คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7
ในค่ำคืนที่ฝนตกปรอย ๆ ทำให้รู้สึกหลับได้อย่างสบายใจ แต่องค์จักรพรรดิยังคงนั่งอยู่ในห้องทำงานเพื่อที่จะไขปริศนาและอ่านหนังสือมากมายเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับอัญมณีเม็ดอื่นอยู่ องค์จักรพรรดิรู้ว่าคำใบ้ที่เขาได้มานั้นยังมีประโยชน์ไม่มากพอและอาจจะมีอย่างอื่นมาเชื่อมโยงกันได้
“สมบัติล้ำค่าแห่งนครใต้สมุทร อยู่ลึกสุดของมหาสมุทรสุดขอบฟ้า จงมองไปบนท้องนภา แล้วจักเห็นสิ่งที่ข้ากำลังบอก อย่างนั้นหรอ ไม่ได้บอกตำแหน่งอะไรไว้เลยก็คงจะตีความได้ยากเลย พรุ่งนี้ค่อยเรียกเด็ก ๆ ให้มาช่วยดีกว่า” องค์จักรพรรดิจึงเก็บเอกสารและหนังสือต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะเข้าลิ้นชักไปทั้งหมดแล้วเดินออกจากห้องเพื่อไปยังห้องนอนของตัวเอง
ปีศาจได้จู่โจมองครักษ์คนหนึ่งที่กำลังเฝ้าทางเดินไปยังห้องทำงานของจักรพรรดิ จากนั้นมันก็เปลี่ยนร่างของตนให้เป็นเหมือนกับองครักษ์คนนั้น แล้วทำทีว่าเดินผ่านห้องทำงานของจักรพรรดิ องค์จักรพรรดิเดินไปที่อื่นแล้วปีศาจตนนั้นจึงแอบเข้าไปในห้องทำงาน เดินสำรวจดูรอบ ๆ ตรวจดูตามชั้นหนังสือต่าง ๆ แต่ก็ไม่พบสิ่งที่มันต้องการ จึงไปที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดดูลิ้นชักทุกชั้น
“มีผู้บุกรุกเข้ามาในวังหลวง ไปตามหาตัวมัน” เสียงองครักษ์คนหนึ่งตะโกนจนทหารและองครักษ์มากมายมารวมตัวแล้วเข้ามาตรวจสอบในห้องต่าง ๆ ของวังหลวง ปีศาจจนนั้นจึงรีบหยิบหนังสือที่มันเห็นก่อนจะมันจะกลืนเข้าไปในท้องแล้วทำทีว่าเป็นองครักษ์ที่กำลังช่วยกันตามหาตัวผู้บุกรุก จนไม่มีใครจับผิดมันได้เลย
จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น เกลดอสถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้าพร้อมกับจดหมายที่องค์จักรพรรดิส่งมาแต่คราวนี้ไม่มีเหรียญทองหรือเงินถูกส่งมาเลย เกลดอสจึงต้องลุกขึ้นมาทำกิจวัตรของตัวเองให้เสร็จแล้วไปนั่งอ่านจดหมาย
“ก็คงเป็นจดหมายที่จะเรียกผมไปทำภารกิจกับคนอื่น ๆ ล่ะมั้งครับ” เกลดอสเปิดดูจดหมายอย่างใจจดใจจ่อ ลูเซียสก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูข้อความในจดหมายนั้นเช่นกัน
