ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Home คำนี้ยิ่งกว่ารัก (woncin fiction)

    ลำดับตอนที่ #8 : Because of…Love… 100%

    • อัปเดตล่าสุด 24 ม.ค. 53


    Because of…Love…

     

                ช่วยด้วย ในความมืดของซอกตึกไร้แสงสว่างส่องเข้าถึง ผู้ชายหน้าตาหน้ากลัว แต่ท่าทางหน้ากลัวยิ่งกว่า 4-5คน ยืนล้อมร่างบางที่ไร้ทางสู้ ด้วยท่าทางของการข่มขู่

     

                    ใครจะมาช่วยหล่ะจ๊ะ ค่ำมืดแบบนี้ คุณแม่ไม่บอกไว้หรือไงว่าอย่าออกมานอกบ้านอ่ะ มามะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว มาสนุกกับพวกพี่ดีกว่า ใบหน้าน่ากลัวยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานที่กำลังร้องไห้ มือสากสัมผัสผิวเนียนนุ่มอย่างหื่นกระหาย

     

                    ออกไปนะ อย่าเข้ามา ช่วยด้วย มือเล็กปัดป้องตนเอง พลางกระถดถอยหนี จนหลังแนบชิดกำแพง น้ำตาไหลพรั่งพรูอย่างหวาดกลัวและไร้หนทางสู้

     

                    ทำไรกันหน่ะ เสียงหนึ่งดังแทรกมาจากด้านหลัง ประดุจเสียงจากสวรรค์ในความรู้สึกของร่างบาง มันทำให้มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

     

                    แล้วมายุ่งอะไรว่ะ ชายฉกรรณ์ที่ดูหน้ากลัวด้วยหนวดครึมเต็มใบหน้า แววตาที่ไม่ปิดบังความหื่นกระหาย และความโมโหที่ถูกขัดจังหวะ แต่เมื่อมันหันหน้ามาทางต้นเสียงก็ต้องตกตะลึงกับความน่ารัก น่าถนอมของร่างเล็กๆที่พอจะมองออกว่าเพศใด แต่ความน่ารักก็ไม่แพ้สาวน้อยที่ซุกตัวอยู่บนพื้น

     

    แล้วพวกคุณทำอะไรหล่ะ ปล่อยน้องเขาไปเหอะ ถ้าอยากได้เงิน เอาที่ผมก็ได้ แต่อย่าทำอะไรน้องคนนั้นเลย ดวงตากลมโตมองกลุ่มคนตรงหน้าด้วยความจริงจัง ก่อนจะส่งรอยยิ้มเป็นมิตรไปให้สาวน้อยที่ซุกตัวอยู่

     

    แหม พูดซะเพราะเชียว เงินพวกผมไม่อยากได้หรอกครับ พวกผมอยากได้ตัว คุณให้ได้ไหมหล่ะครับ หน้าหวานๆแบบนี้ นอนกับพวกผมสักคืนจะเป็นเกรียติอย่างยิ่งใหญ่เชียวมือสาบจาบจ้วงร่างบางด้วยการบีบบังคับให้รับสัมผัสจากปากหนา

     

    โอ้ย  เสียงร้องครางอย่างตกใจ เมื่อถูกคนหน้าหวานกัดลิ้น ที่ล่วงล้ำ จนถอนริมฝีปากแทบไม่ทัน

     

    เผลี้ยะ เสียงมือหนากระแทกเข้ากับใบหน้าหวานอย่างจัง จนปรากฏรอยแดงครบทั้งห้านิ้วบนแก้มเนียน ที่มุมปาดอิ่มยิ่งเจ่อบวม เลือดไหลซึมออกมา

     

    แม่งกูเห็นว่าหน้าสวยนะมึง ถึงไม่อยากทำ เป็นไงหล่ะ วอนมือกูสะ   มือหน้าเงื้อมือจะตบใบหน้าหวานอีกครั้ง หากแต่เสียงหว๋อของรถตำรวจที่ดังขึ้น ทำให้ทั้งหมดมองหน้ากัน ก่อนออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ทิ้งให้หนึ่งพลเมืองดี และอีกหนึ่งผู้เคราะห์ร้ายมองหน้าตากัน....ปุบปิบ..ปุบปิบ

     

    เอ่อ  เป็นอะไรหรือเปล่าครับร่างบางมองหญิงสาวที่ยังคงกลัวอยู่นิดๆ แต่ว่าก็มีรอยยิ้มให้คนใจดีที่เข้ามาช่วย  ผมชื่อ ฮีชอล คุณ....ไม่ต้องกลัวนะ

     

    ฉันชื่อยุนอาคะ  ขอบคุณที่ช่วยไว้นะคะ คุณเลยต้องมาเจ็บตัว เอะ เมื่กี้ฉันว่าได้ยินเสียงรถตำรวจ ทำไมเงียบไปแล้วหล่ะคะ สาวน้อยนามว่ายุนอา มองผู้ที่เขามาช่วยก่อนจะตกหลุมความหล่อ จนไม่อาจดึงสายตาออกจากชายหนุ่มได้

     

    ใบหน้าเรียวไร้หนวดเครา คิ้วโก่งได้รูป เสริมความแมนให้ใบหน้าด้วยรอยนิ้วและเลือดซิบๆมุมปาก

     

    โอ้ว!!!!! หล่อถูกใจ

     

    อ้อ เมื่อกี้เป็นเครื่องป้องกันตัวหล่ะครับ ชายหนุ่มยิ้มให้อย่างเขินๆกับสายตาหวานเชื่อมจากสาวน้อยตรงหน้า มันจะส่งเสียงคล้ายๆเสียงรถตำรวจแล้วก็จะโทรออกไปหาเบอร์โทรศัพท์ที่เราตั้งไว้  ฮีชอลหยิบเจ้าเครื่องที่ว่าออกมาให้ หญิงสาวดู 

     

    คุณยุนอา ไปทำแผลแล้วก็เปลี่ยวเสื้อที่ห้องผมก่อนไหมครับ เสียงอ่อนหวานแสนสุภาพที่ถามอย่างเป็นห่วงทำให้สาวน้อยพยักหน้าตอบแบบไม่คิด

     

    ถึงแม้คุณแม่จะสอนว่าห้ามไปไหนกับคนแปลกหน้า แต่ถ้าเป็นคนแปลกหน้าหน้าตาดี ว่าทีลูกเขย แม่คงไม่ว่ายุนอาใช่ไหมคะ!!!!

     

    แล้วบ้านคุณฮี... ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ถามสิ่งที่อยากรู้ มือถึอเครื่องบางของชายหนุ่มก็ส่งเสียงเพลงร้องเรียกความสนใจ

     

    ขอโทษนะครับชายหนุ่มผู้มีความอ่อนหวาน เอ่ยปากกับร่างบางก่อนจะกดรับสายที่เข้ามา ไม่ต้องมองก็รู้ว่าใคร ซีวอนมีอะไร

     

    (เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าฮีชอล) น้ำเสียงร้อนรนจากปลายสายเพราะความห่วงใย สร้างรอยยิ้มบนใบหน้าหวาน ให้รู้สึกอุ่นใจที่มีคนเป็นห่วง

     

    ไม่มีอะไรหรอก  ใกล้จะกลับหรือยังซีวอน เพราะไม่อยากให้น้องชายที่พ่วงตำแหน่งคนรักต้องเป็นห่วงร่างบางจึงตอบปฏิเสธ 

     

    (ใกล้แล้วครับ เดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะครับที่รักของซีวอน)  

     

    ร่างบางที่ได้รับคำหวานหันมายิ้มให้หญิงสาวที่เดินเคียงกันมาหลังจากที่วางสายไป เมื่อกี้จะถามอะไรหรือครับ

     

    อ้อ ไม่มีอะไรหรอกคะ หญิงสาวที่หลงไปกับรอยยิ้มแสนหวานได้แต่แอบเพ้อในใจ ตลอดทางที่เดินตามชายหนุ่มไป ก็ลอบชำเลืองไปตลอดเวลา 

     


       

    ห้องกว้างขวางที่เป็นระเบียบตกแต่งแบบเรียบง่าย มีแมวตัวน้อยนอนรออยู่ ยิ่งทำให้ยุนอาหลงรักชายหนุ่มร่างบางคนนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น คนอะไรหน้าตาดี แล้วยังใจดี

     

    หญิงสาวมองไปรอบๆเพื่อหารูปหญิงสาวสักคนที่อาจเป็นศัตรูหัวใจ แต่มองเท่าไหร่ก็ยังไม่หาเจอสักคน ที่เห็นก็มีแต่ผู้ชายหน้าตาคุ้นๆ ที่ดูโหดสุดๆ หาความหล่อไม่มี แล้วยังจะหุ่นที่แสนจะล้ำเกินความจำเป็น ช่างไม่เหมาะสมกับการยืนถ่ายรูปคู่กับคุณฮีชอลของยุนอาเลย   

     

    ผู้ชายแสนอบอุ่นใจดีคนนี้ ต้องคู่กับผู้หญิงสดใสร่าเริง อย่างยุนอา...เท่านั้น!!!!!

     

    คุณฮีชอลอยู่ห้องกว้างๆแบบนี้กับแมวแค่ตัวเดียวไม่เหงาหรือคะ ร่างบางมองไปรอบๆ ก่อนจะลงที่โซฟาเพื่อทายาแก้ฟกช้ำ

     

    อ้อ ไม่เหงาหรอกครับ ผมอยู่กับ...เอ่อร่างบางหยุดนิ่งคิดว่าควรจะบอกหญิงสาวว่าอย่างไรดีกับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ซึ่งบางทีอาจมีคนที่รับไม่ได้  กับน้องชายครับ ส่งยิ้มละลายใจไปให้สาวน้อย พอใจกับคำตอบที่นึกได้ 

     

    ก็เป็นพี่น้องกันจริงๆนี้หน่า

     

    ดูอบอุ่นดีนะคะ อยู่กันพี่ๆน้องๆ  คำพูดของหญิงสาวทำให้ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงเรื่อ ห้องนี้อบอุ่นก็จริง แต่มันไม่ได้อบอุ่นเพราะความเป็นพี่น้องเลยสักนิด

     

    ไม่มีวันไหนที่ซีวอนจะคิดว่าฮีชอลเป็น...พี่ชาย

     

    และไม่มีวันไหนที่ฮีชอลจะคิดว่าซีวอนเป็น...น้องชาย

     

    เอ่อ..ครับ ก็..อบอุ่นดี  รอยยิ้มที่หนุ่มร่างบางขยันส่งให้หญิงสาวมันยิ่งละลายใจคนเห็นให้เพ้อจนแทบคลั่ง นี้ขนาดเป็นแค่รอยยิ้มเป็นมิตรทั่วไปยังขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นรอยยิ้มที่ฮีชอลมีไว้เพื่อซีวอนเท่านั้น หญิงสาวคงยอมมอบกายถวายใจให้ทันที....หากว่าฮีชอลจะอยากได้

     

    คุณฮีชอลมีแฟนหรือยังคะ คำถามตรงประเด็นที่สุดหลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่มที่เคลือบลิปกรอสสีหวาน  ทำให้ฮีชอลหลุดยิ้มอย่างอายๆ

     

    จะให้บอกได้อย่างไร ว่าก็น้องชายที่อยู่ด้วยกันนั้น พ่วงตำแหน่งคนรักเอาไว้

     

    ผมยังไม่แฟนหรอกครับ  จะมีก็แต่คนที่รักสุดหัวใจ เอ่อ ผมขอตัวเข้าไปหาเสื้อผ้าให้คุณเปลี่ยนก่อนนะครับ

     

    ฮีชอลเดินเข้าไปหาเสื้อผ้าเปลี่ยนให้หญิงสาว ซึ่งก็ไม่พ้นต้องเป็นเสื้อและกางเกงของตนเอง เพราะจะให้ใส่ของคนรักก็คงจะไม่ได้ ก็ซีวอนตัวใหญ่ขนาดนั้น เสื้อยืดตัวสบายๆกับกางเกงขาสี่ส่วนถูกนำมายื่นให้หญิงสาว เปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำก่อนก็ได้ครับ ให้คุณกลับทั้งชุดนี้คงดูไม่ดี

     

    ขอบคุณคะ  ร่างบางคงไม่รู้เลยว่าตอนนี้คะแนนหัวใจที่หญิงสาวมันกำลังทะลุปรอทวัดออกไป เกินจะรั้งไว้ได้  คนสุดแสนจะเพอร์เฟ็คขนาดนี้ยังไม่มีแฟน แล้วอิม ยุนอา จะปล่อยเอาไว้ทำไม

     

    คุณฮีชอลขา เตรียมตัว เตรียมใจ เป็นสุดที่รักของยุนอาเถอะคะ  สิ่งที่หญิงสาวคิดในใจ..หากซีวอนได้รุ้ ยุนอา อาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เป็นแน่….!!!!

