คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนพิเศษ ที่แห่งนี้....
ที่แห่งนี้....
“ซีวอนนน” เสียงเรียกเบาๆทำให้หนุ่มใหญ่ที่กำลังเคร่งเครียดกับเอกสารในมือต้องเงยหน้าขึ้นมองร่างกายผ่ายผอมที่นอนพิงอยู่ข้างๆ
“ว่าไง มีอะไร เรียกเสียงแบบนี้ แล้วยังมานอนเบียดด้วยจะต่อรองอะไรอีก” ซีวอนวางเอกสารในมือลงที่พื้นข้างเตียง ถอดแว่นสายตาออก เป็นสัญญาณว่าเลิกสนใจงาน หันมาสนใจคนข้างกายแทน
“ก็....” ร่างบางจนเรียกได้ว่าผอมถูกกวาดเข้าไปไว้ในอ้อมอกอุ่น ทำหน้าคิดหนักที่ถูกดักคอเอาไว้ แต่ก็ไม่แปลกเพราะคนอย่างซีวอนก็รู้จักเขาดียิ่งกว่าใคร
“ก็อะไร ถ้าคิดจะเบี้ยวนัดหมอพรุ่งนี้ก็เลิกหวังได้เลย เพราะฉันเคลียร์งานหมดแล้ว พรุ่งนี้จะคุมตัวนายไป ไม่ปล่อยให้หนีแบบคราวที่แล้ว รู้ไหมตอนที่หมอโทรมาว่านายผิดนัด ฉันโกรธแค่ไหน” ดวงตาคมดุจ้องจับผิดร่างเล็กที่รู้จักกันมาตลอดชีวิต ผ่านความทุกข์ ความสุขร่วมกันมา
“อืออ ก็ครั้งที่แล้วฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ยาก็ยังเหลือ แล้วฉันไม่ใช่นักโทษที่นายจะมาคุมตัวอะไรนะ” จากที่ตั้งใจจะอ้อน กลายเป็นต้องเถียงไปแล้ว เมื่อชายหนุ่มพูดถึงเรื่องนัดหมอครั้งที่แล้ว ที่แอบไม่ไปตามนัด
“ก็เพราะไม่ใช่นักโทษ แต่เป็นคนที่ฉันรักมากไง ฉันถึงต้องทำแบบนี้ เข้าใจฉันหน่อยนะฮีชอล ฉันรู้ว่านายก็ไม่ชอบไปหาหมอ แต่ฉันขอเถอะนะ อย่างน้อยก็ให้ฉันสบายใจ” เสียงทุ้มอ่อนลง มือหนาลูบหัวกลมเล็ก อธิบายเหตุผลของตัวเองให้คนรัก ที่เป็นคู่ชีวิตได้เข้าใจ
“เหนื่อยไหมซีวอนที่ต้องมาดูแลคนขี้โรคไม่ได้เรื่องแบบฉัน” หยดน้ำเอ่อคลอขึ้นมาในดวงตากลม เมื่อนึกถึงสิ่งที่ได้รับจากผู้ชายคนนี้ มันมากล้นยิ่งกว่าความรัก ที่คงหาไม่ได้จากใคร
“ถ้าเหนื่อยฉันคงไม่ทำ ถ้าไม่รักก็คงไม่ทน อย่าถามคำถามแบบนี้อีกนะ มันเหมือนนายดูถูกความรักของฉัน รู้ทั้งรู้ว่าชีวิตฉันก็ให้นายได้”
“ขอโทษ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ ฉันรู้ว่านายหน่ะรักฉันที่สุด เหมือนฉันที่รักนายที่สุด แต่ฉันแค่คิดว่า ถ้าหากคนที่นายรักไม่ใช่ฉัน มันก็คงดีกว่านี้ นายคงจะมีความสุขมากกว่าที่ต้องมาดูแลคนป่วยแบบฉัน” น้ำตาหยดที่เคยอยู่ในลูกแก้วใส เอ่อล้นออกมาไม่ทันรู้ตัว
รู้สึกผิดที่พรากเอาความสุข ความสนุกที่ผู้ชายคนหนึ่งควรได้รับจากเวลาที่อยู่กับคนรัก กลับต้องมาจมปลักกับความอ่อนแอแบบนี้
