ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - - - Freezing love - - - (woncin )

    ลำดับตอนที่ #10 : - -FL- - 9 100%

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 53


    - -FL- - 9

     

                    ยามเช้าที่ขาดความสดใสของผู้มีความสุขได้แค่เพียงยามค่ำคืนดึกดื่นที่ผู้คนต่างเข้านอนไปแล้ว และความสุขนั่นก็มีอยู่เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น ร่างบางมองไปรอบๆห้อง ที่กว้างขวางและอ้างอ้าง แตกต่างจากห้องเล็กแคบ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น

     

                    บนโต๊ะอาหารวันนี้แตกต่างไปจากทุกวัน เพราะมันไม่ได้มีแค่น้องชายที่รอเขาอยู่ แต่ยังมีเจ้าของบ้านหนุ่มที่นั่งหน้าไม่พอใจ คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากัน แต่เมื่อที่เห็นเขาเดินเข้ามา ใบหน้านิ่งแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มหยันทันที

     

                    “ขอโทษครับที่ทำให้ต้องรอ” ร่างบางก้มศีรษะให้เจ้าของบ้านหนุ่ม ด้วยรู้ดีในความคิดที่ปล่อยให้รอ แต่ก็ไม่แน่ บางทีอาจไม่ได้รอเป็นเขาที่สำคัญตัวเองผิดไปก็ได้

     

                    “ไม่ต้องขอโทษผม หรอกความจริงผมไม่ได้รอคุณ แต่รอยุนอาต่างหาก” ชายหนุ่มตอบอย่างเฉยเมย ไม่แม้แต่จะเหลือบตาไปมองคนที่ก้มหัวขอโทษด้วยซ้ำ “ป้าครับเดี๋ยวจัดสำหรับอีกทีนะครับ ยุนอาจะมาเช้านี้”

     

                    “ได้คะคุณชาย” ป้าแม่บ้าน วัยกลางคน เดินกลับไปยังห้องครัวอีกครั้ง ก่อนกับมาพร้อมชุดอาหารเช้าอีกหนึ่งที่ สำหรับว่าที่คุณผู้หญิงของบ้านที่ทุกคนต่างก็ยินดี

     

                    “ผมช่วยครับป้า” ฮีชอลเดินเข้าไปช่วยป้าฮวางโบที่เป็นแม่บ้านถือ ถาดอาหารที่หนักอยุ่ไม่น้อยสำหรับหญิงเลยเลขห้าไปแล้ว

     

                    “ขอบคุณคะ คุณฮีชอลนี้เป็นดีจังเลยนะคะ ทั้งคุณยุนอาทั้งคุณคยูฮยอนถึงได้รักพี่ชายอย่างคุณจังเลย” ป้าแม่บ้านเอ่ยกับชายหนุ่มอย่างเอ็นดู ก็คุณฮีชอลไม่เคยถือตัวหรืออะไรเลย 

     

                    “ใช่ครับ พี่ฮีชอลของผมเป็นพี่ดีที่สุดเลย ผมไม่มีพี่คนที่สองก็เพราะมีพี่ฮีชอลก็ดีมากแล้วสำหรับผม ผมรักพี่ฮีชอลจังเลย” ความน่ารักของสองพี่น้องทำให้ฮวางโบอมยิ้ม นึกเอ็นดูในความรักและสนิทสนมของสองพี่น้องคู่นี้

     

                    “อย่านึกว่าทุกคนจะอยากได้คุณเป็นพี่ โดยเฉพาะผม แล้วนึกดูว่าถ้ายุนอารู้เรื่องของคุณ เขาจะรู้สึกยังไง ถ้ารู้ว่าพี่รหัสมีนิสัยมั่วๆแบบนี้ เขาจะรู้สึกยังไง” ชายหนุ่มกระซิบเสียงแผ่ว ให้ได้ยินเพียงลำพังแค่สองคน ในจังหวะที่ร่างบางก้มตัวเพื่อตักข้าวต้มใส่ในชามใบใหญ่

