คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Stand by You .1 100%
Stand by You
.
สองคนในบนที่นอนนุ่ม ร่างบางในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ดวงตากลมโต ปรือเพราะความง่วงงุ่น และเหนื่อยล้า แต่บางอย่างที่อยู่ในใจทำให้ไม่สามารถข่มตาหลับได้ กัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิด แล้วสะกิดชายหนุ่ม ที่นอนแนบชิด เสียสละแขนให้นอนหนุน “ซีวอน ถ้าเราทำแบบเมื่อกี้ ทุกวันๆ อีชอลจะท้องไหม”
น้ำเสียงหวานๆ ตาปรือๆ ท่าทีใกล้หมดแรง กับคำถามซื่อๆของคนรักทำให้ซีวอนยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู “ทำไมหล่ะครับ ฮีชอลกลัวหรือครับ ไม่หรอกนะครับ” ซีวอนกระชับอ้อมกอดคนรักเข้ามาแนบแน่น ลูบหลังบางอันเปลือยเปล่า อย่างปลอบโยน
“แล้วถ้าอยู่ๆฮีชอลท้อง จะแปลกประหลาดไหม แล้วซีวอนจะรังเกียจไหม” จากเสียงหวาน กลายเป็นเสียงอ่อยๆ ปนความไม่แน่ใจ และเริ่มกังวล กลัวว่าสักวันหาก ต้องเจอสายตารังเกียจจากคนรัก จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร
“ฮีชอลคิดอะไอยู่หน่ะ ซีวอนไม่มีทางทิ้งให้ฮีชอลต้องอยู่คนเดียวหรอกนะครับ ต่อให้เกิดอะไรขึ้นก็ตาม ซีวอนก็จะอยู่กับฮีชอลนะครับ อย่ากังวลอะไรเลยนะ หลับซะนะครับ” ชายหนุ่มยิ้มให้กับ คนน่ารักที่ยังพยายามเปิดตาตัวเอง ทั้งๆที่ ใกล้จะหลับแล้ว “ไม่หลับ ซีวอนต่อนะ”
“อ่า ไม่เอาแล้ว นอนนะ นะ” รอยยิ้มออดอ้อน แล้วแขนเรียวเอื้อมโอบกอดเอวหนา ก่อนจะหลับตาลง ทำให้ชายหนุ่มได้แต่หัวเราะในลำคอ จ้องมองคนรักหลับตา จนกระทั่งลมหายในขึ้นลงสม่ำเสมอเป็นสัญญาณว่าคนรัก หลับสนิท ไปแล้วจริงๆ
“ฝันดีนะครับ” ซีวอนก้มลงจุมพิตหน้าผากเนียน และเปลือกตาบาง ก่อนจะปิดตาลง ตามคนรักเข้าไปในความฝันด้วยกัน
“ซีวอน เมื่อคืนฮีชอลฝันดีหล่ะ” เสียงสดใสของร่างบางในชุดกันเปื้อน ทำอาหารเช้าให้คนรักตามหน้าที่ภรรยาที่ดี บอกกับสามีที่กำลังเตรียมนมอุ่นให้กับภรรยาผู้น่ารัก
“ฝันว่าอะไรหล่ะครับ ฮีชอลถึงได้ยิ้มไม่หุบแบบนี้” ชายหนุ่มเดินมาโอบกอดคนรักหน้าเตา ใบหน้าคมซุกอยู่ที่ซอกคอคนรัก บรรจงจูบที่คอขาว ย้ำรอยสีกุหลาบที่มีอยู่ประปราย
“อื้อ อย่าพึ่งแกล้งกันสิ” จากรอยยิ้มหวานกลายเป็นหน้ามู่ เพราะขัดใจที่คนรักมานัวเนียตอนกำลังทำอาหารเช้าแบบนี้ “ เมื่อคืน ฮีชอลฝันว่าเรามีลูกชายแหล่ะหน้าตาน่ารัก เหมือนซีวอนตอนเด็กๆเลย” ร่างบางเล่าความฝันแสนหวาน ให้คนรักที่กำลังโอบกอดจากดานหลัง “สามคน เล่นกันมีความสุขที่สุดเลย”
“ฮ่าๆๆๆ ฮีชอล ท่าจะคิดมากแล้วหล่ะครับ อีกอย่างซีวอนตอนเด็กก็ไม่น่ารักเท่าฮีชอลตอนเด็กหรอก ซีวอนยังจำได้อยู่เลย เจอหน้าฮีชอลครั้งแรก เด็กอะไรก็ไม่รู้ หน้าหวานๆ ผมสั้น น่ารักเชียว แถมเตี้ยอีกต่างหาก” ชายหนุ่มนึกย้อนไปถึงวันแรกที่เด็กน้อยสองคนเจอกัน เป็นความทรงจำที่ไม่เคยลืม
และเด็กน้อยหน้าหวาน ตัวเตี้ย วันนั้นก็กลายเป็นคนหน้าหวาน ร่างบางที่อยู่อ้อมกอดของเขาในวันนี้
“ใช่สิ” ร่างบางในอ้อมกอดอบอุ่น สองมือกำลังทำอาหารเช้าพูดด้วยเสียงสูง อดหมั่นไส้ครัก และแอบงอนไม่ได้ที่เอาเรื่องความสูงมาล้ออีกแล้ว “ ใครจะไปสูงเหมือนซีวอนเล่า”
“โอ๋ๆๆ ไม่งอนสิครับ ไปนั่งรอที่โต๊ะนะครับ เดี๋ยวซีวอนจัดใส่จานเองหน่ะ” พูดจบก็หอมแก้มคนรักไปหนึ่งที ก่อนจูงมือพาไปยังโต๊ะ ทานข้าว ที่ตั้งอยู่ริมระเบียง ก่อนจะเดินกลับมาตักอาหารใส่จานสองใบ สำหรับตนเองและคนรัก
ชายหนุ่มถือจานสองใบวางลงบนโต๊ะจัด ช้อนส้อมให้คนรัก แต่แล้วไม่ทันไรฮีชอลก็ต้องรีบว่งไปที่ห้องน้ำ สร้างความมึนงงให้กับชายหนุ่ม จนต้องวิ่งตามไป เห็นคนรักกำลังโก่งคอท่าทางแสนทรมาน
“ฮีชอลเป็นอะไรครับ” ซีวอนเดินเข้าไปใกล้ ลูบหลังร่างบางขึ้น ช่วยให้คนรักอาเจียนได้ง่ายขึ้น ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้มากก็ตาม