     

    เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว ยุนอาก็หันมาวุ่นวายกับชายหนุ่มอีกครั้ง คุณฮีชอลคะ แผลที่หน้าคุณ ให้ฉันทายาให้ไหมคะ แล้วยังที่มุมปาก อีก มาคะจะได้ไม่เป็นแผลเป็น เดี๋ยวหน้าหล่อๆจะมีรอยประโยคหลังหญิงสาวพูดกับตัวเองเพียงเบาๆไม่ให้ใครได้ยิน

     

    นิ้วบางแตะเบาๆบนมุมปากเล็กของชายหนุ่มอย่างตื่นเต้น  เกิดมาเป็นสาวเป็นนางไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายที่ไหนขนาดนี้ อ๊ากกกกกกก  ความขาวมันช่างบาดใจ  อยากประทับตราเป็นเจ้าของ บนความขาว รอยแดงๆบนอก คงดีไม่น้อย

     

    ก่อนที่ความคิดเพ้อฝันของผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารักจะล่องลอยไปไกล เสียงเปิดประตูอย่างรุนแรงก็ดังขึ้น ขัดบรรยากาศแสนหวานในความคิดของหญิงสาว

     

    “ฮีชอล เป็นยังไงมั่ง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ซีวอนที่เปิดประตูเข้ามาอย่างร้อนรนเดินเข้าไปหาร่างบางก่อนจะเพ่งมองใบหน้าหวานอย่างสำรวจ นิ้วมือหนาลูบไล้บนร่องรอยแผลอย่างแผ่วเบา สีหน้ามีแต่ความโกรธแค้น

     

    “ฮีชอลไม่เป็นไรแล้วหล่ะ อย่าทำหน้าเครียดแบบนั้นสิ หน้าตาแบบนี้ น่ากลัวกว่าพวกที่ต่อยฮีชอลอีก” มือบางจับสองข้างแก้มของใบหน้าคม แล้วตึงออกให้ใบหน้าโหดกลายเป็นรอยยิ้ม อย่างที่เป็น ก่อนจะโผเข้าซบอ้อมอกอุ่น เพื่อเอาใจคนรัก โดยลืมไปว่า ในห้องยังมีบุคคลที่สามอยู่

     

    ยุนอาที่ถูกชายหนุ่มร่างบางน่าถนอมลืมไปชั่วขณะ และถูกชายหนุ่มร่างสูง หน้าตาดีมองไม่เห็น บัดนี้ลงมานั่งที่พื้น เพราะโดนเบียดอย่างรุนแรงจนตกจากโซฟาโดยไม่รู้ตัว ได้แต่นั่งตะลึงมองผู้มาใหม่ที่ดูยังไงก็เหมือน ท่านรองประธาน ซีวอนอย่างกับฝาแฝด!!!

     

    “พวกมันเป็นใคร ฮีชอลจำหน้าได้หรือเปล่า” ชายหนุ่มถามคนรักเพื่อหวังจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุก กับคนที่กล้ามาทำร้ายคนที่เขารัก เรื่องนี้จะไม่มีทางจบลงง่ายๆแน่นอน

     

    “จำไม่ได้หรอก มันมืด ซีวอนอย่าไปสนใจเลยนะ ฮีชอลก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย นะๆๆ” ใบหน้าหวานถูไถเข้าที่บ่ากว้าง เลียนแบบท่าทางมาจากฮีบอม ลูกรัก “อีกอย่าง น้องยุนอาก็ทายาให้แล้วด้วยไม่เป็นไรหรอก”

     

    “ใคร?? น้องยุนอาของฮีชอลหน่ะ” ชายหนุ่มถามเสียงเข้มกว่าเดิมทันที่ได้ยินชื่อบุคคลที่สามที่ไม่คุ้นหู ความหึงหวงแล่นเข้ามาทันที สายตาคมดุ มองยังแผลริมฝีปากอิ่มที่เห็นว่าได้รับการทายามาอย่างดี

     

    “ก็น้องที่ฮีชอลช่วยไง แล้วฮีชอลก็ให้น้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นี้ น้องเขาเลยทายาให้ ฮีชอล  แล้วน้องหายไปไหนแล้ว เพราะซีวอนนั้นแหล่ะเสียงดัง มีแต่คนกลัวเห็นไหม สงสัยอยู่ที่บริษัทต้องเอาแต่เสียงดังแน่ๆ” ร่างบางที่เหมือนจะนึกถึงบุคคลที่สามหากแต่ก็ลงท้ายด้วยการกล่าวหาชายหนุ่มอีกครั้ง

     

    “ฮีชอล พาคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านหรือไง  ไว้ใจได้ที่ไหน เกิดทำอะไรฮีชอลขึ้นมาจะทำยังไง ซีวอนเคยอกไม่ใช่หรอ ว่าอย่าไว้ใจใคร” เพราะความเป็นห่วงคนรักที่ใสซื่อทำให้เผลอขึ้นเสียง จนใบดวงตาหวาน เหมือนเริ่มมีน้ำตาคลอ จนชายหนุ่มรู้สึกผิด “อย่าร้องไห้นะ ซีวอนขอโทษ ไม่ได้จะว่าฮีชอล แต่ซีวอนเป็นห่วง”

     

    “ฮีชอลโตพอจะรุ้นะว่าอะไรเป็นอะไร ทำไมซีวอนถึงพูดแบบนี้ อีกอย่างน้องยุนอาก็ไม่ใช่คนแบบนั้นด้วย น้องเขาน่าสงสาร ถูกคนพวกนั้นทำร้าย แล้วซีวอนยังคิดกับน้องเขาไม่ดีอีก” ร่างบางที่ถูกดึงเข้ามาอยุ่ในอ้อมอกอุ่น อาศัยเสื้อเชิ้ตตัวโตเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาเพราะความน้อยใจ

     

    “ถ้าซีวอนเจอน้องยุนอา ก็ต้องสงสารน้องเขาเหมือนฮีชอลแหล่ะ จริงๆนะ แล้วน้องอยู่ไหน เมื้อกี้ยังนั่งอยู่บนโซฟาอยุ่เลย”  ร่างบางดันตัวเองออกจากอ้อมกอด มองหาหญิงสาวผู้น่าสงสารก่อนจะเห็นนั่งอยู่ที่พื้น

     

    “ทำไมไปนั่งที่พื้นแบบนั้นหล่ะครับ” รอยยิ้มละมุนของร่างบาง เริ่มทำปฏิกิริยากับหัวใจของหญิงสาวอีกครั้ง โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ แต่คนที่รู้คือ ชายหนุ่มตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

    สายตาแบบที่ยุนอามองฮีชอลนั้น ถึงฮีชอลจะอ่านไม่ออก แต่ไม่มีทางรอดพ้นสายตาคมกล้าของซีวอนไปได้ ก็ในเมื่อสายตาแบบนี้ เป็นสายตาที่มองด้วยความหลงใหล ในแบบที่ซีวอนเองก็มีต่อฮีชอล

     

    “ก็คุณคนนั้นเข้ามาแล้วยุนอาตกใจ เลยหล่นจากโซฟาคะ” หญิงสาวกัดริมฝีปากตนเองเพื่อระงับความเขินอายที่ได้รับความห่วงใย จากชายหนุ่มแสนสุภาพหน้าตาดี ผู้เข้ามานั่งเล่นในหัวใจดวงน้อย

     

    ซีวอนนั่งมองพฤติกรรมของหญิงสาวอย่างไม่ชอบใจ ทั้งหน้าตา ทั้งท่าที ล้วนเปิดเผยแบบสุดๆถึงความรู้สึกในใจที่มี  และยิ่งไม่พอใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวอยู่ในเสื้อผ้าของฮีชอล ถึงฮีชอลจะไม่คิด แต่ยังไงผู้หญิงคนนี้ก็ต้องคิด แล้วมีหรือที่ผู้ชายอย่างซีวอนจะไม่คิด

     

    “อ้อ ขอโทษครับ ผมลืมแนะนำไป ซีวอน น้องคนนี้คือ ยุนอาผู้หญิงที่ฮีชอลเข้าไปช่วย” ร่างบางแนะนำหญิงสาวให้คนตัวโตที่เริ่มกลายร่างเป็นยักษ์ได้รู้จัก แม้จะสัมผัสได้ถึงความไม่พอในที่แผ่ออกมาก็ตาม

     

    “สวัสดี ฉันซีวอน เป็นสา...”

     

    “เป็นน้องชายของผมครับ” ร่างบางรีบพูดแทรกทันทีที่รู้ว่าชายหนุ่มข้างกายกำลังจะแนะนำตนเองในฐานะอะไร

     

    “อ่า สวัสดีคะ ท่านรองประธาน ดิฉัน ยุนอาเป็นประชาสัมพันธ์ของชเวกรุ๊ป ตอนแรกก็ว่าคุ้นหน้า ไม่นึกว่าจะใช่จริงๆด้วย ท่านรองมีพี่ชายที่ใจดีจริงๆเลยนะคะ” แถมหล่อสุดๆด้วย ประโยคหลังหญิงสาวได้แต่นึกในใจ ยังไม่กล้าบอกออกไป กลัวว่าจะถูกชายหนุ่มที่หมายปองมองว่าใจง่าย

     

    “งั้นหรอ นี้ดึกมากแล้ว จะกลับได้หรือยัง”  น้ำเสียงเข้มๆเอ่ยไล่หญิงสาวอย่างไม่ปิดบัง จนร่างบางหันมามองอย่างไม่พอใจนิดๆ

     

    วันนี้ซีวอนเป็นอะไร กลับมาถึงก็เอาแต่หงุดหงิด....?

     

    “งั้นลาเลยหล่ะกันนะคะ ขอบคุณคุณฮีชอลมากๆสำหรับเสื้อผ้า แล้วก็ที่เสี่ยงช่วยฉันไว้ ขอบคุณจริงๆนะคะ แล้วฉันจะเอาเสื้อผ้ามาคืนให้นะคะ” หญิงสาวก้าวเข้าไปก้มโค้งขอบคุณชายหนุ่มใกล้ๆ หวังใกล้ชิดครั้งสุดท้ายก่อนกลับบ้าน

     

     “ท่านรองคะ ดิฉันลาก่อนนะคะ วันนี้ดิฉันเป็นพนักงานในริษัท แต่วันหน้าดิฉันจะเป็นพี่สะใภ้ของท่านรองให้ได้ ฝากตัวด้วยนะคะ” ประโยคหลังๆหญิงสาวลดเสียงลงมาให้ได้ยินเพียงแค่สองคนเท่านั้น ส่วนคนที่ได้ยินได้แต่กัดฟันจนขึ้นสันกรามนูน บนใบหน้า

     

    หลังการจากไปของหญิงสาวศัตรูหัวใจ ชายหนุ่มจึงหันมามองหน้าหวานๆของคนรัก นิ้วเรียวลูบลงบนแผลอย่างแผ่วเบา “พรุ่งนี้ซีวอนพาไปหาหมอนะ”

     

    “ไม่เอา ไม่ไปนะซีวอน ฮีชอลไม่อยากไปหาหมอ”  ร่างบางเริ่มอ้อนชายหนุ่มอีกครั้ง ลืมไปแล้วว่าตนเองเป็นพี่ชายของร่างสูง

     

    “ไม่เลย ไม่ต้องมาอ้อน เมื่อกี้ยังบอกอยู่เลยว่าเป็นพี่ชายของซีวอน เป็นพี่แล้วจะมาอ้อนน้องได้ยังไง” ชายหนุ่มพยายามแข็งใจกับท่าทางน่ารักๆ ของคนรัก

     

    “อ่า ซีวอนอ่ะ ก็ซีวอนจะพูดอะไรหล่ะ ไม่รุ้แหล่ะยังไงๆก็จะไม่ไปหาหมอ” ร่างบางออกอาการงอนอีกครั้งกับความใจร้ายของชายหนุ่ม

     

    “โอ๋ๆ อย่างอนนะครับ ไม่ไปหาหมอก็ได้ แต่ต้องให้ซีวอนดูว่ามีแผลที่ไหนอีกบ้างตกลงไหม” ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอที่ร่างบางรีบพยักหน้ารับทันที โดยไม่ต้องคิด ก็แผลหน่ะ มันมีแค่ที่หน้าอย่างเดียวเท่านั้น

