ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Home คำนี้ยิ่งกว่ารัก (woncin fiction)

    ลำดับตอนที่ #14 : Stand by You….2 100...%

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 53



    Stand by You….2

                            

                     ตลอดช่วงสายฮีชอลได้แต่นอนบนที่นอนสลับกับวิ่งเข้าห้องน้ำ ไม่เหลือแรงจะเดินไปไหน ทั้งหน้ามืดเวียนหัว จะลุกขึ้นแต่ละทีก็ไร้เรี่ยวแรง แล้วยังต้องวิ่งอย่างเร็ว จนตอนนี้ไม่เหลืออะไรอยู่ในท้องอีกแล้ว อาเจียนแต่ละครั้งก็มีแต่น้ำย่อยสีเหลืองใส รสชาติฝาดเฝื่อนทำให้ขมคอ

     

                  “หนูจะแกล้งแม่หรือไงครับ อย่าเลยนะ” มือบางลูบหน้าท้องแบนราบของตนเอง พูดกับสิ่งมีชีวิตน้อยๆที่อยู่ในท้อง อย่างรักใคร่ ทั้งที่ยังไม่เคยได้เห็นหน้า

     

                    ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้มาเพื่อทำให้ครอบครัวสมบูรณ์..หรือ..ทำใต้ต้องสูญเสียคนรักไป แต่ฮีชอลก็จะรักและดูแล เด็กคนนี้อย่างดีที่สุด

     

                    “แม่จะบอกกับพ่อว่ายังไงดีนะ ซีวอน ฮีชอลท้อง  หรือว่า ซีวอน เราจะมีลูกกันแล้วนะ เอาแบบไหนดีนะ พ่อเขาถึงจะรักหนู อุ๊” ร่างบางที่กำลังนอนคุยเล่นกับเด็กในท้องต้องรีบใช้มือบางปิดปากก่อนวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

     

                    ใบหน้านั่งหน้าซีด พิงโถชักโครก ไม่แรงจะลุกขึ้นกลับไปที่นอน แทบอยากจะล้มตัวลงนอนที่พื้นเย็นเชียบของห้องน้ำ ข้างกายมีลูกแมวที่กำลังจะได้เป็นพี่คน มานั่งเป็นเพื่อน คอยให้กำลังใจว่าที่คุณแม่  สายตาสองคู่จ้องมองกันอย่างห่วงหาอาทร

     

                    ยังไม่ทันที่เรี่ยวแรงจะมีพอให้ลุกเดิน ฮีชอลก็ต้องโก่งคอใส่ชักโครกอีกครั้ง แล้วมันก็ออกมาเหมือนทุกครั้ง ในเมื่อ ทั้งวันอะไรที่กินเข้าไปก็ออกมาจนครบหมดแล้ว

     

                    “ฮีชอลครับ กลับมาแล้วนะครับ” เสียงทุ่มของซีวอน ดังลั่นคอนโดสุดหรูเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องแล้วไม่เจอใคร

     

                    “ฮีชอล ทำไมมานั่งหน้าซีดอยู่ตรงนี้ครับ” ชายหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน พบคนรักนั่งหน้าซีดอยู่พื้น ท่าทางเหนื่อยล้า และอ่อนเพลีย จนซีวอนต้องจัดการอุ้มกลับไปไวบนที่นอน จัดการห่มผ้าให้คนรัก

     

    “ยังไม่หาย ทำไมเมื่อเช้าไม่บอกซีวอนหล่ะครับ” ชายหนุ่มพูดพลางซับเหงื่อเม็ดเล็กบนใบหน้าของคนรักที่ไร้สีเลือด ดวงตากลมโตปรือเพราะความล้า

     

                    “ทำไมหล่ะ ซีวอนมาถึงก็ดุฮีชอลเลยนะ”  คนป่วยเบือนหน้าหนีมือหนาที่กำลังจะปัดปอยผมให้พ้นหนาผากแคบ   ก่อนจะหันหลังให้ชายหนุ่มเพราะความน้อยใจ ที่กลับมาก็ดุกันเลย

     

                    “ฮีชอลครับ ซีวอนไม่ได้ดุนะ ซีวอนเป็นห่วงฮีชอลนะครับ หันหน้ามาคุยกันดีๆก่อนนะครับ ทำอย่างนี้ไม่น่ารักเลยนะครับ” ชายหนุ่มพยายามพลิกตัวร่างบางกลับมาคุยกันดีๆ แต่ก็คนขี้งอนกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือ

     

                    “ไม่ อ่ะ” เพียงเท่านั้น ร่างบางก็ต้องผลักร่างสูง ให้พ้นทางก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ ทั้งที่ก็แทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้ว

     

                    “ฮีชอลเป็นไงบ้าง ไปหาหมอไหมครับ” ซีวอนรีบวิ่งตามร่างบางเข้ามาในห้องน้ำ มองเห็นสิ่งที่ออกมาก็พอจะรู้ว่าตอนนี้ในกระเพาะของคนขี้งอนคงไม่เหลืออะไรอีกแล้วแน่

     

