ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องสั้นในวันฟ้าเป็นใจ (woncin)

    ลำดับตอนที่ #6 : Once in A lifetime

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 55


     
    Once in a Lifetime– Michael Bolton


    Once in A lifetime

     

                    สายฝนที่โปรยปรายยามพระอาทิตย์ใกล้ตกเชิญชวนให้คนเหงาที่ต้องอยู่เพียงลำพังให้ออกชมความงามที่ระเบียงห้องอันเป็นsweet Home ของนักธุรกิจหนุ่มสุดหล่อกับพ่อบ้านสุดสวย

                   

                    ความงามของธรรมชาติรวมกับเรื่องที่ได้รับรู้มาทำให้ฮีชอลลืมเรื่องสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว แม้แต่เสียงเปิดประตูของคนรัก

     

                    "อ่ะ!" เสียงตกใจของคนที่ถูกสวมกอดจากด้านหลัง ก่อนจะหันแก้มใสๆ ไปให้คนที่เหนื่อยมาจากการทำงานได้สูดดมจนชื่นใจ อย่างไม่รู้ตัว จนต้องอุทานออกมาอีกครั้ง

     

                    "ซีวอนอ่ะ" แก้มใสขึ้นสีเรื่อ ด้วยความเขินอาย มือทั้งสองข้างวางลงบนท่อนแขนใหญ่ที่โอบกอดตนเองอยู่ "วันนี้ทำงานเหนื่อยไหม แล้วขับรถเร็วหรือเปล่า"

     

                    สองคำถามที่ชายหนุ่มได้ยินทุกครั้งเมื่อกลับมาถึงบ้าน แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยแค่ไหน แค่สองคำถามกลับแก้มนุ่มๆของคนในอ้อมกอดแค่นี้เท่านั้นที่ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยอย่างปลิดทิ้ง แม้จะๆได้รับคำถามแบบนี้อีกสักกี่ครั้งแต่ซีวอนก็ไม่เคยที่จะเบื่อ ด้วยรู้ดีว่าที่ถามก็เพราะรัก  ฮีชอลไม่ชอบให้ขับรถเร็ว ยิ่งเวลาฝนตกแบบนี้ คนในอ้อมกอดเคยถึงขนาดที่ว่าโทรศัพท์มา ให้หยุดขับรถ พักรถใต้สะพาน  โถ่!คนสวยครับ  บูกาติ นะ ไม่ใช่ดูคาตี้ที่เป็นมอไซค์อ่ะ ถึงต้องจอดรถใต้สะพาน

     

                    "เหนื่อยซิครับ ประชุมตั้งนานกว่าจะเสร็จ แต่กลับมาเจอแก้มนุ่มๆหอมๆ แบบนี้รออยู่ ก็หายเหนื่อยแล้วครับ" พูดเสร็จก็ก้มลงไปสูดความหอมที่แก้มนุ่มอีกครั้งก่อนจะไล่ลงที่ซอกคอขาวผ่อง แต่ก็ต้องหยุดไว้แค่นั้นเพราะร่างบางเริ่มมุดหน้าหนี

     

                    "อื้อ  ซีวอนอ่ะ ยังตอบไม่หมดเลย ว่าไงขับรถมาเร็วหรือเปล่า"

     

                    จริงๆเลย คนคนนี้ จะเอาคำตอบให้ได้ จะบอกยังไงดี  ขืนบอกความจริงว่า เหยียบมาเต็มที่ มีหวังได้เห็นคนร้องไห้  ให้ต้องง้อแน่ๆ แล้วก็ไม่พ้นต้องโดนบ่นจนหูชา

     

                    "ว่าไงเร็วหรือเปล่า"

     

                    "ไม่เร็วครับ"  ไม่เร็วไปกว่าใจผมที่ คิดถึงฮีชอลหรอก อิอิ

     

                    "ดีแล้ว อย่าขับรถเร็วนะ ฮีชอลเป็นห่วง ไม่อยากให้ซีวอนขับรถเร็วเลย"

     

                    คนดีของผม น่ารักที่สุดดดเล้ย แล้วอย่างงี้จะไม่ให้รัก ให้หลงได้ไงครับบบบบบบบบบ

     

                    "หิวข้าวหรือยัง ทำเสร็จหมดแล้วนะ  มีแต่ของที่ซีวอนชอบทั้งนั้นเลย" ฮีชอลหันมาทางเจ้าของวงแขนที่ยังคงกอดให้ความอบอุ่นกันและกัน แล้วคนน่ารักก็ไม่วายต้องโดนขโมยจุ๊บแก้มอีกครั้ง

     

                    "หิวข้าวนิดหน่อยครับ แต่หิวฮีชอลมากกว่า"

     

                    "อ่า  ซีวอนอย่าล้อเล่นซิ" คนสวยทำหน้าบึ้งจมูกย่นใส จนสันจมูกสวยได้รูปถูกจับแล้วโยกไปมา

     

                    "Ok ครับ ไม่พูดเล่นก็ได้ ไปกินข้าวกันครับ แล้วค่อยกินฮีชอล" ประโยคหลังสุดชายหนุ่มได้แต่พึมพำกับตัวเอง ไม่ให้คนในอ้อมกอดได้ยิน จากนั้นจึงจัดการโอบคนน่ารัก กลับเข้าไปในห้อง

     

                    ซีวอนพาคนน่ารักผู้เป็นดั่งดวงใจไปนั่งรอที่โต๊ะ แล้วเป็นฝ่ายยกอาหารต่างๆออกมา จัดโต๊ะให้อย่างสวยงาม  นี่เป็นสิ่งที่ซีวอนทำอยู่ทุกวัน มันไม่ใช่การทำตามหน้าที่ ไม่ใช่ทำเพื่อเแบ่งเบา แต่ทำเพราะใจที่สั่งให้ทำด้วยความรัก ด้วยความรักเพียงเท่านั้น

     

                    เมื่อกินอาหารเสร็จทั้งสองต่างช่วยกันเก็บจานไปล้าง  จานเพียงไม่กี่ใบ กลับใช้เวลาล้างนานกว่าชั่วโมง คนล้างสองคน ล้างไปเล่นไป เนียนขโมยหอมแก้มใสๆกันไป

     

                    "ฮีชอลดูซิครับ แพ็คของผมมันจะกลายเป็นพลุ้ยอยู่แล้วว ฮีชอลต้องรับผิดชอบนะครับ" ชายหนุ่มเรียกร้องความสนใจของคนที่นอนหนุนตักอยู่บนโซฟา แล้วตาแป๋วๆเอาแต่จ้องที่จอทีวีซึ่งกำลังฉายภาพการ์ตูนคลาสสิคอย่างซินเดอเรลล่า ด้วยการเปิดเสื้อตัวเองขึ้นแล้วจับมือบางมาลูบเล่นที่กล้ามเนื้อหน้าท้องที่เรียงตัวเป็นลูกอย่างสวยงาม

     

                    "ไม่เห็นพลุ้ยเลย สวยดีออก ฮีชอลชอบอ่ะ" คนสวยที่ละสายตาจากจอทีวีมาสนใจแพ็คที่อยู่ตรงหน้า มือบางก็ยังคงซนไม่เลิก ลูบแผงกล้ามเนื้อเล่นอย่างเพลิดเพลิน โดยไม่รู้เลยว่า ตอนนี้เจ้าของแพ็คอยากกินคนน่ารักมากแค่ไหน

     

                    "ก็ตอนนี้ยังไม่พลุ้ยนิ แต่ว่าต่อไปต้องพลุ้ยแน่ๆ ไม่รู้แหล่ะ  ยังไงๆฮีชอลก็ต้องมาช่วยผมออกกำลังกายนะครับ จะได้มีแพ็คให้ฮีชอลลูบเล่นไปนานๆไงครับ"

     

                    "แล้วฮีชอลจะมีแพ็คแบบซีวอนไหมอ่ะ ดูตัวฮีชอลซิ  นิ่มไปหมดเลย ไม่เห็นจะมีกล้ามแบบซีวอนเลย อยากมีกล้ามมั่งอ่ะ"  คนสวยทำหน้าบึ้งนอนเปิดเสื้อที่ไร้กล้ามเนื้อ มีแต่หน้าท้องที่แบนราบของตัวเอง แล้วก็มองดูอย่างไม่พอใจ  จนหมอนเฉพาะกิจที่มองอยู่นั่นต้องคิ้วขมวด แม้จะห้ามใจไปกับความน่ารักและใสซื่อของคนรักไม่ได้

     

                    กรรม! คนสวยอยากมีกล้าม

     

