คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : love me love your cat 100%
love me love your cat
บนห้องชุดหรูของคู่รักคู่ใหม่ที่พึ่งย้ายเข้ามา ตอนนี้มีเพียงแค่ร่างบางนั่งจ้องสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ไร้เงาของอีกคนข้างกาย หยดน้ำที่กระเด็นเข้ามาไม่ทำให้ร่างบางลุกขึ้นเพื่อปิดประตูระเบียงแต่ยังคงนั่งจ้องมองฝ่าสายฝนออกไปข้างนอก
ตลอดเวลาที่โตขึ้นมาไม่เคยต้องเหงาเลยสักครั้ง ทุกวันต่างมีผู้คนรายล้อม เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่น หากแต่เวลานี้ นาที ความเหงากลับเข้าคลุมจิตใจ หันไปทางใดก็ไม่มีใครสักคน มีเพียงแค่ตนเองตามลำพังในห้องแสนกว้าง จะกลับไปที่บ้าน แต่ฝนที่เทลงมาก็ไม่เป็นใจ
ฮีชอลนั่งรอคอย รอแล้วรอเล่า ใครอีกคนก็ยังไม่วี่แววว่าจะกลับถึงบ้าน เสียงฟ้าร้องภายนอกทำให้ร่างบางหดตัวลงทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังก้องฟ้า ตั้งแต่เล็กที่กลัวเสียงฟ้าร้องและทุกครั้งจะมีซีวอนคอยปลอบคอยอยู่เป็นเพื่อน ในช่วงที่ซีวอนไม่อยู่ก็ยังมีเจย์ แต่ครั้งนี้กลับไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน
Rrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์บ้านที่ดังขึ้นท่ามกลางเสียงฟ้าร้องเรียกให้ร่างบางมีความหวังรีบเดินไปรับอย่างรวดเร็วดวยความดีใจแต่น้ำเสียงก็ยังคงปิดความกลัวไม่มิด “ฮัลโหล”
“ฮีชอล นี้เจย์นะ” เสียงตอบกลับจากโทรศัพท์สร้างความผิดหวังให้แก่คนรับอยู่ไม่น้อย
“เจย์เองหรอ” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและวามกลัวถูกถ่ายทอดออกมาโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้สึกแต่มีหรือที่เจย์จะจับความรู้สึกเหล่านั้นไว้ไม่ได้
“ก็เจย์อ่ะสิ ฮีชอลอยากให้เป็นใครหล่ะ อยู่บ้านคนเดียวหรือเปล่าตอนนี้” ชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนสนิทถามคนขี้เหงาอย่างรู้ทันถึงอาการแบบนี้ คงถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพังตอนฝนตกแน่ๆ ที่โทรมาก็เพราะเป็นห่วง
“อยู่บ้านคนเดียว เจย์ ฮีชลกลัวฟ้าร้อง” น้ำเสียงอ้อนๆทำให้คนฟังอมยิ้มในความน่ารัก เพราะขี้อ้อนแบบนี้ใครๆถึงได้รัก ถึงเอ็นดู ทำให้ฮีชอลกลายเป็นคนที่บอบบาง ต้องดูแลและทะนุถนอม เจย์เองก็เป็นส่วนหนึ่งที่คอยตามใจมาตลอดแต่ก็คงไม่เท่าซีวอนที่ตามใจมาตั้งแต่เล็ก
“อยู่ได้หรือเปล่าฮีชอล ให้เจย์ไปอยู่เป็นเพื่อนไหม?” ชายหนุ่มส่งเสียงมาตามสายโทรศัพท์ที่ส่งผ่านน้ำเสียงห่วงใยมาด้วย
“ไม่ต้องหรอกเจย์ ฮีชอลอยู่คนดียวได้ ไม่ใช่เด็กแล้วสักหน่อยที่จะอยู่คนเดียวตอนฝนตกไม่ได้....อ่ะ....เจย์ไฟดับ” ร่างบางยังคนพูดไม่จบ ฟ้าร้องครั้งใหญ่และติดตามมาด้วยไฟดับ ทำให้ฮีชอลเผลอร้องด้วยความตกใจ น้ำตาเม็ดเล็กๆ เริ่มหยดลงน้ำเสียงสั่นพลิ้วจนคนฟังจับได้ถึงความกลัวที่มีมาก
“นี้นะหรออยู่ได้ เดี๋ยวเจย์ไปหานะ แปปหนึ่ง”แล้วสายก็ถูกตัดขาดชายหนุ่มไม่เปิดโอกาสให้คนขี้กลัวได้เปิดโอกาสปฏิเสธ ทั้งๆที่ก็อยู่คนเดียวไม่ได้
ฮีชอลทนนั่งฟังเสียงฟ้าร้องท่ามกลางความมืดอยู่เพียงไม่นานเสียงเคาะประตูที่หน้าห้องก็ดังขึ้น เรียกรอยยิ้มหวานให้ปรากฏบนใบหน้าสวย ร่างบางแทบจะวิ่งถลาไปเปิดประตู แต่หากนึกถึงคำพูดของคนรักที่เคยบอกไว้ว่าห้ามวิ่ง จากที่วิ่งจึงกลายเป็นเหลือแค่เดินเร็ว ไปเปิดประตูไม่อยากให้ซีวอนรอนาน
“เจย์?” เสียงบ่งบอกความผิดหวังจนทำให้คนฟังรู้ได้ไม่ยาก ใบหน้าหวานหมองเศร้าลงไป จนคนมองต้องแอบอมยิ้มอย่างรู้ทันว่าเป็นใครที่ร่างบางอยากให้มายืนอยู่หน้าประตูตอนนี้
“อือ เจย์เอง ฮีชอลอยากให้เป็นใครหล่ะ” ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นใครที่ร่างบางอยากเจอ แต่เมื่อเห็นหน้ามู่ๆก้มลงอย่างรู้สึกผิดหวังก็อดไม่ได้ที่จะแกล้ง ให้ใบหน้าเล็กยิ่งมู่ลงปากเล้กแทบแนบชิดจมูกโด่ง
“ก็..ก็ เปล่าสักหน่อย ฮีชอลไม่ได้อยากให้เป็นใครสัหน่อย เจย์นั่นแหละคิดไปเอง แล้วมาว่าฮีชอล” ร่างบางรู้สึกร้อนรนจนก้มหน้าไม่ยอมสบตากลัวว่าออกอาการมากไปกว่านี้
