คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : - -FL- - 10 100%
- -FL- - 10
เด็กหนุ่มร่างสูงในชุดนักศึกษามหาลัย มองเบอร์หน้าโทรศัพท์อย่างชั่งใจ ก่อนจะกดโทรออก พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ไม่ค่อยมีใครเห็น ก่อนจะดัดเสียงให้ดูเศร้าซึม “สวัสดีครับ พี่ยุนอาหรือเปล่าครับ”
/ใช่คะไม่ทราบว่าใครคะ/ เสียงหวานๆใสซื่อยิ่งทำให้ชายหนุ่มกระหยิ่มยิ้มอยู่ในใจ
“ผมคยูฮยอน น้องพี่ซีวอนนะครับ” ถึงแม้จะไม่อยากนับพี่ แต่เพราะครั้งนี้การเป็นน้องชายของคนคนนั้นมันจะทำให้เขาได้ประโยชน์ เข้าถึงตัวผู้หญิงคนนี้ได้ง่ายขึ้น
/อ่าคยูฮยอน มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ/ ถึงแม้จะสงสัย แต่คุณว่าที่พี่สะใภ้ก็ยังทำเสียงร่าเริงได้อยู่ดี เพราะอย่างงี้สินะ ใครบางคนถึงได้รักมาก จนมองไม่เห็นใครอื่น
“ครับ ผมโทรมารบกวนพี่ยุนอาหรือเปล่าครับ”
/ไม่หรอก มีอะไรหรือเปล่า ทำไมเสียงดูแปลกๆ บอกพี่ได้นะ คิดว่าพี่เป็นพี่อีกคนของเราก็ได้/
ใครอยากคุณเป็นพี่กัน “ ผมติดต่อพี่ฮีชอลกับพี่ซีวอนไม่ได้เลยครับ แล้วก็กลับบ้านไม่ได้ พี่ยุนอามารับผมที่ม.ได้ไหมครับ” ข้ออ้างเล็กๆที่ดูงี่เง่า แต่ก็หวังว่าหญิงสาวจะยินยอม
/ได้สิ คยูฮยอนรอพี่หน้าคณะเดี๋ยวพี่ไปรับหล่ะกันนะ/ เสียงหวานตอบรับทันที กับน้องชายคนรักไม่มีอะไรที่ทำให้เธอต้องกังวล แต่สำหรับคนอย่างคยูฮยอนไม่ใช่คนแบบนั้น
“พี่ร่วมมือกับผมเองนะครับ แล้วจะมาโทษกันไม่ได้”
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
ร่างบางหน้าห้องท่านประธานบริหาร สายตากำลังเพ่งมองหน้าจอคอม ไม่อยากให้สติวอกแวกไปถึงคนที่อยู่ในห้อง ตั้งแต่ที่ซันนี่เข้ามา ชายหนุ่มก็ไม่เคยใช้งานเขาอีกเลย แล้วจะยังให้นั่งอยู่ที่นี้ไปทำไม
มือบางเก็บข้าวของบนโต๊ะอย่างเงียบๆ ในเมื่อไม่ไล่เขาออก เขาก็จะหาทางออกไปจากที่นี้เอง
เหลือเวลาให้ห่างกันบ้าง ยังดีกว่าอยู่ใกล้กันแค่ประตูกั้น แล้วมีแต่น้ำตา....
“พี่ฮีชอลจะไปไหนคะ” หญิงสาวที่งานกำลังล้นมือ หันมามองหน้ารุ่นพี่อย่างสงสัย
“พี่จะไปหาแม่ครูหน่ะ ถ้าคุณซีวอนเรียกซันนี่เข้าไปพบ ก็ฝากบอกให้พี่ด้วยหล่ะกันนะ ว่าพี่ไปหาแม่ครู” ชายหนุ่มร่างเพรียวบอกกับเด็กสาวก่อนจะเดินออกไปไม่สนใจท่าทางสงสัยอยากถามสารพัดคำถามของเธอเลย
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
“ขอบคุณมากนะครับพี่ยุนอาที่มารับผม ถ้าไม่ได้พี่ผมต้องแย่แน่ๆ” ชายหนุ่มทำหน้าเศร้า ขอโทษขอโพยพี่สาวคนใหม่เป็นการใหญ่ ที่ต้องลำบากมารับ
“ไม่เป็นไรหรอก แล้วนี้จะให้พี่ไปส่งที่ไหน”
“ผมยังไม่อยากกลับ กลับไปที่นั่นก็ไม่มีใครต้องการผม ไม่มีใครรักผมจริงเลยสักคน แม้แต่พี่ชายแท้ๆ” ทุกถ้อยคำกลั่นออกมาจากใจ ที่บ้านไม่มีใครเลยจริงๆที่รอเขาอยู่
“ความจริงซีวอนไม่ได้เป็นคนเย็นชาแบบที่แสดงออกหรอกนะ เพียงแต่เขาแสดงออกไม่เก่งเท่านั้นเอง อีกอย่างเขาก็คงยังปรับตัวกับการมีน้องไม่ได้หรอก” หญิงสาวพูดถึงอีกด้านของคนรักที่ไม่มีใครรู้จัก
“คนที่บ้านก็บอกผมแบบนี้ครับ แต่ว่า...ไม่รู้ซิครับ เวลาอยู่กับพี่ซีวอนผมไม่รู้สึกเหมือนอยู่กับพี่น้องเลย” ชายหนุ่ม ปั้นเสียงให้เศร้าจนบาดใจคนฟัง บ้านที่ไม่มีความสุข พี่น้องที่เหมือนไม่ใช่พี่น้อง
