คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter five | You're so mean.
You're so mean.
ในช่วงเช้านั้นมีเรียนปรุงยา ซึ่งแน่นอนว่าหน้าห้องจะเป็นที่จับจองของนักเรียนเหล่าหัวกะทิ รวมถึงวิคตอเรียและทอมด้วยเช่นกัน พวกเขามองหน้ากันอีกครั้งเมื่อต้องถูกจับคู่กัน ปกติซลักฮอร์นจะให้เธอคู่กับนักเรียนหญิงคนอื่นเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามวิคตอเรียไม่ได้สนใจ เพราะขอให้ไม่เป็นตัวถ่วงของเธอเป็นพอ เนื้อหาในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรุงยาอย่างเช่นเคย วิคตอเรียใช้ปากกาขนนกจดตามบนกระดานโดยไม่ให้ขากตกบกพร่อง ลายมือของทอมค่อนข้างที่จะมีระเบียบเป็นอย่างมาก วิคตอเรียหันมาจ้องมองลายมือของตัวเอง ก่อนจะพรูลมหายใจด้วยความเบื่อหน่าย พ่อหนุ่มยอดนักเพอร์เฟค
"ยาแก้พิษ (Antidote to Common Poisons) ยาแก้พิษชนิดนี้ เป็นยาที่ใช้สำหรับแก้พิษของการถูกกัดหรือต่อยจากสัตว์"
สลักฮอร์นเอ่ยขึ้นท่ามกลางเสียงขีดเขียนของกระดาษ
"ส่วนผสม
1. บีซัวร์ 1 ก้อน
2. สมุนไพรที่ใช้ในการปรุงยามาตรฐาน สอง หยิบมือ
3. เขายูนิคอร์น ชิ้นเล็ก 1 ชิ้น
4.ผลมิสเซิลโท 2 ผล"
เขาไม่อธิบายอะไรอีกนอกจากเสียงขีดเขียนบนกระดาษ รวมถึงบนกระดาษที่ปรากฏส่วนผสมถูกหลักตามตำรา หากจะปรุงตามตำราก็ย่อมได้ เพราะสูตรของมันนั้นเหมือนกัน
'วิธีปรุงยา
1. นำหินบีซัวร์บดให้ละเอียด
2. นำผงบีซัวร์ที่ได้ ใส่ลงในหม้อปรุงยา 4 ช้อน
3. เติมสมุนไพรอีก 2 หยิบมือลงในหม้อ
4. อุ่นด้วยอุณหภูมิปานกลาง 5 วินาที
5. โบกไม้กายสิทธิ์หนึ่งครั้ง จากนั้นทิ้งไว้ 85 นาที
6. นำเขายูนิคอร์นใส่ลงไปในหม้อ 1 ชิ้นเล็กๆ
7. คนส่วนผสมตามเข็มนาฬิกา 2 ครั้ง
8. เติมผลมิสเซิลโทลงไปในหม้อ 2 ผล
9. คนส่วนผสมแบบทวนเข็มนาฬิกาอีก 2 รอบ
10. โบกไม้กายสิทธิ์อีกครั้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย '
วิคตอเรียอ่านทวนให้ละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะหยิบหม้อปรุงยาของตัวเองขึ้นมา แน่นอนว่าในครั้งนี้พวกเขาย่อมต้องปรุงน้ำยาร่วมกัน ทอมเหลือบตามองโดยไม่พูดอะไร เขาชี้นิ้วไปที่ส่วนผสมก่อนจะเดินไปทางตู้เก็บสมุนไพร วิคตอเรียจึงตั้งหม้อเพื่อเตรียมความพร้อม รวมถึงครกหินจากมุมห้องและเขียง เธอวางไว้บนโต๊ะเรียน ก่อนจะร่ายคาถาทำความสะอาดอุปกรณ์อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ทอมเดินถือสมุนไพรรวมถึงตระกร้าสานที่ติดมือเขามา ชายหนุ่มวางไว้อีกฟากหนึ่งของโต๊ะ ก่อนจะจ้องมองใบหน้างามของวิคตอเรียด้วยความรู้สึกบางอย่าง เรื่องการบดนั้นวิคตอเรียยกให้ทอม เธอวางครกกับสากไว้ที่ด้านหน้าของเขา ก่อนจะหรี่ตามองวิธีการปรุงในตำราอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