     

    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันที....ยังไงๆ เจ้าหญิงก็ไม่มีทางทันความเจ้าเล่ห์ของสิงโตเจ้าป่า

     

    คุณหมอซีวอนบรรจงตรวจแผลด้วยริมฝีปากอย่างทะนุถนอม  ไล้ดมดอมกลิ่นหวานของร่างบาง ก่อนจะประทับตราสีหวานบนคอสวย ประกาศความเป็นเจ้าของให้ทุกคนได้รู้ และกว่าที่คนไข้จะทันได้รู้ตัว ก็มาอยู่บนเตียงตรวจไข้เสียแล้ว

     

    ค่ำคืนนี้ถึงแม้จะมีเสียงหวานประท้วงว่าคุณหมอขี้โกง แต่สุดท้าย คนไข้ก็ให้ความร่วมมือกับคุณหมอจนเพลียหลับไป ปล่อยให้หมอหนุ่มนอนมองความสวยงามและอ่อนโยนของคนในอ้อมกอด

     

    “ฮึ ฮึ คิดจะเป็นพี่สะใภ้ฉัน ไม่มีทางได้เป็นหรอก สาวน้อย” 


    “อิม ยุนอา แผนกประชาสัมพันธ์ เชิญ พบท่านรองประธานด้วยคะ” เสียงประกาศที่ดังทั่วชั้นของแผนกประชาสัมพันธ์ยามเช้า ทำให้สาวน้อย สาวใหญ่ เหลียวมามองสาวน้อยร่างบางที่กำลังช็อคกับคำสั่งของท่านรอง

     

    “ตายแล้ว ยุนอาเธอไปทำอะไรให้ท่านรองโกรธหรือเปล่า” ยูริที่โต๊ะทำงานอยู่ติดกันหันมาถามเพื่อนสาวอย่างกังวล เป็นที่รู้กันว่าท่านรองคนใหม่ เป็นคนเคร่งเรื่องงานแบบสุดๆ เกิดข้อผิดพลาดแม้แต่นิดก็ไม่ได้

     

    “ไม่หรอกมั้ง อย่างพวกเราไม่ต้องยุ่งกับฝ่ายบริหารระดับสูงขนาดนั้นหรอก ฉันว่า....”ฮโยยอนเดินเข้ามาร่วมวงด้วยอีกคน มองหน้าเพื่อนที่ถูกเรียกตัวอย่าพิจารณา “ท่านรองอาจจะชอบยุนอา ก็เลยเรียกไปคุยเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า?” เสียงสูงแหลมทำหน้ายิ้มมีความสุข กับความคิดของตนเอง

     

    “เออ นั่นสิ นี้ยุนอา ถ้าท่านรองขอเป็นแฟนก็รีบตกลงเลยนะ ผู้ชายสุดแสนจะเพอรืเฟคขนาดนี้ หาไม่ได้ง่ายๆนะ คนอะไรก็ไม่รู้ หล่อก็หล่อ รวยก็รวย แถมฉลาดอีก  ฉันยังแอบมองตั้งหลายครั้ง” ยูริทำท่าเคลิ้มฝันถึงเจ้านายสุดหล่อที่นานๆจะได้เห็นสักที

     

    “นั่นสิ ไม่เจ้าชู้ด้วย วันๆเอาแต่ทำงาน ไม่เคยมีข่าวควงใครเลย คนแบบนี้นะใครได้ไป โชคดีตายเลย” ฮโยยอน พยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนสุดฤทธิ์ กะว่า ถ้าชายหนุ่มขอเป็นแฟนกับเพื่อนจริงๆ จะเชียร์สุดใจขาดดิ้นเลยทีเดียว

     

    “พวกเธอนี้ บ้ากันไปใหญ่แล้ว คนอย่างท่านรองอ่ะนะ ไม่มีทางหรอก อย่างคนนั้นอ่ะนะ ต้องพวกนางแบบเท่านั้นหล่ะมั้ง อีกอย่างฉันก็มีแฟนแล้วด้วย ไปหล่ะ ท่านรองเรียกตั้งนานแล้ว เดี๋ยวจะโกรธเอา” หญิงสาวลุกจากเก้าอี้ก่อนที่เพื่อเคยมีนอีกสองคนจะหายจากตกตะลึง

     

    ก็อยู่ดีๆ เล่นบอกออกมาโต้งๆว่ามีแฟนแล้วทั้งที่ไม่เคยมีวี่แววอะไรทั้งนั้น

     

    ส่วนหญิงสาวผู้สร้างความตกตะลึงให้แก่เพื่อนๆก็ได้แต่เดินยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อนึกถึงใบหน้าแสนหล่อของชายหนุ่มร่างบาง นาม ฮีชอล!!!

     

    “ขอโทษคะ ดิฉัน อิม ยุนอา ที่ท่านรองเรียกพบคะ” หญิงสาวแนะนำตัวเองกับเลขาวักลางคนหน้าห้องท่านรองอย่างที่ควรทำ

     

    “อ่า เชิญเลยคะ ท่านกำลังรอคุณอยู่ แต่ว่า ทำใจนิดหนึ่งนะคะ ตอนนี้ ท่านรองอารมณ์กำลังไม่ดี” รอยยิ้มพร้อมความห่วงใยและคำเตือนถูกส่งมาให้ ก่อนที่เธอจะเดินนำสาวน้อย เข้าไปในห้องที่บรรยากาศอึมครึมเพราะอารมณ์เจ้าของห้อง

     

    เสียงเคาะห้องเรียกชายหนุ่มให้เงยหน้าขึ้นมองหน้าผู้เข้ามาใหม่ ใบหน้าคมเรียบเฉย ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ แต่สำหรับเลขาที่ทำงานด้วยกัน ก็พอจะรู้ว่าอารมณ์แบบนี้แหล่ะที่น่ากลัว “คุณออกไปก่อน ถ้าผมไม่ได้เรียก ก็ไม่ต้องเข้ามา” หญิงกลางคนรีบรับคำอย่างยินดี บรรยากาศแบบนี้ใครอยากจะอยู่นาน

     

    “ส่วนเธอ นั่งลงก่อนสิ รู้ไหมฉันเรียกเธอขึ้นมาพบทำไม” เสียบเรียบๆเฉยชา ทำให้ร่างบางนึกเปรียบเทียบท่านรองสุดโหดกับพี่ชายผู้แสนใจดี

     

    “ไม่ทราบคะ” ร่างบางส่ายหน้าบอกตามความจริง พูดให้สั้นที่สุด ตอบให้ตรง ไม่อยากกะตุ้นต่อมโมโหของคนหน้าตาดี ถึงแม้จะไม่เคยทำงานร่วมกัน แต่ก็พอได้ยินข่าวลือเรื่องความโหดมาบ้าง

     

    “ฉันต้องการจะคุยกับเธอเรื่องฮีชอล” ชื่อร่างบางที่เอ่ยถึง ทำให้รังศีพิฆาตที่แผ่ออกมาจากตัวชายหนุ่มเจือจางลง แต่ก็เพียงแค่ชั่วแวบเท่านั้น ก่อนกลับสู่สภาพเดิม ให้หญิงสาวได้นั่งตัวเกร็งต่อไป

     

     “ท่านรองจะฝากฝังพี่ชายกับดิฉันหรือคะ” แม้จะเกร็ง แต่เพราะความดีใจที่ชายหนุ่มเอ่ยถึงหนุ่มในดวงใจ ทำให้เผลออดตื่นเต้น ลืมความกลัวและบรรยากาศรอบๆตัว

     

    “ดูเธอจะฝันเฝื่องมากเลยนะ ถึงขนาดคิดว่าฉันจะยอมฝากฮีชอลให้เธอดูแลเลยหรือไง” คนที่เหนือกว่าในทุกด้านอย่างซีวอนมองหญิงสาวด้วยดวงตาหรี่ลงอย่างประเมินค่า

     

    “ฉันไม่ได้ฝันคะ สิ่งที่ฉันต้องการ ฉันต้องทำให้ได้ และไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉันก็จะเป็นพี่สะใภ้ของคุณให้ได้” เพราะไม่พอใจสายตาของชายหนุ่มทำให้คำสรรพนามที่ใช้ของยุนอาเริ่มเปลี่ยนไป บรรยากาศภายในห้องเริ่มเต็มไปด้วยการฟาดฟัน

     

    “เธอคิดว่าดีพอสำหรับฮีชอลหรือไง”

     

    “ฉันมีดีอย่างที่ตัวฉันเป็น และถึงจะดีไม่พอ ฉันก็จะทำให้ดีพอ ขอตัวนะคะ” หญิงสาวลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ โค้งลาในฐานะพนักงานที่กระทำต่อผู้บริหาร หากแต่สายตากลับมองซีวอนในฐานะของศัตรู

     

    “เหนื่อยเปล่า อย่าพยายามเลย อย่างเธอไม่มีทางดีพอสำหรับฮีชอล แล้วก็เรื่องจะเป็นพี่สะใภ้ฉันเลิกเถอะ แค่เธอคิดก็ผิดแล้ว อีกอย่างฉันไม่ต้องการพี่สะใภ้” คำพูดที่หยุดหญิงสาวให้ชะงักทั้งๆที่ๆกำลังจะเปิดประตูออกไป แต่กลับต้องหันกลับมาจ้องหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง

     

    ““ผิดหรือไม่ผิด ดีพอหรือไม่ คือคุณฮีชอลที่จะตัดสิน ไม่ใช่คุณคะท่านรองประธาน ชเว ซีวอน แล้วเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของคนสองคน ถึงคุณจะไม่ต้องการ ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณฮีชอลไม่ต้องการ” สายตาเฉือดเชือน ที่แล่นข้ามห้องไปมา ยิ่งเพิ่มความน่าสะพรึงกลัวให้ห้องนี้

     

    รอยยิ้มบนใบหน้าคมเยาะเย้ยคำพูดของหญิงสาว “ฮีชอลไม่มีทางอยากมีเมีย” ซีวอนเพียงแค่พูดอย่างแผ่วเบา แต่ก็จงใจให้หญิงสาวในห้องได้ยิน ตอนนี้ใบหน้าคม แต้มด้วยรอยยิ้มขัดกับแววตา

     

    “คุณเป็นแค่น้อง ไม่ได้แปลว่าคุณจะรู้ใจพี่ชายตัวเองไปทุกอย่าง อย่าฝืนเลยคะ ยิ่งคุณทำแบบนี้ ยิ่งทำให้ฉันรักคุณฮีชอล และยิ่งสงสารที่คุณฮีชอลมีน้องชายแบบคุณ” หลังจบประโยค หญิงสาวก็ไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น

     

    “ฮีชอลเป็นเมียฉัน” เพียงประโยคสั้นที่หยุดการเคลื่อนไหวของหญิงสาวได้อีกครั้ง

     

    ประโยคสั้นๆ กับเสียงเรียบๆ ที่บ่งบองชัยชนะของซีวอน

     

    “ฉันไม่เชื่อ คุณฮีชอลบอกกับฉันเองว่าคุณเป็นน้องชาย” ยุนอาหันมามองหน้ารองประธานบริษัทที่นั่งอย่างสบายใจ

     

    “แล้วไง”

     

    ประโยคคำถามสั้นๆ ทำให้ยุนอาอึกอักเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยเสียงสั่นๆ อย่างไม่มั่นใจ“แล้ว...แล้ว..คุณกำลังหลอกฉัน คุณไม่อยากให้พี่ชายตัวเองมีคนรัก เลยพูดแบบนี้”

     

    “งั้นหรอ ฉันก็พึ่งจะรู้ พี่น้องเขาทำกันแบบนี้ด้วย” ชายหนุ่มมองมือถือเครื่องบางที่อยู่ในมือ พร้อมๆกับรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน และมีความสุขจนหญิงสาวแปลกใจ   

     

    “ทำอะไร” หญิงสาวมองสิ่งที่อยู่ในมือเจ้านายอย่างหวาดระแวง ลืมแม้แต่คำสุภาพที่ควรใช้

     

    “อยากรู้จริงๆหรอ” เสียงของชายหนุ่มที่บ่งบอกว่าถือไพ่เหนือกว่า ทำให้หญิงสาวพยักหน้า เพราะอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มมีสีหน้าและรอยยิ้มที่อบอุ่นขนาดนี้

     

    มือหนากดเปิดเสียงมือถือเครื่องบางในมือให้เล่นเสียงที่อัดไว้ตามที่หญิงสาวต้องการ พร้อมรอยยิ้มของผู้ชนะ

     

    อ๊ะ...เสียงหวานเครือแผ่วเบา

     

    หยะ อย่ามองนะ

     

    ทำไมล่ะ น่าดูออกจะตาย

     

    อึก อือ..อ๊า!!”