                    "ฮีชอลไม่ต้องมีกล้าหรอกครับ ตัวนุ่มนิ่มให้ผมกอดอย่างงี้ดีแล้ว แต่ว่าตอนนี้ไปออกกำลังกายกันดีกว่าครับ" ซีวอนจัดการอุ้มคนสวยขึ้นโดยไม่ให้รู้ตัว ทำเอาสองมือบางต้องรีบยกขึ้นโอบรอบคอหนาทันที ตาสองข้างหลับปี๋อย่างตกใจ เรียกรอยยิ้มบนใบหน้าคม

     

                    "ผมไม่ทำฮีชอลหล่นหรอกครับ ลืมตาเถอะ" ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้

     

                    "ไม่เอาอ่ะ ขืนฮีชอลลืมตา ซีวอนต้องหัวเราะแน่ๆ" น้ำเสียงของคนที่ถูกอุ้มบ่งบอกให้รู้ว่ากำลังงอนอยู่นะ

     

                    "ถ้าไม่ลืมตา ผมโยนฮีชอลจริงๆนะ" ซีวอนเตรียมจะโยนฮีชอลขึ้นจนคนที่ถูกรู้สึกได้ สองมือที่โอบรอบคอหนา อยู่รีบโอบให้แน่นขึ้น

     

                    "ง่าไม่เอาอ่ะ ลืมตาแล้วก็ได้"  ตากลมโตที่ลืมขึ้น ทำให้ใบหน้าหวานยิ่งน่ารัก จนคน  ที่พยายามห้ามใจตัวเองอยู่นั่น อดไม่ได้ต้องลงไปหาความหอมหวานจากเรียวปากอิ่ม

     

                    "วันนี้ทาลิปกรอสกลิ่นอะไรครับเนี่ย  หอมดีจัง" ยังไม่วายแซวคนรักให้เลือดได้สูบฉีด จนถูกแซวต้องก้มหน้าหลบด้วยความอาย ปากกับจมูกย่นติดกัน บ่นบางอย่างกับตัวเองเป็นเสียงงึมงำเหมือนเด็ก ไม่รู้เลยว่าถูกมองด้วยความรักและเอ็นดูแค่ไหน

     

                    บ่นไปเหอะครับ เดี๋ยวจะทำให้ไม่มีแรงบ่นเลย

     

                    "อ่ะ"ฮีชอลสะดุ้งตกใจทันทีที่หลังสัมผัสกับความอ่อนนุ่มของที่นอนขนาดใหญ่ที่ใช้นอนอยู่ทุกวัน "ไหนว่าจะออกกำลังกาย แล้วพามาที่เตียงทำไม" คนตาหวานมองอย่างงๆ  แค่พามาที่เตียงยังพอได้ แต่ทำไมต้องเอาตัวหนักๆมาทับไว้ด้วยหล่ะ?

     

                    "ก็นี่ไงครับ ออกกำลังกายในร่ม ได้ทั้งเหงื่อ ได้ทั้งความสุข ฮีชอลไม่ชอบหรอครับ" เสียงกระซิบแผ่วที่ริมใบหู รวมทั้งสัมผัสหยอกล้อที่ริมหูเล็ก แม้จะยังคงงงกับ 'ออกกำลังกายในร่ม' แต่ใบหน้าหวานก็ขึ้นซับสีเลือดด้วยความเขินอาย สัมผัสจากมือร้อนที่อยู่ไม่สุขลูบไล้ส่วนต่างๆของร่างกาย แล้วเลื้อยมือเข้าใต้เสื้อ หยอกล้อกับติ่งไตสีสวย ก็ทำให้ร่างบางที่ถูกทาบทับอยู่เข้าใจในทันทีว่า 'ออกกำลังกายในร่ม' ที่คนรักพูดถึงคืออะไร

     

                    "ไม่เอานะซีวอน ขอร้องเหอะนะ" แค่ปกติฮีชอลขออะไร ซีวอนก็ยอมให้ได้เสมอ แล้ววันนี้ทั้งน้ำเสียงออดอ้อน และดวงตาเว้าวอน สองมือน้อยๆที่ดันแผงอกแกร่ง มันทำให้ซีวอนใจอ่อนละลายลง ชายหนุ่มรู้ดีว่าวันนี้ในใจของคนรักมีอะไรบางอย่างเก็บซ่อนไว้ ซึ่งเขาเองก็ไม่ต้องการจะฝืนใจ

     

                    ทั้งหมดนี้ ที่ยอมทุกอย่างก็เพราะคำเดียวสั้นๆ...รัก...

     

                    "ครับ ไม่ก็ไม่นะ ฮีชอลไม่ต้องกลัวนะ ไปอาบน้ำเถอะครับ ผมจะรออยู่ข้างนอกนะ" ซีวอนลุกออกจากคนรักปล่อยให้เป็นอิสระ กลับขึ้นมานั่งริมเตียง ส่งมือไปเพื่อรั้งคนที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นนั่งบ้าง

     

                    "ขอบคุณนะซีวอน น่ารักที่สุดเลย" คนตาโตยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มชายหนุ่มแรงๆหนึ่งที

     

                    "ถ้าฮีชอลยังนั่งอยู่ตรงนี้ ผมจะไม่สนคำขอเมื่อกี้นะ" คำขู่ของชายหนุ่มได้ผลเป็นอย่างดี เมื่อร่างบางที่นั่งโอ้เอ้อยู่รีบวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ

     

                    แต่เพียงไม่ถึงนาที ประตูห้องน้ำที่ปิดลงก็ต้องเปิดอีกครั้งพร้อมกับใบหน้าเล็กที่ยิ้มหวานส่งมาให้ "แหน่ะยังไม่อาบน้ำอีก หรืออยากให้ผมอาบน้ำให้" ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ จนทำให้คนที่ยืนยิ้มหวานต้องร้องโวยวายเพราะกลัวจะมีคนมาช่วยอาบน้ำจริงๆ

     

                    "หง่า ไม่เอาอ่ะ ซีวอนฉันลืมผ้าขนหนูไว้ข้างนอก ให้ฉันออกไปเอานะ นะๆๆๆๆๆๆๆ" ดวงตากลมโตที่ชายหนุ่มเห็นเป็นต้องยอมทุกครั้งถูกส่งมาให้ ซีวอนจึงได้แต่พยักหน้า

     

                    "ผมให้เวลาสามนาที ถ้ายังไม่ได้ยินเสียงน้ำจะเข้าไปช่วยอาบจริงๆนะ" คำขู่ที่พูดด้วยเสียงต่ำๆ จากเจ้าของดวงตาดุคมทำให้ฮีชอลรีบพยักหน้ารับอย่างเร็ว พร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ส่งให้อีกครั้ง

     

                    สามนาที สบายมากสำหรับฮีชอล ท ี่จะหยิบผ้าขนหนู ดปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ ร่างบางคิดในใจ หากแต่...

     

                    "1นาที" นาฬิกาบอกเวลาสุดหล่อที่นั่งอยู่บอกเวลาอย่างรวดเร็วจนฮีชอลต้องหันมามองอย่างงงๆ

     

                    "สองนาที" แค่กำลังจะหยิบผ้าขนหนู   จำได้ว่า 1 นาทีมันนานกว่านี้นะ

     

                    "สามนาทีครบแล้วนะครับ ฮีชอลมาให้ผมอาบน้ำซะดีๆ"

     

                    "อ่ะ ไม่เอาซีวอนโกงนิ ยังไม่ถึง25วิเลย" เสียงใสๆที่ตะโกนออกมาจากห้องน้ำสร้างเสียงหัวเราะให้คนที่รออยู่ข้างนอก

     

                    เสียงหัวเราะของคนรักทำให้ฮีชอลที่อาบน้ำอยู่รู้สึกว่าตัวเองถูกแกล้งอีกแล้ว  เป็นอย่างงี้ทุกทีเลย

     

                    ฮีชอลใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนักก็ออกมาในสภาพที่ผมเปียกลู่ไปกับโครงหน้าหวาน หยาดน้ำจากผมหยดเป็นรอยบนชุดนอนเนื้อบางที่สวมใส่อยู่

     

                    "มาครับ ผมเช็ดผม" ชายหนุ่มอาสาเช็ดผมที่ยาวสยายของคนรัก เพราะปล่อยไว้จะไม่สบายเอาได้ง่ายๆ ก็คนรักของเขาไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าไหร่นัก

     

                    "ไม่ต้องหรอก ซีวอนไปอาบน้ำเถอะ อี้ เหม็นจะตายแล้ว" มือบางยกขึ้นปิดจมูก ทำท่าให้รู้ว่าเหม็นจริงๆนะ

     