ชายหนุ่มหยิบบีซัวร์ขึ้นมาและใส่ลงไปในครกหิน ก่อนจะใช้สากหินในการบดให้ละเอียด เขากดและใส่แรงเพื่อให้มันละเอียดพอประมาณ ก่อนจะตักด้วยช้อนตวง ใส่ลงไปในหม้อปรุงยาด้านหน้า วิคตอเรียคอยควบคุมอุณหภูมิของไฟให้คงที่ โดยการเริ่มนั้นต้องนิ่งให้มากที่สุด เพราะหากไฟอุณหภูมิสูงจนเกินไป อาจจะทำให้หม้อระเบิดหรือส่วนผสมไหม้ก็ลายเป็นเถ้าธุลี เมื่อครบสี่ช้อนแล้วจึงปล่อยมันไว้สักห้านาที เพื่อให้ความร้อนแทรกซึมไปในผงบีซัวร์ ทอมหยิบสมุนไพรมาตรฐาน โดยหยิบมาสองชนิดหย่อนลงไปในหม้อปรุงยาอีกครั้งเมื่อผ่านไปห้านาทีแล้ว จากนั้นวิคตอเรียจึงเร่งอุณหภูมิให้มาอยู่ในระดับปานกลางตามที่ตำราบอก เพียงแค่ห้าวินาทีทอมก็จัดการโบกไม้กายสิทธิ์หนึ่งครั้ง และปล่อยไว้อีกแปดสิบห้านาที
วิคตอเรียจ้องมองใบหน้าของคนตรงหน้า ก่อนที่เธอจะพบว่ามีเหงื่อไหลไปตามกรอบหน้าของเขา ดังนั้นเธอจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าในเสื้อคลุมมาเช็ดให้เขา เป็นอีกครั้งหนึ่งที่การกระทำของเธอ ส่งผลต่อจิตใจของเขาอย่างรุนแรง ใบหน้าที่นิ่งเฉยของทอมยอมขยับเข้าไปใกล้ โดยปรับองศาให้สามารถเช็ดได้สะดวกมากขึ้น ทอมกดรอยยิ้มมุมปากพร้อมทั้งส่งสายตาท้าทายไปให้พอตเตอร์ ที่ยืนกำมือจนใบหน้าถมึงทึง วิคตอเรียพอที่จะรับรู้ถึงรังสีความไม่พอใจจากใครบางคน เธอไม่พูดอะไรนอกจากคลี่ยิ้มหวานหยดที่สุดในชีวิต เพื่อให้การแสดงตรงหน้าสมจริงยิ่งขึ้น ชายหนุ่มแอบชะงักเมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสของเธอ เขาไม่แน่ใจนักแต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธสัมผัสของเธอ เมื่อเช็ดจนพอใจแล้ววิคตอเรียรีบหันเหความสนใจไปที่หม้อปรุงยาในทันที โดยมีสายตากรุ่มกริ่มจากศาสตราจารย์ซลักฮอร์นอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของเขา
ทอมและวิคตอเรียมองหน้ากันไม่ติดชั่วขณะ แต่กระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก..จนเวลาผ่านไป
"เธอหั่นเขายูนิคอร์นชิ้นใหญ่เกินไป"
ชายหนุ่มผู้เป็นคู่ปรุงยาในคาบนี้กำลังยืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง พร้อมทั้งอธิบายวิธีการหั่นที่ถูกต้องอย่างใจเย็น แต่หัวใจของวิคตอเรียกับเต้นระรัวราวกับมีไฟสุม
