ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Undertale AfterAll : Post Pacifist

    ลำดับตอนที่ #18 : Episode 15 ท่ามกลางสายฝน

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 60


         ฝนที่กำลังเทลงมาจากท้องฟ้าอย่างหนักตั้งแต่เช้าของวันนี้ มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่กำลังวิ่งอยู่กลางทุ่งโล่งใส่เสื้อคลุมอย่างมิดชิดแบกปืนเดินฝ่าเม็ดฝนที่ตกลงมาโดยไม่ขาดสายจนแทบมองไม่เห็นภาพข้างหน้าอย่างเป็นจังหวะ ซึ่งมันเป็นการฝึกประจำวันของกองร้อยทหารช่างในวันนี้

    อีกระยะ 2000 เราจะถึงที่หมายแล้วทุกคนยังไหวอยู่หรือปล่าว?”

    ยังไหวครับหัวหน้าทหารกล่าวขานตอบแย๊งที่เป็นหัวแถวขณะที่กำลังวิ่ง

    ให้ตายสิฝนดันตกหนักซะอีกถึงจะรู้ว่าวันนี้ฝนจะตกก็เหอะ

    รองเท้าน้ำเข้า!?! เวรๆๆๆ

    นายผูกเชือกรองเท้าแน่นหรือยัง ??”

    แล้วโว้ย!! รองเท้ามันขาดตั้งแต่เมื่อวานแล้วฉันลืมซ่อม !!”

    กลับไปเท้านายคงไม่เหม็นไปซะก่อนนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    เร็วเข้าใกล้จะถึงแล้วข้าวเช้ารอพวกเราอยู่ ระวัง ! นับ !!!”

    หนึ่ง !! สอง !! หนึ่ง ! สอง ! สาม ! สี่ ! หนึ่งสองสามสี่หนึ่งสองสามสี่ !!! . . . . ”

         เสียงที่ดังเป็นจังหวะพร้อมเพรียงกันดังกังวานอยู่กลางทุ่งโล่งที่ฝนยังตกลงมาการฝึกก็ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งได้กลับมาถึงที่ค่ายทหารซึ่งตั้งอยู่ข้างๆหมู่บ้านมอนสเตอร์ แย๊งสั่งเลิกแถวแยกย้ายไปจัดการเสื้อผ้าสัมภาระทันทีก่อนที่จะเดินไปโรงอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้า

    เท้าเป็นไงบ้าง?”

    ยุ่ยเลย ส่วนรองเท้านั้นกินข้าวเสร็จเดี๋ยวกลับไปซ่อมเลยฝนตกอย่างนี้คงไม่มีฝึกอะไรอีกใช่หรือปล่าว?”

    "นอกจากฝึกตอนเช้าก็คงไม่มีอะไรแล้วแหละ"

    มันฝรั่งบดกับเนื้อทอด ขอบใจมากเพื่อน !!!”

         ทหารตะโกนไปหาพ่อครัวที่กำลังจัดอาหารให้กับทหารคนอื่นๆที่ต่อแถวซึ่งพ่อครัวก็ยกมือรับคำชม

    ยังไงวันนี้งานก่อสร้างคงต้องระงับจนกว่าฝนจะหยุดตกใช่หรือปล่าวแย๊งถามรองหัวหน้า

    อืม วันนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้ ที่จริงงานก็ดำเนินไปเยอะแล้วแท้ๆฝนดันตกหนักอีก

    เดี๋ยวหลังเสร็จงานตรงนี้เดี๋ยวค่อยทำทางเดินกันฝนในค่ายละกัน . . . แล้วนายมีธุระอะไรต้องทำหรือปล่าว?” 