                    ชายหนุ่มตั้งใจจะช้อนตัวคนรักขึ้นมาบนเคาร์เตอร์ในห้องน้ำ หากแต่ร่างบางกลับบางกลับสะบัดตัวออก พยายามยันตัวเอง จนลุกขึ้นมาได้ เดินไร้เรี่ยวแรงไปล้างหน้าที่อ่างล้างหน้า โดยมีซีวอนคอยประคองอยู่หากร่างบางเกิดหมดแรงแล้วล้ม

     

                    ซีวอนเดินเข้ามาช้อนร่างกายที่เบาหวิวขึ้นอุ้มทันทีที่เห็นว่าคนรักกำลังจะหมดแรงล้มลง ทั้งที่ฮีชอลเองก็พยายาม ดิ้นให้ชายหนุ่มวางลง

     

                    “ปล่อยนะ ปล่อยสิ ไม่น่ารักก็ไม่ต้องมายุ่ง ปล่อย ” เสียงหวานที่ดูไม่ค่อยมีแรง แต่ก็ยังพยายาม ดิ้นจะลงพื้นให้ได้ ทั้งที่ก็รู้ตัวว่า แทบจะทรงตัวไม่ได้แล้ว

     

                    “ฮีชอล อย่าพึ่งดื้อตอนนี้ได้ไหม ซีวอนจะให้ฮีชอลเดินเอง ถ้าเดินไหว แต่เมื่อกี้กำลังจะล้มอยู่แล้ว ฮีชอลก็รู้ตัวเองดี” ชายหนุ่มทำงานมาเหนื่อยๆแล้วกลับมาบ้านแล้วเจอกับอาการงอแงของคนรัก ก็ยิ่งเหนื่อยขึ้นไปอีก เผลอทำเสียงดุ จนดวงตากลมมีน้ำเอ่อคอล

     

                    “นอนนิ่งๆนะครับ เดี๋ยวซีวอนทำอะไรให้ทานก่อน” ซีวอนบอกคนรักที่ยังไม่ยอมหันมามองหน้ากัน ก่อนจะเดินออกจาห้อง พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

                    ฮีชอลหันมองทางประตูเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของคนรักเดินพ้นประตูไปแล้ว มือบางรีบหยิบถุงจากโรงพยาบาลเก็บใส่ลิ้นชักโต๊ะหัวนอน หวังซ่อนไว้ไม่ให้ชายหนุ่มเจอ โชคดีที่เมื่อกี้ซีวอนไม่ทันสังเกตเห็น

     

                    ซีวอนเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับชามโจ๊กเละๆ ตั้งใจจะป้อนให้คนรักที่กำลังงอแงทาน แต่ร่างบางกลับไม่ยอมลุกขึ้นจากที่นอน “ฮีชอล นั่งไหวไหมครับ ทานโจ๊กซีวอนทำให้”

     

                    “ไม่” คำเพียงสั้นๆลงเสียงหนัก ก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่น แอบซ่อนน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา

     

                    “ไม่ดื้อได้ไหมฮีชอล จะงอน จะอะไร ซีวอนไม่ว่านะ แต่ต้องมาทานโจ๊กเดี๋ยวนี้เลย” ตอนนี้ซีวอนกำลังสวมบทโหดเริ่มไม่พอใจคนรัก ที่กลับมาก็เอาแต่งอแง ไม่ยอมฟังอะไร

     

                    “ไม่กิน” น้ำเสียงประท้วงแบบเด็กๆของคนรักทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจมากยิ่งขึ้น

     

                    “ต้องกินถ้าไม่กินก็ไปหาหมอ เลือกเอาว่าจะทำอะไร” แล้ววิธีเก่าๆ ที่เคยใช้ตอนเด็กก็กลับมาอีกครั้ง  ซีวอนกอดอกมองคนรักที่ยังไม่ยอมหันหน้ากลับมาคุยกันดีๆ

     

                    หรือว่า....พักนี้ จะปล่อยให้อยู่คนเดียวมากเกินไป ฮีชอลถึงได้เป็แบบนี้

     

                    หรือว่า...ตามใจกันมาเกินไป

     

                    หรือว่า...เพราะป่วย

     

                    ชายหนุ่มคิดไปถึงหลายสาเหตุที่ทำให้คนรักเป็นแบบนี้ แต่ก็คิดไม่ออก ตั้งแต่กลับมาบ้านก็ถามคำเดียว ว่าทำไมเมื่อเช้าไม่ยอมบอก แล้วทำไม ฮีชอลต้องงอแงแบบนี้ด้วย

     

                    “กินข้าวก็ได้” เสียงอ้อมแอ้มเหมือนเสียไม่ได้ ดังแผ่วๆ จนชายหนุ่มที่ยืนมองหน้านิ่งต้องเผลอยิ้มออกมา

     

                    “ทานข้าวก็หันมาสิครับ ซีวอนจะได้ป้อน” ชายหนุ่มลงนั่งข้างเตียง ถือชามโจ๊กที่เริ่มเย็น เพราะร่างบางงอแงอยู่นาน ตั้งท่าเตรียมป้อนคนรัก

     

                    “จะกินเอง” เสียงหวานที่ยังไม่ยอมหันหนามาคุยกันดีๆ ตอบออกมา จนชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจกับคนรัก

     

