คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สับสน
บทที่ 2
สับสน!!
“เฮ้ออออ เลิกเรียนสักที” ยัยเพลินบ่นขณะที่เก็บของใส่กระเป๋า
“เออ เสร็จแล้วแกจะไปไหนต่อป้ะ?” ฉันถามพร้อมกับมองหน้ามันอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ ทำไมน่ะเหรอ ก็ยัยเนี่ยไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับฉันและนาวเลย ทุกครั้งที่ชวนก็จะปฏิเสธ พอถามว่าทำไม มันก็บอกว่า พ่อไม่อยากให้กลับบ้านดึก บลาๆๆๆ พอบอกแค่ 6 โมงเย็นมันก็บอกว่าไม่ได้อยู่ดี แต่วันนี้ฉันอยากให้มันไปด้วย เพราะยัยนาวมีธุระที่บ้านต้องจัดการ เลยขอตัวกลับไปก่อน
“เอ่อ......ขอโทษน่า -0- ไปไม่ได้จริงๆ อ้ะ” กะแล้วเชียว แต่ไม่เป็นไรไปคนเดียวก็ได้ ที่ฉันไปเที่ยวก็เพราะบ้านฉันอยู่ใกล้ๆโรงเรียนเลยไม่เป็นไรมาก อีกอย่างส่วนใหญ่แม่ฉันจะมารับด้วย เลยรอแม่ฆ่าเวลา ไม่ใช่เป็นเด็กเถลไถลน่ะ
“ไม่เป็นไรๆ แกกลับเหอะ” ฉันโบกมือลา ยัยเพลิน แล้วเดินทอดน่องเอื่อยเฉื่อยไปตามถนนที่มีคนพลุกพล่าน หลังจากเดินมาถึงฉันก็แวะกินไอติม แถวๆน่ะ รอแม่ฆ่าเวลา เฮ้ออออ มาคนเดียวก็เหงาเหมือนกันน่ะเนี่ย ปกติมียัยนาวมาด้วยทุกครั้งเลยนี่ เอ๊ะ!รู้สึกเหมือนโทรศัพท์สั่นอ้ะ ใช่จริงๆด้วย อ๋อ แม่โทมา
“ฮัลโล ค่ะแม่” ฉันกรอกเสียงไปตามปลายสาย ปกติถ้าไม่มีเรื่องด่วนอะไรแม่ก็จะไม่โทรมา แต่สงสัยวันนี้จะเป็นเรื่องด่วนอ่ะ -*- ฉันไม่ได้ไปทำอะไรใครน่ะ(ระแวง)
‘คือ.....แม่ไปรับลูกไม่ได้แล้วอ่ะจ้ะ คือแม่ต้องทำธุระที่ทำงานอีกนิดหน่อย กลับบ้านเองได้ใช่ไหมจ้ะ?’ แม่ถามฉันอย่างเป็นห่วง ตั้งแต่พ่อเสียไปก็มีแม่นี่แหละที่ทำงานหาเงินทุกวัน แต่ก็ไม่หนัก เพราะพวกเรายังมีสมบัติที่พ่อเคยสะสมมามาก เลยทำให้เรา 2 คนแม่ลูกไม่ต้องดิ้นรนมาก
“ได้ค่ะแม่ ^^” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่สดใส แต่ข้างในนี่หดหู่เลย เอาไงล่ะทีนี้บ้านฉันปกติกลับคนเดียวก็ตอนสว่างๆ วันนี้มืดๆแบบนี้ใครจะกล้าไปล่ะ ทางยิ่งเปลี่ยวๆอยู่ วันซวยของฉันแท้ๆ ฉันเดินไปตามทางที่เคยเดินตอนกลับบ้านช่วงเย็นๆที่ยังไม่มืดที นี่ถ้าเกิดใครฉุดฉันขึ้นมาละเนี่ยย ช่วงนี้มีข่าวออกบ่อยๆด้วย ระหว่างทางเดินฉันรู้สึกเหมือนมีใครเดินข้างหลังอ่ะ ถ้าเกิดเป็นโจรขึ้นมาแล้วเกิดฉุดฉันล่ะ(ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยนางเอกนิยายเรื่องนี้) จู่ๆก็มีมือใครไม่รู้มาจับไหล่ฉัน
“กรี๊ดดดดดดดด!!!จะเอาอะไรก็เอาไปอย่าข่มขื่นฉันน่ะๆ ปล่อยฉันไปเถอะ” ฉันหลับตา แล้วเอามือสะบัดปัดป้องไปทั่ว
“ไม่มีใครกล้าฉุดเธอหรอกยัยเซ่อซ่า” เสียงนี้คุ้นๆแหะ ยิ่งคำว่าเซ่อซ่านี่ด้วย ฉันค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆ พอฉันเห็นเท่านั้นแหละ ฉันเลยถีบเข้าที่ยอดอกไอ้บ้าเปรมโทษฐานที่ทำให้ฉันตกใจ ขวัญหนีกระเจิดกระเจิง ดีน่ะที่มันย่อตัวลงฉันเลยถีบมันได้ง่ายขึ้น
