ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Undertale AfterAll : Post Pacifist

    ลำดับตอนที่ #14 : Episode 11 สิ่งที่ทำให้เธอมีวันนี้

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 60


    “เรียบร้อยแล้วค่ะ” 

    “ขอบคุณมากนะครับ” 

         แย๊งกล่าวกับบรรณารักษ์หลังจากยืมและคืนหนังสือเหมือนทุกครั้งที่มาที่ศาลากลางหลังจากนั้นแย๊งก็เดินไปหาเพื่อนของเขาที่รับผิดชอบเขตพื้นที่ที่มอนสเตอร์อาศัยกำลังขนเอกสารเพื่อย้ายไปยังหมู่บ้าน

    “เอากล่องนี้และก็กล่องนี้ไปด้วยนะ” เพื่อนของแย๊งกล่าวกับเพื่อนร่วมงานของเขา

    “สวัสดี เป็นไงบ้าง” แย๊งกล่าวทักทาย

    “อ้าวแย๊งเป็นไงบ้าง ที่หมู่บ้านถึงไหนละ”

    “ถ้าบ้านฐานทัพส่วนสำหรับที่นายจะต้องย้ายไปทำงานเสร็จละส่วนของฉันยังไม่เสร็จที”

    “อ๋อโอเค . . . เดี๋ยวนะ หมายความว่าไงส่วนของนาย?ไม่ใช่ว่านายตั้งโต๊ะทำงานไว้ในค่ายหรอกเหรอ”

    “ตอนนี้ฉันใช้บ้านฐานทัพตั้งไว้เป็นจุดประสานงานกับมอสเตอร์ในหมู่บ้านน่ะเพราะอย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ต้องเข้าออกค่ายมาหาฉันทำให้การทำงานของลูกทีมสะดวกขึ้นด้วย”

    “เรียกที่ว่าการว่าบ้านฐานทัพ . . . ทำให้นึกถึงที่เราเล่นกันเมื่อตอนเด็กๆเลย”

    “ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนิ -3- แล้วนายจะขนของพวกนี้ไปยังไง”

    “พอดีฉันติดต่อทำสายรถเมย์จากนี่ไปที่หมู่บ้านมอสเตอร์แล้วเพราะหลังจากนี้คงมีคนไปกลับเป็นว่าเล่นแน่”

    “อืมงั้นก็ . . .ไว้เจอกันที่นั่นละกัน”

    “โชคดีแย๊ง”

         เดินไปที่รถก่อนที่จะขับรถเพื่อไปยังหมู่บ้าน ก่อนที่จะสตารท์เครื่องแย๊งได้มองไปที่โรงเรียนที่อยู่อีกฝากของสวนสาธารณะทำให้เค้านึกถึงสมัยตัวเองเป็นเด็กที่ไม่ได้มีโอกาศไปเรียนหนังสือเพราะสงครามกลางเมืองแม้เค้าจะมีคนช่วยสอนหนังสือให้แต่ก็อดเสียดายไม่ได้

    “หึ อย่างน้อยเราก็ได้ดูพวกเด็กๆไปโรงเรียนอ่ะนะ . . . หือ ?

         แย๊งมองเห็นกลุ่มเด็กนักเรียนสามสี่คนในซอยข้างๆโดยพวกเขาหันหลังให้แย๊งหมดยกเว้นเด็กคนนึงเมื่อเอากล้องส่องทางไกลมาส่องดูแย๊งก็จำได้ทันทีว่าเป็นเด็กที่วิ่งเข้าไปกอดโทเรียลและเล่นกับอันไดน์เมื่อตอนที่เค้าได้เจอกับมอนสเตอร์เป็นครั้งแรก แย๊งพยายามมองไปที่ปากของเด็กของนั้น . . . 

    “พอสักทีเหอะฉันไม่มีอะไรจะให้พวกนายทั้งนั้นแหละ”

    “แล้วไง แล้วทำไมฉันต้องทนถูกพวกนายแกล้งไปตลอดด้วยล่ะ”