“อย่าคิดมากเลย อย่างน้อยที่บ้านก็มีพี่ฮีชอลไม่ใช่หรอ แล้วถ้าคยูฮยอนไม่รังเกียจเอาพี่เข้าไปรวมไว้อีกคนก็ได้นะ พี่อ่ะอยากรู้จักคยูฮยอนตั้งแต่ที่ได้ยินพี่ฮีชอลเล่าให้ฟังแล้วหล่ะ” หญิงสาวมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างสงสารไม่แค่ซีวอนเท่านั้นที่ต้องปรับตัว แต่คยูฮยอนเองก็ต้องปรับตัวเช่นกัน ยิ่งมาเจอพี่ชายในโหมดเย็นชาแบบนี้
“ขอบคุณครับ คราวนี้ผมก็มีครบแล้วทั้งพี่ชาย พี่สาว แต่ว่าที่พี่ได้ยินจากพี่ฮีชอลต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่เลย พวกแบบ ผมซน เกเร แล้วก็ดื้อใช่ไหมครับ พี่ฮีชอลอ่ะชอบว่าผมอยู่เลย ตัวเองนั่นแหล่ะดื้อกว่าใคร” ประโยคสุดท้ายชายหนุ่มพูดกับตัวเองเบาๆถึงพี่ชายที่แสนดี ดื้อรั้น ทั้งที่ต้องเจ็บ
“ไม่หรอก พี่ฮีชอลชอบเล่าว่าคยูฮยอนน่ารัก เป็นน้องชายที่ดี จนพี่อยากมีน้องชายด้วยเลย แล้วนี้คยูฮยอนยังไม่บอกเลยว่าจะให้พี่ไปส่งที่ไหน” หญิงสาวหันมาถามน้องชายคนใหม่
“ไม่ทราบสิครับ พี่อยากไปไหนหล่ะครับ มีธุระอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่มีเราไปเที่ยวกันดีไหมครับ ถือเป็นการเที่ยวกระชับมิตร” คยูฮยอนยื่นข้อเสนอให้หญิงสาว ที่ยังคงไม่รู้ตัว
“ไปไหนดีหล่ะ พี่ก็ว่างทั้งวัน คยูอยากไปไหนหล่ะ พี่เรียกแบบนี้หล่ะกันนะ” ยุนอาหันมาอนุญาตเจ้าของชื่อ
“ครับ เรียกแบบนี้ก็ดี จะได้ดูสนิทกัน ไปไหนดีหน่า ไปเดินที่ห้างกันไหมครับ ไปเดินดูของกัน”
“ชวนพี่ไปเดินห้าง แล้วห้ามบ่นนะ”
“ครับ จะไม่บ่นเลยสักนิด”
เสียงหัวเราะพูดคุยมีไปตลอดทาง โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยต่อจากนี้ ชีวิตเธอจะเปลี่ยนแปลงไป...จนไม่อาจย้อนคืนสู่ที่เดิมได้อีกเลย
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
“พี่ฮีชอลมา เย้ พี่ฮีชอลมา” เด็กตัวน้อยเกือบสิบวิ่งเข้าหาพี่ชายร่างบางที่หอบหิ้วข้าวของมาเต็มที่ “แม่ครูครับ พี่ฮีชอลมา แม่ครู” เสียงร้องโหวกเหวกเรียกรอยยิ้มจากร่างบางได้เป็นอย่างดี
“อะไรเสียงดังอะไรอีก อ้าว! ฮีชอล งานเลิกแล้วหรือลูก นี้ยังไม่สามโมงเลย” ร่างบอบบางของหญิงวัยกลางคนมองร่างบางที่ดูเหมือนจะบางลงไปอีกทั้งที่ก็พึ่งเจอเมื่อไม่กี่วัน
“โธ่แม่ครูครับ ถามกันแบบนี้จะให้ผมตอบว่ายังไงครับเนี่ย คิดถึงแม่ครูจัง” แขนเรียวที่โดนปล้นสารพัดขนมไปแล้ว โอบกอดร่างบางที่ให้ความอบอุ่นกับเขามาตั้งแต่ยังเล็ก ทุกครั้งที่มีเรื่องไม่สบายใจ แค่ได้อยู่กับแม่ครู เรื่องร้ายต่างๆก็จะหายไป
“อะไรกันพึ่งมาไปเมื่อกี่วันก่อนนี้เอง ทำปากหวาน แล้วเจ้าตัวแสบเป็นไงมั่ง?” แม่ครูกาอินถูกประคองเดินเข้าไปในบ้าน รอยยิ้มแสนอบอุ่นส่งให้กับชายหนุ่มที่ยังคงเป็นเด็กน้อยในสายตาเธอ
“เจ้าตัวแสบหรอครับก็สบายดีมั้งครับ แต่ตอนนี้กำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ ผมก็ยังไม่แน่ใจ แม่ครูครับผมกลัวจังเลย” น้ำตาเม็ดเล็กไหลลงมา ไม่อายสายตาเด็กตัวเล็กที่มองพี่ชายหน้าหวานอย่างไม่เข้าใจ