เขาหย่อนส่วนผสมที่ได้ลงไปในหม้อปรุงยา ก่อนจะวนตามตามเข็มนาฬิกาสองครั้ง วิคตอเรียจึงหยิบผลมิสเซิลโทลงไปสองผล ทอมจึงคนทวนเข็มนาฬิกาอีกสองรอบ โบกไม้กายสิทธิ์อีกครั้งเดียวจนนํ้ายาจากที่เขียวขุ่น กลายเป็นเขียวใสกระจ่างสวยงาม ศาสตราจารย์ซลักฮอร์นเดินมาที่โต๊ะของนักเรียนหัวกะทิ ก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ เขาให้คะแนนสลิธีรินก่อนจะบอกให้พวกเธอจัดเก็บของบนโต๊ะ และนำน้ำยาที่ได้ใส่ลงไปในขวด พร้อมติดชื่อให้เรียบร้อย
เป็นคาบเรียนที่กินแรงของเธอไปมาก ตอนนี้วิคตอเรียหมดแรงจนแทบจะกลิ้งลงไปถูพื้นด้านล่าง ชายหนุ่มที่ติดตามมาด้วย เดินจูงมือเธอให้ไปที่ทะเลสาบ ใต้ต้นไม้อันเงียบสงบไร้ผู้คน เขานั่งลงก่อนที่วิคตอเรียจะนั่งตาม หญิงสาวทอดมองผืนฟ้าด้านหน้าด้วยดวงตาอันแสนระยิบระยับ แน่นอนว่าเธอชื่นชอบความสงบและสถานที่แห่งนี้มาก ชายหนุ่มทำเพียงแค่ปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนแบบเสียกิริยาไปเช่นนั้น หมดซึ่งคราบของหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ การเรียนรวมถึงการเป็นพรีเฟ็คไปด้วยนั้น คือสิ่งที่ดูดพลังงานอันสดใสของเธอไปมากมาย เหนื่อยล้าเกินกว่าตะเปิดเปลือกตา เธอคิดเช่นนั้น..จนกระทั่งเข้าสู่ห้วงแห่งนิทราไป
||||
' จากนี้ไปไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกแล้วนะ คุณจะมีฉันอยู่..ฉันจะไม่จากไปไหน ตราบที่วิญญาณของฉันไม่สูญสลาย ด้วยเกียรติของเลดี้ตระกูลเซลวิน..ฉันคนนี้สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างชายคนนี้ ทอม ริดเดิ้ล จนกว่าความตายจะพรากเราออกจากกัน '
เด็กสาวตัวเล็กเอ่ยขึ้นกับเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่แห่งหนึ่งใต้ต้นไม้ใกล้กับทะเลสาบ พวกเขาทั้งสองคนในชุดคลุมสลิธีริน กำลังนั่งเคียงข้างกันท่ามกลางแสงจันทร์ยามค่ำคืน มันเป็นความอบอุ่นที่เด็กทั้งสองคนไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน พวกเขาไม่อาจรับรู้ได้ว่าอนาคตในวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขารับรู้ได้นั้นก็คือ ความอบอุ่นอันอ่อนโยนช่างเป็นสิ่งที่ถวิลหามานานแสนนาน
ดวงตาสีดำราบเรียบของทอมเข้มขึ้น เขาใช้ดวงตาของตัวเองจ้องมองไปยังร่างบางที่กำลังหลับใหล มือหนายื่นเข้าไปเกลี่ยเส้นผมสีครีมด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาทอประกายอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยแสดงกับใคร แต่เธอจะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายที่ทอมจะส่งสายตาแบบนี้ให้ ถ่ายทอดความรู้สึกลึกซึ้งเช่นนี้ให้ เขากำเนิดมาจากยาเสน่ห์ย่อมไม่เข้าใจความรักของหนุ่มสาวเท่าไหร่นัก แต่ทอมก็เริ่มได้เรียนรู้จากหญิงสาวข้างกาย มันเป็นจุดเริ่มต้นเพียงหนึ่งเดียวที่เขาจะไม่มีวันลืม..
