คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Episode 14 ถึงที่บ้าน
ถึงที่บ้าน
จนถึงวันนี้ผมก็ได้รับตำแหน่งหัวหน้ากองร้อยมาได้ 1 อาทิตย์แล้ว และผมอยากจะบอกว่าพวกเรานั้นดูเหมือนจะยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะเลย ถ้าได้เห็นข่าวเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามอนสเตอร์ปรากฎตัวขึ้นในเมืองที่ผมอยู่ประจำการอยู่นั้น ผมอยากจะบอกว่าตอนนี้พวกเรากองร้อยทหารช่างที่ 41 ได้รับหน้าที่ในการช่วยเหลือพวกเขาในการตั้งต้นชีวิตใหม่ ที่อยากจะบอกคือตอนนี้มันไม่ต่างอะไรกับการ์ตูนที่ผมอ่านสักเท่าไหร่แล้ว (ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
ที่บ้านก็ยังสบายดีสินะครับยังไงก็ฝากความคิดถึงให้กับเจ้าแคทด้วยนะครับ
ปล. สุดท้ายก็ขอให้เก็บจดหมายฉบับนี้ไว้ที่ลิ้นชักคอมเหมือนทุกทีนะครับ
“เฮ้~แคท!! ลูกชายฝากความคิดถึงมาแน่ะ”
“เมี้ยว~เมี๊ยว~” เสียงเรียกของชายคนหนึ่งเรียกแมวสีขาวนวลตัวหนึ่งที่ที่บ้านเลี้ยงอยู่ให้ได้ยิน
“แย๊งส่งไปรษณียบัตรมาอีกแล้วเหรอคะ ?” ผู้หญิงที่กำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัวถามสามีของเธอ
“ก็เหมือนทุกอาทิตย์นี่แหละแต่วันนี้เค้าเล่าเรื่องอะไรก็ไม่รู้ด้วยล่ะ”
“อะไรเหรอคะ?” แม่ปิดเตาแก๊สและเดินมาลูบหัวแมวที่กำลังอ้อนอยู่
“เห็นว่ากำลังช่วยเหลือเหล่ามอนสเตอร์อยู่น่ะ”
“มอนสเตอร์เหรอ ? มันทำให้นึกถึงสองคนนั้นเลยนะคะ นี่ค่ะกาแฟ”
“ใช่ไอ้หมอนั่น . . . นี่ก็ยี่สิบกว่าปีแล้วสิเนี่ยและก็แฟนของมันด้วย”
“เมี้ยว~”
“หมอนั่นก็เหมือนทุกทีนี่แหละ นายก็น่าจะรู้นิเแคท”
ชายคนนั้นวางไปรษณียบัตรไว้บนโต๊ะก่อนที่แมวตัวนั้นจะกระโดดขึ้นมานอนอยู่ข้างๆไปรษณียบัตร ทีวีถูกเปิดขึ้นและช่องทีวีก็เปลี่ยนไปทีละช่องๆเพื่อหารายการที่อยากจะดูขณะที่ดื่มกาแฟอย่างเพลิดเพลินจนไปสะดุดกับช่องข่าวช่องหนึ่ง
“วันนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นพิเศษเลยทีเดียวค่ะ เมื่อสิ่งมีชีวิตสิ่งมีชีวิตที่ปกติจะรู้จักกันแต่ในตำนานนิยายหรือแม้แต่การ์ตูนซึ่งรู้จักกันในชื่อมอนสเตอร์นั้นได้ปรากฎตัวขึ้นใกล้กับเมืองทางฝั่งตะวันออกซึ่งพวกเค้านั้นได้ปรากฎตัวเมื่อตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วตามข่าวในโลกโซเชียว”
สิ่งที่เห็นในทีวีนั้นคือเหล่ามอนสเตอร์และมนุษย์เดินไปมาอยู่ในเมืองแห่งหนึ่งบางส่วนกำลังก่อสร้างบ้านเรือนอาคารและบางส่วนก็เริ่มใช้ชีวิตกับโลกข้างบนแห่งนี้และก็กำลังให้สัมภาษณ์ออกทางทีวีอยู่ในขณะนี้
“ไม่ทราบว่าคุณรู้สึกอย่างไรบ้างคะ ที่ได้ใช้ชีวิตโลกข้างบนนี้?” นักข่าวกำลังถามมอนสเตอร์
“มันเป็นความฝันที่พวกเราใฝ่ฝันมานานและไม่คิดว่าวันนี้จะเป็นจริงน่ะค่ะ ^_^”
“ข้าพาไพรัสผู้ยิ่งใหญ่ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างที่ได้เป็นเพื่อนกับมนุษย์ เนี๊ยะ เฮี๊ยะ ๆๆ”
“ว้าว~ไอหมอนั่นไม่ได้พูดเล่นแหะ มาดูนี่สิ” ชายที่กำลังตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นเรียกภรรยาของตนมาดู
“ว่ายังไงคะ? . . . ไม่อยากจะเชื่อ เดี๋ยวนั่นลูกเรานี่นา”
ในทีวีนั้นมีมอนสเตอร์ที่ลักษณะคล้ายแพะตัวสูงมากและชายสองคนที่กำลังให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอยู่ ซึ่งที่เห็นในทีวีก็คือแอสกอร์ แย๊งและเพื่อนของเขาเอง
“ครับ . . . เราได้รับคำสั่งในการให้ความช่วยเหลือพวกเขาเหล่ามอนสเตอร์โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อรับผิดชอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยมีกองทหารรักษามาตุภูมิ คอยรักษาการณ์และให้การช่วยเหลือเช่นกันครับ”
“แล้วอนาคตของเหล่ามอนสเตอร์จะเป็นอย่างไรต่อไปคะ?”