                    "เหม็นหรอครับ นี้ ๆๆ ว่าผมเหม็นได้ไง" ซีวอนพลิกคนรักให้หันหน้ามาทางตนก่อนจะจับหน้าเล็กให้ซุกเข้ายังแผงอกกว้าง แล้วกอดอย่างเต็มแรง

     

                    "ซีวอนไม่แกล้งกันซิ วันนี้เป็นอะไรชอบแกล้งจัง" คนน่ารักซุกตัวในอ้อมกอดถามคนยังไม่อาบน้ำด้วยเสียงเบาๆ สองมือยันไหล่หนาไว้น้อยๆ

     

                    "แกล้งเพราะรักไงครับ" ซีวอนกระซิบบอกเบาๆข้างหูให้คนถามได้อายอีกครั้ง

     

                    "เน่า! ทั้งคำพูดทั้งคนเลย ไปอาบน้ำได้แล้ว" ฮีชอลที่ดันตัวเองออกจากอ้อมกอกของคนรักที่แสนอบอุ่นได้เพราพคนที่กอดไว้ยอมคลายวงแขนออก เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาส่งให้ก่อนจะดันหลังคนที่ตัวโตกว่าให้เดินเข้าห้องน้ำ

     

                    "ฮีชอลไม่อาบน้ำให้ผมหรอครับ" ชายหนุ่มหันมาถามก่อนที่จะเดินเข้าสู่ห้องน้ำ และคำตอบสั้นๆที่ได้กลับมาคือ

     

                    "ไม่"

     

                    "ฮีชอลครับ ผมถูหลังไม่ถึง มาถูให้หน่อยซิ" เสียงอ้อนๆจากคนตัวใหญ่ที่ดังออกมาจากห้องน้ำยังไม่เลิกแหย่คนน่ารักข้างนอก               

     

                    "ไม่"

     

                    "ใจร้ายจัง ทีเรายังอาสาเช็ดผมให้เลย แค่ถูหลังแค่เนี้ย " เสียงบ่นดังๆ ต้องการให้คนรักได้ยิน

     

                    เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำ กลับไม่พบคนรักในห้องนอน มีเพียงชายผ้าม่านที่บังสายตาคนจากระเบียงปลิวไหวด้วยมีคนเปิดประตูระเบียงห้องนอนค้างไว้

     

                    ร่างบอบบางถูกไล้ด้วยแสงจันทร์ ทำให้ผิวที่ขาวนวลยิ่งขาวมากขึ้น สายลมที่พัดผ่านทำให้ผมยาวปลิวตามแรงลม เป็นภาพสวยงามที่ชวนมอง แต่ก็ทำให้ใจเศร้าด้วยใบหน้าหวานประดุจมีหยาดน้ำล้อเล่นกับแสงจันทร์เป็นมุกลูกเล็กที่ออกมาจากสองตาคู่กลม

     

                    "ฮีชอลเป็นอะไรครับ ร้องไห้ทำไม" ซีวอนรับร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอด สองมือลูบไล้ปลอบประโลม  ถามด้วยไม่เข้าใจ

     

                    "เราเลิกกันเถอะซีวอน"

     

                    "อะไรนะครับ" ที่ถามซ้ำใช่ว่าไม่ได้ยิน หากเป็นเสียงของคนรักต่อให้แผ่วเบาดุจสายลม หรืออยู่ไกลสุดแสน หากรับฟังด้วยหัวใจ มมีหรือที่จะไม่ได้ยิน แต่ที่ถามซ้ำเพราะไม่แน่ใจในความปวดร้าว ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน อยากให้มันเป็นเพียงแค่การล้อเล่นของคนในอ้อมกอดเท่านั้น

     

                    "เราเลิกกันนะ" เสียงเศร้าาที่สั่นเครือ เหมือนว่าบางสิ่งที่สำคัญกำลังหายไป

     

                    ชายหนุ่มรั้งร่างบางออกจากอก หากสองมือใหญ่ยังคงประคองไหล่บางอย่างถนุถนอม ดวงตาคมจ้องเข้าไปในดวงตาคู่กลม มองผ่านม่านน้ำตาค้นหาความจริงในดวงตาแสนเศร้า แค่เพียงประโยคเดียวกับน้ำเสียงที่แผ่วเบา เหมือนว่าจะทลายโลกทั้งใบของผู้ชายคนหนึ่งให้พังลง เหมือนว่าสิ่งของหัวใจจะหยุดทำงานไปตลอดกาล

     

                    "ทำไมหล่ะครับฮีชอล ผมทำอะไรผิด" เสียงที่ถามกลับก็ไม่ต่างเลยไร้ซึ่งความหนักแน่น มีเพียงความเจ็บปวดที่ต้องการรับรู้ความจริง

     

                    "ไม่ๆๆ  ซีวอนไม่ได้ผิดอะไร แต่วันนี้ ลีทึกกับคังอินเลิกกัน" น้ำเสียงกระวนกระวายที่ฉายชัดในน้ำเสียง กลัวว่าคนรักจะเข้าใจผิด แต่คำตอบก็สร้างความงุนงงให้กับร่างสูงเป็นอย่างมาก

                   

                    เพื่อนสนิทเลิกกัน แล้วทำไมเราต้องเลิกกันด้วย?

     

                    "แล้วทำไมเราต้องเลิกกันด้วยหล่ะครับ" ไม่เข้าใจในตัวคนรักเลย วินาทีนี้สมองมีแต่ความว่างเปล่า ความเหนื่อยล้าที่ต้องผจญกับปัญหาต่างๆมาทั้งวัน ยังไม่เท่ากับตอนนี้ ที่ต้องเผชิญกับความไม่เข้าใจ

     

                    "ก็ฮีชอลสงสารลีทึกที่ต้องนั่งร้องไห้คนเดียวนิ"

     

                    โถ่! คนสวยของผม

     

                    "แล้วอีกอย่างที่ซีวอนไปถ่ายแบบกับสเตลล่าก็มีแต่คนว่าเหมาะสมกันดี ฮีชอลก็เห็นด้วย ก็เลย..." คำพูดสุดท้ายที่พูดแล้วรู้สึกเจ็บปวด ร่างบางจึงได้แต่ละเว้นไว้ แต่ไม่ทันจะหาคำอื่นมาทดแทนชายหนุ่มก็ชิงต่อให้ด้วยความปวดใจ

     

                    "ก็เลยขอเลิกกับผมหรอครับ? ฮีชอลไม่ถามผมบ้างหรอ ว่าผมต้องการหรือเปล่า ฮีชอลไม่คิดว่าบ้างหรอว่าคนที่ผมรักเป็นใคร ฮีชอลเชื่อคนอื่นที่เป็นคนนอก มากกว่าผม มากกว่าตัวเองที่รู้ดีที่สุดว่าผมต้องการอะไรงั้นหรือครับ" ชายหนุ่มสะกดกั้นน้ำตาให้ไหลกลับลงไปท่วมหัวใจตัวเอง ก่อนจะละทิ้งร่างบางไว้ที่ระเบียง เดินจากมา

     

                    ฮีชอลที่ถูกละเลยมองกลับเข้าไปในห้องเห็นชายหนุ่มกำลังถอดเสื้อนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้ออกไปข้างนอก ความกลัว ความหว้าเหว่ทำให้ร่างบางรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดคนรักจากด้านหลัง ใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตาแผ่นหลังที่เปลือยเปล่า

     

                    "ซีวอนจะไปไหน ฮีชอลขอโทษ อย่าโกรธนะ อย่าโกรธได้ไหม" น้ำเสียงประหนึ่งจะสิ้นแรง หยดน้ำที่ซึมผ่านแผ่นหลัง แรงกอดทั้งหมดที่มีถูกใช้เพื่อรั้งคนรักไม่ให้เดินออกไป

     

                    "ผมไม่ได้โกรธฮีชอลครับ ผมแค่กลัว ฮีชอลรู้ไหทต่อให้คนทั้งโลกรุมด่าว่าเราไม่เหมาะสมกัน ผมจะไม่สนเลย ขอแค่ให้ฮีชอลเชื่อมั่นในรัก เชื่อมั่นในตัวผม แต่นี่เปล่าเลย ฮีชอลกลับคิดว่ามีคนทาเหมาะสมกับผมมากกว่าฮีชอล กลายเป็นว่าความเหมาะสมมันสำคัญกว่าความรักที่เรามีให้กันหรอครับ? ฮีชอลปล่อยผมเถอะครับ" สองมือหนาพยายามแกะแขนเล็กบางให้ออกจากเอว ที่เพียงแค่กระชากก็หลุดออกอย่างง่ายดาย แต่ชายหนุ่มไม่ทำ เพราะมันจะทำให้คนที่เขารักต้องเจ็บ