|||||||||
' แม่ที่น่าสมเพช..พ่อที่ไม่สนใจใยดี '
นี่คือสิ่งที่ทอมรับรู้หลังจากค้นหาข้อมูลมาอยู่หลายปี เขาโกรธและเกลียดที่พ่อของเขา สมควรที่จะเป็นผู้วิเศษเลือดบริสุทธิ์ตระกูลหนึ่ง กลับกลายเป็นมักเกิ้ลโสโครก เป็นไอ้คนที่ไม่จะแม้แต่ใยดีเด็กในท้อง แม่ของเขาอุ้มท้องและตายลงที่หน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตั้งชื่อที่โสโครกน่ารังเกียจให้แก่เขา ความรู้สึกเคียดแค้นคือสิ่งหนึ่งที่เขารับรู้ได้ พวกคนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทิ้งเขาไว้ด้านหลัง โดยเรียกเขาว่าตัวประหลาด เขาจึงพยายามและพยายามมากยิ่งขึ้น เพื่อจะถีบตนเองให้ออกมาจากสถานที่แห่งนั้น หากว่าเขาได้หลุดพ้นจากนรกแห่งนั้นเมื่อไหร่ ความตายเท่านั้นที่พวกมันจะได้รับกลับไปเป็นของตอบแทน
เด็กชายผู้โดดเดี่ยว..ชุดเก่าสีซีด นั่งขดตัวอยู่ใต้ต้นไม้แห่งหนึ่ง เขากัดฟันพร้อมทั้งกอดตัวเองด้วยความหนาวเหน็บ ทอมถูกลงโทษให้ออกมานั่งสำนึกผิดด้านนอก เขาไม่เข้าใจเช่นกันเหตุใดตนถึงจะทำร้ายพวกคนที่เข้ามาทำร้ายเขาก่อนไม่ได้? นั่นคือคำถามและเป็นศูนย์รวมแห่งความแค้น ความอยุติธรรมที่เขาได้รับมันเกินกำลังที่จะรับไหว ในวันต่อมาทอมเป็นไข้และใกล้จะจบชีวิตลง ลมหายใจของเขาแผ่วเบาเตรียมที่จะโรยราได้ทุกเมื่อ เขานอนอยู่แต่ภายในห้องแคบๆของตัวเอง มีเพียงเศษผักและนํ้าซุปจืดๆเท่านั้น ที่พอประทังชีวิตของทอมได้
"เมี๊ยว!"
แมวตัวสีครีมกระโดดเกาะหน้าต่างเขาอย่างไม่ยอมแพ้ มันคาบห่อผ้าบางอย่างมา ทอมจึงฝืนลุกขึ้นออกจากเตียง และคว้าตัวของมันเอาไว้ เขาเปิดห่อผ้าที่มันคาบมาด้วยแววตาสงสัย จากแมวตัวน้อยกลายเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ในชีวิตนี้ทอมไม่เคยพบเจอมาก่อน เธอสวยมาก..สวยจนเขานั้นที่ควรจะตกใจ กลับกลายเป็นว่าหัวใจเริ่มเต้นระรัว เขาเรียกสติด้วยการตบหน้าจนขึ้นเป็นรอยแดง เด็กน้อยผมสีครีมที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบคว้ามือห้ามเอาไว้
"คุณไม่ควรทำร้ายตัวเองนะ"
สัมผัสเย็นของตัวยาทำให้เขาเริ่มมีสติขึ้นมาบ้าง ทอมจ้องมองคนที่กำลังทายาให้เขาดูด้วยความเบามือ เด็กชายหลับตาพริ้มตอบรับสัมผัสของเธอ ก่อนจะมองยาในขวดแก้วด้วยความไม่เข้าใจ เขาอดไม่ได้ที่จะระแวงเธอ เพราะบางทียาที่เธอเอามาให้เขา อาจจะเป็นยาพิษก็ได้.. เขาคิดเช่นนั้นจนกระทั่งเธอเริ่มปริปากอธิบายถึงสิ่งต่างๆ มันมหัศจรรย์เกินกว่าที่จะเชื่อ เธอจึงวางตำราเล่มหนาไว้ให้เขาศึกษา พร้อมทั้งกลายร่างเป็นแมวปีนลงไปจากหน้าต่างห้องของทอม เขามองตระกร้าที่มีอาหารน่ากินทั้งหลายอยู่ ไหนจะยาภายในหลอดแก้วนี้ อย่างไรทอมก็ไม่มีอะไรที่จะเสียอยู่แล้ว เพียงแค่พิษไข้ก็เล่นงานจนเขาเกือบจะตาย
