ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Home คำนี้ยิ่งกว่ารัก (woncin fiction)

    ลำดับตอนที่ #10 : After valentine 2 100..%

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 53


    ปล. อย่าลืมกลับไปอ่าน ติ่ง50%ที่ลงเพิ่ม ของ After valentine 1 ก่อนนะคะ

     

    After valentine 2

     

    14 กุมภาพันธ์  เวลา 16.50

     

                    ชายหนุ่มร่างสูง นั่งยิ้มอารมณ์ดีอยู่เดียวภายในรถหลังจากนั่งคำนวณเวลาให้ดอกไม้สีขาวแต่ละช่อส่งถึงเวลาคนรักตามเวลาที่กำหนด และช่อสุดท้ายก็จะส่งถึง เวลาห้าโมงเย็น โดยเด็กส่งดอกไม้ที่เพอร์เฟคที่สุด นาม ชเวซีวอน  ที่จะมาพร้อมกับลิลลี่สีขาวแปดดอก

     

                    ดอกลิลลี่สีขาวเป็นความรักที่บริสุทธิ์

     

                    เลขแปด เมื่อตะแคงแล้วจะกลายเป็นอินฟินิตี้...ไม่รู้จบ

     

                    ลิลลี่แปดดอก คือ  ความรักบริสุทธิ์ที่ไม่มีวันจืดจางไป

     

                    ห้าโมงเย็นเป๊ะ ที่ชายหนุ่มมาหยุดยืนอยู่หน้าห้อง แต่แล้วรอยยิ้มที่มีก็ต้องจางหายไป และเหลือทิ้งไว้เพียงความไม่พอใจและน้อยใจ เมื่อช่อดอกไม้ที่ส่งมาก่อนหน้านี้แขวนอยู่หน้าห้องไม่มีใครเหลียวแล ไม่มีใครเก็บเข้าไป

     

                    ซีวอนต้องใช้กุญแจเปิดห้องที่ไม่มีคนอยู่ ดอกไม้สามช่อวางอยู่บนโต๊ะ ข้างๆกันมีดอกไม้กุหลาบที่วางไว้เมื่อตอนเช้า แต่เจ้าของดอกไม้หายไปไหน ทั้งห้องไม่มีใคร

     

                    ทั้งที่วันนี้เป็นวันแห่งความรัก แต่ทำไมคนรักของเขาถึงหายตัวไป ซีวอนเองก็รู้ว่าผิดที่วันนี้ยังอุตสาห์จะไปทำงานทั้งที่เป็นวันอาทิตย์ แต่ก็ส่งดอกไม้มาทุก102นาที ตัวเลขที่แทนความหมายของคนทั้งสอง แต่ทำไมคนรับอย่างฮีชอลถึงไม่อยู่รับ

     

                    หายไปไหน

     

                    ไปกับใคร....ในวันวาเลนไทน์

     

     

     

    14 กุมภาพันธ์  เวลา 17.35

     

                    ชายหนุ่มนั่วเล่นที่ระเบียงพร้อมกระป๋องเบียร์ในมือ เผื่อว่ามันจะช่วยดับอารมณ์กรุ่นๆที่มีอยู่เต็มตัว แต่ก็ไม่เลย ผ่านมากหกเจ็ดกระป๋อง ภายในเวลา แค่ครึ่งชั่วโมง ก็ยังรู้เลยว่า มีอะไรดีขึ้นมาไหม ยิ่งนั่งมองนาฬิกาก็ยิ่ง เสียใจ

     

                 เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจให้ซีวอนต้องหันกลับไปมองก่อนจะพบคนรักเปิดประตูเข้ามาด้วยความเบิกบานใจเต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม พร้อมช็อคโกแล็ตทำมือห่อใหญ่ที่ถือกลับมาอย่างทะนุถนอม

     

                   “อ้าว! ซีวอนกลับมาแล้วหรอ” เสียงใสๆถามขึ้นอย่างแปลกใจ พร้อมกับเดินเข้ามาหา

     

                    “......” ที่เงียบไม่ใช่ ไม่ได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าจะหาเสียงจากที่ไหนมาตอบคำถามนี้ได้อีก ใช่ซีวอนของฮีชอลกลับมาแล้ว กลับมารอตั้งนานแล้ว รอฮีชอลกลับจากไปหาคนอื่นในวันวาเลนไทน์

     

