผมทานเหมือนเดิมนะครับ”
“ชิ” แค่นั้นพร้อมกับค้อนวงโต แล้วกลับมาตั้งใจทานอาหารตรงหน้าตนเอง ก่อนจะกินหมดอย่างรวดเร็ว “ทานหมดแล้ว ฮีชอลไปอาบน้ำนะ”
“ทานยาหรือยังครับ ฮีชอล” ชายหนุ่มเงยหน้ามองคนรักที่เรียมเผ่นหนีเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่ไวไปกว่ามือหนาที่คว้าเอวบางมานั่งตักตนเอง “ว่าไงครับ คนเก่ง จะไปอาบน้ำ ทานยาหรือยัง”
แก้มเนียนพองลมขึ้นเรื่อยๆ บอกให้ชายหนุ่มได้รู้ทันที ว่าเด็กดีเปลี่ยนเป็นเด็กดื้อไม่ยอมทานยา “ไม่อยากหายอาเจียนหรือครับ ทานยาบำรุงแล้วก็ฮอร์โมนด้วย เพื่อลูกนะครับคนเก่ง” ชายหนุ่มแกะยาออกมาแล้วยื่นให้คนรัก
“ก็ได้” มือบางคว้ายาเม็ดเล็กหลายเม็ดจากมือหนาส่งเข้าปากก่อนจะรีบกินน้ำตามลงไปแล้วรีบวิ่งไปอาบน้ำทันที
ในขณะที่คนตาโตผู้น่ารักอาบน้ำ ชายหนุ่มเองก็ถอดผ้ากันเปื้อนสีหวานที่คลุมทับเสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงขาสั้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดรองประธานบริษัทที่แสนภูมิฐาน มานั่งรอคนรักที่ยังคงอยู่ในห้องน้ำ
รถคันหรูเลี้ยวเข้ามาในบ้านของตัวเอง อย่างช้าๆ เป็นห่วงคนนั่งข้างๆที่กำลังหลับอยู่จะตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มลงจากรถก่อนจะเดินอ้อมหน้ารถไปอุ้มร่างบางพาขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน “แม่ครับ ผมฝากด้วยนะครับ แล้วเดี๋ยวบ่ายๆผมมารับนะครับ แล้วก็อาหารของฮีชอลผมให้คนเอาเข้าไปในครัวแล้วนะครับ”
“เดี๋ยวแม่ดูให้” นายหญิงของบ้านมองหลานรักที่กำลังหลับอยู่ด้วยรอยยิ้มเอ็นดูไม่ว่ายังไงฮีชอลก็ดเหมือนเด็ก ต่อให้กำลังจะเป็นแม่คนแล้วก็ตาม
“ทำอย่างกับบ้านเป็นที่เลี้ยงเด็กเชียวนะ ตอนเช้ามาส่ง ตอนบ่ายมารับเนี้ย” ผู้เป็นพ่อเดินเข้าดูหลานรักผู้กำลังตั้งท้อง ก่อนจะอดไม่ได้ต้องแซวลูกชายตัวเองเพราะความหมั่นไส้
“โธ่!พ่อ ให้ฮีชอลอยู่บ้านคนเดียวได้ไงครับ แล้วก็ตอนกลางคืนผมก็นอนคนเดียวไม่ได้แล้วด้วย เพราะงั้นอย่างนี้แหล่ะดีแล้ว” ลูกชายหันมามองหน้าพ่อแบบว่า ช่วยเข้าใจกันบ้างประมาณนั้น
“เออ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ไปทำงานได้แล้วไป”
“ครับ” ชายหนุ่มตอบรับกับ ก่อนหันมาหาร่างบางที่หลับสบายอยู่บนเตียง “ซีวอนไปก่อนนะครับแล้วจะรีบมารับนะครับ คุณแม่คนสวย”
แค่เข็มสั้นของนาฬิกาชี้เลขหนึ่งไปไม่เกินครึ่งชั่วโมง รถคันใหญ่แสนสบายก็เลี้ยวเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจ้าของรถจะรีบเดินเข้าไปในบ้าน มองซ้ายมองขวาไม่เห็นมีใครออกมาสักคน จึงเดินขึ้นไปบนชั้นสองทันที
เสียงคุยพูดเบาๆของแม่ที่ลอยมาให้ได้ยินเหมือนกำลังประเหลาะให้เด็กน้อยเข้านอนเรียกรอยยิ้มจากชายหนุ่มได้ดีก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้องที่เคยเป็นของร่างบางมาก่อน