“ตามใจไม่อยากให้เป็นซีวอนก็ได้ ไม่ว่าอะไร แต่ว่าใจคอไม่คิดจะให้เจย์เข้าไปหรือไงกัน ก็นะมีคนมาดูแลแล้ว ไอ้คนชั่วคราวแบบเราก็หมดความหมายหล่ะสิ เฮ้อ!กลับดีกว่า” ชายพูดพูดเชิงตัดพ้อเพื่อหยอกล้อร่างบางอยากนึกสนุกและนึกเอ็นดูในความซื่อใสที่ไม่ถูกทำลายลงไปด้วยสังคมแย่ๆ
เพียงแกล้งจะเดินจากมามือบางก็รีบคว้าแขนของอดีตหนุ่มข้างบ้านอย่างรวดเร็ว กลัวว่าจะต้องทนนั่งในความมืดเพียงลำพัง ยิ่งมืดมากจินตนาการของคนเราก็ไปได้ไกลเห็นอะไรต่อมิอะไรก็น่ากลัวไปหมด
ชายหนุ่มหันมาตามแรงดึงจากข้างหลังต้องตกใจเมื่อเห็นน้ำตาหยดใสๆจากดวงตาคู่โต ดวงตาที่เปิดเผยทุกอย่างให้เห็นจนหมดสิ้น ทั้งความกลัว ความเหงา และความน้อยใจ จากที่ตั้งใจจะแกล้งชายหนุ่มร่างสูงจึงต้องเปลี่ยนมาปลอบโยนคนที่ตัวเล็กกว่า คว้าเข้ามาในอ้อมกอด ให้ความอบอุ่นและความรู้สึกปลอดภัย
“คนดีอย่าร้องไห้นะ ป่ะเข้าไปในห้องนะเดี๋ยวเจย์อยู่เป็นเพื่อนฮีชอลนะ” ชายหนุ่มโน้มตัวลงเช็ดน้ำตาจากใบหน้าหวานจูบลงบนศรีษะเล็กที่ปกคลุมด้วยเส้นไหมสีดำสนิทแสนนุ่ม ก่อนจะพาเดินเข้ามาในตัวห้องที่ยังคงเปิดประตูระเบียงทิ้งไว้
ชายหนุ่มจัดการพาคนขี้กลัวนั่งบนโซฟา ส่วนตัวเองก็เดินมาปิดประตูกันละอองฝนที่จะสาดลงมา หากยังไม่ทันเดินกลับเข้าไปใกล้โซฟา เสียงฟ้าร้องที่ดังก้องอย่างน่าหวาดกลัวก็ดังขึ้นจนคนที่นั่งรออยู่กระโจนเข้าใส่ร่างสูงจนเกือบล้มลงไปทั้งคู่
“ฮึก..ฮึก เจย์ ฮีชอลกลัว ฮึก....” หยาดน้ำตาที่พึ่งแห้งลงไปกลับไหลลงมาอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เพียงการหลั่งน้ำตา แต่เป็นการร้องไห้เพราะความกลัว ร่างบางกอดเอวหนาไว้แน่นไม่ยอมอยู่ห่างแม้เพียงก้าวเดียว “โอ๋ๆๆ คนดีไม่ร้องนะครับ มีเจย์อยู่ตรงนี้ทั้งคนฮีชอลจะกลัวอะไร ไม่ต้องกลัวนะ มาเรามานั่งรอซีวอนด้วยกันดีกว่า อย่าร้องไห้เลย ตาบวมไม่สวยรู้ไหม”
ชายหนุ่มนั่งเช็ดน้ำตาท่ามกลางความมืดอย่างอ่อนโยนก่อนจะผลักศีรษะเล็กๆให้อิงที่ไหล่หนาของตนร้องเพลงเบาๆให้ร่างบางหลับใหลหลบจากเสียงฟ้าร้องอันแสนน่ากลัว และเพียงไม่นานร่างบางก็เข้าสู่นิทราด้วยความเหนื่อยล้า
ชายหนุ่มช้อนศีรษะเล็กให้เลื่อนลงจากไหลสู่ตักแข็งๆของตนเอง ใช้มือหนาเกลี่ยปอยผมที่ร่วงปิดใบหน้าเกลี่ยวไว้ที่หลังใบหู “หลับง่ายแบบนี้ไม่ดีเลยนะฮีชอล ไปหลับที่อื่นแบบนี้น่าเป็นห่วงแย่ ใครจะทำอะไรก็ไม่รู้เรื่อง” ชายหนุ่มพูดไปทั้งที่ยังคงจ้องใบหน้าใสด้วยความเห็นดู นอนหลับเหมือนเด็กไม่สนใจสิ่งใด ก่อนค่อยๆโน้มใบหน้าลงไปชิดใกล้เปลือกตาบางที่ปิดสนิท อยากสัมผัสแผ่วเบา ไม่อยากปลุกให้ตื่นขึ้นมาทนฟังเสียงฟ้าร้องอีก
“ทำอะไร”เสียงเข้มจากด้านหลังทำให้เจย์หยุดชะงักก่อนจะหันไปพบกับดวงตาวาวโรจน์จากคนที่สูงกว่า
ดวงตาแข็งกร้าวจ้องมองใบหน้าของศัตรูหัวใจ เห็นทุกการกระทำ เห็นว่าจะก้มลงจุมพิตเปลือกตาบางที่เขาเคยจุมพิตอยู่ทุกคืน ซีวอนไม่คิดเลยว่ากลับมาบ้านจะมาเจอบุคคลที่สามแบบนี้อีกทั้งฮีชอลที่นอนหนุนตักอย่างไว้วางใจ ทำไมถึงไว้ใจคนง่ายแบบนี้ฮีชอล
ซีวอนก้มลงคว้าร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดโดยไม่สนใจเจ้าของตักแข็งกระด้างที่อุตส่าห์นั่งเป็นหมอนมานาน ไม่มีแม้แต่คำว่าขอบคุณที่มีก็แค่ดวงตาแข็งกร้าวเท่านั้น
ฮีชอลที่รู้สึกตัวว่าตนกำลังถูกยกลอยขึ้น ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมามอง และเมื่อว่าเป็นใคร รอยยิ้มสดใสแม้ยังงัวเงียก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน สองมือโอบรอบคอหนา ซุกอยู่ที่อกอุ่น แม้จะยังคงชื้นจากละอองฝนอยู่บาง “ซีวอนกลับมาแล้วหรอ” คำถามถูกถามทั้งๆที่ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว
“อือ กลับมาแล้ว คิดถึงฮีชอลจัง ” ชายหนุ่มก้มลงหอมแก้มเนียน ย้ำน้ำหนักลงไปสูดดมกลิ่นอายหวานๆเฉพาะตัวของคนรัก ก่อนจะวางลงบนเตียงอย่างแสนรัก เตรียมจะลุกจากที่นอน แต่มือบางยังคงรั้งชายเสื้อที่หลุดออกมาจากกางเกง ไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยก่อนนะครับ เดี๋ยวซีวอนมา ออกไปขอบคุณเจย์ของฮีชอลก่อนนะ” แม้น้ำเสียงจะอบอุ่น แต่ใบหน้ากลับเครียดขึ้ง ลมร้อนๆถูกเป่าใส่ใบหูเล็กเจ้าของที่ยอมปล่อยมือจากชายเสื้อของร่างสูง ก่อนจะพลิกหน้าไปซุกกับตุ๊กตาตัวโปรด ซีวอนจึงเดินออกจากห้องนอนพร้อมรอยยิ้มแสนเอ็นดูหากแต่ต้องหน้าบึ้งอีกครั้งเมื่อยังเห็นชายหนุ่มอีกคนอยู่ในห้อง