     

                    หากเป็นกระซิบเสียงหวานบอกคำรักที่อยากได้ยิน ฮีชอลคงดีใจไม่น้อย แต่ตอนนี้น้ำตามันกลับไหลลงมาอย่างช้า แค่เผลอให้ได้รู้ความในใจ คุณค่าที่มีเหลือเพียงน้อย นิดกลับลดลงไป จนกลายเป็นไร้ค่า น่ารังเกียจ

     

                    เด็กหนุ่มถึงแม้จะไม่ได้ยินถ้อยคำร้ายๆ แต่จากท่าทีของพี่ชายมันก็พอจะรู้ได้ว่า สิ่งที่ออกมาจากปากคมๆนั่น คงเป็นถ้อยคำเสียดสี ทำร้ายจิตใจพี่ชายของเขาได้ “พี่ฮีชอล เป็นอะไร”

     

                    “เปล่า” แค่คำสั้นๆ ก่อนก้มหน้าตักข้ามต้มที่อยู่ในชามตรงหน้า หลบสายตาห่วงใยของน้องชาย และสายตาที่เย็นชาของชายหนุ่มอีกหนึ่งคน

     

                    “ใจคอจะกินโดยไม่รอยุนอาเลยหรือไง” เสียงนิ่งถามคนที่กำลังตักอาหารเข้าปาก ด้วยความไม่พอใจ ที่พี่รหัสทำตัวไม่สมกับความรักที่หญิงสาวมอบความให้

     

                    “อะไรกันคะ ใครไม่รอยุนอาหรอคะ” เสียงใสๆ ของหญิงสาวที่เดินเข้ามาใหม่ ทำให้คนทั้งสามต้องหันไปมอง ก่อนจะได้รับยิ้มหวานที่มอบให้กับทุกคน

     

                    “ไม่มีอะไรหรอกครับ ยุนอาหิวข้าวหรือยังมานั่งทานข้าวกันดีกว่า” เจ้าของบ้านหนุ่มรีบเดินไปรับหญิงสาว ก่อนจะเป็นคนเลื่อนเก้าอี้ข้างๆตนเองให้คนรักนั่ง

     

                    “ขอบคุณคะ ดีใจจัง วันนี้ยุนอาได้ข้าวเช้าพร้อมพี่ฮีชอลด้วย ไม่ได้ทานกับพี่ฮีชอลตั้งนานแล้วนะคะเนี่ย คิดถึงตอนที่ยังเรียนอยู่จังเลย เวลาพี่ฮีชอลเลี้ยงข้าวยุนอา” หญิงสาวอารมณืแจ่มใส นั่งรำลึกความหลังแบบมีความสุข

     

                    “แล้วยุนอาไม่คิดถึงผมบ้างหรือครับ ชักน้อยใจนะเนี่ย คิดถึงแต่บรรยากาศเดิมๆกับพี่รหัส แล้วไม่คิดถึงเวลาทานข้าวเช้ากับผมบ้างเลย” ชายหนุ่มผู้แสนเย็นชากลายป็นคนอารมณ์ดี เป็นคนรักแสนดี ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนอีกสองผู้ร่วมโต๊ะได้แต่มองด้วยสายตาที่แตกต่างกัน

     

                    “โอ๋ อย่างอนสิคะ ยุนอาก็ได้ทานข้าวกับคุณออกจะบ่อย” หญิงสาวหัวเราะให้กับความน่ารักขี้อ้อน ของคนรัก ยิ่งแก้มป่องๆที่ดูไม่เข้ากัน ยิ่งทำให้อาหารมื้อนี้ของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

     

                    แต่มันต่างจากคนที่เฝ้ามองด้วยน้ำตา....แต่ก็ต้องกลั้นมันไว้ข้างใน

     