“หวัดดีครับแม่ ฮีชอลดื้ออะไรหรือครับ เสียงดังไปข้างนอกเลย” แม้ประโยคแรกจะทักทายมารดาแต่สายตาของซีวอนก็จับจองอยู่ที่มือใหม่หัดดื้อที่กำลังทำท่างอแงบางอย่าง
“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย ซีวอนใส่ร้ายฮีชอลครับคุณป้า” คนโดนใส่ร้ายหันไปฟ้องคุณป้า พร้อมด้วยท่าทางออดอ้อนสุดฤทธิ์ ตาแป๋ว อาวุธคู่กายที่ใช้ได้กับทุกสนามรบ
“ฮีชอลแน่ใจหรอ ว่าไม่ได้ดื้อกับป้า” ครั้งนี้อาวุธของร่างบางใช้ไม่ได้ผล เมื่อคุณป้าที่ปรกติเข้าข้างหลานได้ทุกเรื่องกลับหันมาย้อนถามเสียงนุ่ม และรอยยิ้มน้อยๆ จ้องมองร่างบางที่กำลังจะมุดตัวหนีไปอยู่ในอุโมงค์ผ้าห่ม แต่ก็มีมือหนาทะลายอุโมงค์ และคว้าตัวเด็กดื้อมากอดได้เสียก่อน
“อ่า คุณป้าครับ ฮีชอลยังไม่ได้ดื้ออะไรเลยนะครับ” ร่างบางที่นั่งอยู่ในวงแขนของชายหนุ่ม พยายามแก้ข้อกล่าวหา ส่งสายตาอ้อนวอนสุดฤทธิ์ แบบที่ทุกครั้งเคยใช้ได้ผล
“แล้วใครหน่า ตื่นมาก็วิ่งลงบันได ทั้งๆที่ก็มีแต่คนร้องห้าม” คุณป้าที่เคยเข้าข้างคุณหลานมาตอนนี้กำลังรายงายความประพฤติให้ผู้คุยฟัง พร้อมรอยยิ้มที่เห็นใบหน้าหวานอมลมจนแก้มป่อง ในขณะที่ลูกชายตัวเองก็คิ้วขมวดทั้งที่มือไม่ยอมปล่อยร่างบางที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหน้า
“เมื่อตอนเที่ยงก็ไม่ยอมทานยา ต้องให้เจย์มาบังคับถึงยอมทาน นี้ไม่เรียกว่าดื้อหรอ ฮีชอล” คุณป้าคนสวยรายงานความประพฤติหลานรักให้ลูกชายฟัง ต้องกลั้นยิ้มเมื่อเห็นหน้าลูกชายตัวดี ที่บึ้งหนักกว่าเดิม “ป้าลงไปข้างล่างก่อนนะฮีชอล ให้ผู้ปกครองเขาทำโทษกันเอาเอง”
“วิ่งทำไมครับฮีชอล” ทันทีที่แม่เดินออกไป ชายหนุ่มก็จับร่างบางที่นั่งหันหลังให้ หันกลับมานั่งหันหน้าคุยกันแบบจริงจัง เห็นแก้มเนียนพองลม แล้วรู้สึกหมั่นเขี้ยวแต่อยู่ในระหว่างพิจารณาความผิดเลยยังทำอะไรไม่ได้
“ก็ฮีชอลจะวิ่งลงมาหาซีวอนนี้หน่า ฮีชอลหลับไป ตื่นมาได้ยินเสียงรถซีวอน ฮีชอลจะลงมาส่ง แต่ไม่ทันอ่ะ” ใบหน้าใส่บอกเล่าเหตุผลให้ชายหนุ่มฟังพร้อมกับเริ่มใช้ลูกอ้อนอีกครั้ง ตาแป๋ว แต่กับคนพิเศษ ย่อมต้องมีอาวุธพิเศษด้วย ร่างบางปีนขึ้นไปนั่งบนตักชายหนุ่มสองแขนเรียวโอบรอบคอหนา ซุกหน้าเข้ากับอกกว้าง
แค่ตาแป๋วๆของคนรัก ซีวอนก็แทบยอมให้ทุกอย่างแล้ว แต่นี้ยังมีบริการเสริมเป็นร่างนุ่มนิ่มอีก แต่อีกเรื่องที่ต้อสะสางมันก็ใหญ่เกินกว่าจะยอมความกันได้ง่ายๆ “แล้วทำไม่ยอมทานยา ต้องเดือนร้อนคนอื่นทำไม”
“คนอื่นที่ไหน” ร่างบางมองหน้าอารมณ์กรุ่นๆของคนรัก ก่อนต้องเริ่มอ้อมอีกครั้ง ด้วยการจุมพิคปลายคางแบบรวดเร็ว แล้วซุกหน้ากลับเข้าที่เดิม “ก็เจย์มาหาที่บ้านเองนะ ไม่เดือดร้อนหรอก”
ฮีชอลมองหน้าชายหนุ่มที่ยังไม่ดีขึ้น “ก็ฮีชอลไม่ชอบยานิหน่า ขม เม็ดก็ใหญ่”