“ทำไมป่านนี้พึ่งกลับมา รู้ทั้งรู้ว่าฮีชอลกลัวเสียงฟ้าร้อง” เสียงเข้มๆที่บ่งบอกความไม่พอใจถามชายหนุ่มเจ้าของห้องที่ปล่อยให้คนขี้กลัวต้องอยู่ห้องเพียงลำพังท่ามกลางเสียงฟ้าร้องที่ดังก้องตลอดเวลา
“เรื่องของฉัน แล้วตอนนี้ฉันก็กลับมาแล้ว หมดหน้าที่นายแล้วกลับไปซะ” ซีวอนเอ่ยปากไล่ผู้มาเยือนอย่างไม่พอใจ รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีเจย์ ป่านนี้คนรักของเขาคงนั่งร้องไห้ น้ำตาไหลไม่หยุด แต่เพราะความหึงมันทำให้คำขอบคุณเลือนหายไปในอากาศ
“ฉันก็ไม่อยากมาทีนี้นักหรอก ถ้าหากนายไม่ทิ้งฮีชอลไว้คนเดียว แบบนี้ ครั้งหน้าถ้าไม่อยากให้ฉันมาก็อย่าทิ้งฮีชอลไว้คนเดียวอีก” ดวงตาคมสองคู่จ้องประสานกันอย่างไม่ลดละ ก่อนที่ผู้มาเยือนจะละสายตาออกและเดินออกจากห้องอย่างเงียบโดยมีสายตาของซีวอนจ้องจับอย่างไม่วางตา
เมื่อบานประตูปิดลงชายหนุ่มจึงเดินกลับเข้าไปในห้องที่มีร่างบางนอนหลับหน้าซุกกับหมอนใหญ่ข้างกายที่ซีวอนหนุนนอน เรียกรอยยิ้มจากเจ้าของหมอน หากแต่เสื้อผ้าที่ใส่นอนมันกลับไม่ใช่ชุดนอน อย่างที่ควรจะเป็นเลยสักนิด
“ฮีชอล ฮีชอลครับ ตื่นก่อนนะ ไปอาบน้ำก่อนนะครับคนดี” ชายหนุ่มสะกิดเรียกเบาๆให้ร่างบางรู้สึกตัว หากแต่คนขี้เซากลับไม่รู้สึกตัว ยังคงนอนหลับอย่างน่ารัก พลิกตัวมาซุกมืออุ่นของชายหนุ่มใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มหวาน ทำให้คนปลุกยอมใจอ่อน
ซีวอนเปลี่ยนเสื้อทำงานที่ใส่มาทั้งวันเป็นชุดคลุมก่อนจะหันไปอุ้มร่างบางขึ้นจากเตียง โดยที่คนอุมยังคงไม่รู้สึกตัว ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มในความขี้เซาของคนรัก อุ้มร่างบางอย่างระวัง พาเข้าไปในห้องน้ำ เปิดน้ำใส่อ่างพลางถอดชุดที่ร่างบางใส่อยู่ จนเหลือเพียงร่างขาวนวลท่ามกลางแสงไฟ ผิวเนียนที่ยังหอมกรุ่มด้วยกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเหมือน
เมื่อสัมผัสถึงความหนาวเย็นจากการไร้เสื้อผ้าปกปิด ร่างบางที่ยังตื่นไม่เต็มที่ ก็ยิ่งซุกตัวเข้าหาชายหนุ่ม อกบางแนบชิดกับแผงอกแกร่งโดยไม่รู้ตัว สองมือกอดคอใหญ่แน่นหาความอบอุ่นให้ตัวเองในขณะที่ร่างสูง แทบจะร้อนเป็นไฟจากความต้องการใบหน้าคมร้อนผ่าวรีบพาตัวเองและร่างบางลงในอ่างอาบน้ำ ก่อนที่จะเผลอลักหลับคนน่ารักขี้เซา
ฮีชอลที่สัมผัสถูกน้ำโดยมิทันตั้งตัว ดวงตาโตทั้งสองข้างเบิกกว้าง รีบผวาหาที่ยึดเกี่ยวกระโจนเข้าสู่ร่างหนาของซีวอนโดนไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ทั้งสองไร้สิ่งใดปกปิด แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนของผิวชายหนุ่มร่างบางที่เริ่มรับรู้สิ่งต่างกลับดีดตัวออก จนซีวอนต้องรั้งแขนให้กลับขึ้นมานั่งบนตักตนเองอีกครั้ง
“จะไปไหนหล่ะครับ คนเก่ง นั่งตรงนี้แหล่ะเดี๋ยวซีวอนอาบน้ำให้นะ” ชายหนุ่มกระซิบแผ่วข้างใบหูเล็ก ก่อนเป่าลมหยอกล้อให้จั๊กจี้เล่น สองมือลูบไล้ไปตามผิวขาวเนียน ที่แตะแต้มด้วยรอยสีชมพู สองมือหนาหยอกล้อกับตุ่มไตเล็กๆอย่างสนุกสนาน เรียกสีเลือดฝาดทั่วทั้งตัว
ชายหนุ่มหมุนร่างบางให้หันข้างเข้าหาตนก่อนจะแนบริมฝีปากอย่างกระหายในเรียวปากนุ่ม จุมพิตที่แสนเนิ่นนานจนฮีชอลแทบหมดลม ทุบลงบนอกกว้างอย่างไร้เรี่ยวแรงซีวอนจึงยอมปล่อยให้เรียวปากอิ่มเป็นอิสระ ชายหนุ่มมองหน้าคนรักที่ดูอ่อนแรงอย่างเอ็นดู “ถ้าง่วงก็นอนผิงอกซีวอนนะ เดี๋ยวซีวอนอาบน้ำให้”
“แล้วซีวอนไม่เหนื่อยหรอ เดี๋ยวฮีชอลอาบน้ำให้ก็ได้นะ” ร่างบางบอกคนรักอย่างเป็นห่วงก็เห็นอยู่ว่าไปทำงานมาทั้งวันกลับมาบ้านก็น่าจะพักผ่อนได้เต็มที่ หากแต่ดวงตากลมของคนพูดกลับปรือลงทุกขณะ
“ไม่เป็นไรหรอก ได้จูบเมื่อกี้เติมพลังก็หายเหนื่อยแล้ว ฮีชอลแหน่ะตาปรือแล้ว รู้ไหมทำแบบนี้มันเหมือนยั่วเลยนะครับ หรือว่ากำลังยั่วซีวอนอยู่หรือเปล่าเนี่ย” ชายหนุ่มแหย่ร่างบางในอ้อมกอดเล่นๆก่อนฝังแก้มจมูกลงบนแก้มใสอย่างแรง สูดดมความหอมหวานที่นั่งคิดถึงมาทั้งวัน