     

                    "ขอโทษซีวอน ฮีชอลขอโทษ ได้โปรดอย่าไปนะ" เสียงขอร้องปานจะขาดใจ น้าตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย  ทำให้คนที่ตั้งใจว่าจะไม่หันกลับไปมอง ต้องยอมหันไปรับร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด

     

                    "ฮีชอลครับ ผมไม่รู้ว่าฮีชอลคิดอะไรอยู่ แต่มีสิ่งหนึ่งทึ่ผมอยากให้ฮีชอลได้รู้ ฟังผมนะครับคนดี" ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปพูดกับคนในอ้อมกอด เมื่อร่างบางพยักหน้ารับจึงพาไปนั่งที่ริมเตียง มือหนาเช็ดน้ำตาที่รินไหล

     

                    "เมื่อก่อนผมไม่เคยเชื่อในความรัก  ไม่เคยคิดจะชอบผู้ชาย จะอะไรกับใครก็ได้ ไม่เคยที่จะรู้สึกผิดหรือเดือดร้อนอะไร  แต่พอผมเจอกับฮีชอลทุกอย่างวในชีวิตก็เปลี่ยนไป ผมกลายเป็นผู้ชายนาที่เชื่อในความรัก มองข้ามปัญหาต่างๆ ผมรักฮีชอลที่หัวใจของฮีชอล ด้วยใจทั้งหมดที่ผมมี ไม่วส่าใครจะมองยังไง จะมองว่าผมเป็นเกย์ หรื่อผู้ใหญ่ในบริษัทจะไม่ยอมรับ ผมก็ไม่สน เพราะผมเชื่อว่าตัวเองโชคดี โชคดีที่หาฮีชอลเจอ  หาความรักที่ผมเฝ้ารอคอยเจอ ผมมีคำว่า เรา เป็นกำลังใจ มีฮีชอลเป็นที่เติมพลัง ผมเชื่อในพลังของความรัก แล้วผมก็รู้ด้วย

    ว่าความรักของผมมันมีได้แค่ครั้งเดียว กับฮีชอลเท่านั้น ต่อให้ฮีชอลหรือใครต่อใครพาคนใหม่มาให้ผม ผมก็ไม่าเกิดความรู้สากแบบนี้ได้อีก"

     

                    "ซีวอน" น้ำตาที่ถูกเช็ดจนแห้งไหลออกมาอีกครั้ง  หลังจากได้ยินสิ่งที่คนรักกลั่นออกมาจากใจ ใข่ว่าอยากจะเลิก ใช่ว่าหมดรัก เปล่าเลย ที่ทำไปก็เพราะรัก ก็เพราะกลัว รู้ว่าความรักของตนเป็นสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ เพราะกลัวว่าสักวันจะถูกทอดทิ้ง เพราะผู้คนที่มองเห็นความเหมาะสมของหนุ่มสาวมากกว่าความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย  จึงต้องยอมเดินออกมาแม้จะเจ็บแค่ไหนก็ตาม "ฮีชอลขอโทษ อย่าเกลียดกันนะ ขอคร้อง ฮีชอลขอร้อง  ฮีชอลรู้แล้วว่าทำผิด ที่ไม่เชื่อในความรักของซีวอน"

     

                    "ผมเกลียดฮีชอลไม่ได้เหรอกครับ แต่ในเมื่อฮีชอลขอเลิกกับผม ผมก็จะยอมรับ และพิสูจน์ให้ฮีชองเห็นเองว่า ผมรักฮีชอลแค่ไหน และมีได้แค่ฮีชอลเท่านั้น อย่าร้องไห้ซิครับ"ชายหนุ่มเช็ดน้ำตาให้คนรักด้วยความเศร้า เมื่อถึงเวลาที่ต้องลาจาก "อย่าเศร้าเลยครับ ในเมื่อฮีชอลเลือกที่จะพูดคำว่าเลิกกัน เราก็ควรจะห่างกัน เก็บของเถอะครับ ผมจะพาไปหาลีทึก"

     

                    "ไม่นะซีวอน ทำไมต้อง.."

     

                    "ก็เราเลิกกันไงครับ เผื่อเราจะได้เจอคนที่เหามาะสมแบบที่ฮีชอลต้องการ " ชายหนุ่มบอกอย่างเรื่อยเปื่อย ไร้ซึ่งอาารมณ์ใดๆ หากแต่ใครจะรู้ว่าข้างในปวดร้าวมากแค่ไหน ที่ต้องเห็นน้ำตาคนรัก

     

                    ซีวอนนั้งวมองคนรักเก็บเสือผ้าอยู่เงียบๆ แม้จะรุ้สึกผิดที่ทำให้ต้องมีน้ำตา  แต่ก็ต้องทำ ทำเพื่อให้ฮีชอลได้รู้ว่า ขาดเขาไม่ได้ ไม่สามารถทนเห็นเขาอยู่กับคนอื่นได้

     

                    ห้องของลีทึกที่ฮีชอลจะไปอยู่นั่นก็อยู่เพียงชั้นที่ถัดลงมาเท่านั้นเอง

     

                    "ลีทึกเปิดประตูหน่อย" เสียงซีวอนที่ตะโกนเรียกเจ้าของห้องที่เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน

     

                    "มีอะไรซีวอน แล้วนั่นฮีชอลร้องไห้ทำไมเป็นอะไร" ลีทึกตกใจที่เห็นร่างบางร้องไห้อยู่ข้างหลังตัวสูง จึงเอื้อมมืออกไปรั้งมากอดพลางมองหน้าเพื่อนตัวสูงเชิงถามชายหนุ่มที่ทำไม่สนใจน้ำตาของร่างบางทั้งที่ปกติคงวิ่งพล่านหาวิธีทำให้น้ำตาเม็ดน้อยๆเหล่านี้หยุดไหล แต่สิ่งที่ลีทึกได้รับเป็นเพียงแค่การยักไหล่แบบไม่รับรู้

     

                    "ฝากดูแลฮีชอลด้วยหล่ะกัน ไปก่อนนะ"

     

                    "แล้วนั่นจะไปไหน"

     

                    "เรื่องของฉันหน่า" ตอบเสร็จก็เดินจากไปทิ่งฮ๊ชอลไว้ในอ้อมกอดของลีทึก ดดยพยายามไม่สนใจเสียงร้องไห้ที่ดังก้องทางเดิน 'ขอโทษครับฮีชอล แต่ฮีชอลต้องรู้ว่าขาดผมไม่ได้'

     

    * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

     

                    ที่ที่ซีวอนไปนั่นไม่ใช่ที่ไหนเลย แต่เป็นผับของเพื่อนสนิทที่นานๆครั้งชายหนุ่มจะมาสักที เพราะซีวอนแทบจะไม่เคยทิ้งฮีชอลให้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง

     

                    "ว่าไงว่ะมึงวันนี้ถึงมาหากูที่ร้านได้" เมื่อพนักงานเดินไปบอกว่าเพื่อนสนิทมา ท๊อปจึงรีบออกมาหาเพื่อนสนิท "ไม่นอนกกเมียที่บ้าน"

     

                    "กูเลิกกับเขาแล้ว" ซีวอนตอบไปอย่างรำคาญือยากนั่งดื่มหาวิธีการที่จะทำให้คนรักได้เชื่อมั่นในความรัก ไม่ได้อยากมาตอบคำถามพวกอยากรู้เรื่องชาวบ้าน

     

                    "จริงดิ กับฮีชอลคนสวยอ่ะนะ งั้นกูขอได้ป่ะ" น้ำเสียงดีใจที่เก็บไม่อยู่ของเพื่อนรักทำให้คนเริ่มเมาต้องหันมามองตาขุ่น ยิ่งประโยคหลังแทบจะชกหน้ากันเลย

     

                    "อย่ายุ่งกับคนของกู"

     

                    "ไรว่ะ ก็มึงบอกเองว่าเลิกแล้ว จะหวงอะไรนักหนา"

     

                    "เรื่องของกู มึงอย่ายุ่งกับฮีชอลก็แล้วกัน ต่อให้เป็นเพื่อนกูก็ไม่เอาไว้" เสียงโหดๆของซีวอนที่ไม่ได้ยินมานาน แววตาที่เครียดขึ้ง สองอย่างนี้ชายหนุ่มไม่เคยใช้กับเพื่อนสนิทเลย มันทำให้ท๊อปได้รู้ว่า ขืนมีใครยุ่งกับฮีชอล คงได้โดนสั่งเก็บแน่

     