วันนี้ข้าจะมอบหน้าที่และตำแหน่งช่างทำอาวุธของหลวงให้แก่ลูเซียส เฟอราริอุส ถ้ายอมรับที่รับหน้าที่ก็โปรดมารายงานตัวด้วย และวันนี้จะมีงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เกลดอสทำมาพบข้าด้วยล่ะ
อากัส เดออุส
(จักรพรรดิแห่งเมลตัน)
“ผมไปคุยเรื่องงานให้พ่อแล้วนะ พ่อจะได้ย้ายเข้าไปทำงานในเขตวังหลวงเลยนะ แล้วได้บ้านใหม่ใกล้ ๆ นั้นด้วย”
“แล้วค่าบ้านต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ล่ะ” ลูเซียสถาม
“ศูนย์ บ้านฟรี แต่ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ก็ต้องจ่ายเอง” เกลดอสลุกขึ้นแล้วยัดจดหมายวางไว้บนโต๊ะ “ไปกันเลยมั้ยครับ”
“แล้วของในบ้านล่ะ ย้ายไปไม่ได้หรอ” ลูเซียสถามเพราะกังวลใจและไม่อยากทิ้งทรัพย์สมบัติในบ้านไป
“ตอนนี้ไม่มีเวลาพอที่จะเก็บของทั้งหมดหรอก เอาไว้หลังจากรับตำแหน่งแล้วค่อยมาเก็บที่นี่ก็ได้ ตอนนี้เราต้องเตรียมตัวไปเมืองหลวงนะครับ อีกสักพักเราจะไปกันนะ ผมน่ะเตรียมตัวเสร็จแล้วล่ะ ถ้าพ่อพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกนะ” เกลดอสเดินไปยังห้องนอนของเขาซึ่งอยู่ใกล้ห้องนั่งเล่น
ในขณะเดียวกันนั้น อิจิโกะตื่นขึ้นมาแล้วไปที่ร้านของนิโคลัสทันที ในเช้านี้คนเต็มร้านไปหมดนิโคลัสจึงโบกมือทักทายอิจิโกะแล้วรีบก้มตัวไปหยิบกล่องนมที่ด้านล่างเคาน์เตอร์ขึ้นมา
“ยินดีต้อนรับนะอิจิโกะ มานั่งนี่เลย”
อิจิโกะจึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ ที่เคาน์เตอร์แล้วนั่งลงใกล้ ๆ กับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
“ปกติตื่นเช้าไม่เข้าร้านนี้นี่นา ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ล่ะ” นิโคลัสถาม
“ก็เผื่อว่าเกลดอสจะมาที่ร้านนี้น่ะ แต่เช้าขนาดนี้ก็คงยังไม่มาเลยคิดว่าจะมาหาอะไรกินรอไปเรื่อย ๆ น่ะ” อิจิโกะตอบพลางหาวแล้วเอามือปิด เขาเหลือบมองไปเห็นเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ “เอ๊ะนาย อรุณสวัสดิ์นะ ชื่อฟรากอร์ อัลมาคัสใช่มะ”
“ใช่…ทำไมหรอ โกรธเคืองเรื่องเมื่อวานหรอ” ฟรากอร์หันไปมองอิจิโกะก่อนจะยกแก้วที่อยู่ข้างหน้าขึ้นมาดื่ม
“เปล่าหรอก แต่แค่คิดว่าถ้าเรามาเป็นพันธมิตรกันก็น่าจะดีนะ บางทีนายอาจจะเปลี่ยนใจแล้วมาช่วยองค์จักรพรรดิทำงานที่สำคัญก็อาจจะทำให้เราคุยกันได้ง่ายขึ้นก็ได้นะ”
“อ๋อ…ก็ดีนะ แต่งานพวกนั้นน่ะมันคงจะยากเกินไปสำหรับผมน่ะ ขอปฏิเสธดีกว่านะ” ฟรากอร์ยกแก้วขึ้นมาดิื่มอีกรอบ