                    “ไม่งอนก็ได้ครับ แต่ยุนอาต้องหอมแก้มผมก่อน” คำพูดแสนหวานแต่สายตากลับมองไปยังบางคนที่นั่งนิ่ง ตักอาหารใส่ริมฝีปากบางไม่เงยหน้าขึ้นยิ้มกับใคร

     

                    “ไม่เอาหรอกคะ อายพี่ฮีชอล กับ คยูฮยอนออก” ฝ่ามือเล็กเรียวน่าถนอม ผลักใบหน้าคมที่พองลมไว้หนึ่งข้างออกห่าง ใบหน้าขาวใสขึ้นสีแดงเรื่อด้วยความอาย

     

                    “ไม่เห็นต้องอายเลยครับ คุณฮีชอลกับคยูฮยอนจะได้รู้ว่า เรารักกันมากแค่ไหน ถ้ายุนอาไม่หอม ผมทำเองก็ได้แล้วไม่จบแค่หอมที่แก้มนะครับที่รัก” ชายหนุ่มจงใจเน้นเสียงบ่งบอกให้บางคนได้รู้ สายตาคมจับจ้องที่คนรักด้วยความหวานชื่น ก่อนจะเหลือบมองอีกหนึ่งด้วยความเหยาะเย้ย

     

                    “ซีวอนแกล้งยุนอานี้คะ ทำแบบนี้”

     

                    “ไม่แกล้งหรอกครับ ออกจะรักมากขนาดนี้” ชายหนุ่มหอมแก้มหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ดวงตาจะเป็นประกายหวาน

     

                    สองคนบนโต๊ะอาหารที่ดูมีความสุขเหลือเกิน กับหนึ่งคนที่ต้องทนกล้ำกลืนให้อาหารมื้อนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว...มันช่างเป็นมื้ออาหารที่แสนทรมาน จนไม่อาจเก็บน้ำตาไว้ภายใน ปล่อยให้มันไหลลงไปในชามข้าวอย่างช้าๆ โดยไม่มีใครสังเกตเห็น นอกจากน้องชายที่เติบโตมาด้วยกัน

     

               * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                    คนสามคนในรถหรู แต่บรรยากาศกลับไม่เหมือนรถคันเดียวกัน เมื่อสองคนข้างหน้ามีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ในขณะที่คนนั่งข้างหลังได้แต่นั่งนิ่งเงียบจมอยู่ในความเจ็บช้ำของตัวเอง

     

                    “พี่ฮีชอลเป็นอะไรคะ ทำไมดูเงียบๆ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวผู้คงรอยยิ้มอ่อนหวานเสมอๆ หันมาถามพี่รหัสที่นั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่บ้านจนชายหนุ่มกำลังจอดรถในที่จอดผู้บริหาร

     

                    “เปล่าหรอก พี่แค่คิดอะไรเพลินๆ เดี๋ยวยุนอาจะเอาอะไรหรือเปล่า ขึ้นไปพี่จะได้เข้าไปเอามาให้” ร่างบางถามน้องสาวที่เดินเคียงปล่อยให้ชายหนุ่มร่างสูงอีกคนเดินนำอยู่ข้างหน้า

     

                    “ไม่เอาหรอกคะ แต่ถ้าพี่ฮีชอลจะยอมมานั่งคุยกับยุนอาในห้องจะดีกว่าอีก”

     

                    “ได้ไงหล่ะครับยุนอา พี่รหัสของยุนอาก็ต้องทำงานนะครับ ผมไม่ได้จ้างใครให้มาคุยเล่นนะครับ เดี๋ยวพอขึ้นไปแล้ว คุณช่วยให้เด็กที่มาใหม่เอาน้ำกับอะไรกินเล่นเข้าไปให้ยุนอาในห้องหล่ะกัน” ถึงแม้จะเดินอยู่ข้างหน้าแต่ซีวอนก็ได้ยินทุกคำพูด ชายหนุ่มหยุดรอให้คนรักเดินก้าวขึ้นมาทันก่อนจะโอบเอวบางก้าวเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมกันทิ้งอีกคนที่มาด้วยกันไว้ด้านล่าง