“ฮีชอลกลัวอะไรลูก บอกแม่ครูสิจ๊ะ กลัวอะไร” แม่ครูลูบศีรษะเล็กที่ซุบอยู่กับไหล่บาง ยิ่งลุบก็เหมือนน้ำตาจะยิ่งไหลงออกมา จนเธอเริ่มหวั่นใจกับสิ่งที่ยังไม่รู้ ไม่อยากให้มีเด็กตัวเล็กๆอยู่ในห้อง “เด็กๆ ออกไปเล่นข้างนอกก่อนนะ”
“ค่ะ/ครับ”
“บอกแม่ครูนะลูก ว่าฮีชอลกำลังกลัวอะไร คนเก่งของแม่ครูอย่าร้องไห้นะ” เขาปลอบเมื่อสมัยเป็นเด็กกลับมาอีกครั้งพร้อมเสียงที่บอกถึงความห่วงหาอาทรที่โลกทั้งใบก็คงหาไม่เจอจากคนอื่น
“ผมกลัวสิ่งที่คยูกำลังทำครับแม่ครู ผมกลัวว่าสักวัน มันจะทำให้เขาเจ็บมากกว่าที่ผมเป็นอยู่ มันจะทำให้เขาต้องสูญเสียสิ่งที่เขารัก”
“โอ๋ อย่ากลัวนะลูก แม่ครูไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คยูกำลังทำ แต่ถ้ามันเป็นแบบที่ฮีชอลกลัว วันนั้นเราทั้งหมดจะอยู่ข้างๆเขา อยู่เป็นเพื่อน เขาจะไม่โดดเดี่ยวนะ อย่าร้องนะ อายน้องนะ” มือเล็กแสนนุ่มนิ่มเกลี่ยไล่น้ำตาจากดวงตากลมโตที่ชุ่มฉ่ำ
“ผมไม่อยากให้คยูอยู่ที่บ้านนั้นอีกแล้วครับแม่ครู ไม่อยากให้ต้องยุ่งเกี่ยวอะไรอีกแล้ว พวกเขาเหมือนกองไฟร้อน ที่พอเราเข้าไปใกล้แล้วก็มีแต่จะโดนเผา ไม่ว่าจะเป็นผมหรือคยู” ร่างบางมองชายหนุ่มที่ตนรักเป็นกองไฟที่เร่าร้อนมองแล้วสวย ให้ความอบอุ่น แต่เมื่อได้ไปอยู่ใกล้ก็จะมีแต่ร้อนจนแทบไหม้ เมื่อ ไปอยู่ท่างกลางเปลวไฟก็จะโดนเผา สุดท้ายแล้วก็เหลือเพียงเถ้าถ่าน
“ฮีชอลอยากกลับมาอยู่บ้านเราไหมลูก ถ้าอยู่ที่นั้นแล้วไม่มีความสุข กลับมาอยู่กลับแม่ครูเถอะนะ” แม่ครูมองเด็กที่เธอเลี้ยงมาด้วยความรัก ความสงสาร ในดวงตาคู่สวยไม่เหลือร่องอยของความสุขแม้สักนิดเดียว เมื่อก่อนอาจจะทุกข์แต่ก็มีสุขเจือปน มันต่างจากตอนนี้
“ไม่ได้หรอกครับ ผมทิ้งคยูไว้ที่นั่นคนเดียวไม่ได้ ถ้าเขาไม่กลับมา ผมเองก็คงกลับมาไม่ได้ แต่ก็แค่หนึ่งปีเท่านั้น มันไม่นานใช่ครับ แค่หนึ่ง ไม่ใช่ตั้งหนึ่งปี” เสียงหวานปลอบใจตัวเอง ด้วยคำว่าแค่ ทั้งที่ก็เหมือนกำลังตัวเอง
“ใช่ลูกแค่หนึ่งปีเท่านั้นเอง ไม่ถึงแล้วด้วย เราสองพี่น้องไปอยู่ที่นั่นได้เดือนกว่าแล้วนะ อีกแปปเดียวนะลูก ถ้าไม่อยากอยู่ที่นั่นก็กลับมาแม่ครู มาค้างที่นี้บ้างก็ได้นะ น้องๆไม่มีคนส่งเข้านอน บ่นกันใหญ่เลย” แม่ครูพยายามหาเรื่องที่จะทำให้ร่างบางตรงหน้ายิ้มออกมาได้ อย่างน้อยๆก็ให้ลืมความเศร้าไปบ้างก็ยังดี
“ไม่มีคนเล่านิทานให้ฟังนะหรือครับ นึกว่าจะดีใจที่ไม่มีผมคอยไล่ให้เข้านอนสะอีก” รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว โลกของเด็กแสนบริสุทธ์ไม่มีแต่งเติม มีแต่ความจริงใจไม่มีการหลอกหลวงปั้นหน้า
“โธ่! น้องรักพี่ฮีชอลกันจะตาย” แม่ครูคนสวยมองชายหนุ่มที่เอ่ยคำตัดพ้ออย่างสงสาร เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ แค่เพียงเดือนเดียวทำให้คนเปลี่ยนไปมาก
“น้องๆรักพี่ แล้วแม่ครูรักผมหรือเปล่าครับ” ร่างโปร่งโถมตัวกอดแม่ครูที่เต็มแรง
“รักสิจ๊ะ รักมากที่สุดเลยเด็กคนนี้” ริมฝีปากสีสวยกดลงบนแก้มนุ่มใสเหมือนเด็ก ไม่มีวันไหนเลยที่จะรักเด็กคนนี้น้อยลงไป ยิ่งมองเห็นความเศร้า ก็ยิ่งรัก และเป็นห่วง
“แล้วถ้าผมทำผิดหล่ะครับ แม่ครูยังจะรักผมอยู่หรือเปล่า” เสียงหวานเศร้า นึกถึงสิ่งที่ตนทำอยู่ทุกค่ำคืน สิ่งที่หลายคนคงรับไม่ได้ สิ่งที่เขาเองก็ไม่เชื่อว่าจะทำลงไป