เพียงไม่นานร่างบางที่ถูกพรากมาจากเตียงนุ่มก็เริ่มนั่งเงียบศีรษะเล็กผิงไหล่หนา ไร้การขยับเขยื้อนจนชายหนุ่มสงสัย จ้องมองบนใบหน้าหวาน ก่อนจะพบว่าดวงตากลมโตปิดลงไปแล้ว ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มให้กับตัวเอง อุ้มร่างบางขึ้นจากน้ำเช็ดตัวให้อย่างเบามือ แต่งตัวเป็นชุดที่ใส่นอนอย่าสบายๆในขณะที่ตนเองใส่เพียงกางเกงขายาวเท่านั้น
วายหนุ่มวางคนรักลงบนเตียงอย่างถะนุทนอม จัดการห่มผ้า เดินไปปิดไฟ ก่อนกลับมานอนลงเคียงข้างคว้าร่างบางเข้าซุกแนบอกหนาของตน ให้ไออุ่นแก่กันและกัน
แสงอุ่นๆที่ทอดตัวลอดม่านหนาหนักเข้ามา ปลุกให้ร่างสูงที่กำลังนอนกอดคนรักอย่างมีความสุขต้องลืมตาตื่น สูดกลิ่นกายหอมกรุ่นของคนข้างๆ รับเช้าวันใหม่ที่มาเยือนอย่างสดชื่น
ซีวอนจ้องมองคนข้างกายที่นอนซุกแผ่นอกหนาของตนอย่างอ่อนโยนวงหน้าหวานที่กำลังมีรอยยิ้มเลกแต่งแต้มกำลังหลับสบายเกินกว่าที่ปลุกขึ้นมือหนาลูบแก้มอ่อนนุ่มฝังริมฝีปากเข้มลงบนแก้ม ก่อนที่ชายหนุ่มจะนึกบางอย่างได้จึงค่อยๆรุกอย่างช้าๆ ไม่ให้ร่างบางรู้สึกตัว คว้าเอาหมอนใบใหญ่มาให้ร่างบางซุกแทนแผ่นอกหนาของตน
ซีวอนเดินเข้าห้องครัวตั้งใจว่าจะใช้กลิ่นอาหารอันหอมหวนปลุกคนน่ารักให้ลุกจากที่นอน หากแต่เสียงกระทะตะหลิวที่บ่งบอกคามมาสมารถด้านการทำอาหารชองชายหนุ่มว่าคงอยู่ในภาวะย่ำแย่ กลิ่นอาหารที่ควรหอมฉุยอย่างที่ตั้งใจกลับเหม็นไหม้จนคนทาสำลักควัน สีสดใสของมื้อเช้ากลับเป็นสีดำเกรียมจนคนทำเริ่มคิดหนักว่าควรจัดการอย่างไรดีกับอาการสีน่ากลัวสองจานตรงหน้า
“ซีวอน อือ ซีวอนอยู่ไหนอ่ะ” เสียงเรียกจากคนพึ่งตื่นนอนที่คงตื่นขึ้นมาพราะกลิ่นและเสียงจากอาหารมื้อเช้าสุดพิเศษ ทำให้ชายหนุ่มรีบเดินไปหาร่างบาที่ตอนนี้ยังคงลืมตาปรือๆเหมือนยังไม่เต็มใจตื่นอยู่บนที่นอน
“ว่าไงครับ ตื่นมาก็เรียกหาซีวอนเลยนะ สงสัยจังว่าซีวอนมีคนรักหรือลูกเล็กเนี่ย” ชายหนุ่มเย้าแหย่คนรักที่ยังไม่ลืมตาโตๆออกมารับแสงตะวัน หากแต่คำพูดเย้าแหย่นั้นก็ทำให้ปากเล็กๆเชิดขึ้นเรียกรอยยิ้มอบอุ่นจากร่างสูง
“ซีวอนอ่ะ ไม่เรียกแล้ว งอนด้วย” ร่างบางพลิกตัวหนี หันหลังให้ร่างสูงที่ยังคงยิ้มกริ่มเอ็นดูในความน่ารักแหมือนเด็กๆ
“โอ๋ อย่างอนเลยนะครับ หันมาหาซีวอนก่อนเร็ว”
“ไม่” เสียงเล็กจากคนที่ยังคงหันหลังให้ตอบกลับมา ไม่ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าชายหนุ่มหายไป
“ถ้าไม่หันวันนี้ซีวอนไม่พาไปกินไอติมนะ” ชายหนุ่มใช้ของโปรดของคนรักเป็นเครื่องต่อรอง จนคนงอนยอมหันกลับมาทั้งที่ปากเล็กยังคงเชิดขึ้น จนปากและจมูกแทบจะติดกันอยู่แล้ว “อย่างอนนะครับ ดีกันๆนะ” นิ้วก้อยหนาๆยื่นให้ร่างบางเป็นสัญญาณขอคืนดี
“ซีวอนต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ว่าฮีชอลเป็นเด็ก ฮีชอลแก่กว่าซีวอน ที่ถูกอ่ะซีวอนต้องเรียกว่า พี่ฮีชอล แต่ไม่ต้องหรอก เรียกว่าฮีชอลก็ได้ แต่ก็ห้ามมองว่าฮีชอลเป็นเด็กน้อยรู้หรือเปล่า” ร่างบางร่ายยาวถึงเรื่องอายุ ที่แม้ว่าตนเองจะแก่กว่า แต่ก็ไม่อยากให้เรียกว่าพี่ หรือแม้ว่าซีวอนจะเป็นคนดูแลตนเองก็ไม่อยากถูกมองว่าเด็กน้อย
“ครับผม” คำตอบรับจากชายหนุ่มทำให้เกิดปรากฏรอยยิ้มหวานบนใบหน้าเรียว ก่อนที่นิ้วก้อยเรียวจะยอมคล้องเกี่ยวกับนิ้วก้อยของชายหนุ่ม
“ซีวอน ฮีชอลหิวแล้ว ซีวอนหิวยังเดี๋ยวฮีชอลไปทำอะไรให้กินนะ” ร่างบางทำท่าจะลุกจากที่นอน หากแต่ก็มีแขนแข็งแรงของร่างร่างสูงมารั้งให้นอนลงเช่นเดิม
“ฮีชอลนอนอยู่นี้แหล่ะ เดี๋ยวซีวอนไปเอามาให้นะครับ” ชายหนุ่มทิ้งให้ร่างบางนอนมองด้วยความงุนงง ในขณะที่ตนเองก็เดินออกจากห้อง ยกเอามื้อเช้าที่แสนภาคภูมิใจมาให้คนรักที่แสนน่าเอ็นดู
“นี้อ่ะหรอ มื้อเช้าที่ซีวอนบอกอ่ะ ซีวอนเบื่อฮีชอลแล้วใช่ไหม ถึงจะฆ่ากันด้วยข้าวต้มหน้าตาน่ากลัวแบบนี้อ่ะ ทำไมซีวอนใจร้ายแบบนี้หล่ะ” ร่างบางนั่งมองข้าวต้มสีดำอย่างหวาดกลัวเล็กๆ ปากอิ่มที่พูดเจื้อยแจ้ว แกล้งว่าชายหนุ่ม ทั้งๆที่มือบางยังคงคนข้าวต้มในชาม ก่อนตักเข้าปาก ลิ้มรสความน่ากลัวของรสชาติ
“......”