“ไม่รู้ อยู่ดีๆก็อยากอาเจียนอ่ะ” ใบหน้าหวานซีดจนแทบไม่มีสีเลือด สิ่งที่พุ่งออกมามีแต่น้ำย่อยสีเหลืองใส ทำให้ทั้งปวดท้อง และแสบคอ
ซีวอนจัดการ วักน้ำ ล้างหน้าให้คนรัก ตามด้วยผ้าเนื้อนุ่ม บรรจงเช็ดหน้าหวานอย่างเบามือ ก่อนจะพยุงคนรักกลับไปที่โต๊ะ “ทานอาหารไหวไหม หรือให้ซีวอนทำอะไรนิ่มๆให้ทานเอาไหม” ชายหนุ่มมองใบหวานแล้ว อยากจะเป็นแทน ทั้งซีด ดูอ่อนล้า มือเล็กในอุ้มมือก็สั่น ดูเหมือนไม่มีแรง
“ซีวอน ฮีชอลอยากมีลูกอ่ะ” อยู่ๆฮีชอลก็พูดขึ้นถึงสิ่งที่อยู่ในความคิดมาตลอดเกือบสองอาทิตย์ หลังจากที่อาการเริ่มเข้าที่ ไม่เหนื่อยล้า หรือปวดท้องจากการอาเจียนแล้ว จนทำให้ชายหนุ่มที่ฟังอยู่แทบสำลัก สิ่งที่กินเข้าไป
“ฮีชอลว่าไงนะครับ” ซีวอนรีบหาน้ำดื่มตามกลัวติดคออีกรอบ ตั้งใจฟังคำพูด ของคนรัก แบบ เปิดประสาทการรับฟังทุกทิศทาง หวังให้ได้ยินชัดเจน
“ฮีชอลบอกว่า ฮีชอล อยาก มี- ลูก” ร่างบางเน้นย้ำทีละคำ กะให้ชายหนุ่มได้ยินชัดเจน ใบหน้าหวาน เริ่มมีความหวัง มากขึ้น
“เออ แล้วจะมียังไงอ่ะครับ หรือว่าฮีชอลจะให้ซีวอนทำทุกวันเลยหรอ” ชายหนุ่มเบิกตากว้าง ก็รู้ๆอยู่ว่า ฮีชอลบางครั้งก็ซื่อจนไม่น่าเชื่อ แต่ก็น่ารักจนอดใจไม่ไหว ใครต่อใคร ถึงได้ดูแล ฮีชอลเสียยิ่งกว่าไข่ในหิน แต่คนเริ่มต้นทั้งหมดมันก็ คือ ตัวซีวอนเองนี้แหล่ะ ที่ทำให้ฮีชอล เป็นฮีชอลแบบทุกวันนี้
“ไม่ใช่สักหน่อย ซีวอนลามก ก็ซีวอนบอกฮีชอลเองว่า ทำทุกวันฮีชอลก็ไม่ท้องอ่า เรื่องอะไรฮีชอลจะยอมให้ซีวอนทำหล่ะ แค่นี้ฮีชอลก็ เหนื่อยแล้ว”ประโยคสุดท้ายฮีชอล อุบอิบอยู่ในลำคอ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงกับคำพูดของตนเอง
ชายหนุ่ม เอ็นดูกับท่าทางของคนรัก จนแทบอยากอุ้มพากลับเข้าไปในห้อง พูดได้ไงว่า แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว คนฟัง คิดไปไหนแล้วรู้ไหมคร้าบที่รัก.... อีกอย่างที่น่าสงสัยคือ ฮีชอลหลับตลอดในคาบสุขศึกษาใช่ไหม??? ถึงได้ไม่รู้ เรื่องนี้ รู้งี้ เมื่อคืนไม่น่าบอก กำไรเห็นๆ
“แล้วฮีชอลจะให้ซีวอนทำยังไงหล่ะครับ ไม่ทำทุกวัน เผื่อฟลุคหรอ ลองดูก็ไม่แปลกนะครับ” ซีวอนลองเสนอ ทางเลือกให้คนรักแบบหวังกำไร
“ไม่ต้องเลย ซีวอน ฮีชอลอยากมีลูกจริงๆนะ ทำไงดี อ่ะ” พูดเพียงแค่นั้น ร่างบางก็ต้องรีบวิ่ง กลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง คราวนี้ อาหารที่พึ่งทานลงไป พุ่งลงไปในชักโครก จนแทบไม่เหลือ ติด ท้องร่างบางเลย
ซีวอน ลูบหลังให้คนรักอย่างเป็นกังวล แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ สุดท้ายเมื่อเห็นคนรัก หยุดอาเจียนแล้ว ซีวอนจึงอุ้ม ฮีชอลขึ้นนั่งที่เคาร์เตอร์ในห้องน้ำ ก่อนจะ หาน้ำให้บ้วนปาก คอยเช็คปากให้ แล้วอุ้มคนรัก กลับเข้าไปในห้องนอน เอาผ้ามาห่มให้เรียบร้อย
ฮีชอลได้แต่มองตนรักตาแป๋ว อยากจะพูด แต่ก็เหนื่อยและขมคอ เกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้ จึงต้องนอนนิ่งให้คนรัก ดูแล
“เดี๋ยวซีวอนไปทำอะไรนิ่มๆให้นะ นอนอยู่นี้ก่อน” ซีวอนก้มลงหอมหน้าผากคนรัก ก่อนจะเดินออกจากห้อง หายไปสักพัก จึงกลับมาพร้อมกับข้าวต้มนิ่มๆเละๆ สำหรับคนป่วย “ทานนะ เดี๋ยวซีวอนป้อน”
“แล้วซีวอนไม่ต้องไปทำงานหรอ เดี๋ยวก็สายหรอก” ฮีชอลดันตัวขึ้นนั่ง ถามคนรัก ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้คนรักต้องขาดงานบ่อยๆ
“ฮีชอลเป็นแบบนี้ แล้วจะให้ซีวอนไปได้ไง ถึงไปก็ไม่มีสมาธิทำงานหรอก เป็นห่วงรู้ไหม ยิ่งอยู่คนเดียวด้วย ไม่ไปหรอก นั่งเฝ้าแบบนี้แหล่ะ ทานข้าวต้มนะ” ชายหนุ่มจ่อ ช้อนที่มีข้ามต้มเข้ากับปากบาง หากแต่ฮีชอล ก็ยังไม่ยอมทาน
“ถ้าฮีชอลทานหมด ซีวอนต้องไปทำงานนะ” ร่างบางยื่นข้อเสนอให้คนรัก แถมออฟชั่นเสริมด้วยการส่งสายตาแป๋ว และศีรษะเล็กซบลงบนไหล่กว้างของชายหนุ่ม