     

    ไม่ไหวแล้ว...ซีวอน...จะออก...อือ

     

    “หยุด พอได้แล้ว” หญิงสาวตะโกนอย่างเหลืออดกับสิ่งที่ได้ยิน ทำให้ชายหนุ่มยอมกดปิดเสียงทั้งๆที่ๆกำลังฟังเพลิน และก็เหลืออีกแค่ไม่เท่าไหร่ก้จะจบแล้ว

     

    ใบหน้าแดงกล่ำของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มได้แต่มองอย่าพอใจ “คุณใช้กำลังบังคับคุณฮีชอล  ยังไง ฉันก็ไม่เลิกรักคุณฮีชอลหรอกนะ”

     

    “หรอ เธอนี้ดื้อจริงๆเลย งั้นก็ลองฟังอันนี้ดู” ชายเปิดเสียงให้เล่นอีกครั้งให้จบ 

     

    ฮีซอล รักนะ

     

    “รัก ซีวอน”

     

    เสียงหวานที่ทั้งเหนื่อยล้าและอ่อนแรง หากแต่ก็ดูมีความสุขจนหญิงสาวยังต้องยอมรับ

     

    “แล้วแต่เธอจะคิดนะ ที่ฉันเปิดให้ฟังเพื่อที่จะบอกกับว่า อย่ามาวุ่นวายกับฮีชอลอีก ฉันเตือนเธอแล้ว ถ้าเธอไม่ฟัง ก็ระวังจะเดือดร้อนไม่รู้ตัว เพราะคนที่ฉันรัก ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อรักษาเขาเอาไว้ ออกไปได้แล้ว”

     

    หลังจากที่หญิงสาวเดินออกจากห้อง รองประธานหนุ่มกดเปิดคลิปเสียงอีกครั้ง พร้อมกับนั่งฟังอย่างมีความสุข บรรยากาศในห้องแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูอย่างรวดเร็ว

     

    คลิปเสียงที่ถูกเล่นซ้ำไปซ้ำมาเป็นเหตุการณ์จากเมื่อคืนที่ซีวอนคิดไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องใช้เพื่อป้องกันศัตรูหัวใจคนใหม่ แต่ไม่นึกเลยว่าจะมีประโยชน์ ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ด้วย สงสัยว่าคงต้องเก็บอย่างมิดชิด จากที่ตั้งใจว่าใช้เสร็จจะลบทิ้ง

     

    ยุนอาที่เดินอารมณ์เสียออกมาจากห้อง ไม่มีอารมณ์ตอบคำถามเพื่อนสาวทั้งสองที่ถามเรื่องของท่านรองประธานหนุ่มจนกระทั่ง....

     

    “ยุนอาเรื่องอื่นเธอไม่ตอบฉันไม่ว่า แต่เรื่องที่เธอมีแฟนแล้วนี้ เล่ามาเลยนะ” ยูริถามเรื่องที่ยังคั่งค้างอยู่ในใจตั้งแต่ก่อนที่เพื่อนจะขึ้นไปที่ห้องรองประธานบริษัท

     

     คำถามของเพื่อนสนิท ทำให้หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้ “แฟน ฉันชื่อ ฮีชอล เป็นพี่ชายรองประธาน”

     

    “เฮ้ย ไม่จริงอ่ะ ฉันไม่เชื่อ” ทั้งสองคนส่ายหน้าเป็นการใหญ่ ไม่เคยรู้ว่าท่านประธานจะมีลูกอีกคนที่ไม่ใช่รองประธาน

     

    “จริงๆ ถ้าไม่เชื่อ วันเสาร์ ฉันจะพาไปเจอก็ได้ ถ้าจริง พวกเธอต้องเลี้ยงข้าวฉันทั้งอาทิตย์ ตกลงไหม” รอยยิ้มกริ่มของยุนอาทำให้เพื่อนสองคนมองหน้ากันด้วยความวิตก

     

    “แล้วถ้าไม่จริงหล่ะ”

     

    “ฉันเลี้ยงข้าวพวกเธอสองอาทิตย์เลยก็ได้” หญิงสาวเอ่ยตอบอย่างมั่นใจ เพื่อนทั้งสองจึงยอมพยักหน้าตกลง ตั้งใจรอให้ถึงวันเสาร์ที่จะถึงนี้อย่างใจจดจ่อ





        

                     ชายหนุ่มร่างบอบบางที่กำลังมีความสุขกับการเลี้ยงลูกแมวต้องหันไปโทรศัพท์บ้านที่กำลังแผดเสียงร้องด้วยความแปลกใจ ก่อนจะเดินไปรับสายด้วยความสงสัย “สวัสดีครับ ผม ฮีชอลครับ”

     

                    “อ่า คุณฮีชอล นี้ยุนอานะคะ” เสียงหวานของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมา แม้ว่าเจ้าของรอยยิ้มจะมองไม่เห็นก็ตาม

     

                    “อ้อ ครับ น้องยุนอา มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถามด้วยเสียงใจดีอย่างที่เคยใช้กับหญิงสาวเป็นประจำ จนคนฟังเคลิ้มเกือบหลงลืมสิ่งที่ตั้งใจ

     

                    “คือว่าวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยง คุณฮีชอลว่างหรือเปล่าคะ” น้ำเสียงเศร้าๆของหญิงสาว มันช่างดูสิ้นหวัง จนคนฟังตกใจ

     

                    “ว่างครับ น้องยุนอามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมดูเสียงเศร้าๆ” ร่างบางถามหญิงสาวทางโทรศัพท์ น้ำเสียงที่ส่งผ่านมีความเจือปนอยู่ไม่น้อย จนคนฟังได้แต่ปลื้ม หากว่าเธอเศร้าอยู่จริงๆคงจะดีใจไม่ดีน้อย

     

                    “ไม่มีอะไรหรอกคะ คือว่า คือ...” เสียงที่เงียบหายไป ยิ่งทำให้คนฟังร้อนรนและเป็นห่วง “พรุ่งนี้ ยุนอาจะเอาเสื้อไปคืนให้คุณฮีชอลนะคะ ตอนเที่ยงพรุ่งนี้ว่างใช่ไหมคะ” เสียงสั่นสะอื้นนิดๆ จนเหมือนกำลังร้องไห้

     

                    “ว่างครับ น้องยุนอาอย่าร้องไห้นะครับ มีอะไรบอกผมได้นะ เอาเป็นว่าวันพรุ่งนี้ เราเจอกันนะครับที่ ร้านกาแฟชั้นล่างตึกชเว่กรุ๊ป ตกลงไหมครับ” แม้เพียงพึ่งเจอกันได้ไม่นาน แต่เพราะใจดีที่มีให้ทุกคน ทำให้ร่างบางเป็นห่วงหญิงสาวจากใจจริง

     

                    “คะ ขอบคุณมากนะค่ะ” เสียงที่ยังคงสั่นเครือจนกระทั่งวางสายไป ดูเหมือนว่าจะทำให้ร่างบางอยากเร่งวันเร่งคืนให้พรุ่งนี้มาถึงเร็วขึ้น เพระความเป็นห่วงหญิงสาว

                  ในร้านกาแฟยามบ่ายกลางย่านธุรกิจ มีผู้คนมากมายเข้ามานั่งผ่อนคลายอารมณ์ บ้างก็ดื่ม ดื่มกาแฟ หรือโกโก้ร้อนๆ ดับความเครียดที่ได้รับการงานในช่วงเช้า โต๊ะที่อยู่ด้านในเองก็ไม่ต่าง สองคนที่ดูบอบบางทั้งคู่กำลังนั่งคุยกันในบรรยากาศที่ดูเศร้าหมอง

     

    “นี้เสื้อของคุณฮีชอลคะ” น้ำเสียงแสนเศร้าที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีทำให้ชายหนุ่มร่างบางยิ่งเป็นห่วงหญิงสาวมากขึ้น ก้มมองเสื้อผ้าที่อยู่ในถุงก่อนจะกลับมาจ้องสีหน้าแสนซีดอีกครั้ง

     

    “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ น้องยุนอา ทำไมดูไม่สดใสเลย ไม่สบายหรือเปล่า ให้ผมพาไปหาหมอไหม หรือจะลางานช่วงบ่ายไหม” ฮีชอลที่มักจะเผื่อแผ่ความเป็นห่วงให้แก่ทุกคนรอบตัวเตรียมจะโทรศัพท์ต่อสายตรงถึงรองประธานบริษัทที่หญิงสาวทำงานอยู่

     

    “ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกคะ อย่ารบกวนคุณฮีชอลเลย แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยไม่ได้ป่วยหรอกคะ” ยิ้มโรยราที่หญิงสาวฝืนส่งมาไม่ช่วยให้ความกังวลใจคลายลงได้เลย

     

    “เรื่องอะไร ให้ผมช่วยได้หรือเปล่าครับ บางทีเก็บไว้คนเดียวก็ไม่ดีนะครับ” ร่างบางถามด้วยเสียงนุ่มละมุนที่ทำให้คนฟังใจละลาย แอบเพ้อไปไกล ลืมคำบอกสถานะที่รองประธานบริษัทเคยบอกมา

     

    “คือว่า แม่จะให้ ฉันแต่งงานหน่ะคะ กับคนที่ฉันไม่ได้รัก ฉันไม่อยากแต่งงานเลยคะ” น้ำตาดวงน้อยไหลเอ่อออกมา สร้างความสมจริงให้กับละครฉากเศร้า

     

    “ลองคุยกับคุณแม่สิครับ ผมว่าท่านน่าจะเข้าใจ ถ้าหากไม่มีความรัก ชีวิตคู่จะมีความสุขได้ยังไง ผมว่าท่านจะเข้าใจนะครับ” ร่างบางเข้าใจปัญหาของหญิงสาวผู้แสนอ่อนโยน ได้แต่นึกเป็นกังวล เรื่องของความรัก เป็นเรื่องที่มีเพียงแค่คนสองคนเท่านั้น

     

    คำว่ารักที่ออกมาจากปากชายหนุ่มช่างดูแสนหวานจนหญิงสาวนึกไปถึงคำบอกรักที่ชายหนุ่มคงจะพูดในสักวัน ยุนอาครับ ผมรักคุณ แค่คิด หญิงสาวก็มีความสุขจนแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่ “ คุยแล้วคะ แต่อธิบายยังไงท่านก็ไม่เข้าใจ ท่านเอาแต่บอกว่าคนคนนี้เป็นคนดี แต่ความรู้สึกของฉันหล่ะคะ แม่...” ถ้อยคำที่เหลือถูกกลืนหายลงไปในลำคอ เพราะน้ำตาของหญิงสาวพรั่งพรูออกมา

     

    มือบางเอื้อมไปเช็ดน้ำตาอย่างแผ่วเบา นึกสะท้อนอยู่ในใจถึงความโชคดีที่ผู้ใหญ่เข้าใจในความรักของเขาและซีวอน แตกต่างจากหญิงสาวตรงหน้า “อย่าร้องไห้นะครับ ผมเชื่อว่าทุกอย่างต้องทางออก”

     

    “ทางออกที่ฉันคิดไว้ก็มีแหล่ะคะ แต่ว่าคงไม่มีใครยอมช่วย” น้ำเสียงสะอึกสะอื้นของร่างบาง ทำให้ชายหนุ่มแสนซื่อ เดินเข้าสู่หลุมพรางโดยไม่รู้ตัว

     

    “ให้ช่วยยังไงครับ เผื่อผมพอจะช่วยคุณได้”

     

    “ฉันต้องหาใครสักคนที่ดีมากๆมาเล่นเป็นแฟน เพื่อทำให้แม่เชื่อคะ ถึงจะดูเหมือนการโกหก แต่ฉันก็จำเป็น” ดูเหมือนว่ารอยยิ้มบางๆของยุนอาจะไม่ถูกจับได้ หญิงสาวจึงได้โอกาสแสดงละครต่อไป

     

      ร่างบางกัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิด นึกไปถึงคนที่เพียบพร้อมมากพอจะทำให้ผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากไว้วางใจ ก่อนจะนึกไปถึงคนใกล้ตัว...ใกล้ใจ พร้อมๆกับที่ปรากฏรอยยิ้มหวาน “ให้ซีวอนช่วยไหมครับ ถ้าคุณแม่ของน้องยุนอาเห็นซีวอน ต้องประทับใจแน่ๆครับ”

     

    “อุ้ย!” แค่ได้ยินที่ร่างบางเสนอมา หญิงสาวก็แทบสะดุ้งตกเก้าอี้ นึกไปถึงเจ้าชายหนุ่มร่างหนาที่พึ่งจะมีเรื่องกันมา ก็หาวิธีบ่ายเบียงแทบไม่ทัน “อย่ารบกวนท่านรองเลยคะ ท่านคงไม่ว่างพอจะมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้”

     

    “ถ้าไม่เอาซีวอน” ร่างบางนิ่งเงียบไปในใจนึกสรรหาวิธีมาช่วยหญิงสาวใคร...สักคนที่สมบูรณ์แบบ นอกจากซีวอน “อ๋า  ผมมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อเจย์ เขาเป็นคนดีมากๆเลยนะครับ ทั้งอ่อนโยน แล้วก็ใจดี ใจดีกว่าซีวอนอีกนะครับ” ฮีชอลรีบจัดการโฆษณาเพื่อนรักตัวเองโดยที่ไม่รู้ถึงแผนการณ์ในใจของหญิงสาวเลย

     

    “อย่าเลยคะ รบกวนเพื่อนคุณฮีชอลเปล่าๆ ฉันเกรงใจแย่” ความนิ่งเงียบที่เกิดขึ้นกดดันให้ชายหนุ่มเริ่มวิตกกังวลจ้องมองหญิงสาวอย่างใช้ความคิด

     

    “ผม....”