มือหนาไล้เช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าซีดเซียวเห็นแววความอ่อนล้า ร่างกายเล็กสั่นเทาจนต้องโอบกระชับ “อย่าคิดแบบนั้นฮีชอล นายคือคนที่ดีที่สุดสำหรับ คือของขวัญจากพระเจ้าที่พระองค์ประทานมาเพื่อฉัน ถ้าไม่มีนายแล้วจะมีความรักของฉันได้ยังไง” ริมฝีปากร้อนจุมพิตลงบนขมับเล็กแผ่วเบา เก็บกลั้นหยดน้ำตาเอาไว้ ตะกอนของความกลัวกำลังคุกรุ่นอยู่ในใจ วันใดที่ร่างเล็กนี้ไม่อยู่แล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง
“อย่าคิด อย่ากังวลอะไรฮีชอล การได้ดูแลนาย คือความสุขของฉัน อย่าร้องนะคนดี นอนเลยดีไหม ดึกแล้ว” น้ำตาที่เก็บไว้จวนเจียนจะไหลออกมา ซีวอนจีงรีบหาเรื่องเปลี่ยนประเด็น อย่างน้อยถ้ามันจะไหล ความมืดคงพอช่วยอำพรางได้
“ก็ได้....” ร่างเล็กพยักหน้ารับ ทำให้ชายหนุ่มเดินไปปิดไฟในห้องให้มืดสนิท แล้วจึงเดินมาล้มตัวนอนข้างร่างผ่ายผอม คว้าเข้ามาในอ้อมกอดเหมือนเช่นทุกวัน
“ซีวอนนน”
“อะไรอีก ปิดไฟแล้วนอนได้แล้ว ไม่นอนตอนนี้ฉันจะพานายออกกำลังกายแบบหักโหมอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงค่อยปล่อยให้นอนนะ” ชายหนุ่มพูดไปทั้งที่ตาก็ปิด จมูกก็ยังฝังอยู่บนกลุ่มผมละเอียด
“ลามก คราวนู้นที่โดนหมอดุไปยังไม่เข็ดอีกหรอ”
“ไม่เข็ดหรอก เรื่องแบบนี้ หมอก็เป็นผู้ชายก็น่าจะเข้าใจบ้างแหล่ะ แล้วตกลงที่เรียกมีอะไรครับ หรืออยากออกกำลังกายจริงๆ ฉันพร้อมนะ” เซ็กส์กับผู้ชายเป็นของคู่กัน และเมื่อมีคนรักอยู่ในอ้อมกอดทุกคืนวัน ความต้องการก็ยิ่งเพิ่มสูง
แต่สำหรับฮีชอล.......เรื่องพวกนี้มันรุนแรงเกินกว่าร่างกายจะรับไหว โดยเฉพาะในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ
เคยมีคนถามเขาว่า มันไม่ทำให้อึดอัด หรือเบื่อบ้างเลยหรือ ในเมื่อเขาคือผู้ชายปรกติที่แข็งแรง คำตอบของเขาคือไม่ เพราะความรักของพวกเขาข้ามพ้นเรื่องทางกายมานานมากแล้ว
“ลามกจริงๆด้วย แก่แล้วนะ ฉันแค่เห็นนายดูล้าๆ ก็เลยอยากรู้ว่าเหนื่อยไหม เท่านั้นเอง” ใบหน้าหวานดูตัวว่าหน้าคงแดงจัด เพราะมันกำลังร้อนวูบ
“ถ้าเรื่องงาน ก็เหนื่อยบ้าง แต่เรื่องของนายฉันไม่เคยเหนื่อย ทุกครั้งที่ได้ดูแล มันคือความสุข คือการชาร์ตพลังของฉัน” ทุกคำพูดคือเรื่องจริงที่ชายหนุ่มรู้สึก
“ก็แปลว่าเหนื่อย ไปพักผ่อนกันไหม” เสียงใสถามขึ้นอย่างมีความหวังจากการสรุปความของตัวเอง