“เดี๋ยวนี้ชอบต่อรองจัง ก็ได้ ถ้าฮีชอลทานหมด ซีวอนจะไปทำงาน ตกลงไหมครับ”
“ครับผม” ใบหน้าหวานยิ้มร่า ล้อเลียนคำพูดของคนรัก ยอมทานข้ามต้มที่ชายหนุ่มป้อนให้จนหมด ก่อนจะเอ่ยเตือนคนรักที่ทำท่าจะไม่ยอมทำตามสัญญา “ไปทำงานได้แล้ว ซีวอน”
“ครับผม ไปทำงานครับ แล้วถ้าอาเจียนอีกโทรหาซีวอนนะ หรือว่าเป็นอะไรก็เหอะ อย่าลืมนะ” ซีวอนย้ำกับคนรักก่อนจะหอมแก้มก่อนไปทำงาน
“คร้าบเจ้านาย”
ตั้งแต่ช่วงสายที่อยู่คนเดียว ฮีชอลต้องวิ่งเข้าออกห้องน้ำหลายครั้ง จนไม่เหลือเรี่ยวแรงจะทำอะไรนอกจากจะนอนนิ่ง บนที่นอน แต่ไม่นานก็ต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำอีกครั้ง เพื่อเอาน้ำย่อยสีเหลืองใสออกมา ร่างบางแทบอยากเอา หมอนและผ้าห่ม มาปักหลักอยู่ในห้องน้ำ ให้หมดเรื่อง
เกือบบ่ายสอง ใบหน้าหวานซีด เดินเข้าไปในห้องครัว มองหาอาหาร มาทดแทนที่เสียไปวันนี้ทั้งวัน ในตู้เย็นมีของมากมาย แต่ร่างกายกลับบอกว่าไม่อยากกิน ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะ วิ่งไปอาเจียนเอาข้างในออกมาให้หมด แต่ถ้าซีวอนรู้ว่าทั้งวันไม่ยอมกินอะไรเลย ก็คงไม่พ้นต้องเปิดเทศนาแน่ๆ .....เพราะงั้นคงต้องฝืนใจกินอะไรเข้าไปบ้าง
ร่างบางเปิดตู้เหนือศีรษะที่อยู่สูงขึ้นไป เงยหน้าขึ้นความหาซองข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป แต่กลับรู้สึกวูบแปลกๆ หน้ามืด จนเกือบมองไม่เห็นอะไร อยู่ๆร่างกายก็หมดแรงเอาดื้อ จนต้องลงนั่งกับพื้น พิงเคาร์เตอร์ เครื่องครัว
ชายหนุ่มร่างสูง ยืนเคาะประตูอยู่ด้านนอกนานจนรู้สึกผิดปรกติ จึงใช้กุญแจไขเข้าไปในห้อง สายตาเหลือบเข้าไปในห้องนอนที่เปิดประตูกว้างแต่กลับไม่พบใคร ก่อนที่สายตมจะตวัดมองไปทางห้องครัว ก่อนจะพบร่างเล็กนั่งหลับตา อยู่ที่พื้น
“ฮีชอล ฮีชอล” ชายหนุ่มเรียกชื่อคนรัก พลางสั่นแขนเบาๆให้รู้สึกตัว ก่อนที่จะอุ้มร่างบางไว้แนบอกเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ทั้งคนอุ้ม และคนถูกอุ้ม สีหน้าซีดไม่ต่างกันเลย
ฮีชอลซีด เพราะ...อ่อนล้า และไร้เรี่ยวแรง
ซีวอนซีด เพราะ... ความเป็นห่วง
“ฮีชอลไปหาหมอนะ ครับ” เสียงอ่อนใจของชายหนุ่ม เพราะรู้ดีว่ายังไงคนรักก็ต้องมีข้ออ้างไม่ยอมไปแน่ๆ แต่ให้เป็นแบบนี้ก็คงไม่ได้ เป็นห่วงแทบขาดใจ ทำงานก็ไม่มีสมาธิ ต้องรีบกลับมา แล้วยังมาเจอนั่ง หน้ามืดเป็นลมแบบนี้ด้วย ใครจะทำใจได้
“ไม่เอาให้นอนนิดหน่อยก็หายแล้ว วันพรุ่งนี้ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ไปหาหมอนะ นะ ซีวอนให้ฮีชอลนอนพัก เดี๋ยวก็หายแล้ว นะๆๆ” ลูกอ้อนที่เคยใช้ได้ผลทั้งหมด ถูกนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นดวงตาแป๋วๆ เสียงอ่อยๆศีรษะเล้ก แนบกับต้นแขนใหญ่ และสุดท้าย ดันตัวเองขึ้นไปนั่งบนตักชายหนุ่ม ซุกใบหน้าหวานกับแผงอก
“เฮ้อ” เสียงถอนหายใจหนักของซีวอน เรียกรอยยิ้มที่แอบซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าหวานใส “ฮีชอลทำแบบนี้ ซีวอนก็แย่สิครับ แต่สัญญากับซีวอนนะ ถ้าไม่หาย พรุ่งนี้ต้องยอมให้ซีวอนพาไปหาหมอนะครับ” ชายหนุ่มเงยคางคนรักให้มองสบตา ไม่ยอมให้หลบตาได้อีก
“คร้าบ ถ้าวันพรุ่งนี้ เด็กชายฮีชอลจะยอมให้เด็กชายซีวอนพาไปหาหมอ ดีไหมครับ”
“ดีมากครับ ถ้าวันพรุ่งนี้ไม่หายเด็กชายซีวอนจะอุ้มเด็กชายฮีชอลไปหาหมอเลย แต่ตอนนี้เด็กชายฮีชอลนอนพักก่อนนะครับ เด็กชายซีวอนจะไปทำอะไรอ่อนมาให้ทาน เสร็จแล้วจะมาเรียกนะครับ”
“ครับ”
ซีวอนก้มลงแนบริมฝีปากร้อนลงกับเปลือกตาบาง และยิ้มอ่อนโยนให้คนรักอย่างที่ไม่มีใครได้เห็น นอกจากคนที่กำลังปรือตาหลับบนที่นอนกว้าง ก่อนจะเดินออกไปทำข้าวต้ม แบบเดียวกับเมื่อเช้าให้คนรัก
ยังไม่ทันที่ร่างบางจะหลับสนิท ชายหนุ่มก็เดินเข้ามาพร้อมกับชามข้ามต้มเละๆ ส่งกลิ่นหอม เหมาะกับคนป่วยแบบร่างบาง “ฮีชอลครับ มาทานข้าวก่อนแล้วค่อยนอนนะครับ” มือหนา วางชามข้าวต้มไว้บนหัวเตียงก่อนจะ ช่วยพยุงคนรักขึ้นนั่ง ก่อนจะเป่าขาวต้มในช้อนแล้วจึงป้อนเข้าปากเล็ก