                    จะว่าไปแล้วการที่ซีวอนรักฮีชอลมากขนาดนี้มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจของเพื่อนๆ เพราะผู้ชายที่เพียบพร้อม ฐานะ หน้าที่ การงาน มีชีวิตโลดแล่นจะมาหยุดที่คนเงียบ ซื่อๆ อ่อนหวานที่สำคัญเป็นผู้ชายแบบฮีชอลผู้ซึ่งไม่มีอะไรเลย แต่ในเมื่อเจ้าตัวบอกว่าคือความรักที่รอคอย ทึกคนจึงได้แต่เฝ้าดู และช่วยลุ้นให้เป็นชั่วนิรันดร์

     

                    "ว่าไงไอ้หมี ได้ข่าวมึงเลิกกับลีทึก" เสียงสุดโหดของเพื่อนรักทักทายเพื่อนรักอีกคนทำให้ท๊อปต้องหลุดจากภวังค์มานั่งอัพเดตข่าวรักร้างของเพื่อนอีกคู่

     

                    "เฮ้ยกูเปล่า มึงเอาข้าวมาจากไหน มั่วว่ะ" คังอินรีบแก้ข่าวทันทีพร้อมครวามสงสัยในแหล่งข่าวของเพื่อน

     

                    "กรรม ฮีชอลบอกกูว่ามึงเลิกกับลีทึกแล้ว ลีทึกร้องไห้ใหญ่โตด้วย" ชายหนุ่มบอกเพื่อนอย่างปลงๆ

     

                    "เวร แค่กูทำปลาทองเขาตาย เลยร้องไห้ ทะเลาะกันจะเลิก  แต่ก็ดีกันแล้ว มึงมานั่งดื่มนี่ฮีชอลอยู่ไหนว่ะ"

     

                    "มันเลิกกับฮีชอลแล้ว" เป็นท็อปที่บอกเล่าความคืบหน้าของเพื่อนรัก

     

                    "เฮ้ย! มึงอย่าล้อเล่น ดูตาไอ้วอนมันดิ แทบจะฆ่ามึงอยู่แล้ว"

     

                    "กูไม่ได้ล้อเล่น มึงถามมันดิ"

     

                    "เออกูเลิกกับฮีชอล" เสียงเข้มของซีวอนทำให้คังอินรู้สึกว่าไม่น่าถามเรื่องนี้เลย

     

                    เฮ้ยอย่างมึงอ่ะนะ จะเลิกกับฮีชอล เรื่องไรกันว่ะ แม้จะรู้สึกว่าไม่น่าถาม แต่ด้วยความแปลกใจก็ทำให้ต้องถามเรื่องที่รู้ว่าเพื่อนรักไม่ยากตอบ

     

                    เขาเห็นรูปที่กูไปถ่ายแบบกับนางแบบคนหนึ่ง ชื่ออะไร ล่าๆ นี่แหละ กูก็จำไม่ได้ แล้วทีนี้ฮีชอลเห็นว่ากูควรมีคนรักเป็นผู้หญิง ก็เลยขอเลิกกับกู  คำตอบของคนที่ที่พึ่งเลิกกับคนรักทำให้ผู้ฟังที่ดีทั้งสองอยากจะหัวเราะในความรักที่ฮีชอลมีต่อซีวอน แต่ก็ไม่กล้าด้วยกลัวว่าคืนนี้อาจไม่มีชีวิตรอดถ้าหากเผลอหัวเราะ

     

                    "แล้วมึงมาร้านกูไมว่ะ หรือว่ามาอ่อยสาว ไอ้พลังรักเดียวในชีวิตมึงหมดแล้วหรือไง"

     

                    "กูมานั่งหาวิธีสั่งสอนคนที่ไม่เชื่อในความรักของกู" ดวงตาคมของซีวอนจ้องหน้าเพื่อนรักอย่างท็อปแทบถลน

     

                    "มึงจะทำอะไรก็ใจเย็นๆนะโว้ย ฮีชอลยิ่งไม่แข็งแรง พลาดขึ้นมา คนที่จะเสียใจที่สุดก็มึงนะเว้ย" คังอินกล่าวเตือนเพื่อรักด้วยความหวังดีเพราะรู้นิสัยกันมานาน

     

                    "มึงทำอย่างกับกูจะรุนแรงกับฮีชอลได้"

     

                    "จะรู้มึงหรอ เห็นบอกสั่งสอนทีไร ไม่ตายก็สาหัสทุกที"

     

                    "มันคนละแบบกันเว้ย ท็อป พรุ่งนี้มึงหาผู้หญิงให้กูคนหนึ่ง"

     

                    "ไหนมึงว่ารักฮีชอลนักหนาไง เลิกกับปุ๊บก็ให้กูหาสาวให้เลย"

     

                    "กูจะหาให้ฮีชอลเว้ย อย่าลืมนะส่งผู้หญิงไปให้กูที่โรงแรม พรุ่งนี้ก่อนเที่ยง กูไปแล้ว" ซีวอนลุกขึ้นยืนท่าสมกลางความมึนงงของเพื่อน แต่เหมือนนึอะไรบางอย่างได้ จึงหันไปบอกกับคังอิน

     

                    "คังอินช่วงนี้มึงอย่าไปที่ห้องลีทึกนะ กูฝากฮีชอลเอาไว้ มึงไปฮีชอลก็ต้องนอนคนเดียว เดี๋ยวจะเสียขวัญไปกันใหญ่ ยิ่งไม่เคยนอนคนเดียว กูเป็นห่วง"

     

                    ชายหนุ่มเดินจากไปไม่สนใจในความงุนงงของเพื่อน "ไรของมันว่ะ  อยู่ดีๆก็ห้ามกูไปหาลีทึกซะงั้น ทำยังกะฮีชอลเป็นเด็กห้าขวบ ไม่อยากให้นอนคนเดียว กลัวเสียขวัญ ไอ้วอนเอ้ย"

     

                    "เอาน่ามึงฮีชอลของมันน่ารักจริงนี่หว่า กูยังอยากได้เลย" ท็อปทำหน้าตาชวนฝันจนเพื่อนรักที่นั่งอยู๋ด้วยหมั่นไส้

     

                    "อย่างมึงทนได้หรอว่ะ คนเรียบร้อย ไม่เปรี้ยงปรี้ดแบบฮีชอล" คังอินย้อนถามกลับ

     

                    "เออว่ะ  แต่กูก็อยากมีรักแท้แบบนั้นดูบ้างนะ"           

     

    * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                   

    บอสคะ คุณยูบินมาขอเข้าพบคะ เธอบอกว่าคุณซึงฮยอนให้มาพบคะ  แทยอนเลขาสาวคนเก่งรายงานการมาถึงของหญิงสาวแปลกหน้าที่มาขอพบประธานโรงแรมในบ่ายวันรุ่งขึ้น

     

                    ให้เข้ามาได้เลย แทยอน คุณช่วยส่งคนไปรับคุณฮีชอลตอนบ่ายให้มาพบผมที่ร้านอาหารของโรงแรม แม้จะรับคำสั่งแบบงงเพราะแต่ไหนแต่ไรมาเจ้านายหนุ่มไม่เคยเลยที่จะให้ใครรับหรือส่งคนรักแทนตนเอง แต่เลขาคนเก่งก็ปฏิบัติตามทันที

     

                    คุณชื่อยูบินใช่ไหม ผมชเว่ ซีวอน คำแนะนำตัวเพียงสั้นๆของชายหนุ่มบ่งบอกให้รู้ว่า อย่าถามอะไรไปมากกว่านี้

     

    ในใจของซีวอนตอนนี้ลองคิดเล่นแต่หากเป็นจริงคงปวดใจว่า ถ้าสาวไซส์หลามคนนี้เป็นแฟนกับคนรักของเขาจริง ฮีชอลคงแย่ก็ฮีชอลออกจะบอบบาง ท็อปคิดอะไร ถึงส่งคนนี้มาให้

     

    ยูบินรู้สึกเป็นเกรียติมากเลยนะคะที่คุณท็อปส่งให้มารับใช้คุณซีวอน ร่างอวบของหญิงสาวพยายามเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ แต่ก็ต้องหยุดลงด้วยสายตาพิฆาตที่ส่งมา

     

    ท็อปคงยังไม่บอกคุณว่าผมจะให้ทำอะไร ผมไม่ได้ต้องการให้คุณมารับใช้อะไรทั้งนั้น แค่อยากให้คุณทำเป็นสนใจคนคนหนึ่งเท่านั้นก็พอ

     

    แหมอะไรกันคะ นั่งอยู่กับคนหล่อแบบคุณซีวอนแต่ให้ดิฉันไปสนใจคนอื่น มันทำยากนะคะแบบนี้