                    “จะกินเอง ก็ลุกขึ้นนั่งครับ”

     

                    “ยังไม่หิว”

     

                    “ยังไม่หิวก็ต้องทานครับฮีชอล” น้ำเสียงของชายหนุ่มเหนื่อยหน่ายเต็มที่กับความเอาแต่ใจของร่างบาง ที่วันนี้ไม่ยอมเชื่อกันบ้างเลย ตัวเองป่วยอยู่ก็ไม่ยอมดูแล

     

                    “ไม่กิน” เสียงหวานเริ่มสั่น เพราะรู้ว่าชายหนุ่มคงกำลังโกรธเต็มที่ แต่เพราะความน้อยใจทำให้ไม่อยากหันไปหาตอนนี้

     

                    “ฮีชอลก็รู้ว่าผมไม่ชอบเด็กดื้อนะ เพราะฉะนั้นทานโจ๊กเดี๋ยวนี้ก่อนที่ความอดทนผมจะหมด”  ความไม่พอใจ ทำให้ซีวอนเปลี่ยนสรรพนามที่เรียกตัวเอง ความอดทนเริ่มหมดลงจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง

     

                    “ไม่ชอบก็ไม่ต้องทนสิ ฮีชอลจะดื้อ ซีวอนจะทำไม ไปเล้ย ไม่ต้องทนกับฮีชอลแล้ว” ใบหน้าหวานหันกลับมา จ้องมองใบหน้าคมดุ น่ากลัว อย่างที่ไม่เคยเห็น

                   

                    ปัง!!!   ทันทีที่ได้ยินว่าไม่ต้องทน ก็เหมือนว่าความอดทนจะหมดลง ชายหนุ่มเดินออกจากห้องนอน ปิดประตูดังปัง ปล่อยให้คนดื้ออยู่ในห้องเพียงลำพัง

     

                    ใบหน้าหวานสะดุ้งเฮือกตกใจเสียงปิดประตูดังลั่น น้ำตาไหลเป็นทาง “ซีวอนไปแล้ว ไม่รักฮีชอลแล้วใช่ไหม ซีวอนไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ ลูกแม่ พ่อไม่รักเราแล้วหล่ะ

     

                    “แม่ยังไม่ได้บอกพ่อเลย” มือบางลูกหน้าท้องที่มีอีกหนึ่งชีวิตอาศัยอยู่จนกระทั่งเผลอหลับไปทั้งน้ำตา

                 
                  
                             
     

                    ซีวอนเดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง หลังออกไปสงบสติอารมณ์ที่สวนข้างล่างของคอนโด เพราะไม่อยากมีปัญหากับคนรักที่กำลังป่วยมากไปกว่านี้

     

                    มือหน้าลูบผมนิ่มอย่างรักใคร่ ทั้งๆที่เมื้อกี้กำลังงอแงเอาแต่ใจ แต่ตอนนี้กลับนอนหลับไม่รุ้เรื่อง สายตาชำเลืองไปที่ ชามโจ๊กที่ไม่พร่องไปเลย ได้แต่ถอนหายใจ กลับความเอาแต่ใจครั้งนี้

     

                    “ทำไมดื้อจังเลยครับฮีชอล ซีวอนเหนื่อยนะเลี้ยงเด็กดื้อแบบนี้หน่ะ เฮ้อ! ไม่อยากให้เรามีลูกก็เพราะแบบนี้แหล่ะครับ แค่เลี้ยงฮีชอลคนเดียวซีวอนก็เหนื่อยขนาดนี้แล้ว ถ้ามีเด็กเล็กอีกคน ซีวอนได้บ้าแน่เลย ” ชายหนุ่มจุมพิตที่หน้าผากเล็ก ก่อนจะเอาชามโจ๊กที่ไม่มีคนทานไปเก็บที่ครัว “ ฝันดีนะครับ ตื่นมาอย่าดื้อกับซีวอนนะ”  

     

                    น้ำตาเม็ดเล็กไหลลงมา ครั้งที่สองแล้วที่ได้ยินว่าซีวอนเหนื่อย กับการดูแลตนเอง

     

             ‘ แล้วถ้าซีวอนรู้ว่าฮีชอลท้อง ซีวอนจะอยู่กับฮีชอลไหม หรือจะเหนื่อยจนทิ้งฮีชอลไป

            
                    

                 คนท้องมักมีอารมณ์แปรปรวน นี้คือสิ่งที่ฮีชอลเคยรู้มา และตอนนี้กำลังรู้ซึ้ง เพราะไอ้อารมณ์แปรปรวนที่ว่า ทำให้ซีวอนโมโห เดินออกไปจากห้องในตอนเย็น และเมื่อเช้าพอทานข้าวเช้าเสร็จก็เดินออกไปเลย โดยไม่มีการกล่าวลาใดๆ

     

                   หรือนี้....จะเป็นบทสุดท้ายของความรักที่ซีวอนมีให้

     

                    หรือว่า...ซีวอนจะไม่ทนกับความเอาแต่ใจของฮีชอลอีกแล้ว

     