“ไม่ว่าฮีชอลจะทำอะไร แม่ครูก็จะรักฮีชอลเสมอ”
“แม้ว่าผมจะฉวยโอกาสคนที่มีเจ้าของแล้วหรอครับ แม้ว่าผมอยากจะแย่งแฟนของน้องหรอครับแม่ครู” น้ำตาที่พึ่งหยุดไหล กลับไหลออกมาอีกครั้ง เพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดเกิดกว่าที่คนดีๆเขาจะทำ
“ฮีชอล ไม่ว่าลูกจะทำอะไร จะโดนใครต่อใครว่าอะไร แต่แม่ครูจักหนูเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง ความรักที่แม่ครูให้ มันอยู่นอกเหนือคำว่า เหตุผล หรือดีชั่วนะลูก” ไหล่บางของแม่ครูกลายเป็นที่ซับน้ำตาของคนตัวบาง
“ขอบคุณครับแม่ครู ขอบคุณที่ยังรักผม”
“อย่าร้องไห้สิจ๊ะ ไม่เอานะ ออกไปเล่นกับน้องๆข้างนอกนะ ไม่ต้องไปคิดมาก” มือเล็กๆเช็ดน้ำตาบนใบหน้าหวาน ก่อนจะส่งยิ้มที่ทำให้ต้องยิ้มตาม
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
ยามกลางวันที่แดดมันแผดเผาคนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะมาเดินห้างให้ความเย็นมันเป่าตัว คนในห้างถึงได้ดูคึกคักเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนก็มีคน ในร้านอาหารก็แทบไม่มีที่นั่ง
“อุ้ย” ร่างเพรียวได้รูปของยุนอาถูกชนอย่างไม่ตั้งใจ แต่ก็แรงพอจะทำให้ล้มหงายหลัง โชคดีที่ได้เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาช่วยพยุงตัวขึ้นจากพื้น ลำพังเธอคนเดียวคงลำบาก
“พี่ยุนอาเป็นอะไรหรือเปล่าครับ เจ็บตรงไหนไหม แย่จังชนแล้วไม่ขอโทษสักคำ” คยูฮยอนมองสำรวจพี่สาวคนใหม่ด้วยความเป็นห่วงหันกลับไปมองหลังของคนชนแล้วหนีด้วยความไม่พอใจ
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ พี่เองก็เดินไม่ดู มัวแต่คุยเพลินนั่นแหล่ะ แล้วนี้เราจะทานอะไรดี ไม่มีโต๊ะว่างสักร้าน แย่จังหิวหรือยัง” เสียงหวานหันมาถามเด็กหนุ่มที่ยังยืนหน้าบึ้ง จนเธอต้องยิ้มปลอบใจ
“ยังไม่หิวหรอกครับ เดินไปเรื่อยๆก็ได้” มือหนาดึงมือเล็กๆเข้ามาจับไว้ก่อนพาเดินไปหาอะไรทาน “ผมขอจับมือพี่ยุนอานะครับ จะได้ไม่ล้มอีก” รอยยิ้มจริงใจ บนใบหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์ทำให้หญิงสาวได้แต่พยักหน้า
“อืม คยูเป็นคนที่สองนะเนี่ยที่ยอมจับมือพี่เดินห้าง ขนาดพี่ฮีชอลยังไม่ยอมจับมือพี่เลย บอกว่ารำคาญเดี๋ยวโดนลากเข้าร้านนู้นร้านนี้” ยุนอานึกไปถึงพี่รหัสที่เคยมาเดินห้างด้วยกันสองสามครั้งอย่างนึกขำ คนอะไร บ่นได้ไม่เหนื่อย
“พี่ฮีชอลก็แบบนี้แหล่ะครับ คนที่จับมือพี่คนแรกคงเป็นพี่ซีวอนนะสิครับ ใช่ไหม” เด็กหนุ่มเดไม่ยากเลยว่านอกจากเขาแล้ว อีกหนึ่งคนจะเป็นใคร ก็ในเมื่อคนที่เขาตั้งให้เป็นคู่แข่งมีเพียงแค่คนเดียว
“คนนั้นแหล่ะจ๊ะ ขานั้นหน่ะ ไม่ยอมปล่อยให้พี่เดินคนเดียวเลย ห่วงอะไรนักก็ไม่รู้ บางทีพี่ยังต้องแอบมาเดินคนเดียวบ่อยๆ” รอยยิ้มเปิดกว้างเมื่อนึกถึงชายหนุ่มอีกหนึ่งคนที่ป่านนี้คงกำลังนั่งทำงานเคร่งเครียด
“ดูพี่มีความสุขกับความรักดีจังเลยนะครับ ยิ้มกว้างแบบนี้” คยูฮยอนมองแล้วก็อดนึกไปถึงพี่ชายผู้อ่อนแอที่เขารักไม่ได้