“ฮ่าๆๆ อยากไปเที่ยวหล่ะสิ เรื่องนี้หรือเปล่าที่อ้อนตอนแรก” ในความมืดแต่ก็ยังพอมองเห็นใบหน้าได้รูปพยักขึ้นลง “ก็บอกตรงๆสิ ไม่เห็นต้องอ้อมไปมาเลย”
“นั่นแหล่ะ แล้วตกลงได้ไหม” ร่างเล็กทนฟังเสียงหัวเราะด้วยหน้ามุ่ยๆ ก่อนถามย้ำ
“ให้หมอตรวจก่อน แล้วถ้าหมอให้ไปได้ ไม่ว่าที่ไหนฉันก็จะพาไป”
“สัญญาแล้วนะ”
“ครับทุกที่ที่หมอให้ไป ที่ที่มีนาย มีฉัน ดึกแล้ว หลับนะ”
“อื้อออ”
“ฮีชอล ลืมอะไรหรือเปล่า” ถึงจะบอกให้หลับ แต่ชายหนุ่มก็ยังกระซิบเรียกชื่อคนรัก
“โอ๊ะ!..... ฮีชอลรักซีวอนนะครับ”
“ดีมาก ซีวอนก็รักฮีชอลครับ”
จบประโยคบอกรักที่พูดทุกวัน คนทั้งสองก็เข้าสู่ห้วงนิทราแสนหวานในอ้อมกอดของกันและกัน
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
“ฮีชอลทำอะไรอยู่ เข้าบ้านได้แล้ว แดดร้อนแล้ว” ชายหนุ่มเดินออกมาจากบ้านหลังเล็กสีขาวริหาดทรายเงียบสบง เรียกร่างเล็กที่นอนมองคลื่นซัดเข้าฝั่งอยู่บนเตียงผ้าใบ
“กำลังสบายเลย มานอนด้วยกันเร็ว” ร่างเล็กเพียงแค่หันมามองนิดๆก่อนหันกลับไป แต่ก็ไม่ลืมชวนคนที่มาเรียก หวังผลว่าจะได้นอนอยู่ตรงนี้นานขึ้น
“ไม่ต้องเลย รู้นะคิดอะไรอยู่เข้าบ้านเหอะ ถ้าไม่เข้าตอนนี้ ตอนมืดไม่ยอมให้มานอนดูดาวนะ” ซีวอนที่ละทิ้งสูทสีเข้ม มาใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้น เดินมาข้างหน้าบังวิวทะเลจนมิด
“คร้าบคุณพ่อ ดุจังเลย ช่วยดึงหน่อยสิ” ใบหน้าอิ่มเพราะการดูแลที่ดียับย่นเล็กน้อยอย่างขัดใจ ยื่นมือส่งให้ชายหนุ่มด้วยดึงตัวเองขึ้นจากเตียง
“ดูสิ ตัวแดงหมดแล้ว แล้วยังจะนอนตกแดดอีก ถ้าไม่สบายนะขึ้นมานะ” ยิ่งมองเห็นแขนขาวแดงจัดเพราะพิษแดด คนขี้เป็นห่วงก็กลายร่างเป็นคนขี้บ่นในทันที ฉุดร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืนไป ก็บ่นไป
“ขี้บ่นจังเลยคุณพ่อ”
สองแขนใหญ่โอบรอบเอวบางพาเดินกลับเข้าบ้าน กระซิบคำพูดเข้ากับหูเล็กพร้อมด้วยเสียงหัวเราะไม่น่าไว้ใจ “บอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ใช่พ่อ พ่อนายหน่ะมีแค่คุณลุงแตวูก็พอแล้ว ส่วนฉันหน่ะ ฮึๆ”
“หัวเราะแบบนี้หมายความว่าไง” แม้สองขาจะก้าวเดินไปพร้อมกัน แต่ดวงตากลมก็หันมามองด้วยความสงสัยเจือปนความไม่วางใจ
“ก็ไม่ยังไง แต่ถ้าอยากรู้จริงๆคืนนี้จะบอก” จมูกโด่งปัดผ่านแก้มนุ่ม ยามกระซิบบอก ใบหน้าคมจัดดูเจ้าเล่ห์ขึ้นกว่าปรกติ
“บอกตอนนี้ไม่ได้หรอ” เสียงหวานยังตื้อถาม ลืมสัญญาณอันตรายที่มองเห็นก่อนหน้านี้ไปจนหมด
“ถามมากจริง เดี๋ยวจับปล้ำมันตอนนี้หรอก”