“แต่วันนี้องค์จักรพรรดิมีงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เราช่วยล่ะ อยากลองทำดูมั้ย แต่มันอาจจะต้องใช้สมองเยอะมากเลยล่ะ นายอาจจะไหวก็ได้นี่นามาจากตระกูลที่มีชื่อเสียงก็ต้องได้เล่าเรียนวิชาดี ๆ มามากมายสินะ”
“แน่นอนอยู่แล้วล่ะ”
“รับอาหารเช้ามั้ย” นิโคลัสเข้ามาแทรก
“เอาเหมือนเดิมครับ เอ๊ะ ปกติผมไม่ได้กินอาหารเช้าที่นี่นี่นา ฮ่า ๆ คงจะเบลอไปหน่อย งั้นเอาแบบเมื่อวานครับ” อิจิโกะรู้สึกเบลอ
“ฮ่า ฮ่า ๆ นายนี่ตลกดีนะ” ฟรากอร์หัวเราะเบา ๆ “แต่ผมขอเป็นลาชูตี้เนื้อกับสลัดผักนะครับ”
นิโคลัสจึงจดรายการอาหารที่ฟรากอร์สั่งแล้วส่งไปที่หลังร้าน
“ลาชูตี้เนื้อมันเป็นยังไงหรอ” อิจิโกะถาม
“ก็เป็นเนื้อบดที่แล้วเอามาทอด แล้วก็จะมีองค์ประกอบอื่น ๆ อื่นมาก จะลองดูมั้ย” นิโคลัสอธิบายก่อนจะดึงกระดาษออกมาเพิ่มอีก อิจิโกะถึงพยักหน้าแล้วยิ้มให้นั่นหมายความว่าเอา
“พวกเจ้าได้ยินข่าวมั้ย เรื่องเมื่อคืนนี้มีปีศาจแฝงตัวเข้ามาในเมืองหลวง ทำร้ายองครักษ์แล้วขโมยของน่ะ น่ากลัวจนข้าเริ่มระแวงคนใกล้ชิดเลย”
เสียงพูดคุยดังมาจากโต๊ะที่อยู่ฝั่งขวาของร้าน มีชายหนุ่มสามคนนั่งกินอาหารและพูดคุยกันอยู่ตรงนั้น อิจิโกะได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดจึงเก็บไปคิดแล้วจะนำเรื่องนี้ไปถามองค์จักรพรรดิ
เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง เกลดอสเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงแล้วรีบพาลูเซียสไปยังวัหลงหลวงซึ่งต้องนั่งรถม้าแล้วตรงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ทางเข้าเมืองหลวง ถนนเส้นนี้ภูกทอดยาวไปจนถึงวังหลวงซึ่งตั้งอยู่เป็นศูนย์กลางของเมืองหลวง และเมื่อทั้งสองคนนั่งรถม้าไปจนถึงที่หน้าประตูเขตทางเข้าวังหลวง ก็มีองครักษ์บางจำนวนออกมาต้อนรับหลังเห็นว่าคนที่ลงมาจากรถม้าเป็นเกลดอส พวกเขาจึงรับเกลดอสและลูเซียสเข้าไปในวังหลวง
“พ่อครับตามองครักษ์ไปนะครับ เดี๋ยวผมจะไปหาเพื่อนที่อยู่นอกเขตวังหลวงหน่อยน่ะ” เกลดอสจึงขอแยกตัวไปหาอิจิโกะ
“ได้สิ มีเพื่อนแล้วสินะเนี่ย”
เกลดอสจึงเดินแยกออกมาเพื่อไปตามหาอิจิโกะ คราวนี้เกลดอสเก็บดาบของเขาไว้ที่ฝักดาบด้านหลังแล้วสะพายเอาไว้ เนโรเดินมาข้างหลังเกลดอสโดยที่เขาไม่รู้ตัว แล้วดึงดาบของเกลดอสออกมาจนทำให้เกลดอสตกใจและรีบกระโดดหลบไปทันที