“ฮีชอลดื้อแบบนี้ พรุ่งนี้ซีวอนไม่พามาที่บ้านตอนเช้าแล้วนะครับ ไม่พาไปซื้อของแล้วด้วย” ชายหนุ่มมองคนตัวนุ่มนิ่มบนตักไม่พอที่ต้องให้ไอ้หน้าจืดข้างบ้านมายุ่งวุ่นวาย
“ไม่เอา ซีวอนสัญญาไว้แล้วว่าจะพาฮีชอลไป” ร่างบางฝังฟันขาวคมๆลงบนไหล่หนาเต็มแรง ก่อนที่ใบหน้าหวานจะกลายเป็นหน้าบึ้ง เพราะคนรักจะผิดสัญญา
“แล้วไม่พามาส่งที่นี้ ซีวอนจะทิ้งให้ฮีชอลอยู่ที่บ้านคนเดียวใช่ไหม ซีวอนไม่รักฮีชอลแล้วใช่ไหม ซีวอนเบื่อฮีชอลแล้ว” อาการของคนท้อง ที่อารมณ์ปรวนแปรกลับมาอีกครั้ง ร่างบางตีโพยตีพาย น้ำตาไหลอาบแก้ม
“เฮ้ย!!” ซีวอนที่ยังตามอารมณ์ไม่ทันตกใจกับน้ำตาที่ไหลออกมาแบบไม่ให้รู้ตัวล่วงหน้า สองมือหนารีบเช็ดน้ำตาออกทันที “ไม่ร้องนะครับ ซีวอนรักฮีชอลสิ รักมากด้วย ที่ไม่พามาส่งที่นี้ เพราะ ว่าซีวอนจะพาฮีชอลไปบริษัทด้วย ซีวอนจะได้นั่งเฝ้าคนเดียวไงครับ”
“แล้วจะพาฮีชอลไปซื้อของไหม” ดวงตากลมโตเอ่อด้วยน้ำตามองหน้าคนรักก่อนจะถามชายหนุ่มเสียงเศร้า
“พาไปซิครับ พาไปหาข้าวเย็นอร่อยๆด้วยเอาไหม” ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอให้คนขี้แย ที่ดูเหมือนจะสนใจในข้อเสนอ เพราะหน้าหวานที่เคยเศร้าสร้อย ปรากฏรอยยิ้มให้คนมองได้ชื่นใจ
“สัญญาแล้วนะ ไปกันเลยเถอะ นะนะนะ” ฮีชอลใม่ใช่แค่พอใจข้อเสนอ แต่ชอบข้อเสนอนี้มากที่สุด ลงตากตักชายหนุ่มพยายามรั้งร่างหนาให้ลุกขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่าคนตัวใหญ่จะไม่เคลื่อนที่เลย
“แล้วไม่นอนกลางวันแล้วหรอครับ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถามคนที่ดูกระตือรือร้นขึ้นมาทันทีไม่เหลือคราบหนูน้อยขี้แย แบบเมื้อกี้เลยสักนิด
“ฮีชอลไม่ใช่เด็กไม่ต้องนอนกลางวันหรอก ไปเร็วๆ”
“ครับผม” ในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมลุกขึ้นตามแรงรั้งของคนรัก
ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีเดินเข็นรถเข็นในซุปเปอร์มาร์เก็ต ขนาบข้างด้วยร่างบอบบางใบหน้าหวาน ที่มองผ่านๆอาจนึกว่าเป็นผู้หญิง รอยยิ้มของคนทั้งคู่ทำให้หลายๆคนต้องมองอย่างอิจฉา แต่จะมีใครรู้ไหมว่าผู้ชายที่กำลังเข็นรถเข็นอยู่นี้ จะเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของห้าง
“ฮีชอลจะมาเดินซื้อของหรือซื้อขนมครับเนี่ย ซีวอนเห็นฮีชอลหยิบแต่ขนม” ชายหนุ่มเอ่ยปรามคนรักเมื่อมือบางกำลังจะเอื้อมไปหยิบขนมมาใส่รถเพิ่ม ทั้งๆที่ก็มีอยู่เต็มรถแล้ว
“ก็ฮีชอลอยากทานนี้ แล้วของอย่างอื่นซีวอนก็หยิบหมดแล้ว แล้วจะให้ฮีชอลหยิบอะไรอีกอ่า” ใบหน้าหวานบึ้งตึ้งแต่ดวงตากลับมีประกายคำถาม ก็จริงๆนี้ ที่ซีวอนหยิบของใช้ ของกินทุกอย่างหมดแล้ว มีแต่ขนมที่ซีวอนไม่ยอมหยิบ ฮีชอลก็ต้องหยิบสิ
“แต่ขนมพวกนี้มันไม่ดี แล้ว...”