“......”
ความนิ่งเงียบฮีชอลหลังกลืนกินข้าวต้มสูตรพิเศษ เรียกสีหน้ากังวลใจให้ปรากฏบนหน้าคมเข้ม “กินได้หรือเปล่าฮีชอล” ซีวอนถามคนรักเพราะเป็นห่วงเมื่อความเงียบยังคงครอบงำ บรรยากาศ
“ซีวอนตั้งใจทำให้ฮีชอลใช่ไหม มันอร่อยมากเลยหล่ะ มันอร่อยเพราะซีวอนใส่ความรักลงไป ฮีชอลชอบที่สุดเลย อร่อยกว่าที่ไหนๆอีก ซีวอนกินสิ มาเร็ว ฮีชอลป้อน” มือบางจัดการหยิบช้อนในชามของชายหนุ่มจัดการป้อนข้าวให้คนรักตัวโต สองร่างที่อิงแอบบนเตียงกว้างต่างสลับกันป้อนอาหารใส่ปากคนรักจนหมดอย่างมีความสุข
ซีวอนรู้แล้วว่าอาหารที่ตัวเองทำรสชาติมันแย่มากแค่ไหน แต่ที่กินจนหมดแทบไม่เหลือติดชามก็เพราะความรักที่ใส่ลงไปในชามข้าม ใส่ลงไปในช้อนที่ใช้ป้อนมันช่วยปรุงให้รสชาติอาหารกลมกล่อม และหอมหวน
เมื่อจัดการมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงจึงยอมเดินเข้าห้องน้ำจัดการความสะอาดของตัวเองเพื่อเตรียมตัวทำงานในเช้าวันใหม่ เมื่ออกมาก็เจอกับเสื้อผ้าที่ร่างบางจัดการเตรียมไว้ให้
มือหนาคว้าเอาคนตัวเล็กกว่าเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ริมฝีปากคมซุกไซ้หาความหวานบนใบหน้าใสที่ไร้การตกแต่ง สองมือบางติดกระดุมเสื้อให้ชายหนุ่มใบหน้าก็คอยหลบหลีกริมฝีปากและจมูกแสนซุกซน “อือ ซีวอนอย่าพึ่งสิ เดี๋ยวฮีชอลไม่ช่วยแต่งตัวให้นะ”
“ก็ดีสิ ฮีชอลไม่ช่วย ซีวอนก็โดดงาน บอกพ่อว่า ฮีชอลไม่ยอมให้ซีวอนไปทำงาน โอ้ย ฮีชอลตีซีวอนทำไม” ชายหนุ่มก้มหน้าถามร่างบาง ที่ยังคงตีลงบนอกหนาไม่ยั้ง แต่แรงที่มีอยู่ก็ไม่ต่างกับการนวดเลย
“ก็ซีวอนจะใส่ร้ายฮีชอลนิหน่า ปล่อยเลย ไม่ช่วยแต่งตัวแล้ว ปล่อนสิ ซีวอนปล่อยฮีชอล” ร่างบางดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอด แต่พยายามทำไรก็ยังคงไม่หลุดจากแข็งแรง หน่ำซ้ำยังถูกกระชับเข้าสู่อ้อมกอดมากยิ่งขึ้นเสียอีก “อือ ปล่อย เดี๋ยวเสื้อยับนะ”
“ยับก็ช่างสิ วันนี้ไม่ไปทำงานหรอก ก็ฮีชอลไม่ยอมแต่งตัวให้ซีวอน โทรไปบอกพ่อดีกว่า วันนี้มีประชุมอะไรสักอย่างด้วยไม่รู้ โดดประชุมมันสะเลย” ชายหนุ่มปล่อยคนในอ้อมกอด ทำท่าจะไปหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นพ่อ หากแต่ว่ากลับโดนรั้งด้วยแรงน้อยๆจากด้านหลังเสียก่อน
“ครับ?” คำถามเล็กๆจากใบหน้าเจ้าเล่ห์ที่ถือไพ่เหนือกว่า ถามคนหน้าหวานที่มองอย่าค้อนๆ หากแต่มือบางยังคงร่างเสื้อชายหนุ่มไว้แน่น
“เปล่า ยืนนิ่งๆสิ เดี๋ยวจะแต่งตัวให้ ซีวอนสายมากแล้วนะ ถึงเป็นผู้บริหารก็ไม่ควรไปสายเข้าใจไหม ถ้าไม่ทำตัวดีๆ ใครจะเชื่อกัน” คำสั่งสอนจากคนที่อายุมากกว่า ทำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้างรับคำสั่งสอนอย่างเต็มใจ
ตากลมโตที่จ้องมองไทด์เส้นเรียวพยายามผูกให้สวยที่สุด โดยไม่รุ้เลยว่า แก้มใสๆ ปากอิ่มๆ กำลังเป็นเป้าหมายการรุกรานของชายหนุ่มร่างสูง
“เสร็จแล้ว อ๊า” เสียงโวยเงียบหายไปในลำคอ เมื่อปากอิ่มถูกปิดลงโดยไม่รู้ตัว จุมพิตแสนหวานที่ดื่มด่ำจนร่างบางหมดแรงต้องกำเสื้อของชายหนุ่มเพื่อยันตัวเองให้สามารถยืนได้ มันช่างยาวนานและหวานช่ำ กว่าที่ซีวอนจะยอมละออก ปากอิ่มกลับบวมแดง ใบหน้าขาว แดงยิ่งกว่าลูกตำลึง ต้องยืนซุกอกหนาๆ
ซีวอนอุ้มร่างบางที่ไร้เรี่ยวแรงกลับขึ้นไปนอนบนเตียงนุ่ม พลางจุมพืตบนหน้าผากเกลี้ยง “ไปทำงานก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนเย็นจะพาไปกินไอติมนะ” ฮีชอลที่ยังไร้เรี่ยวแรงนอนมองชายหนุ่มด้วยดวงตาฉ่ำหวาน ใบหน้าเล็กพยักหน้าเบาๆเป็นการรับรู้ “ฮีชอลอย่ามองซีวอนแบบนี้สิ เดี๋ยวไม่ได้ไปทำงานพอดีกัน ไหก่อนนะครับ สัญญาว่าจะรีบกลับ” ซีวอนเอานิ้ว้อยของตนเกี่ยวไว้กับนิ้วเล็ก เกี้ยวก้อยสัญญาว่าจะรีบกลับ ไม่ทิ้งให้คนขี้เหงาต้องอยู่คนเดียวนานๆเหมือนเมื่อวาน