    ก็ไม่มี . . . จะว่าไปเธอก็ไม่ได้กลับมาพักใหญ่แล้วนะครับเนี่ย

    หึ ไปทำภารกิจที่แอฟริกากับ UN เห็นได้ข่าวว่าสถานการณ์ที่นั่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็คงอีกนานเลยมั้ง

    ว่าเธอกลับมาเธอคงตะลึงกับเรื่องที่นี่ไม่มากก็น้อยแหงๆ ว่าแต่นายน่าจะขอเธอแต่งงานได้แล้วนะ

         พรวด !!! แค่ก~! แค่ก~! แย๊งพ่นน้ำที่ดื่มอยู่ก่อนที่จะสำลักออกมาก่อนที่ทหารที่นั่งข้างๆจะมาช่วยและหลุดขำออกมา

    ชอบเธอสินะหัวหน้า น่าจะบอกได้ตั้งนานแล้วนะคะทหารข้างๆแซว

    ให้ตายสิพวกนายก็นะ ฉันก็ไม่ได้ชอบหรือรักเธออะไรขนาดนั้น

    เหรอ? แล้วจะพูดคำว่ารักออกมาทำไมล่ะเป็นหัวหน้าซะเปล่า ถถถถถถ กับเรื่องขอสาวแต่งงานยังไงก็กล้าๆหน่อยหัวหน้า

    เฮ้อ ~ ก็น่ะ

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า ~ !”

         ท่ามกลามเสียงหัวเราะก็ได้มีมอนสเตอร์ตัวสูงเดินมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวพาดอยู่ที่คอและจานอาหารก่อนที่จะตั้งลงข้างๆเหล่าทหารที่กำลังคุยอย่างสนุกสนานและมีความสุขกับอาหารเช้าของพวกเขาเอง

    ขอบใจพวกนายมากเลยนะที่ให้ฉันมาฝึกด้วยเนี่ย

    ไม่เป็นไรหรอกดีด้วยซ้ำที่เธอมาร่วมฝึกด้วยกันน่ะ อีกรอบนะเธอชื่ออันไดน์ใช่หรือปล่าว

    "ใช่"

         อันไดน์ได้มาเข้าร่วมการฝึกประจำวันกับเหล่าทหาร ที่จริงแล้วเธอก็ได้ไปฝึกอยู่กับกลุ่มของแย๊งที่วิ่งฝ่าสายฝนมาในตอนเช้าของวันนี้ อันไดน์เกือบจะเอาชุดเกราะมาเองด้วยซ้ำแต่ก็ได้ใช้อาวุธชุดเครื่องแบบและอุปกรณ์พื้นฐานของมนุษย์ในการฝึก

    เป็นไงบ้างฝึกในวันนี้ทหารที่นั่งข้างๆถามอันไดน์

    ฉันก็ฝึกหนักแบบนี้นี่แหละเมื่อเทียบกับตอนที่ฉันอยู่หน่วยรอยัลการ์ด

    หึ ? ว่าแต่ตอนที่อยู่โลกใต้ดินเธอเป็นทหารด้วยหรอกเหรอ ?”

    ใช่ ฉันเป็นหัวหน้าหน่วยรอยัลการ์ดน่ะ

    งั้นเหรอฉันอยากฟังเรื่องเกี่ยวกับรอยัลการ์ดแล้วสิทหารคนหนึ่งพูดด้วยความสนใจ

    แล้วพวกนายไม่คิดจะเล่าเรื่องของพวกนายให้ฟังก่อนบ้างหรือยังไง?”

    ฮ่า ฮ่า ได้สิพวกเรากองร้อยทหารช่างที่ 41 ที่เห็นก็ . . . . ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกหน้าเดิมๆที่มาอยู่ที่นี่มาสิบกว่าปีพร้อมๆกับหัวหน้านี่แหละ แย๊งเป็นที่นับถือมาตั้งแต่เค้ายังเป็นแค่นายสิบอยู่เลยล่ะและในตอนนั้น. . .”