“มันก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือทั้งสองฝ่ายครับที่จะกำหนดอนาคตของพวกเค้าและพวกเราเอง แม้ในตอนนี้พวกเค้าจะต้องปรับตัวและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆบนโลกใบนี้แต่อันที่จริงพวกเราก็เช่นกันที่จะต้องเรียนรู้เรื่องราวต่าวๆจากเหล่ามอนสเตอร์เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันครับ”
“ไม่ทราบว่ามีอะไรจะพูดเพิ่มเติมหรือปล่าวคะคุณแอสกอร์ ?” นักข่าวถามแอสกอร์
“ครับ อย่างที่มนุษย์คนนี้ได้บอกไปว่าพวกเราต่างมีอะไรที่จะต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันอีกมากมายและวันนี้พวกเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขึ้นมาใช้ชีวิตยังโลกข้างบนแห่งนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเรามอนสเตอร์ต่างรอคอยวันนี้มายาวนานแล้วครับ”
ในขณะที่คู่สามีภรรยากำลังดูข่าวทางทีวีอย่างตั้งใจนั้นแมวที่ทั้งคู่เลี้ยงดูอยู่ก็ได้ดูสิ่งที่เห็นในทีวีอย่างไม่ลดละเช่นกันก่อนที่จะหันกลับไปมองไปรษณียบัตรโดยเฉพาะตรงคำว่า มอนสเตอร์ . . .
.
.
“ขอบคุณที่ให้สัมภาษณ์ออกอากาศครั้งนี้ด้วยนะคะ”
นักข่าวกล่าวลาและขอบคุณพวกแย๊งเพื่อนของแย๊งและแอสกอร์ที่ให้สัมภาษณ์ออกรายการทีวี ณ ที่หมู่บ้านมอนสเตอร์
“. . . .”
“. . . .”
“มีอะไรหรือปล่าว?” แย๊งมองไปที่แอสกอร์ที่กำลังสงสัยอะไรบางอย่าง
“ว่าแต่พวกเราจะไม่บอกพวกเขาเกี่ยวกับฟริกส์หรอกเหรอครับ?”
“ก็พวกเขาไม่ได้ถามนิและยังไงเดี๋ยวอีกไม่นานพวกเขาก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งจริงๆแล้ว . . .”
แย๊งแหงนออกไปมองหน้าต่างซึ่งข้างนอกก็เป็นรถเมย์ที่เพิ่งจะมาจอดที่หน้าหมู่บ้านและฟริกส์ก็กำลังเดินลงมาจากรถพร้อมด้วยมอนสเตอร์และมนุษย์คนอื่นๆก่อนที่จะเดินหายไปจากขอบหน้าต่าง
“ปล่อยให้ฟริกส์ทำตามที่เธอต้องการดีกว่ามั้ง . . .”
“. . . .” แอสกอร์ที่มองไปที่ฟริกส์เหมือนกับแย๊งแม้จะไม่อยากเชื่อว่าเด็กตัวแค่นี้จะทำให้พวกเค้ารับอิสรภาพแต่มันเป็นความจริงและที่เขากำลังยืนอยู่บนพื้นโลกนั้นก็เป็นเรื่องที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี
“ว่าแต่ถามหน่อยสิ ทำไมถึงตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่า NewHome ล่ะ?” เพื่อนของแย๊งถามขณะนั่งทำงานอยู่
“มันเป็นเรื่องราวที่หลังจากมอนสเตอร์ได้แพ้สงครามและได้ถูกขับไล่ลงมายังที่โลกใต้ดินน่ะครับ . . . ที่โลกใต้ดินมันก็ได้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ของพวกเราซึ่งเมื่อตอนนั้นพวกเราก็ได้ตั้งชื่อว่า Home และเมื่อได้ขึ้นมายังโลกข้างบนแห่งนี้เพื่อให้รำลึกถึงที่ที่เราจากมาก็ . . .”