         เด็กคนนั้นถูกชกไปที่ใบหน้าของเขาลงไปนอนที่ถนน ซึ่งมันทำให้แย๊งหัวเสียไม่ใช่น้อยเพราะเขาเกลียดการกลั่นแกล้งกันเป็นอย่างมากและเค้าก็ไม่อยู่ให้สบอารมณ์ไปมากกว่านี้แน่แต่ไม่ทันที่จะวางกล้องส่องทางไกลก็เหลือบไปเห็นเด็กอีกคนที่กำลังเดินไปหากลุ่มเด็กพวกนั้น ใส่เสื้อฟ้าแถบตามขวางสองแถบสีม่วง . . . ฟริกส์ . . . !?! ฟริกส์เดินไปหากลุ่มเด็กพวกนั้นและลากเด็กที่ถูกแกล้งออกมาอยู่ด้านหลังเธอจากเด็กพวกนั้นซึ่งคราวนี้แย๊งได้มองเห็นพวกเด็กที่ทำร้ายคนที่อยู่หลังฟริกส์

    “เธอเป็นใครมายุ่งอะไรด้วย”

    “เพื่อนของเจ้าหมอนั่น หือ? ให้เลิกแกล้งหมอนั่น”

    “พูดอะไรไม่รู้เรื่อง หรือว่าเธอจะจ่ายแทนหมอนั่นหรือไง หา ? ไม่ ?

    “งั้นเธอก็ต้องโทษตัวเองนะที่แส่ไม่เข้าเรื่อง”

         หนึ่งในกลุ่มเด็กพวกนั้นซัดหมัดเข้าไปหาฟริกส์ซึ่ง . . . หลบได้ ฟริกส์ขยับตัวไปนิดเดียวในการหลบหมัดของเด็กคนนั้นซึ่งทำให้แย๊งเกือบเหวอไปพักนึงแต่ก็ต้องอึ้งเพราะเธอหลบการโจมตีที่เข้าหาได้หมด กลุ่มเด็กที่แกล้งไม่สามารถทำอะไรฟริกส์ได้เลยแถมการหลบการโจมตีของเธอนั้นดีพอๆกับเพื่อนทหารในสังกัดด้วยซ้ำ และจังหวะนั้นแย๊งเห็นมีดเล่มที่อยู่ในกางเกงของฟริกส์ มันไม่สำคัญที่ว่าเธอจะเอามันไปโรงเรียนทำไมเพราะท่าทีของเธอไม่คิดจะใช้มันแม้แต่น้อย

         แย๊งสังเกตุฟริกส์มือเกร็งเล็กน้อยในข้างที่สามารถหยิบมีดมาใช้ป้องกันตัวได้ก่อนที่จะส่ายหัวด้วยเหตุผลบางอย่างหลังจากหลบการโจมตีไปมาได้ซักพักฟริกส์ตัดสินใจพาเด็กที่อยู่ข้างหลังเธอวิ่งออกมาจากซอยก่อนวิ่งไปทางถนนหลักโดยที่กลุ่มเด็กพวกนั้นวิ่งไล่ตามมา ไม่รีรอแย๊งโยนกล้องไว้หลังรถก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์เหยียบคันเร่งจนมิด

    .

    .

    “หยุดนะ พวกแกหนีไม่พ้นหรอก”

    “ข . . ขอบใจมากที่ช่วย ว . . ว่าแต่เธอ . . . เมื่อในตอนนั้นกับพวกเขา!??

    *พวกเราเคยเจอกันนั้นตอนนั้น*

    “ใช่จริงๆด้วย ว่าแต่เราจะหนีเจ้าพวกนั้นได้ยังไง”

         เมื่อถึงแยกฟริกส์และเด็กคนนั้นวิ่งเข้าแยกไปโดยถูกไล่หลังมาติดๆ ทันทีที่เลี้ยวเข้าแยกทั้งคู่ถูกลากชายเสื้อและโยนเข้าไปในรถคันหนึ่งไปยังเบาะหลังรถก่อนที่จะมีหนังสือพิมพ์มาบังพวกเขาโดยชายคนหนึ่ง

    “ไอเจ้าพวกนั้นไปไหนแล้ว”

         กลุ่มเด็กที่ไล่ตามมือพบว่าทั้งสองคนนั้นหายไปแล้วมีเพียงแต่รถยนต์กับชายชุดทหารคนหนึ่งที่กำลังยืนอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ก่อนที่ชายคนนั้นมองมาที่กลุ่มเด็กพวกนั้นด้วยสายตาที่อัมหิต

    พวกเธอ~เลิกเรียนแล้วไม่กลับบ้านกันหรือไงหึ?”