         กริ๊ง~~ง เสียงโทรศัพท์จากกระเป๋าของแย๊งดังขึ้น แย๊งรับสายโทรศัพท์ขึ้นมา

    โหลว่าไง ? . . . โอเคเดี๋ยวฉันไป

    พอดีมีงานต้องทำฉันไปก่อนนะ และก็อันไดน์ถ้ามีอะไรให้ช่วยถามเจ้าพวกนี้ได้เลยนะ

    โอเค งั้นขอฟังเรื่องของพวกนายหน่อยละกัน

    ตอนนั้นหัวหน้าอยู่หมวดสองเป็นช่างไฟฟ้ามันชอบทำอะไรแผลงๆอย่างวันนั้นฉันยังจำได้เลย

    แล้วหมอนั่นทำอะไรของเขาน่ะ?”

    ก็แบบว่าวันหนึ่งที่กำลังซ้อมติดตั้งระเบิดอยู่นั้น . . .”

         ขณะที่อันไดน์และเหล่าทหารคุยกันส่วนแย๊งเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมและเดินฝ่าฝนออกไปข้างนอกโดยใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้านฐานทัพตามที่เพื่อนของแย๊งโทรศัพท์ให้ไปหาเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเพื่อนของแย๊งนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะของเชา

    มีอะไรเหรอเห็นโทรมา?”

    สวัสดีค่ะฉันชื่อแลรี่ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

    หญิงสาวคนนี้กล่าวทักทายแย๊งโดยที่เธอกำลังใส่หมวกและเสื้อผ้าที่มิดชิดจนผิดสังเกตุ

    เอ่อ . . . สวัสดีครับมีอะไรหรือปล่าวครับ

    เธอชื่อ แลรี่ เมเลฟ เป็นลูกครึ่งมอนสเตอร์น่ะ หลังจากที่เธอได้ทราบข่าวเธออยากจะมาดูด้วยตาตัวเองเรื่องมอนสเตอร์ที่หมู่บ้านนี่แหละ” เพื่อนของแย๊งบอกเรื่องเกี่ยวกับเธอ

    หา?”

    มึนตดอะไรของนายแย๊ง?นายบอกเองไม่ใช่เหรอเกี่ยวกับเรื่องนี้นะและเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นนี่แหละ

    อย่างนั้นหรอกเหรอครับ?” แย๊งถามผู้หญิงที่ชื่อแลรี่

    ค่ะ

         แลรี่ถอดหมวดแล้วเสื้อคลุมเสื้อผ้าที่ใส่ออก ผิวหนังที่เป็นเกล็ดบางๆแต่ก็สังเกตุได้และเขาที่ปรากฎอยู่ที่ศรีษะนั้นทำเอาอึ้งไปเล็กน้อยเพราะสุดท้ายแล้วนอกจากเขาคนนั้นที่แย๊งรู้จักก็ยังมีลูกครึ่งมอนสเตอร์คนอื่นๆที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยเช่นกัน

    เอาจริงดิ? . . โอ๊ย !?!”

    ไอนี่ดูท่ายังไม่สร่างแหะเพื่อนของแย๊งเขกหัวแย๊งเรียกสติ

    พอฉันได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวของมอนสเตอร์ที่นี่ฉันก็รีบมาที่นี่ทันทีเลยค่ะ

    . . . ครับ -__-”

         เพื่อนของแย๊งและแลรี่หลุดขำเล็กๆออกมาแย๊งลากเก้าอี้ข้างๆมานั่ง

    งั้นก็ . . . จะเป็นอะไรหรือปล่าวครับถ้าผมของทราบเรื่องราวเกี่ยวกับทางคุณ

    ไม่หรอกค่ะฉันจะพยายามช่วยเท่าที่ทำได้ละกันค่ะ

    ครับแย๊งหยิบสมุดบันทึกมาจดบันทึก

    คิดว่าที่ฉันเป็นคงคล้ายๆกับมังกรมั้งไม่แปลกหรอกเพราะแม่เป็นมังกรนี่นา อยากจะบอกกับพวกเด็กๆจังว่าพอได้เป็นเองแล้วมันไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่เลย