     

    “อย่าต้องลำบากเลยคะ แค่นี้ก็ขอบคุณคุณฮีชอลมากจริงๆ ยังไงฉันก็คงต้องแต่งงานกับคนที่แม่หามาให้ ขอบคุณมากนะคะ” รอยยิ้มแสนเศร้า แทนคำขอบคุณจากใจจริงที่ชายหนุ่มพยายามช่วยสุดกำลัง

     

    “ผม..ดีพอที่จะช่วยได้หรือเปล่าครับ” น้ำเสียงหนักแน่นที่ผ่านการตัดสินใจแล้วของชายหนุ่มทำให้ใจของหญิงสาวลิงโลด

     

    ก็คุณนั้นแหล่ะคร้า ที่ยุนอาต้องการ..คุณฮีชอล!!!!  

     

    “คุณฮีชอลจะช่วยยุนอาจริงๆหรือคะ” แม้จะดีใจแค่ไหน แต่หญิงสาวก็ยังคงเก็บอาการได้อย่างแนบเนียบ เกินกว่าที่ชายหนุ่มจะทันมารยาแปดล้านเล่มของหญิงสาวที่อยากได้แฟนเป็นหนุ่มน้อยร่างบาง

     

    “แต่ผมพูดไม่เก่งนะครับ บางทีคุณแม่ของน้องยุนอาอาจจะไม่เห็นว่าผมดีพอ” ร่างบางยังคงเป็นกังวลกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถช่วยหญิงสาวได้ แต่ถ้าต้องทำก็จะทำให้ถึงที่สุด

     

    “ยังไม่ต้องเจอกับแม่หรอกคะ เจอกับพวกเพื่อนๆของยุนอาก่อน” หญิงสาวรีบแก้ให้ชายหนุ่มเข้าใจ และขจัดความกังวลให้หมดไป 

     

    “เอ๋”

     

    “คะ ก็ไปเจอกับเพื่อนๆก่อนให้พวกนั้นเชื่อ คุณจะได้ไม่ต้องไปคุยกับแม่ไงคะ ให้เพื่อนของฉันไปยืนยันแทน คุณฮีชอลจะได้ไม่ต้องลำบากใจเท่าไหร่”

     

    เหมือนว่าเป็นทางออกที่เลี่ยงความกังวลใจของชายหนุ่มแล้วอย่างดี  ฮีชอลจึงได้แต่พยักหน้ารับ หากแต่ในใจกำลังนึกไปถึงอีกหนึ่งที่จะทำให้ลำบาก

     

    พ่อแมวที่บ้านจะยอมไหม????

     

    “งั้นวันเสาร์นี้ตอนประมาณ หกโมงเย็นถึงสักสี่ทุ่มคุณฮีชอลว่างไหมคะ” หญิงสาวรีบจัดการนัดเวลาให้แน่ใจว่าตนเองจะไม่พลาดเมื่อถึงวันสำคัญ  ในใจนึกครึ้ม อีกไม่นาน ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ จะตกอยู่ในเงื้อมือของยุนอาแล้ว

     

    ชายหนุ่มที่ได้ยินเวลานัดถึงกับเหงื่อตก “ผมว่างครับ แต่ว่าอาจไม่สะดวก เออ เวลานั้น ซีวอนคงจะอยุ่บ้าน ผมอาจออกมาไม่ได้ เอาเป็นวันธรรมดาช่วงกลางวันดีกว่าไหมครับ” ชายหนุ่มเสนอทางเลือกให้แก่หญิงสาว กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

     

    “เรื่องท่านรองคุณไม่ต้องห่วงหรอกคะ วันเสาร์นี้ท่านรองมีปะชุมใหญ่ น่าจะเลิกดึกนะคะคุณฮีชอล เพราะว่ายุนอาก็นัดเพื่อนเอาไว้แล้ว ถ้าพาคุณไปด้วยจะได้ดูสมจริงมากขึ้น นะคะ”

     

    และแล้วในที่สุดชายหนุ่มก็ตกหลุมพรางสาวน้อยเข้าจนได้  ยอมพยักหน้ารับ พร้อมอธิษฐานในใจให้คืนวันเสาร์ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี “ก็ได้ครับ”

     

    “ขอบคุณมากๆนะคะ ฉันไม่รุ้จะขอบคุณยังไง แล้วนี้ก็ได้เวลาเข้างานแล้ว ถ้ายังไงฉันขอตัวก่อนนะคะ แล้ววันเสาร์เจอกันนะคะ” หญิงสาวตั้งท่าจะเดินออกจากร้านไปหากแต่ชายหนุ่มก็รั้งไว้ จนหญิงสาวหันกลับมามองพร้อมรอยยิ้มแสนหวาน

     

    “ผมเดินไปเป็นเพื่อนหล่ะกันครับ” ประโยคแสนสุภาพบุรุษทำให้รอยยิ้มของยุนอายิ่งกว้างขึ้นไปอีก หากก็ต้องหุบลงทันควันเมื่อได้ยินประโยคถัดมา “จะได้ขึ้นไปหาซีวอนด้วย”

     

    “คะ”

     

    หญิงสาวร่างสูงที่จับมือพูดคุยกับชายหนุ่มแสนโปร่ง เดินคู่กันเข้าสู่ตึกสูง ทำให้ใครต่อใครต้องเหลียวมอง ก่อนจะจับกลุ่มคุยกันซุบซิบๆ และเพียงไม่นานก็เกิดข่าวลือดังไปทั่วตึกจนเป็นที่อิจฉา

     

     ยุนอาพนักงานประชาสัมพันธ์มีหนุ่มหน้าหวานมาส่งอย่างสวีทหวานหลังกินข้าวเที่ยงด้วยกัน

     

    แต่จะมีใครรู้บ้างไหม ว่าชายหนุ่มในข่าวลือ ตอนนี้กำลังเป็นหมอนนุ่มใช้หนุน ใช้กอดให้กับชายหนุ่มอีกคนในห้องรองประธาน



    บรรยากาศยามเย็นแบบสบายที่คู่รักนั่งเล่นนั่งคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่น แต่วันนี้แปลกออกไปเมื่อร่างบางไม่ยอมพูดยอมจาหน้าตาดูเคร่งเครียด บางทีก็เงยหน้าขึ้นมาจ้อง ก่อนจะทำหน้านิ่ว จนชายหนุ่มรู้สึกถึงความแปลก “ฮีชอลเป็นอะไรหรือเปล่า”

     

    “เปล่า” ร่างบางเอนหลังพิงกับอกกว้างที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง “ทำไมซีวอนดูเท่จัง” คนพูดไม่ยอมหันหน้ามาพูด สายตายังคงจับจ้องอยู่กับหนังสือในมือ ไม่สนใจคนรัก 

     

    คนถูกชมได้แต่นั่งอึ้ง ที่อยู่ดีๆก็ถูกชมกันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แล้วคนชมยังทำหน้าบึ้งเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ไม่พอใจ แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจ  โน้มจมูกสูดดมความหอมจากแก้มเนียน

     

    “อื้อ” เสียงในลำคอที่บอกความขัดใจทำให้ชายหนุ่มมองใบหน้าหวานอย่างไม่เข้าใจ วันนี้ฮีชอลเป็นอะไรดูอารมณ์ไม่ดี

     

    “อารมณ์ไม่ดีอะไรหรือเปล่าฮีชอล วันนี้ทะเลาะกับฮีบอมหรอ หรือว่าอยากกินไอติม” ชายหนุ่มถามคนรักอย่างเอาใจ เมื่อเห็นใบหน้ามุ่ยที่ก็น่ารักดี แต่ร่างบางคงมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ

     

    “ซีวอนอ่า ก็ฮีชอลถาม แล้วซีวอนยังไม่ตอบเลย” นิ้วเรียวจิ้มลงในหน้านิตยสารที่มีชายหนุ่มหน้าตาดี รูปร่างสูงโปร่ง กลัดกระดุมเสื้อเพียงสองเม็ดโชว์กล้ามเนื้อหน้าท้อง “ทำไมในนี้ซีวอนดูเท่จัง

     

    “อ้อ  ก็ซีวอนหน้าตาดีไงครับ” ชายหนุ่มตอบอบ่างไม่คิดอะไรมาก แต่คำตอบของเขาก็ทำให้ได้รับค้อนวงใหญ่

     

    “ตอบดีๆสิซีวอน ฮีชอลอยากรู้” ความกังวลที่อยู่ในใจของร่างบาง ที่ไม่สามารถบอกให้คนรักรู้ได้ เพราะกลัวว่าจะโดนห้ามคือ เรื่องนัดวันเสาร์ ที่ต้องทำตัวให้เพื่อนของหญิงสาวเชื่อว่าเป็นแฟนกัน แล้วไหนยังจะต้องปิดเป็นความลับไม่ให้หนุ่มดัวโดขี้หึงรู้เรื่อง

     

    “เพราะเสื้อผ้ามั้ง แต่ซีวอนว่าถ้าคนใส่หน้าตาไม่ดีก็ไม่เท่ขนาดนี้หรอก” คำตอบที่ดูมั่นใจในตัวเองแบบสุดทำให้ร่างบางต้องหันหน้ากลับมาคุยกับคนรักอย่างตั้งใจ พร้อมความกังวลบางอย่างที่ชายหนุ่มก็ดูออก แต่พยายามเท่าไหร่ฮีชอลก็ยังไม่ยอมออกปาก

     

    “แล้วถ้าฮีชอลใส่จะเท่แบบนี้ไหมอ่า” ประกายที่ดูเหมือนจะมีความหวังขึ้นมาบ้างในดวงตากลมโตทำให้ชายหนุ่มยิ้มตอบ รั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด

     

    “ฮีชอลใส่อะไรก็ดูดี แล้วมานั่งดูนิตยสารพวกนี้ทำไมกัน หรือว่ากำลังนั่งปลื้มนายแบบ”

     

    “บ้า” คำพูดแก้เขินของร่างบางที่ใบหน้าแดงกล่ำ เพราะนายแบบในนิตยสารก็ไม่ใช่ใครอื่นใกล้เลย เป็นคนใกล้ตัวใกล้ใจ “ ซีวอน ถ้าฮีชอลใส่แล้วจะดูดีแบบนี้จริงๆใช่ไหม”

     

    “จริงสิ ฮีชอลของซีวอนใส่อะไรก็น่ารักที่สุดอยู่แล้ว”

     

    ร่างบางที่ปกติได้รับคำชมจะยิ้มดีใจแต่วันนี้กลับทำหน้ามุ่ย ฮีชอลอยากเท่ไปให้เพื่อนของยุนอาแต่จะบอกซีวอนยังไง “ไม่เอาหน้ารักสิ เอาเท่แบบเนี้ย”มือเรียวจิ้มลงไปในรูป ให้ชายหนุ่มดู ทั้งๆที่ก็เป็นหน้าตาของซีวอนที่ฮีชอลเห็น แต่สายตา ท่าทาง และ เสื้อผ้าที่อยู่ในรูปดูเป็นซีวอนที่ฮีชอลไม่เคยเห็น