“กลายเป็นที่มาของชื่อว่า NewHome สินะ”
“ก็อย่างที่ว่านั่นแหละครับ” แอสกอร์กล่าว
“ที่ถามเพราะว่าจะได้ใช้เป็นชื่อเขตที่อยู่สำหรับหลังจากนี้น่ะไม่ว่าจะเป็นงานข้อมูลไปรษณีย์หรือการบริหารเขตพื้นที่น่ะครับ . . . ชื่อที่เรียบง่ายแต่ก็ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากสินะ ตามนี้นะครับ NewHome”
เพื่อนของแย๊งเหล่มองไปที่แย๊งซึ่งแย๊งก็รู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่
“รู้นะว่านายคิดอะไรอยู่น่ะ”
“อะไรกัน ฉันยังไม่ได้พูดอะไรออกมาซักคำเลยนะ ถถถถถถถ”
“จะว่าไป . . . ที่โลกใต้ดินมีทีวีหรือปล่าว?” เพื่อนของแย๊งถามแอสกอร์
“ถามไปทำไมหว่า . . .?” แย๊งถาม
“แล้วนายไม่อยากดูรายการทีวีของมอนสเตอร์บ้างเหรอ เห็นเทคโนโลยีหลายๆอย่างของพวกเขาก็คล้ายๆกับของพวกเราเลยนี่นาเท่าที่ฉันรู้ ฉะนั้นพวกทีวีก็น่าจะมีบ้างใช่หรือปล่าวล่ะ?”
“แค่นายอยากดูทีวีไม่ต้องสาวให้ยืดหรอกแต่จะว่าไปพวกสื่อบันเทิงที่ว่าก็มีใช่หรือปล่าว?”
“ก็มีนะครับเป็นรายการ MTT ของเมตตาตอนน่ะครับ แต่ผมก็ไม่ได้ดูทีวีก็เลยไม่รู้อะไรเท่าไหร่”
“อืม. . . แปลว่ามีสินะว่าแต่คนที่ชื่อเมตตาตอนนี้อยู่ไหนเหรอครับ”
“ไม่รู้เหมือนกันครับ คงอาจจะกำลังทำรายกายอยู่ที่ไหนสักแห่งน่ะครับคิดว่านะ”
หลังจากนั้นแอสกอร์ก็กลับไปที่หมู่บ้านเพราะยังมีงานอีกเยอะที่ต้องทำในหมู่บ้านแย๊งและเพื่อนของเขาก็เช่นกันหลังจากที่ทำงานอยู่จนถึงตอนเที่ยงแย๊งเดินออกไปจากบ้านฐานทัพเพื่อไปหาข้างเที่ยงกินระหว่างที่เดินกลับค่ายนั้นเขาเหลือบไปเห็นร้านร้านหนึ่งที่ติดป้ายว่า “Grillby” ซึ่งตั้งอยู่หน้าลานดอกไม้เหมือนบ้านฐานทัพและอยู่ใกล้ๆเองด้วยซึ่งดูเหมือนร้านจะเปิดวันนี้วันแรกเพราะเมื่อวานยังไม่มี
“มีร้านเปิดใหม่ด้วยแหะแถมอยู่ใกล้ๆด้วย ไปหน่อยดีกว่า :3”
เมื่อเดินเข้าไปในร้านก็พบกับมอนสเตอร์และมนุษย์กำลังนั่งอยู่ในร้านซึ่งมีบรรยากาศที่ครึกครื้นในระดับหนึ่งเลยทีเดียวโดยมองไปที่เคาน์เตอร์ก็พบกับเจ้าของร้านที่เป็นมอนสเตอร์โดยเขามีร่างกายส่วนหัวที่กำลังลุกเป็นไฟและใส่ทักซิโด้ (แย๊ง : ดูเหมือนแว่นที่เขาใส่จะไม่เป็นอะไรเลยแหะ) เมื่อเดินไปถึงเคาน์เตอร์ก็เจอฟริกส์และแซนส์กำลังนั่งอยู่พอดี
“อ้าวว่าไงพวก . . .” แซนส์กล่าวทักทาย
“สวัสดีแซนส์เป็นไงบ้างไม่ได้เจอกันพักนึงเลยแหะ สวัสดีเธอด้วยฟริกส์เป็นเพื่อนกับแซนส์สินะ”
*แซนส์เป็นเพื่อนของเธอ* //me :P
“มากินข้าวหลังเช้าสินะ?”