“ทำอะไรของเธอน่ะ”
“นายถนัดใช้ดาบมากที่สุดหรอ” เนโรถามพลางหมุนดูดาบกลาดิโอไปเรื่อย ๆ
“ก็ไม่เชิงหรอก…ขอดาบคืนได้ไหม” เกลดอสขอร้อง เนโรจึงส่งดาบคืนให้เกลดอสแล้วเก็บเข้าฝักดาบที่อยู่ด้านหลัง
“แล้วนายกำลังจะไปไหนหรอ”
“จะไปหาอิจิโกะน่ะ ผมเองก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ว่าจะไปดูที่ร้านอาหารก่อนน่ะครับ, ไปด้วยกันไหม” เกลดอสถาม เนโรจึงพยักหน้าเพื่อตอบตกลง เกลดอสเดินนำไปยังร้านอาหารของนิโคลัส อิจิโกะเดินออกมาจากร้านพอดีเกลดอสจึงรีบวิ่งเข้าไปหา
“อยู่นี่จริง ๆ ด้วยแล้วกำลังจะไปไหนเนี่ย” เกลดอสถาม
“ได้ยินข่าวมีว่ามีปีศาจบุกเข้าไปในวังหลวงน่ะเลยคิดว่าจะไปดูสักหน่อย แต่พอนายแล้วก็เลยเปลี่ยนใจว่าจะกลับเข้าไปในร้านแล้วนั่งคุยอะไรสักนิดสักหน่อยดีกว่า” อิจิโกะบอกก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน เกลดอสกับเนโรจึงเดินตามเข้าไป
“ยินดีต้อนรับครับ” มีบริกรเดินมาต้อนรับ
“เอ๊ะ ที่นี่มีบริกรด้วยหรอ ทำไมเมื่อวานนี้ผมไม่เจอล่ะ”
เกลดอสยิ้มให้บริกรคนนั้นก่อนจะเดินเข้าไปที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วนั่งคั่นระหว่างฟรากอร์กับอิจิโกะ เนโรจึงเข้าไปนั่งใกล้ ๆ กับอิจิโกะ
“มากันเต็มเลยแฮะ นี่สินะคนที่องค์จักรพรรดิเลือกมาเข้าร่วมทำภารกิจ นัดกันมาที่ร้านนี้หรอ ผมดีใจนะที่พวกคุณเลือกร้านของผม” นิโคลัสแซว
“ไม่ใช่หรอกครับ ผมแค่อยากจะมานั่งจิบชาอย่างสบายใจที่บาร์สักแห่ง แต่กลายเป็นว่ามีแค่ไม่กี่ที่เท่านั้น บาร์ที่ใกล้สุดก็คือที่นี่ผมเลยมาแต่เช้าเลย” ฟรากอร์บอก
“นายก็มาหรอเนี่ย ไม่ได้สังเกตเลย สงสัยจะไม่สำคัญพอ” เนโรแซวฟรากอร์ “จะว่าไปแล้วนะ ฉันยอมเข้าร่วมกลุ่มทำภารกิจกับพวกนายแล้วนะ แล้วก็เพิ่งจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาเมื่อวานนี้เอง”
เนโรคลี่แผ่นกระดาษออกมาจากกระเป๋าด้านข้างเสื้อของเธอแล้ววางลงบนเคาน์เตอร์
“อะไรน่ะจดหมายหรอ” อิจิโกะถามก่อนจะหยิบขึ้นมาอ่าน “สมบัติล้ำค่าแห่งนครใต้สมุทร อยู่ลึกสุดของมหาสมุทรสุดขอบฟ้า จงมองไปบนท้องนภา แล้วจักเห็นสิ่งที่ข้ากำลังบอก ปริศนาสินะ พอลองอ่านดูแล้วก็เหมือนจะเป็นการบอกตำแหน่งที่ตั้งของเมืองใต้น้ำแต่ไม่น่าจะใช่ เธอเข้าใจว่ายังไงบ้างล่ะเนโร”