“ตกใจหมดเลย ไอ้บ้า” ฉันพูดพร้อมยกตัวขึ้นแล้วมองไปทางที่นายเปรมล้มอยู่ เหอะ!สมน้ำหน้า
“นี่เธอ!@#@)(&%#^$#@#&*%$”::>”:&^$* ” นายเปรมพูดพร้อมชี้หน้ามาหาฉันอย่างเอาเรื่องพร้อมด่ามาเป็นชุดแต่ฉันไม่สนใจที่หมอนั่นด่า ฉันอ้าปากค้างเมื่อเห็นข้างหลังนายเปรม เห็นผู้ชายเป็นสิบ เดินออกมาจากดงไม้ข้างหลัง
“นี่!น้องชายอ่ะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวส่งผู้หญิงคนนั้นมาให้พี่ เดี๋ยวพี่จะพาไปขึ้นสวรรค์ ฮ่าๆๆๆ” พวกมันทั้งสืบหัวเราะได้อย่างหน้าขยะแขยงที่สุด แต่เดี๋ยวน่ะ มันบอกจะพาฉันขึ้นสวรรค์!! ไอ้บ้า ไอ้โรคจิตเอ๊ยย
“สวรรค์บ้านพ่อแกสิ!!ไอ้โรคจิต” ฉันเผลอพูดออกไป ยัยเก้า เอ๊ยยย พูดทำไมยิ่งทำให้พวกมันโกรธไปใหญ่เลย โกรธตัวเองจริงๆที่พูดไม่รู้จักคิด พอหันไปหานายเปรมเห็นตานี่ยืนจ้องหน้าไอ้พวกโรคจิตนี่ ฉันเลยสะกิดเบาๆ
“นายจะไม่ส่งฉันให้พวกมันใช่ไหม” ฉันถามอย่างหวาดกลัว
“ไม่แน่ ถ้าเธอไม่รับข้อเสนอของฉัน” ไอ้บ้าเปรมข้อเสนออะไรของมันว่ะ
“ข้อเสนอ?” ฉันถามด้วยความอยากรู้ ถึงจะไม่ใช่เวลาก็เหอะ
“เธอต้องเป็นทาสฉัน เป็นเวลา 3 เดือน จะเอาไหม ถ้าไม่เอาฉันไปล่ะ” มันพูดแล้วทำท่าจะเดินไปจริงๆ เอาไงล่ะทีนี้ เอาว่ะป็นทาสดีกว่าขึ้นสวรรค์ล่ะว่ะ
“เออๆก็ได้ๆ” ฉันพูดแบบขอไปที
“ว่าไงน้องชายจะให้ดีๆ หรือ อยากเจ็บตัว” ไอ้ตัวที่พูดท่าทางน่าจะเป้นหัวโจกของแก็งนี้น่ะ
“ไม่ให้ เพราะยัยนี่เป็นผู้หญิงของฉัน” เป็นผู้หญิงของนายเหรอ และทำไมหัวใจต้องเต้นแรงอย่างนี้ด้วย ฉันไม่ได้ชอบไอ้หมอนี่น่ะ หรือใช่น่ะ เก้าแกเป็นอะไรแกชอบตานี่เหรอ ไม่ๆๆๆ ฉันคิดคนเดียวก่อนจะส่ายหัวเหมือนคนบ้า
“ได้น้องชายเตรียมตัวไว้ให้ดี จัดการ!” เมื่อไอ้หัวโจกพูดจบลูกน้องของมันก็กรูเข้ามาเพื่อหวังจะตลุมบาทาใส่นายเปรม แต่นายเปรมก็เก่งใช่ย่อย รับมือซ้าย ต่อยมือขวา เรียกได้ว่าเอาทุกส่วนของร่างกายเข้าจู่โจมใส่คู่ต่อสู้เลย เหลือหัวโจกเพียงคนเดียวแล้วนายเปรมเล่นต่อย ชก เตะ ใส่มันจนนอนสลบไปเลย หมอนี่ก็เก่งไม่เบาแหะ หลังจากจัดการเสร็จหมอนั่นก็เดินเข้ามาหาฉัน
“อย่าลืมที่ตกลงไว้ล่ะ” หมอนี่ทำไมยิ้มเจ้าเล่ห์จัง หรือมีแผนการอะไร แต่ช่างเหอะ แต่ตรงคิ้วของเขามีแผลนี่น่า น่าจะเจ็บน่าดู
“เออ....นายไปทำแผลบ้านฉันก่อนไหม” ฉันถามพร้อมยื่นมือจะไปเตะแผล แต่หมอนั่นชักหน้ากลับ
“ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้ ฉันจัดการเองได้” หมอนั่นพูดพร้อมเดินกลับไปทางเดิมที่มา ฉันหันมองแผ่นหลังของเขาที่เริ่มจะค่อยๆหายไปในความมืดจนไม่เหลือแม้แต่เงาของเขา แล้วฉันก็เดินกลับบ้านด้วยความรู้สึกบรรยายไม่ถูก ตกลงฉันชอบนายรึเปล่าน่ะเปรม ยิ่งคิดยิ่งหนักใจ
ความคิดเห็น