“ยิ้มอะไรครับ” ซีวอนมองหน้าคนรักที่ยิ้มอารมณ์ ทั้งที่หน้าตายังคงซีดเซียว
“ซีวอนดูเหมือนคุณพ่อเลย ดูแลยังกับ ฮีชอลเป็นเด็กแหน่ะ” ร่างบางบอกสาเหตุที่ทำให้อารมณ์ดี กับการนั่งมองคนรักดูแลตัวเอง แล้วนึกไปถึง ถ้า ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงคนนี้ ต้องเลี้ยงลูกคงน่ารัก
“ก็เฉพาะกัยเด็กหัดดื้อที่ฮีชอลเท่านั้นแหล่ะครับ เด็กคนอื่นไม่เอาด้วยหรอก” ซีวอนบอกด้วยรอยยิ้มกระจ่าง แต่มันกลับทำให้รอยยิ้มของร่างบางจางหายไป
“ทำไมหล่ะ แล้วถ้าเกิดเรามีลูกหล่ะ ซีวอนก็จะไม่รักลูกหรอ”
“เพราะซีวอนมัวแต่ เก็บชามข้าวจึงไม่ทันมองรอยยิ้มที่หายไปของคนรัก “ จะมีได้ยังไงหล่ะครับ เราอยู่กันสองคน แล้วก็ ฮีบอมก็ดีแล้วนะครับ”
“ก็ถ้าฮีชอลอยากไปขอเด็กมาเลี้ยงหล่ะ ซีวอนก็ไม่เอาหรอ” น้ำเสียงอ่อยเก็บความผิดหวังไว้ไม่อยู่
เพราะเสียงอ่อยๆของคนรักทำให้ชายหนุ่มต้องหันกลับมาโอบกอดคนรักเอาไว้ในอ้อมกอด อย่างปลอบใจ “อย่าทำแบบนั้นสิครับ ไม่มีใครให้เรารับเด็กมาเลี้ยงได้หรอกนะครับ ไม่มีสถานสงเคราะห์ที่ไหนให้ผู้ชายสองคนรับเด็กมาเลี้ยงในฐานะลูกบุญธรรมหรอกครับ อีกอย่าง ฮีชอลก็รู้นิหน่า ว่า ซีวอนไม่ชอบเด็ก ทั้งชีวิตเลี้ยงเด็กคนนี้คนเดียว ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วหล่ะครับ”
“แต่ฮีชอลอยากมีลูกนี้หน่า ฮีบอมก็โตแล้ว น่าจะเป็นพี่ได้แล้วนะ” เด็กคนเดียวในชีวิตของชายหนุ่ม ยกลูกชายคนโตขึ้นมาอ้างหวังให้คนไม่รักเด็กได้เข้าใจ
“ฮีบอมก็ไม่เห็นบอกซีวอนเลยว่าอยากมีน้อง ฮีชอลนอนเถอะนะครับ ถ้าพรุ่งนี้ไม่หายต้องไปหาหมอนะ” ชายหนุ่มยกเรื่องหมอขึ้นมาอ้าง แล้วมันก็ได้ผลเมื่อคนรักยอมทิ้งตัวลงนอนกับที่นอน
“นอนพักนะครับ เดี๋ยวซีวอนจะเอาจานไปเก็บ แล้วก็จะกลับมานั่งทำงานอยู่ข้างๆ ตอนเย็นซีวอนจะปลุกฮีชอลมาทานข้าวอีกรอบนะครับ”
ใบหน้าหวานพยักหน้าขึ้นลง ก่อนจะหันหลังให้กับชายหนุ่ม เปลือกตาบางค่อยๆปิดลงพร้อมกับความน้อยใจและความเสียใจที่ล้นขึ้นมา
ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับกระเป๋าเอกสารที่หอบหิ้วมาจากบริษัท เห็นลูกแมวนอนพิงหลังบางของแม่คน ซีวอนมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันมาสนในเอกสารที่อยู่ในมือ ที่ต้องเอางานกลับมาทำก็เพราะทำงานที่บริษัท ใจก็ ลอยมาที่ห้องเป็นห่วงคนที่คนเดียว แล้วก็เป็นอย่างที่กังวลเอาไว้ไม่ผิดเลย
“ว่าไง ฮีบอม” ชายหนุ่ม อุ้มเจ้าแมวที่มาคลอเคลียขาไปมาขึ้นมาไว้บนโต๊ะทำงาน “เป็นอะไรครับ คงไม่ได้มาบอกใช่ไหมว่าอยากได้น้องมาเลี้ยงอีกหน่ะ หือออ?” มือหนาเกาคางเล็กเล่นๆ
“แม่เราเป็นอะไรก็ไม่รู้ อยู่ดีๆก็อยากมีลูกขึ้นมา จะให้ทำยังไงดีนะ ให้เลี้ยงเด็กเนี่ย พ่อตายแน่ๆเลย รู้ไหม” ชายหนุ่มถือโอกาสระบายให้ลูกแมวได้ฟัง เพราะเห็นว่าคนรักกำลังหลับสนิท “เด็กน่าราญจะตาย ทั้งเสียงดัง ทั้งวุ่นวาย ไม่รู้ ทำไม ฮีชอลถึงอยากมีลูก เรารู้หรือเปล่า อยู่กับแม่เขาทั้งวันแบบนี้ แค่เลี้ยงฮีชอลก็เหนื่อยแล้ว”
ชายหนุ่มยังคงนั่งพูดกับแมวที่นอนให้เกาคางเล่นอย่างเพลิดเพลิน “แค่เลี้ยงฮีชอลก็เหนื่อยแล้ว ตอนเด็กๆนะ ฮีบอมรู้ไหม ฮีชอลขี้แยที่สุดเลย แต่ก็น่ารัก น่าฟัดที่สุดเหมือนกัน ตาโตๆชอบมีน้ำเจิ่งนองตลอด แล้วก็ที่โรงเรียนชอบไปโดนคนอื่นแกล้งอยู่เรื่อยเลย ตอนนั้นพ่อเหนื่อยที่สุดเลย เพราะว่าต้องปกป้องคุณแม่ฮีชอล เอาไว้ตลอด” ถึงแม้จะบอกว่าเหนื่อยเพียงใด แต่ปากหยักคม ก็มีรอยยิ้มกว้าง บ่งบอกให้รู้ว่า ถึงแม้จะเหนื่อย แต่ก็มีความสุขที่สุด
รอยยิ้มกว้างที่แสนมีความสุข แต่อีกคนกลับไม่ได้เห็น...ฮีชอลที่เหมือนนอนหลับ แต่น้ำตาเม็ดเล็กๆกลับไหลลงมาจากเปลือกตาบาง....