“โอ้ย ปวดท้อง”
ร่างบางเอามือกุมท้องที่ในนั้นมีอีกหนึ่งชีวิตนอนอยู่ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยว จนชายหนุ่มที่ตั้งใจเทศนา รีบเข้ามาโอบร่างบาง ด้วยความเป็นห่วง ในใจกระวนกระวายจนไม่รู้ต้องทำไง “ฮีชอลเป็นอะไรครับ ไปหาหมอไหม” ความกังวลทำให้ซีวอน แทบจะอุ้มร่างบางขึ้น
“โอ๊ะๆๆ ไม่ต้องหรอก หายปวดท้องแล้ว” ร่างบางหันมายิ้มให้ชายหนุ่มทันทีก่อนจะออกเดินนำหน้าไม่กล้าไปสบตากับคนรัก
“ฮีชอล” เสียงเรียกเย็นๆยิ่งทำให้เรียวขาเล็กเดินไวขึ้น แต่ยังไงก็ไม่ทันอยู่ดีเมื่อชายหนุ่มเข็นรถเข็นมาดักหน้า ด้วยใบหน้านิ่งเข้ม ไม่พอใจ
“เมื่อกี้แกล้งซีวอนใช่ไหมครับ” เพราะความเป็นห่วงมากทำให้กลายเป็นความไม่พอใจ ที่ร่างบางเอาเรื่องละเอียดอ่อนมาเล่น มือหนาบีบต้นแขนเล็กเบาๆ เป็นเชิงให้หันหน้ามาคุยกันดีๆ
“ฮีชอลเจ็บนะ” แขนเรียวพยายามดิ้นให้หลุด แต่เพราะแรงที่ต่างกันจึงไม่สามารถสลัดมือหนาได้
“แล้วเมื่อกี้ซีวอนไม่เจ็บหรอ ซีวอนป็นห่วงฮีชอลแค่ไหน ฮีชอลรู้หรืเปล่า คราวหลังอย่าทำเป็นเล่นแบบนี้อีก” มือหนายอมปล่อยแขนเรียวออก ก่อนจะเดินเข็นรถไปที่ช่องจ่ายเงิน ไม่หันมามองร่างบางที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ฮีชอลมองแผ่นหลังคนรักที่เดินจากไป อย่างหวาดกลัว น้ำตาไหลอาบสองแก้มเนียนอย่างไม่สนใจใคร รู้ว่าตัวว่าผิด อยากจะเดินเข้าไปขอโทษ แต่เพราะความปวดท้องที่แล่นขึ้นมามันทำให้ก้าวขาไม่ออก อยากจะลงไปนั่งที่พื้นเท่านั้น
“ซีวอน”เสียงเรียกจากคนที่ยังอยู่ที่เดิม แม้อยากจะหันไปหา แต่เด็กดื้อก็ต้องถูกลงโทษบ้างไม่ใช่หรือไง ไม่งั้นก็จะต้องเห็นทุกอย่างเป็นเรื่องสนุกแบบนี้ไปตลอด ไม่รับรู้ว่าคนเป็นห่วงจะรู้สึกยังไง
ฮีชอลส่งเสียงร้องเรียกคนรัก แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ เหมือนที่ความปวดมันเพิ่มมากขึ้น ร่างเพรียวบางโค้งตัวลง ใบหน้าหวานซีด น้ำตาเม็ดเล็กไหลลงมาช้าๆ ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองมาอย่างสนใจ และพร้อมเข้ามาช่วย
“คุณครับ คุณ น้องชายคุณดูท่าจะไม่สบายนะครับ” ชายแปลกหน้าเดินเข้ามาเรียกหนุ่มร่างสูงเอาไว้ และเพราะไม่รู้ในความสัมพันธ์จึงคิดว่าคนทั้งสองเป็นพี่น้องที่นหน้าตาแตกต่างกัน
“ผมไม่....ฮีชอล” แค่หันหลับไปจะปฏิเสธว่าไม่มีน้องชาย แต่คนรักที่ยืนงอตัวแทบบิด เกาะชั้นวางของแน่น เหงื่อเม็ดเล็กไหลอาบหน้าทั้งที่อยู่ในห้องแอร์ กัดริมฝีปากแน่นจนแทบห้อเลือด ทำให้ซีวอนรีบวิ่งเข้าไปหา ลืมความโกรธที่ดีหมดสิ้น เหลือแต่ความเป็นห่วงแทบขาดใจ
“ปวดท้องอ่า ฮีชอลปวดท้อง”
“ครับไม่ต้องพูดแล้วนะ ซีวอนพาไปโรงพยาบาลนะ อดทนไว้ครับคนดี” ชายหนุ่มโอบอุ้มคนรัก เอาไว้ด้วยมือสองข้าง จะไม่ยอมให้คนสำคัญในชีวิตที่สุดต้องเป็นอะไร “อดทนไว้นะครับ ที่รักของซีวอน”