                    สารพัดคำถามที่ร่างบางมีอยู่ในใจ แต่ก็ไม่กล้าถามไป ได้แต่ปล่อยให้มันฟุ้งซ่านอยู่ในหัว อยากหาอะไรทำ จะได้ไม่ว่าง แต่เรี่ยวแรงก็หมดไปกับการวิ่งเข้าออกห้องน้ำที่ยังทรมานกันไม่เลิก

     

                    รอบที่เท่าไหร่แล้วตั้งแต่เช้าที่ต้องมานั่งหมดแรงอยู่ที่พื้นห้องน้ำ เหงื่อเม็ดเล็กแย่งกันจับจองพื้นที่บนหน้าผากเล็ก และก่อนที่มือบางจะหาอะไรซับหน้า ร่างกายที่เหนื่อยล้าเพราะสารพัดเรื่องที่อยู่ในใจ ทำให้ร่างบางร่วงหล่นลงสู่พื้น ไร้สิ่งใดรอรับ และไร้สติจะรับรู้อะไร


                  

                  เกือบเที่ยงที่ชายหนุ่มสูงโปร่งหน้าตาดีว่าที่คุณน้าแต่ทำหน้าที่คล้ายคุณตา  เดินผิวปากอารมณ์ดีออกจากลิฟท์ เคาะประตูห้องบานใหญ่ที่ทั้งชั้นมีอยู่สองห้อง แต่เคาะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครมาเปิด จึงยอมวางสารพัดอาหารบำรุงคุณแม่ ไว้กับพื้น ก่อนล้วงกุญแจสำรองที่พึ่งได้ใช้ไปเมื่อวานมาใช้อีกครั้ง

     

                    “ฮีชอล  ฮีชอล  เฮ้ ว่าที่คุณแม่อยู่ไหน คุณน้ามาหาว่าที่คุณหลาน” เจย์วาของที่ซื้อมาลงบนโต๊ะหน้าโซฟา ร้องหาเรียกหาเจ้าของบ้านที่ไม่ยอมเปิดประตูให้แขก

     

                    “เฮ้ยหรือว่าฮีชอลอยู่ในห้องน้ำ” ร่างสูงโปร่ง รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำกลัวว่าจะเป็นแบบเมื่อวาน แต่ไม่ทันต้องเข้าไปในห้องน้ำ แค่เปิดประตูห้องนอน ร่างบางก็อยู่แทบเท้าแล้ว

     

                    “ฮีชอลๆๆๆ “ มือหนาเขย่าร่างบางอย่างเบามือ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคนตัวเล็กจะรู้สึกตัวเลย สุดท้ายชายหนุ่มจึงตัดสินใจอุ้มคุณแม่ร่างบางน้ำหนักน้อยขึ้น พาออกจากห้องทันที

     

                    ชายหนุ่มไม่รุ้ว่าตอนนี้ ร่างบางที่ตนกำลังอุ้มอยู่กับคนรักหน้าโหด กำลังมีปัญหาอะไร แต่การปล่อยให้คนท้องอ่อนๆที่อยู่ในช่วงแพ้ท้องรุนแรงแบบอยู่คนเดียวแบบนี้ มันเกินไปแล้ว              

                     

                    ชเว ซีวอน ชายหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่ความรักตอนนี้กลับกำลังทำท่าย่ำแย่  รู้ว่ากับคนรักขี้อ้อน ช่างเอาแต่ใจ ต้องใจเย็นมากๆ แต่บางที กับบางเรื่องก็ทนไม่ได้

     

                    มีอย่างที่ไหนกัน...ตัวเองป่วยกลับบอกว่าสบายดี ....แล้วยังไม่ยอมกินข้าว

     

                    “หรือว่าเราจะเลี้ยงแบบผิดๆ คงตามใจมากเกินไป แต่ปรกติฮีชอลก็ไม่เป็นแบบนี้ คงเป็นเพราะว่าป่วยหล่ะมั้ง” ชายหนุ่มได้แต่พึงพำกับตัวเองเบาๆ พร้อมรอยยิ้ม ทุกเรื่องที่มีคนรัก มันทำให้ชายหนุ่มยิ้มได้เสมอ เพียงแค่นึกถึง

     

                    “เฮ้อ โดดงานกลับไปหาฮีชอลดีกว่า ” เพียงเท่านั้นเอง ชายหนุ่มก็จัดการยัดเอกสารที่อ่านค้างไว้ใส่กระเป๋า คว้าเสื้อสูทที่แขวนไว้กับเสา ก่อนเดินออกตาห้องผ่านหน้าเลขาคนสวยที่นั่งมองท่านรองเดินผ่านหน้าไป


                       

                   “ฮีชอลครับ “ ซีวอนร้องหาคนรักทันทีที่กลับมาถึงบ้านแต่ทั้งบ้านกลับเงียบไม่มีใครยู่ เหลือแค่แมวตัวเล็กๆให้ชายหนุ่มได้ใจหายเล่น  ความเงียบมันคล้ายคลึงกับวันที่ฮีชอลหนีออกจากบ้านไป

     

                    บนโต๊ะตัวเตี้ยหน้าโซฟา มีถุงหูหิ้วหลายใบบางอยู่ระเกะระกะ จนซีวอนได้แต่งง ปกติแล้ว ฮีชอลไม่ใช่คนที่ทำอะไรไม่เรียบร้อย ถึงแม้จะเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ แต่ก้ไม่ยอมปล่อยให้อะไรรกหูรกตาแบบนี้