     

    “แล้วแบบนี้ไม่เอาหรอ” ชาหนุ่มชี้นิ้วเข้าหาตัวเองที่ยังอยู่ในชุดทำงานเสื้อเชิ้ตสีเข้มถลกแขนขึ้นปลดกระดุมออกสองเม็ดให้รู้สึกสบายตัว กับกางเกงขายาว นัยน์ตาเปิดเผยความเจ้าเหล่ที่ฮีชอลไม่มีทางตามทัน

     

    “เอา” ร่างบางตอบแบบซื่อ ก่อนจะโดนอุ้มขึ้นจากโซฟาโดยไม่รู้ตัว  “จะไปไหนซีวอน ฮีชอลไม่เล่นนะ วางลงสิ”

     

    ร่างบางร้องโวยวายแบบที่ทำเป็นประจำเมื่อชายหนุ่มเริ่มอะไรแปลกๆ แต่ซีวอนก็ยังคงชอบแกล้ง ชอบแหย่ ให้ใบหน้าหวานของคนรักมีสีเลือดฝาก “ก็พาไปเอาไง”

    “ซีวอน” ร่างบางขึ้นเสียงหากแต่คนอุ้มก็ยังคงไม่สะท้าน อุ้มไปจนถึงเตียงนอนนุ่ม วางลงอย่างอ่อนโยน ก่อนจะโถมตัวตามลงไป ฝังใบหน้าและจมูกลงกับอกบาง และเรียวคอสวย มือหนาจี้เอวคนรัก

     

    “ซีวอน  พอแล้ว เหนื่อยแล้วนะ” ร่างบางที่ยังไม่หยุดหัวเราะได้แต่ดิ้นไปดิ้นมาจนเหนื่อย ดันคนรักให้ออกห่าง ด้วยแรงเพียงน้อยนิด ใบหน้าหวานมุ่ยลงอีกครั้ง

     

    ซีวอนหยุดมองใบหน้าหวานที่แดงกล่ำเพราะความเหนื่อยอ่อน อกขาวที่โผล่พ้นคอเสื้อกว้างออกมา ดูแดงช้ำ จนน่าสงสาร แต่ชายหนุ่มกลับมองผลงานตัวเองอย่างภาคภูมิใจ “อยากแต่งตัวแบบนี้ทำไมกัน บอกมานะไม่งั้นโดนจี้เอวอีกรอบแน่ๆ”

     

    “ก็แค่อยากรู้เท่านั้นเอง” ร่างบางไม่กล้าสบตากับคนรัก “นิดเดียวเองจริงๆนะ เหนซีวอนใส่แล้ว ฮีชอลอยากรู้บ้างไม่ได้หรอ” สายตาที่กลมหลบมันช่างแบ๊ว จนชายหนุ่มที่เชยคางเล็กขึ้นมาถึงกับห้ามใจไม่อยู่ ต้องก้มลงไปสุดดมแก้มเนียนอีกครั้ง

     

    “อยากรู้งั้น ซีวอนแต่งให้เอาไหม” ชายหนุ่มถามคนรักอย่างใจดี  ทำให้ฮีชอลพยักหน้าตอบรับอย่างดีใจ ก่อนที่จะโดนฉุกให้ลุกขึ้นเดินไปประตูตู้เสื้อผ้าที่ใส่เสื้อผ้าของชายหนุ่มเอา ซึ่งส่วนใหญ่มีแต่สีมืดๆเข้ากับบุคลิค

     

    ซีวอนยืนหาเสื้ออยู่นานกว่าจะได้ตัวที่ถูกใจ เป็นเสื้อเชิ้ตที่ตัวเล็กจนเขาใส่ไม่ได้แล้ว แต่เมื่อทาบลงบนเอนร่างผอมบางก็ยังคงดูตัวใหญ่  “ฮีชอลลองใส่ตัวนี้ดูก่อนนะ” ชายหนุ่มส่งเสื้อให้คนรัก พร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะหยิบกางเกงอีกตัวส่งให้ “คราวนี้ฮีชอลก็ลองใส่ดูสิ”

     

    ร่างบางหายเข้าไปในห้องน้ำและเพียงไม่นาน ซีวอนก็ได้ยินเสียงโวยวายของคนรักอย่างที่คาด จึงถือโอกาสเปิดประตูเข้าไปไม่ให้รุ้ตัว ก่อนจะพบกับร่างบางที่ทำใบหน้ายุ่งกับกางเกที่ตัวใหญ่จนไม่เกาะอยู่ที่เอว และเสื้อตัวใหญ่ที่ยาวลงมาปิดขาอ่อนเรียวสวย

     

    “ซีวอนนน เปิดเข้ามาทำไม” ร่างบางจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างอายที่แต่งตัวไม่มิดชิด

     

    “ก็ฮีชอลร้องลั่น ซีวอนก็นึกว่ามีเรื่ออะไรสะอีก แต่ว่าฮชอลแต่งแบบนี้ก็น่ารักดีนะ เท่ไม่เหมือนใครด้วย” ผิวขาวๆตัดกับเสื้อสีดำเข้มที่ยาวลงมาปิดสะโพกกลม เห็นขาอ่อนสวยเรียว

     

    “ไม่ต้องเลย ซีวอนออกไปเลย จะเปลี่ยนชุดแล้ว” ร่างบางบอกอย่างอนๆ ด้วยเสียงตวัดขึ้นจมูก

     

    “อ้าวไม่ใส่แล้วหรอ”  ชายหนุ่มกลั้นหัวเราะเต็มที่ ทั้งใบหน้ามีแต่ความเจ้าเหล่

     

    ร่างบางไม่ตอบ แต่ผลักคนรักออกจากห้องนำ ก่อนจะกดล็อคไม่ให้ชายหนุ่มเปิดเข้ามาได้อีก

     

    เพียงไม่นานฮีชอลก็เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำในชุดเดิม มือบางจัดการหยิบเสื้อผ้าเก็บใส่ตู้ตามเดิม

     

    “ซีวอน วันเสาร์ไปเที่ยวกันไหม” ร่างเล็กเอ่ยถามชายหนุ่มเพื่อความมั่นใจ ว่าวันเสารื คงจะไม่เกิดอะไรผิดพลาดขึ้น

     

    “วันเสาร์ซีวอนมีประชุมยาวเลย อ่า  แต่ว่าจะพยายามเลิกให้เร็วที่สุดแล้วกัน จะได้ไปดินเนอร์กันด้วยเอาไหน” ซีวอนถามคนรักอย่างอารมณ์ พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอให้ไถ่โทษที่ไม่ว่าง

     

    “อือ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ว่างก็ไม่เป็นไร ค่อยเที่ยววันอื่นก็ได้ ซีวอนหน่ะต้องตั้งใจทำงานรู้ไหม ช่วยแบ่งเบางานจากคุณลุง ห้ามเหลวไหล ห้ามเกเรเด็ดขาดเลย” ฮีชอลลงมานั่งข้างๆชายหนุ่มบนเตียงนุ่ม จับใบหน้าคมเอาไว้แน่น

     

    “คร้าบผม” ชายหนุ่มเอนตัวลงบนที่นอน พาคนรักลงมานอนด้วยกัน “แต่วันนี้เหนื่อยแล้วขอหลับก่อนดีกว่า”

     

    “ไปอาบน้ำก่อนสิ แล้วค่อยมานอน”

     

    “ไม่เอา จะนอนแล้ว นอนกันนะ” ชายหนุ่มตัวโตๆ อ้อนร่างบางด้วยความรัก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล 

     

    “อือ งั้นให้ฮีชอลไปอาบน้ำก่อนนะ” ร่างบางดันตัวเองออกจากอ้อมกอดชายหนุ่มรีบว่งเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่สันนี้จะไม่มีใครได้อาบ เพราะความงอแงของชายหนุ่ม

     

    ซีวอนได้แต่นอนยิ้มในความน่ารักของคนที่กำลังอาบน้ำ เปลือกตาหนาค่อยๆปิดลงเพราะความเหนื่อยล้า คิดไว้แล้วว่าวันนี้จะขอไม่อาบน้ำสักวันคงจะดี  



    ช่วงบ่ายๆวันเสาร์หลังจากที่ร่างบางโทรศัพท์เช็คกับเลขาของคนรักว่าเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเข้าห้องประชุมไปแล้ว ฮีชอลก็หันมาจัดการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่แอบซื้อเอาไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงสีเดียวกับโดยไม่ลืมปลดกระดุมสองเม็ดบนอย่างที่เห็นคนรักทำในนิตยสาร

                    ร่างเพรียวบางในชุดดำส่องกระจกด้วยความไม่พอใจที่ดูเหมือนว่าเสื้อผ้าจะไม่ทำให้เท่ขึ้นเลย ในใจเริ่มนึกเห็นด้วยกับคนรักที่ว่าเพราะคนใส่ดูดี แต่มาถึงเวลานี้คงไม่ทันที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า จึงตัดสินใจหยิบกุญแจรถของคนรักที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปม้าผยองเด่นหรา

     

                    ร่างบางขับรถสปอรต์ด้วยความเร็วระดับเต่า คลานมาจอดรับหญิงสาวถึงหน้าบ้าน วันนี้ยุนอาในชุดกระโปรงสั้นดูน่ารัก ที่เห็นชายหนุ่มหุ่นเพรียว แทบจะไม่อยากพาไปไหนอีก อยากจัดการลากขึ้นห้องไม่ให้ใครได้มองอีกเลย 

     

                    คนอาร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  หล่อเป็นที่สุด!!!

                   

                    “น้องยุนอาครับ น้องยุนอา” มือเรียวโบกเรียกสติหญิงสาวที่กำลังอึ้ง ในความหล่อ เท่ แบบที่ไม่อาจหาใครมาเทียบได้

                   

    “อ่า  อ่ะ ขอโทษคะ” หญิงสาวรีบดึงสติของตนเองกลับมาก่อนที่ชายหนุ่มผู้กำลังเปล่งประกายในความมืดจะเป็นฝ่ายตกใจเสียก่อน

     

    “น้องยุนอาไม่สบายหรือเปล่าครับ” ไม่เพียงแค่ถามแต่มือบางยังยื่นเข้าไปสัมผัสหน้าผากโค้งมน เพื่อวัดอุณหภูมิ “ตัวไม่ร้อน แต่หน้าแดง เป็นอะไรหรือเปล่าหรือ ไหวไหม”

     

     “ไหวคะ แค่รู้สึกว่าอาการหนาวนิดหน่อยเท่านั้นเองคะ ไม่เป็นอะไรหรอก เรารีบขึ้นรถกันดีกว่าคะ” ยุนอารู้ดีว่าข้ออ้างที่ยกมามันฟังไม่ขึ้น จึงรีบชวนชายหนุ่มขึ้นรถ เป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตูให้ชายหนุ่มขึ้นรถฝังคนขับก่อนที่จะเดินอ้อมหน้ารถไปนั่งฝั่งข้างคนขับอย่างมีความสุข

     

    เพียงไม่นาน แต่อาจใช้เวลามากกว่าที่สปอร์ตคันอื่นจะใช้กัน รถสีแดงเพลิง ก็มาจอดอยู่หน้าสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ร่างบางไม่เคยมาเลยสักครั้งในชีวิต

     

    “อ่า นั่นรถเพื่อนของยุนอาคะ พึ่งจะมาถึงพร้อมกับเราเลย” หญิงสาวพูดกับชายหนุ่มด้วยความดีใจ ที่วันนี้จะได้อวดว่าที่แฟนในอนาคตให้ทุกคนได้เห็น

     

    “งั้นเราลงไปหาเลยหล่ะกับครับ จะได้เข้าไปข้างในพร้อมๆกัน” ร่างบางออกความเห็นอย่างสุภาพ สายตาสอดส่องอย่างตื่นตาตื่นใจ ถ้าไม่หนีซีวอนมาวันนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้เฉียดใกล้ที่แบบนี้

     

    หญิงสาวเดินลงจากรถด้วยความร่าเริงมาควงแขนเรียวที่แค่มองก็รุ้สึกดี แต่วันนี้ถึงกับได้ควงแขนด้วย มันทำให้ต่อมความสุขแทบจะระเบิด

     