ร่างสูงของชายหนุ่มเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน จ้องเข็มนาฬิกาที่ผ่านไปเรื่อยๆอย่างเชื่อช้า ความกังวลที่เคยมีทั้งหมดมันกลับมาอีกครั้ง สิ่งที่คิดไว้ และอ้อนวอนต่อพระเจ้าขอให้มันไม่เกิดขึ้น แต่วันนี้กำลังจะเกิดใช่ไหม
“ฮีชอลครับ ได้โปรดกลับมาอยู่กับซีวอนนะ อย่าทิ้งซีวอนเอาไว้แบบนี้นะครับคนดี พระเจ้าได้โปรดอย่าพรากความรักของลูกไป” ทางเดียวที่ทำได้และนึกออกตอนนี้คือ อ้อนวอนไม่ว่ากับใครก็ตาม พระเจ้าผู้อยู่เบื้อบน และร่างบางผู้กำลังนอนอยู่ในห้องฉุกเฉิน
ซีวอนไม่เคยคิดถึงวันที่ต้องอยู่โดยปราศจากร่างบาง เคยนึกดีใจที่นับแต่วันแรกที่เกิดมา บนโลกใบนี้ก็มี ฮีชอลที่เขารักยืนรออยู่แล้ว
แล้วเกิดวันหนึ่งที่เขาไม่เคยคิดถึง
วันหนึ่งที่เขาหวาดกลัวมาตลอด
วันที่โลกไร้คนชื่อ ฮีชอล....วันนั้นก็คงไร้จิตวิญญาณของคนชื่อซีวอนเช่นเดียวกัน
“หมอ ฮีชอล ฮีชอลกับลูก หมอ บอกซิว่าเมียผมไม่เป็นอะไร” ทันทีที่นายแพทย์ประจำหองฉุกเฉินเดินมา ซีวอนก็แทบตรงเข้าไปขย้ำคอเสื้อเค้นถามสิ่งที่เป็นกังวล ใบหน้าเข้มแดงกล่ำ ไม่สนว่าเป็นสถานที่งดใช้เสียง ไม่สนสายตาที่ใครต่อใครมองจ้อง
“คนไข้ไม่เป็นอะไรมาก หมอให้ยานอนหลับไปอีกสักพักน่าจะตื่น ส่วนเรื่องเด็กหมอไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร” นายแพทย์ดึงมือของญาติคนไข้ร่างสูงออก พอเข้าใจกับอาการเป็นห่วงที่ทำให้คนสติแตกได้ แต่ไม่เข้าใจคำถามที่ได้ยิน
รอยยิ้มของซีวอนปรากฏไม่นานก็ถูกแทนที่ด้วยมึนงง “ลูกของผม ฮีชอลท้อง ผู้ชายคนนั้นกำลังท้อง เขาตั้งท้องลูกของผม” นิ้วยาวเรียวชี้ไปทางเตียงคนไข้ “คุณเป็นหมอ พูดแบบนี้หมายความว่าไง”
“ผมว่าต้องมีความเข้าใจอะไรผิดบางอย่างนะครับ คนไข้ คือ คิม ฮีชอล เป็นผู้ชาย แล้วไม่ทราบว่าจะท้องได้ยังไงครับ” นายแพทย์มองหน้าคนถามอย่างไม่เข้าใจ
เข้าใจว่าคนตรงหน้าคงเป็นห่วงคนไข้มาก
เข้าใจว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่คงเป็นแบบคนรัก
แต่ไม่เข้าใจว่าคนไข้ซึ่งเป็นผู้ชายจะท้องได้อย่างไร...ถึงจะหน้าหวานมากก็ตาม
ชายหนุ่มไม่ถามที่นายแพทย์บอก เพราสายตาคมกำลังจับจ้องร่างบางที่กำลังนอนนิ่งอยู่บนเตียงกำลังจะโดนเข็นไปยังห้องพิเศษ เปลือกตาบางปกปิดดวงตาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาก่อนที่บุรุษพยาบาลจะเข็นผ่านหน้าไป
“หมอกำลังจะบอกว่าคนรักของผมไม่ได้ตั้งท้องใช่ไหมครับ” ซีวอนพยายามตั้งสตินึกเรียบเรียงคำพูดของนายแพทย์ที่พึ่งตรวจร่างกายของฮีชอล
“ครับ ไม่ได้ตั้งครรภ์แน่นอน”
“แต่ฮีชอลอาเจียนแล้วก็มีอาการมึนหัวนะครับ” ซีวอนบอกเล่าอาการของคนรัก ที่เห็นและทำให้เป็นห่วงอยู่ทุกวัน