คำพูดที่ไม่ดังไปกว่าปรกติ น้ำเสียงที่เรียบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่มีผลทำให้ร่างบางยืนนิ่งค้าง มองหน้าคนพูดด้วยความเขิน จนแดงจัดไปหน้าลามถูกหูเล็กและซอกคอขาว
“แหน่ะ ยังยืนนิ่งหน้าแดงยั่วอารมณ์อีก หรืออยากให้พี่ปล้ำจริงๆจ๊ะน้อง” คำพูดห่ามๆหลุดออกมาจากหนุ่มใหญ่วัยใกล้สามห้าที่กำลังอารมณ์ดีจนเกินเหตุ แกล้งยั่วเย้าคนรักที่ไปไหนไม่เป็น อับจนกับคำพูดแบบนี้
ใบหน้าคมที่โน้มลงมาใกล้จนชิด เรียกสติของร่างบางที่หลุดลอยออกไปให้กลับมา มือผอมยันใบหน้าคมเอาไว้สุดฤทธิ์ ก่อนวิ่งหนีเข้าบ้าน กลัวโดนฉวยโอกาสเอาตรงริมหาดนี้
“ฮีชอล” ซีวอนเดินตามหลังเข้ามาในบ้าน มองคนตัวเล็กที่ฝังตัวอยู่โซฟาด้วยรอยยิ้มขำ “มากินเหอะ ฉันทำไว้เสร็จหมดแล้ว”
“ไม่!” เสียงห้วนจัดส่งมาจากร่างเล็กที่นั่งตัวลีบอยู่อีกด้านของโซฟา
“มากิน ไม่แกล้งแล้ว ถ้าไม่กินตอนเย็นไม่ให้เล่นน้ำนะ” ชายหนุ่มที่ยืนจัดโต๊ะกินข้าวเริ่มแข็งขึ้นบอกความเอาจริง
“ขู่จัง ไม่เข้าบ้านก็ว่าไม่ให้ดูดาว ตอนนี้ก็ว่าจะไม่ให้เล่นน้ำ” เสียงหวานบ่นโอดมาจากที่เดิม ไม่ทีท่าว่าจะลุกขึ้น เพราะยังหวั่นๆกับคนรัก
“ถ้าอยากเล่นก็ลุกมาได้แล้ว ถ้าฉันไปอุ้มมาไม่จบที่โต๊ะนี้นะฮีชอล”
“ขู่อีกแล้ว แล้วแบบนี้ใครจะกล้าไป”
“มากินข้าว ไม่แกล้ง ไม่ขู่แล้ว” ชายหนุ่มลงเสียงอ่อนมากยิ่งขึ้น รับรองแข็งขันเพราะอยากให้คนรักได้กินข้าว กินยาตามเวลา
“สัญญานะ” ดวงตากลมมองหน้าคนรัก ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ ถึงปรกติซีวอนจะดูเป็นผู้ใหญ่ที่จริงจังแค่ไหน แต่เวลาที่อยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ ก็กลับไปเป็นเด็กหนุ่มขี้แกล้งคนเดิมได้เสมอ
“อือ สัญญา ถ้าผิดสัญญา คืนนี้ยอมโดนไล่ออกมานอนที่โซฟาเลย”
“จริงนะ”
“ครับ”
เพราะคำรับรองและคำสัญญาที่พ่วงมาว่าถ้าไม่รักษาสัญญาจะเกิดอะไรขึ้น ร่างบางจึงยอมเดินมาใกล้ให้คนรักได้บริการเอาใจ ตักอาหารใส่จานให้กินจนอิ่ม
“อิ่มแล้ว ก็ทานยานะ”
“แย่แล้ว ฉันลืมเอายามา ไม่กินสักวันสองวันไม่เป็นไรหรอกมั้งเนอะซีวอน”
“ไม่เป็นไร ฉันเตรียมมาเผื่อแล้ว” เหมือนรู้ว่ามีคนเจตนาจะลืมหยิบยามาด้วย ชายหนุ่มจึงเตรียมยาใส่กล่องเล็กมาให้ร่างบางได้กินตามเวลา ซีวอนเดินกลับไปในห้องนอน กลับมาพร้อมกับยาที่ร่างบางต้องกิน