“ฉันก็ไม่เข้าใจหรอก แต่ว่ามีอีกอย่างนึงที่ง่ายกว่าการแก้ปริศนานี้นะ…แผ่นที่ไงล่ะ พ่อของฉันบอกว่าเคยมีแผนที่ที่บอกพิกัดของเมืองใต้น้ำเอาไว้แต่มันถูกขายไปเมื่อห้าสิบปีก่อนน่ะ มันอาจจะหายหรือถูกทำลายไปแล้วก็ได้ แต่เมื่อเช้านี้ฉันคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าเราไปถามเรื่องนี้กับพวกคนในกิลด์นักผจญภัยก็อาจจะได้ข้อมูลเพิ่มมาบ้าง”
“แล้วทำไมไม่สมัครเข้าเป็นสมาชิกในกิลด์นั้นเลยล่ะ พวกนั้นไม่ให้ข้อมูลกับคนนอกง่าย ๆ หรอกนะ” นิโคลัสเสนอขึ้นมา
“ก็จริงแหละนะ แต่เรื่องนี้ต้องไปถามองค์จักรพรรดิเอาตรง ๆ ดีกว่า แล้วก็ให้องค์จักรพรรดิหนุนหลังพวกเรา พวกคงจะให้ความร่วมมือกับเรานั่นแหละ” อิจิโกะบอก
“แต่ผมค่อนข้างสงสัยครับว่าทำไมองค์จักรพรรดิถึงต้องเลือกคนที่อายุประมาณพวกเรามาทำภารกิจพวกนี้” เกลดอสสงสัย
“นายไม่รู้จริง ๆ หรอ” อิจิโกะถาม
“เป็นเพราะว่าเด็ก ๆ อย่างพวกนาย สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ธรรมดาตั้งแต่อายุประมาณสิบห้าถึงยี่สิบสี่จะเป็นช่วงที่มีพลังภายในที่แข็งแกร่งกว่าคนที่อายุสูงกว่า สมองจะถูกพัฒนาให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้นและถ้าเรียนรู้การควบคุมพลังเวทหรือพลังธรรมชาติละก็จะเรียนรู้ได้เร็ว พลังที่ถูกปล่อยออกมาก็จะมีประสิทธิภาพและยังมีภูมิต้านทานอีก ถ้ารักษาสุขภาพดี ๆ วัยในช่วงอายุนี้ก็จะเป็นวัยที่แข็งแกร่งมากมายล่ะ เคยได้ยินตำนานเรื่องรากิลมั้ยล่ะ ที่เติบโตจากเด็กชาวไร่่จนกลายเป็นเทพผู้พิทักษ์แห่งสวรรค์น่ะ” นิโคลัสอธิบายพลางผสมเครื่องดื่มให้กับลูกค้าคนอื่น
“นั่นหมายความว่าพวกเราเป็นผู้ถูกเลือกโดยเทพเจ้า ยอมรับแล้วช่วยทำภารกิจนี้ซะนะ, ฟรากอร์” อิจิโกะชะเง้อหน้าไปคุยกับฟรากอร์ที่นั่งข้าง ๆ เกลดอส
“ก็ได้ ๆ ถ้าอยากจะให้ทำภารกิจนี้นักก็ได้!” ฟรากอร์ตะคอกข้ามหัวเกลดอสจนเกลดอสต้องหดหัวตัวเอง คนในร้านต่างมองมาที่ฟรากอร์ด้วยความสับสนและมึนงง
“อย่าเพิ่งมีปากเสียงกันสิ คนในร้านมองมาที่นายหมดเลยนะ” นิโคลัสพยายามพูดให้ฟรากอร์ใจเย็นลง
“ทำไมเขาต้องตะคอกด้วยล่ะ” อิจิโกะพึมพำ
“หมอนั่นโมโหง่าย เลยชอบอยู่คนเดียวแล้วไม่ค่อยพูดเวลาอยู่ในที่ที่คนเยอะ ถ้าทำให้โกรธมาก ๆ ก็คงปล่อยสายฟ้าใส่พวกเราทั้งหมดแน่” เนโรบอก