“อืมเพิ่งเสร็จจากที่ทำงานว่าจะมา . . . . เดี๋ยวนะ เมื่อกี้โดนเล่นมุขใส่ใช่หรือปล่าว?”
“ความรู้สึกช้านะเราน่ะ นั่งก่อนสิ”
“อืม -__-”
ว่าแล้วแย๊งก็นั่งลงข้างๆแซนส์ตรงหน้าเคาน์เตอร์และเจ้าของร้านก็เดินมาหาแย๊งและยื่นเมนูให้ดู
“จะเอาอะไรหรือปล่าวครับ”
“เอาเป็นว่า . . . . มีสเต๊กหรือปล่าว?”
“มีครับ”
“กริลบี้ฉันเอาเบอร์เกอร์นะ”
*เธอเอาเฟรนซ์ฟราย*
เจ้าของร้านรับเมนูแล้วก็เดินเข้าไปหลังร้านและทั้งสามคนก็นั่งรอเมนูที่ตัวเองสั่งไปพลางๆ
“แล้ววิสล่ะฟริกส์?” แย๊งถาม
*วิสไม่มาวันนี้ เขาบอกว่าจะกลับบ้านที่ต่างเมือง*
“อืม . . . แซนส์แล้วพาไพรัสน้องนายไปไหนซะล่ะ?”
“หมอนั่นก็ . . . อยู่กับอันไดน์กำลังช่วยสร้างบ้านที่หมู่บ้านอยู่อ่ะนะ”
“แล้วนายไม่ไปช่วยเค้าหน่อยเหรอ?”
“ม่ายล่ะ เพราะฉันมีงานส่วนของฉันที่ต้องทำอยู่แล้วน่ะ”
“แล้วนายคิดว่าเป็นไงบ้างล่ะน้องชายฉันพาไพรัส” แซนส์ถามแย๊ง
“ไม่ได้คุยกับเค้าบ่อยแหะ -__- เอาเป็นว่าตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกหมอนั่นดูแล้วน่าจะ . . . เท่มั้ง แบบว่าเพราะเค้าเป็นคนที่เข้าหากับคนอื่นๆได้ดีเลยทีเดียว และก็ดูแล้วซื่อๆและเป็นคนดีมากเลยด้วย”
“ก็อย่างว่าล่ะนะ สำหรับฉันแล้วเค้าเป็นคนที่ฉันให้ความสำคัญมากเลยทีเดียวล่ะ”
“ก็คนเป็นพี่นี่นะ”
“ก็นะแล้วหลังกินข้าวก่อนเย็นเสร็จแล้วนายจะไปทำงานต่อสินะ”
“อืมตอนนี้งานที่หมู่บ้านก็ดำเนินการไปเยอะแล้วเหลือแค่จุดสอ . . . อีกแล้วเหรอ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ~ ขอโทษที” แย๊งถึงกับเอามือกุมหัวหลังโดนเล่นมุขใส่ไปสองครั้งติดๆและเจ้าของร้านก็เดินกลับมาพร้อมกับเมนูที่แต่ละคนได้สั่งไว้ แซนส์หยิบซอสมะเขือเทศขึ้นมาก่อนชี้ไปที่แย๊งและฟริกส์
“หน่อยไหม?”
“ไม่ล่ะฉันไม่ชอบซอสเท่าไหร่น่ะ”
*ไม่*
และแซนส์หยิบซอสมะเขือเทศขึ้นมาดื่มทำเอาแย๊งอึ้งเล็กน้อยว่ากินซอสมะเขือเทศเป็นขวดๆจนหมดส่วนฟริกส์ดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรซึ่งไม่รู้ว่ากำลังอึ้งอยู่ในใจหรือว่าเคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนแล้ว
“ว่าแต่นายเคยเจอฟริกส์มาก่อนตั้งแต่ที่โลกใต้ดินแล้วสินะ” แย๊งกล่าวออกมาขณะที่กินอาหาร
“อืมก็นะ”
“ฟริกส์เป็นไงบ้างตอนอยู่ที่โลกใต้ดิน”
“ที่จริงนายน่าจะถามเจ้าตัวเองเลยนะ แต่ถ้านายถามฉันก็จะบอก”
“. . . . .”