     

                    คิม ฮีชอล ยืนมองลิฟต์ที่ปิดสนิทอย่างนิ่งอึ้ง นึกไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะทำไดขนาดนี้ แค่ลิฟต์ยังไม่อยากจะขึ้นพร้อมกันเลยใช่ไหม หรือต้องการเวลาส่วนตัวเพียงลำพังกับคนรัก ก่อนจะรอลิฟต์ตัวใหม่ที่เปิดออกรับ ให้ร่างบางได้เข้าไปเพียงลำพัง

     

                    ลิฟต์แคบๆ เมื่อประตูปิดสนิท ก็ไร้ทางออกใดๆ ก็เหมือนหัวใจที่ร่ำร้องหาคนที่มีเจ้าของและไม่คิดเหลียวแล ร่างบางปล่อยให้น้ำตาที่เก็บไว้จากเมื่อเช้า ไหลออกมาให้หมด ก่อนที่มันจะต้องกักเก็บน้ำตาระลอกใหม่

     

                    ในกระจกเงาบานกว้างสะท้อนภาพใบหน้าขาวซีด ดวงตาแดงกล่ำ เปลือกตาบวมช้ำ เพราะน้ำตาที่เสียไปอยู่ทุกวัน ทุกคืน ไหนใครเคยว่าไว้...แค่ได้อยู่ใกล้คนที่เรารัก แค่ได้เห็นเขามีความสุข ก็สุขมากแล้ว....คิม ฮีชอลขอเถียงว่ามันไม่จริงเลย

     

                    ถ้าสุข....แล้วทำไมยังเจ็บแบบนี้ ทำไมน้ำตายังคงไม่ยอมหยุดไหล...หรือจะไหลออกมาจนหมดตัวและหัวใจ

     

                    เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก สิ่งที่ร่างบางได้เห็นคือ หญิงสาวหน้าตาน่ารักชื่อซันนี่ ที่รู้จักตั้งแต่เมื่อวานในฐานะผู้ช่วย เลขาประธาน  “พี่ฮีชอลคะ คุณซีวอนสั่งไว้ว่า พอขึ้นมาถึงแล้วให้เข้าไปหาด้านในด้วยคะ”

     

                    “เอ๋! ขอบใจมากนะ” ร่างบางส่งยิ้มให้หญิงสาวทั้งๆที่ก็ยังไม่หายข้องใจ จะเรียกเข้าไปทำไมอีก หรือจะให้เป็นพยานรัก แสดงความชื่นให้ดูอีกรอบกัน แต่ความสงสัยก็ต้องถูกเก็บไว้ เมื่อ ร่างบางเดินไปเคาะประตูบอกให้รู้ว่ากำลังจะเข้าไป

     

                    ไม่มีเสียงตอบรับ หากแต่ประตูบานใหญ่เปิดออกกว้าง คนที่เปิดประตูก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นหญิงสาว ผู้น่ารัก ที่ฮีชอลก็ทำร้ายหรือโกรธเกลียดเธอไม่ลง

     

                    “พี่ฮีชอลคะ ซีวอนให้พี่ทำงานหนักถึงขนาดต้องมีผู้ช่วยมาเพิ่มอีกหนึ่งคนเลยหรือคะ” วงแขนเรียว คล้องแขนพี่ชายที่ไม่ได้ใหญ่ไปกว่ากันเท่าไหร่ ก่อนจะพาไปนั่งที่โซฟานิ่ม ไม่สนใจว่าหน้าพี่ชายจะดูเหวอแค่ไหน

     