คนหนึ่งได้รับความรัก จนบางทีก็อยากหลีกหนีบ้าง แต่..... อีกคนกลับไม่เคยได้สัมผัสมันเลย
“จ๊ะ พี่ซีวอนของคยูอ่านะ ทำให้พี่มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับเขา”
“งั้นก็เก็บเกี่ยวให้พอนะครับ ก่อนที่จะไม่ได้ความสุขแบบนั้นอีก” เสียงเบาในลำคอไม่อยากให้หญิงสาวได้ยิน และดูเหมือนเธอก็จะไม่ได้ยินจริงๆ เมื่อรอยยิ้มเหล่านั้นยังคงอยู่
“เอ๊ะ วันสุดท้ายหรือเปล่าเนี่ย” ยุนอาหยุดชะงักหน้าโฆษณาภาพยนตร์รักโรแมนติคที่เข้าโรงภาพยนตร์มาได้สักพักหนึ่งแล้ว และก็ดูเหมือนว่ากำลังจะออกจากโรง
“อะไรครับ อยากดูเรื่องนี้หรือครับ เห็นเพื่อนผมว่าสนุกอยู่เหมือนกันนะครับ น่าจะใกล้ออกจากโรงแล้ว” ชายหนุ่มหันไปมองภาพยนตร์หวานแหววที่ปรกติเขาจะมองเลยผ่านไปอย่างไม่สนใจ
“หรอ ไม่รู้จะได้ดูหรือเปล่า ช่วงนี้ซีวอนก็ไม่ค่อยว่างด้วย สงสัยต้องรอให้ออกแผ่นก่อนหล่ะมั้งเนี่ย แย่จัง” ใบหน้าสวยยู่ลงนิดหน่อยอย่างขัดใจที่คงอดดูเรื่องนี้
“ถ้าพี่ยุนอาไม่รังเกียจ ให้ผมดูเป็นเพื่อนแทนพี่ซีวอนก่อนก็ได้นะครับ” เสียงเศร้าเหมือนคนเจียมตัว แต่ในใจกลับลิงโลด ที่เห็นช่องโหว่ที่มีคนเปิดไว้
“จริงๆนะ งั้นเราไปซื้อตั๋วกัน เดี๋ยวพี่เลี้ยงคยูเอง อีกห้านาทีหนังจะฉายแล้ว เร็ว” ยุนอาลากมือชายหนุ่มวิ่งไปซื้อตั๋วก่อนจะวิ่ง เข้าโรงหนัง อย่างรวดเร็ว
ภายในโรงหนังกว้าง ที่นั่งว่างโล่งเพราะเป็นเรื่องที่เข้าฉายมานานแล้ว มือถือในกระเป๋าใบสวยของยุนอาสั่นอย่างรุนแรงจนต้องหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะกดตัดสายตามด้วยการปิดเครื่อง
คยูฮยอนมองสิ่งที่หญิงสาวทำด้วยรอยยิ้มพอใจ เดาได้ว่าสายเรียกเข้านั้นเป็นของใคร “ใครโทรมาหรอครับ ทำไมไม่รับสาย เกิดเป็นธุระสำคัญ”
“ไม่สำคัญหรอกจ๊ะ ซีวอนโทรมาหน่ะ เดี๋ยวหนังจบแล้วค่อยโทรกลับก็ได้”
ในเมื่อหญิงสาวให้คำตอบที่เขาพอใจ นับจากวันนี้เขาจะค่อยๆกลืนกินพื้นที่หัวใจของหญิงสาวคนนี้ และขับไล่พี่ชายออกไปให้ได้ เด็กหนุ่มหันกลับไปให้ความสนใจภาพยนตร์รักโรแมนติคสำหรับใครๆ แต่น้ำเน่าและน่าเบื่อสำหรับเขาอีกครั้ง
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
ชายหนุ่มในชุดสูทดำนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ใบหน้าคมขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ไม่พอใจที่ถูกตัดสายทิ้ง ทั้งๆที่ก็ไม่เคยเป็นมาก่อน “ทำอะไรของเขาไม่ยอมรับโทรศัพท์”
ซีวอนยังคงกดเบอร์โทรศัพท์ที่จำได้ขึ้นใจต่อไป พร้อมคิ้วหนาที่ขมวดเข้าหากันมากขึ้น เมื่อเสียงบอกว่าหมายเลขปลายทางที่เรียกนั้นปิดเครื่องไปแล้ว “โธ่เว้ย ปิดเครื่องทำไมเนี่ย” ตอนนี้อารมณ์ของชายหนุ่มเสียจนต้องหาที่ระบายอารมณ์โมโหร้ายแบบนี้ ดีกว่าที่จะเก็บแล้วเอาไปลงกับหญิงสาวที่รัก
ซีวอนเดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว หวังจะหาที่ระบายอารมณ์ที่เขาไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดหรือเสียใจ แต่มองไปที่โต๊ะหน้าห้องกลับเจอหญิงสาวเพียงคนเดียว “ซันนี่ ฮีชอลอยู่ไหน ถ้าเขามาแล้วให้เข้าไปหาผมในห้องด้วย”
“เอ่อ..” หญิงสาวมองหน้าคมเข้มที่เรียบเฉย หากดวงตากลับวาวโรจน์จนน่ากลัว ร่างสูงที่ปรกติก็ก็ดูสูงสง่าแต่ตอนนี้กลับดูสูงจนน่ากลัว