         แลรี่พูดประชดกับสิ่งที่ตัวเองเป็นซึ่งนั่นก็คือลูกครึ่งมอนสเตอร์

    ฉันเกิดที่ทางฝั่งตะวันออกอย่างที่บอกลักษณะที่เป็นได้มาจากแม่ แม่นั้นทำงานร้านขายของเล็กๆส่วนพ่อทำงานช่างที่โรงงานส่วนตัวของพ่อและมีน้องชายที่เป็นเหมือนกับฉันอยู่ด้วย

    ไม่ทราบว่ามีชีวิตความเป็นอยู่ยังไงบ้างครับ?”

    ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากเท่าไหร่แม้พวกเราจะอาศัยกันอยู่ในเมืองแต่คนผู้คนในเมืองก็เข้าใจและยอมรับสิ่งที่ครอบครัวของเราเป็น ซึ่งต้องขอบคุณพ่อที่พยายามช่วยเหลือคุณแม่และพวกเรามาตลอด ส่วนน้องชายก็เข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนได้ดีค่ะ

    อย่างนั้นเหรอครับ . . . แล้วแม่ของเธอได้เล่าอะไรเกี่ยวกับเรื่องในอดีตให้เธอฟังบ้างหรือปล่าวครับ?”

    เท่าที่แม่เล่าให้ฉันฟังก็คือบรรพบุรุษของคุณแม่นั้นมีลักษณะที่แตกต่างจากมนุษย์มานานแล้วโดยได้หลบซ่อนจากการสู้รบครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วก่อนที่จะเริ่มใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์จนถึงปัจจุบัน ที่จริงฉันพยายามถามแม่อยู่หลายครั้งกว่าแม่จะยอมเล่าให้ฟัง

    พอรู้สาเหตุหรือปล่าวครับ?”

    เห็นคุณแม่บอกว่าแม่ไม่อยากให้เรื่องบาดหมางในอดีตมาทำลายความพยายามของคุณพ่อ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันที่แม่พูดนั้นคือเรื่องอะไร ที่จริงหลังจากที่ข่าวเกี่ยวกับมอนสเตอร์ปรากฎตัวขึ้นคุณแม่ก็ถึงยอมเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังน่ะค่ะและดูเหมือนคุณแม่จะร้องไห้ด้วยที่ได้ข่าวเรื่องนี้

    ในระหว่างที่แลรี่เล่าเรื่องของเธอให้ฟังแย๊งก็ได้จดเรื่องราวใส่บันทึกอย่างไม่ลดละและรวดเร็ว

    แล้วไม่ทราบว่าคุณรู้สึกยังไงบ้างครับหลังที่ได้ทราบข่าวนี้?”

         แลรี่มองไปยังข้างนอกหน้าต่างเป็นมอนสเตอร์ที่กำลังหลบฝนอยู่ตึกฝั่งตรงข้ามก่อนที่จะยิ้มเล็กน้อยและก้มมองมาที่มือของตัวเองที่ลักษณะที่เป็นเกล็ดและมีเล็บที่แหลมคม

    ตั้งแต่ฉันจำความได้ฉันรู้สึกแตกต่างจากคนอื่นๆมาโดยตลอดถึงแม้คนอื่นๆจะไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้และสนิทสนมกับฉันแต่ก็คิดมาตลอดว่าสักวันจะได้พบเจอคนอื่นๆที่เป็นเหมือนกับฉันน้องชายและคุณแม่ . . . ขอบคุณมากนะคะ

         แย๊งที่ได้รับคำขอบคุณก็วางปากกาที่เขียนบันทึกลงก่อนที่จะคุยกับแล่รี่

    ผมคิดว่า. . . ถ้าจะขอบคุณล่ะก็ผมว่าคุณควรขอบคุณเด็กคนนั้นมากกว่านะ

    เด็กคนนั้น?”