ซีวอนไม่รักเด็ก....แล้วในความฝันของฮีชอลหล่ะ..เรื่องที่ฮีชอลกำลังกลัวหล่ะ
ซีวอนเหนื่อยกับการต้องปกป้องฮีชอลมากใช่ไหม....ฮีชอลขอโทษที่ไม่เคยรู้...ขอโทษที่มักเดินไปหาเวลาถูกใครรังแก
รอยยิ้มกว้างที่ฮีชอลไม่ได้เห็น...หยดน้ำตาเม็ดเล็กที่ซีวอนเองก็ไม่ได้เห็น
Dr. Fu
“เปล่าหรอก ซีวอนไปทำงานเถอะ ฮีชอลไม่เป็นอะไรแล้ว” ร่างบางกลั้นใจตอบทั้งที่ยังรู้สึกเวียนหัว แต่เพราะไม่อยากให้ซีวอนต้องลำบากใจอีก แค่ที่ผ่านมาคนรักคงเหนื่อยมากพอแล้ว
“ไม่เป็นไรแล้วจริงๆนะครับ” ซีวอนถามย้ำอีกครั้งอย่างเป็นห่วง ทั้งๆที่บอกว่าไม่เป็นไรแล้ว แต่ทำไมหน้าหวานยังขาวซีด ไม่มีสีเลือดเลย “ให้ซีวอนอยู่เป็นเพื่อนไหม”
“ไม่เป็นไรหรอก ไปทำงานได้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงฮีชอลหรอก” ร่างบางพูดอย่างยากลำบาก พยายามกลั้นอาเจียนที่จะออกมา ไว้ภายใน ตอนนี้ทั้ง ขมปากและปวดท้อง แต่ก็ ไม่อยากให้ใครต้องเป็นห่วง จึงต้องทนฝืนต่อไป
“งั้นซีวอนไปทำงานนะครับ” ชายหนุ่มลุกจากที่นั่ง ชะโงกหน้ามาหอมแก้มคนรักก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“ซีวอนไม่ชอบเด็กใช่ไหม” ร่างบางเบาๆกับตัวเอง แต่คนที่กำลังจะเดินออกจากห้องกลับได้ยินชัดเจน
“แต่ซีวอนรักเด็กชายฮีชอลนะครับ”
เมื่อชายหนุ่มไปทำงานแล้วทั้งห้องก็เหลือเพียงลุกแมวและแม่คนเท่านั้น แต่เวลานี้ แม่คนกลับนั่งอยู่ที่พื้นห้องน้ำ โก่งคออาเจียนเอาทุกอย่างท่านเข้าไปออกมา จนเหนื่อยล้า อยากจะโทรหาคนรักแต่ก็ไม่กล้า เพราะนึกถึงคำพูดที่ซีวอนระบายกับเจ้าแมวตัวน้อยเมื่อเย็นวาน
ร่างบางรู้ดีว่า ควรต้องไปหาหมอแล้วแต่ก็ไม่อยากรบกวนใคร โทรไปหา ซีวอนแน่นอนว่าซีวอนก็คงรีบมา แต่มันจะทำให้ชายหนุ่มต้องเหนื่อยมากขึ้นหรือเปล่ากับการต้องมาดูแลคนอ่อนแอแบบนี้
ฮีชอลค่อยๆพยุงตัวเองเดินเข้ากลับเข้าไปในห้อง หยิบบัตรโรงพยาบาลที่เก็บไว้ แต่แค่เดินจะออกจากห้องอาการหน้ามืดเวียนหัวก็กลับมาจนต้องลงนั่งพิงประตูที่ยังไม่ได้เปิด บอกให้รู้ว่าร่างกายมันเริ่มทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไปคนเดียวคงไม่ถึงโรงพยาบาลแน่ๆ จึงตัดสินใจหยิบมือถือเครื่องบางกดเบอร์คุ้นเคยที่มักเป็นที่พึ่งให้เสมอ ในยามที่ไม่กล้าบอกคนรัก
/ว่าไงฮีชอล/
“เจย์ว่างไหม” ร่างบางถามชายหนุ่มเสียงสั่นอย่างหมดแรง จนคนรับโทรศัพท์ เป็นห่วง ถึงไม่ว่างก็คงต้องว่างแล้ว
/ฮีชอลเป็นอะไร อยู่ที่ไหน เดี๋ยวเจย์ไปหา/ ชายหนุ่มปลายสายรับรู้ได้ถึงความผิดปรกติ ความเป็นพ่อกำลังเข้าสิง เวลานี้นึกเป็นห่วงร่างบางที่ทำตัวเหมือนลุกสาวไม่มีผิด
“อยู่คอนโด มาหาฮีชอลนะ อย่าพึ่งรำคาญฮีชอลนะเจย์” เพราะกลัวเจย์จะเป็นอีกคนที่รำคาญตนเอง จึงได้แต่ขอร้องอย่าพึ่งให้ชายหนุ่มรำคาญตนเอง กลัวว่าจะไม่เหลือใครอีกแล้ว
กลัวว่าความอ่อนแอจะทำให้ทุกเบื่อหน่าย และหนีออกไปจากชีวิต
/อือ เดี๋ยวเจย์ไปหา อย่าร้องไห้นะคนเก่ง/ ทันที่วางสายชายหนุ่มก็ออกจากร้านกาแฟของตนเอง ตรงดิ่งไปหาร่างบางที่คอนโดอย่างเป็นห่วง
เจย์คิม มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องที่คุ้นเคย ก่อนจะใช้กุญแจสำรองที่เคยบังคับเอามาจากฮีชอล ไขเข้าไปในห้อง มองหาคนที่โทรเรียกตัวเองมา แต่กลับไม่เจอใคร จนกระทั่งได้ยินเสียงที่บ่งบอกถึงความทรมานจากในห้องน้ำจึงเปิดประตูเข้าไปแบบไม่รอช้า