         ด้วยสายตาและเสียงมันทำให้พวกเขาขนหัวลุกสั่นกลัวไปตามๆกันก่อนจะตัดสินใจวิ่งหนีชายชุดทหารคนนั้นไปและเมื่อแน่ใจว่าเด็กพวกนั้นไปแล้วก็ได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเก็บหนังสือพิมพ์และหันหลังมามองทั้งสองคนที่เพิ่งถูกโยนไปไว้หลังรถเมื่อกี้

    “โทษทีนะกลัวว่าจะไม่ทันเลยใช้วิธีนี้น่ะ ไม่เป็นไรใช่ไหม? อุ๊ย!?!”

         ดูเหมือนฟริกส์จะไม่เป็นอะไรมากนักแต่เด็กอีกคนที่แย๊งจับโยนเข้าไปในรถตอนนี้เขาคงนอนสลบมองเห็นดาววนอยู่รอบหัวไปเสียแล้วก่อนที่จะให้เด็กคนนั้นนั่งท่าสบายก่อนที่จะถามฟริกส์

    “ฟริกส์เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

    “ดีแล้วล่ะ ว่าแต่เธอรู้จักกับเด็กคนนั้นเหรอถึงได้ช่วยเด็กคนนั้นน่ะ”

    *แม้จะเคยพบแต่ไม่รู้จัก แต่ก็อยู่เฉยไม่ได้ที่เห็นคนถูกแกล้ง*

    “พวกเราไม่รู้ซะด้วยว่าหมอนี่บ้านอยู่ไหน เอาไงดี . . . ไปบ้านของเธอก่อนละกันนะ”

         แย๊งขับรถไปที่บ้านของฟริกส์ เมื่อไปถึงดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่บ้านโดยฟริกส์บอกว่าพ่อของเธอออกไปทำงานส่วนแม่ไปธุระอยู่ในเมืองใหญ่ แย๊งแบกเด็กคนนั้นมาที่บ้านของฟริกส์ก่อนที่จะวางเค้าไว้บนโซฟา

    “เอ่อฟริกส์ . . .” ฟริกส์หันมามองแย๊งตามเสียงที่เรียกขณะที่แย๊งกำลังดูอาการเด็กอยู่

    “ตั้งแต่ตอนแรกฉันเห็นเธอหลบการโจมตีจากเด็กพวกนั้นได้หมดแถมไม่ใช้มีดที่มีด้วย”

    * . . . . *

    “ทำไมถึงไม่ใช้มีดที่เธอมีมาป้องกันตัวเธอและเด็กคนนั้นซะล่ะ”

    *เธออยากจะปกป้องเค้าแต่ก็ไม่อยากจะทำร้ายใครเหมือนกัน*

    “นั่นใช่สิ่งที่เธอยึดมั่นมาตลอดแม้แต่ตอนที่อยู่โลกใต้ดินหรือปล่าว?

    *มันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีวันนี้*

    “อืม . . . . ถ้าไม่ว่าอะไรขอดูมีดเล่มนั้นหน่อยได้ไหม?

         ฟริกส์ทำท่าลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะหยิบมีดเล่มที่ว่ามาให้แย๊งดู รูปร่างก็เหมือนมีดสั้นทั่วไปแต่ก็จับได้เข้ามือดีเมื่อหันด้ามจับมองไปที่ใบมีดที่มันวาวไม่มีรอยตำหนิจากโลหะที่สะท้อนออกมา มันเป็นมีดที่ทำขึ้นมาอย่างดีที่ทำมาเพื่อใครสักคนเป็นพิเศษซึ่งก็น่าจะหมายถึงฟริกส์ . . . หรือว่าใครบางคน

    “เธอได้มันมาจากที่โลกใต้ดินสินะ” แย๊งคืนมีดเล่มนั้นให้กับฟริกส์

    “ยังไงก็หาที่เก็บให้มันมิดชิดกว่านี้หน่อยก็ดีนะเพราะครูคงไม่ปลื้มแน่ถ้ามาเห็นเข้าน่ะ :3

    “น . . . นี่ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย” เด็กคนที่นอนอยู่ที่โซฟาฟื้นขึ้นมา

    “อ้าวฟื้นแล้วเหรอ? โทษทีนะที่มือหนักไปหน่อยน่ะ”

    “คุณคือ . . คนเมื่อตอนนั้นและก็เธอที่ช่วยฉันเมื่อกี้ . . . นี้บ้านของคุณเหรอครับ?