     

                    “หายไปไหนของเค้าหน่ะ” ชายหนุ่มบ่นกับตัวเองเบาๆ ก้มมองแมวกำลังโตที่เข้ามาคลอเคลียไม่ห่าง “แม่เราเขาบอกไว้ไหมฮีบอม ว่าออกไปไหน”

     

                    มือหนากดเบอร์ของคนรักลงในโทรศัพท์ บ้านที่ตั้งอยู่ไม่ไกล แต่ไม่ทันไร เสีนงเพลงเรียกเข้าก็ดังออกมาจากห้องนอน ทำให้ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทันที ก่อนเดินตามเสียงที่ยังคงดังอยู่ไป “อะไรของเขานะ ไปในก็ไม่เอามือถือไป ยิ่งป่วยๆอยู่นะ ฮีชอลครับอย่าทำให้เป็นห่วงได้ไหมเนี่ย”

     

                    ชายหนุ่มร่างสูงเดินตามเสียงโทรศัพท์เข้าไปในห้องนอน ก่อนจะจับเสียงได้ว่า มันทั้งร้องทั้งสั่นครืดๆอยู่ในลิ้นชักข้างหัวเตียง “เพราะเก็บศะลับตาขนาดนี้สิหน่าถึงได้ลืม”ซีวอนคว้ามือถือทีนอนส่งเสียงขึ้นมาตัดสาย ก่อนจะเหลือบเห็นถุงโรงพยาบาลที่นอนสงบนิ่งในลิ้นชัก

     

                    “เอ๋ ไปหาหมอมาก็ไม่ยอมบอกนะครับคนเก่ง” ซีวอนยิ้มให้กับถุงโรงพยาบาลในมือ ดีใจที่คนรักไปหาหมอ ถึงแม้จะไม่ได้ไปกับเขาก็ตาม “หมอให้ยาอะไรมากินบ้างเนี่ย”

     

                    “แก้อาเจียน แก้วิงเวียน เพิ่มฮอร์โมน เฮ้ย!!” ชายหนุ่มตกใจกับสรรพคุณของยาที่เขียนไว้ อ่านชื่อเจ้าของยาก็ พิมพ์ไว้ถูกต้องว่า นาย คิม ฮีชอล มือหนารีบหยิบซองยาอีกหนึ่งซองที่เหลือขึ้นมาดู พร้อมกับรู้สึกหวาดกลับบางอย่าง คนรักของเขาเป็นอะไร ทำไมต้องกินฮอร์โมนเพิ่ม??

     

                    วิตามินบำรุงครรถ์...???

     

                    ซีวอนมองซองยาในมือนิ่ง ความสับสน ความกลัวและความโกรธปนเปกันอยู่จนแยกไม่ออก ตอนนี้ ชายหนุ่มได้รับคำตอบแล้วว่าทำไม คนรักถึงได้เป็นแบบนี้

     

                    เพราะ...ฮีชอลกำลังท้อง ถึงได้อารมณ์แปรปรวน หาเรื่องน้อยใจ

     

                    เพราะ..ฮีชอลท้องถึงได้อาเจียนวิ่งเข้าออกห้องน้ำ มีอาการหน้ามืดแบบนี้

     

                    เพราะ...ฮีชอลท้องถึงได้บอกว่าอยากมีลูก

     

                    แต่...เพราะฮีชอลเป็นผู้ชาย...แล้วท้องได้ยังไง???

     

                    หากมีใครมาถามตอนนี้ว่า ดีใจไหมที่กำลังจะมีลูก เขาก็คงตอบไม่ถูก ความดีใจมันเทียบไม่ได้เลยกับความเป็นห่วง เรื่องแบบนี้มันเสี่ยงเกินไปสำหรับคนรักของเขา หากผิดพลาดแล้วต้องเสียฮีชอลไปตลอดชีวิต เขาจะทำยังไง

     

                    เขายอมที่จะอยู่กันแค่สองคนเท่านั้น ดีกว่าที่จะแลกคนรักกับความสมบูรณ์แบบที่ไม่จำเป็น

     

                    ตอนนี้ชายหนุ่มได้แต่กังวลเป็นห่วงจิตใจคนรัก ที่เคยเฝ้าบอกว่าอยากมีลูก และตัวเขาเองที่พร่ำบอกว่าไม่ชอบเด็ก แล้วตอนนี้ก็คงกำลังเสียใจ และหวาดกลัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง

     

                   ที่ที่เขาควรจะต้องรู้

     

                   ที่ที่เขาควรจะไปหาในตอนนี้

     

                    “ฮัลโหล ฮีชอลไปที่บ้านใหญ่หรือเปล่า” ทันทีที่มีคนรับสาย ชายหนุ่มก็ไม่รอให้ใครได้พูด ถามกลับไปอย่างรวดเร็วเพราะความร้อนใจ ป่านนี้ฮีชอลคงกำลังต้องการเขา และเขาก็ควรจะอยู่ข้างๆฮีชอล