                    “ยุนอา พูดเรื่องอะไร อธิบายให้พี่ฟังก่อนดีไหม พี่ไม่เข้าใจที่เราพูดนะ” ร่างบางอยากหันไปขอความช่วยเหลือจากใครสักคนที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ แต่อีกคนที่อยู่ในห้อง ก็คงไม่อยากเห็นหน้าเขาสักเท่าไหร่

     

                    “ก็น้องที่นั่งอยู่ข้างหน้าอีกคนไงคะ หรือว่าพี่ฮีชอลก็ไม่รู้เรื่อง นี้อย่าบอกนะคะ ว่าซีวอนเอาเรื่องพี่ฮีชอลบังหนา แล้วแอบไปจีบเด็กน่ารักๆหน่ะ” หญิงสาวหันมาจ้องหน้าคนรักที่อมยิ้มจนเห็นลักยิ้มสองข้างแก้ม

     

                    “อะไรกันครับยุนอา อย่ามาโทษผมแบบนั้นสิ ก็บอกแล้วไง ว่าเอามาแบ่งเบางานของพี่รหัสสุดที่รักของยุนอา ผมไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ ผมรักยุนอาคนเดียวเท่านั้น ต่อให้เป็นใครก็ตาม ผมไม่มองให้เสียเวลาหรอกครับ ไม่เชื่อใจผมหรอครับ” ชายหนุ่มเน้นเสียง เพื่อบอกเป็นนัยๆให้อีกคนรับรู้

     

                    “ใช่ครับ ยุนอาไม่ต้องห่วงหรอก ซันนี่เขามาช่วยพี่ทำงานเฉยๆ แล้วคุณซีวอนของยุนอาก็รักยุนอามาก มากจนไม่เคยเลียวแลความรู้สึกดีๆที่คนอื่นมีให้ ยุนอาไม่ต้องกลัวหรอก ว่าคนรักของยุนอาจะมีใครอื่นหน่ะ” ฮีชอลรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ชายหนุ่ม ต้องการสื่อ และก็หวังว่าสิ่งที่เขาเองต้องการจะสื่อ มันจะไปถึงชายหนุ่มเช่นเดียวกัน “พี่ขอตัวไปทำงานก่อนนะ”  คำตัดบทสั้นๆง่ายๆ ที่ร่างบางนึกออก ก่อนจะเดินออกไปจากห้องก่อนที่จะต้องทนเห็นความหวานที่ชายหนุ่มพยายามปั้นแต่ง

     

                    ร่างบางนั่งทำงานที่มีอยู่น้อยนิดจนไม่ได้สนใจเวลาที่ผ่านไปมารู้ตัวก็เมื่อ ร่างโปร่งได้ส่วนของชายหนุ่ม เดินมายืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน พร้อมเสียงกระแอมในลำคอ “ อ้าว คยูฮยอน!

     

                    “ก็ผมสิ ครับ พี่คิดว่าใครหล่ะ หรือว่ามีใครขึ้นมาจีบพี่ผมถึงที่นี้บ่อย”  น้องชายเอ่ยหยอกพี่ชายหน้าหวาน ด้วยรอยยิ้มพราวบนใบหน้าที่ใครก็ต้องสะดุด “แล้วสาวน้อยคนนี้ใครครับพี่” ชายหนุ่มหันไปโปรยยิ้มให้กับหญิงสาวแปลกหน้า

     

                    “เรียกเขาสาวน้อย เขาแก่กว่าเราอีกคยูฮยอน ซันนี่ เลขาอีกคนของคุณซีวอน ส่วนนี้ก็คยูฮยอน น้องชายคุณซี~

     

                    “น้องชายพี่ฮีชอลครับ” ชายหนุ่มรีบพูดแทรกพี่ชายตัวเอง เมื่อรู้ว่าจะถูกแนะนำตัวในฐานะอะไร เพราะเขาเคยพูดเอาไว้แล้วว่า จะมีพี่ชายเพียงแค่คนเดียว และจะทำเพียงเพื่อพี่คนนี้เท่านั้น