“งั้นพวกเราไปพบกับองค์จักรพรรดิแล้วเข้าร่วมกิลด์ผจญภัยกันเถอะ” เกลดอสชักชวนก่อนจะลุกขึ้นมา ทำให้คนอื่น ๆ ลุกจากเก้าอี้ตาม ๆ กัน
“จ่ายเงินด้วยล่ะ” นิโคลัสทวง ฟรากอร์กับอิจิโกะจึงจ่ายเงินค่าอาหารที่พวกเขาได้กินในตอนเช้านี้
“ไปกันเถอะ” อิจิโกะพูด แต่ฟรากอร์ก็เดินนำออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มสาวทั้งสี่คนเดินออกมาจากร้านอาหารของนิโคลัสแล้วเจอเข้ากับองค์จักรพรรดิพอดี
“ไปที่กิลด์นักผจญภัยกันเถอะ” จักรพรรดิอากัสยิ้มให้เหล่าเด็ก ๆ ก่อนจะเดินนำทางไป
“เป็นยังไงบ้างคะ แก้ปริศนาได้หรือยัง” เนโรเอ่ยถาม
“แล้วปีศาจที่บุกเข้าไปในวังหลวงเป็นยังไงบ้างครับ” อิจิโกะเอ่ยถาม
“แล้วพ่อของผมได้งานรึยัง” เกลดอสเอ่ยถาม
“รุมถามกันขนาดนี้จะตอบยังไงดีล่ะ เอาเป็นว่าเราเดินไปคุยไปดีกว่านะ เมื่อคืนนี้ข้าได้รับจดหมายจากเนโรซึ่งเนื้อความในจดหมายก็เกี่ยวกับคำใบ้พิกัดของเมืองใต้น้ำ แต่ข้าว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรสักเท่าไหร่แต่ก็มีแผนที่แผ่นหนึ่งที่บอกที่ตั้งของเมืองใต้น้ำ ซึ่งเนโรบอกข้าว่าพ่อของเธอขายไปเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ข้าจึงประกาศเพื่อรับซื้อแผนที่นั่นด้วยเงินรางวัลที่สูงมาก ใครที่สามารถหาแผนที่ของจริงมาได้ก็จะได้รับรางวัล แต่นั่นก็เสี่ยงที่จะได้แผนที่ปลอม แล้ววันนี้ผู้ส่งสารประจำสวรรค์ก็ติดต่อมาหาข้าแล้วบอกเกี่ยวกับเรื่องที่เจ้าคุยกันในร้านอาหาร”
“เอ๊ะ เขาส่งโทรจิตไปหาท่านพ่อหรือครับ” อิจิโกะถาม
“ใช่ ข้าก็เลยรีบมารับพวกเจ้าทั้งหมดแล้วจะพาไปที่กิลด์นักผจญภัยเพื่อเข้าร่วมกับกิลด์นั้น แต่กิลด์นี้ไม่ได้เข้าง่าย ๆ นะ เจ้าอาจจะต้องทำภารกิจสักสองสามอย่างเพื่อเป็นการยืนยัน ถ้าไม่ชอบก็ปฏิเสธการร่วมทำภารกิจตามหาอัญมณีพลังได้เลยนะ ข้าไม่ได้บังคับหรอกนะ” จักรพรรดิอากัสบอก ทำให้ฟรากอร์รีบเดินแยกออกมา อิจิโกะสังเกตเห็นว่าฟรากอร์เดินหนีไปแล้ว เขาจึงรีบตามไปแล้วจับแขนของฟรากอร์ไว้
“หยุดนะ องค์จักรพรรดิก็บอกอยู่ว่าไม่ได้บังคับ นายทำไมยุ่งกับเราด้วยล่ะ” ฟรากอร์เริ่มหงุุดหงิด
“เราแค่อยากเป็นเพื่อนกับนายเลยพยายามจะตีสนิท ถ้าทำให้นายไม่สบายใจก็ขอโทษนะ” อิจิโกะปล่อยมือแล้วเดินกลับไปหาคนอื่น ๆ