“เอ่ออะไรของคุณ ฮีชอลอยู่ไหน ไปตามเขามาพบผมเดี๋ยวนี้” เสียงทุ้มต่ำจนแผ่วเบาดูเย็นเยียบ คำพูดที่ไม่ได้ตะคอกด้วยเสียงดังลั่น แต่กลับทำให้คนฟังลนลาน
“พี่ฮีชอลบอกว่าไปหาแม่ครูคะ” หญิงสาวผู้ไม่เคยเจอเจ้านายหนุ่มอารมณ์แบบนี้ นึกอยากให้รุ่นพี่หน้าหวานกลับมาตอนนี้ เธอจะได้ไม่ต้องเจออะไรที่น่ากลัว
“ดีนี้ เวลาทำงานกลับไปหาแม่ครู คิดว่าเป็นพี่ยุนอาแล้วฉันจะไม่กล้าหรือไง เธอก็ทำงานไปแล้วกัน ถ้าไม่สำคัญไม่ต้องเข้าไปกวนฉัน” ประโยคหลังท่านประธานหนุ่มบอกกับผู้ช่วยเลขาผู้โชคร้าย
“คะ” แล้วตลอดทั้งวันหญิงสาวผู้โชคร้ายก็ทำงานท่ามกลางความหวาดระแวง แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่เจ้านายหนุ่มไม่เรียกเธอเข้าไปใช้งานอะไรให้ขวัญผวา ตราบจนกระทั่งเกือบสี่โมงครึ่งที่ชายหนุ่มหน้านิ่งเดินออกมาจากห้องแล้วจากไปแบบไม่หันมาสนใจกันสักนิด
“เฮ้อ เป็นอะไรของเขา บทจะเย็นก็เย็น พอจะร้อนก็ร้อน” หญิงสาวได้แต่บ่นอยู่ในใจ ไม่กล้าเสียงดัง กลัวว่าหน้าต่างจะมีหู ประตูจะมีช่อง
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
ชเว ซีวอนขับรถเข้ามาในบ้านด้วยความเร็วไม่กลัวว่าเหล่าต้นไม้ที่ปลูกสองข้างทางจะเสียหาย เพราะอารมณ์โมโหที่ไม่สามารถติดต่อคนรักได้ แล้วไหนยังจะมีเลขาหน้าห้องมาหนีงานกลับไปอีก
“ป้าฮวางโบ ฮีชอลกลับมาหรือยัง” ใบหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงราบเรียบ แต่ดวงตาจ้อเขม็ง บอกได้เป็นอย่างดีว่าคุณชายใหญ่ของบ้านกำลังไม่พอใจ......อย่างมาก
“คุณฮีชอลยังไม่กลับคะ” หัวหน้าแม่บ้านตอบแค่นั้นทั้งที่อยากจะย้อนถามกลับไปว่า ทำงานที่เดียวกันทำไมต้องกลับมาถามคนที่บ้านด้วย แต่เธอก็ไม่กล้าถาม
“ถ้าเขากลับมาแล้วให้ไปพบผมที่ห้องด้วย” ความนิ่งเงียบผิดไปจากที่คาดคิด ท่าทางของคุณชายที่ดูเหมือนพร้อมจะระเบิดลง กลายเป็นความเย็นเฉียบจนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะท้านกายแทนเจ้าของชื่อที่คุณชายต้องการพบ
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
“หนังสนุกดีเนอะ พี่ชอบตอนที่นางเอกบอกรักพระเอกจังเลย” หญิงสาวแสนสวยกับท่าทางเคลิ้มฝันเมื่อออกจากโรงภาพยนตร์ทำให้เด็กหนุ่มมองอย่างเบื่อหน่าย
“แต่ชีวิตจริงบางคนมันไม่ได้สวยงามแบบนั้นนี้ครับ คนที่ต้องรวบรวมกำลังใจตั้งเยอะเมื่อถูกปฏิเสธมันเจ็บมากนะครับ เจ็บจนต้องร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นสายฝน” ภาพที่สวยงามแต่มันไม่ใช่ในชีวิตจริงของบางคนที่เขารู้จักและเติบโตมาด้วยกัน เขาถึงได้เบื่อหน่ายหนังเรื่องที่พึ่งดูมา
“แหม ทำไหมพูดซะเศร้าเชียว อย่าบอกนะว่าคยูเคยอกหักมาก่อน พี่ว่าไม่หรอกมั้ง หล่อขนาดนี้ไปหักอกสาวหล่ะมากกว่า” ใบหน้าสวยใส หัวเราะยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ
“ผมไม่เคยหักอกใคร และไม่เคยถูกใครหักอกหรอกครับ เป็นความต้องการของคนสองคนเมื่อรักมาถึงจุดสิ้นสุดมากกว่า ถ้าขืนดันทุรังต่อไป มันก็จะยิ่งแย่” เด็กหนุ่มพูดถึงประสบการณ์รักที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ คนเหล่านั้นก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของเขาอยู่ แต่คยูฮยอนไม่หวังให้คนข้างๆจะได้เป็นที่ดีกับว่าที่อดีตคนรัก