     

    ถ้ายากนักก็กลับไป แล้วให้ท็อปส่งคนใหม่มาให้ผม เสียงของชายหนุ่มเริ่มเครียดขึ้นเรื่อยๆเพราะรำคาญจริตของผู้หญิงคนนี้

     

    แค่นี้ก็โกรธแล้วหรอคะ แล้วคนนั้นเป็นใครคะ หล่อเท่าคุณซีวอนได้หรือเปล่า

     

    เขาชื่อฮีชอล เป็นผู้ชายเงียบๆ อ่อนหวาน ช่างเอาใจ แต่ก็ขี้อ้อน ชอบอ้อนเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆเวลาที่ชายหนุ่มพูดถึงคนรัก สีหน้าและแววตาที่เคยแข็งกระด้าง ดูอ่อนโยน และอบอุ่น จนทำให้ใครต่อใครเคลิ้มฝัน แต่มันก็เป็นสีหน้าและแววตาที่มีเพื่อฮีชอลเท่านั้น เอาหล่ะ เราไปพบฮีชอลได้แล้ว  ผมไม่อยากให้เขาต้องรอนาน แล้วจำไว้ด้วยว่า อย่าทำอะไรที่มันเกินเลย ไม่ว่าจะกับผมหรือฮีชอล เพราะผมไม่ชอบ  เสียงเข้มๆ กำชับก่อนออกเดินโดยไม่สนใจหญิงสาวที่ยืนอยู่กลางห้อง

     

    ลิฟต์จากชั้นผู้บริหารลงตรงมาที่ชั้นล่างซึ่งเป็นล็อบบี้ และส่วนของภัตตาคารของโรงแรม ในร้านอาหารญี่ปุ่นมาคนหน้าหวานตากลมมานั่ง บนโต๊ะเต็มไปด้วยขนมหวานต่างๆที่พนักงานโรงแรมเอามาให้เพราะรู้ดีว่าคนน่ารักคนนี้เป็นใครมีความสำคัญมากแค่ไหนต่อเจ้านายใหญ่

     

    ทันทีที่สายตากลมโตปะทะเข้ากับร่างสูง จากใบหน้ามุ่ยๆก็กลายเป็นยิ้มสว่างรอยยิ้มที่สดใส แต่แล้วรอยยิ้มนั้นก็กลายเป็นยิ้มค้าง เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง เดินตามคนตัวสูงมา

     

    ฮีชอลครับ ผู้หญิงคนนี้เธอชื่อยูบินนะ เป็นเพื่อนของผมเอง เธอสนใจฮีชอลมาตั้งนานแล้ว พอรู้ว่าโสดเลยขอให้ผมมาช่วยแนะนำให้รู้จัก ใช่ไหมยูบิน ชายหนุ่มพยายามเน้นคำว่าโสดร่างบางได้ยิน แล้วมันก็ได้ผล ฮีชอลรู้สึกไปกับคำว่า...โสด... ดูเหมือนว่า ซีวอนจะตั้งใจเหลือเกินที่จะบอกเล่าถึงสถานะตอนนี้

     

     เอ่อ คะ หญิงสาวที่กำลังมึนงง เพราะคิดว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า สวย ดูบอบบาง กว่าตนเสียอีก และตอนนี้หญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าถูกดึงเข้าสู่เกมบางอย่างหรือเปล่า 

    ....ทำไมนัยน์ตากลมโตช่างเศร้า

     

    ....ทำไมดวงตาคมช่างดูห่วงหาอาทร

     

    คุณอยากเจอฮี..เอ่อ..ผม หรือครับ คือฮี  ไม่ คือผม เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกันครับ ทีท่าประหม่าขอฮีชอลล้วยอยู่ในสายตาของซีวอนทั้งหมด มันช่างเป็นท่าทางที่น่ารัก น่าเอ็นดู และแสดงความใสซื่อของคนที่เขาเฝ้าถนุถนอมมาอย่างดี

     

    ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของซีวอน ทำให้เขาเลื่อนเก้าอี้ให้แก่ยูบินโดยเลือกที่จะให้นั่งตรงข้ามกับคนน่ารัก ในขณะเดียวกันก็เลือกที่จะนั่งเยื้องกับอดีตคนรัก โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำแบบนั้น ทำให้ใครบางคนเสียใจ

     

    การทานอาหารกลางวันมื้อนี้ คงเป็นมื้อที่อึดอัดที่สุดด้วยเพราะคนสามคน

     

    1 คนกำลังร้องไห้ในใจ ที่คนรักไม่สนใจดูแล ยัดเยียดตนเองให้ผู้หญิงคนหนึ่ง

     

    1 คนอยากเห็นคนรักแสดงท่าที่ปฏิเสธ แต่ไม่เลย มีแต่รอยยิ้มที่มอบให้สาวคนนั้น

     

    1 คน สนใจคนที่นั่งข้างๆ แต่กลับต้องแสดงว่าสนใจคนตรงหน้าที่สวยกว่าตน

    แต่การทานอาหารมื้อนี้ก็มีคนเข้ามาเพิ่มความอึดอัด

     

    คุณซีวอน สวัสดีคะ มาทานกลางวันหรือคะ หญิงสาวท่าทางร้อนแรงแสนซ็กซี่คนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายชายหนุ่มอย่างสนิทสนมโดยไม่สนใจบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร

     

    ครับ คุณฮโยรีมาคนเดียวหรือเปล่า นั่งด้วยกันไหมครับ ซีวอนผายมือไปยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่ มันคงดูดีทีเดียว ในสายตาของคนอื่น แต่ไม่เลยสำหรัฮีชอลแล้ว มันใจร้ายเกินไป ซีวอนไม่สนใจฮีชอลแล้วหรอ

     

    ไม่รบกวนคะ พอดีว่าดิฉันมีนัดทานข้าวกับลูกค้า แต่คืนนี้ถ้าคุณซีวอนว่าง.. หญิงสาวทิ้งคำลงท้ายเชิญชวน ด้วยน้ำเสียงและสายตา

     

    ว่างซิครับสำหรับคนสวยแบบคุณ ผมว่างเสมอ คำตอบรับที่แทบไม่ต้องคิดทำให้คนชวนรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ทำให้อีกคนที่นั่งฟังอยู่น้ำตาจะไหล จนต้องขอตัวเข้าห้องน้ำ โดยมีสายตาคมจับจ้องแผ่นหลังบางจนลับสายตา

     

    หลังการทานอาหารที่เปลี่ยนคนาสวยให้เป็นดวงตาชุ่มน้ำแล้ว ซีวอนให้คนขับรถของโรงแรมขับรถไปส่งหญิงสาวเพียงเดียว และปล่อยให้คนรักต้องกลับบ้านเองเป็นครั้งแรก

     

    * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

     

    ในค่ำคืนที่ตอบรับคำเชิญของสาวสวย เป็นอีกหนึ่งคืนที่ซีวอนต้องปั้นหน้าว่าวีความสุขทั้งที่ความจริงไม่ใช่เลย

     

    ท่ามกลางแสงสีและผู้คนที่พลุ่กพล่าน แต่ชายหนุ่มกลับปรารถนาเพียงคนเดียวในอ้อมกอดท่ามกลางแสงจันทร์บนที่นอนนุ่ม ได้มองดูใบหน้ายามหลับใหลของคนรัก แค่นี้ก็เป็นสุขมากพอแล้ว

     

    เมื่อเห็นว่าอยู่ไปก็คงมีแต่การปั้นหน้า ไม่มีอะไรทำให้ยิ้มจากใจได้สักอย่าง ซีวอนจึงขอตัวกลับทั้งที่ยังไม่ถึงสี่ทุ่ม แต่เมื่อเดินเข้ามาในรถ มือถือที่ทิ้งไว้ก็แจ้งให้รู้ว่ามีคนโทรเข้ากว่ายี่สิบสาย และทั้งหมดเป็นของคนคนเดียว  หนึ่งในเพือนสนิทอีกคนของเขา ลีทึก

     

    ว่าไงซีวอนกว่าจะโผล่หัวโทรกลับมาได้ ยังไม่ทันที่คนโทรไปจะได้พูดอะไร แต่คนปลายสายก็พูดใส่ทันที

     

    ทำไมมีอะไรโทรมาเยอะแยะ ปลาตายอีกหรือไง

     

    ปลาฉันไม่ตายเว้ย ไอ้ปากไม่ดี ที่จะตายอ่ะเมียแกโว้ย ลีทึกพูดใส่ด้วยความโมโห กล้ามาก มาแช่งลูกปลาน้อยกลอยใจ

     