    เธอชื่อฟริกส์น่ะครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่เธอเป็นเด็กที่ชอบทำหน้าชวนเบื่อโลกแต่เธอเป็นคนที่ช่วยเหลือพวกมอนสเตอร์ที่ถูกขังอยู่ใต้ดินให้ได้เป็นอิสระน่ะครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอไปทำอะไรที่นั่นแต่สิ่งที่เธอทำนั้นต้องยิ่งใหญ่แน่นอน

    ฉันอยากจะเจอเธอซะแล้วสิ แล้วตอนนี้เด็กคนนั้นอยู่ไหนเหรอคะ?”

    เร็วๆๆ !! เปียกหมดแล้ว” 

         เสียงเด็กที่คุ้นเคยดังมาจากข้างนอกก่อนที่จะวิ่งเข้ามาขณะที่กำลังคุยกันอยู่ซึ่งก็เป็นวิสกับฟริกส์ที่วิ่งฝ่าฝนเข้ามาโดยสภาพของพวกเขานั้นเปียกไปทั้งตัวเพราะฝ่าฝนมา

    วิส ?? ฟริกส์ !? พวกเธอมาได้ไงเนี่ย ฝนตกไม่ใช่เหรอ

    ตอนที่พวกเราสองคนขึ้นรถมาจากในเมืองเห็นฝนหยุดตกพอดีก็เลยคิดว่าคงไม่เป็นไรแต่พอนั่งรถมาได้สักพักฝนก็ตกลงมาอีกก็เลยวิ่งฝ่าฝนมาจนเปียกอย่างที่เห็นนี่ล่ะ

    แล้วทำไม่พกร่มมาด้วยเล่าโธ่~เอาผ้าไปเช็ดตัวซะแย๊งลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวในห้องมาให้ทั้งสองคน

    เอ่อ ไม่ทราบว่าเธอหรือปล่าวคะ? เด็กคนที่ว่า

    ที่ใส่เสื้อลายขวาทำหน้าปลาตายคนนั้นแหละครับแย๊งชี้มาที่ฟริกส์

    เธอคือฟริกส์ใช่หรือปล่าว? ฉันชื่อแลรี่ยินดีที่ได้รู้จักนะแลรี่หันไปทักทายฟริกส์

    *เธอชื่อฟริกส์และยินดีที่ได้รู้จัก*

    ตัวแค่นี้เองแต่ก็ทำเรื่องยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้เก่งจังเลยนะ

    *เพราะเธออยากจะเป็นเพื่อนกับทุกๆคน*

    แหม่ ยังไงก็ต้องขอบคุณเธอมากๆเลยนะ ^_^”

    ว่าแต่พี่ก็เป็นมอนสเตอร์เหมือนกันเหรอครับ?” วิสถามแลรี่

    น่าจะประมาณว่าเป็นลูกครึ่งมอนสเตอร์มังกรน่ะจ่ะ

         หลังจากนั้นแย๊งก็ได้จดเรื่องราวของแลรี่เพื่อใช้เป็นข้อมูลต่ออีกเล็กน้อย และแลรี่ก็ได้คุยกับฟริกส์และคนอื่นๆอยู่พักใหญ่ก่อนที่ฝนจะหยุดตก ทุกๆคนที่ต่างหลบฝนก็ทยอยออกมาเพื่อออกมาสูดอากาศข้างนอก