“แหม คยูนี้พูดถึงความรักซะพี่กลัวเลย บางทีพี่ก็แอบคิดนะว่าถ้าวันหนึ่งพี่ไม่มีความรักของซีวอนจะเป็นยังไง พี่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันจะเป็นยังไง” หญิงสาวไม่สามารถนึกกลับไปถึงวันที่เธอยังไม่ได้รับความรักจากผู้ชายที่แสนดีได้เลย
“เดี๋ยวก็ได้รู้”
“เอ๋?...เมื่อกี้คยูว่าอะไรนะจ๊ะ” สิ่งที่ได้ยินทำให้ยุนอาไม่แน่ใจว่าเธอได้ยินผิดไปหรือเปล่าจนต้องถามย้ำอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ
“ผมบอกว่าผมหิวแล้วครับ” หน้าตาหล่อ สะอาดของเด็กหนุ่มทำให้เธอหลงเชื่อได้อย่างง่ายก่อนจะนึกได้ว่า ยังไม่ได้ทานอะไรกันเลย คงต้องหาอะไรลงท้องก่อนจะพาเด็กหนุ่มกลับบ้าน
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
เย็นมากแล้วแล้วกว่าร่างบางกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่ของตระกูลชเว ใบหน้าหวานดวงตาแดงช้ำ แต่ก็ดูมีความสุขมากกว่าทุกวัน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ได้เหมือนคนอมทุกข์เอาไว้
“คุณฮีชอลคะ คุณชายให้มาเชิญคุณขึ้นไปหาที่ห้องทำงานคะ”
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มที่พึ่งปลดเรื่องเศร้าออกไปจากใจ ได้แต่รับคำป้าหัวหน้าแม่บ้านที่อุตส่าห์บอกเขา ก่อนจะทำใจเพื่อรับเรื่องร้ายๆเข้ามาในหัวใจ ทำให้ใจมันเจ็บเล่นๆ
ร่างบางเคาะประตูห้องทำงานบานใหญ่สองสามครั้งก่อนจะเปิดเข้าไปเมื่อคนข้างในขานรับ ฮีชอลสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะต้องเผชิญหน้ากับคนที่อยากเจอ แต่ก็ไม่อยากพบ
“ป้าฮวางโบบอกว่าคุณอยากพบผม ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรือครับ” ฮีชอลถามคนที่นั่งนิ่งอย่หลังโต๊ะทำงานทั้งๆที่ก็จะเดาได้ว่าเรื่องอะไร
“คุณยังไม่รู้ตัวอีกหรือไงว่าทำอะไรที่สมควรจะเรียกเข้ามาตักเตือนอย่าคิดว่าคุณสนิทกับคนที่ผมรักมาก แล้วผมจะไม่กล้าทำอะไรคุณ” น้ำเสียงเรียบๆ คำเรื่อยๆ แต่ก็ตอกย้ำความรู้สึกที่ร่างบางไม่อยากฟัง
“ผมไม่ได้คิดว่าการที่ผมสนิทกับยุนอาแล้วคุณจะไม่กล้าทำอะไรผม เพียงแต่ผมไม่เห็นว่ามีอะไรที่ผมทำแล้วคุณจะไม่พอใจจนต้องเรียกเข้าพบเป็นการส่วนตัว” แม้จะเจ็บกับคำพูดธรรมาดา แต่ฮีชอลก็ไม่ใช่คนอ่อนแอถึงขนาดที่จะให้คนแบบชเว ซีวอนมาเห็นน้ำตาในยามนี้
“อ้อ ผมก็ลืมไปว่าคนแบบคุณ ต่อมแยกแยะผิดชอบชั่วดีมันอยู่ลึกกว่ามนุษย์ทั่วๆไป” รอยยิ้มเยาะใบหน้าคมไม่ทำให้ฮีชอลเจ็บไปมากกว่าคำพูดที่คำพูดที่แสนเจ็บแสบ “แต่คุณก็ควรรู้บ้างว่าเวลาทำงาน ผมไม่อนุญาตให้พนักงานออกไปหาญาติผู้ใหญ่ที่ไหน ต่อให้ญาติผู้ใหญ่คนนั้นจะเป็นคนที่เลี้ยงลูกอีกคนของพ่อผมก็ตาม” ชายหนุ่มเจ้าของห้องหลีกเลี่ยงคำว่าน้องชายที่ตนเองไม่อยากรับ
“ผมนึกว่าคุณจะพอใจเสียอีกนะครับ ที่ไม่ได้เห็นหน้าผมให้คุณรู้สึกขยะแขยงตา” ตอนนี้ฮีชอลกำลังกรีดหัวใจตัวเองเด้วยคำพูดของตนเอง