     

                    “เป็นน้องพี่ฮีชอลหรือคะ แต่คล้ายๆคุณซีวอนนะคะ ถึงหน้าตาไม่เหมือน แต่บุคลิกคล้ายๆกันเลยนะคะ” หญิงสาวพูดไปตามที่เห็น ทั้งท่าทาง ทั้งรูปร่าง ถ้าบอกว่าเป็นน้องท่านประธานยังจะเชื่อง่ายกว่า

     

                     “ผมเป็นน้องพี่ฮีชอลครับ อย่าเอาผมไปยัดเยียดให้เป็นน้องคนอื่น” จากรอยยิ้มหว่านเสน่ห์ คยูฮยอนเปลี่ยนเป็นดวงตาแข็งกร้าวทันที จนคนเป็นพี่ต้องรั้งแขนเสื้อเพื่อเตือนสติ

     

                    “แล้ววันนี้มาทำไม” ร่างบางถามน้องชายพยายามดึงให้ห่างจากเรื่องเดิมมากที่สุด แค่นี้หญิงสาวตัวเล็กก็คงกลัวจนหงอไปแล้ว ไม่กล้ายุ่งกับน้องชายตัวเองอีก

     

                    “เมื่อเช้าผมเห็นพี่รองไห้ พอเลิกเรียนก็เลยตามมาเช็ดน้ำตาให้ไงครับพี่” เด็กหนุ่มรุ่นน้องบอกทีเล่นทีจริง หากแต่สายตาคมกลับทอประกายห่วงใยได้เป็นอย่างดี “แล้วนี้ พี่ยุนอายังอยู่หรือเปล่าครับ”  

     

                    “อยู่ ยุนอาอยู่ในห้องจะเข้าไปหรือไง อย่าเลย พี่ว่านายกลับบ้านหรือไม่ก็ไปหาแม่ครูเหอะ มานั่งรอกว่าจะได้กลับบ้าน พอดีเบื่อก่อน” ร่างบางหันมาไล่น้องชาย เพระรู้นิสัยกันดี

     

                    “ไม่เอาหรอกครับ ผมกลับไป แล้วเดี๋ยวตอนเย็น เขาก็ต้องลากพี่กลับไปด้วย แล้วพี่ก็ต้องทนเห็นอะไรๆให้เจ็บตัวเอง สุดท้ายก็กลับไปแอบร้องไห้เหมือนเดิม ไม่เอาหรอก ผมเบื่อน้ำตาพี่แล้ว กลับๆกับผมนะ ไปหาแม่ครูกันก็ได้ ไปเร็ว เก็บของ” ชายหนุ่มเก็บของๆพี่ชายยัดใส่กระเป่าอย่างรวดเร็ว

     

                    “เฮ้ย มันพึ่งบ่ายเองนะ ยังเลิกงานเลย พี่ไปไม่ได้”

     

                    “ไปได้ครับ ไปกับผมนี้แหล่ะ คุณซันนี่ ผมฝากงานที่เหลือด้วยนะครับ” ไม่รอให้มีคำตอบรับ  ชายหนุ่มก็ลากตัวพี่ชายผู้บอบบางออกไป ไม่สนใจเสียงหวานที่ร้องโวยวาย

     

                    วันนี้ผมมาแค่เช็ดน้ำตาให้พี่ แต่วันข้างหน้าผมจะทำให้พี่ไม่ต้องเสียน้ำตา...ผมสัญญา

              * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

                    เข็มนาฬิกาเลยวันเก่ามาแล้ว เป็นช่วงเวลาเดิมๆที่ร่างบางจะเดินออกจากห้องนอนเดินฝ่าความมืดไปยังห้องอีกห้องที่เจ้าของคงเข้านอนไปแล้ว ถึงแม้จะนึกกลัว...หากเจ้าของห้องยังไม่หลับ ความสุขเพียงอย่างเดียวในชีวิต คงจางไป

     

                    ความมืดและอากาศเย็นที่คุ้นเคย ทำให้ร่างบางมั่นใจได้ว่าชายหนุ่มเจ้าของห้องคงหลับไปแล้ว ร่างบางทำทุกอย่างในห้องด้วยความเคยชิน

     

                    ห่มผ้าที่ชายหนุ่มกองไว้ปลายเตียง...