“ถึงภารกิจพวกนี้จะเสี่ยงอันตราย แต่ถ้าเราตามหาอัญมณีพลังครบทุกเม็ดแล้วล่ะก็ เรื่องก็น่าจะจบ แต่ถ้าหากเราปล่อยเอาไว้พวกปีศาจหรือเทพชั่วร้ายก็จะออกตามหาและรวบรวมอัญมณีพลังทั้งหมดเพื่อมายึดครองเมลตัน อาจจะปกครองเมลตันหรือไม่ก็ทำลายดาวเมลตันทั้งดวง แต่น่าห่วงไปกว่านั้นก็คือ ถ้าพวกนั้นได้รับพลังจากอัญมณีพลังทั้งหมดมันก็อาจจะสูบพลังจากดาวเมลตันทั้งดวงซึ่งอาจจะทำให้แข็งแกร่งเทียบเท่าพลังของเทพผู้อยู่สูงสุดก็เป็นได้นะ อ๊ะ ตอนนี้เราถึงกิลด์แล้วล่ะ” จักรพรรดิอากัสพูดอธิบายไประหว่างทางจนกระทั่งเดินไปถึงกิลด์ซึ่งอยู่ที่เมืองหลวงด้านทิศตะวันตก
“นี่คือที่ตั้งของกิลด์นักผจญภัยสินะคะ ทำไมสวยงามขนาดนี้” เนโรกล่าวชมอาคารกิลด์นักผจญภัยที่ถูกสร้างด้วยไม้และถูกทาสีไว้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังถูกตกแต่งด้วยเหล็กดัดลวดลายต่าง ๆ ป้ายชื่อที่ตัวอักษรทำมาจากทองคำ
“กิลด์นี้เปิดตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงเที่ยงคืน ตอนนี้ก็ยังไม่เปิดเลย” จักรพรรดิอากัสจึงเคาะประตูสองสามที แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ ตอบกลับมาเลย เขาจึงเคาะอีกรอบหนึ่ง แต่คราวนี้มีเสียงตะโกนออกมาเพื่อตอบรับ
“ยังไม่เปิด!”
“ข้าคือองค์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมลตัน ให้เราเข้าไปเถิด” จักรพรรดิอากัสจึงขอร้อง ประตูจึงถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว
“ขอประทานอภัยขอรับข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านจะมา” ชายคนหนึ่งเดินออกมาแล้วโค้งคำนับอย่างนอบน้อม
“ไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์หรอก ใช้คำปกติแล้วก็ไม่ต้องเรียกตัวเองว่าข้าน้อยก็ได้”
“เอ๊ะ คำราชาศัพท์คืออะไรหรอ” เกลดอสกระซิบถามอิจิโกะ
“ก็เป็นคำศัพท์ชั้นสูงที่เอาไว้ใช้กับเหล่าตระกูลราชวงศ์น่ะ แต่ว่าองค์จักรพรรดิก็ได้ยกเลิกการใช้คำราชาศัพท์แบบสมบูรณ์ไป แต่ก็มีบางคำที่ยังถูกใช้อยู่นะ แต่บางทีถ้าพูดคำราชาศัพท์แบบสมบูรณ์ก็จะทำให้องค์จักรพรรดิโกรธเอาได้ เพราะมันก็ทั้งยากและฟังขัดหู” อิจิโกะกระซิบตอบกลับไป
“อ๋อ ลดตัวลงมาเพื่อใกล้ชิดประชาชนสินะ เป็นความคิดที่ดูยิ่งใหญ่จริง ๆ เลย”
“ข้าอยากจะพบกับหัวหน้ากิลด์ของกิลด์นักผจญภัยสักหน่อยน่ะ” จักรพรรดิอากัสพูด
“ได้ครับ เชิญเข้ามาได้เลยนะครับ”
ชายคนนั้นวิ่งกลับเข้าไปเพื่อตามหัวหน้าของกิลด์แห่งนี้ จักรพรรดิอากัสจึงเดินเข้าไปในอาคารไม้หลังนั้น