     

                    “มาคะ” ได้ยินเพียงแค่นั้นชายหนุ่มก็วางสายทันทีไม่ปล่อยให้ใครได้พดหรือซักถามอะไร ก่อนจะออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว                   




                       

                   ชายหนุ่มขับรถเลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังอย่างรวดเร็ว เสียงล้อรถบดถนนดังลั่นเรียกให้คนที่ต่างทำงานในบ้านออกมามอง  ก่อนจะเจอกับรถคันคุ้นตา และคนขับคุ้นหน้า

     

                    “ฮีชอลอยู่ไหน”ชายหนุ่มหันไปถามเด็กในบ้านเสียงเข้ม ทั้งบ้านดูเงียบสงบเหมือนไม่มีใครอยู่ บ้านสักคน ทั้งคุณนายใหญ่ และลูกสะใภ้แสนน่ารัก

     

                    “ออกไปกับคุณผู้หญิงคะ” เด็กสาวตอบเสียงสั่นไม่เคยเจอคุณชายของบ้านเวอร์ชั่นโหดขนาดนี้ ได้แต่ก้มหน้านิ่งมองพื้น ไม่กล้าสบตาคมดุคู่นั้น

     

                    “ไปนานหรือยัง”  คิ้วเรียวขมวดแน่นไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองท้องยังออกไปข้างนอกอีก ทำแบบนี้จะไม่ให้เป็นห่วงกระวนกระวายได้ยังไง

     

                       “สักพักแล้วคะ” หญิงสาวผู้โชคร้ายยังคงต้องตอบคำถามของเจ้านายหนุ่มที่ไม่ค่อยได้กลับมาบ้านหลังนี้ มาทีก็อารมณ์ไม่ดี

     

                    “แล้วฮีชอลมาที่นี้ยังไง” ซีวอนถามสิ่งที่ยังค้างอยู่ในใจ ก็ในเมื่อแทบจะไม่มีแรงอยู่แล้ว คงต้องมีใครสักคนจากที่นี้ไปรับ หวังว่าจะไม่ใช่ไอ้หน้าจืดข้างบ้านหรอกนะ

     

                    “คุณเจย์ไปรับมาคะ ตอนมาถึงที่นี้ คุณฮีชอลเธอสลบไป แล้วพอฟื้นได้สักพัก คุณหญิงก็พาออกไปข้างนอกพร้อมกับคุณเจย์คะ” เด็กสาวตอบทีเดียวรวด คิดในใจไม่อยากอยู่ตอบคำถามชายหนุ่มอีกแล้ว

     

                    “ไปไหนก็ไปเหอะ เออ ให้คนหาอะไรมาให้ฉันทานหน่อย ไม่ต้องตั้งโต๊ะหรอก” ซีวอนนั่งหอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่สนใจว่าหญิงสาวจะออกไปแล้วหรือยังทำไม อะไรๆก็เป็นไอ้หน้าจืด ข้างบ้าน

     

                    ชายหนุ่มนั่งมองเข็มนาฬิกาที่ค่อยๆเคลื่อนผ่านไป จากบ่าย กลายเป็นเย็น แต่ก็ยังไม่มีใครกลับมา ป่านนี้ร่างบาที่กำลังตั้งท้องจะเป็นไงบ้าง จะมีใครรู้บ้างไหม ว่ากำลังพาคนท้องออกไปทรมาน

     

                    เสียงเอะอะ วุ่นวาย ทำให้ชายหนุ่มรีบวิ่งจากห้องรับแจกไปที่โถงหน้าบ้านและภาพที่เห็นแทบให้อยากเข้าไปต่อยหน้าไอ้จืดหน้าบ้าน แต่ตอนนี้ร่างบางที่กำลังถูกอุ้ม สำคัญกว่าสิ่งอื่น

     

                    ซีวอนเดินเข้าไปซ้อนร่างบางที่ใบหน้าซีดเผือด ออกมาจากมือของคนข้างบ้าง จ้องมองด้วยสายตากร้าว ก่อนละสายตามามองคนในวงแขนด้วยดวงตาคมดุ อย่างไม่พอใจ

     

                    ชายหนุ่มวางร่างบางลงบนโซฟาตัวยาว จัดให้ฮีชอลนอนได้อย่างสบาย มือหนาเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามใบหน้าให้อย่างเบามือ “ฮีชอลครับ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ” เสียงเข้มบอกคนรักที่นอนมองตาปรือๆ

     

                    “เราก็มีเรื่องต้องพูดเหมือนกันตาซีวอน” เสียงขุ่นคุณผู้หญิงของบ้านดังจากข้างหลัง บ่งบอกถึงความไม่พอใจในตัวลูกชาย ที่ปล่อยให้หลานสุดที่รักต้องอยู่คนเดียวทั้งที่กำลังป่วย

     

                    “ทำไมปล่อยให้ฮีชอลอยู่คนเดียวทั้งที่กำลังท้องแบบนี้” แม่ที่มันใจดีกับลูกชายเสมอ แต่วันนี้มาสวมบทโหดเพื่อนหลานรักผู้แสนอ่อนหวานและบอบบาง

     