เด็กชายเปิดขวดยาและกระดกจนหมดขวด รสชาติของยาสีใสนี้ไม่ค่อยน่าอภิรมย์นัก แต่ก็ถือว่าดื่มไปเพื่อยื้อชีวิต อย่างไรเขาก็ไม่มีอะไรที่จะเสียอีก หากสิ้นชีวิตตอนนี้ในตอนหน้าเขาอาจจะกลายเป็นผี หลอกหลอนพวกมันจนตายให้หมด ทอมที่เริ่มง่วงงุนจึงทิ้งตัวลงนอน พร้อมกับหลับตาพริ้มเมื่อความเจ็บปวดเริ่มทุเลาลง
___
วิคตอเรียยืดตัวขึ้นด้วยความเมื่อยล้า เธอจ้องมองเพื่อนของตัวเอง ที่กำลังใช้ขาเป็นหมอนให้แก่เธอ เขาเงยหน้าจากตำราก่อนจะหลุบตาจ้องมองหญิงสาว เธอยิ้มหวานให้โดยสีหน้าของทอมเรียบนิ่งดังเดิม เธอรู้ว่าเขานั่งอยู่ในท่านี้นานๆ ย่อมต้องมีอาการชาหนึบ วิคตอเรียจึงบีบนวดขาให้ด้วยรอยยิ้ม ส่วนทอมนั้นใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว และรีบปัดมือของเธอออกในทันที พร้อมทั้งหิ้วตำราเดินดุ่มๆจากไป ปล่อยไว้ให้วิคตอเรียนั่งงุนงงอยู่คนเดียว เธอไม่เข้าใจเท่าไหร่นักว่าทำอะไรผิด จึงได้แต่ลุกขึ้นยืนและเดินไปเรียนคาบแยกของตนเองต่อ นั่นก็คือวิชาสัตว์วิเศษ.. วิคตอเรียยิ้มทักทายศาสตราจารย์และคนในคาบอย่างเป็นกันเอง
"สวัสดีค่ะรุ่นพี่"
เด็กสาวตัวน้อยจากบ้านเรเวนคลอทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส จนวิคตอเรียอดไม่ได้ที่จะลูบผมนุ่มฟูของหล่อน
แองเจลิก้า เกรซ จ้องมองรุ่นพี่จากบ้านสลิธีรินด้วยดวงตาที่เป็นประกาย ก่อนที่พรีเฟ็คจากบ้านเรเวนคลอจะเดินเข้ามาทักทายเช่นกัน
"สวัสดีคุณเซลวิน"
เขาทักทายหญิงสาวด้วยรอยยิ้มสุภาพ เหมาะกับแว่นตาของเขาที่ถูกสวมใส่บนใบหน้า
"เช่นกันคุณนีออน"
โลเวล นีออน ขยับรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะจูงมือวิคตอเรียให้ไปฟังบรรยายของศาสตราจารย์สัตว์วิเศษในคาบนี้ ศาสตราจารย์นำเจ้านีฟเฟอเลอร์มาให้พวกเราดูแล ปรากฏว่ามันน่ารักมาก แต่ข้อเสียอย่างเดียวของมันก็คือ เวลาที่มันเห็นของระยิบระยับ มันจะขโมยและเก็บไว้ในกระเป๋าหน้าท้องของมันในทันที ตอนนี้ศาสตราจารย์กำลังสาธิตและเขย่าขาเจ้าตัวน้อย ให้ของที่ขโมยไปออกมา มันน่าเอ็นดูมากแต่เต็มไปด้วยพิษร้าย เธอให้มันกระโดดขึ้นมาที่มือก่อนจะจ้องมองนิ่งๆด้วยสายตากดดัน เจ้านิฟเฟอเลอร์น้อยส่งเสียงออดอ้อนอย่างน่ารัก