“ฉันไปล้างจานก่อนนะ” ซีวอนนั่งมองคนรักกินยาจนครบทุกเม็ดแล้วจึงเก็บจานซ้อนกันยกไปล้างที่ในครัวเล็กๆ ปล่อยให้ฮีชอลเดินกลับไปนั่งฝั่งตัวไว้กับโซฟานิ่มๆนอนอ่านหนังสือฟังเสียงคลื่นเหมือนเดิม
ซีวอนเก็บล้างจานจดเสร็จทั้งหมด เดินออกมาที่ห้องกว้างเปิดรับลงทะเล ตั้งใจจะมานั่งเป็นหมอนให้คนนอนอ่านหนังสือได้หนุน แต่กลับต้องเปลี่ยนแผนเมื่อบนใบหน้าหวานมีหนังสือพ็อกเก็ตบุคส์ที่ติดมาด้วยกางปิดหน้าอยู่
ใบหน้าคมยิ้มสมใจ มือหนาตบกระเป๋ากางเกงที่มีแคปซูลเปล่าๆของยานอนหลับอ่อนๆ แต่ตัวผงของมันถูกโรยลงไปในจานข้าวและแก้วน้ำดื่มของฮีชอล
ที่ทำแบบนี้ก็เพราะรู้ดีว่า คนอย่างฮีชอลมาถึงทะเลไม่มีทางยอมนอนพักผ่อนเฉยๆแน่ คงร้องจะอยู่แต่ในน้ำทะเลทั้งวัน แล้วก็อาจหนาวถึงข้างในขึ้นมา เขาถึงแอบปรึกษาหมอเรื่องยานอนหลับอ่อนๆเม็ดนี้
ชายหนุ่มเดินเข้าไปที่โซฟาตัวใหญ่ฝังจมูกลงบนแก้มนุ่มที่พอจะมีให้เห็นบ้างหลังจากที่ซูบไปนาน ก่อนทรุดตัวลงนั่งช้อนหัวเล็กให้ขึ้นมานอนหนุนตักอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
“อือออ ” เสียงแผ่วเบาดังขึ้นก่อนที่ดวงตาโตจะเปิดขึ้น “ฮ้าววว ซีวอน”
“ก็ฉันหน่ะสิ คิดว่าใครหล่ะหิวไหม” มือหนาเช็ดหยดน้ำเล็กๆบนแก้มใสที่ไหลลงมาตอนหาว
“ไม่หิว นี้ฉันหลับไปนานเลยหรอ” คนพึ่งตื่นนอนที่ยังไม่ตื่นดีมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นฟ้ามืดพระจันทร์ดวงเสี้ยว และดาวดวงเล็กวิบวับ
“ไม่นานเท่าไหร่หรอก แค่ตอนสายๆถึงมืดเอง จะออกไปนอนเล่นข้างนอกเลยไหม” ใบหน้าคมมีรอยยิ้มสมใจที่ร่างเล็กได้นอนยาวขนาดนี้ ไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นที่ไหน
“อืออ แล้วนายไม่เมื่อยหรอให้ฉันหนุนตักตั้งนาน” ถึงจะถามด้วยความเป็นห่วงแต่หัวเล็กก็ยังไม่ยอมออกไปจากตักแข็งของชายหนุ่ม
“ไม่หรอก ฉันก็ลุกไปหาไรกินบ้าง แล้วตกลงจะออกไปข้างนอกไหม หรือเปลี่ยนใจอยากนอนต่อ” สายตาคมมองสบกับดวงตาโตใสปิ๊ง ลูบผมนุ่มเพลินมือจนนึกอยากเป็นคนสระผมให้ในคืนนี้
“ไม่เอาแล้วนอนทั้งวันเลย ไปนอนดูดาวฟังเสียงคลื่นกัน” ฮีชอลพูดจบก็ลุกขึ้นในทันที แต่กลับมีมือใหญ่มารั้งไว้ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนชวน จนต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจ
“ค่อยๆลุก เดี๋ยวก็หน้ามืดไปหรอก” เพราะแบบนี้ทุกการเคลื่อนไหวของร่างบางจึงมีมือหนาคอยประคองเอาไว้
“ไม่มืดแล้ว” ฮีชอลลุกขึ้นยืนตรง พร้อมกับคนรักด้วยรอยยิ้มให้หายห่วง
“แน่ใจ?”