                     “วันนี้ฮีชอลไปหาน้องยุนอามา น้องเขาให้ช็อคโกแล็ตมาด้วยนะ ดูน่าจะอร่อย” ชื่อของคนที่คนรักออกไปหา ไม่ทำให้ให้ซีวอนแปลกใจได้เท่ากับเจ็บใจ ไม่รู้เลยหรือไงกัน ว่าวันนี้วันอะไร  

     

                    ซีวอนยังคงนั่งเงียบยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม ประดุจไม่ได้ยินเสียงของคนรัก จนร่างบางเริ่มใจเสียเดินกลับเข้าไปในห้อง ก่อนจะส่งเสียงถามสิ่งที่เขาพึ่งทำลงไป “ซีวอนทิ้งดอกไม้ของฮีชอลทำไม”

     

                    “ฮีชอลสนใจด้วยหรอว่ามันจะเป็นยังไง ผมเห็นมันวางทิ้งไว้หน้าห้องหนึ่งช่อ ไม่มีใครสนใจ เห็นรกๆ ก็เลยทิ้งไป” เพราะความเจ็บในใจมันทีทากกว่าที่จะเก็บไว้ ซีวอนจึงเผลอตวาดคนรัก ทั้งที่ไม่เคยแม้แต่เสียงดังใส่ จนแม้แต่ซีวอนเอง ยังตกใจกับสิ่งที่ทำลงไป แต่ในเวลานี้ คงไม่สามารถปลอบโยนใครได้...ในเมื่อยังเอาตัวเองไม่รอด

     

                    “ทำไมซีวอนพูดแบบนี้ ดอกไม้พวกนี้ซีวอนก็เป็นคนให้มาเองไม่ใช่หรือไง” น้ำตาหยดเล็กๆ กำลังเรียกร้องให้มือหนา เอื้อมไปเช็ด แต่เพราะทิฐิ ซีวอนจึงเกร็งมือไว้ข้างลำตัว ไม่ยอมให้มันทำในสิ่งที่ต้องการ

     

                    “ใช่ ผมให้เอง แต่ถ้าคนรับไม่เห็นค่าก็ทิ้งมันไปซะ” เสียงตะตอกดังทำให้คนฟังร้องไห้อย่างไม่สามารถหยุดได้ ยิ่งมองก็ยิ่งอยากปลอบ แต่น้ำตาในใจตัวเองยังไม่สามารถเช็ดได้เลย ผมขอโทษ ฮีชอล

     

                    “ทำไมจะไม่เห็นค่าหล่ะ ของที่ซีวอนให้มีความหมายกับฮีชอลเสมอนะ” เพราะความเสียใจทำให้ร่างบางเอาแต่หน้า ปล่อยให้น้ำตาร่วงสู่พื้น ซีวอนไม่อาจเห็นได้เลยว่าดวงตากลมโตที่มีแต่ความร่าเริง กำลังแปรเปลี่ยนเป็นความเศียใจหรือเปล่า

     

                    “งั้นรู้บ้างไหมว่าวันนี้วันอะไร ดอกไม้พวกนี้ส่งมาเนื่องในโอกาสอะไร” เพราะความน้อยใจที่กลับมาแล้วไม่เจอใคร ทั้งที่เป็นวันพิเศษสำหรับคู่รัก เพราะว่ากลับมาแล้วเจอดอกไม้ที่ส่งมาตอน15.18 ถูกทิ้งอยู่หน้าห้อง ไม่มีใครเหลียวแล เหมือนดอกไม้ที่ถืออยู่ในมือ ซีวอนจึงจัดการโยนดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ทั้งหมดลงถังขยะพร้อมข้อความเขียนขึ้น

     

                    “วันนี้วัน... วัน..” คำพูดติดอ่าง เหมือนหาตำตอบไม่ได้ ยิ่งทำให้ชายหนุ่มเสียใจ ที่ทำมาทั้งหมดมันคงไม่มีค่าอะไรเลย

     

                    “พอเหอะฮีชอล ถ้ามันนึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึก มันไม่ใช่วันพิเศษอะไรหรอก อย่าฝีนเลย ผมจะไปดูงานที่ยุโรปสักอาทิตย์ ถ้าฮีชอลอยู่ที่นี้ไม่ได้ จะกลับไปอยู่บ้านใหญ่ก็ได้ ผมขอตัวนะครับ” ก่อนที่ประคูจะปิดลงเหมือนว่าซีวอนจะเห็นคนรักทรุดลงกับพื้น แต่จะให้ทำอย่างไร ที่เขาต้องนั่งเพียงลำพังเมื่อตอนเย็น จะมีใครมาสงสารบ้างไหม 