“คืนมาเลยนะเจ้าตัวแสบ” ดวงตาของมันหม่นหมองก่อนจะยอมล้วงเข้าไปในกระเป๋าหน้าท้องและยื่นแหวนเพชรเม็ดงามให้
วิคตอเรียถอนหายใจแผ่วเบา และแกล้งจักกะจี้มัน ดวงตาสีฟ้านํ้าทะเลคู่หนึ่งจ้องมองผ่านเลนส์แว่น เขามองภาพความน่ารักที่หาดูได้ยากอย่างตกตะลึง ปนไปด้วยความสงสัย เหตุใดเจ้าหญิงแห่งสลิธีรินจึงมีมุมมองที่อ่อนโยนเช่นนี้ ปกติในหน้าที่ของพรีเฟ็คเขาพบว่าเธอเข้มงวด และเด็ดขาดมากในทุกเรื่อง ดวงตาของเธอที่ควรมีแต่ความราบเรียบ บัดนี้มันเจือจางลงไปหลายส่วน รูปลักษณ์อันงดงามประกอบกับอุปนิสัยที่หาดูได้ยาก ทำให้ โลเวล นีออน ที่แทบจะไม่ชายตามองสตรีนางใด หัวใจเต้นผิดจังหวะขึ้นมาในทันที แองเจลิก้าเด็กน้อยผู้ที่เห็นสีหน้าราวกับกำลังตกหลุมรัก เธอเดินตรงไปเหยียบเข้าที่เท้าของเขาทันที ก่อนจะแสร้งทำใบหน้าเศร้าสร้อย
“ขะ..ขอโทษค่ะฉันไม่ได้ตั้งใจ” ดวงตากลมโตเจือปนความสะใจ ทำให้สีหน้าของโลเวลกระตุกอย่างรุนแรง
ยัยเด็กร้ายกาจ
“มีอะไรงั้นหรือ” วิคตอเรียหันมาจ้องมองเหตุการณ์ตรงหน้า โดยที่ในมือโอบอุ้มเจ้านิฟเฟอเลอร์เอาไว้ไม่ห่าง
“ไม่มีอะไร แค่เรื่องเข้าใจผิดน่ะ” โลเวลยิ้มอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินขนาบข้างไปพร้อมๆกับวิคตอเรีย
“ปกติคุณไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดหรือป่าว” วิคตอเรียกำลังล้างมืออยู่นั้น เธอทำท่าทางครุ่นคิดก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้ม
“ก็มีบ้าง แต่ไม่บ่อยมากนัก ฉันชอบอยู่แบบสันโดษภายในห้องของตนเองมากกว่า” โลเวลพยักหน้ารับก่อนจะแอบเก็บข้อมูลแบบเงียบๆ
จนกระทั่งฝีเท้าไม่เบาไม่ดังจังหวะมั่นคง จะก้าวมาพร้อมกับใบหน้าเย็นชาถึงขีดสุด ทอมตวัดสายตาไม่พอใจใส่โลเวลจนเขาต้องหรี่ตาลง ทอมประเมินเด็กบ้านเรเวนคลออย่างพิจารณาก่อนจะยิ้มเยาะมุมปาก โดยที่หญิงสาวไม่ทันได้สังเกตเห็น แต่ถึงสังเกตเห็นอย่างไรมันก็ไม่ใช่ปัญหาของเธออยู่ดี เธอคว้าข้อมือของทอมลากไปที่คุกใต้ดิน ก่อนที่เสียงทุ้มจะกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันเพียงสองคน
“รู้ไหมว่าเธออันตราย” วิคตอเรียเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาพร้อมกับยิ้มตอบกลับไป
“โอ้!..น่าแปลกใจที่คุณเอ่ยชมเชยฉัน” หญิงสาวหัวเราะก่อนจะปล่อยให้ชายหนุ่มยืนเหม่อลอยอยู่ตัวคนเดียว
****
เหมือนมีคนทำนํ้าส้มสายชูหล่น กลิ่นแร๊งแรงนะครับท่านผู้อ่าน //เหล่ตามองทอมเงียบๆ
ความคิดเห็น