“ยินดีต้อนรับครับ ท่านมาที่นี่ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เปิดมีภารกิจเร่งด่วนอะไรให้หรือเปล่าครับ” หัวหน้ากิลด์ปรากฏตัวออกมาจากหลังผ้าม่านที่ปิดกั้นระหว่างห้องรับแขกด้านหน้าสุดของกิลด์กับห้องปฏิบัติงานของเหล่าสมาชิกในกิลด์
“พอดีว่าข้ามีภารกิจใหญ่หลวงที่ตั้งจัดการ เลยอยากจะฝึกฝนเหล่าเด็กน้อยของข้าให้เป็นนักผจญภัยที่เก่ง แล้วก็มีข้อมูลบางอย่างที่พวกเราต้องการ แต่ข้าคิดว่าความเชื่อใจคงจะทำให้ได้ข้อมูลนั้นมา ดังนั้นข้าจะส่งเด็ก ๆ ของข้าทั้งหมดนี้เข้าร่วมกิลด์ของเจ้า”
“ได้ครับ แต่ว่าทุกคนที่จะเข้ากิลด์ได้ก็จะต้องผ่านบททดสอบบางอย่างก่อนถึงจะเข้าร่วมได้อย่างสมบูรณ์นะ ถ้าหากใครคิดว่าไม่ไหวละก็ถอนตัวได้เลยนะ” หัวหน้ากิลด์แนะนำ “ผมมีชื่อว่ากัสตัน คาร์ตันเบิร์ก เป็นหัวหน้ากิลด์นักผจญภัย ขอฝากตัวอย่างเป็นทางการ”
“ถ้าอย่างงั้นข้าขอฝากเจ้าดูแลเรื่องนี้ด้วยนะ ข้ามีเรื่องที่ต้องไปจัดการ ขอตัวก่อนล่ะ” จักรพรรดิอากัสจึงบอกลาแล้วเดินออกมา แต่นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกกับเกลดอสจึงกลับเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง
“มีอะไรหรือครับท่าน”
“อ๋อ เปล่าหรอก แค่จะมาคุยกับเด็กของข้าหน่อยน่ะ” จักรพรรดิอากัสนั่งยอง ๆ เพื่อที่จะคุย “ข้าแค่จะบอกว่าข้าทำหนังสือของเกลดอสหายไปแล้วน่ะ ข้าขอโทษนะ เมื่อคืนมีปีศาจแอบเข้ามาขโมยมันไปตอนนี้ข้าก็ให้สายสืบของข้าหาตัวแล้วล่ะ ไม่นานก็จะได้หนังสือกลับมา”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ที่สำคัญคือผมกลัวว่าถ้าปีศาจพวกนั้นอ่านหนังสือเล่มนั้นแล้วรู้สถานที่ของอัญมณีพลังนั่นก็จะเป็นเรื่องใหญ่เลยล่ะครับ” เกลดอสรู้สึกเป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวถ้าพวกเราพวกเราเข้ากิลด์ได้ก็จะพยายามหาข้อมูลเพิ่มแล้วรีบไปหาอัญมณีพลังค่ะ” เนโรบอก
“ขอบใจนะ” จักรพรรดิอากัสจึงลุกขึ้น “อ้อ แล้วก็อีกเรื่องนึงนะ พรุ่งนี้ข้าต้องไปยังอาณาจักรคริสซอสอาจจะไม่อยู่ที่เมืองหลวงหลายวันเลยนะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ ขอบคุณที่ร่วมมือกับข้านะ”
จักรพรรดิอากัสยิ้มและโบกมือให้กับเด็กหนุ่มสาวทั้งสามคน แล้วก็เดินออกจากกิลด์ผจญภัยหลังจากนั้น
ความคิดเห็น