    “ปล่าว นี้บ้านของฟริกส์น่ะ” แย๊งชี้ไปที่ฟริกส์

    ฟริกส์ . . . ขอบคุณมากนะครับที่มาช่วยผม

         ฟริกส์ยกมือส่ายหน้าสื่อประมาณว่าคนที่ต้องขอบคุณควรจะเป็นแย๊งมากกว่าแต่อย่างน้อยฟริกส์ก็รู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือถึงแม้สิ่งที่แย๊งเห็นนั้นไม่มากไปกว่าเด็กที่ทำหน้านิ่งจนชวนน่ารำคาญคนหนึ่งก็ตามที

    “ว่าแต่เธอชื่ออะไรเหรอ ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม”

    “ผมชื่อวิสครับ ตอนนี้ผมก็มึนหัวนิดหน่อยไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ”

    งั้นก็ดี -__- เดี๋ยวฉันส่งเธอกลับบ้านให้ละกันนะ

    ครับ . . . ว่าแต่พอรู้หรือปล่าวครับว่าตอนนี้พวกพี่ๆเค้าอยู่ที่ไหน ?”

    พวกเขา . . . ถ้าหมายถึงมอนสเตอร์ พวกเค้าอยู่ที่หมู่บ้านใกล้ๆและฉันก็รับหน้าที่ในการช่วยเหลือพวกเขาอยู่น่ะ

    พาผมไปหาพวกเขาได้หรือปล่าว?” วิสขอร้องให้แย๊งพาเค้าไปพบกับมอนสเตอร์ที่เคยเจอ

    ก็ได้อยู่นะ ถ้าหมายถึงว่าพ่อแม่ของเธออนุญาตินะ แต่ยังไงกรณีของเธอคงไม่เหมือนกับฟริกส์หรอกนะเพราะก็ไม่อยากให้ครอบครัวเป็นห่วงซะด้วยซิเอาไงดี

    *เธอจะไปคุยกับครอบครัวของวิสเอง*

    จะเอาอย่างนั้นเหรอ ฟริกส์เธอจะไปที่หมู่บ้านเหมือนกันสินะงั้นเธอก็ช่วยดูแลวิสได้หรือปล่าว หมายถึงที่หมู่บ้านฉันไม่ห่วงหรอกแต่ฉันเป็นห่วงเกี่ยวกับเจ้าเด็กพวกนั้นมากกว่าน่ะ ตามนั้นละกัน

         ว่าแล้วทั้งสามคนก็ขึ้นรถพาวิสไปส่งที่บ้านของเขาก่อนโดยที่ฟริกส์ก็ตามไปด้วย ซึ่งก็ตามคาดที่ที่บ้านของวิสอนุญาติให้ไปเที่ยวเพราะเห็นว่าฟริกส์ไปด้วยก็คงไม่เป็นอะไรแต่ก็ยังไงดูเหมือนก็ยังเป็นห่วงวิสอยู่ดี หลังจากนั้นก็ขับรถเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านที่มอนสเตอร์อาศัยอยู๋

         เมื่อลงจากรถก็เห็นเพื่อนของแย๊งที่มาถึงหมู่บ้านก่อนหน้ากำลังขนเอกสารเข้าไปข้างในซึ่งแย๊งก็เข้าไปช่วยเพื่อนของเขาซึ่งก็ได้ปล่อยให้ฟริกส์ดูแลวิสแทน แต่ฟริกส์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่อนของเธอแต่ละคนไปอยู่ไหนกันบ้างโดยเฉพาะโทเรียล

    เอ่อนี่ แล้วพวกเราจะไปที่ไหนกันต่อล่ะ คือถึงฉันจะเคยเจอพวกเค้ามาก่อนแต่ฉันไม่รู้จักเค้าเลย

    *เธอไม่รู้เหมือนกันว่าบ้านเพื่อนๆของเธออยู่ไหนกันบ้าง*

    เอ๋ !?!”

    “Hey kiddo ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ

         เมื่อทั้งคู่หันไปมองซึ่งก็พบว่าเป็นแซนส์ที่กำลังเดินมาหาพวกเขาโดยที่พาไพรัสเดินมาตามมาด้วย

    สวัสดีเจ้ามนุษย์และก็ . . . อ้อ ~ เธอเมื่อตอนนั้นฉันจำเธอได้

    สวัสดีครับผมชื่อวิสครับ :3”

    ข้าพาไพรัสผู้ยิ่งใหญ่ก็รู้สึกยินดีที่ได้รู้จักเจ้าเช่นกัน

    พวกเธอกำลังจะไปไหนเหรอ . . . ห๊ะ พอดีเลยพวกเรากำลังจะไปที่บ้านของโทเรียลเหมือนกันพวกเธอก็มาด้วยกันสิ

         แซนส์ชวนฟริกส์และวิสไปที่บ้านของโทเรียลซึ่งฟริกส์ก็อยากจะไปหาโทเรียลอยู่พอดี

    โทเรียลนี้ใครเหรอวิสถามฟริกส์

    *เธอเป็นคนใจดีและช่วยดูแลเธอตอนที่อยู่โลกใต้ดิน*

    นึกไม่ออกแหะ

    ฉันว่านายเคยเจอฝ่าบาทมาก่อนนะจำไม่ได้เหรอ . . . ” พาไพรัสกล่าวกับวิส

    .