“เออ อาการที่คุณล่ามาไม่จำเป็นว่าคนไข้ต้องตั้งครรภ์เสมอไปนะครับ แล้วยิ่งในกรณีที่คนไข้เป็นผู้ชายแล้ว ยิ่งไม่มีโอกาสที่จะเป็นไปได้”
“แต่ว่าฮีชอลเคยมาตรวจแล้วหมอที่นี้ก็บอกว่าท้อง ให้ทั้งยาบำรุง แล้วก็ฮอร์โมน” ชายหนุ่มยังคงโต้แย้งกับหมออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ด้วยสติที่มีมากขึ้น พร้อมรับความจริงต่างๆได้มากขึ้น
“เอ่อ ผมไม่ทราบว่ามีข้อผิดพลาดอะไร แต่ผมข้อยืนยันว่า คุณฮีชอลไม่ได้ตั้งครรภ์ สำหรับข้อผิดพลาดนั่นเท่าที่ผมดูจากแฟ้มประวัติแล้ว น่าจะเกิดจากการสลับผลตรวจเลือด ทำให้ผลออกมาว่าคนไข้ตั้งครรภ์”
“แล้วถ้างั้นฮีชอลเป็นอะไรกัน หมอบอกผมได้ไหม” ซีวอนถามด้วยความกังวล ไม่รุ้ว่าควรจะดีใจไหมที่ผลการตรวจมันผิดพลาด ถึงแม้ต้องสูญเสียบางอย่างไป แต่มันก็ดึงให้ฮีชอลออกมาจากความเสี่ยงที่คอยรบกวนความคิดของชายหนุ่มตลอดเวลา
“คนไข้เป็นโรคกระเพาะ เกิดจากการทานอาหารไม่ตรงเวลา ส่วนอาการหน้ามืดเวียนหัวคงต้องตรวจเลือดอีกครั้ง แต่เท่าที่ผมคิดไว้น่าจะเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายไม่แข็งแรงหรือว่าเอ่อ... บางทีอาจหักโหมทำบางอย่างมากเกินไป คุณเข้าใจใช่ไหมครับ” นายแพทย์หนุ่มหน้าขึ้นสีในประโยคสุดท้ายของตนเอง แต่ก็ต้องพูดออกมาเพราะนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้
“เอ่อ...ผมว่า ผมเข้าใจครับ” คนฟังเองหน้าก็แดงไม่ต่างกับคนพูดเท่าไหร่ นึกอยากเตะตัวเองที่เป็นสาเหตุให้คนรักป่วยแบบนี้ “แล้วทำไมวันนี้อยู่ๆฮีชอลก็ปวดท้องจนเป็นแบบนี้ครับ”
“อ้อ อาจมาจากความเครียดหรือความกังวลบางอย่าง เลยทำให้อาการแสดงออกมามากกว่าปรกติ”
ซีวอนนึกไปถึงก่อนที่ร่างบางจะปวดท้องแบบนี้ ตอนนั้น ฮีชอลกำลังทำตัวเป็นเด็กดื้อ จนต้องลงโทษ หรือนี้จะเป็นสาเหตุของความเครียด จนอาการออกมาเป็นแบบนี้ “แล้วต้องอยู่โรงบาลนานแค่ไหนครับ”
“พอคนไข้ตื่นก็ออกจากโรงพยาบาลได้เลยครับ แล้วเดี๋ยวผมจะส่งประวัติไปที่แผนกอายุรกรรมให้เขานัดเวลามาตรวจกับหมอเฉพาะทางอีกที ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ขอบคุณครับ” ซีวอนก้มหัวให้อีกฝ่ายเป็นเชิงขอบคุณก่อนเดินไปตามระเบียงทางเดินทอดยาวไปสู้ห้องพักพิเศษที่มีร่างบางนอนหลับสบายคอยอยู่
ชายหนุ่มถามตัวเองว่า ความดีใจที่มีอยู่ตอนนี้มันผิดไหม มันเหมือนว่าได้ยกภูเขาออกจากอก ลูก อาจเป็นคำที่มีความหมายยิ่งใหญ่ แต่สำหรับเขาแล้ว ฮีชอลเป็นคนที่มีค่ามากที่สุด หากลูกจะได้มาบนความเสี่ยงของคนที่เขารัก เขายอมให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป
ฮีชอลคนเดียวก็ทำให้ซีวอนเหนื่อยยิ่งกว่าเลี้ยงเด็กเสียอีก แค่คิดก็ทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมา แต่บางคนที่กำลังนอนหลับอยู่ จะยังยิ้มออกหรือเปล่า
จะเสียใจมากแค่ไหนกัน.....