     

                    นั่งมองข้างๆเตียงด้วยความรัก...นั่งยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า...พูดกับคนหลับไปเรื่อยๆ

     

                    และสุดท้าย จุมพิต เพื่อเก็บไว้ให้คืนนี้และทุกๆคืนได้ฝันดี

     

                    ฮีชอลเดินออกมาจากห้องของชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม บางๆบนใบหน้า เดินไปท่ามกลางความมืด แต่แล้วดวงตากลมโตก็เหลือบเห็นน้องชายยืนทำหน้าคม อยู่หน้าห้อง “ ทำไม ยังไม่นอนอีกหรือไง พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่หรือไง”

     

                    “คร้าบ พรุ่งนี้ผมมีเรียน แต่ว่าผมมีเรื่องจะบอกพี่แค่นั้นเอง” ชายหนุ่มดันหลังบางของพี่ชายให้หลบเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะเปิดไฟให้สว่างไสวไปทั่งห้อง จนพี่ชายต้องหรี่ตาก่อนจะปรับสภาพตาให้เข้ากับแสงสว่าง

     

                    “เปิดไฟทำไมเล่า ปิดไฟไม่ได้หรอ จะคุยอะไร พรุ่งนี้ไม่ได้หรอ ง่วงแล้วนะ” ร่างบางโอดครวญกับน้องชาย ดวงตากลมรี ปิดปากหาว บอกให้รู้ว่าง่วงนอนมากแล้ว

     

                    “ไม่ได้ พี่ต้องคุยกับผมก่อน  ทีไปหาผู้ชายคนนั้นยังหาได้เลย คุยกับผมแปปเดียวเองนะๆๆๆ” คยูฮยอน ออดอ้อนพี่ชาย หัวทุยๆถูไถกับแขนเรียวของพี่ชายแบบที่นานๆจะทำสักครั้ง

     

                    “ก็ที่ออกมาเพระมาง่วงไงเล่า”  มือบางดันศีรษะของน้องชายออกห่าง ก่อนจะเดินนำไปนั่งที่ปลายเตียง “มีเรื่องไรก็รีบพูดเร็วๆ พี่ง่วง”

     

                    “ผมจะจีบพี่ยุนอา”

     

                    “ห่ะ” ร่างบางเสียงแถมเป็นตะโกนทั้งที่มันก็เป็นเวลาดึกมาก แค่เพราะสิ่งที่น้องชายพูด

     

                    “เสียงดัง ไปพี่ มันน่าตกใจขนาดนั้นเลยหรอ แค่ผมจะจีบพี่ยุนอาเท่านั้นเอง”

     

                    “แต่ยุนอาเป็นแฟนกับซีวอนนะ” ฮีชอลเตือนสติน้องชายให้รับรู้ถึงสถานะของหญิงสาว “นั่นแฟนพี่ชายนายเลยนะ”

     

                    “แล้วไงครับ ผมไม่มีสิทธิ์จะขวยขวายเอาคนที่รักมาเป็นของตัวเองหรือไง ผมต้องทนเจ็บแบบพี่งั้นหรอ ผมต้องทนเห็นเขาอยู่กับคนอื่นแบบนั้นหรอครับ” ชายหนุ่มก้มหน้า ไม่กล้าสบสายตากับพี่ชาย

     