“ฮีชอลเป็นอะไร” เจย์ถามร่างบางใบหน้าซีด เหงื่อเม็ดใหญ่ ผุดขึ้นเต็มหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปช่วยประคองไปล้างหน้า แล้วพาเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ไม่รู้ มันอาเจียนแล้วก็ หน้ามืดเวียนหัวทั้งวันเลย” ฮีชอลตอบอย่างสะโหลสะเหล ไร้เรี่ยวแรง เปลือกตาบางปิดลง ลมหายใจเหนื่อยหอบ
เจย์มองใบหน้าหวานของลูกสาวตัวแสบแล้วหนักใจ “เจ้านั่นปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ไง” ชายหนุ่มว่าอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ก่อนจะมองใบหน้าอีกครั้ง “ไปหาหมอกัน เจย์พาไปเอง ห้ามดื้อด้วย” ชายหนุ่มจัดการอุ้มคนป่วยพาออกจากห้องไป
ในห้องตรวจโรคทั่วไป หนึ่งคนป่วยกำลังนั่งหน้าหงอยเพราะมีผู้ปกครองสุดโหดมานั่งคุม เจย์ไม่มีใจดียอมตามใจเหมือนซีวอนแน่ๆ ถ้าหมอสั่งให้ฉีดยา
“คนไข้ชื่อ ฮีชอลนะครับ มีอาการยังไงบ้างครับ” หมอวัยเลยห้าสิบ นั่งถามคนไข้อย่างใจดี มองเห็นใบหน้าหวานๆตีหน้าเศร้ากับชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ในห้องแล้วได้แต่ยิมในใจ พี่ชายต้องมานั่งคุมน้องชายหรือไง ถ้าอายุมากกว่านี้ คงคิดว่าเป็นพ่อมานั่งคุมลูก
“บอกไปให้หมดนะฮีชอล ว่าเป็นอะไรบ้าง” เจย์รีบดักคอคนป่วยทันที เพราะรู้ดี หน้าหวานๆหงอยๆแบบนี้คงกำลังหาทางเลี่ยงอยู่แน่ๆ
“ก็อาเจียนครับ แล้วก็ เวียนหัวหน้ามืด ไม่ฉีดยานะครับหมอ” เสียงหวานๆรีบบอกหมอทันที ทำให้คุณหมอหัวเราะลั่นนึกว่ากำลังตรวจคนไข้วัย10ขวบ
“ไม่ฉีดยาก็ได้ครับ แต่หมอขอตรวจเลือดนิดหน่อยนะครับ เผื่อว่าที่หน้ามืดจะเกี่ยวกับเลือดน้อยหรืออะไร”
ทันทีที่หมอบอกว่าไม่ฉีดยา ใบหน้าหวานแทบจะกลั้นยิ้มไว้ไม่อยุ่ หันไปมองหน้าผู้ปกครองสุดโหดด้วยรอยยิ้มดีใจ แต่แล้วคำต่อมาที่ว่าเจอะเลือดก็ทำให้ร่างบางสลดทันที ผิดกับผู้ปกคองที่ฉีกยิ้มกว้างดีใจ
“แล้วเจาะเลือดได้เลยหรือเปล่าครับ หรือว่าต้องอดอาหารก่อน” ผู้ปกครองหน้าโหดถามคุณหมออย่างอารมณ์ดี
“ไม่ต้องครับ เจาะได้เลย เชิญคุณไปที่ห้องเจาะเลือดแล้วยื่นใบนี้ให้ได้เลยครับ” ใบนี้ที่คุณหมอส่งมาให้เป็นเอกสาร ที่ติ๊กลงไปในช่องต่างๆ
เจย์ พยุงร่างบางเดินตรงไปที่ห้องตรวจเลือดทันที ระหว่างทางก็ต้องทนฟังเสียงอ้อนวอนต่างๆนานา “เจย์ไม่สงสารฮีชอลหรอ เข็มบ้องเบ้อเริ้ม ทิ่มเนื้อฮีชอลเจ็บนะ”
“เจย์ อย่าพึ่งไปเลยนะ ให้เวลาฮีชอลทำใจหน่อยสิ นะ”
“เจย์ ไม่เจาะไม่ได้หรอ ไม่เป็นอะไรหรอกนะ”
“หยุดพูดได้ยัง ถ้าไม่หยุด จะโทรหาซีวอนแล้วนะ” ชายหนุ่มเอาชื่อ คนรักของร่างบางขึ้นมาขู่ แล้วมันก็ได้ผลเมื่อฮีชอลยอมนิ่งเงียบ จนชายหนุ่มนึกสงสัยว่า คนทั้งคู่กำลังทะเลาะอะไรกันอยู่หรือเปล่า “มีปัญหากับซีวอนหรือเปล่า”
“เปล่า” ร่างบางตอบเสียงนิ่ง ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ก็แค่กำลังกลัวเท่านั้นเอง
ในห้องเจาะเลือด ฮีชอลนั่งหน้าซีดมอง เข็มที่เชื่อมต่อกับหลอดเก็บเลือดอย่างไม่ไว้วางใจ
“วางแขนลงบนหมอนรอง” พยาบาลสาวแก่ พูดด้วยน้ำเสียงดุเมื่อเห็นว่า ร่างบางไม่ยอมเอาแขนวางลงมาสักที
“ครับ” ฮีชอลรีบทำตามด้วยความกลัว เกิดมาไม่เคยมีใครพูดโหดด้วยขนาดนี้
พยาบาลสาวแก่ ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ เช็ดแรงๆ ที่แถวๆข้อศอกด้านในจนร่างบางหน้าซีด ทั้งเจ็บทั้งกลัว ถ้าไม่ติดว่าโดนป้าพยาบาลสุดโหดยึดแขนไว้ แล้วยังเจย์ ที่ยืนกดไหล่เอาไว้ ป่านนี้คงได้สะดุ้งหนีไปแล้ว
เข็มขนาดใหญ่กว่าปรกติ จิ้มลงมาบนข้อพับขาว เจาะผ่านชั้นผิวหนัง ในหลอดแก้วใส มีเลือดแดงข้นไหลลงไปอย่างช้าๆ ฮีชอลได้แต่เบือนหน้าหนี ทั้งยังหลับตาแน่น