     

                    ฮีชอล ผมขอเวลาสักอาทิตย์นะครับ แล้วทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมขอเวลาไปเอาความดำมืดในใจออกก่อน แล้วจะรีบกลับมา ฮีชอลรอผมนะครับ

             

             ซีวอนจะกลับมาเมื่อไหร่ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ฮีชอลเลย ยุ่งมากเลบหรอ

     

             ซีวอน ไม่คิดถึงฮีชอลหรือไง  แต่ฮีชอลคิดถึงซีวอนนะ

     

             ทำงานเหนื่อยหรือเปล่า กลับมาหาฮีชอลนะ

     

             กลับมานะ ฮีชอลไปอยู่บ้านใหญ่ก็ได้ ถ้าซีวอนไม่อยากเจอฮีชอลแล้ว

                   

             ซีวอน กลับมาได้ไหม  ฮีชอลขอโทษ กลับมาเหอะนะ

     

                    ข้อความจำนวนมากที่ค้างอยู่ในเครื่อง ข้อความที่มีประโยคใกล้เคียงกัน จากคนคนเดียวกันส่งมา ทุกข้อความเสียง ทุกเมสเสจ ชายหนุ่มได้รับ ได้อ่าน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เวลานี้ความโกรธ ความน้อยใจมันยังอยู่ครบถ้วนไม่หายไป แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้น คือ ความห่วงใย

     

                    ป่านนี้จะอยู่ยังไง

     

                    อยู่คนเดียวได้หรือเปล่า

     

                    และสุดท้าย...ฮีชอลครับผมขอโทษจริงๆ ผมรักฮีชอลนะ

     

                    ในที่สุด ที่ตั้งใจว่าจะอยู่ยุโรปสักสามอาทิตย์ แต่เพราะความรัก ความคิดถึง แค่เพียงอาทิตย์กว่าๆ ซีวอนก็ต้องเก็บข้าวของบินกลับไปหาที่รักปานดวงใจอย่างเร่งด่วน

               

     

                   ห้องที่ไม่อยู่เป็นอาทิตย์ ทั้งที่คิดไว้ว่าจะเจอคนรัก นั่งรอคอยอยู่เพียงลำพังด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา

     

                    ตั้งใจไว้ว่าจะปลอบให้หายเสียใจ จะคืนดีให้ความสุขกับมาอีกครั้ง

     

                    ตั้งใจว่าจะลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้น   

     

                    แต่นี้มันคืออะไร ทั้งห้องกลับเงียบและว่างเปล่า มีเพียงฮีบอมที่นอนรออยู่ท่ามกลางความสลัวของห้องที่แสงไม่อาจลอดผ่านม่านมาได้

     

                         ชายหนุ่มได้แต่คิดไปต่างๆนาๆ จนไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นที่ตรงไหนก่อน นึกโทษตัวเองที่ทำร้ายคนที่รักแบบนั้น ทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่าฮีชอลเปราะบางแค่ไหน หัวใจดวงน้อย มันช่างอ่อนไหวได้อย่างง่ายดาย แล้วยังจะทำอะไรแบบนี้อีก

     

     

              “ชายหนุ่มกดโทรศัพท์ไปที่บ้านใหญ่ รอสายเพียงไม่นาน แต่มันก็ยังไม่เร็วเท่าที่เขาต้องการ จนทำให้เผลอขึ้นเสียงกับคนรับ “ทำอะไรอยู่ ทำไมมารับช้า คุณฮีชอลอยู่ที่บ้านหรือเปล่า”

     

                    /อะไรกัน ซีวอน นี้แม่นะ/

     

                    “อ้าว แม่หรอครับ” ชายหนุ่มลดเสียงลงทันทีที่รู้ว่าใครเป็นผู้รับสาย แต่ถึงอย่างนั้นความโมโหก็ไม่ลดน้อยลงเลย “ฮีชอลไปที่บ้านหรือเปล่าครับ”

     

                    /ไม่ได้มาจ๊ะ มีอะไรหรือเปล่า ทะเลาะกันหรือลูก/

     

                    “ก็นิดหน่อยมั้งครับแม่ ผมไปยุโรปกลับมา ฮีชอลก็ไม่อยู่แล้ว ผมจะทำไงดีครับ”

     