“อือ ป่ะออกไปข้างนอกกัน” มือเล็กจับมือใหญ่จะลากออกไปข้างนอกเมื่อแน่ใจว่าตัวเองไม่มีอาการอะไรแล้ว
“เดี๋ยวฮีชอล ข้างนอกอากาศเย็นแล้ว น้ำค้างก็ลง”
“แล้วจะให้ทำไง” ดวงตาโตมองหน้าคนพูดอย่างสงสัย ฟังดูแล้วแอบคิดไม่ได้ว่าจะโดนห้ามอีกแล้ว
“รออยู่นี้ก่อน” คนพูดผลักไหล่บางลงไปนั่งที่โซฟาตัวกว้างอีกครั้ง ส่วนตัวเองก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอน แป๊ปเดียวก็กลับมาพร้อมกับเสื้อกันหนาวตัวโต “ใส่ไว้นะจะได้ไม่หนาว แล้วนี้ก็ฮู๊ด จะได้ไม่โดนน้ำค้าง”
แล้วมือใหญ่ก็เป็นฝ่ายจับจูงลากคนตัวเล็กเดินออกไปสู่ริมหาดทรายที่มีเพียงแสงดาวส่องแสงสะท้อนอยู่ในทะเลกว้างใหญ่
“หนาวเนอะ” เสียงบ่นพึมพำข้างกายทำให้ซีวอนต้องหันมอง
“ก็บอกแล้ว ขนาดให้ใส่เสื้อกันหนาวอีกชั้นยังหนาวเลย กลับเข้าบ้านไหม”
ฮีชอลขืนแรงของซีวอนที่จะพากลับเข้าบ้าน “ไม่เอา นอนดูดาวกันก่อน สัญญาไว้แล้วนะ”
“ครับผม”
“ครับผมก็นอนลงสิ” เพราะสายตาคมมีคำถามส่งมา ร่างบางจึงต้องอธิบายเพิ่ม “ลงนอนที่เก้าอี้ไง จะได้นอนดูดาวกัน”
“นายก็นอนสิ” ซีวอนยังคงเกี่ยงใจจริงอยากจะอุ้มร่างบางเข้าบ้านเสียมากกว่าให้ออกมานอนตากน้ำค้างอยู่แบบนี้
“ไม่เอา นายนั่นแหล่ะนอนลงไปก่อน” เพราะคนตัวสูงไม่ยอมทำตาม ฮีชอลจึงต้องออกแรงผลักให้ชายหนุ่มล้มลงไปนอนบนเตียงผ้าใบที่ซื้อมาติดบ้านหลังนี้ แล้วจึงพาตัวเองลงไปนอนเบียดบนเตียงตัวเดียวกัน “แค่นี้ก็ไม่หนาวแล้ว”
“หาเรื่องหน่ะสิ” เพราะร่างกายที่ใกล้ชิดเกินระยะปลอดภัยทำให้ซีวอนอดบ่นไม่ได้
“เรื่องอะไร” ดวงตากลมจ้องมองคนที่ตัวซุกอยู่อย่าสงสัย
“อย่าสนใจเลย ดูดาวดวงนั่นสิ สว่างดีเนอะ เหมือนนายเลยฮีชอล” นิ้วชีเรียวยาวชี้ให้คนขี้สงสัยหันไปมองดาวที่สว่างเหนือดาวดวงอื่นๆ ท่ามกลางนับพันที่กระจายเต็มท้องฟ้า
“เหมือนฉัน? ฉันเปล่งแสงตอนกลางคืนได้หรอ หรือตัวฉันเรืองแสง” ดวงตายิ่งเบิกกว้างเขยิบออกห่างคนรักมานิดเพื่อจ้องมองดูหน้าคม
“เพ้อใหญ่แล้ว ที่เหมือนนายก็เพราะ....”
“เพราะอะไร อย่าแกล้งแบบนี้สิ บอกมาเร็วเพราะอะไร” ฮีชอลเขย่าตัวคนรักที่นอนอยู่ด้วยกัน ด้วยความอยากรู้
“เพราะนายเปล่งแสงอยู่ในใจฉัน เพราะแสงของนายส่องทางให้กับฉัน”
“เน่า!” แม้จะพูดออกไปแบบนั้นแต่คนที่ส่องสว่างก็เขินอายจนหน้าร้อนผ่าว ต้องกลับไปซุกตัวลงในอ้อมกอดของคนรัก
“ฮึ ก็ใครบอกให้พูดเล่าไอ้เราอุตส่าห์ไม่พูดแล้ว” มือหนาโอบรัดเอวเล็กเข้ามาแนบแน่น “ถ้าไม่ดูดาว ฉันอุ้มกลับเข้าบ้านแล้วนะ”
“ไม่เอา นานๆจะได้ออกมาเห็นดาวเต็มท้องฟ้าแบบนี้สักที ดูต่อนะ” เสียงหวานอ้อนชายหนุ่มไม่ให้รีบพากลับเข้าไปในบ้าน ร่างบางพลิกกายมานอนมองดาวมากมาย มีสองมือใหญ่โอบอยู่รอบเอววางมือของตนเองทาบทับลงไป
เสียงดนตรีของธรรมชาติมีคลื่นกระทบฝั่งเป็นท่วงทำนอง และเสียงหรีดหริ่งและหวีดหวิวของลมและแมลงตัวน้อยขับกล่อมพาให้ทั้งสองเคลิ้มไปกับธรรมชาติของทะเลยามค่ำ
“ฉันรักที่นี้จังเลยซีวอน” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเบาๆ มือเล็กลูบไล้หลังมือใหญ่อย่างเพลิดเพลิน
“แล้วฉันจะพามาบ่อยๆนะ”
“ซีวอนฉันขออะไรอีกอย่างได้ไหม”
“อะไรหล่ะหืมม์”
“ถ้าฉันไม่อยู่...”