    ขอบใจมากนะแย๊ง ส่วนห้องทำงานนี้ถือว่าไม่เลวเลยล่ะ

    ก็ฉันเป็นคนสร้างและจัดห้องขึ้นมาเองนี่นาแย๊งบอกกับเพื่อนของเขาเกี่ยวกับที่ทำงานในบ้านฐานทัพ

    ที่จริงนายน่าจะทำห้องนอนของตัวเองให้เสร็จก่อนนะ ถถถถถถ

    ปกติฉันก็นอนเต้นท์จนชินละ แต่อีกเดี๋ยวไม่นานก็เสร็จละ . . . จะว่าไปเฮ้~ถามไรหน่อยสิ

         แย๊งเรียกพลวิทยุที่ทำงานอยู่อีกห้องให้มาหาเขา

    ไม่มีข่าวอะไรเพิ่มเติมจากที่ว่าการรัฐเลยเหรอ?”

    ก็ไม่มีนี่ครับ

    ถ้าจำไม่ผิดเห็นว่าวันนี้จะมีนัดประชุมกันนี่นา หรือว่ายังไงหว่า

         เสียงโทรศัพท์ของแย๊งดังขึ้นเมื่อแย๊งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เป็นเบอร์แปลกๆที่แย๊งไม่เคยเห็นมาก่อนแต่ก็รับสายไป

    ฮัลโหล?”

    อ้าวฟริกส์เองเหรอมีอะไรหรือปล่าว ? จะว่าไปก็เกือบลืมเลยแหะว่าให้เบอร์เธอไป

    TO BE CONTINUED

     

    จบ หรือยังวะ?

    สุดท้ายไอเจ้าพวกนั้นก็หายไปไหนไม่รู้เสียอารมณ์ชะมัด ฮึ่ย!!”

         กลุ่มเด็กที่ไล่ล่าวิสกับฟริกส์อยู่เมื่อกี้ได้เตะก้อนหินออกไป ซึ่งก้อนหินที่พวกเค้าเตะออกไปนั้นก็ไปโดยหัวคน(?)คนหนึ่งที่กำลังเดินซื้อของอยู่ใกล้ๆพอดี

    อ่ะ . . อ . . . อันไดน์แอลฟี่หันไปมองอันไดน์ที่โดนก้อนหินที่ลอยเข้ามาอย่างจัง อันไดน์หันไปมองด้านหลังก็พบกับกลุ่มเด็กที่กำลังอึ้งกับสิ่งที่พวกเขาทำโดยไม่ได้ตั้งใจ

    พวกแก . . . อันไดน์มองเด็กพวกนั้นด้วยสายตาที่อัมหิตซึ่งเธอก็ไม่ได้ทำมาตั้งนานแล้ว

    “I will kill you . . .”

    ขอโทษด้วยคร้าบ~~!!!!” กลุ่มเด็กพวกนั้นวิ่งเผ่นกันแบบสุดชีวิตปล่อยให้อันไดน์หัวเราะด้วยความสะใจ

    ฟุฮุฮุฮุ ฮ่า ฮ่า ดูเจ้าเด็กพวกนั้นดิปอดแหกวิ่งหนีไปไกลเลย เทียบกับเจ้าพังก์นั้นไม่ได้เลยซักนิด ฮ่า ฮ่า

    เอ่อ . . . เธอจะฆ่าพวกเค้าจริงๆเหรอแอลฟี่ถามอันไดน์

    ไม่เอาน่า ฉันแค่แกล้งเจ้าพวกนั้นแค่นั้นเอง แต่ที่โดนเมื่อกี้เจ็บเป็นบ้า

    แกล้งแรงไปหรือปล่าวเนี่ย . . . ” แอลฟี่ถามอันไดน์อีกครั้งโดยที่อันไดน์ก็หัวเราะอยู่อย่างนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×