    /ตาซีวอน! ทำไมทำแบบนี้ แล้วทิ้งให้ฮีชอลอยู่คนเดียวเป็นอาทิตย์ได้ไงกัน ป่านนี้ฮีชอลของแม่จะเป็นยังไงเนี้ย ไปอยู่ที่ไหนกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้น แม่เอาแกตายแน่/  น้ำเสียงอบอุ่นเปลี่ยนเป็นตะคอกด้วยความเป็นห่วงหลานชายที่รักยิ่งกว่าลูก เขาเลี้ยงฮีชอลมาอย่างดี ดูแลไม่ให้มีอะไรกระทบถึงจิตใจ ถึงจะเป็นคนที่ดูอ่อนไหวง่ายไปสักหน่อย อ่อนแอไปสักนิด แต่ก็เพราะตั้งใจไว้ว่าจะมอบให้คนที่รักฮีชอลมากพอมาดูแล ไม่คิดว่าคนที่วางใจ ซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆจะทำแบบนี้

     

              “แม่ก็อย่าคิดไปแง่ไม่ดีสิครับ ผมยิ่งใจเสียอยู่นะครับ งั้นก็แค่นี้ก่อนนะครับ ไว้ผมจะโทรหาอีกทีแล้วกัน” ชายหนุ่มวางสายจากมารดาทันที

     

                    ซีวอนหยิบกุญแจรถวางทิ้งไว้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ก่อนออกไปจากห้องขับรถตระเวนไปเรื่อยตามถนนต่างๆ สายตาคมแทบจะไม่จับอยู่ที่ถนนเลย มันคอยมองหาแต่ร่างบางที่คุ้นเคย เผื่อว่าจะเดินอยู่บนฟุตบาตสักที่ที่ขับผ่านไป

     

                    เป็นครั้งแรกที่ซีวอนขับรถเพียงลำพังด้วยความเร็วไม่เกินร้อย ในใจได้แต่คิดไปต่างๆไม่ต่างจากสิ่งที่แม่คิดไว้เลย

     

                    หวังว่า...พลาดแค่ครั้งเดียว...คงไม่ทำลายชีวิตทั้งชีวิตที่มีอยู่    

     

                    เย็นมากแล้วกว่าที่ชายหนุ่มจะกลับมาถึงห้อง คิ้วเข้มขมวดเข้ากัน มองรอบห้องด้วยความหวาดกลัว ไม่อยากคิดเลยว่าต่อไปจะเป็นยังไงถ้าหากไม่มีคนนั้นจริงๆ แต่แล้วร่างสูงก็ต้องหยุดความคิด เมื่อเสียง เปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างบาง ที่เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มสดใส        

     

                  “ฮีชอล ไปไหนมา ฮีชอล หายไปไหนมา ฮีชอลรู้ไหมว่าผมเป็นห่วงมากแค่ไหน” เพราะความเป็นห่วงกลายเป็นความโกรธชายหนุ่มจึงเผลอขึ้นเสียงอีกครั้ง

     

                    “อะไรซีวอน กลับมาก็ขึ้นเสียงใส่ฮีชอล ฮีชอลเหนื่อยมากแล้วนะ ถ้าไม่มีอะไร ขอไปอาบน้ำก่อนนะ” ร่างบางเดินผ่านหน้าชายหนุ่มไปอย่างไม่ใส่ใจ

     

                    ซีวอนยังคงสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ฮีชอลที่เคยอ่อนหวาน แต่วันนี้กลับ เมินเฉย ท่าทางที่ไม่ใส่ใจ ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน อยากจะรั้งเอาไว้ แต่มือที่ไร้เรี่ยวแรงมันยกขึ้นมาไม่ทัน จนได้แต่ปล่อยให้เดินผ่านไปด้วยความนิ่งงัน

     

                    ห้องที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะวันนี้กลับแปลกออกไป มันมีแต่ความอึดอัด ไร้เสียงพูดคุย ทั้งที่เป็นคนคู่เดิม ทั้งที่กลับมาอยู่พร้อมเพรียงกันอีกครั้ง

     

                    เตียงกว้างที่ไม่เคยใช้เนื้อที่เกินกว่าครึ่งเตียง เพราะคนสองคน มักจะนอนเบียดชิด รับไออุ่นของกันและกัน แต่วันนี้ ต่างคนต่างนอนจนแทบจะชิดขอบเตียงเหลือพื้นที่ตรงกลางไว้ให้ฮีบอมวิ่งเล่นหรืออย่างไร

     