    ในที่สุดฝนก็หยุดตกซักทีเล่นตกเอาตั้งแต่เช้านี้ทำเอาซะเบื่อเลย

    เย้ ฝนหยุดตกแล้ว

    แย๊งครับเสียงของแอสกอร์ที่กำลังเดินมาหาแย๊งพร้อมกับแฟ้มเอกสาร

    นี้เป็นเอกสารที่ขอไปในตอนนั้นผมทำมาให้เรียบร้อยแล้วครับ

    ไม่ทราบว่าคุณคือแลรี่ถามมอนสเตอร์แพะตัวสูงที่กำลังคุยกับแย๊ง

    ยังไม่รู้จักหรอกเหรอครับ เค้าคือแอสกอร์เป็นผู้นำของเหล่ามอนสเตอร์ในตอนนี้น่ะครับ

    ยินดีที่ได้รู้จักนะครับแอสกอร์กับแล่รี่กล่าวทักทายซึ่งกันและกัน

    ฉันก็เช่นกันค่ะและก็ยินดีด้วยนะคะที่ได้ขึ้นมายังโลกพื้นดิน อ่ะ !? . . . ดูเหมือนว่าฉันต้องกลับแล้วพอดีว่าฉันเป็นนักศึกษาและยังมีงานค้างที่ต้องรีบทำส่งของที่เรียนน่ะค่ะแลรี่ก้มลงมองที่นาฬิกา

    งั้นก็ขอให้โชคดีนะครับแย๊งกล่าวลา

    เช่นกันค่ะ ไม่ทราบว่าคุณพอจะรู้จักเรื่องตำนานเกี่ยวกับมังกรที่บินกลางราตรีแถวภาคตะวันออกไหมคะ?”

    ฉันรู้จักนะเพื่อนของแย๊งตอบ

    เป็นเรื่องที่มีคนพบเห็นมังกรบินอยู่บนท้องฟ้าเวลากลางคืนแถวๆนั้นเป็นประจำ . . . เดี๋๋ยวนะ หรือว่าเธอ . . .”

    ค่ะ ยังไงก็ให้เก็บความลับไว้สักพักนะคะ ^_^” 

         ทันทีที่จบประโยคนี้แลรี่ปลดกระดุมตรงบริเวณไหล่ทั้งสองข้างเพื่อให้ส่วนที่ปกปิดด้านหลังเปิดออก ปีกที่ถูกพับเก็บก็กางออกและไม่ช้าปีกของเธอก็พาเธอทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันทีและแลรี่ก็โบกมือกล่าวลาก่อนที่เธอจะบินหายลับขอบฟ้าไปปล่อยคนที่อยู่ในหมู่บ้านอึ้งกันไปเป็นแถว

    ว้าว ไม่อยากจะเชื่อเลยแหะว่าตำนานนั้นจะเป็นเธอเพื่อนของแย๊งตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น

    ฉันว่าอาจจะไม่ใช่แค่เธอก็ได้เพราะตำนานนี้มีมาตั้งแต่ก่อนที่พวกเราจะเกิดแถมดูแล้วเธอก็อายุน้อยกว่าพวกเราซะอีก

    งั้นก็หมายความว่า . . .”

    อืม . . . ว่าแม่ของเธอก็มีส่วนในตำนานนี้ด้วยก่อนที่แม่ของเธอจะวางมือและให้ลูกรับช่วงนี่แหละ บางทีนะพวกเขาก็อาจจะใช้ชีวิตอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิดก็ได้ใครจะไปรู้ล่ะ

    ดูเหมือนว่าเธอจะมีความสุขดีนะครับแอสกอร์กล่าว

    น่าจะอย่างนั้นแหละ ไม่งั้นเธอคงไม่โบยบินอยู่บนท้องฟ้าจนเป็นตำนานที่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิดหรอก

    ว่าคงไม่แปลกใจเท่าไหร่ถ้าพวกตำนานเทพนิยายที่พวกเรารู้จักจะมีจริง

    ใครจะไปรู้ล่ะ พวกเขาอาจจะอยู่ข้างๆบ้านหรือหน้าปากซอยก็ได้

    .

    .

         ณ ท้องฟ้าเวลากลางคืนซักแห่งหนึ่งกลางเหล่าผู้คนที่ใช้ชีวิตยามค่ำคืนหรือไม่ก็เพิ่งกลับจากที่ทำงานมีคนคนหนึ่งได้สังเกตุเห็นบางอะไรอย่างโบยบินอยู่บนท้องฟ้าลางๆก่อนที่จะตะโกนเรียกคนอื่นให้มาดูสิ่งที่ไม่อยากเชื่อในสายตาตัวเอง

    เฮ้ยดูนั่นสิ มีอะไรไม่รู้บินอยู่ท้องฟ้าด้วยล่ะ

    แกดื่มหนักจนเพี้ยนอีกแล้วหรือไง?”