                    “นายรักยุนอาหรอ” ร่างบางถามเสียงแผ่ว อย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน มันน่าเศร้าแค่ไหนกัน ที่สองพี่น้องต้องมาหลงรักคนที่มีเจ้าของ และคนทั้งคู่ก็รักกันมาก

     

                    “ผมรักเขาครับพี่”

     

                    “แต่ยุนอารักซีวอนมากนะคยูฮยอน นายก็รู้ ก็เห็นเหมือนที่พี่เห็นไม่ใช่หรอ”

     

                    “แล้วไงครับ รักมากแล้วถ้าผมจะทำให้เขารักมากกว่าไม่ได้หรอ จะไม่ให้โอกาสเขาได้เลือกเลยหรือครับ”

     

                    “แต่โอกาสที่นายพูดถึง คือการแย่งคนรักคนอื่นนะ” ฮีชอลพยายามบอกให้น้องชายรู้ อยากให้ตัดใจ ไม่อยากเห็นเด็กหนุ่มที่ชีวิตสดใส ต้องเศร้าเพราะความรักที่ไม่มีทางสมหวัง

     

                    “ผมก็แค่ตัวเลือกเท่านั้นครับ ถ้าพี่ยุนอารักผม มันก็ไม่ใช่ความผิดของผม แต่เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นดูแลพี่ยุนอาไม่ดีพอ” ถึงแม้จะเอ่ยอย่างมั่นใจ แต่ดวงตาคมกลับไม่ยอมสบตาพี่ชาย เลย

     

                    “นายรักยุนอามากจริงๆใช่ไหม พร้อมใช่ไหมที่จะเจ็บ มันเจ็บกว่าที่คิดไว้มากนะ เมื่อพลาดจากความรัก” พี่ชายที่กำลังทำหน้าที่ได้แต่บอกให้น้องเตรียมใจกับความเจ็บปวด

     

                    “ถ้าต้องเจ็บ ผมก็ยอมครับ” ชายหนุ่มซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดของพี่ชาย หวังจะได้กำลังใจ จากเจ้าของแขนอบอุ่น

     

                    “อย่าลืมว่ามีพี่อยู่ตรงนี้ ไม่ว่าเราจะเจ็บหรือเสียใจเพราะใคร พี่ยังอยู่ข้างคยูเสมอนะ” ร่างบางกอดน้องชายตัวโตแน่น แต่น้ำตาของตัวเองกลับไหลลงมาอย่างช้าๆ

     

                    ผมจะเป็นตัวเลือกที่พี่ยุนอาต้องเลือก ผมจะทำให้เขารักผมอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน  

        

    To. B . Con

             * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     Talk

     

                    ในทีเซอร์มีผู้ชายในสายน้ำด้วยยยยย  เห็นผู้ชายในสายน้ำทีไร ใจละลายทุกที อ้อ  อีกคนคือ ผู้ชายในมุมมืด ครั้งนี้ยอมรับว่าวอนหล่อมากกกกก  จริงๆคะ เป็นครั้งแรกๆที่ยอมรับว่ามุมแบบนี้ เงาขนาดนี้ วอนดูดีสุดๆ 555 แต่แอบคิดไปถึงพวกคาถาเรียกฟ้าเรียกฝน ทำท่าซะเหมือนแล้วมีฝนลงมาด้วยอิอิ

                    กลับสู่ อาณาจักรน้ำแข็งคะ งานนี้ยุนอาจะมั่นในรักได้ดีแค่ไหน ต้องรอดูคะ แต่ว่ากี้ก็บอกกับตัวเองขนาดนั่นแล้ว  หัวใจยุนอาได้สั่นไหวแน่ๆ       

                    หลังจากนี้เจอกันที่การ์ดนะคะ มันควรจะจบนานแล้ว แต่ดันไม่จบ เพราะงั้นไอซ์จะมุ่งมั่นกับการ์ดและโฮม ขอพักสมองจากอาณาจักรน้ำแข็งนิดๆนะคะ            

             ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×