                    ซีวอนอยากจะถามคนที่นอนหันหลังให้กันเหลือเกินว่า มันเกิดอะไรขึ้น หรือข้อความที่ได้รับเป็นเพียงแค่สิ่งที่ทำไป เพราะแค่นึกขึ้นได้ว่าไม่อยู่

     

                    หรือว่า เวลา แค่อาทิตย์กว่าๆ มันทำให้ฮีชอลรอ จนเหนื่อย และความรักมันหมดลงแล้ว

     

              อยากจะถามแต่ก็ไม่กล้า...เพราะกลัวคำตอบ

     

                    อยากจะกอดแต่ก็กลัว...หากอีกคนไม่เต็มใจจะอยู่ในอ้อมกอด ดั่งเช่นวันวาน

                    

                  เสียงแมวตัวน้อยร้องเป็นสัญญาณแทนนาฬิกาปลุกว่าถึงเวลาที่ต้องลืมตาตื่นมารับแสงแห่งใจกลางระบบสุริยะได้แล้ว เปลือกตาหนาค่อยๆลืมขึ้น มองไปที่ข้างๆ แต่กลับไม่พบคนที่ควรนอนอยู่ข้างๆ

     

                    ซีวอนลุกขึ้นจากเตียงเดินออกจากห้องนอน พบร่างบางกำลังจะเดินออกจากห้อง “ฮีชอลจะไปไหน”  เสียงที่ถามออกมาแม้แต่ชายหนุ่มเอง ยังแทบจำไม่ได้ มันแหบพร่าจนแทบไม่มีเสียง

     

                    “ไปธุระนิดหน่อยนะ คงกลับเย็น ไม่ต้องรอฮีชอลนะ” เสียงสดใสร่าเริง และรอยยิ้มที่มีอยุ่ทุกวันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาได้เลย

     

                    “ไปไหน บอกซีวอนได้ไหมครับ” ชายหนุ่มบอกด้วยเสียงหมดแรง เพราะความรักที่อยุ่มาด้วยตลอด ไม่เคยต้องยื้อ เมื่อถึงเวลามันจึงไม่รู้ต้องทำอย่างไร

     

                    “ฮีชอลขอไม่บอกนะ หลีกหน่อยสิ ฮีชอลรีบ” มือเล็กดันคนที่บังประตูอยู่ หากแต่ร่างสูงไม่เคลื่อนที่เลยสักนิด

     

                    “ฮีชอลไม่ไปได้ไหมครับ ไม่ถามก็ได้ว่าฮีชอลจะไปไหน กับใคร แต่แค่อยู่กับซีวอน อย่าให้ซีวอนต้องคิดว่าความรักของเรากำลังจะจบลง ความผูกพันตั้งแต่เด็กกำลังจะไม่มีความหมาย ขอร้องไห้ไหม คำพูดของฮีชอลเมื่อคืนมันทำให้ผมกลัว”

     

                    “อย่ากลัวเลยซีวอน ฮีชอลรักซีวอนนะ แล้วก็ดีใจมากด้วยที่วันนี้ซีวอนกลับมา  แล้วเมื่อคืนฮีชอลแค่เหนื่อยมากเท่านั้นเอง  ซีวอนอย่ากังวลเลย ขอฮีชอลไปนะ” ร่างบางพร้อมรอยยิ้มสดใส และคำมั่นทำให้ชายหนุ่มคลายใจ จนยอมเปิดประตูให้ร่างบางเดินจากไป

     

                    ห้องที่ไร้คนรักมันให้ความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวมากพียงไร ตอนนี้ชายหนุ่มรู้ซึ้งแล้ว ได้แค่พยายามรีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากบรรยากาศแสนเศร้าแบบนี้ให้เร็วที่สุดเท่านั้นเอง

                 

                    


     

                     บนตึกสูงในห้องทำงานของท่านรองประธานหนุ่มที่ตอนนี้จิตใจกำลังไม่อยู่กะเนื้อกะตัว นึกสงสัยในสิ่งที่เปลี่ยนไป บางอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาแค่อาทิตย์กว่าๆ

     

              ซีวอนละจากงานตรงหน้าที่ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มมีสมาธิขึ้นมาได้เลย ในเมื่อใจมันคอยคิดแต่เรื่องส่วนตัว ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของชีวิต ร้อยวันพันปีไม่เคยมี...นี้แหล่ะหน่า เขาว่างอนจนได้เรื่อง เฮ้อ!   