“อย่าเกร็งแขนสิ เดี๋ยวเลือดมันก็ไม่ไหลลงมาพอดี อย่าให้ต้องเจาะซ้ำได้ไหม” พยาบาลสุดโหดพูดกับคนไข้ที่เกร็งแขนแน่น ถ้าไม่ติดว่ามีชายหนุ่มหน้าโหดยืนอยู่ข้างหลังก็จะยกมือฟาดแขนรียวที่เกร็งแน่นให้หายเกร็งอยู่หรอก
“ฮีชอลอย่าเกร็งนะ เดี๋ยวต้องเจาะแขนใหม่นะ แขนช้ำเขียวๆม่วงๆด้วยนะ” เจย์ มองหน้าป้าพยาบาลอย่างไม่พอใจที่กล้ามาดุลูกสาวขี้อ้อนต่อหน้าต่อตา ก่อนจะกระซิบเสียงนุ่มข้างใบหูเล็ก ให้ร่างบางผ่อนคลายลง
“เสร็จแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงไปฟังผลที่อาจารย์หมอนะ” พยาบาลโหด กระชากเข็มออกอย่างไม่ปราณี ก่อนกดสำลีสะอาดลงกับแขนเรียวอย่างแรงเก็บหลอดเลือดลงไปในช่องว่างอย่างไม่ใส่ใจ เพราะหมั่นไส้ที่มีชายหนุ่มหน้าตาดีคอยดูแล
“เจ็บอ่ะเจย์” ใบหน้าหวานแทบอยากร้องไห้ น้ำตาคลออยู่ในดวงตากลมโต
“โอ๋ ไม่ร้องนะ” ชายหนุ่มทำการปลอบเด็กน้อยด้วยการลูบศีรษะเล็กเบาๆ ระหว่างที่นั่งรอผลตรวจ
“คุณ คิม ฮีชอล เข้าห้องตรวจคะ” เสียงหวานของพยาบาลสาวเดินมาหาร่างบางก่อนเดินนำให้เข้าไปในห้องตรวจ
“อ่าคุณ ฮีชอล เชิญนั่งก่อนนะ” สีหน้าเคร่งเครียดของหมอ ทำให้คนทั้งสองเดินเข้ามา เกิดความกังวลตามไปด้วย โดยเฉพาะเจย์ ที่เป็นห่วงอาการของร่างบางเพิ่มขึ้น
“ผมอยากให้คุณทั้งสองทำใจก่อน เพราะหมอเองก็ค่อนข้างเป็นห่วงกับผลเลือดที่ออกมา แต่ว่า เราได้ตรวจย้ำหลายครั้ง ผลก็ออกมาเหมือนเดิม”
“ฮีชอลเป็นอะไรครับ” เจย์ ชักเริ่มไม่วางใจกับการตรวจ ที่หมอยังไม่บอมผิดกับเจ้าของเลือดที่ยังคงนั่งนิ่ง ไม่ได้คิดอะไรมากมาย
“หมอขอโทษที่ต้องถาม แต่ว่า พวกคุณเคยมีสัมพันธ์กันหรือเปล่าครับ” ทั้งคนถามและคนถูกถามต่างก็อ้ำอึ้งไปทั้งคู่ ผิดกับร่างบางที่ยังไม่เข้าใจคำถาม งั้นมองหน้าชายหนุ่มอย่างงุนงง
“ ผมกับเขาไม่เคยมีอะไรกัน แต่เขามีคนรักเป็นผู้ชายครับ แล้วคราวนี้หมอจะบอกได้หรือยังว่าฮีชอลเป็นอะไรกันแน่” ชายหนุ่มถามเสียงแข็งขึ้นทันที กลัวว่าผลตรวจเลือดจะออกมาเป็นบวก
“เราพบฮอร์โมนhcgในเลือดของคุณฮีชอล”
“แล้วมันหมายความว่าไงหล่ะครับหมอ” เจย์เร่งหมอ เพราะไม่อยากฟังข้อมูลทางการแพทย์อะไร ตอนนี้ไดแต่เป็นห่วงร่างบางที่ยังคงทำหน้าใสซื่อไม่เข้าใจอะไรต่อไป
“มันเป็นฮอร์โมนที่พบในคนท้องเท่านั้นครับ”
คำตอบของหมอสร้างความตกตะลึงให้กับฮีชอลและเจย์ เป็นอย่างมาก ทั้งคู่ได้แต่นิ่งอึ้ง ก่อนที่เจย์ จะยิ้มออก ผิดกับคนที่มีฮอร์โมนประหลาดในร่างกาย ที่กำลังจะมีน้ำตาไหลออกมา
“แล้วฮีชอลต้องทำยังไงครับหมอ” ว่าที่คุณอาถามแทนว่าที่คุณแม่ที่ได้แต่นั่งนิ่งเงียบ
“หมอจะให้ยาบำรุงไปก่อน ถ้าเป็นไปได้ อาทิตย์ ผมอยากให้คุณฮีชอลพาเอ่อ...คุณพ่อของเด็กมาด้วยได้ไหมครับ” คุณหมอถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะบางทีความสัมพันธ์ระหว่าง พ่อของเด็กและคนไข้ อาจเป็นแค่คู่นอนายวันเท่านั้นเอง
“ได้ครับ อาทิตย์หน้าพ่อเด็กมาได้แน่ๆครับ” ยังคงเป็นหน้าที่ของคุณอาคนใหม่ ตอบคุณหมออย่างอารมณ์ดี ไม่มีท่าทางจะกินหมอแบบเมื่อกี้อีก
“หมอแน่ใจว่าตรวจไม่พลาดนะครับ” ก่อนที่เจย์จะประคองร่างบางออกจาห้องตรวจด้วยความระมัดระวังกว่าเดิม ฮีชอลก็ถามคุณหมออีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ ว่านี้จะเป็นข่าวดีของเขาจริงไหม
“ครับ การตรวจพบฮอร์โมน HCG ในร่างกายถือเป็นการตรวจการตั้งครรถ์ที่แม่นยำที่สุด และสามารถตรวจสอบได้เร็วที่สุด คือหนึ่งอาทิตย์หลังการปฏิสนธิครับ” คุณหมอยิ้มให้อีกครั้งกับว่าที่คุณแม่คนใหม่ที่ดูไม่สดใสเอาเสียเลย