    ดูดีๆสิฟระ

    ไหนๆ . . . เฮ้ยจริงดิ

    ใช่ตำนานมังกรราตรีนั้นหรือปล่าว?เฮ้ยทุกคนดูนั่นสิ

    นั่นใช่แน่ๆ

    ถ่ายภาพเอาไว้เร็ว เอ๋ ? . . . . หลบๆๆๆๆ !!!”

         สิ่งที่บินอยู่บนท้องฟ้าก็โฉบลงมาหาพวกเขาด้วยระยะเผาขนก่อนที่จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและหายไปกับความมืดอีกครั้ง และที่บ้านหลังหนึ่งสิ่งที่ถูกเรียกว่าตำนานมังกรราตรีก็ร่อนลงหน้าประตูบ้านก่อนที่จะเคาะประตูและประตูก็เปิดต้อนรับเธอ

    กลับมาแล้วค่ะคุณพ่อคุณแม่

    กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ เป็นยังไงบ้างวันนี้?”

    ค่ะ วันนี้หนูไปเจอพวกเขามาด้วยล่ะ

    TO BE CONTINUED

     

    จบ หรือยังวะ

    กว่าจะทำเสร็จเฮ้อ ~ ยาวชะมัดตอนนี้ หือ?”

         ณ เวลากลางคืนแย๊งที่กำลังทำสรุปเอกสารสังเกตุเห็นเพื่อนของเค้าแบกกล่องใบหนึ่งเข้ามาในห้องและวางมันไว้ที่โต๊ะที่ห้องทำงานของพวกเค้าและเริ่มหยิบมีดมาแกะเทปรอบๆออก

    นั่นอะไรน่ะ?”

    ทีวีน่ะ นี่มาช่วยหน่อยสิ

    ได้แปบนึง

    [Twelve seconds later]

    ดูสิ มีอะไรให้ดูบ้าง สารคดี แอนิเม การ์ตูน ข่าว ละคร เพลงเอ็มวี น่าเบื่อ . . . เอ๋?”

         เพื่อนของแย๊งที่กำลังไล่กดช่องทีวีก็เจอกับช่องหนึ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน

    อะไร?”

    ช่อง MTT น่ะฉันไม่เคยเจอช่องทีวีนี้มาก่อนเลยใช่ที่แอสกอร์พูดถึงหรือปล่าว

    แล้วทำไมนายไม่ลองเปิดดูมันล่ะ?”

         ว่าแล้วเพื่อนก็กดปุ่มเปิดทีวีช่อง MTT ที่ว่าในทันทีก่อนที่ทั้งคู่จะตะลึงกับสิ่งที่เห็นในทีวี หุ่นยนต์ที่คล้ายๆกับมนุษย์กำลังออกรายการทีวีแห่งโดยมีผู้คนกำลังมองพวกเค้าด้วยความตื่นตาตื่นใจราวกับไม่เคยเจอมาก่อน

    [Hotel Song]

    ดูนี่สิครับผู้ชมทุกๆท่าน เมืองของเหล่ามนุษย์แห่งนี้ช่างเป็นเมืองแห่งศิลปะที่สร้างขึ้นมาได้อย่างช่างงดงามเสียจริงๆ

         ขณะที่เพื่อนของแย๊งกำลังอ้าปากค้างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น แย๊งก็จำได้ทันทีถึงเรื่องที่แอสกอร์เคยเล่าโดยที่ออกทีวีในตอนนี้คิดว่าเป็นหุ่นยนต์ที่ชื่อเมตตาตอนเจ้าของรายการทีวี MTT

    .

    .

    แล้วหมอนั่นทำได้ยังไงล่ะเฮ้ย !?!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×