    “ยูริ ฮโยยอน ทางนี้” หญิงสาวโบกมือเรียกเพื่อนสาวที่กำลังเดินมาด้วยท่าทางตกตะลึง ทำให้ยุนอาได้แต่นึกกระหยิ่มยิ้มดีใจ ที่ทุกคนตกตะลึงในความหล่องวิ้งของว่าที่เพื่อนเขย

     

    “ยุนอา นี้แฟนเธอจริงหรอ” ทันทีที่มาถึงยูริก็ถามคำถามแรก แบบไม่ต้องเกรงใจใครทั้งสิ้น สายตามองหน้าว่าที่เพื่อนเขยอย่างพินิจ ในใจนึกเปรียบเทียบว่าด้อยกว่าท่านรองประธานที่สาวๆหลายคนฝันถึง

     

    “อือ  นี้คุณฮีชอล แฟนยุนอาเองเป็นพี่ชายท่านรองด้วย” ไม่เพียงแค่แนะนำ แต่หญิงสาวผู้กำลังสุขล้นก็ยืดตัวขึ้นหอมแก้มเนียนนุ่มอย่างรวดเร็ว ทำให้เลือไปเลี้ยงใบหน้าชายหนุ่มเยอะกว่าปรกติ “นี้ฮโยอน แล้วนี้ก็ยูริคะ”

     

    “เราเข้าไปข้างในกันเถอะคะ” และก็เป็นยุนอาอีกครั้งที่ลากชายหนุ่มให้เดินตามปล่อยให้เพื่อนอีกสองคนรั้งท้าย

     

    “ฮโย เธอว่าระหว่าง คุณฮีชอล กับท่านรอง ใครหล่อกว่ากัน” สองสามที่เดินตามมาข้างหลัง พากันซุบซิบสองคนที่เดินอยู่ข้างหน้า

     

    “ฉันว่าท่านรอง ดูคุณฮีชอลเขาดูแปลกๆอ่ะ อย่างงี้จะปกป้องเพื่อนเราได้หรอ ดูดิ เดินมาคนก็มองตามใหญ่เลย”  ฮโยยอน บอกตามที่เห็น พูดตามที่พูด แต่พวกเธอจะรู้กันหรือเปล่า ว่าที่คนมองกันหน่ะ ไม่ใช่สาวร่างเล้ก แต่เป็นหนุ่มร่างบางที่เปิดอกขาวให้คนมองต้องเหลียวหลัง

     

    “อือ ท่านรองหล่อกกว่าก็จริง แต่ฉันว่าคุณฮีชอลดูแล้วอบอุ่นกว่าอีกนะ”

     

                    “นั่งโต๊ะนี้หล่ะกันนะคะ” ยุนอาจัดการเลือกโต๊ะนั่งที่ห่างไกลผู้คน ไม่อยากต้องนั่งทำหน้าดุข่มคนที่มองแผงอกขาวๆ ไม่อยากตีหน้าโหดส่งรังสีพิฆาตไปให้ทั้งหญิงและชายที่มองชายหนุ่มผู้เปล่งแสงมาตลอดทางเดิน

     

                    “แหมยุนอา คนมองตามเธอเกรียวเลยนะ  หนักใจไหมคะคุณฮีชอล”  ยูริ แซวเพื่อนรัก ด้วยประโยคคำถามที่ถามชายหนุ่ม ผู้มองบรรยากาศรอบๆอย่างตื่นตาตื่นใจ

     

                    “ก็น้องยุนอาน่ารักนี้ครับ ใครเห็นก็ต้องมองเป็นธรรมดา  ผมไม่หนักใจหรอกครับ” ร่างบางยังคงพาซื่อไม่ได้รู้เลยว่าสายตาที่มองมายังโต๊ะ มันแทบจะเปลือยแผ่นอกขาวที่เจ้าตัวเปิดออกด้วยคิดว่ามันแสนเท่

     

                    “แหม คุณฮีชอลนี้ใจกว้างจังเลยนะคะ คงไว้ใจยุนอามาก” ฮโยยอนถามชายหนุ่มเพียงคนเดียวอย่างตื่นเต้น รุ้สึกดีใจไปกับเพื่อนที่มีความรักบนความไว้ใจ

     

                    “ครับ” คำเดียวสั้นๆพร้อมใบหน้าแดงกล่ำ แล้วหันไปสนใจบริกรที่แต่งตัวสุภาพกำลังเดินมาทางโต๊ะของพวกเขา พร้อมกับกระดาษในมือหนึ่งแผ่น

     

                    “คุณครับ โต๊ะทางนู้นฝากมาให้ครับ” บริกรหนุ่ม ชี้มือไปยังโต๊ะของผู้ชายแต่งตัวดี แต่ไม่น่าไว้ใจกลุ่มหนึ่ง ที่ยกเครื่องดื่มเป็นเชิงเชิญชวน ยูริรับกระดาษแผ่นนั้นมาตั้งท่าจะส่งให้ยุนอา หากแต่กลับถูกขัด “เอ่อ ไม่ใช่ส่งให้คุณผู้หญิงครับ แต่ว่าส่งให้กลับคุณคนนี้”  นิ้วชี้มาทางผู้ชายคนเดียวของโต๊ะให้ได้อึ้งกันทั้งหมด

     

                    “ให้ผมหรอครับ”  ฮีชอลชี้นิ้วเรียวเข้าหาตัวเองอย่างงง ก่อนจะรับกระดาษแผ่นเล็กมาเปิดอ่าน เนื้อความข้างในไม่มีอะไรมากมายไปกว่าการถามชื่อ ที่คนแสนซื่อกลับมองว่าเป็นการผูกมิตรจึงยอมบอกชื่อไป โดยที่ยุนอายังห้ามไม่ทัน

     

                    “คุณฮีชอลบอกชื่อเขาไปทำไมคะ” หญิงสาวเริ่มเป็นกังวลกับเหตุการณ์เมื่อที่เกิดขึ้น การบอกชื่อกับคนแปลกหน้าในที่แบบนี้ มีใครทำกันบ้าง???

     

                    “ไม่เป็นไรหรอกครับ เขาคงแค่อยากเป็นเพื่อนกับผมเท่านั้นเอง อย่ากังวลนะครับ” คิม ฮีชอลปลอบใจสาวน้อยด้วยรอยยิ้มแสนหวาน ที่กระชากใจทั้งสามสาวร่วมโต๊ะ และหนุ่มๆโต๊ะอื่น

     

                    เพราะรอยยิ้มแสนหวานนั่นทีเดียว เพียงไม่นาน โต๊ะที่ทั้งสี่คนนั่งอยู่ก็เต็มไปด้วยเครื่องดื่มที่มีคนสั่งมาให้ ร่างบางที่ไม่เคยมีใครให้ลิ้มลองรสชาติแอลกอฮอล์ หยิบแก้วนู่นแก้วนี้มาลองเล่น ด้วยความอยากรู้ จนใบหน้าใสเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง

     

                    “ยุนอาเธอแน่ใจนะ ว่าคนนี้เป็นพี่ชายท่านรองจริงๆ ทำไมดูแตกต่างกันจัง” ยูริ ชักสงสัยในความแตกต่างของสองพี่น้อง ก็คนน้องออกจะขึ้นชื่อว่าคอแข็ง แต่ทำไมคนพี่ดูแล้วซื่อใสขนาดนี้

     

                    “พี่น้องกันจริงๆ” ยุนอายังคงยืนยันในสิ่งที่เธอเชื่อมั่น “พวกเธอก็รู้ว่าฉันชอบผู้ชายเรียบร้อย  น่ารัก เป็นสุภาพบุรุษ คุณฮีชอลเนี้ยแหล่ะตรงทุกอย่าง”

     

                    “คุณฮีชอลครับ คืนนี้เราไปต่อกันไหมครับ” ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เคยส่งเด็กมาถามชื่อ ครั้งนี้ลงทุนเดินสานต่อความสัมพันธ์ด้วยตนเอง

     

                    “ขอโทษนะคะ คุณฮีชอลมากับฉัน และเป็นแฟนฉัน คุณควรเกรงใจฉันบ้าง” ยุนอาพูดด้วยน้ำเสียงแสนเข้ม ฉวยโอกาสคล้องแขนเรียว ให้ชายหนุ่มแปลกหน้าได้มองอย่างอิจฉา

     

                    “ถ้าไม่ให้ไปต่อ งั้นผมขอเบอร์ไว้ติดต่อได้ไหมครับ” ผู้ชายคนนั้นยังไม่ละความพยายามไม่สนใจหญิสาวทั้งสามที่มองอย่างกดดัน

     

                    และก่อนที่ใครจะได้เอ่ยอะไรออกไป ร่างบางที่ไม่ได้สติก็จัดการบอกเบอร์ที่คุ้นเคยออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันนึกเลยว่า เบอร์ที่บอกไปนั้นเป็นเบอร์ของใคร

     

                    “คุณได้เบอร์แล้วก็ไปได้แล้ว” หญิงสาว ทำเสียงแข็งไล่ชายหนุ่มออกไปห่างๆ และครั้งนี้มันก็ได้ผล ชายหนุ่มยอมเดินจากไป โดยไม่ลืมทิ้งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งมาให้

     

                    ร่างบางที่เริ่มมึนเมา รู้สึกถึงอาการแปลกๆ ร้อนไปทั่วตัว มือบางปลดกระดุมที่เหลืออยู่ออกทีละเม็ด โชว์ความขาวแบบไม่ตั้งใจ ทำให้หญิงสามต้องหันมาห้ามกันแทบไม่ทัน

     

                    “คุณฮีชอลเป็นอะไรคะ” ยุนอาจ้องดวงตากลมโตที่ปรือมองอย่างแปลกใจ ใบหน้าเรียวแดงซ่าน เสียงอื้ออ้าที่หลุดออกมาจากลำคอ ทำให้หญิงสาวทั้งสามหน้าแดง

     

                    “เฮ้ย หรือว่าคุณฮีชอลโดนยาปลุกที่ใส่มาในเหล้า” ฮโยยอน มองหน้าเพื่อนรักอย่างหวาดๆ ไม่นึกว่าจะเจออะไรแบบนี้

     

                    “พวกเธอนั่งเฝ้าคุณฮีชอล อย่าให้ไปไหนนะ เดี๋ยวฉันไปโทรหาท่านรองก่อน พวกเราคงพากลับไมไหวแน่ๆถ้าเป็นแบบที่ฮโยคิด” ยุนอาหันมาสั่งเพื่อนรักทั้งสอง ก่อนจะเดินไปทางห้องน้ำด้วยความกังวลใจ

     

                    ยุนอายืนมองมือถือเครื่องบางที่หยิบมาจากกระเป๋าชายหนุ่มอย่างชั่งใจ ก่อนกดหาเบอร์ท่านรองประธานที่ตอนนี้คงยังประชุมเครียด “ฮัลโหลท่านรอง ดิฉันยุนอานะคะ รีบมาที่ผับแถวบริษัทด่วนเลยนะคะ คุณฮีชอลกำลังแย่แล้วคะ” หญิงสาวไม่รอฟังเสียงใดๆ ทันทีที่พูดเสร็จก็รีบกดวางสาย เพราะรู้ว่ายังไงท่านรองก็ต้องมาแน่ๆ

     

                    หลังจากวางสายหญิงสาวก็รีบออกมาจากห้องน้ำหวังจะมานั่งเฝ้าชายหนุ่มสุดหล่อที่กำลังจะโดนผู้ชายหน้าตาเยี่ยงแย้งาบไป แต่สิ่งที่เธอเห็นในตอนนี้ มันกลับทำให้อยากหายตัวไป ไม่ต้องมาเจอกับท่านรองประธานอีกแล้ว

     

                    ชายหนุ่มร่างอ้อนแอ้นในอ้อมแขนของชายหนุ่มหน้าแย้ ที่ดูแล้วกำลังเนื้อแนบเนื้อในที่มืดแบบไม่สนใจโลก “คุณฮีชอลกลับบ้านกันเถอะคะ”

     

                    “อะไรกันน้องสาว คุณฮีชอลจะกลับบ้านกับพี่นะ น้องกลับไปก่อนได้เลย ใช่ไหมครับ” ประโยคสุดท้ายก้มลงไปถามร่างบางที่กำลังไม่รู้สึกตัวเพราะยาปลุกที่กำลังทำให้อุณภูมิร่างกายร้อนขึ้น           

     

                    “แต่คุณฮีชอลมากับฉันก็ต้องกลับกับฉันนาย ปล่อยตัวเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวยังไม่ละความพยายามในขณะที่เพื่อนอีกสองคนก็เข้ามาช่วยเหลือ แต่แรงผู้หญิงหรือจะสู้ผู้ชายตัวใหญ่ได้