ร่างบอบบาง ใบหน้าหวานสวย นอนนิ่งบนเตียงขาวของโรงพยาบาล สีหน้าที่เคยซีด เริ่มมีสีแดงเรื่อๆบนแกมเนียนทำให้คนนั่งเฝ้าสบายใจขึ้นบ้าง มือหนาเกลี่ยแก้มบางเบามือพร้อมด้วยรอยยิ้มจาง
“ฮีชอลตื่นขึ้นมา ซีวอนจะบอกกับฮีชอลอย่างไงดีครับ ฮีชอลคงเสียใจแน่ๆ แต่ฮีชอลต้องไม่ลืมว่าซีวอนรักฮีชอลนะครับ” มือหนากุมมือบางแนบแก้มของตนเอง ความกังวลมีมากขึ้นเรื่อยๆ
“อื้อ” เสียงครางแผ่บเบาในลำคอของคนนอนบนเตียง ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังนั่งคิดสรรหาคำพูด กลับมาสนใจคนบนเตียงอีกครั้ง
“ฮีชอลตื่นแล้วหรือครับ เป็นไง ปวดท้องหรือเปล่า ซีวอนไปเรียกหมอนะ” ซีวอนคงจะได้เดินออกไปตามหมอข้างนอกหากว่าไม่มีคนรั้งเอาไว้แบบนี้ “ว่าไงครับคนดี”
“กดกริ่งเรียกเอาก็ได้ ซีวอนลูกเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมฮีชอลถึงปวดท้องหล่ะ ลูกยังอยู่กับเราใช่ไหม” เสียงหวานฟังดูเหนื่อยล้า ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าคมสันที่ดูเหมือนมีบางอย่างรบกวนจิตใจ
“เอ่อ ลูก...” ชายหนุ่มไม่รู้จะพูดยังไงที่จะไม่ทำร้ายจิตใจของคนฟัง ไม่รู้จะบอกได้อย่างไรให้คนรักเสียใจน้อยที่สุด ไม่รู้ว่าควรจะต้องพูดอะไร
“ลูกทำไมหล่ะซีวอน บอกฮีชอลมาสิ บอกมาว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร บอกว่าลูกยังอยู่กับฮีชอล พูดมาสิ พูดมา” น้ำตาเม็ดเล็กไหลงมา อาบสองแก้ม มือบางกำชายเสื้อของคนรักแน่น ไม่รู้ว่าอะไรที่กั้นไม่ให้คำพูดที่ต้องฟังหลุดออกมาจากชายหนุ่ม
“ฮีชอลใจเย็นๆนะครับ อย่าร้องไห้นะคนเก่งของซีวอน อย่าร้องไห้นะครับ” ซีวอนดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด ปลอบประโลมช้าๆ มือเช็ดคราบน้ำตาให้แผ่วเบา ยิ่งเห็นน้ำตาก็ยิ่งปวดร้าว เพราะรู้ดีว่าฮีชอลอยากได้ลูกมากแค่ไหน
ยิ่งรู้ว่ามีหวัง...ก็ยิ่งคาดหวัง....จนไม่เผื่อใจเอาไว้สำหรับความผิดหวัง
“ซีวอนก็พูดออกมาสิ พูดสิ อย่าทำให้ฮีชอลกลัวได้ไหม” น้ำตาถูกเช็ดออกไปแต่ก็ยังไม่มีทางจะหมดไปได้ง่ายๆ มือบางทุบตีชายหนุ่มที่นั่งกอดตนเองไว้แน่น
ความเงียบของชายหนุ่มพอจะทำให้ร่างบางรู้ว่าคำตอบจะออกมาเป็นเช่นไร “เพราะฮีชอลดื้อใช่ไหม เพราะฮีชอลไม่ยอมทานยาใช่ไหมซีวอน เพราะฮีชอลเป็นผู้ชาย เพราะฮีชอลใช่ไหม” เสียงร้องไห้นิ่งเงียบไปเหลือไว้แต่น้ำตาที่ไหลงลงมาเป็นสาย ยิ่งคิดว่าโทษตัวเอง ก็ยิ่งเจ็บปวด
“ฮีชอลครับ ไม่ใช่เพราะฮีชอลนะครับ ฮีชอลไม่ผิดนะครับ คนดี ฟังซีวอนนะ” อาการนิ่งเงียบจนน่ากลัวทำให้ซีวอนต้องรั้งร่างในอ้อมแขนออกมา สบสายตากลมโตที่กำลังเหม่อไปไกล จ้องลึกเข้าไป พยายามเรียกให้ร่างบางกลับมารับรู้อีกครั้ง
“ฮีชอลครับ เราไม่มีลูกตั้งแต่แรกแล้วนะครับ” เสียงทุ้มค่อยๆซึมซับเข้าไปในใจของฮีชอลอย่างช้าๆ คำพูดที่แสนเจ็บปวดจนแม้แต่ซีวอนก็ยังไม่อยากพูดออกมา
“ซีวอนหมายความว่าไง ซีวอนพูดแบบนี้ได้ยังไง ก็หมอ หมอที่นี้เป็นคนบอกฮีชอลเองนะ ซีวอนพูดแบบนี้ได้ยังไง พูดได้ยังไง”
“ผลการตรวจนั้นเป็นของอีกคนครับ มันเกิดการสลับผล”
“แต่ฮีชอลอาเจียนนะ หน้ามืดด้วย ซีวอนจะบอกว่าไม่ได้ท้องยังไง ซีวอนโกหกฮีชอล ซีวอนไม่อยากได้ลูกใช่ไหม ซีวอนใจร้าย” คนที่เคยวาดฝันไว้สวยงาม เมื่อฝันสลายก็ไม่อยากรับรู้ความจริง ผลักไสเรื่องราวร้ายออกจากความคิด ยังยึดติดอยู่ในความฝัน ดวงตากลมโตเหม่อลอยอยู่ในโลกของฝันสวยงาม