“ปนิธานที่มุ่งมั่งของเธอมันทำให้เธอเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องและฝ่าฟันอุปสรรค์ปริศนาพัซเซิลที่พาไพรัสสร้างขึ้นมาจนทำให้ฟริกส์ได้เป็นเพื่อนกับเค้าและเกือบทุกคนในโลกใต้ดินนี่แหละ เธอมีโอกาศที่จะสู้แต่เธอก็เลือกที่จะไม่สู้ซึ่งฉันคงเอาอย่างเด็กคนนี้ไม่ได้แน่ๆ”
“อ่า อันนี้เห็นด้วย” มันทำให้แย๊งนึกถึงตอนที่ฟริกส์ช่วยวิสโดยที่เธอไม่คิดจะสู้แม้จะพกมีดก็ตาม. . . .
“ฟริกส์ . . . เธอยังเอามีดเล่มนั้นมาอยู่หรือปล่าว?”
ว่าแล้วฟริกส์ก็หยิบของบางอย่างออกมาและแน่นอนก็เป็นมีดในตอนนั้นแต่อย่างน้อยก็ใส่ซองมิดชิดขึ้นด้วยลวดลายที่น่ารักสำหรับเด็กๆและมันก็ดูดีขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่พกมีดเล่มนั้นแบบเพียวๆ
“มีดสวยดีนิเจ้าหนู” แซนส์สังเกตไปที่มีดที่ฟริกส์พกมาซึ่งใบมีดก็ยังมันวาวไม่มีเปลี่ยนแปลง . . .
“ให้ตายเอาเถอะยังไงก็อย่าให้ใครมาเห็นซะล่ะว่าพกมีดเล่มนั้นเดินเล่นไปมาหรือเก็บไว้ที่บ้านซะ เข้าใจนะฟริกส์”
ฟริกส์พยักหน้ารับปากก่อนที่จะเก็บมีดเล่มนั้นไว้ที่เดิมและก่อนที่ทั้งสามจะกินอาหารต่อจนหมด
“งวดนี้ฉันเลี้ยงเองส่วนของนายด้วยนะแย๊ง” แซนส์บอกกับฟริกส์และแย๊งก่อนที่จะเรียกเจ้าของร้าน
“กริลบี้ คิดเงินด้วยและก็นี่ส่วนของทั้งสองคนนี้ด้วยนะ” แซนส์วางเงินไว้บนโต๊ะและเจ้าของร้านก็เก็บเงินนั้นไป
“รู้สึกฉันจะนั่งพักเที่ยงมานานเกินไปแล้วแหะ งั้นฉันไปทำงานก่อนนะ”
“โชคดีนะแซนส์และก็ขอบคุณมากที่เลี้ยง”
แซนส์ลุกจากเก้าอี้ก่อนที่จะเดินออกจากร้านไป แย๊งหยิบบันทึกมาจดอะไรเล็กๆน้อยๆและมองดูรอบๆร้านที่เต็มไปด้วยมนุษย์และมอนสเตอร์ที่นั่งอยู่ในร้านขณะที่กำลังมีความสุขกับอาหารเครื่องดื่มและเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยกันก่อนที่จะลุกจากเก้าอี้และกล่าวลาฟริกส์เช่นกัน
“ฉันไปก่อนนะฟริกส์” ฟริกส์โบกมือกล่าวลาและแย๊งค์ก็เดินออกจากร้านนี้ไป
TO BE CONTINUED
จบ หรือยังวะ ?
ฟริกส์หลังจากกินเฟรนฟรายเสร็จก็กำลังจะกลับพอดี ซึ่งไปสังเกตเห็นตู้เพลงที่มีสภาพเหมือนกับถูกซ่อมแล้วก่อนที่จะลองกดเล่นซึ่งก็มีเพลงที่เล่นดังออกมาด้วยเสียงที่ไพเราะและฟริกส์ก็เดินไปถามกริลบี้
“อ้อตู้เพลงนั้นเหรอ ฉันซ่อมมันหลังจากที่ขึ้นมายังโลกบนพื้นดินน่ะ”
“ถ้าจะถามว่าทำไมถึงได้ซ่อมน่ะเหรอ อาจเป็นเพราะฉลองที่หมอนั่นยอมจ่ายเงินก็ได้มั้ง”
“แต่ที่ค้างที่โลกใต้ดินมันยังไม่จ่ายเลย”
*. . . .*
Note 9/12/2015
ตอนที่แล้วว่าไม่ค่อยมีอะไรแล้วตอนนี้หนักกว่าเดิมอีก :P
(และขอแก้ไขตรงส่วน
Note
ของตอนที่แล้วหลังจากพบว่าเขียนผิดหนักพอๆกัน -__-*)
ความคิดเห็น