     

                    บนท้องถนนวุ่นวายที่สายตาชายหนุ่มจับจ้องอยู่จากบานกระจกใสชั้นสูงสุด ยังไม่ดูวุ่นวายเท่าเรื่องที่ตีกันอยู่ในใจ แต่แล้วสายตาแหลมคมก็ปะทะเข้ากับร่างบอบบางที่ตราตรึงอยู่ในใจ ชนิดที่แน่ใจว่าไม่มีทางดูผิดแน่ๆ

     

                      ก็เล่นเปล่งประกายความน่ารักขนาดนี้ ทั้งผิวขาวอมชมพู ใบหน้าหวาน และผมพลิ้วที่แกว่งไปมายามวิ่ง  ดูแล้วยังไงก็ไม่มีทางเป็นใครคนอื่นได้แน่

     

              ชายหนุ่มรีบวิ่งออกจากห้องทำงานไม่สนใจใครต่อที่ดูจะตกใจกับท่าทางร้อนรนของท่านรองประธาน ซีวอนเร่งกดปุ่มลิฟต์ แม้จะรู้ว่าต่อให้กดถี่และรัวเพียงใดก็ไม่ทำให้อะไรมันเร็วขึ้น ความเร็วของลิฟต์ทำให้ชายหนุ่ม วิ่งพล่านเป็นหนูติดลิฟต์ 

     

                    ผู้คนที่ขวักไขว่ไปมาไม่ทำให้ชายหนุ่มตาลาย ได้แต่มองหาร่างบางผู้เป็นที่รัก วิ่งไปตามท้องถนน มองซ้าย มองขวา ไม่มีใครเลยที่พอจะคล้ายร่างบางคนที่เขารัก 

     

              “ค๊อฟฟี่ช็อปเปิดใหม่นะคะ พบกับบลูเบอร์รี่ชีสราคาพิเศษพิเศษเพียงนำโบรชัวร์ร้านมาแสดง”

     

                       แผ่นกระดาษบางๆตกแต่งด้วยสีหวานหนึ่งแผ่นถูกยื่นมาตรง หน้าชายหนุ่มรับไปอย่างไม่คิดอะไรมากแต่แล้ว เพราะเห็นรูปสารพัดของหวานที่คนรักชอบ ถึงแม้ตอนนี้จะไม่เจอ แต่ยังไงซะกลับบ้านไปเขาก็คงจะได้รอยยิ้มจากคนเจ้าของดวงตากลมโตเป็นของตอบแทน

     

              ชายหนุ่มที่เลิกมองหาคนรักเพราะคิดว่าความคิดถึงทำให้ตาฝาดไปเอง เดินไปตามทางที่เขียนไว้ในแผนที่ จนกระทั่งพบกับร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิค

     

                    ซีวอนเดินเข้าไปนั่งในมุมที่เงียบที่ไร้เสียงจอแจ เพียงไม่นานก็มีพนักงานในชุดฟอร์มเสื้อเชิ้ตขาวและผ้าคลุมสีแดงเดินเข้ามา

     

                    “รับกาแฟอะไรครับ”

     

                    เสียงหวานที่ได้ยิน ทำให้ชายหนุ่มต้องละสายตาจากเมนูที่วางไว้ทั้งที่คิดว่าหูคงฟาดไปเอง แต่แล้วเมื่อเงยหน้าขึ้น ความจริงก็รออยู่

     

                    “ซีวอน”

     

                    “ฮีชอล”

                   

      To ~ Be ~ Con

                  

                   

     

    Talk

     

                    จบแบบคนเลวอีกแล้วคะ ตัดดังโชะ  แบบว่า  ไม่ไหวแล้วจริง  แถมยังดูอึนๆ เหมือนไม่ใช่โฮมด้วย 555  ก็ตอนนี้มีแต่เรื่องมากมาย

                    ดูแลตัวเองนะคะตอนนี้ บ้านเมืองยุ่งเหยิงวุ่นวาย

     

                    ตอนหน้า อาฟเตอร์ก็จะจบได้สักทีคะ ตอนนี้กำลังเร่งปั่น หลอดอยุ่ อุอู ยิ่งปั่นยิ่งเครียด ที่แน่ๆ ตายสามศพไปแล้ว ว่าแต่ในนี้มีใครอ่านหลอดหรือเปล่า 555

     

    ขอบคุณทุกคอมเม้มท์และทุกกำลังใจนะคะ

     

    Dr. Fu 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×