“มันก็ใช่คุณฮีชอล” รอยยิ้มบนใบหน้าชายหนุ่มที่ฮีชอลเคยอยากเป็นเจ้าของแต่ตอนนี้ รอยยิ้มร้ายๆแบบนี้ ใครกันที่อยากได้ “แต่ผมไม่ต้องการให้โรงแรมต้องเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์เพื่อจ้างพนักงานที่ไร้ค่าหรอกนะ แม้ว่าผมจะไม่อยากเห็นหน้าเขาตาม”
“งั้นคุณก็ไล่ผมออก หรือไม่ก็ย้ายผมไปแผนกอื่นสิครับ” ร่างบางที่ต้องทนมาจนถึงวันนี้ บอกกับตัวเองไว้แล้วว่า จะไม่พาหัวใจที่บอบช้ำไปอยู่ภายใต้คมมีดอีกแล้ว เหนื่อยพอแล้ว
“ผมก็อยากไล่คุณออกนะ แต่รู้ไหมว่าผมติดอะไร” ดวงตาคมดุ แต่กลับแฝงความพอใจบางอย่าง จ้องมองยังร่างบาง ก่อนที่รอยยิ้มแสนร้ายกาจจะปรากฏขึ้น “ผมติดว่าคนที่ผมรักที่สุดเป็นน้องรหัสคุณ แล้วเขาก็รักและหวังดีกับคุณมาก เกินกว่าที่ผมจะยอมให้เขารู้เรื่องเลวๆของคนที่เขารัก”
“คุณซีวอน” ทั้งๆที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เก็บคำพูดของชายหนุ่มมาคิด แต่ตอนนี้ฮีชอลเองก็ไม่แน่ใจว่าความหมายของประโยคใดกันแน่ที่ทำร้ายเขาได้มากกว่ากัน ระหว่าง.....
.....คนที่ชายหนุ่มรัก ไม่ใช่เขา
....เขาเป็นคนเลวเกินกว่าที่ชายหนุ่มจะรับได้
“ทำไมครับ เอาหล่ะ ผมว่าคุณออกไปได้แล้ว และผมก็หวังว่าการคุยกันวันนี้จะทำให้คุณพิจารณาได้บ้างว่าอะไรควรทำ และไม่ควรทำ”
ฮีชอลเดินจากมาด้วยความรู้สึกที่อยากจะอธิบายให้ใครได้รับรู้ มันเหมือนว่ายิ่งเดินก็หลงอยู่ในที่มืด แต่จะอยู่เฉยก็ไม่สามารถทำได้ จะย้อนกลับไป หนทางก็ปิดตาย แล้วจะมีทางไหนให้เขาทำได้ นอกจากทนต่อไป
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
ในห้องมืดสนิทไร้แสงจันทร์ส่อง ร่างสูงบนเตียงกว้างไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้แขกประจำยามวิกาล กำลังนั่งจ้องมองใบหน้าคมคายยามหลับใหล ทั้งน้ำตา
ทั้งๆที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้ แต่ฮีชอลก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไปได้นานมากกว่านี้ อยากเหลือเกินให้มือที่ดูแสนอบอุ่น ซับน้ำตาให้ คอยปลอบประโลมเมื่อยามเศร้า แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อก็คนคนนี้ไม่ใช่หรือไง ที่ทำร้ายเขามา....นานมากแล้ว
นานจนอยากจะถามตัวเองเหลือเกินว่าเมื่อไหร่จะพอ.....
แต่มันก็เป็นเพียงแค่คำถามที่ไม่เคยคิดหาคำตอบ ก็เหมือนที่เขามานั่งอยู่ตรงนี้ แค่มานั่งมอง และไม่อยากให้ใครรับรู้ แค่ขอฝากจุมพิตที่หน้าผากก่อนจะจากไปอย่างเงียบๆ เท่านั้นเอง.....
* ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
Talk
ครบร้อยแล้วคะ อาณาจักรน้ำแข็งของไอซ์ มันดูไม่น้ำแข็งเท่าไหร่เลยอ่า นอกจากวอนจะดูร้อนขึ้น มันยังไม่หนาวจนจับใจด้วย ง่ะ ไอซ์เศร้าแทนคนอ่านแล้วคะ
ยุนอาเองก็น่าสงสารคะ เธอเป็นคนดีที่ไม่น่ามาเจอคนร้ายเลยจริงๆ ทำไมกี้จะให้เธอครองรักกับซีวอนแบบผาสุขไม่ได้ คำตอบคือ เพราะวอนซินไงคะ (อ๊ากกก ไอซ์บ้าไปแล้ว)
มาดูว่าแผนขอคืนพื้นที่(หัวใจ) (ขอยืมดร.ปณิธานมาใช้เล่นๆ คะ) จะทำให้กี้ได้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหญิงแค่ไหนกัน แล้วรักครั้งนี้มันจะนานแค่ไหน กัน
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์นะคะ
ความคิดเห็น