“ฮีชอลเป็นโรคกระเพาะครับ ทำให้อาเจียนแล้วก็ปวดท้องที่หน้ามืดก็เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ ฮีชอลต้องรับความจริงนะครับ ฮีชอลเชื่อซีวอนนะ ฮีชอลอย่าทำให้ซีวอนกลัวได้ไหม” ชายหนุ่มเขย่าร่างบางในอ้อมแขน เรียกให้คนรักกลับมาสู่โลกความจริงอีกครั้ง
“ฮีชอลยังมีซีวอนนะครับ อย่าทำแบบนี้ เรายังมีฮีบอมไงครับ ฮีบอมก็ลูกของเราไม่ใช่หรือครับ ฮีชอลอย่าลืมซีวอนกับฮีบอมสิ”
“ซีวอนนนนนน” เสียงร้องไห้ดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่มันทำให้ซีวอนยิ้มได้ อย่างน้อยๆ ฮีชอลก็ยอมรับรู้ความจริง แม้จะเศร้า แต่ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงจิตใจของคนรัก
“ร้องออกมาให้หมดนะครับ ร้องไห้ออกมา” ชายหนุ่มนั่งกอดคนรักเอาไว้แบนอกยอมให้เสื้อราคาแพงเป็นที่เช็ดน้ำตาของคนรัก นั่งกอดอยู่อย่างนั้น จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน จนกระทั่งเสียงร้องไห้ค่อยๆแผ่วเบาลงไป
“ฮีชอลอยากกลับบ้าน” เสียงแผ่วเบาอู้อี้จากคนที่ซบหน้าอยู่ในอ้อมกอด ดวงตาบวมช้ำ และใบหน้าหวานที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำตา หากเป็นเวลาปรกติชายหนุ่มคงอยากหัวเราะให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ แต่เวลานี้คงไม่สามารถทำได้ “ซีวอนมองอะไรเล่า”
“ผมก็มองคนรักของผมไง ฮีชอลไม่ต้องเสียใจหรอกนะครับ สักวันหนึ่งผมจะทำให้ฮีชอลมีลูกให้ได้ จะขยันให้มากขึ้นกว่านี้ ตกลงไหมครับคนเก่งของผม” คำพูดหยอกเย้าของชายหนุ่มเรียกเลือดให้ไปสูบฉีดบนใบหน้าแดงกล่ำ อย่างที่ชายหนุ่มต้องการ
“ซีวอนบ้า ไปจัดการให้ฮีชอลกลับบ้านเลยนะ” ใบหน้าหวานประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ตีแขนล่ำของชายหนุ่มเบาๆ
“ครับเดี๋ยวซีวอนมานะ นั่งรออยู่ในนี้อย่าออกไปไหนนะครับ”
“อื้อ” พยักหน้ารับเบาๆ มองชายหนุ่มที่เดินออกจากห้อง ด้วยรอยยิ้มเศร้าหมอง แค่คำพูดเดียวที่ทำให้ฮีชอลทำใจกับเรื่องนี้ได้
ฮีชอลยังมีซีวอน ประโยคนี้ยังคงดังก้อง เพราะฮีชอลยังมีซีวอน เพราะฮีชอลยังไม่สูญเสียซีวอนไป ฮีชอลก็ต้องเข็มแข็งเพื่ออยู่กับซีวอน
ซีวอนไม่ทิ้งฮีชอลไป แล้วฮีชอลจะทิ้งซีวอนไปได้ยังไง
บ้านไม่จำเป็นต้องมีคนอยู่เยอะๆ ขอแค่ให้คนที่อยู่ด้วยกัน รักกัน ใส่ใจกันและกัน บ้านก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นได้เสมอ
E~N~D
ขอขอบคุณพล็อต ที่ Zonk ณ Wonder boy เอื้อเฟื้อมาให้ ณ ที่นี้คะ
จบแล้วคะ กับ Stand by U ถ้าอยากฆ่าใครสักคน ไอซ์เสนอ Zonk ผู้คิดพล็อต กับ วอน ผู้ไม่อยากได้ลูกคะ (โหมดไอซ์แอบเลว) ครั้งหน้าจะเป็นตอนอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับนักอ่านทุกท่าน(ที่เม้มท์)คะ แค่สองคำถามคะ ตอนที่ชอบกับ ตอนต่อไปของโฮม
ตอนที่ชอบ เพราะ?: ไอซ์ชอบ ตอน location เพราะว่า เป็นเรื่องราวตั้งแต่เด็กเลย ใจจริงแอบรู้สึกดีกับ sweet dream ด้วย
อนาคตของโฮม : แล้วแต่เลยนะคะ
นี่แหล่ะคะ แล้วอันไหนน่ารัก ไอซ์จะขอเอามาปั่นแปะ นะคะ แต่ว่าต้องรอหลังเอฟแอลสักสองสามตอน มีใครคิดถึงคุณชายเย็นชากับนายแอบรัก (ชื่อไทยน่าเกลียดพิลึก) บ้างไหมคะ
ฝากด้วยกับบอร์ด Ilovestory เป็นบอร์ด คยูมินคะของเพื่อนไอซ์ พึ่งเปิดได้ไม่นาน แวะเวียนไปอ่าน ไปชม ได้นะคะ
ขอเม้มท์ เยอะๆนะคะ ความโลภยังคงอยู่
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ
Dr. Fu
ความคิดเห็น