     

                    ใบหน้าหวานแดงซ่าน ริมฝีปากอิ่มกำลังจะแนบชิดกับริมฝีปากหนาที่เต็มไปด้วยหนวดเคราโดยไม่รู้ตัว เพราะความต้องการที่ปลุกเร้าทำให้ เสียงหวานหลุดออกมาจากลำคอเพียงแค่โดนสัมผัสแผ่นอก

     

                    “เฮ้ย!” ร้องอย่างตกใจของชายหนุ่มที่อยู่ดีๆเหยื่อตรงหน้าก็ถูกดึงออกไปทั้งๆที่เกือบจะได้ลิ้มรสหวาน “มึงเป็นใครวะ”

     

                    “กูเป็นใครมึงไม่ต้องรู้ รุ้แค่ว่าคนนี้ของกู” ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ โอบร่างบางที่กำลังส่งเสียงหวาน อย่างทะนุถนอม

     

                    “อะไรว่ะ มาทีหลังก็รอให้กูเสร็จก่อน แล้วมึงค่อยเอาไป”

     

    “มึงได้เสร็จคาตีนกูแน่” เพราะคำพูดแสนดูถูกร่างบาง ทำให้ชายหนุ่มไม่อาจทนได้อีกต่อไป จากคนที่แสนใจเย็นแทบเป็นน้ำแข็ง สุดแสนจะสุภาพบุรุษ กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน ปล่อยหมัดออกไปทั้งที่ยังมีร่างบางอยู่ในอ้อมกอด ไม่สนใจอะไร ก่อนจะอุ้มคนรักที่กำลังไร้เรี่ยวแรงออกมา ด้วยใบหน้าที่ยังคงบึ้งตึง

     

    “พวกเธอทั้งหมดเป็นพนักงานที่บริษัทใช่ไหม” ชายหนุ่มหันกลับมาถามสามสาว ทั้งที่ต้องพยายามเก็บอารมณ์จากมือบางที่เริ่มเลื้อยไปมา พยายามแกะกระดุมเสื้อของร่างสูง

     

    “คะ”

     

    “งั้นเอารถของฮีชอลไป พรุ่งนี้เอาไปคืนฉันที่บริษัท ส่วนเธอยุนอา เราคงต้องมีเรื่องพูดกันยาว”

                   

                    “คะ”  หญิงสาวรับคำเสียงอ่อย ก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่ม อนาคตในหน้าที่การงานอาจไม่มั่นคงก็คราวนี้ แต่หญิงสาวก็ยอมรับแล้วว่า คงไม่มีใครสามารถดูแลชายหนุ่มได้ดีกว่าท่านรองประธานที่บทจะโหดก็โหดได้น่ากลัว  แต่ทั้งหมดที่ทำก็เพราะรักและเป็นห่วง

     

                    “ยุนอาไหนเธอบอกว่าเป็นพี่ชายท่านรองไม่ใช่หรอ ทำไมดูไม่เหมือนพี่ชายเลย แล้วยิ่งที่ท่านรองพูดกับไอ้คนนั้น ดูเหมือนจะไม่ใช่พี่น้องเลยนะ” ยูริ หญิงสาวขี้สงสัย ถามเพื่อนทันทีที่ลับหลังชายหนุ่ม

     

                    “อือ” เสียงแผ่วเบาในลำคอทำให้ยูริ และฮโยยอนมองอย่าสงสัย

     

                    “อือ อะไรเล่า”

     

                    “ก็ไม่ใช่พี่น้อง”

     

                    “แล้วเป็นอะไรหล่ะ” ฮโยยอนเริ่มรำคาณเพื่อนรักที่ไม่ยอมตอบให้หมดสักที

     

                    “ท่านรองบอกว่าคุณฮีชอลเป็นภรรยา แต่คุณฮีชอล เป็นว่าที่แฟนฉันนะ ท่านรองแย่งแฟนฉันอ่า” ยุนอาตะโกนร้องคร่ำครวญด้วยความเสียใจ กำลังรู้สึกว่า โดนแย่งคนรักไปต่อหน้าต่อตา

     

                    “มิน่าไม่เห็นท่ารองสนใจใครเลยที่แม้ก็มีแฟนหน้าตาน่ารักแบบนี้ นี้เองเนอะ” สองสาวพูดคุยกันโดยไม่สนใจเพื่อนรักที่กำลังคร่ำครวญเลยสักนิด

     

                    ส่วนชายหนุ่มอีกคนที่กำลังขับรถอยู่ก็กำลังเผชิญกับปัญหาอันยิ่งใหญ่ เมื่อร่างแปลงกายเป็นปลาหมึก ลูบไล้แผงอกหนา ส่งเสียงหวานครางอยู่นำคอ ในขณะที่มืออกข้างปลดกางเกงชองตนเอง “ซีวอน ฮีชอลร้อนอ่า  ช่วยหน่อยสิ”

                   

    มือบางที่ลูบไล้แผงอกหนากำลังไล้ลงต่ำ กอบกุม กลางลำตัวของชายหนุ่มที่ปรกติคงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้เป็นแน่ “ฮีชอล อย่าจับ” ทั้งที่ไม่เคยตวาด แต่ครั้งนี้ ไม่ทำแบบนี้คงไม่ได้

     

                    ซีวอนเลี้ยวรถเข้าจอดข้างทาง ก่อนจะหันมาจ้องมองร่างบางด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายไฟ  มือหนาจับยึดมือบางที่ไม่อยู่นิ่ง ก่อนจะเตลิดไปไกลมากกว่านี้ ชายหนุ่มปลดไทออกจากคอ ออกมามัดข้อมือเรียวอย่างแน่นหนา ทั้งที่ปากก็พร่ำบอกว่าขอโทษ

     

                    “ฮีชอลทนเอาหน่อยได้ไหม  ขอโทษนะ” แต่ไม่เพียงแค่ข้อมือบางเท่านั้น ริมฝีปากก็ถูกปิดไว้ด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนหนา กันเสียงหวานที่จะหลุดรอดออกมา เมื่อจัดการสิ่งที่อาจจะรบกวนสมาธิได้แล้ว รถคันหรูก็แล่นสู่ท้องถนนด้วยความเร็วอีกครั้ง

     

                    เพียงไม่นานรถคันสวยก็มาถึงหน้าคอนโดหรู ชายหนุ่มอุ้มร่างบางที่ถูกมัดมือ มัดปาก หากแต่ใบหน้าหวานกลับแดงกล่ำ ดวงตาปรือฉ่ำ พยายามลูบไล้ชายหนุ่มทั้งที่มือก็ถูกมัด

     

                    “ฮีชอลอดทนหน่อยนะครับคนดี” ซีวอนรีบอุ้มคนรักเข้าสู้ห้อง หลบสายตาผู้คนที่มงมาอย่างอยากรู้อยากเห็น ก่อนจะจัดการวางร่างบางลงบนเตียงนุ่ม แล้วหายเข้าไปในห้องห้องน้ำ โดยไม่แก้มัดคนบนเตียง

     

                    “คนดี อดทนนะครับ” ซีวอนเดินออกมาจากห้องน้ำ ยอมแก้มัดที่แขนและปากออก หากแต่ก็ต้องคว้ามือบางเอาไว้ ก่อนที่ฤทธิ์ยาจะอยู่เหนือความรู้สึกทั้งหมด

     

                    ชายหนุ่มอุ้มคนรักลงไปในอ่างน้ำที่มีสายน้ำพวยพลุ่มลงมาเป็นสาย หวังจะช่วยดับความร้อนที่เกิดขึ้นให้แก่ร่างบาง ก่อนจะกอดแนบกายไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

     

                    “ไม่เอา  ฮีชอลร้อน ซีวอนช่วยหน่อยสิ นะ  ซีวอนเข้ามาในนี้” ร่างบางล้วงมือลงไปจับระหว่างขา พลางชี้ชวนให้ชายหนุ่มทำตามความเรียกร้อง

     

                    “ไม่เอานะฮีชอล ไม่ทำแบบนี้นะครับ อดทนหน่อย” ชายหนุ่ม บอกคนรักทั้งที่ตนเองก็ต้องอดทนไม่แพ้กัน เล่นมีคนน่ารักมายั่วยวนแบบนี้

     

                    เพียงไม่นานที่ดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขนแกร่งก็เริ่มอ่อนแรงลง และหมดสติคาสายน้ำจากฝักบัวทั้งที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของคนรัก

     

                    ชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าและพาคนรักเข้านอนด้วยความอ่อนใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ต่อไปคงไม่สามารถปล่อยให้ละสายตาได้อีกแล้ว  


    ยามเช้าตรู่พระอาทิตย์ส่งแสงแรงกล้า แยงตาร่างบางให้ตื่นขึ้นมาพร้อมความปวดหัว แต่ก็จดจำเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นได้เกือบครบ จึงหันไปมองคนข้างกายที่ยังคนนอนหลับอยู่อย่างอายๆ ตั้งใจว่าจะ หลบออกไปอาบน้ำเงียบๆ แต่แล้วกลับถูกรั้งสู่ที่นอนอีกครั้ง

     

                    “จะไปไหน”

     

                    “ไปอาบน้ำ” ร่างบางตอบกลับอย่างกลัวเกรงด้วยน้ำเสียงของชายหนุ่มที่ทุ้มต่ำจนน่ากลัว

     

                    “ยังไม่ให้ไป เมื่อคืนทำไรไว้รู้ตัวหรือเปล่า” ชายหนุ่มยังคงนิ่งขรึม ถามด้วยน้ำเสียงที่บอกให้รู้ว่าไม่พอใจกับเรื่องเมื่อคืน

     

                    “ก็ น้องยุนอาเขา..”

     

                    “ไม่ต้องอ้างอะไรทั้งนั้น ฮีชอลทำแบบนั้นอันตรายแค่ไหน ถ้าซีวอนไปไม่ทัน อะไรจะเกิดขึ้นรู้ตัวบ้างไหม”

     

                    ร่างบางยังคงก้มหน้า เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้พูดต่อไป “ไม่เคยดื่ม แล้วยังจะดื่ม แล้วก็เป็นของจากคนแปลกหน้า ฮีชอลไปไว้ใจคนพวกนั้นได้ไง ถ้าเกิดในนั้นไม่ใช่ยาปลุก แต่เป็นยาพิษ รู้ไหมว่าซีวอนจะเสียใจแค่ไหน แล้วที่แบบนั้นใครเคยสอนให้ไป คราวหลังอย่าไว้ใจใครง่ายๆแบบนี้อีกเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นใคร แม้แต่ผู้หญิงอย่างยุนอา เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ปกป้องฮีชอลไม่ได้หรอก เข้าใจไหม”

     

                    “อือ เข้าใจแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ทำอีกแล้ว ” ร่างบางก้มหน้างุดลงไปกับคอ ยอมรับกับความผิดของตนเอง “เมื่อคืนขอบคุณนะ ที่ไม่ยอมให้ปล่อยให้ฮีชอลทำตามฤทธิ์ยาพวกนั้น”

     

                    “เรื่องแบบนั้น ถ้าไม่ได้เกิดเพราะความรัก ซีวอนก็ไม่อยากทำหรอกรู้ไหม แล้วเมื่อคืนนี้ฮีชอลเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ถ้ามันจะมีแต่ความใคร่ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ซีวอนต้องการ เพราะอยาก ให้ทุกอย่างระหว่างเราเกิดจากความรัก”  

     

                    “รักซีวอนจังเลย” ไม่ใช่เพียงแค่คำบอกรัก แต่ร่างบางโถมตัวเองเข้าสู่อ้อมกอดของชายหนุ่ม ซึมซับความรักที่ได้รับ

     

                    ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสองมีที่มาจากความรัก ไม่ว่าจะเป็นความห่วงหา ความหึงหวง หรือ โกรธ ที่ไม่มีใครจะมาแยกคนทั้งคู่ออกจากกันได้



    Talk 

     

                    ดูป่วงๆ มึนๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ แบบว่าง่วงสุดๆแล้ว

     

    คราวนี้ยุนอาก็ยอมรับความจริงสักที หลังจากที่ดื้อไม่ยอมฟังอะไรจนเกิดเรื่อง อ่า ไปนอนก่อนดีกว่าตะ เดี๋ยวจะยิ่งไม่รุ้เรื่อง

     

    ขอบคุณทุกคอมเม้มท์นะคะ








    Dr. Fu 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×