เวลาบ่ายๆที่ท้องถนนโล่งชายหนุ่มร่างสูงที่วันนี้สัญญากับสุดรักสุดดวงใจไว้ว่าจะกลับเร็ว กำลังมุ่งหน้ากลับบ้านอันเป็นที่รักเพื่อทำตามสัญญา แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น...
สิ่งมีชีวิตบางอย่างตัดหน้ารถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ด้วยความชำนาญในการควบคุมยานพาหนะสี่ล้อ ซีวอนจึงตัดสินใจเหยียบเบรกกระทันหันโดยลืมไปว่า นี้ไม่ใช่สนามแข่งรถ
กรังปรีส์อย่างที่ชายหนุ่มชอบไปตอนที่ยังเรียนอยู่ต่างประเทศ!!!
นี้คือถนนสายหลักของประเทศ!!!
ความโชคดีคงเป็นของซีวอนที่ถนนทั้งเส้นว่างไร้รถและผู้คน มีเพียงแค่สิ่งมีชีวิตที่ตอนนี้ซุกตัวในพงหญ้าข้างทาง อย่างขวัญหนี หากแต่ในความโชคดียังคงมีความโชคร้าย บนถนนที่เต็มไปด้วยทราย ทำให้รถคันงามสัญชาติฝรั่งเศสอย่างบูกาติ เวร์รอนต้องท้ายปัดหมุนควงกลางถนน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจยกเบรกมือ ส่งผลให้รถงามหยุดกึกในทันที
ร่างสูงนำรถจอดเข้าข้างทางเฉียดใกล้บริเวณที่แมวน้อยซุกซ่อนตัวเอง ก่อนที่ขายาวๆจะก้าวลงมามองหน้าตัวป่วนที่วิ่งตัดหน้ารถ ชายหนุ่มผู้มีรอยยิ้มเย็นๆ ดูเหมือนสะใจเล็กๆ ที่เห็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆตัวสั่นอย่างหวาดกลัว ทั้งเสียงล้อรถที่บดกับถนน ทั้งฝุ่นควันที่คลุ้งไปทั่ว ตัวเล็กแค่นี้ คงจะหลาบจำไม่กล้าวิ่งตัดหน้ารถที่ไหนอีก
หากแต่ซีวอนกลับต้องสะดุดกับดวงตากลมโต ที่ตอนนี้มีแต่ความกลัว อกสั่นขวัญหนี ถ้าหากเป็นคนคงร้องไห้ ดวงตากลมคงมีแต่หยาดน้ำตา มันทำให้ชายหนุ่มนึกถึงคนรักที่คงจะรอคอยเขาอยู่ ดวงตากลมที่ดูเหมือนพร้อมมีน้ำตาตลอด มันคงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่
ซีวอนมองมันอย่างพิจารณา ดวงตากลมโต ดูขี้อ้อน ตัวเล็กๆกำลังสั่นอย่างขี้กลัว มันช่างคล้ายเสียจริง คล้ายฮีชอลมาก ตาคู่กลม นิสัยขี้อ้อน มีแต่ความน่ารัก กลัวสารพัดสิ่ง คล้ายกันมาก คล้ายจนชายหนุ่มไม่อาจละทิ้งเจ้าตัวเล็กให้อยู่ข้างถนนที่มีแต่อันตรายแบบนี้
ชายหนุ่มจัดการอุ้มเจ้าตัวป่วนขึ้นรถด้วยสภาพตัวสั่น เสียงร้องเมี้ยวๆ ทำให้ชายหนุ่มต้องหันไปมอง ตัวก็เหม็น เต็มไปด้วยฝุ่น แล้วยังจะมาร้องให้รำคาญอีก ถ้าไม่เห็นว่าเป็นแมว หน้าเหมือนคนน่ารักที่บ้าน จะไม่สนใจ ไม่มีทางได้ขึ้นมานั่งบนรถคันงามให้เบาะต้องเลอะเทอะแบบนี้เด็ดขาด
“อะไร จะร้องทำไม อุตส่าห์พามายังจะร้องอีก ฉันไม่ชอบหุบปากไปซะ” ความขี้รำคาญ ไม่อ่อนโยนต่อสัตว์โลกขี้อ้อน ยกเว้นสิ่งมีชีวิต ตากลม ตัวเล็กขี้อ้อน ขี้กลัว มีชื่อสามัญว่า ฮีชอล ทำให้ชายหนุ่มตะคอกใส่ลูกแมวขนสีเทาอย่างเหลืออด เจ้าแมวน้อยก็เหลือเกิน ไม่เข้าใจคำพูดของเจ้านายคนใหม่ ยิ่งส่งเสียร้องดังขึ้น ถี่ขึ้น
ซีวอนเบรกรถอย่างแรง จนแมวตัวน้อยที่ยืนขาโก่งบนเบาะกระเด็นกลิ้งหล่นไปบนพื้นรถ ดวงตาสองคู่จ้องมองกันอย่างไม่ลดละ คู่หนึ่งแสนดุ แสนโหด อีกคู่ช่างไร้เดียงสา และอ่อนแอ ความคล้ายกับดวงตาสุดที่รัก ทำให้ชายหนุ่มต้องเป็นฝ่ายเมิน ไม่อาจจ้องด้วยความดุได้อีก “เลิกมองฉันได้แล้ว ถ้าร้องอีกครั้ง จะจับโยนไปนอกรถ คอยดู”
ความเงียบกลับมาครอบครองรถอีกครั้งแมวน้อยยอมนอนนิ่งๆอยู่ที่พื้นรถไม่ส่งเสียงใด ในใจคงนึกกลัวเจ้านายใหม่คนนี้ ส่วนชายหนุ่มก็ขับรถอย่างมีสมาธิไร้เสียงดังรบกวนจะมีก็เพียงเสียงเพลงเบาๆแสนผ่อนคลายควบคู่ไปกับเสียงเครื่องที่แสนเป็นเอกลักษณ์สมราคารถ
ทันทีเมื่อถึงที่หมายซีวอนก็เดินลงจากรถโดยไม่สนใจสิ่งใด รีบขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด กลับไปหาที่รักที่ป่านนี้คงกำลังนั่งรอคอยให้เขากลับมา หรืออาจจะนอนหลับเพราะไม่มีอะไรทำก็เป็นได้ โดยที่ซีวอนลืมนึกบางอย่างไป ชายหนุ่มลืมสิ่งมีชีสิตตัวเล็กที่อุ้มมาจากข้างทาง ลืมเจ้าตัวแสบที่วิ่งตัดหน้า ลืมแมวเมี้ยวตัวน้อยไว้ในรถ!!!!