“ไม่ นายจะไปไหน ฉันไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น นายต้องอยู่กับฉัน อยู่กับฉันไปอีกนาน เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันแล้วไม่ใช่หรือไง”
“แต่ซีวอน...สักวันหนึ่ง..” ร่างเล็กพยายามพูดเพื่อให้ชายหนุ่มได้ฟัง
“ถ้านายยังพูดอีก ฉันจะพากลับเข้าไปข้างในเดี๋ยวนี้เลย เราเคยคุยกันแล้วไม่ใช่หรอว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก หรือนายไม่อยากอยู่กับฉันแล้ว เบื่อฉันแล้วหรือไงถึงพูดเรื่องนี้อีก” เสียงของซีวอนถูกกดต่ำและเคร่งเครียด แค่เพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาไม่อาจทนฟังได้
แค่คิดว่าจะไม่ฮีชอลอยู่ในอ้อมกอด ก็เหมือนเขาจะอยู่ไม่ได้ เหมือนอากาศบนโลกนี้จะกลายเป็นพิษสำหรับเขา รู้ตัวดีว่าไม่มีทางทำได้ตามที่สัญญาไว้ว่าหากไม่มีฮีชอลแล้วเขาก็ยังจะมีความสุข ไม่มีทางทำได้เลยจริงๆ
“ตกลงนายจะไม่ฟังที่ฉันขอใช่ไหม”
“ฟังแต่ไม่ใช่เรื่องนี้”
“แต่นี้เป็นเรื่องที่อยากให้นายทำเพื่อฉัน เป็นครั้งสุดท้าย” ร่างบางเงียบเสียงลง รอฟังคำตอบจากชายหนุ่ม แต่เมื่อไม่มีเสียงใด จึงพูดต่อ “ฉันรู้จักตัวเองดี ที่อยู่มานานขนาดนี้หมอก็บอกว่าปาฏิหาร์ยมากพอแล้ว แต่ฉันรู้ว่าไม่ใช่ ที่ฉันอยู่มาถึงทุกวันนี้เพราะนาย เพราะพ่อแม่ เพราะทุกคนที่รักฉัน แต่ในสักวัน ฉันก็ต้องไป...ไปรอทุกคนอยู่บนนั้นไปเป็นดาวที่คอยส่องแสงลงมาให้นาย”
“ฮีชอล” เสียงทุ้มจัดเหมือนติดก้อนสะอื้นมาด้วยทำให้ร่างบางที่กำลังพูดหยุดชะงัก
“ถ้าฉันไม่อยู่แล้ว ฉันแค่อยากให้นายพาฉันมาที่นี้ ให้ที่นี้ได้เป็นที่พักเอาไว้รอคอยนาย ได้หรือเปล่า”
“ฉัน...”