                    “คุณป้าครับ” ฮีชอลอยากจะห้ามนายหญิงของบ้าน แต่ก็ไม่สามารถห้ามทัน ได้แต่เอ่ยเสียงเครือในลำคอ ใจดวงน้อยเต้นรั่ว รอปฏิกิริยาจากคนรักที่ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร

     

                    “เงียบไปเลยฮีชอล ไม่ต้องกลัวอะไร ถ้าพ่อมันไม่อยากได้ลูก หลานย่าคนเดียว ทำไมป้าจะเลี้ยงไม่ได้” เพราะรู้ดีว่าฮีชอลกลัวซีวอนแค่ไหน ถึงจะอายุมากกว่า แต่การโตมาโดยแทบจะมีชายหนุ่มเป็นคนดูแลตลอดเวลาก็ทำให้ฮีชอลลืมนึกไปว่าตนเองอายุมากกว่า

     

                    “นี้มันอะไรครับแม่ มาถึงก็ใส่ผมแบบนี้ ไม่ให้ผมพูดอะไร แล้วใครบอกว่าผมไม่อยากลูก” ชายหนุ่มมองกวาดไปทั่วห้อง ก่อนตวัดสายตาไปที่ร่างสูงอีกคนที่ยืนนิ่งเงียบ  

     

                    “ก็ซีวอนบอกฮีชอล เองว่าไม่ชอบเด็ก แล้วก็หมดความอดทนกับฮีชอลแล้ว เมื่อเช้าซีวอนก็ไม่ยอกพูดกับฮีชอล” ร่างเล็กนอนหมดแรงอยู่บนโซฟาเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ข้างกาย ดวงตาโตเริ่มมีน้ำตา “แล้วตอนฮีชอลหลับก็บอกว่าเหนื่อย เหนื่อยกับการต้องดูแลฮีชอล ถ้าซีวอนเหนื่อย ซีวอนไม่ต้องมาสนใจฮีชอลก็ได้นะ”  เพียงเท่านั้น น้ำตาที่ก่อตัวในดวงตากลม ก็รินไหลใส่แก้มเนียน

     

                    ฮีชอลดันตัวเองขึ้นนั่ง จะลุกเดินออกไปให้พ้นจากคนรักทั้งที่ยังมึนหัว หากแต่มือใหญ่ก็คว้าร่างบางได้ทันก่อนจะล้มไปกองที่พื้น ตอนนี้ความหงุดหงิดมันยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก “ฮีชอลคิดอะไรครับ บ้ากันไปใหญ่แล้ว ผมเป็นคนนะ ลูกทั้งคนทำไมจะไม่รัก แล้วถึงผมเหนื่อย แต่ผมก็มีความสุขที่ได้อยู่กับฮีชอล หรือฮีชอลไม่มีความสุขที่ได้อยู่กับผม” เพราะความโกรธทำให้สรรพนามที่เรียกชื่อเปลี่ยนไป ดวงตาคมเข้มจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่โตที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำ

     

                    “เปล่าสักหน่อย แต่ซีวอนบอกเองว่าไม่อยากมีลูก แล้วจะให้ฮีชอลทำยังไง ฮีชอลท้องแบบนี้ ซีวอนคงมองว่าฮีชอลเป็นตัวประหลาด เป็นผู้ชายแต่กลับท้องขึ้นมา แล้วซีวอนก็คงจะเบื่อฮีชอลมากไปอีก เพราะฮีชอลงี่เง่าเอาแต่ใจตัวเอง ฮีชอลไม่บังคับให้ซีวอนต้องมาดูแลทั้งฮีชอลทั้งลูกหรอก” ใบหน้าหวานร้องไห้นำตาอายสอข้างแก้ม จนชายหนุ่มอีกคนที่ยืนนิ่งมานานต้องเข้ามาปลอบทั้งๆที่ซีวอนก็นั่งอยู่ตรงนั้น

     

                    “คุณเจย์ ผมขอคุยกับภรรยาของผมได้ไหมครับ คุณช่วยออกไปไกลๆเลย” ซีวอนใส่อารมณ์กับชายหนุ่มอีกคนที่เข้ามานั่งคั่นกลางระหว่างฮีชอล  ไม่พอใจที่ทุกครั้งจะต้องมีไอ้หน้าจืดข้างบ้านมายุ่งด้วยตลอด

     

                    “ซีวอนพูดกับเจย์เขาดีๆ เขาเนคนพาฮีชอลไปหาหมอ ไปรับมาที่นี้ ถ้าไม่มีเจย์ ป่านนี้ฮีชอลก็ยังไม่ได้สติอยู่ที่ห้องคนเดียวไม่มีใครรู้ ไม่มีใครดูแล เราเป็นพ่อก็ยังไม่สนใจเลย” นายหญิงของบ้านปรามลุกชายด้วยความไม่พอใจ ตัวเองทำหน้าที่ไม่ดีแล้วยังว่าคนอื่น

     