ความเงียบที่ปกคลุมทำให้ชายหนุ่มเดาได้ไม่ยากเลยว่าจะเจอคนรักในห้องใด ซีวอนค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน พบกับร่างบอบบางกำลังนอนสบายอารมณ์อยู่บนเตียงหนุ่ม มันช่างเป็นภาพที่สวยงาม ชายหนุ่มค่อยๆเดินเข้าใกล้ร่างบาง นั่งลงบนริมเตียงกว้าง หากแต่คนบนเตียงก็ยังไม่รู้สึกตัว
ริมฝีปากที่เผยอขึ้นนิดๆ น้ำลายสายเล็กยืดออกมาจากปากบางจนชายหนุ่มอดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ มือหนาใช้ผ้าเช็ดหน้าเนื้อนุ่มของตนค่อยๆซับสายน้ำเล็ก จากที่แค่ยิ้มเล็กกลายเป็นเสียงหัวเราะเบาๆ จนร่างบางส่งเสียงประท้วงก่อนพลิกร่างหนีการรุกรานของชายหนุ่ม
“ฮีชอล ครับ ตื่นได้แล้วนะ ซีวอนกลับมาแล้ว” ร่างสูงแตะแขนเล็กเบา ใช้เสียงทุ้มปลุกคนขี้เซาให้ตื่น แต่กลับเป็นกลายเป็นการกล่อมให้หลับลึกมากกว่า เมื่อร่างบางหันกลับมาซุกตักหนา รอยยิ้มแสนหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าคนหลับอย่างมีความสุข ชายหนุ่มจ้องมองคนรักอย่าเอ็นดู ก่อนเป่าลมใส่หูเล็ก
“อื้อออออ” เสียงประท้วงเบาๆใช้มือปัดใบหูเล็กไปมาอย่างรำคาญก่อนยิ่งซ่อนหน้าลงกับตักหน้า หลบเลี่ยงความรำคาญ
ซีวอนดันร่างบางให้ออกห่างจากตนเอง ก่อนแนบริมฝีปากหยักร้อนลงบนปากบางที่เผยออกเล็กน้อย ก่อนจะจุมพิตแสนหวานและเร่าร้อน ขบเม้มริมฝีปากล่างจนแดงช้ำ ดวงตาโตเบิกกว้างขึ้นทันที จ้องมองใบหน้าคนลักหลับอย่างตกตะลึง ความตกใจขับไล่ความง่วงงุนออกไปจนหมด เลือแต่ความเขินอาย จมูกแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของกันและกัย ใบหน้าหวานแดงจนถึงใบหูเล็ก ในขณะที่คนลักหลับส่งรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์มาให้
“ซีวอน” มือบางทั้งผลัก ทั้งดันให้ใบหน้าคมเข้มบาดใจออกห่างจากตน “ซีวอนอ่ะ
ออกไปเลยนะ ฉวยโอกาสกับฮีชอลอีกแล้ว ฮีชอลจะฟ้องคุณลุง” เหมือนจะเป็นคำขู่ที่ฮีชอลคิดว่าน่ากลัวที่สุด แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วมันไม่ใช่เลย
“ฟ้องไปเลย ไม่กลัวหรอก” เสียงพึมพำเบาๆกับตัวเอง แต่ก็ไม่รอดพ้นหูดีๆอย่างฮีชอลไปได้
“เมื่อกี้ซีวอนบ่นอะไร”
“เปล่าสักหน่อย ฮีชอลได้ยินอะไรไปเองมั้ง ไปล้างหน้าดีกว่าครับคนดี ซีวอนจะพาไปกินไอติม ไปไหม” ชายหนุ่มเอาของถูกใจร่างบางมายั่วตามที่สัญญาไว้ตั้งแต่เมื่อเช้า
“ไปๆ ซีวอนรอฮีชอลแปปนะ”
“ครับ” และรอเพียงไม่นานฮีชอลในชุดใหม่พร้อมกับการออกไปกินไอติม
ตลอดทางที่ทั้งสองเดินไปยังรถคันหรู ต่างพูดเล่นหยอกล้อ ส่งเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสุข แต่แล้ว เสียงของร่างบางกลับต้องชะงักค้าง เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก นอนอ่อนเพลีย อยู่บนรถคันงาม
แมวตัวเล็กๆนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ในรถคันงาม จนคนสวยที่มองเห็นก่อนรีบสั่งให้คนรักเปิดประตูรถ คว้าเจ้าแมวตัวน้อยออกมา ก่อนจะหันไปมองคนรักด้วยสายตาเคืองๆ “ซีวอนขังแมวน้อยนี้ไว้บนรถทำไม”
“ซีวอนไม่ได้ขัง แค่ลืมไว้เฉยๆ ฮีชอลอย่ามองซีวอนแบบนั้นสิครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” ชายหนุ่มเห็นสายตาคนรักแล้ว รู้สึกหมั่นไส้แมวในมือบางเสียเหลือเกิน ทำเป็นซุกอยู่ในอ้อมกอด ชิส์! ไอ้แมวตัวแสบ ทำตัวสั่นหวังอ้อนคนของชาวบ้าน ร้ายมาก ไอ้แมวปีศาจ