    ฮีชอลเป็นอะไร คนที่พูดเล่นกลับกลายเป็นเสียงเครียดทันทีที่ได้ยินชื่อคนรัก

     

    แล้วเมื่อเที่ยงแกทำอะไว้หล่ะ บ้าหรือเปล่าปล่อยให้กลับคนเดียว ถ้าฉันไม่ไปเจอจะทำไง รู้ไหมว่าเมียแกหลงทางอ่ะ แถมยังมีพวกติดยาคิดจะไถเงินอีก ทำไรไม่คิดให้รอบคอบว่ะ เลิกกันแล้ว แต่ว่าหาคนมาส่งไม่ได้หรือไงว่ะ ขาไปยังมารับได้ ถ้าเกิดฮีชอลเป็นอะไรไปหน่ะแกตายแน่ ป่านนี้ยังร้องไห้ไม่หยุด รีบมาดูเลยนะ เมื่อคืนก็ร้องไห้จนหลับไป ถ้าไม่สงสารฮีชอลก็สงสารฉันเหอะว่ะ จะไม่ได้นอนอยู่แล้ว

     

    เออ จะไปเดี๋ยวนี้

     

    ใช้เวลาเพียงไม่นานชายหนุ่มก็ขับรถมาถึงคอนโดสูงอย่างความรวดเร็ว ด้วยความเป็นห่วงคนรักที่เพื่อนสนิทเล่าให้ฟังว่าร้องไห้ตั้งแต่กลับมาจนถึงตอนนี้

     

     ลีทึกเปิดประตู ซีวอนไม่เคาะประตู หากแต่ตะโกนเรียกเจ้าของห้องอย่างรีบร้อน

     

    เออ ทีงี้มาเสียงดังเชียวนะ นู่นสุดที่รักขาดใจดิ้นของแกนั่งร้องไห้อยู่ที่ระเบียง ให้เข้าห้องก็ไม่เข้า เดี๋ยวได้ไม่สบายแน่ๆ แกไปคุยกันเองหล่ะกัน ยังไม่ทันที่ลีทึกจะพูดจบชายหนุ่มก็เดินตรงดิ่งไปที่ระเบียงทันที ปล่อยให้เจ้าของห้องต้องพูดกับตัวเองเหมือนคนแก่ ดีเนอะ ทีงี้รีบเชียว ไอ้ตอนที่พามา ถามไรก็ไม่ยอมตอบ

     

    คนสวยที่นั่งกอดตัวเองร้องไห้อยู่ท่ามกลางคืนที่ไร้แสงดาว นั่งเหม่อมองไปบนดวงจันทร์กลมโต มันทำให้คนที่เห็นเริ่มคิดมาก บอกตัวเองว่าควรหยุดการสั่งสอนครั้งนี้ได้แล้ว ไม่อยากเห็นคนรักต้องร้องไห้แบบนี้อีกแล้ว แค่นี้ฮีชอลคงรู้แล้วว่าไม่สามารถขาดเขาได้ และเขาเองก็คงไม่สามารถรักใครได้

     

    ฮีชอลครับ ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกและรับรู้ว่าใครเป็นคนเรียก ร่างบางก็โผเข้าหาอ้อมกอดทันที แต่เรี่ยวแรงที่หายไปกับการร้องไห้ทำให้ไปไม่ถึงอ้อมกอดนั่น หากยังโชคดีที่ชายหนุ่มคว้าตัวเข้าสู่อ้อมกอดไว้ได้ทัน

     

    เมื่อได้สัมผัสผิวบางจึงรู้ว่าคนในอ้อมกอดตัวร้อนแค่ไหน ใบหน้าที่เคยซับสีเลือด กลายเป็นขาวซีด คนตัวเล็กพยายามซุกตัวเข้าสู่อ้อมกอด เพื่อหาความอบอุ่น และพักพิงใจที่อ่อนล้าเหลือเกินแล้ว

     

    ซีวอนอย่าไปไหนนะ อย่าทิ้งฮีชอลนะ ฮีชอลที่ร้องไห้พยายามซุกตัวให้แนบแน่นกับชายหนุ่ม ใช้แรงทั้งหมดที่มีโอบรั้งเอาไว้ราวกับว่าหากปล่อยมือแผงอกที่ให้ความอบอุ่นนี้จะหายไป

     

    ชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของแผงอกแกร่งมองคนในอ้อมกอดอย่างรู้สึกผิด ผมไม่ไปแล้วนะครับ ฮีชอลอย่าร้องไห้นะ  ผมอยู่ตรงนี้กับฮีชอลแล้ว ร้องไห้มากๆไม่ดีนะครับ ตาบวมไม่สวยแล้วผมไม่รักนะ

     

    เพียงแค่ประโยคสุดท้ายที่ทำให้น้ำตาไหลรินมากยิ่งขึ้น เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะหมดรักจริงๆด้วยพึ่งทำเรื่องที่มองว่าไร้สาระ หวาดกลัวแบบไร้สาระ รู้ว่าเป็นคนน่าเบื่อ รู้ว่าเป็นคนน่ารำคาญ แต่ใจทั้งหมดที่มีก็เพื่อซีวอนเท่านั้นเอง

     

    ฮีชอลอย่าร้องซิครับ ผมล้อเล่นเฉยๆ ยังไงผมก็รักฮีชอลนะครับ คนดีของผม อยากกลับห้องหรือเปล่า ชายหนุ่มก้มถามคนในอ้อมกอด พลางก้มลงสูดความหอมที่คิดถึงจากศีรษะเล็ก

     

    ร่างบางทำได้เพียงพยักหน้าอยู่กับอกของคนรักเท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะบอกให้รู้ว่าต้องการอะไร ซีวอนสอดแขนแข็งแรงเข้าที่ใต้ข้อพับ ค่อยยกร่างบางให้แนบชิดยิ่งขึ้น ก้มมองร่างในอ้อมกอดพร้อมรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น กลับห้องเรานะครับ เดี๋ยวผมจะทำข้าวต้มร้อนๆให้ฮีชอลทาน

     

    เมื่อซีวอนอุ้มคนตัวเล็กผ่านหน้าโซฟาที่เจ้าของห้องนั่งอยู่จึงร้องบอกเจ้าของห้องด้วยเสียงที่ดีกว่าเมื่อตอนเปิดประตูเข้ามา ลีทึกเอาของฮีชอลไปไว้ที่ห้องให้ด้วยซิพรุ่งนี้ก็ได้ คืนนี้ฉันจะให้ฮีชอลรีบนอน ตัวร้อนจี๋เลย ฝากไว้แค่คืนเดียว

     

    เออฉันมันผิด รับดูแลเมียให้แกก็โดนด่า แล้วยังมาสั่งๆอีก ทำไมไม่ให้ฉันเป็นสามีฮีชอลด้วยเลยหล่ะไอ้บ้า ลีทึกประชดเพื่อนรักด้วยความสนิทสนม แต่เจ้าของดวงตาคมไม่เห็นเป็นเรื่องล้อเล่น

     

    อย่าพูดแบบนี้อีกลีทึก นายเป็นคนเดียวที่ฉันวางใจให้ดูแลฮีชอล

     

    พูดเล่นแค่นี้ ทำเสียงเครียด รีบพาฮีชอลกลับห้องไปเลย ดูดิ หลับคาอกแกแล้วนี่คงเหนื่อย เมื่อคืนก็ไม่ยอมนอนเอาแต่ร้องไห้  แล้ววันนี่ก็ร้องไห้ตั้งแต่กลับมา สมควรป่วยอยู่หรอก ขึ้นไปก็อย่าลืมเช็ดตัว หาไรให้กินด้วย

     

    ขอบใจ

     

    ชายหนุ่มอุ้มคนรักกลับมาที่ห้องหากกว่าจะเปิดปะตูได้ ก็ทุลักทุเลเต็มทน แต่คนที่หลับสบายในวงแขนกว้างก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาได้ง่ายๆ ซีวอนได้แต่มองและอมยิ้มด้วยความเอ็นดู ใครต่อใครคงคิดว่าเป็นสิ่งที่หาได้ดูยาก แต่ใครจะรู้ว่าสำหรับฮีชอลแล้ว ร่างบางได้รับรอยยิ้มทุกวันทุกเวลาจากร่างสูง

     

    ซีวอนวางคนหลับลงบนที่นอนนุ่ม ก่อนจะนำผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมตั้งแต่เท้าเล็กจนถึงปลายคางเรียว  แล้วจึงออกไปทำข้าวต้มกุ้งที่คนรักชอบทาน

     