“ไม่ต้องมาหาฉันบ่อยก็ได้ ขอแค่นายมาหาเวลาที่นายทุกข์ใจ หรือจะไม่มาหาเลยก็ยังได้ เพราะเวลานั้นฉันก็คงไม่ห่างไปไหน แต่จะคอยอยู่กับนาน มองเวลาที่นายยิ้มและมีความสุข นะพาฉันกลับมาที่นี้ เมื่อวันนั้นมาถึง”
น่าแปลกที่ครั้งนี้บนใบหน้าหวานไร้หยดน้ำพราวแสง แต่บนใบหน้าคมกลับมีหยดน้ำไหลลงมาจากสองตาที่เคยดุและแข็งกร้าว จนมือบางต้องเอื้อมมาเช็ดให้ด้วยความแผ่วเบา
“ฉันจะพานายกลับมา แต่อย่าพึ่งทิ้งฉันไปได้ไหม อยู่กับฉันให้นาน นานเป็นสิบปี ยี่สิบปี อย่าทิ้งฉันไว้นะฮีชอล” ที่ในดวงตาคมมีแต่น้ำตาไหลออกมา ไม่ใช่แค่หยดเล็กแต่ไหลเป็นทางอยู่สองข้างแก้ม มือใหญ่ยึดจับมือนิ่มไว้ไม่ยอมปล่อย เอ่ยขอร้องกับผู้เป็นดวงใจ
“ฉันสัญญาไม่ได้ เพราะฉันไม่รู้ แต่ฉันจะอยู่กับนายให้นานเท่าที่จะนานได้ และฉันจะไม่มีวันทอดทิ้งนายไว้คนเดียว ต่อให้โลกนี้ไม่มีฉัน”
“ไม่ ไม่พูดแล้วนะฮีชอล ไม่เอาแล้ว” นิ้วเรียวยาวปิดลงที่ริมฝีปากอิ่ม ไม่อยากฟังเรื่องเดียวที่อ่อนแอ เรื่องเดียวที่ไม่เคยทำใจได้ เรื่องเดียวที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“อือ ไม่พูดแล้วก็ได้ ร้องไห้จนหมดมาดเลย ไม่ร้องนะ” น้อยครั้งที่ฮีชอลจะได้ปลอบคนรักตัวโตที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและหัวใจแบบนี้
ซีวอนโอบกระชับร่างเล็กเข้ามากอดแนบแน่นไม่สนใจว่าน้ำตาจะไหลออกมามากมายแค่ไหน ขอเพียงแค่ให้ร่างบางได้รับรู้ถึงความอ่อนแอของเขาก็พอแล้ว
“ซีวอน”
“ฮือ”
“ฉันรักนายนะ” คำบอกรักเสียงแผ่วทำให้หัวใจที่กำลังอ่อนแอ ค่อยๆถูกเติมเต็มเหมือนทุกครั้งที่ได้ยินคำบอกรักจากเรือนปากสวยนี้ เหมือนทุกครั้งที่หัวใจสัมผัสได้ถึงคำว่ารัก
“ฉันก็รักนาย รัก รัก รัก รัก นายได้ยินไหม” ซีวอนกระซิบซ้ำอยู่อย่างนั้นพร้อมน้ำตาที่จวนจะหยุดไหล
“ได้ยินสิ ชัดด้วย ขอบคุณนะ”
ทั้งสองในอ้อมกอดของกันและกัน มีความสุขอยู่กับปัจจุบันที่ได้ครองคู่ได้อยู่แนบชิด ภายใต้ผืนฟ้าที่พร่างพราวด้วยดวงดาว หากวันหนึ่งข้างหน้าใครหนึ่งคนต้องจากไป แต่พวกเขาจะยังมีความทรงจำแสนล้ำค่าหล่อเลี้ยงในหัวใจ เพื่อรอเวลาได้กลับมาครองคู่กันอีกครั้ง
End
* ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *
Talk
สวัสดีคะ ตอนพิเศษนี้มาแบบปัจจุบันทันด่วนมากคะใช้เวลาแค่สองวัน แถมเป็นเรื่องแรกที่ไอซ์ปั่นไป แล้วแอบน้ำตาซึมไป 555 ถ้าไม่นับตอนที่ปั่นBL แล้วนึกถึงกระต่างที่ตายไปนะคะ เพราะงั้น ถ้ามันป่วงต้องขอโทษนะคะ
ส่วนตอนพิเศษนี้ ไม่ได้ต่อจากเนื้อเรื่องนะคะ แต่เป็นช่วงเวลาแถวๆอินโทรนั่นแหล่ะคะ อาจจะแก่กว่าอินโทรก็สักสองสามปี ไม่ใช่เด็กน้อยวัยใสเหมือนในเนื้อเรื่อง อาจจะไม่เศร้านะคะ และก็คงไม่หวานด้วย แต่ว่าก็พยายามที่สุดแล้วคะ
ขอบคุณคะ
Jelly fish
ความคิดเห็น