“ซีวอน เกลียดแมวอ่ะ แล้วเอาแมวมาทำแบบนี้ทำไม ซีวอนใจร้าย ฮีชอลไม่ไปกินไอติมกับซีวอนแล้ว” ว่าแล้วคนรักแมวก็อุ้มเจ้าแมวน้อยขึ้นลิฟต์กลับขึ้นห้องทิ้งชายหนุ่มยืนเคียดแค้นแมวตัวเล็กที่ให้อาศัยรถมาด้วยอยู่ที่ลานจอดรถเพียงลำพัง
“ฮีชอลครับ ซีวอนวอนไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ เห็นว่าไอ้แมวตัวนี้อยู่ข้างทาง ก็เลยสงสาร เลยพามา พอตอนลงจากรถซีวอนรีบมาหาฮีชอลไง ก็เลยลืม ซีวอนไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งมันเลยนะ”
“ฮีบอม”
“....” คำเดียวสั้นๆ น้ำเสียงงอนๆ ใบหน้าเชิดขึ้นเล็กน้อย ของร่างบางทำให้ชายหนุ่มที่กำลังจะอ้อนต่อ ต้องงง ฮีบอม มันคืออะไร
“ไม่ต้องมางงเลย ซีวอนมารียกฮีบอมว่ามันไม่ได้ แมวตัวนี้ชื่อ ฮีบอม แล้วก็เป็นฮีบอมของซีวอนด้วย” ฮีบอมคือชื่อไอ้แมวปีศาจในใจชายหนุ่มได้แต่นึกหมั่นไส้ ตั้งชื่อให้ไวเหลือเกินนะ ซีวอนงอนแล้วด้วย
ฮีชอลที่คนรักทางหางตาว่าลุกออกไปจึงรีบเรียกไว้ ส่งผลให้คนกำลังงอนยิ้มอย่างดีใจ ในที่สุด แมวที่พึ่งมาวันเดียวหรือจะสู้ซีวอนผู้เลี้ยงฮีชอลมากะมือ
“ซีวอนไปซื้อนมมาให้แมวกินหน่อยสิ สงสัยจะหิวแน่เลย” คำพูดของฮีชอลที่ซีวอนวาดไว้ว่าจะต้องเป็นคำง้อหวาน ไหงกลายเป็นแบบนี้ แล้วคนแบบซีวอนจะทำอะไรได้นอกจากออกไปหาซื้อมาให้
หลังจากออกไปหาซื้อนมตามคำสั่งคนน่ารัก ไม่นานซีวอนก็กลับมาพร้อมกับนมกล่อง ทำเอาคนสั่งหน้าตาบูดบึ้งอีกครั้ง “ทำไมซีวอนไม่ชื้อนมสำหรับเด็กมาหล่ะ ฮีบอมยังเล็กอยู่เลย เดี๋ยวน้องเสียต้องแย่แน่ๆ เลย ซีวอนอะไม่ใส่ใจฮีบอมเลย แมวของซีวอนนะ แล้วซีวอนจะไปไหนอีกอ่ะ เบื่อฮีชอลแล้วใช่ไหม”
น้ำเสียงสั่นเครือ ของคนรักทำให้ชายหนุ่มรีบหันกลับมาทันที เข้ากอดปลอบประโลม “ซีวอนไม่ได้เบื่อฮีชอล แต่ซีวอนจะไปซื้อนมเด็กไงครับ จะเบื่อได้ไงกัน รักมากขนาดนี้” ไม่พูดเปล่าแต่ยังก้มลงไปหอมแก้มเนียนแรงๆหลายที เพื่อยืนยันความรักที่มีให้
“ซีวอนไม่ต้องออกไปซื้อหรอก วันนี้ ก็ให้นมกล่องไปก่อน พรุ่งนี้ ก่อนกลับบ้านก็อย่าลืมแวะซื้อมานะ” ร่างบางสั่งคนรักที่ยังวนเวียนอยู่แถวๆซอกคอหอม
“คร้าบ เดี๋ยวซีวอนจะซื้อมาให้ ว่าไป เหมือนพ่อแม่ลูกเลยเนอะ ฮีชอลเลี้ยงลูก ซีวอนก็ไปทำงาน ซื้อนมกลับบ้าน น่ารักจัง” ชายหนุ่มนั่งคิดไปถึงว่าสักวันหนึ่งมีลูกเล็กๆกคนสองคน คงวุ่นวายแน่ๆ ชีวิต
“ใช่ ซีวอนเป็นพ่อ ฮีชอลเป็นแม่ ฮีบอมเป็นลูกเนอะ” ประโยคสุดท้ายหันไปพูดกับแมวน้อยที่อุ้มขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา “ซีวอนดูแลฮีบอมไปก่อนนะ เดี๋ยว ฮีชอลไปทำอะไรให้ซีวอนกินนะ” และแล้วในที่สุดร่างบางก็ปล่อยแมวน้อยอยู่ในอันตราย
“ไร มองหน้าทำไม หาเรื่องหรือไง” ชายหนุ่มหันไปมองเจ้าตัวเล็กที่มองอย่างหวาดระแวง อยากเดินตามคนสวยไป แต่กลับโดนดึงหางไว้ไม่ยอมปล่อย
เมื่อแมวน้อยจะไปกินนมที่คนใจดีไว้ให้ ชามนมกลับถูกเลื่อนหนี ไม่มีโอกาสได้กิน จะเดินไปก็กลับถูกลากหางกลับ มองหน้าอย่างกลัวๆก็โดนว่า ง่า คนสวยคร้าบ กลับมาช่วนผมก่อน เจ้านายจะกินผมแล้ววววววววว
To ~ Be ~ Con
Talk
กลับมาแล้ว ก่อนหายไปสอบอ่ะคะ มาคราวนี้ ทั้งน้ำลายยืด ทังคนใจร้ายแกล้งแมว แต่ทั้งหมดนี้ ก็น่ารักดีใช่ไหมคะ มีใครเห็นด้วยไหมอ่ะ
รอตอนจบนะคะ หลังสอบมาแน่ๆ
ขอบคุณทุกคอมเม้มท์นะคะ
Dr. Fu
ความคิดเห็น