    เสียงทำครัวด้วยความไม่เชี่ยวชาญแม้จะดังแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถปลุกคนที่หลับใหลด้วยพิษไข้ให้ตื่นขึ้นมาได้ เมื่อชายหนุ่มกลับมาในห้องจึงพบกับลูกแมวที่พยายามซุกหน้ากับหมอนใบใหญ่ที่วางอยู่ข้างกาย

     

    เจ้าหญิงครับตื่นได้แล้ว เจ้าชายเอาข้าวต้มมาให้แล้วนะซีวอนบรรจงหอมแก้มเนียนหนึ่งที แต่เจ้าหญิงนิทราก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกจากนิทรารมย์อันแสนสบายได้เลย ถ้าเจ้าหญิงไม่ตื่นเจ้าชายจะจูบแล้วนะครับ ชายหนุ่มไม่รอดูกิริยาของคนนอนหลับเลย ก้มลงประทับรอยจูบบนริมฝีปากนิ่มทันที

     

    จากการจุมพิตเพื่อให้ตื่น กลายเป็นการจูบที่เร่าร้อนแสนหวาน เมื่อคนตากลมรู้สึกตัว แม้จะยังงัวเงีย แต่ฮีชอลก็ตอบสนองสัมผัสหวานล้ำนี้ด้วยใจ จนลมหายใจเริ่มไม่ต่อเนื่อง ซีวอนจึงละออกจากเรียวปากอิ่มอย่างแสนเสียดาย

    ดวงตากลมโตที่ปรือฉ่ำไม่ว่าด้วยอะไรก็ตาม แต่มันยั่วยุอารมณ์ชายหนุ่มให้ต้องก้มลงไปชิมความหวานหอมอีกครั้ง จากเรียวปากหวานสู่ซอกคอหอม มือหนาไล้กลีบปากที่แดงเจ่อ จะกลับขึ้นไปหาความหอมหวานอีกครั้ง แต่ก็โดนห้ามเสียก่อน

     

    พอแล้วซีวอนเดี๋ยวก็ติดไข้หรอก

     

    ก็ดีซิครับ ฮีชอลจะได้หายไง ซีวอนเหย้าแหย่ร่างบาง แต่ที่ยอมหยุดไม่ใช่เพราะกลัวติดไข้ แต่เห็นว่าข้าวต้มเริ่มเย็นเกินไปสำหรับคนป่วยแล้ว ฮีชอลทานข้าวต้มนะครับ ผมทำเองด้วย

     

    แต่ละคำที่ซีวอนป้อนให้ฮีชอล ก็เพราะความรัก ความห่วงหาที่ไม่เคยมีใครได้รับมาก่อนจากผู้ชายคนนี้

     

    คำสุดท้ายแล้วครับคนเก่งของผม ชายหนุ่มป้อนจนถึงคำสุดท้ายก่อนที่จะหยิบยาแก้ไข้ส่งให้คนรัก หากแต่ฮีชอลกลับทำหน้ามุ่ย และเมินหน้าหนี

     

    ฮีชอลอยากให้ผมป้อนหรอ ซีวอนกระซิบข้างริมหูเล็กคนที่ไม่ยอมทานยา

     

    ทานเอง  ฮีชอลรีบหันมารับยาจากมือคนรัก

     

     ผมเช็ดตัวให้นะครับ หลังจากที่นั่งฮีชอลกลืนยาลงไปแล้ว จึงเดินไปหยิบอ่างแก้วและผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก มาเช็ดตัวให้คนป่วย

     

    ชายหนุ่มค่อยๆถอดเสื้อของคนตัวเล็กออก เปิดท่อนบนให้เปล่าเปลือย  ผ้าขนหนูผืนเล็กค่อยๆไล้บนอกที่แบนราบ ยอดอกสีสวยที่ไวต่อสัมผัสถูกลากผ่านด้วยผ้าขนหนูเนื้อนิ่ม หากแต่คนเช็ดตัวไม่ได้หวังแค่การเช็ดตัว ส่วนที่ไวต่อสัมผัส จึงถูกย้ำหนัก จนร่างบางเริ่มรู้สึกได้ ดวงตาหวานจ้องมองคนเช็ดตัวด้วยใบหน้าแดงเรื่อ สายตาที่มองด้วยความไม่เข้าใจ แต่ด้วยความต้องการที่กำลังถูกปลุกขึ้น ทำให้อกบางแอ่นรับสัมผัสอย่างไม่รู้ตัว

     

    ซีวอน เสียงหอบน้อยๆ ของฮีชอลจุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าที่มีดวงตาแสนอบอุ่น ไม่เพียงแค่ผ้าขนหนูเท่านั้น หากมือหนาอีกข้างก็ลูบไล้ทั่วผิวเนียน

     

    ริมฝีปากก้มลงประทับรอยที่บ่งบอกความเป็นเจ้าของให้สีแดงกุหลาบปรากฏชัดเจนท่ามกลางผิวที่ขาวผ่อง ผ้าขนหนูถูกละทิ้ง สองมือหนาลูบไล้จนถึงกางเกงเนื้อบางที่ร่างบางสวมใส่ ความต้องการของซีวอนปะทุขึ้นจากที่ต้องการแค่เหย้าแหย่คนรัก

     

                                                                NC (เด็กอนุบาล)

     

    หลังกว้างเต็มไปด้วยรอยเล็บจิก เมื่อโดนเหงื่อชื้นจึงรู้สึกแสบ แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกดีที่ร่างบางถ่ายทอดความรู้สึกให้ได้รับรู้ร่วมกัน

     

    คนป่วยที่พึ่งผ่านค่ำคืนอันแสนหวาน แม้จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ทุกครั้งที่มีความสุขร่วมกันซีวอนจะไม่เคยปล่อยให้ฮีชอลต้องนอนทั้งที่ยังมีคราบเปอะเปื้อน และครั้งนี้ก็เช่นกัน ชายหนุ่มน้าขนหนูเนื้อนิ่มมาเช็ดคราบต่างๆที่อยู่บนเรือนร่างขาวที่แต้มด้วยรอยสีกุหลาบออกด้วยความแผ่วเบา

     

    ผมรักฮีชอลนะครับ พักผ่อนนะ คืนนี้ฮีชอลไม่ต้องร้องไห้แล้ว ผมจะนอนกอดฮีชอลเอาไว้ทั้งคืน

     

    อือ  ฮีชอลรักซีวอนนะ ไม่ยกให้ใครแล้ว เสียงเล็กที่แผ่วเบาทำให้รู้ได้ทันทีว่าง่วงนอนเต็มทนแล้ว

     

    ผมก็รักฮีชอล รักมากที่สุดครับ หลับนะครับคนดี ชายหนุ่มจุมพิตลงบนเปลือกตาทั้งสองข้างของคนในอ้อมกอด มือหนาเอื้อมกดรีโมตเปิดเครื่องเสียงให้เล่นเพลงขับกล่อม ร่างบางให้หลับใหล...

     

    ...เพลงที่ทำให้เขาเชื่อมั่นในรัก...เชื่อในพลังแห่งรัก รู้จักรักด้วยหัวใจที่มี ไม่ใช่ที่ความเหมาะสมหรือสิ่งอื่นใด เพียงแค่หัวใจของคนสองคน...Once in A lifetime

     

     

    People fill their lives, with empty nights,
    And days that slip away
    Some search till the end of time, but never find,
    The open arms of fate
    One moment comes along, someone who's a dream to you,
    All at once your dreams come true

    Once in a lifetime, you find the one you really love
    For now and forever, one love that never ends
    Once in a lifetime, when every star that lights the sky
    Will shine with one reason, leading your heart to the one love you find
    Just once in a lifetime

    Some people live their lives in compromise,
    And hide their dreams away
    Some never take the chance, within their hands,
    To claim the prize they make
    When faith is all you need, to hold the hand of destiny,
    Find the love that's meant to be


    If you believe in the power of love
    And you believe that dreams come true
    Magic will fill your heart, when that moment comes along
    Just once in a lifetime

    * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

    Talk

    สวัสดีคะ หลายๆคนอาจเคยอ่านเรื่องนี้เมื่อนานมากแล้วววววว.........วันนี้ไอซ์รับเมล์จากคุณนิษ ว่าอยากอ่านเรื่องนี้ ไอซ์เลยมาลงใหม่อีกครั้งคะ

                    เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นต้นฉบับของโฮมเลยก็ว่าได้ ทั้งบรรยากาศ นิสัย และทุกอย่าง 5555 เป็นเรื่องแรกๆที่แต่งนานมากแล้ว ถ้าไม่ดียังไงก็บอกได้นะคะ

     

    ขอบคุณคะ 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                   

     



    Jelly fish
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×