                   เสียงเข้มของมารดาทำให้ซีวอนต้องนั่งสะกดอารมณ์อยู่นาน ยิ่งมองหน้าหวานที่เต็มไปด้วยน้ำตา แล้วยังตาโตๆที่ดูหวาดกลัวไปสะทุกอย่าง ยิ่งทำให้ชายหนุ่มแทบคลั่ง “ก็เพราะผมเป็นพ่อไงครับ แต่ผมกลับรู้เรื่องนี้คนสุด ถ้าผมไม่เห็นซองยานั่นป่านนี้ผมก็ยังไม่รู้ ใจคอฮีชอลจะปิดผมไปอีกนานแค่ไหน ผมอาจไม่ชอบเด็ก แต่ลูกผมเองทั้งคนทำไมจะไม่รัก” เพราะความน้อยใจในคนรักทำให้น้ำตาเล็กของผู้ชายชื่อซีวอน ไหลลงมาอย่างเงียบ สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน

     

                    ฮีชอลที่มองเห็นน้ำตาของชายหนุ่ม พยายามดันๆสะกิดๆคนนั่งข้างๆที่คั่นระหว่างตนเองและซีวอน แต่ก็ดูเหมือนเจย์จะยังไม่รู้ตัว ร่างบางจึงหยิกเข้าที่เอวหนาไร้ไขมัน ก่อนจะโบกมือไล่ให้ลุกออกไปแล้วขยับมานั่งข้างๆคนรักของตนเอง “ซีวอนอย่าร้องไห้นะ”มือบางซับน้ำตาชายหนุ่ม ส่งรอยยิ้มอ่อนหวานให้ “ฮีชอลขอโทษ ฮีชอลไม่คิดจะปิดซีวอนแต่ยังหาโอกาสบอกไม่ได้ ซีวอนอย่าร้องนะ” เมื่อไม่เห็นว่าน้ำตาเม็ดเล็กๆจะหยุดไหลจึงย้ายที่นั่งไปอยู่บนตักของชายหนุ่ม สองแขนเรียวคล้องคอหนาไว้ก้มลงจุมพิตที่ปลายคาง ลืมอีกสองคนที่ยังนั่งหน้าเริ่มแดงอยู่ในห้อง

     

                    “ซีวอนก็ขอโทษฮีชอลนะครับ ที่ซีวอนไม่อยากให้ฮีชอลเหนื่อยถ้าเราไปขอเด็กมาเลี้ยง แล้วยิ่งฮีชอลท้องแบบนี้ซีวอนก็ยิ่งเป็นห่วงรู้ไหม มันอันตรายแค่ไหนที่อยู่ๆฮีชอลก็ท้อง ซีวอนไม่สนเลยว่าใครจะมองยังไง ซีวอนสนแค่ขอให้คนรักของซีวอนอยู่กับซีวอนไปนานๆ ซีวอนขอโทษนะครับ” ชายหนุ่มจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มแผ่วเบานิ่มนวล

     

                    “ซีวอนอุ้มฮีชอลขึ้นไปพักข้างบนเหอะ พรุ่งนี้ค่อยกลับไปบ้าน” นายหญิงของบ้านเอ่ยขัดความหวานของลูกชายและหลานสุดที่รัก กลัวมันเลยเถิดไปกันใหญ่

     

                    “ครับแม่ ผมขอตัวนะครับ ขอบคุณมากนะครับคุณเจย์ที่อุตส่าห์พาฮีชอลไปหาหมอแล้วก็พามาที่นี้ แต่ต่อไปคงไม่ต้องแล้วนะครับ” ชายหนุ่มอุ้มร่างบางที่หน้ากลับมาแดงเพราะความเขินอายอีกครั้ง ขึ้นไปบนห้องนอน

     

                    “พักผ่อนนะครับฮีชอล” ซีวอนวางคนรักลงบนเตียงอย่างถนอม จัดการห่มผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะจับมือบางมากุมไว้จุมพิตที่หลังมือบาง

     

                      “ผมจะดูแลฮีชอลกับลูกให้ดีที่สุด” ไม่ใช่คำสัญญาแต่ฮีชอลก็รับรู้ว่ามันจะเป็นแบบนั้น ตลอดไป

     

    To~Be~Con



                      

      Talk

                    

    ขอขอบคุณพล็อต ที่ ZonkWonder boy เอื้อเฟื้อมาให้  ณ ที่นี้คะ

                    ครบร้อยแล้วคะ ในที่สุดคุณพ่อกับคุณแม่ก็เข้าใจกันสักที  

    หวิด ร้าวฉานเลยทีเดียวกับครอบครัวแสนสุข แต่ว่านะคะ สุดท้ายก็ดูอึนๆ 555  แต่งไปยังงง มันมาลงแบบนี้ได้ยังไงหว่า อุเหม่!!! แต่งเองงงเอง

    ยังเหลือสแตนบายยูอีกหนึ่งตอนนะค แล้วไอซ์จะถามว่าอยากอ่านพล็อตแบบไหน (หวานๆอ่ะคะ)แล้วไอซ์จะสนองนี้ดให้นะคะ  กลับไปคิดกันไว้ก่อนได้เลยคะ จบตอนหน้าไอซ์ จะถามนะคะ อิอิ

     

    ขอเม้มท์ เยอะๆนะคะ ความโลภยังคงอยู่ 

     

                    ขอบคุณทุกคอมเม้มท์คะ   





    Dr. Fu

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×