“เจย์ ฮีชอลกลัว” เมื่ออยู่ในรถคันใหญ่ของชายหนุ่ม มือบางกุมถุงยาที่ได้รับมาแน่น สับสนกับความจริงที่ได้รับมา มันกะทันหันเกินกว่าจะรับได้ ผิดกับ คุณอาคนใหม่ที่กำลังยิ้มแก้มปริ
“กลัวอะไร” ละสายตาจากท้องถนนหันมามองคนนั่งข้างที่กำลังน้ำตานองหน้า
“ฮีชอลเป็นผู้ชายนะ ถึงฮีชอลอาจไม่เข้มแข็ง ไม่ดูดี เหมือนเจย์ เหมือนซีวอน แต่ฮีชอลก็เป็นผู้ชาย คนจะมองกันยังไง ฮีชอลกลัว ถ้าสังคมรับไม่ได้หล่ะเจย์”
“ เรื่องของสังคมมันสิ ฮีชอลจะไปสนอะไร ฮีชอลยังมีซีวอน มีเจย์ มีคุณลุงคุณป้า ทุกคนจะอยุ่กับฮีชอลนะ ไม่มีใครทิ้งฮีชอลกับลูกหรอก” ชายหนุ่มจอดรถเข้าข้างทาง คว้าว่าที่คุณแม่เข้ามากอดปลอบให้คลายกังวล
“แต่ถ้าซีวอนไม่อยู่กับฮีชอลหล่ะ” อีกหนึ่งความกลัวที่ร่างบางเก็บไว้ในใจ ไม่กล้าบอกใคร
“ไม่ม่ทางหรอก คิดอะไรเรื่อยเปื่อยฟุ้งซ่านแล้วฮีชอล คนอย่างซีวอนนะหรอจะทิ้งฮีชอลกับลูก”
“แต่ซีวอนไม่ชอบเด็ก ถ้าซีวอนให้ฮีชอลเอาลูกออกหล่ะ ฮีชอลจะทำยังไง ฮีชอลกลัว” คนตัวเล็ก ร้องไห้ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม
“ไม่มีทางหรอกนะ ที่จะเป็นอย่างนั้น เชื่อเจย์สินะ ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงหยาดน้ำที่ซึมลงบนเสื้อ แล้วๆได้แต่กังวล ตกลงระหว่าง ฮีชอลและซีวอนเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ถ้ากลัวไปอยู่ที่ร้านเจย์ก่อนไหม แล้วเย็นๆเจย์ไปส่ง แล้วก็คุยกับซีวอนให้ เอาไหม”
“ไม่เอา ฮีชอลก็อยากบอกเรื่องนี้กับซีวอนนะ แต่ว่า ฮีชอลก็กลัว ทำไงดี”
“งั้นฮีชอลก็ไปรอซีวอนที่บ้าน แล้วก็บอกข่าวดีนี้ให้ซีวอนฟัง ดีไหม”
“แล้วถ้า ซีวอน โกรธหล่ะ ถ้าซีวอนให้ฮีชอลเอาเด็กออก ถ้าซีวอนรับไม่ได้หล่ะ” ร่างบางพร่ำสาระพันปัญหาที่กลัวออกมา ไม่อยากให้มันเป็นจริง แต่ซีวอนที่ไม่รักเด็ก แล้วถ้าซีวอนรับไม่ได้ที่ฮีชอลท้อง ที่ฮ๊ชอลเป็นผู้ชายแบนี้ แล้วจะต่อไปจะอยู่ยังไง
“ถ้าเป็นแบบนั้น โทรหาเจย์ แล้วเจย์ จะดูแลฮีชอลเอง จะรับผิดชอบเด็กในท้อง จะเป็นพ่อให้กับลูกของฮีชอลเอง ตกลงไหม” เจย์ ยื่นทางเลือกให้กับร่างบางที่ดูอ่อนแอกับเรื่องในตอนนี้จนคิดฟุ้งซ่านไปไกล
“ไม่เอา ลูกของฮีชอล มีพ่อคนเดียวเท่านั้น”
“ถ้างั้นก็กล้าๆหน่อยสิ คนเก่ง เชื่อฉันว่าซีวอนไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้น แล้วซีวอนก็รักฮีชอลมากเลยรู้ไหม”
“อือ” ฮีชอลจะกล้า จะบอกกับซีวอน
ซีวอน....ได้โปรดอย่าเป็นอย่างที่ฮีชอลกลัวเลยนะ.....
อธิบายเรื่อง HCG คะ
เป็นฮอร์โมนที่มีชื่อเต็มว่า Human Chorionic Gonadotropin มีรกของเด็กเป็นผู้สร้าง จะเกิดขึ้นหลังการปฏิสนธิระหว่างไข่และสเปิรม์คะ และจะเพิ่มเป็นสองเท่าทุก 2-3วันนะคะ ถ้าตรวจเลือดสามารถให้ผลได้ภายใน 25วัน หลังจากมีประจำเดือนวันแรก หรือ ประมาณ 1อาทิตย์ หลังการปฏิสนธิ คะ
Talk
ขอขอบคุณพล็อต ที่ Zonk ณ Wonder boy เอื้อเฟื้อมาให้ ณ ที่นี้คะ
โฮมพัฒนาคะ มีข้อมูลทางการแพทย์ ด้วยยยย อิอิ
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์ที่ทำให้ มันถึง232นะคะ
วันนี้ไอซ์มีเรื่องมาเล่าคะ ไป สามร้อยยอดมา แล้วก็ เขาไม่เก็บค่าเข้าไอซ์ เพราะว่า “ผู้ใหญ่สองคน เด็กไม่เสียค่าเข้าครับ” ปลื้ม ตัวลอยเลยทีเดียว ไม่ได้แอ๊ปเลยนะคะ จริงๆ แต่งตัวปรกติที่สุดแล้วด้วย หุหุ พ่อยังหมั่นไส้ เกือบบอกเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่า ไม่เด็กแล้ว แต่เห็นแก่หน้าลูกสาว จึงยอม ผ่านไป อิอิ
ขอเม้มท์เยอะๆนะคะ เป็นคนโลภมาก
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ
To~B~con
ความคิดเห็น